'กล้วย' ในที่นี้ หมายถึง การติดสินบน , เงินใต้โต๊ะ
“ตกลงค่ะ ภายในสามวันเราจะเอาเงินล้านนึงไปให้”ทุกคนตกใจหันไปมองอัจจิมาพร้อมกัน“แกจะไปเอาเงินมาจากไหน” ประสิทธิ์ถามลูก แม้ว่าที่ผ่านมาอัจจิมาทำงานทุกอย่างที่ได้เงิน แต่เงินตั้งหนึ่งล้าน กับเวลาแค่สามวัน เธอจะไปหามาจากที่ไหน ในเมื่อตอนนี้เธอไม่มีเงินเก็บในบัญชีแม้แต่บาทเดียว“จะไปเอามาจากไหนก็ช่างเถอะค่ะ” ตวัดสายตาไปมองสามีอย่างต่อว่า เพ็ญพักตร์ไม่สนว่าอัจจิมาจะหาเงินมาด้วยวิธีใด ตัวเองกับลูกยังมีบ้านให้อยู่ก็พอแล้ว“หนูหามาได้ก็แล้วกัน” มือทั้งสองข้างกอบกำเข้าหากันเมื่อคิดไปถึงวิธีหาเงิน แรงสั่นสะเทือนน้อย ๆ บ่งบอกว่าอัจจิมากำลังฝืนใจตัวเองบุญคุณที่เพ็ญพักตร์เคยใช้หนี้ก้อนใหญ่ให้เธอกับประสิทธิ์เมื่อหลายปีก่อน ที่ผ่านมามันก็น่าจะเกินพอแล้วเธอไม่จำเป็นต้องเห็นอกเห็นใจใคร ไม่จำเป็นต้องลำบากทำเพื่อใครแม้แต่พ่อบังเกิดเกล้า ปล่อยให้บ้านถูกยึดไปให้จบ ๆ จะได้หมดเวรหมดกรรมกับสองแม่ลูกคู่นี้สักทีทว่าเธอก็ไม่สามารถทำอย่างที่ใจคิดได้บ้านหลังนี้เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่แม่เธอเหลือเอาไว้ให้ ทุกตารางเมตรของบ้านเต็มไปด้วยความทรงจำครั้งที่บังอรยังมีชีวิตอยู่ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะทุกอย่างที่เกิดข
“ขอโทษนะครับ คุณหมอเขาบอกว่าไม่รู้จักคุณ”“….?”จะเป็นไปได้ไง ถ้าเขาไม่รู้ชื่อเล่นก็ต้องรู้จักชื่อจริงของเธอสิ ในเมื่อวันนั้นเขายังเจาะจงเป็นเธออยู่เลย“งั้นขอฉันคุยกับคุณหมอได้ไหมคะ” หมอธนาส่งโทรศัพท์มือถือให้เธอโดยไม่รอให้คนในสายอนุญาตอัจจิมาสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งก่อนจะเอามือถือบางเฉียบแนบไปกับหู หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ เมื่อไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตอกหน้าเธอกลับมาว่ายังไง“ฉันเองนะคะ” เสียงหวานเค้นออกไปด้วยความยากลำบาก ลุ้นคำตอบจากชายหนุ่มยิ่งกว่าตอนฟังผลสอบสมัยเรียนซะอีก“ใครเหรอครับ” แม้จะพูดคุยกันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่เธอก็จำได้ว่าน้ำเสียงของเขาไม่ได้เย็นเยือกขนาดนี้นั่นมีความเป็นไปได้ว่า เขาจำเธอได้แต่กำลังเอาคืนเธออยู่ร้ายกาจ…เขามันเป็นหมอที่ร้ายกาจที่สุด“ฉันเองค่ะ ที่…” ทั้งคุณหมอหนุ่มกับพวกพยาบาลต่างพากันรอฟังว่าเธอจะพูดอะไรนะ…นั่นน่ะสิ เธอควรตอบไปว่ายังไงดีปลายสายเงียบฟังในขณะที่หัวใจอัจจิมาเต้นรัวยิ่งกว่าเดิมบ้าน่า…เธอตอบอะไรไปก็ได้ขอแค่ให้เขาจำเธอได้ก็พอ ไม่เห็นต้องตื่นเต้นเหมือนคนลุ้นรางวัลที่หนึ่งอยู่เลย“ถ้าไม่พูดผมวางสายนะ”“ดะ…เดี๋ยวสิ ฉันคือคนที่คุณเรียกไปนั่งด้วยที่ไ
