หญิงสาววัยย่างเข้าเบญจเพสในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ายิ้มกว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มซึ่งโบกมือให้เธออยู่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง หญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยโดดเด่นซึ่งใบหน้าเรียวไข่นั้นประกอบด้วยดวงตากลมโตภายใต้คิ้วได้รูปเรียวโค้งราวกับวาดด้วยจิตกรเอก จมูกโด่งมีสันสวนได้รูปรับกับริมฝีปากอวบอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดเครื่องหน้าทุกชิ้นของเธอสวยไม่เป็นรองใครซ้ำ ทั้งรูปร่างบอบบางระเหิดระหงอวบอัดในส่วนที่ถูกที่ควรแม้แต่หญิงสาวด้วยกันยังอดอิจฉาเธอไม่ได้ เธออยู่ในชุดเสื้อผ้าสีสันสดใสที่เปิดเผยนวลเนื้อขาวผ่องของตนอย่างมั่นใจ หญิงสาวเดินฉับๆ ด้วยท่าทางมาดมั่นดูโดดเด่นท่ามกลางผู้คนซึ่งต่างก็เดินไปมาทั้งเลือกซื้อของและเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังของมหานครแห่งนี้ กรุงเทพมหานคร... มหานครซึ่งรวมทุกสิ่งสรรไว้ในพื้นที่แคบๆ และแสนจะแออัด แต่ผู้คนมากมายก็ใฝ่ฝันที่จะเข้ามาทำงานอยู่กินในเมืองเมืองนี้ เมืองที่ไม่เคยหลับไหล...
“พี่บิ๊กมานานรึยังคะ...” เมวี ทัศนไพศาล เอ่ยถามคู้หมั้นหนุ่มอย่างสดใสใบหน้าสวยยิ้มพรายอวดเรียวฟันขาวสะอาดราวไข่มุก
“ยังไม่นานครับพี่เองก็เพิ่งมาถึง...” ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้มเช่นกัน บิ๊ก หรือ บารมี คู่หมั้นของเธอนั้นเป็นบุตรชายเจ้าของร้านเพชรและเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของทัศนไพศาลกรุ๊ป หนุ่มหล่อไฮโซ ร่ำรวยติดอันดับมหาเศรษฐีของเอเชียที่สาวๆ ทั้งประเทศอยากจะได้เขาไปครอบครอง แต่ชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้าคนนี้กลับทิ้งลวดลายคาสโนว่าไว้แทบเท้าหญิงสาวนามว่าเมวีคนนี้ทำให้สาวๆ ทั้งประเทศอกหักไปตามๆ กัน
“หนูเมหิวแล้วค่ะ เราไปหาอะไรทานกันดีกว่านะคะแล้วก็ค่อยคุยกันเรื่องของสองคนนั้น...” หญิงสาวกล่าวจบก็เกาะแขนแกร่งของเขาเข้าไปในร้านอาหารด้วยรอยยิ้มแม้น้ำเสียงของเธอจะดูหงุดหงิดอยู่ก็ตาม เธอจึงไม่ได้เห็นว่ามีดวงตาคมคู่หนึ่งมองเธอด้วยประกายตาบางอย่าง...
“น้องเมไม่กลับเข้าบ้านเหรอครับ มาเมืองไทยตั้งนานแล้วเที่ยวเล่นแบบนี้ไม่ดีเลยนะครับ อีกอย่างน้องเมน่าจะเริ่มเรียนรู้งานในบริษัทได้แล้วนะ คนอื่นยังไงก็เป็นคนอื่น มันไม่เหมือนเราดูเองนะครับ น้องเมก็รู้ว่าตอนนี้สองคนนั่นมันกำลังจะฮุบสมบัติของน้องเม...” ชายหนุ่มเปิดประเด็นเข้าเรื่องทันทีเมื่อรับประทานอาหารอิ่มแล้วและกำลังรับประทานผลไม้และของหวานไปเรื่อยๆ
“แต่หนูเมยังไม่อยากทำอะไรนี่คะ ขอเที่ยวให้สะใจก่อน อีกอย่างคุณยาก็ดูแลทุกอย่างของคุณพ่อมาตั้งนานแล้วและทำได้ดีมาตลอด อย่างไรเสียหนูเมก็ยังไม่อยากปักใจเชื่อข่าวนั่นเสียทีเดียว...” เมวีพูดตามที่เธอเห็นและไม่ได้คิดว่าคุณทัศยามารดาเลี้ยงจะทรยศบิดาของเธอได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่ม่ายวัยสี่สิบเก้าซึ่งแต่งงานอยู่กินกับบิดาของเธอมากว่ายี่สิบปีจนบิดาของเธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไปเมื่อห้าปีก่อนนั้นทำให้เธอรู้ดีว่านางไม่มีทางหักหลังความไว้วางใจของบิดาผู้ล่วงลับของเธอแน่นอน แม้เธอจะได้รับรู้ข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับคุณทัศยากับผู้ชายคนใหม่ที่พากันเข้าไปอยู่ในบ้านของเธอก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่อยากปักใจเชื่อไปเสียทั้งหมด...
