เมวีก้าวฉับๆ เข้าไปในบ้านหลังงามใหญ่โตโอ่อ่าที่แวดล้อมด้วยสนามหญ้าเขียวขจีและต้นไม้ดอกไม้ที่ถูกจัดแต่งได้งดงามลงตัวพร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนสทันสมัย หญิงสาวมองแม่บ้านวัยห้าสิบเศษซึ่งอยู่ที่นี่มานานกับสาวใช้หน้าตาเด๋อด๋าซึ่งออกมาต้อนรับเธอด้วยร่อยยิ้มตื่นเต้นดีใจผิดกับเจ้านายสาวที่ดูจากหน้าตาท่าทางแล้ว คุณหนูเมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีนักและเธอก็พร้อมจะพาลกับทุกคน
“คุณทัศยาอยู่ไหน”
“เอ่อ...”
ดาวเรืองสาวใช้หน้าตาบ้านๆ วัยเฉียดเลขสามกล่าวติดๆ ขัดๆ ท่าทางดูมีพิรุธจนเมวีนึกเคือง และพานคิดไปว่าทุกคนในบ้านอาจจะรู้เห็นเป็นใจกับแม่เลี้ยงของเธอกับผู้ชายคนใหม่ หรือไม่ก็ไม่กล้าบอกเธอว่าคุณทัศยาอยู่ที่ไหนเพราะกลัวว่าเธอจะเห็นภาพที่ไม่งาม แต่จะอะไรก็ตามแต่เธอกำลังโกรธ...
“คุณหนูมาเหนื่อยๆ ป้าว่าคุณหนูขึ้นไปพักผ่อนก่อนดีมั้ยคะ”
“ไม่ หนูเมจะหาคุณยา ป้าอ้อยไม่ต้องมาเบี่ยงเบนนะคะ บอกมาว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน”
“ตอนนี้คุณยาเธอไม่สบายค่ะ พักผ่อนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นกับ...”
“กับผัวใหม่ใช่มั้ย ป้าบอกหนูเมมานะ” ไม่ทันที่ป้าอ้อยแม่บ้านผู้อารีจะพูดจบเมวีก็พูดสวนขึ้นมาด้วยถ้อยคำที่ทำให้ผู้ที่เป็นพี่เลี้ยงคุณหนูเมมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกถึงกับอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน…
“คุณหนูเม ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะคะ พูดไม่เพราะเลย อ้าวคุณหนูขา กลับมาก่อนค่ะ โอ๊ย เด็กสมัยนี้... อกอีอ้อยจะแตก เอิ๊กกก...” ป้าอ้อยร้องเรียกคุณหนูของตนอย่างตำหนิแล้วทำท่าจะเป็นลมล้มพับหากดาวเรืองไม่เข้ามาประคองให้นางไปนั่งที่บันไดหินอ่อนหน้าบ้าน...
“นี่พวกคุณกำลังทำอะไรกัน...”
เมวีแผดเสียงลั่นเมื่อเข้ามาในห้องนั่งเล่นกว้างขวางซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนที่เธอชอบที่สุดของบ้านนอกจากสระว่ายน้ำนั้นเธอเห็นแม่เลี้ยงของตนกำลังกกกอดอยู่กับชายหนุ่มซึ่งเธอมั่นใจว่าเขาคือคนเดียวกันกับในรูปที่บารมีเอาให้เธอดูเมื่อตอนกลางวัน แม้เธอจะเห็นเขาแค่เพียงแผ่นหลังกว้างแกร่งนั่นก็ตาม...
