คำพูดร้ายกาจออกมาจากปากหยักสวนสีแดงเรื่อราวปากอิสตรี แต่แต่ละคำพูดที่ออกจากปากนั้นช่างแสบสันและทำร้ายจิตใจคนฟังมากมาย บารนีมองหน้าของสามีหมาดๆ ด้วยความกลัวจับใจ ร่างบางในชุดสีขาวสะอาดถอยกรูดชิดผนังเมื่อร่างสูงใหญ่ของเขาปรี่เข้ามาใกล้ มือหนากระชากไหล่มนเข้ามาหาอย่างดุดันแล้วโน้มใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรลงมาช้าๆ ดวงตาสีน้ำเงินดูมืดดำจนบารนีหัวใจแทบหล่นไปอยู่แทบเท้าของเขา
“อย่าทำอะไรบีเลยนะคะ ได้โปรดสงสารบีเถอะ”
เมื่อเห็นท่าทางของเขาอย่างนี้บารนีรู้สึกหวิวหวั่นในใจ ความเจ็บแปลบที่เหมือนร่างจะแตกเป็นเสียงๆ นั้นยังตรึงอยู่ในจิตใจอันบอบบาง และหากเขาทำแบบนั้นกับเธออีกเธอคงตายแน่ๆ บารนีมองเขาด้วยน้ำตานองหน้า...
“เธอจะต้องชดใช้ที่ทำให้ชีวิตของฉันพังไม่เป็นท่า และเธอจะต้องชดใช้ที่พี่ชายของเธอมันแย่งแฟนฉัน...” อัคนีกล่าวเสียงลอดไรฟัน ใบหน้าหล่อเหลาเข้มด้วยความเกลียดชังและความคับแค้นใจที่ถูกมัดมือชก
ในคืนนั้น คืนที่เขาพร่าพรหมจรรย์ของบารนี แล้วพี่ชายของเธอกลับมาพบว่าเขาทำอะไรกับน้องสาวของตนอีกทั้งอดีตคนรักของเขาก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย การแก้แค้นของเขาคงสิ้นสุดลงหากภัทราไม่อยู่ในคืนนั้น เพราะหญิงสาวไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปแม้รู้ดีว่าที่เขาทำแบบนี้เพราะอะไร สุดท้ายเรื่องมันก็ยิ่งมัดเขาไว้จนดิ้นไม่หลุดเมื่อบารนีอายุยังไม่ถึงยี่สิบปีและที่สำคัญบิดามารดาของเขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา และยังเข้าข้างบริบูรณ์กับภัทราว่าทั้งสองรักกันและไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเขาด้วย พวกท่านจึงให้เขารับผิดชอบบารนีด้วยการแต่งงานและยังย้ำว่าเขาเองควรจะพิจารณาตนเองเสียก่อนก่อนที่จะเที่ยวโทษคนโน้นคนนี้ชีวิตของเขาล้มไม่เป็นท่าเพราะสองพี่น้องหน้าซื่อใจคดแล้วยังไม่มีใครสงสารเขาที่เป็นคนถูกกระทำด้วยซ้ำ อัคนีคิดในใจด้วยความเกรี้ยวกราด...
“อย่า ได้โปรด อื้อออ...” บารนีพยายามร้องขอความเมตตาจากเจ้าบ่าวของเธอ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะอัคนีบดขยี้เรียวปากบางของเธออย่างรุนแรงเหมือนเป็นการลงทัณฑ์จนเธอรู้สึกเจ็บไปทั้งเรียวปากและยังรับรู้รสเค็มของเลือดในปากด้วย เขาช่างใจร้ายเหลือเกิน สาวน้อยวัยสิบแปดคิดอย่างอ่อนล้าไร้หนทางจะหลุดออกจากกรงเล็บพญามารแต่แล้วเธอก็รู้ดีว่าตนไม่มีวันหนีพ้น เมื่อชุดเจ้าสาวแสนสวยถูกกระชากจนขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี และเนื้อผ้าก็ครูดกับผิวขาวลออของเธอจนแดงช้ำ แต่อัคนีก็ไม่สนใจตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับเสื้อผ้าของเธออย่างไร้ความปราณีจนในที่สุดเธอก็เปลือยเปล่าสั่นเทาอยู่บนเตียงกว้างที่ไร้ความอบอุ่น...
“คุณเดียวขา อย่าทำอะไรบีเลย ได้โปรดเถอะ...”