“ถ้าอย่างนั้นน้องเมดูนี่ก่อนสิครับ...” บารมีพูดแล้วหยิบซองสีน้ำตาลขนาดเอสี่ขึ้นมาให้เมวี หญิงสาวหยิบมาดูสิ่งที่อยู่ข้างในแล้วก็ต้องอึ้งและรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว...
“พี่บิ๊กเอารูปและข้อมูลนี้มาจากไหนคะ...?”
“พี่มีคนที่จะสืบเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับคนรักของพี่เสมอ พี่รู้สึกไม่ไว้ใจแม่เลี้ยงของน้องเมมานานแล้วจึงให้คนติดตามดูความเคลื่อนไหวของเขามาสักระยะแล้วล่ะ อีกอย่างพี่สังหรณ์ใจว่าคุณยาอาจจะคิดไม่ซื่อแล้วหลงผู้ชายคนใหม่จนคิดจะยกทุกอย่างของน้องเมให้ผู้ชายคนนั้น ดูสิท่าทางคุณยารักเขามากเลยนะ พี่เองก็ไม่กล้าบอกน้องเมเรื่องนี้และไม่อยากให้น้องเมเห็นภาพที่ไม่งามของคุณยา เพราะพี่รู้ว่าน้องเมเองก็รักและเคารพเธออยู่เหมือนกัน แต่วันนี้พี่ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ที่น้องเมจะโดนแม่เลี้ยงที่หลงผู้ชายฮุบสมบัติจนน้องเมจะไม่เหลืออะไรเลย...”
บารมีกล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใยกุมมือบางของเธอไว้อย่างปลอบประโลมทำให้เมวีรู้สึกซาบซึ้งน้ำใจที่เขามีต่อเธอ...
“ขอบคุณนะคะพี่บิ๊กที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้หนูเม หากไม่มีพี่บิ๊กหนูเมก็คงโง่เชื่อว่าคุณยาเขาเป็นคนดีไปอีกนาน คนเรามองกันที่หน้าตาไม่ได้จริงๆ” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนข้างผิดหวัง...
“ไม่เป็นไรจ้ะที่รัก เพราะเรากำลังจะเป็นคนคนเดียวกัน อะไรที่เป็นของพี่ก็ต้องเป็นของน้องเม...” และอะไรที่เป็นของน้องเม ก็จะต้องเป็นของพี่ทุกอย่าง... บารมีคิดยิ้มย่องในใจอย่างร้ายกาจ...
ตอนที่2.เมวีก้าวฉับๆ เข้าไปในบ้านหลังงามใหญ่โตโอ่อ่าที่แวดล้อมด้วยสนามหญ้าเขียวขจีและต้นไม้ดอกไม้ที่ถูกจัดแต่งได้งดงามลงตัวพร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนสทันสมัย หญิงสาวมองแม่บ้านวัยห้าสิบเศษซึ่งอยู่ที่นี่มานานกับสาวใช้หน้าตาเด๋อด๋าซึ่งออกมาต้อนรับเธอด้วยร่อยยิ้มตื่นเต้นดีใจผิดกับเจ้านายสาวที่ดูจากหน้าตาท่าทางแล้ว คุณหนูเมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีนักและเธอก็พร้อมจะพาลกับทุกคน“คุณทัศยาอยู่ไหน”“เอ่อ...”ดาวเรืองสาวใช้หน้าตาบ้านๆ วัยเฉียดเลขสามกล่าวติดๆ ขัดๆ ท่าทางดูมีพิรุธจนเมวีนึกเคือง และพานคิดไปว่าทุกคนในบ้านอาจจะรู้เห็นเป็นใจกับแม่เลี้ยงของเธอกับผู้ชายคนใหม่ หรือไม่ก็ไม่กล้าบอกเธอว่าคุณทัศยาอยู่ที่ไหนเพราะกลัวว่าเธอจะเห็นภาพที่ไม่งาม แต่จะอะไรก็ตามแต่เธอกำลังโกรธ...“คุณหนูมาเหนื่อยๆ ป้าว่าคุณหนูขึ้นไปพักผ่อนก่อนดีมั้ยคะ”“ไม่ หนูเมจะหาคุณยา ป้าอ้อยไม่ต้องมาเบี่ยงเบนนะคะ บอกมาว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน”“ตอนนี้คุณยาเธอไม่สบายค่ะ พักผ่อนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นกับ...”“กับผัวใหม่ใช่มั้ย ป้าบอกหนูเมมานะ” ไม่ทันที่ป้าอ้อยแม่บ้านผู้อารีจะพูดจบเมวีก็พูดสวนขึ้นมาด้วยถ้อยคำที่ทำให้ผู้ที่เป็นพี่เลี้ยงคุณ
