“ทำไมล่ะ?” เธอสงสัย เขาไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยนอกจากนี้ ในแง่ของวงการธุรกิจ ธุรกิจของตระกูลไป๋เพิ่งเริ่มขยายกิจการมาถึงเมืองเฉิน และพวกเขาก็ใช้เวลาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับอี้ จิ่นหลีเป็นเวลานาน ถ้าเขาทำให้อี้ จิ่นหลีขุ่นเคือง การพัฒนาธุรกิจของตระกูลไป๋ในเมืองเฉินก็จะกลายเป็นเรื่องยาก“คุณจะเชื่อผมไหมถ้าผมบอกว่าผมไม่สนใจว่าผมจะทำให้ใครขุ่นเคือง?” เขาถามขณะจ้องมองเธอเมื่อได้ยินเช่นนั้น ชิน เหลียนอีก็ตกอยู่ในภวังค์และรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอถูกเติมเต็ม‘เรื่องไหนที่เขาพูดจริง เรื่องไหนที่เขาพูดโกหกกันแน่?’‘แต่... ตอนนี้ฉันอยากจะเชื่อใจเขาสักครั้ง’…เมื่อฟังรายงานจากพ่อบ้าน เกา ฉงหมิงก็รู้ว่าชิน เหลียนอีกับไป๋ ทิงซิงที่อยู่ข้างนอกได้ออกไปแล้ว ท่าทางของเขาดูโล่งใจเล็กน้อยวันนี้มันช่างวุ่นวายอะไรแบบนี้! ทุกคนเข้าร่วมในระเบียบ!หนึ่งในความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของเกา ฉงหมิงในขณะนี้คือเจ้านายของเขา ที่ใช้เวลาสามชั่วโมงเต็มอยู่ในครัวหลังจากกลับมาเขาเอาแต่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเค้กที่ทำเสร็จแล้ว ทำให้ผู้คนต่างสงสัยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เกา ฉงหมิงไม่เข้าใจว่าทำไม
‘จากนี้ไปฉันจะไม่ต้องมานั่งกังวลว่าเธอจะไปเจอกู้ ลี่เฉินอีกไหม และฉันจะได้ไม่ต้องเดาว่าหัวใจของเธอมีกู้ ลี่เฉินอยู่มากแค่ไหน’‘ฉันจะไม่ลงเอยแบบพ่อ ฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองทำตัวโง่เขลาและอับอายเหมือนสุนัขหลงทางเพียงเพื่อรักใครสักคน’‘ฉันจะไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน!’อี้ จิ่นหลีเดินออกจากห้องครัวและขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองเพียงลำพังเกา ฉงหมิงมองดูด้านหลังเจ้านายของเขาด้วยความรู้สึกผสมปมเป‘ถ้ามีใครสักคนในโลกนี้ที่สามารถควบคุมชีวิตและความตายของนายน้อยอี้ได้จริง ๆ ...’ ชื่อของหลิง อี้หรานแวบเข้ามาในหัวของเขาทันที…หลิง อี้หรานตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นและเห็นกล่องของขวัญที่ห่ออย่างสวยงามข้างเตียงของเธอ มันเป็นของขวัญวันเกิดจากเหลียนอีและไป๋ ทิงซินเมื่อคืนเธอไม่ได้เปิดมันหลิง อี้หรานนั่งลงอย่างเชื่องช้า ค่อย ๆ เปิดกล่องของขวัญ และพบว่าข้างในเป็นตุ๊กตาตัวเล็กกำลังแต่งชุดทนายที่ดูน่ารักและดูคล้ายกับเธอ ภายในกล่องมีการ์ดที่เขียนด้วยลายมือจากเหลียนอี ‘อี้หราน ฉันหวังว่าเธอจะมีความสุขไปทุกวันและขอให้ความฝันของเธอกลายเป็นจริงนะ!’‘ปล. กดฝ่ามือด้านซ้ายของตุ๊กตาเพื่อดูเซอร์ไพรส์!’‘ความสุข? ค
อย่างน้อยตอนนี้เธอก็มีใบอนุญาติทนายความ ดังนั้นเธอจึงสามารถกลับไปทำงานที่เธอรักได้!“งั้นฉันจะไปกับเธอ วันนี้ฉันเลยเอารถมาด้วย เราจะได้เดินทางสะดวก” ชิน เหลียนอีกล่าวทั้งสองคนไปหาตัวแทนที่ปล่อยบ้านเช่า เนื่องจากหลิง อี้หรานไม่ได้กำหนดรายละเอียดอะไรมากมาน เธอจึงใช้เวลาไม่นานในการหาบ้านที่เหมาะสมพวกเขาไปดูบ้านในตอนเช้าและเซ็นสัญญาเช่ากับเจ้าของบ้านในตอนบ่ายค่าใช้จ่าย 1,700 ดอลลาร์ต่อเดือน การเดินทางก็ค่อนข้างสะดวก แถมยังมีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วยแต่ชิน เหลียนอีกลับพบว่าผู้คนในละแวกนี้มีค่อนข้างหลากหลายชนชั้น เธอจึงกังวลว่าเพื่อนของเธอจะต้องพบกับความอันตรายหลิง อี้หรานพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้นว่า “ฉันไม่ได้จะอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตสักหน่อย แค่พักที่นี่ชั่วคราวจนกว่าฉันจะมีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น จากนั้นฉันจะย้ายไปที่อื่นและฉันจะพยายามไม่ออกไปไหนในตอนกลางคืน ไม่เป็นอะไรหรอก”ชิน เหลียนอีคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘ในช่วงนี้ก็คงต้องเป็นแบบนี้ไปก่อน’ในตอนบ่าย ชิน เหลียนอีขับรถพทหลิง อี้หรานย้ายเข้ามาในบ้านเช่า พวกเขาซื้อเครื่องครัวที่จำเป็นและทำความสะอาดบ้านเช่า หลั