อยากได้ลูกเสือ เธอก็ต้องเข้าไปในถ้ำเสือต่อให้ภายในถ้ำจะมีเสือตัวโคร่งรออยู่ก็ตามร่างบางระหงในชุดสั้นรัดรูปก้าวเข้าไปหาศัลยแพทย์หนุ่มที่โต๊ะ คนที่สวมเสื้อกาวน์ได้อย่างภูมิฐานและดูดีวันก่อนคงจะถอดหัวโขนออกไปเรียบร้อย เบื้องหน้าของเธอตอนนี้จึงดูไม่ต่างจากผู้ชายเที่ยวกลางคืนทั่วไป“ขอคุยเรื่องส่วนตัวด้วยหน่อยค่ะ” เธอเลือกจะเข้าประเด็นทันที ทว่าสาวสวยที่แทบจะขึ้นไปนั่งบนตักของพิธาก็พูดขึ้นพร้อมกับปรายตามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดรองเท้า“ใครเหรอคะคุณหมอ” คำว่า คุณหมอ สะดุดหูคนฟัง ผู้หญิงคนนี้รู้ว่าเขาทำงานอะไรสินะแต่แล้วคำตอบที่สาวสวยคนนั้นรอฟังอย่างคนทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกลับเป็นประโยคนี้“กลับไปก่อน”“ทำไมล่ะคะ ไหนคุณหมอบอกว่าคืนนี้จะให้จีจี้อยู่ด้วยจนเช้าไงคะ” เจ้าของหน้าอกคู่โตยกมือขึ้นคล้องคอชายหนุ่มด้วยท่าทางออดอ้อน ใบหน้าที่ประทินเครื่องสำอางหนาเตอะซบอยู่ตรงตำแหน่งซอกคอของเขา“บอกให้กลับไปก่อนไง” ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าหงิกงอเอื้อมไปหยิบกระเป๋าแอร์เมสใบแพง ก่อนจะจำใจลุกออกไปจากโต๊ะ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ค่อยพอใจกับการมาของเธอเหมือนพยาบาลที่เธอเจอวันนี้ไม่มีผิด แต่ก็ช่างเถอะ เธอรีบเข้าเรื
“ดะ...เดี๋ยวก่อน คุณกำลังจะพาฉันไปไหน”“โรงแรม”อัจจิมากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คำตอบเพียงสั้น ๆ แต่ได้ใจความสำคัญ ส่งผลให้ฝ่ามือทั้งสองของอัจจิมาชื้นเหงื่อเหมือนเพิ่งผ่านการออกกำลังกายมาคำว่า ผู้หญิงขายตัว กึกก้องอยู่ในหัว มันกำลังย้ำถามความแน่ใจจากเธอ งานที่ลดคุณค่าตัวเองแบบนี้ นอกจากจะบอกให้ใครรู้ไม่ได้ ต่อไปนี้เธอยังต้องใช้ชีวิตอยู่กับคำว่า ผู้หญิงขายตัวไปจนตายค่ำคืนนั้นเพราะความเมาเป็นเหตุ หากแต่คืนนี้สติสัมปชัญญะของเธอยังอยู่ครบถ้วนทุกประการ นั่นแปลว่าหลังจากผ่านวันนี้ไปแล้วเธอไม่มีสิทธิ์จะมานั่งคร่ำครวญเสียใจภายหลังคนซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเงียบมาตลอดทาง ไม่ต่างกับเจ้าของรถคันหรูที่เอาแต่เหยียบคันเร่งไม่ได้สนใจจะสนทนากับเธอหากก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ระหว่างเธอกับเขาแทบจะไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ เป็นเพียงผู้ซื้อกับผู้ขาย แล้วเธอยังจะคาดหวังให้อีกฝ่ายพูดคุยอะไรด้วยเป็นเพราะฝีมือในการขับรถหรือจุดหมายปลายทางอยู่ไม่ไกลจากสถานบันเทิงแห่งนั้น ครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอถึงได้มายืนอยู่ในโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพถ้าไม่ใช่เพราะอาชีพ ‘คู่นอน’ ทั้งชีวิตของนางสาวอัจจิมาคงจะไม่มีโอกาสได้ย่างกรายเข้ามาเห