ตอนที่3.ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาแล้วกระแทกปากลงมายังกลีบปากนุ่มที่กำลังจะอ้าปากด่าทอเขาอย่างลงทัณฑ์โดยที่เมวีไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวอีกทั้งเธอก็รู้สึกชาวาบไปทั้งตัวและขยับร่างกายไม่ได้เลยได้แต่นอนนิ่งอยู่ใต้ร่างใหญ่โตของชายหนุ่มที่เธอรู้แต่เพียงว่าเขาคือผู้ชายของแม่เลี้ยงและเขาก็กำลังจะข่มเหงเธอ... ออสการ์บดจูบร้อนแรงกับริมฝีปากบางระเรื่ออย่างโกรธกรุ่นในคราแรกแต่เมื่อสัมผัสถึงความเนียนนุ่มหอมละมุนจากโพรงปากสาวความรุนแรงของอารมณ์ก็ลดลงไปทันที ชายหนุ่มพรมจูบไปตามกลีบปากบวมเจ่อเพราะแรงจุมพิตของตนเรื่อยมายังแก้มแดงจัดอยู่ในแสงสลัว ร่างงามผุดผาดที่เขาพยายามไม่ใส่ใจและคิดว่ามันไม่สามารถปลุกเร้าอารมณ์ของเขาได้นั้นนุ่มละมุนน่าสัมผัส และความคิดเช่นนั้นก็สลายไปตั้งแต่เขาเห็นเธอเปลื้องผ้าออกจากร่างกายแล้วแต่เขาก็พยายามหักห้ามใจและบอกตัวเองให้ต้านทานเสน่ห์ของเธอให้ได้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล...“ถ้าผู้ชายคนนั้นที่ป้าหมายถึงพี่บิ๊กล่ะก็ หนูเมยังไม่เคยปล่อยตัวไปกับเขานะคะและเขาก็ยังไม่มีลูกไม่มีภรรยาด้วย ใครจะมากล่าวหาหนูเมแบบนั้นได้ล่ะคะ”“มันเป็นสิ่งที่ฟังแล้วทำให้ป้าเหลือคว
ตอนที่4.“จะรีบลุกไปไหนล่ะไหนๆ เราก็นอนแนบชิดกันอยู่แบบนี้หาอะไรสนุกๆ ทำไม่ดีกว่าเหรอ...”“ไม่นะ ไอ้บ้า ลุกเดี๋ยวนี้นะ ไอ้คนจิตใจสกปรก”“อื้ม.. ปากดีซะด้วย เห็นทีต้องสั่งสอนให้รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่...” ออสการ์ยิ้มๆ แต่เป็นยิ้มเหี้ยมเกรียมเมื่อต้องฟาดฟันกับศัตรูมากกว่า และสำหรับเมวี เธอก็เหมือนศัตรูของเขา...“แกเป็นใครถึงจะมาสั่งสอนฉัน ก็แค่แมงดาที่เกาะผู้หญิงคราวแม่ไปวันๆ โอ๊ย... ไอ้บ้า ฉันเจ็บนะ...”เมวีหันมาต่อว่าเขาอย่างเจ็บแสบแต่ก็ต้องร้องโอดโอยเมื่อเขาเอื้อมมือหนามาบีบคางมนอย่างแรงโดยไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บแค่ไหน เมวีน้ำตาแทบร่วงเมื่อเขาแสดงความโหดร้ายต่อเธออย่างที่เธอไม่เคยได้เจอจากผู้ชายคนไหนมาก่อน ความหวาดกลัวเริ่มเกาะกินในใจสาวแต่เธอจะไม่มีวันอ้อนวอนให้เขาเห็นใจเด็ดขาด...“ฉันเป็นใครเดี๋ยวเธอก็รู้เอง และเธอจะต้องจดจำฉันไปจนวันตายเลยทีเดียว เมวี...”“อะ อย่านะ... อื้มมม...” เสียงคัดค้านแสนเบาของเธอกลับหายเข้าไปในลำคอเมื่อเมวีพยายามลืมตามองการกระทำของเขาทั้งผลักไสไหล่หนาของเขาออกจากายตนแต่ก็ไม่อาจทำให้เขาลุกจากตัวเธอได้หนำซ้ำเขายังโอบร่างบางยังดูเล็กกระจ้อยร่อยไปเมื่อเทียบกับร่า