ส่วนคนที่กำลังกอดกันกลมนั้นหันมามองเธอเหมือนเป็นสิ่งแปลกประหลาด ซ้ำเมื่อผู้ชายของแม่เลี้ยงเธอหันมาเขาก็มองเธอด้วยแววตาเหมือนจะขบขันและเหยียดหยันอยู่ในทีซึ่งมันทำให้สาวมั่นอย่างเมวีแทบอยากจะเข้าไปตะกุยหน้าหล่อๆ นั่นให้สาสมแก่ความแค้นใจ แต่ดูเหมือนคนที่กอดกันกลมในบ้านของเธอกลับไม่มีท่าทางตกใจที่โนเธอจับได้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันที่ไม่ดีไม่งามในบ้านของเธอ
ออสการ์ ดาซิลวา มอริสซิโม มองหญิงสาวในชุดรัดรูปสีสดใสที่เน้นสัดส่วนของวัยสาวอย่างชัดเจนนั้นด้วยแววตาเหยียดหยัน เมวี หรือคุณหนูเมที่ทุกคนในบ้านหลังนี้กล่าวถึงว่าน่ารักอ่อนโยนเป็นเด็กดีที่ทุกคนต่างรักใคร่เอ็นดูเธอราวแก้วตาดวงใจ แม้แต่คุณทัศยาผู้เป็นแม่เลี้ยงเองก็รักเธอราวกับลูกแท้ๆ และพูดเรื่องของเมวีให้เขาฟังอยู่เสมอ แต่พอเจอตัวจริงเสียงจริงออสการ์มีความรู้สึกเดียวให้กับเธอนั่นก็คือ รังเกียจ ผู้หญิงที่แต่งตัวยั่วยวนผู้ชายไปวันๆ งานการไม่รู้จักทำรู้จักแค่ใช้เงินอย่างเดียวเช่นเมวี...
“อ้าวหนูเม ไหนว่าจะกลับมาเดือนหน้าล่ะคะ แล้วนี่กลับมาเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” คุณทัศยาถามอย่างตื่นเต้นดีใจ ร่างผอมบางของนางลุกขึ้นจากโซฟาเบดตัวใหญ่เดินมาหาเธอด้วยความคิดถึง แต่สำหรับเมวีเธอกลับคิดว่าผู้สูงวัยเสแสร้งมากกว่า เธอจึงปัดมือบางที่กำลังจะเอื้อมมาจับตัวเธอออกอย่างแรงด้วยความรังเกียจคนที่ทรยศความรักที่บิดาของเธอมีให้
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน เอามือสกปรกของคุณออกไปห่างๆ ตัวฉัน...” เมวีแผดเสียงใส่จนคุณทัศยาสะดุ้งด้วยความตกใจและเซน้อยๆ เหมือนจะล้มเพราะแรงปัดของเมวี ชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากนางนักจึงถลาเข้ามาประคองด้วยความเป็นห่วงท่าทางที่เขาแสดงออกต่อคุณทัศยานั้นช่างอ่อนโยนและเอาใจใส่ยิ่งทำให้เมวีเดือดดาล
“มันจะมากเกินไปแล้วนะเมวี...” ชายหนุ่มกล่าวด้วยภาษาไทยชัดเจน น้ำเสียงแข็งกระด้างเย็นชารวมไปถึงดวงตาคมกริบสีน้ำตาลเข้มภายใต้คิวหนาเรียวยาวของเขาก็กร้าวไม่ต่างกันแต่หญิงสาวกลับยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“ก็ผู้หญิงคนนี้เสือกจะมาจับตัวฉันทำไมล่ะ ฉันไม่คิดจะให้มือสกปรกๆ ของผู้หญิงแพศยามาแตะต้องตัวฉันหรอกนะ รู้เอาไว้ด้วย...”