“ผมยังไม่มีทั้งแฟนและภรรยา กรุ๊ปเลือดบี สูงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ด น้ำหนักหกสิบห้า ใช้ถุงยางไซซ์ห้าหก รักความสะอาดไม่มีโรคติดต่อ” อัจจิมาทำหน้าเหวอเล็กน้อยเขาบอกเรื่องพวกนี้ให้เธอรู้ทำไมก่อนนนแล้วเมื่อกี้อะไรนะไซซ์ ๆ ขนาดถุงยางที่เขาใช้ไซซ์ห้าหก เธอไม่ได้ฟังผิดใช่ไหมพระเจ้า! มิน่าล่ะ ผ่านไปสามวันแล้วน้องสาวเธอยังไม่หายระบมเลยไม่ไม่ไม่! เธอจะไปนึกถึงความรู้สึกในตอนนั้นทำไม“คุณไม่ต้องบอกเรื่องพวกนี้ให้ฉันรู้ก็ได้ค่ะ” พูดไปอัจจิมาก็รู้สึกอายแทนเจ้าตัวจนออกอาการหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด แต่พิธากลับทำเหมือนตัวเองแค่พูดเรื่องผักปลาตามท้องตลาดให้เธอฟังแต่ถ้าเปรียบเขาเป็นปลา เขาก็คงจะเป็นจ้าวแห่งปลาช่อนชัวร์ ๆโอ๊ะนังจี๊ด เธอกำลังคิดอะไรลามกอีกแล้ว“จำเป็นสิ จำเป็นมากด้วย ผมจะบอกให้นะ คนเราก็เหมือนกับเครื่องใช้ไฟฟ้า จำเป็นต้องมีคู่มือบอกรายละเอียดการใช้งาน แต่ผมแตกต่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้าพวกนั้นตรงที่…เครื่องของผมมันร้อนเร็วมาก ยิ่งถ้าเจอปลั๊กที่เข้ากันได้ดี เครื่องผมก็จะยิ่งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เขาทำเอาคนฟังอึ้งไปหลายวินาที ท่าทางของคนที่นั่งไขว่ห้างอยู่ฝั่งตรงข้ามกันกับเธอ ไม่ต่างจ
“ถอดเสื้อผ้าออก ผมจำเป็นต้องดูสัดส่วนของคุณก่อนเริ่มงานคืนนี้”อะไรนะ!?เขาเคยเห็นร่างกายของเธอมาหมดแล้วก็จริงแต่การจะให้เธอแก้ผ้าให้ดูตรงนี้ ตอนนี้ เป็นใครก็ต้องตกใจทั้งนั้น“ผมบอกให้คุณถอดเสื้อผ้า ทำไม ทำไม่ได้เหรอ?” พิธาเอียงใบหน้าเล็กน้อยขณะทิ้งตัวไปกับโซฟามองหญิงสาวด้วยความใจเย็น การให้เขาดูร่างกายของเธอได้ทุกเมื่อถือว่าเป็นหนึ่งในข้อตกลง“ทำได้ค่ะ” เจ้าของใบหน้าหวานตอบเสียงเบาก่อนจะค่อยๆ ลงมือปลดเดรสสายเดี่ยวตัวสั้นออกจากร่างกาย ไม่กี่วินาทีต่อมาก็เผยให้เห็นบราเซียลายลูกไม้สองชิ้นที่ยังปกปิดส่วนอวบอูมของหญิงสาวรูปร่างกำลังพอเหมาะไม่อ้วนแต่ก็ไม่ผอมจนเกินงาม ผิวพรรณขาวเนียนไปทั้งตัวทุกอย่างบ่งบอกว่าอัจจิมาดูแลตัวเองเป็นอย่างดีลำคอของศัลยแพทย์หนุ่มแห้งผาก ไม่สามารถละสายตาจากความงดงามเบื้องหน้าได้สักวินาทีเดียว เขามองเธออย่างนึกถูกใจอยู่ลึก ๆ ยิ่งคิดไปถึงค่ำคืนนั้น เขาก็แทบอยากกดเธอให้นอนลงไปกับพื้น แต่ก็ติดตรงที่เขาไม่อยากใจร้อน จนกลายเป็นพวกหื่นกามในสายตาของเธอ“ต่อเลยสิ ผมดูอยู่” มือเล็กทั้งสองกำเข้าหากันจนเกิดแรงสั่นสะเทือนน้อย ๆ ขึ้น คำพูดย้ำเตือนว่าเธอกำลังถูกสายตาคมกริบจ้อง
“ผมมีข้อเสนอให้คุณอีกเรื่อง”“อะไรคะ” นัยน์ตาคู่สวยฉายความหวาดระแวงออกมาเล็กน้อย เขาคงไม่ได้จะตั้งเงื่อนไขอะไรบ้า ๆ เพิ่มหรอกนะ“ผมจะให้เงินคุณใช้ทุกเดือน แต่ต้องจำไว้ว่าคุณจะมีอะไรกับลูกค้าพวกนั้นหรือผู้ชายคนอื่นไม่ได้ จูบผมก็ห้าม คิดซะว่าคุณกำลังคบอยู่กับผู้ชายคนนึงและต้องซื่อสัตย์กับแฟนของคุณแค่คนเดียว” อัจจิมากะพริบตาขึ้นลง ทั้งที่ระหว่างเธอกับเขามีเงื่อนไขบ้า ๆ พวกนั้นอยู่ แล้วมันจะเหมือนคนที่เขาเป็นแฟนกันได้ยังไงเขาไม่เคยคบหาใครหรือแค่เป็นคนไม่มีหัวใจ ถึงได้พูดออกมาได้เย็นชาแบบนี้“เรื่องนั้นฉันรับปากค่ะ แต่เรื่องเงินคุณไม่ต้องให้ฉันอีกก็ได้”“ผมไม่ชอบเอาเปรียบใคร เงินที่ผมให้ถือว่าเป็นค่าอิสรภาพจากนี้แล้วกัน ตกลงตามนี้ คุณเข้าไปอาบน้ำให้สะอาด ผมให้เวลาชั่วโมงนึงพอไหม”“แต่ว่า…”“ผมคงลืมบอกไปอีกอย่างว่าผมไม่ชอบให้คนขัดใจ เข้าใจไหม” เหมือนว่าสายตาคู่นั้นของเขามีอำนาจบางอย่างให้เธอพยักหน้ารับ“ฉันขอเวลาครึ่งชั่วโมงก็พอค่ะ” ปกติก็ไม่มีเวลามาพิถีพิถันในการอาบน้ำ เวลาแค่นี้จึงถมเถ“ตามใจ แต่ผมไม่สะดวกใช้ห้องน้ำร่วมกับคนอื่น เพราะงั้นคุณไปใช้ห้องน้ำทางโน้น” เขามองเลยด้านหลังเธอออกไป
“ใช้มือกับปากของคุณทำให้ผมเสร็จ”ในเวลางานเขาได้ชื่อว่าเป็นหมอที่ใช้ความใจเย็นและสุขุมได้อย่างมีคุณภาพ แต่กับเรื่องบนเตียงค่อนข้างใจร้อน ไม่ชอบเสียเวลาต้องมาพูดคุยอะไรกัน แทนที่จะได้มองตาแล้วรีบทำให้จบ ๆ แต่เพราะอัจจิมามีบางอย่างที่ถูกใจเขา บุคลิก ท่าทางเย่อหยิ่ง และแน่นอนว่ารวมถึงรูปร่างหน้าตาด้วยอัจจิมาเป็นผู้หญิงที่สวยทั้งยังมีเสน่ห์แถมยังดูเหมือนจะหาเงินเก่ง เขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมนิรุทถึงปล่อยให้เธอหลุดมือมาได้สำหรับเขา เคยผ่านผู้ชายมาก่อนไม่ได้สำคัญ และเขาก็ไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ เพราะถือว่าเรื่องบนเตียงเขาเองก็โชกโชน ถ้าจะคาดหวังให้คนอื่นบริสุทธิ์ผุดผ่อง ก็คงจะเห็นแก่ตัวไปหน่อยคนซึ่งเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วสบสายตาคมกริบก่อนจะหลุบลงพื้นอย่างรู้งาน มือเล็กล้วงสิ่งนั้นออกมาจากชุดคลุมอาบน้ำ สองมือประสานเข้าหากัน รู้สึกได้ถึงความร้อนที่ฝ่ามือตัวเอง เหมือนว่าส่วนนั้นของเขาจะตอบสนองมือเธอได้อย่างรวดเร็ว“อืมม ซี้ดดด” เสียงทุ้มแหบพร่าดังถี่กระชั้น อัจจิมาขยับมือเนิบช้าในตอนแรกก่อนจะเร่งจังหวะถี่ ดวงตาคู่สวยจับจ้องอยู่กับความเป็นชาย ปลายอวบหยักที่ผลุบเข้าออกระหว่างซอกนิ้วขอ
“ถ้าฉันท้องล่ะคะจะเกิดอะไรขึ้น” ก่อนหน้านี้เขาเคยขอเธอเรื่องที่จะไม่ใช้ถุงยางอนามัยเวลาที่มีอะไรกัน แถมยังสั่งไม่ให้เธอกินยาคุมกำเนิด แต่ที่เธอถามออกไปแบบนี้ เพราะเธอยังไม่ได้รับการยอมรับจากคุณนิพนธ์ จึงกลัวว่าถ้าเกิดตั้งท้องขึ้นมาอาจจะเพิ่มปัญหาให้เขา“ผมก็พาคุณไปฝากครรภ์ไง”“ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย” เธอมองค้อนที่เหมือนเขาเห็นเรื่องตั้งครรภ์เป็นเรื่องเล็ก ทั้งที่มันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับลูกผู้หญิง“คุณกลัวผมจะไม่รับผิดชอบเหรอ” สายตาคมเข้มจริงจังขึ้นมาทันทีเธอหลุบสายตามองต่ำ ถ้าบอกว่าเธอไม่ได้เป็นกังวลเรื่องนี้ก็ดูจะเป็นการโกหก ถ้าเธอต้องปล่อยให้ตัวเองท้องเธอก็ต้องแน่ใจในอะไรหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือเขาเธออยากรู้ว่าเขาพร้อมจะเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้วเหรอ เพราะการจะเป็นพ่อคน ไม่ใช่ต้องการแค่เงินทอง แต่ยังต้องมีความรับผิดชอบสูง พร้อมเสียสละเวลาส่วนตัว และพร้อมที่จะดูแลอีกหนึ่งชีวิตด้วยหัวใจ“คุณฟังผมนะ ผมไม่ใช่เด็กแล้ว แล้วผมก็ไม่ใช่คนไม่มีความรับผิดชอบ ที่ผมบอกว่าอยากมีลูกก็แปลว่าผมพร้อม แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องเงินทอง แต่ผมพร้อมจะเป็นพ่อคนแล้วจริงๆ ผมอยากมีเด็กวิ่งเล่นอยู่ในบ้าน อ