สาวน้อยยังไม่วายจะเอ่ยขอความเห็นใจพลางกระถดหนีร่างสูงใหญ่ที่ย่างสามขุมเข้ามาหาด้วยเรือนกายแกร่งเปล่าเปลือยและร่างกายของเขาบ่งบอกเป็นอย่างดีเมื่อมันแสดงความต้องการออกมาด้วยความแกร่งกระด้างใหญ่โต... บารนีหน้าซีดตัวสั่นแล้วก็ต้องหวีดร้องออกมาอีกครั้งด้วยความหวาดกลัวเมื่อเขากระชากร่างบอบบางเข้าไปหาร่างแกร่งอย่างรุนแรงบดขยี้เรียวปากบวมช้ำด้วยความเดือดดาลอีกครั้ง มือหนาโลมลูบเรือนกายละมุนอย่างหยาบคายไม่มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย ทรวงสาวแรกผลิต้องชอกช้ำเพราะมือภมรร้ายที่จิตใจเต็มไปด้วยความเกลียดชังต้องการฟาดฟันให้ศัตรูแหลกลาญไป
ริมฝีปากร้อนผ่าวราวเปลวเพลิงขบเม้มอย่างรุนแรงไปตามผิวเนื้ออ่อนนุ่มและทิ้งรอยราคีไว้บนร่างกายสาวถ้วนทั่วไม่ว่าจะเป็นลำคอขาวผ่องเนินอกอวบใหญ่หรือแม้แต่หน้าท้องเนียนก็มีรอยแดงเป็นจ้ำจากการดูดกลืนด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือหน้าลูบไล้ผ่านไปที่ใดก็เหมือนมีเปลวไฟลามเลียไปที่นั่น...บารนีพยายามเบี่ยงหน้าหนีคมจุมพิตร้อนระอุนั้นแต่ก็ยากเหลือเกินเพราะเธอรู้สึกแสบร้อนไปทั้งตัว ร่างบางสั่นสะท้านทั้งด้วยความกลัวและความซ่านรัญจวนที่เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อความร้อนแรงของสัมผัสจากชายหนุ่มนั้นอ่อนลงเธอจึงเริ่มปรับตัวและรับรู้สัมผัสนั้นได้
อัคนีเพลิดเพลินไปกับเรือนกายขาวลออเนียนนุ่ม ดื่มกินทรวงสาวอย่างหิวกระหายหลงใหลในความนุ่มหยุ่นและหอมหวานจากเรือนร่างที่เขาเชยชมอยู่ ความรุนแรงจากสัมผัสหายไปเหลือเพียงความเร่าร้อนมาแทนที่เมื่อสาวน้อยตอบสนองริมฝีปากร้อนผ่าวที่ดื่มกินยอดอกสีหวานอย่างเอร็ดอร่อยด้วยการแอ่นกายขึ้นเหนือที่นอนนุ่มยุ่งเหยิงเสนอตัวให้เขาดื่มกิน เรียวขาเสลาที่อัคนียอมรับว่ามันสวยกว่าเรียวขาของหญิงสาวที่ตนเคยควงแยกออกจากกันเปิดทางให้ร่างใหญ่โตของเขาแทรกเข้าไป ทุกการกระทำของเธอช่างไร้เดียงสาเสียงครางกระเส่าแผ่วหวานดังออกจากริมฝีปากบวมเห่อเพราะแรงจุมพิตของเขาก็ยิ่งเร้าอารมณ์หนุ่มให้เตลิด โอ คุณพระ... เธอช่างเซ็กซี่กว่าที่เขาคิดไว้ อัคนีมองทรวงอกอวบใหญ่ที่ไหวกระเพื่อมเพราะแรงหอบสะท้าน กายบางส่ายพลิ้วเมื่อมือหนาเลื่อนลงไปสำรวจซอกอ่อนไหวของอิสตรี
“เธอให้ความรู้สึกดีเหรอเกินสาวน้อย อา... เธอชุ่มฉ่ำ และรัดฉันแน่นจริงๆ”
อัคนีเสียงแหบพร่าเมื่อนิ้วแกร่งของเขาแทบไม่สามารขยับได้เพราะความคับแน่นของเธอบีบรัดจนนิ้วของเขาชาไปหมด ชายหนุ่มถอนนิ้วออกจากซอกดอกไม้หวานฉ่ำ จูบไล่จากใบหน้าหวานแดงก่ำลงมายังหน้าท้องนวลอย่างอดใจไม่ไหวเมื่อกลิ่นหอมจากดอกไม้สาวสดฉ่ำยั่วให้เขาลิ้มลอง... กลิ่นกายสาวน้อยล่อลวงให้เขาหลงใหลได้อย่างไม่น่าเชื่อ อัคนีคิดขณะแตะปลายลิ้นกับเกสรสีหวานชำแรกเรียวลิ้นผ่าวโลมเลียความอ่อนนุ่มของสาวน้อยที่ดิ้นเร่าครวญครางด้วยลีลาเจนจัด