“คุณหนูเม!!! ” ป้าอ้อยซึ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ว่าจะเป็นไปอย่างไรพูดขึ้นพร้อมกันกับคุณทัศยาที่มองหญิงสาวซึ่งนางรักเหมือนลูกแท้ๆ อย่างเจ็บปวดและเสียใจ
“มานี่เลยค่ะคุณหนูเม ทำไมพูดอย่างนี้ขอโทษคุณยาเดี๋ยวนี้เลยนะคะ ไม่อย่างนั้นป้าอ้อยจะลาออกจากที่นี่”
“นี่ป้าอ้อยก็เข้าข้างผู้หญิงคนนี้เหรอคะ ทั้งๆ ที่เขาพาผู้ชายมากกถึงในบ้านของหนูเม หยามน้ำใจคุณพ่อของหนูเม หรือว่าตอนนี้ทุกคนไม่รักหนูเมแล้ว...” เมวีกล่าวอย่างน้อยใจมองป้าอ้อยอย่างตัดพ้อ ซึ่งพอเจอแววตาที่คลอๆ ด้วยน้ำใสๆ ของคุณหนูที่นางรักปานดวงใจป้าอ้อยก็นึกสงสารแต่สิ่งที่คุณหนูของนางทำก็ไม่ถูกและไม่น่ารักเอาเสียเลย...
“ป้าอ้อยพาคุณหนูเมไปพักผ่อนเถอะจ้ะ ฉันไม่เป็นไรหรอก ออสการ์พาแนนนี่ขึ้นข้างบนที”
“แต่ว่า...”
“อย่าถือสาคุณหนูเมเลย เราไปกันเถอะ...” คุณทัศยากล่าวอย่างอ่อนเพลียและเห็นว่าแม้จะอธิบายอะไรไปในตอนนี้เมวีก็คงไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น ชายหนุ่มพาคุณทัศยาเดินขึ้นชั้นบนไปอย่างเสียไม่ได้หากแต่ชายหนุ่มก็หันกลับมามองหญิงสาวที่กอดอกเชิดหน้ามองเขาอย่างท้าทายและเหยียดหยันอย่างหมายใจไว้ว่าเขาจะทำให้เธอรู้สึกนึกว่าอย่าแตะต้องคนที่เขารักไม่ว่าด้วยคำพูดหรือการกระทำ...
“โอ๊ยๆ ป้าอ้อยขา หนูเมเจ็บนะคะ” เมวีร้องออกมาด้วยความเจ็บและแสบนิดๆ เมื่อป้าอ้อยผู้ที่เธอรักเหมือนแม่คนที่สองบิดต้นแขนเรียวอย่างลงโทษ ซึ่งเมวีเองก็ไม่ปัดป้อง หากเป็นคนอื่นเธอก็คงไม่ยอมและอาจจะสวนกลับไปแล้วแต่นี่เพราะป้าอ้อยเป็นคนที่เธอรักและเคารพมาเสมอ ทั้งนางก็ดูแลเธอมาอย่างดีตั้งแต่มารดาเสียชีวิตตอนเธออายุสิบขวบ ก่อนที่บิดาจะแต่งงานใหม่เมื่อเธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย
“ก็คุณหนูทำตัวไม่น่ารักเลยนี่คะ พูดแบบนั้นกับคุณยาได้อย่างไรกัน”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะในเมื่อคุณยาคนดีของป้าเขาพาผู้ชายมากกกันหยามคุณพ่อของหนูเมนะคะ...” เมวียังเถียงไม่ลดละ เพราะสิ่งที่เธอรับรู้มามันทำให้เธอโกรธจนไม่ฟังเหตุผลหรือคำพูดของใคร
“แล้วคุณหนูได้ข่าวมาจากไหน หรือใครบอกล่ะคะว่าคุณออสการ์เธอเป็นผู้ชายของคุณยา”
“ก็... เอ่อ คือหนูเม...” เมวีอึกอักทำให้ป้าอ้อยส่ายหน้ากับความใจร้อนวู่วามของเจ้านายสาวที่ไปเรียนต่อและฝึกงานอยู่ที่อังกฤษอยู่สามปีจนจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ในวัยยี่สิบสี่ปีนับว่าเมวีเป็นหญิงสาวที่สวย เก่งฉลาดและรวยมาก ตามสูตรของสาวไฮโซ แต่นิสัยที่เปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดีของเธอก็ทำให้ป้าอ้อยอยากได้เด็กหญิงหนูเมคืนมา แต่นางก็ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณหนูของนางคงไม่ใช่คนโง่จนมองไม่ออกหรอกว่าใครที่หวังดีกับเธอใครที่คิดร้ายกับเธอเพียงแต่ตอนนี้เมวีอาจจะกำลังโมโหจนไม่ฟังอะไรมากกว่า...