“ผมชอบที่คุณพูดแบบนี้ ฟังแล้วมันได้อารมณ์” เสียงของชายหนุ่มต่ำพร่าลง นัยน์ตาวาววับแต่ไม่ได้เยือกเย็นเหมือนเมื่อก่อนก้มลงลิ้มเลียยอดถันข้างที่เหลือ บีบคลำเต้าทรวงผ่องในอุ้งมืออย่างคนตะกละตะกลามอัจจิมาครางไม่เป็นภาษาอยู่บนโต๊ะทานข้าวตัวหรู ท่อนขาเรียวงามโอบรัดสะโพกอีกฝ่าย ก่อนจะแอ่นเอวเข้าหาร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า เสียดสีกึ่งกลางลำตัวกับหน้าขากำยำท่อนเนื้อที่บดเบียดกับเนินนุ่มของหญิงสาวผ่านกางเกงเนื้อดีเริ่มแข็งขึงขึ้นมา ไม่รู้เป็นเพราะท่าทางยั่วยวนของเธอหรือเป็นเพราะอารมณ์ดิบในตัวของเขาเอง ที่ทำให้อารมณ์ใคร่ปรารถนาของเขาพลุ่งพล่านอย่างรวดเร็วเมื่อก่อนในโลกนี้สำหรับเขาสำคัญอยู่แค่สองเรื่อง นั่นคือเซ็กซ์กับมีดผ่าตัดแต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกต่อไป แม้ว่าการมีเซ็กซ์จะยังจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของเขา แต่หากเขาไม่มีเธออยู่ข้างกาย ชีวิตต่อจากนี้ของเขาก็ไม่ต่างจากสิ่งของไร้ค่าชายหนุ่มขยับออกมายืนข้างโต๊ะทานข้าวเรียบหรู ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกอย่างใจเย็นแล้วรวบเอวดึงร่างขาวผ่องของหญิงสาวคนรักให้ขยับมาที่ขอบโต๊ะ เลื่อนมือไปลูบไล้กลีบอิ่มนูน หยาดน้ำที่เอ่อล้นออกมาฉ่ำเยิ้มจนมองเห็นความเปียกชุ่ม
อัจจิมารู้สึกตัวเพราะแสงแดดที่สาดส่องเข้ามากระทบเปลือกตาในช่วงสาย ศีรษะและร่างกายของเธอหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงทับด้วยภูเขาหิน ลำคอแห้งผาก กว่าจะขยับตัวได้ก็ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งพอลืมตาสิ่งแรกที่เห็นคือปลายคางแข็งแรงมองเห็นเป็นปื้นสีเขียวจางของศัลยแพทย์หนุ่ม ซึ่งเธอกำลังนอนแนบชิดซบอยู่ที่อกอุ่น ท่อนแขนข้างหนึ่งของเขาโอบเอวเธอไว้หลวม ๆ มือใหญ่วางอยู่บนบั้นท้ายเปลือยเปล่าจากการร่วมรักกันเมื่อคืนนี้ทุกคนที่บริษัทเข้าใจว่าเมื่อวานนี้เธอได้หยุดพักผ่อนหนึ่งวันเต็ม ๆ แต่หารู้ไม่ว่าเป็นวันลาพักผ่อนที่สูบเอาเรี่ยวแรงของเธอไปจนแทบจะไม่หลงเหลือถ้าเธอรู้ว่าเขาจะเป็นคนกระหายในรักได้ทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ เธอคงจะไม่หลวมตัวคบคุณหมอ ‘เซ็กซ์จัด’ เป็นแฟนอย่างแน่นอนคิดมาถึงตรงนี้ริมฝีปากได้รูปก็ปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข เมื่อย้อนนึกถึงเรื่องราวที่รุ้งรวีเล่าให้ฟังไม่กี่วันมานี้‘พิธาพึงพอใจในตัวเธอมานานแล้ว’ นี่คือประโยคแรกที่รุ้งรวีบอกเล่า สิ่งที่เขาทำให้เธอก็คงเป็นอย่างที่ใครหลายคนอาจเรียกว่า ‘ปิดทองหลังพระ’ เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า ครั้งนี้หัวใจเธอเลือกรักคนไม่ผิดอัจจิมาไม่ได้