ตอนที่4.“อื้อ ไม่นะ...โอ คุณเดียว... อย่า...” บารนีครางไม่เป็นภาษา รู้สึกสับสนกับความรู้สึกตนเอง ร่างของเธอร้อนราวกับไฟในขณะเดียวกันก็รู้สึกมวนในช่องท้อง และฉ่ำชื้นที่ใจกลางร่างซึ่งกำลังถูกชายหนุ่มจู่โจมอย่างเร่าร้อนด้วยปากและลิ้นของเขา ในใจหนึ่งก็รู้สึกกลัวความเจ็บแปลบที่เธอเคยผ่านพบมาก่อนหน้านี้ แต่อีกใจก็อยากรู้ว่าสัมผัสจากเขาจะทำให้เธอหายจากความทรมานนี้ได้หรือไม่ ความรู้สึกเสียวซ่านโจมตีเธอจนแทบมอดไหม้ความรู้สึกนี้ช่างแตกต่างจากครั้งแรกที่เขารุกรานเธอโดยสิ้นเชิง และตอนนี้เธอทรมานจากความรู้สึกนี้เหลือเกินและเธอก็รู้สึกแปลกใจกับความรู้สึกที่เหมือนลอยสูงขึ้นไปในอากาศแล้วตกลงมากระแทกพื้นที่อ่อนนุ่มพร้อมกับความรู้สึกเบาสบายแต่ไม่ทั้งหมดเพราะเธอรู้สึกถึงความร้อนที่จดจ่ออยู่ชิดกลีบกายสาวซึ่งสร้างความร้อนเร่าขึ้นในกายเธออีกครั้ง...“เธอเป็นของฉันสาวน้อย เธอเป็นของฉันบารนี...” ชายหนุ่มครางกระซิบเสียงแหบพร่ายกกายเหนือร่างงามแล้วกดแทรกแก่นกายร้อนรุ่มเข้าสู่ใจกลางดงดอกไม้สดฉ่ำช้าๆ ใบหน้าหล่อเหลาเหยเกเพราะความคับแน่นบีบอัดจนเขาแทบขาดใจก่อนจะดุนดันแก่นกายเข้าหาร่างบางจนสุดตัวและแช่นิ่งไว้ให
ตอนที่5.ที่สำคัญอัครากับอัคนีมีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกันมากและรูปร่างที่สูงห่างกันแค่เซนติเมตรเดียวไม่ได้ทำให้เขาทั้งสองดูแตกต่างกันสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนก็คืออัคราไม่เคยเย็นชากับเธอเขาพูดกับเธอมากกว่าพูดกับคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ จนบางทีอัครวัฒน์ซึ่งมักมาที่บ้านบ่อยๆ และค่อนข้างสนิทสนมกับเธอเพราะวัยใกล้เคียงกัน ก็ยังเคยเอ่ยล้อว่าเธอสามารถง้างปากเสือยิ้มยากให้ยิ้มและพูดมากได้ และหนุ่มทั้งสองคนนี้ไม่เคยสักครั้งที่เขาจะทำร้ายจิตใจเธอเหมือนใครบางคนที่เธอจำเป็นต้องเห็นเขาในฝันอยู่เสมอ...“น้องบีเป็นอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นใบหน้าที่ค่อนดูหม่นหมองลง“เปล่าค่ะ คือ บีแค่นอนดึกไปหน่อยค่ะเมื่อคืน”“ออกแบบลายผ้าให้พี่ล่ะสิ จริงๆ แล้วไม่ต้องรีบก็ได้ งานเลี้ยงก็มีคืนนี้ น้องบีทำตอนนี้ยังทันเลยไหนพี่ขอดูหน่อยสิ”ชายหนุ่มบอกอย่างอ่อนโยน รู้สึกรักและเอ็นดูน้องสะใภ้ผู้อาภัพมากขึ้นเพราะบารนีไม่เคยอยู่ว่าง เธอมักจะทำนู่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา และบารนีก็ไปเป็นแขกที่ไร่อัคราเสมอเพราะไปดูการเลี้ยงไหมอีรี่และศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์จากไหมกินใบมันสำปะหลังนั่นเอง จนตอนนี้ผลิตภัณฑ์จากไหมอีรี่ของดีแลนด์ซิลด์โ
ตอนที่1.ในค่ำคืนอันมืดมิดซึ่งพายุฝนกำลังพัดกระหน่ำ ในห้องนอนเล็กๆ ของบ้านหลังน้อยกำลังร้อนระอุด้วยเพลิงพิศวาสที่เต็มไปด้วยความร้อนแรงและเอาแต่ใจของชายนุ่มรูปงามราวเทพบุตรที่สาดใส่ร่างบอบบางของสาวน้อยหน้าแฉล้มซึ่งนอนน้ำตารินด้วยความเจ็บปวดราวร่างจะแตกปริเมื่อเขารุกล้ำร่างบอบบางราวแก้วใสด้วยร่างแกร่งใหญ่โตของเขาโดยไม่สนใจว่าคนตัวเล็กใต้ร่างจะรู้สึกอย่างไร สิ่งที่เขาต้องการคือทำให้เธอเจ็บปวดมากที่สุด เจ็บปวดเท่าที่เขาเจ็บ...อัคนี ดีแลนด์ เทพบุตรเลือดผสมไทย เยอรมัน วัยยี่สิบแปดปีซึ่งกลายร่างเป็นซาตานร้ายก้มลงบดขยี้เรียวปากกระด้างลงบนกลีบปากบางที่บวมเจ่อแทบแตกปรินั้นอย่างลงทัณฑ์ไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บปวดเพราะน้ำมือเขาแค่ไหน เขาสนใจเพียงอย่างเดียวคือเชยชมร่างกายงดงามนี้ให้สมกับความแค้นในใจ ชายหนุ่มสาวสะโพกสอบเข้าใส่ร่างบอบบางด้วยแรงอารมณ์ แม้ความคับแน่นจะบีบรัดจนเขาปวดหนึบแทบจะขยับไม่ได้ก็ตาม“ได้โปรด ออกไป บีเจ็บ ฮือออ...”บารนี สาวน้อยวัยสิบแปดปีหมาดๆ ซึ่งตกเป็นเหยื่อและกลายเป็นผู้รับโทษทัณฑ์จากเขาวอนขอทั้งน้ำตา ความเจ็บปวดราวร่างจะฉีกออกจากกันทำให้เธอแทบขาดใจตายไปเสียเดี๋ยวนี้...“ไม่หรอก
ตอนที่2.คุณอีริคกับคุณดารานั้นมีบุตรชายด้วยกันสามคน คนโตคือ คุณเด่น หรืออัครา วัยสามสิบสี่ดูแลกิจการด้านสิ่งทอของครอบครัวรวมไปถึงการเป็นเจ้าของไร่อัครา ซึ่งมีพื้นที่เป็นพันไร่แยกปลูกไร่มันสำปะหลังและเลี้ยงไหมอีรี่ป้อนโรงงานทอผ้าของตนอีกด้วย(ไหมอีรี่เป็นแมลงที่สร้างรังซึ่งเป็นเส้นใยธรรมชาติที่นำมาใช้ประโยชน์ทำเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอต่างๆ และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าได้เหมือนไหมหม่อนแต่เส้นใยไหมอีรี่มีคุณสมบัติเฉพาะ คือ มีความหนานุ่มคล้ายผ้าขนสัตว์แต่ก็ดูดซับเหงื่อและระบายอากาศได้ดี ทำให้ใส่แล้วรู้สึกอบอุ่นในฤดูหนาว และเย็นสบายในฤดูร้อน ไม่สากระคายมือ มีคุณภาพทนทานดีกว่าไหมหม่อน ซักได้ด้วยวิธีธรรมดา ไม่ต้องซักแห้ง เส้นไหมที่ผลิตได้จะมีลักษณะเป็นปุ่มปม มีความเงามันเล็กน้อยซึ่งสวยงามแปลกตาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและยังเป็นแมลงที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูง ไหมอีรี่กินใบมันสำปะหลังและใบละหุ่งเป็นอาหาร )คนกลางคือ คุณเดียวหรือ อัคนี วัยสามสิบสองปีซึ่งดูแลกิจการด้านการโรงแรมของครอบครัวและตอนนี้เขาก็ประจำอยู่ที่เยอรมันและเดินเดินทางไปดูงานโรงแรมของครอบครัวทั่วโลกยกเว้นเมืองไทย... ส่วนคนสุดท้ายค