“ว่าไงล่ะคะ ไปฟังใครเขามา”
“โธ่ ป้าขา หนูเมจะฟังหรือรู้มาจากใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่หนูเมเชื่อว่าสองคนนั่นต้องมีอะไรเกินเลยกันไปถึงไหนต่อไหนแล้วล่ะค่ะดูแค่ท่าทางก็รู้...”
ทำไมคุณหนูมองคนแค่ภายนอกละคะ หากมีใครสักคนว่าคุณหนูกับผู้ชายคนนั้นมีอะไรเกินเลย ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเหมือนผู้หญิงข้างถนน เป็นผู้หญิงแพศยาแย่งสามีคนอื่นล่ะคะ คุณหนูจะว่าอย่างไร จะโกรธคนที่พูดมั้ย...” ป้าอ้อยกล่าวด้วยการยกตัวอย่างที่เป็นจริงบางเรื่องขึ้นมาโดยที่เมวีไม่ทันได้สังเกตตอนนี้เธอมองเห็นเพียงบารมีเท่านั้นที่ดีกับเธอ
ตอนที่3.ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาแล้วกระแทกปากลงมายังกลีบปากนุ่มที่กำลังจะอ้าปากด่าทอเขาอย่างลงทัณฑ์โดยที่เมวีไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวอีกทั้งเธอก็รู้สึกชาวาบไปทั้งตัวและขยับร่างกายไม่ได้เลยได้แต่นอนนิ่งอยู่ใต้ร่างใหญ่โตของชายหนุ่มที่เธอรู้แต่เพียงว่าเขาคือผู้ชายของแม่เลี้ยงและเขาก็กำลังจะข่มเหงเธอ... ออสการ์บดจูบร้อนแรงกับริมฝีปากบางระเรื่ออย่างโกรธกรุ่นในคราแรกแต่เมื่อสัมผัสถึงความเนียนนุ่มหอมละมุนจากโพรงปากสาวความรุนแรงของอารมณ์ก็ลดลงไปทันที ชายหนุ่มพรมจูบไปตามกลีบปากบวมเจ่อเพราะแรงจุมพิตของตนเรื่อยมายังแก้มแดงจัดอยู่ในแสงสลัว ร่างงามผุดผาดที่เขาพยายามไม่ใส่ใจและคิดว่ามันไม่สามารถปลุกเร้าอารมณ์ของเขาได้นั้นนุ่มละมุนน่าสัมผัส และความคิดเช่นนั้นก็สลายไปตั้งแต่เขาเห็นเธอเปลื้องผ้าออกจากร่างกายแล้วแต่เขาก็พยายามหักห้ามใจและบอกตัวเองให้ต้านทานเสน่ห์ของเธอให้ได้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล...“ถ้าผู้ชายคนนั้นที่ป้าหมายถึงพี่บิ๊กล่ะก็ หนูเมยังไม่เคยปล่อยตัวไปกับเขานะคะและเขาก็ยังไม่มีลูกไม่มีภรรยาด้วย ใครจะมากล่าวหาหนูเมแบบนั้นได้ล่ะคะ”“มันเป็นสิ่งที่ฟังแล้วทำให้ป้าเหลือคว
ตอนที่4.“จะรีบลุกไปไหนล่ะไหนๆ เราก็นอนแนบชิดกันอยู่แบบนี้หาอะไรสนุกๆ ทำไม่ดีกว่าเหรอ...”“ไม่นะ ไอ้บ้า ลุกเดี๋ยวนี้นะ ไอ้คนจิตใจสกปรก”“อื้ม.. ปากดีซะด้วย เห็นทีต้องสั่งสอนให้รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่...” ออสการ์ยิ้มๆ แต่เป็นยิ้มเหี้ยมเกรียมเมื่อต้องฟาดฟันกับศัตรูมากกว่า และสำหรับเมวี เธอก็เหมือนศัตรูของเขา...