“ออกไประเบียงดีกว่า ตรงนี้ผมจับคุณฉีดยาไม่ถนัด” เหมือนเธอจะฟังไม่ชัดเจนระเบียงเนี่ยนะไม่ทันที่เธอจะทำความเข้าใจกับคำพูดนั้น พิธาก็ถอนแก่นกายออกมาด้วยความรวดเร็ว ช้อนเธอให้อยู่ในอ้อมอก ก้าวเท้ายาว ๆ ออกไปข้างนอก ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพล่อแหลมแต่ร่างกายของเธอก็ยังมีชุดนอนตัวบางปกปิด ส่วนเขาก็ยังสวมใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้น“ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ เราจะทำกันตรงนั้นจริงๆ เหรอ” เขาเคยบอกว่าความพิเศษของระเบียงที่เหมือนยกห้องนั่งเล่นกลางแจ้งขึ้นมาไว้บนชั้นสูงเฉียดฟ้าสร้างความตื่นเต้นให้เธอกับเขาได้ในยามที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ตอนนั้นเธอไม่คิดว่าเขาจะเอาจริงถึงมันจะมีความเป็นส่วนตัวด้วยมีกระจกที่สั่งทำขึ้นพิเศษเป็นกำแพงรอบด้าน แต่เธอก็อดรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้อยู่ดี ต่อให้ไม่มีคนมองมาเห็น ก็อาจมีมดมีแมลงสักตัวเห็นก็ได้“วันนี้ผมอยากเอาคุณที่ระเบียง” ใบหน้าของอัจจิมาร้อนผะผ่าว เขาก้าวขายาวๆ ออกไปยังพื้นที่ด้านนอกของเพนท์เฮาส์ในทันทีตอนนี้พายุหน้าฝนสงบลงแล้วแต่พื้นส่วนหนึ่งที่ไม่มีหลังคาปกคลุมยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนเขาค่อยๆ วางเธอลงบนพื้น ใกล้กับกระจกสูงเท่าสองตัวคนยืนต่อกันเห็นจะได้“กระจกนี้ผมสั่งทำพิเศ
“คุณหมายถึงเรื่องอะไร” เสียงทุ้มดังขึ้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนที่ลิ้นสากจะกวัดรัดรึงยอดทรวงชูชันของเธออีกครั้ง“อ๊ะ! กะ…ก็ที่คุณไม่ระ…รับข้อเสนอของพ่อคุณงะ…งายคะ ซี้ดด” ลิ้นที่ตวัดยอดปทุมถันของเธอไม่หยุดสร้างความซ่านเสียวจนอัจจิมาแทบจะพูดออกมาไม่เป็นคำเรื่องที่พิธาปฏิเสธการแต่งงานกับลูกสาวรัฐมนตรีเกรียงไกรต่อหน้าแขกเหรื่อมากมายกลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการแพทย์ตลอดหลายวันมานี้ทั้งสองตระกูลหมายมั่นจะเป็นทองแผ่นเดียวกันเพราะเหตุผลทางธุรกิจ แต่ทุกอย่างก็ต้องถูกยกเลิกเพราะการกระทำของพิธาบนเวทีในวันนั้น ผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวหมางใจกันจนเป็นเหตุให้คุณนิพนธ์เรียกให้พิธาไปพบในวันต่อมาวันนั้นเขาพาเธอไปด้วย เพราะอยากแนะนำเธอให้คุณนิพนธ์รู้จักอย่างเป็นทางการ เธอยังจดจำสายตาที่คุณนิพนธ์มองเธอได้ดีท่านมองเธอตั้งแต่ศีรษะลงไป แม้จะไม่ใช่สายตารังเกียจเดียดฉันท์แต่เธอก็แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้มองมาด้วยความเอ็นดูบรรยากาศภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาลขณะนั้นเต็มไปด้วยมวลอากาศแห่งความอึดอัดกระจายอยู่เต็มห้อง ตึงเครียดตั้งแต่บทสนทนาแรกเริ่มขึ้น“ฉันจำได้ว่าไม่ได้บอกให้แกพาคนอื่นมาด้วย” คุณนิพนธ์ปรายต
