แชร์

บทที่ 4

“เอ้อ...ผมหมายถึงมาเรียสอาจต้องการเวลาในการเยียวยาความรู้สึกนานกว่าหนึ่งสัปดาห์”

“ฉันคงอยู่นานกว่านั้นไม่ได้หรอกค่ะ คือ...ฉันมีภาระต้องส่งเงินกลับไปให้ทางบ้าน ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ เบน ถ้าฉันจะมีเวลาอยู่ดูแลน้องชายของคุณได้ไม่นาน”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ”

ชายหนุ่มจับมือเรียวบางมากุมไว้ หญิงสาวเผลอบีบมือแกร่งของเขาเบา ๆ ในช่วงจังหวะที่เครื่อง บินตกหลุมอากาศเล็ก ๆ เบนทำให้เธอหายใจติดขัดเพราะยิ่งอยู่ใกล้ ๆ ก็ยิ่งร้อนข้างในอย่างบอกไม่ถูก เขาตัวโตกว่าเธอมากและใบหน้าที่ยิ่งกว่าหลุดออกมาจากเบ้าหลอมเดียวกับมาเรียสก็ทำให้เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์ฝัน

กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่กำจายมาจากตัวเขาเหมือนเกรปฟรุต บางเบาแต่ก็บ่งบอกความเป็นชาย ใบหน้าคมคายโน้มลงมาใกล้ เขาทำให้เธอตัวแข็งเหมือนขนมผิงเลยทีเดียว

“ไม่ว่าคุณจะอยู่กับเรานานแค่ไหน แต่อย่างน้อยที่สุดคุณก็กำลังจะไปถึงที่นั่นแล้ว”

น้ำเสียงนั้นเยือกเย็น หนุ่มนอร์วีเจียนสูดกลิ่นไอจากเส้นผมยาวดำขลับราวกับจะซึมซับทุกอย่างไว้ ทุกอย่างที่เป็นพลอยพิชญา จดจำเอาไว้ทั้งร่างกายและวิญญาณของเธอ

ในที่สุดหญิงสาวก็เดินทางมาถึงที่อยู่ของ เบน คริสเตียนเซน หลังเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตและต้องเดินทางออกไปสู่เขตแดนของทะเลนอร์วีเจียนจนถึงหมู่เกาะโลโฟเตนซึ่งอยู่ไกลขึ้นไปทางเหนือของนอร์เวย์ มันดูคล้ายโลกที่แปลกแยก เต็มไปด้วยโขดหินขรุขระเรียงต่อกันเป็นลูกโซ่ทำให้รู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย

ทว่าเมื่อไปถึงเกาะสกรูวา พลอยพิชญาก็ได้เห็นภาพอันตระการตาของท้องทะเลและเกาะแก่งซึ่งรุ่มรวยด้วยความงามตามธรรมชาติ ที่ซึ่งท้องน้ำเป็นสีน้ำเงินเข้มจัดตัดกับผืนน้ำสีเทอร์ควอยซ์ซึ่งเต็มไปด้วยแก่งหินบนที่ราบรอบเกาะ

เบน พาเธอไปถึงที่อยู่ของเขาซึ่งเป็นบ้านสองชั้นสีขาวริมหาด มันไม่ใช่บ้านหรูหราแต่ได้รับการตกแต่งแบบเรียบ ๆ แต่ดูดี และมีสีสันเล็กน้อยด้วยสนามหญ้าหน้าบ้าน ชายสองคนที่ติดตามเขาและเธอมาจากเมืองไทยช่วยกันหอบหิ้วสัมภาระซึ่งมีเพียงกระเป๋าของพลอยพิชญาแค่สองใบเท่านั้นก่อนนั่งเรือเล็กแล่นห่างออกไปจากหาดทรายที่มีเพียงบ้านสองชั้นอันโดดเดี่ยว

“เบนคะ...เอ้อ..”

หญิงสาวหันไปทางชายหนุ่มที่เดินลิ่วไปหยุดตรงหน้าระเบียงบ้าน ที่นั่นหญิงร่างสูงผอม ผมสีบลอนด์เงินและหน้าตากร้านแดดทำให้คาดเดาอายุว่าน่าจะอยู่ที่ราว ๆ สามสิบห้าอยู่ในชุดกระโปรงสีมอ ๆ ยืนรอรับกระเป๋า ทว่าเบนกลับวางมันลงแล้วกล่าวว่า

“ขอบใจมากนะ ออรูร่า...แต่วันนี้เธอไม่ต้องอยู่เฝ้าที่นี่หรอก ฉันให้เธอกลับบ้านได้”

หญิงคนนั้นเหลือบมองข้ามไหล่ของร่างสูงไปยังหญิงสาวร่างเล็กผิวขาวในชุดกระโปรงสวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตก่อนพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้

“ค่ะ...เบน แล้วจะให้ฉันมาอีกเมื่อไหร่คะ?”

“ฉันจะบอกเธอเอง”

เบนตอบสั้น ๆ ก่อนหญิงคนนั้นจะปลีกตัวกลับไป ชายหนุ่มก้มลงหยิบกระเป๋าและหันกลับมาทางพลอยพิชญาอีกครั้ง

“ออรูร่าเป็นคนที่คอยดูแลบ้านหลังนี้ตอนผมไม่อยู่ เธออยู่ไกลจากที่นี่ไปอีกฝั่งของเกาะ สามีของเธอเป็นชาวประมง...เข้ามาข้างในเถอะ”

ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก พลอยพิชญามองไปรอบ ๆ อย่างตื่นใจ เธอไม่เคยเห็นทัศนียภาพที่ไหนสวยเท่ากับที่นี่ ดูลี้ลับคล้ายดินแดนมหัศจรรย์ที่ถูกแอบซ่อนไว้ที่โพ้นทะเล

หญิงสาวสูดลมหายใจลึกก่อนเดินตามร่างสูงเข้าไปในบ้านซึ่งการตกแต่งภายในก็ดูเรียบ ๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นเป็นสีขาวกลมกลืนกับพื้นไม้และผนังสีครีม

“ห้องของมาเรียส...อยู่ชั้นบน”

เขาวางกระเป๋าลงและหันมาบอก ร่างเล็กบอบบางก้าวขึ้นบันไดซึ่งทอดตัวขึ้นไปสู่ชั้นสอง

“นั่น...ห้องของเขา”

เสียงกังวานชัดถ้อยดังอยู่เบื้องหลังนำทางให้เธอผลักบานประตูของห้องที่อยู่สุดทางเดินเข้าไปด้านใน แต่แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าหวานกลับจางหาย เรื่องที่เธอเตรียมไว้เพื่อบอกกับคนที่ตั้งใจมาพบก็สูญสลายไปด้วย เพราะภายในนั้นมีเพียงเตียงว่างเปล่าและเก้าอี้หนึ่งตัว

“เบน!”

หญิงสาวหันมาทางชายหนุ่มที่ปิดประตูลงกลอนพอดี ใบหน้าคร้ามคมจับจ้องมายังเธอ แต่ไม่หลงเหลือคราบของความอบอุ่นอีกต่อไป

“เบน...นี่มันหมายความว่ายังไง ไหนคุณบอกว่ามาเรียสอยู่ที่นี่”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status