“แกเป็นใครถึงจะมาสั่งสอนฉัน ก็แค่แมงดาที่เกาะผู้หญิงคราวแม่ไปวันๆ โอ๊ย... ไอ้บ้า ฉันเจ็บนะ...”เมวีหันมาต่อว่าเขาอย่างเจ็บแสบแต่ก็ต้องร้องโอดโอยเมื่อเขาเอื้อมมือหนามาบีบคางมนอย่างแรงโดยไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บแค่ไหน เมวีน้ำตาแทบร่วงเมื่อเขาแสดงความโหดร้ายต่อเธออย่างที่เธอไม่เคยได้เจอจากผู้ชายคนไหนมาก่อน ความหวาดกลัวเริ่มเกาะกินในใจสาวแต่เธอจะไม่มีวันอ้อนวอนให้เขาเห็นใจเด็ดขาด...“ฉันเป็นใครเดี๋ยวเธอก็รู้เอง และเธอจะต้องจดจำฉันไปจนวันตายเลยทีเดียว เมวี...”“อะ อย่านะ... อื้มมม...” เสียงคัดค้านแสนเบาของเธอกลับหายเข้าไปในลำคอเมื่อเมวีพยายามลืมตามองการกระทำของเขาทั้งผลักไสไหล่หนาของเขาออกจากายตนแต่ก็ไม่อาจทำให้เขาลุกจากตัวเธอได้หนำซ้ำเขายังโอบร่างบางยังดูเล็กกระจ้อยร่อยไปเมื่อเทียบกับร่า
ตอนที่1.หญิงสาววัยย่างเข้าเบญจเพสในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ายิ้มกว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มซึ่งโบกมือให้เธออยู่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง หญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยโดดเด่นซึ่งใบหน้าเรียวไข่นั้นประกอบด้วยดวงตากลมโตภายใต้คิ้วได้รูปเรียวโค้งราวกับวาดด้วยจิตกรเอก จมูกโด่งมีสันสวนได้รูปรับกับริมฝีปากอวบอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดเครื่องหน้าทุกชิ้นของเธอสวยไม่เป็นรองใครซ้ำ ทั้งรูปร่างบอบบางระเหิดระหงอวบอัดในส่วนที่ถูกที่ควรแม้แต่หญิงสาวด้วยกันยังอดอิจฉาเธอไม่ได้ เธออยู่ในชุดเสื้อผ้าสีสันสดใสที่เปิดเผยนวลเนื้อขาวผ่องของตนอย่างมั่นใจ หญิงสาวเดินฉับๆ ด้วยท่าทางมาดมั่นดูโดดเด่นท่ามกลางผู้คนซึ่งต่างก็เดินไปมาทั้งเลือกซื้อของและเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังของมหานครแห่งนี้ กรุงเทพมหานคร... มหานครซึ่งรวมทุกสิ่งสรรไว้ในพื้นที่แคบๆ และแสนจะแออัด แต่ผู้คนมากมายก็ใฝ่ฝันที่จะเข้ามาทำงานอยู่กินในเมืองเมืองนี้ เมืองที่ไม่เคยหลับไหล...“พี่บิ๊กมานานรึยังคะ...” เมวี ทัศนไพศาล เอ่ยถามคู้หมั้นหนุ่มอย่างสดใสใบหน้าสวยยิ้มพรายอวดเรียวฟันขาวสะอาดราวไข่มุก“ยังไม่นานครับพี่เองก็เพิ่งมาถึง...” ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้