อัจจิมาลืมตาขึ้นมาในเพนท์เฮาส์หรูในวันที่ฝนโปรยปรายลงมาแต่เช้ามืด เมื่อคืนนี้เธอตั้งใจว่าจะกลับไปนอนที่บ้านแต่เป็นพิธาที่ไม่ยอมปล่อยให้เธอกลับ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้ออกคำสั่งกับเธอแล้วแต่ความเอาแต่ใจของเขาก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลง แต่กลับเพิ่มขึ้นทุกวัน“คุณภิม อยู่ไหนคะ” อัจจิมาไม่เห็นชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียงจึงเดินออกมาดูข้างนอก ไม่รู้ว่าคนเป็นหมอเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนถึงนอนตื่นแต่เช้าได้ ทั้งที่เมื่อคืนนี้กว่าจะกลับมาจากโรงพยาบาลก็ดึกดื่น แถมกลับมาถึงเขายังแสดงความรักต่อเธอจนทั้งเธอและเขาต่างก็เสียน้ำกันหลายรอบเห็นพิธานั่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เบื้องหน้ามีเอกสารวางอยู่ แต่สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก“ทำไมรีบตื่นจังเลยล่ะคะ น่าจะนอนต่ออีกหน่อย”“ผมนอนพอแล้ว คุณเถอะ ทำไมรีบตื่นน่าจะนอนต่ออีกหน่อย”“ฉันถามคุณนะคะไม่ใช่ให้คุณมาย้อนถาม” อัจจิมาแกล้งทำหน้างอน เห็นเธอเป็นแบบนี้เขาจึงดึงคนตัวเล็กลงมานั่งที่ตักก่อนจะหาเรื่องรังแกเธอแต่เช้า“โทษฐานที่ผมทำให้คุณโกรธแต่เช้า งั้นวันนี้ผมจะอยู่กับคุณทั้งวันเลยดีไหม”“วันนี้ฉันต้องไปทำงาน”“ไม่ต้องไป ผมลางานให้คุณเรียบร้อยแล้ว” ยิ้มกรุ้มกริ่ม“ลางาน ลาทำไมค
หรือว่าลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลที่ทุกคนพูดถึง ก็คือพิธา“ผมมีความยินดีที่จะแจ้งให้ทุกท่านทราบโดยพร้อมเพรียงกันว่า ลูกชายของผมกับหนูอรจีราลูกสาวของคุณเกรียงไกรกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในอีกสองเดือนข้างหน้านี้ครับ” ทุกคนต่างปรบมมือร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองครอบครัวที่กำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน คงมีเพียงแค่อัจจิมาที่ต่างไปจากทุกคนเรื่องที่เพิ่งได้ยินส่งผลให้สมองของอัจจิมาหยุดการทำงานชั่วขณะ เขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น!ตอนตกลงรับงานนี้เธอรู้เพียงว่าตัวเองต้องมาเป็นพิธีกรในงานประชุมสัมมนาที่จัดขึ้นโดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข รายละเอียดปลีกย่อยนอกเหนือจากนี้แอมมี่เพิ่งจะแจ้งเธอตอนที่มาถึงหน้างานแต่ข้อมูลที่แอมมี่บอกให้เธอรู้ตอนบรีพงานก็ไม่ได้ลงลึกว่าในงานมีใครมาบ้าง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าของโรงพยาบาลที่ทุกคนพูดถึงคือคุณนิพนธ์แม้แต่ตอนที่เธอได้ยินว่าจะมีงานวิวาห์ ระหว่างบุตรสาวของรัฐมนตรีกับลูกชายเจ้าของโรงพยาบาล เธอก็ไม่ได้เอะใจสักนิดว่าทายาทคนนั้นจะเป็นพิธา เพราะตอนที่เธอบอกเขาว่ารับเป็นพิธีกรในงาน ชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา และยังบอกอีกว่าเขาไม่ได้ถูกเชิญให้มางานนี้แปลว่าเขาจงใจป
ภายในห้องรับรองโรงแรมแห่งหนึ่ง อดีตนายแพทย์นิพนธ์ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล ‘วิวัฒเวช’ นั่งจิบกาแฟก่อนจะรับฟังรายงานจากเลขาคนสนิท"จากที่ท่านให้ผมไปสืบ ตอนนี้คุณพิธากำลังคบหาอยู่กับผู้หญิงคนนึงครับ ชื่อจี๊ด อายุยี่สิบเจ็ดปี เรียนจบคณะบัญชีมหาฯลัยXX เคยเป็นพนักงานในบริษัทของคุณปกรณ์แต่ถูกไล่ออกเมื่อสองเดือนที่แล้วเพราะคุณปานวาดเข้าใจว่าเธอเป็นเมียน้อยคุณปกรณ์ แต่ความจริงเมียน้อยคุณปกรณ์คือน้องสาวต่างแม่ ตอนนี้เธอทำงานอยู่ที่บริษัทโฆษณาของเพื่อนคุณพิธาครับ กลางคืนเธอทำงานที่ฟลาวเวอร์ไนต์คลับในตำแหน่งรับแขกวีไอพีครับ”“มีอะไรอีกก็ว่ามา” คุณนิพนธ์สังเกตเห็นว่าเลขาคนสนิทยังรายงานเรื่องที่รู้มาไม่หมด“ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวของคนไข้โรคหัวใจที่รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลของเราครับ ชื่อประสิทธิ์ยุห้าสิบหกปี คนไข้รายนี้คุณพิธาออกค่าใช้จ่ายให้ห้าสิบเปอร์เซนต์ของค่ารักษาในแต่ละครั้ง แต่คุณพิธาปกปิดเรื่องนี้กับผู้หญิงและครอบครัวของผู้หญิงครับ ส่วนนี่เป็นข้อมูลของคนไข้รายนั้นครับ” คุณนิพนธ์เปิดดูข้อมูลส่วนตัวของอัจจิมารวมทั้งรูปถ่ายประกอบการรายงานจากเลขาไปด้วย ก่อนจะหยิบประวัติการรักษาของ
“ผมไม่ได้ยุ่งเรื่องของสองคนนั้น คนที่ผมยุ่งด้วยคือคุณต่างหาก”สายตาของชายหนุ่มจริงจังขึ้นมาก่อนจะพูดต่ออีกว่า “ผมจะยอมให้คุณถูกคนอื่นรังแกได้ยังไง” จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยหวังให้เธอมองเห็นความจริงใจที่เขามีให้“คุณชอบฉันอะไรในตัวฉันเหรอคะ” คราวนี้เป็นอัจจิมาที่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่คมบ้าง สายตาของเธอจริงจังไม่ต่างกัน“การที่เราจะรักใครสักคนมันต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ” เขาถามในสิ่งที่เฝ้าถามตัวเองมาตลอด แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบ“ก็ต้องมีสิคะ”“เหรอ งั้นคุณล่ะ ชอบอะไรในตัวผม” อัจจิมาอึ้งไปอีกครั้งเพราะไม่คิดว่าจะถูกเขาย้อนถามเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบอะไรในตัวเขา เขาเข้ามาอยู่ในหัวใจของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาชัดเจนกับสถานะคู่นอนระหว่างเธอกับเขามาโดยตลอด แต่หัวใจเธอก็เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิด“ว่าไง” เขาจ้องเธอก่อนจะไล่ต้อนให้จนมุมว่า “คุณตอบไม่ได้ใช่ไหม”“ตอบได้สิ ข้อแรกเลย ฉันชอบที่คุณรวยมาก ชอบที่คุณเป็นหมอ แล้วก็ชอบหน้าหล่อๆ ของคุณ ชอบร่างกายแน่นๆ ของคุณด้วย” อัจจิมาแค่อยากเอาชนะ ไม่คิดว่าพิธาจะตอบกลับมาอย่างหน้าตาเฉยว่า“งั้นผมคงต้องภูมิใจสินะ เพรา