‘แต่ว่า...’ หลิง อี้หรานก้มศีรษะลงและมองไปที่ท้องแบนของเธอ‘ฉันอาจจะไม่มีลูกเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ เป็นเพราะร่างกายของฉันในอดีตที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้’‘ตอนนี้ร่างกายของฉันหายดีแล้ว แต่ฉันก็เหนื่อยทั้งกายและใจจนไม่กล้าที่จะเชื่อในสิ่งที่เรียกว่าความรักอีกต่อไป!’หลิง อี้หรานไปที่ร้านอาหารเล็กหลังจากเลยหนึ่งทุ่มไปแล้ว เธอพยายามหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนในช่วงตอนเย็น“มาแล้วเหรอ?!” เมื่อโจว เชียนหยุนเห็นหลิง อี้หราน เธอก็รีบเดินมาหาอี้หรานทันที เมื่อมองดูใบหน้าที่ผอมซูบของอี้หราน เธอก็ถามว่า “เธอกินข้าวหรือยัง? มากินอะไรที่ร้านของฉันไหม?”หลิง อี้หรานคิดเกี่ยวกับมันและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ขอบะหมี่หนึ่งถ้วยค่ะ ฉันไม่ได้กินมันมานานแล้ว”“ได้เลย รอสักครู่นะ” โจว เชียนหยุนพูดก่อนสั่งให้พนักงานในครัวทำบะหมี่ให้อี้หรานเพียงเวลาไม่นาน ชามก๋วยเตี๋ยวที่มีส่วนผสมมากมายก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าอี้หราน “กินสิ คิดเสียว่าเราฉลองวันเกิดเธอย้อนหลัง!”“ขอบคุณค่ะ” หลิง อี้หรานพูดขึ้นขณะที่เธอก้มศีรษะลงและเริ่มกินบะหมี่อย่างเงียบ ๆโจว เชียนหยุนไม่ได้รบกวนเธออีกต่อไปและหันกลับทักทายลูกค้าคนอื่น ๆ เธอทำควา
วินาทีถัดมา เค้กในมือของเธอก็ร่วงหล่นลงพื้นไม่ไกลจากประตูร้านอาหาร ร่างสูงก้าวออกจากรถยนต์หรูและเดินเข้ามาหาเธอท่ามกลางแสงจันทร์ทีละก้าวผมของเขายังคงถูกจับแต่งทรงอย่างพิถีพิถัน เขาสวมชุดสูทที่ได้รูป ใบหน้าเย็นชาและเคร่งขรึมของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัด ในขณะที่ดวงตาคมและเฉียบแหลมของเขาสามารถมองทะลุความคิดของผู้คนได้ถ้าผู้คนถูกจ้องมองด้วยดวงตาคู่นั้น ผู้คนก็จะคิดว่าพวกเขากำลังถูกสัตว์ร้ายจ้องมองสายตาคู่นั้นจับจ้องมาที่เธอ!โจว เชียนหยุนตัวแข็งทื่อและสิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือความหนาวเย็นที่ทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก!เย่ เหวินหมิง!ในที่สุดผู้ชายคนนี้ก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอสินะตั้งแต่วันที่เธอหนีเขาในห้างวันนั้น เธอก็มีลางสังหรณ์คลุมเครือว่าคราวนี้เธอจะไม่รอดจากเขา และในที่สุดเขาก็หาเธอเจอจนได้‘แต่ฉันไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเร็วขนาดนี้!’ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไปจนเธอรู้สึกหายใจไม่ออก“มันนานมากแล้วสินะ” น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นในตอนกลางคืนร่างกายของเธอสั่นเทา ‘นานเหรอ? อันที่จริง ฉันก็ไม่ได้เจอเขามานานมากแล้ว ยกเว้นเพียงเหลือบมองดูเสี้ยวหน้าของเขาที่ห้างสรรพสินค้าเมื่อวันก่อน
ตอนที่เธอต้องดิ้นรนกับความหิวโหย เขาอาจจะกำลังเสวยสุขอยู่กับผู้หญิงที่เขารัก“เมื่อไหร่คุณจะปล่อยเรื่องนี้ไปสักที? ฉันคิดว่าเราคุยเรื่องนี้ในศาลไปหมดแล้ว ฉันก็ติดคุกตามที่คุณต้องการแล้วไง คุณเย่ มีอะไรอยากจะสั่งสอนฉันอีกเหรอคะ??” โจว เชียนหยุนพูดเย่ เหวินหมิงหรี่ตาลง ผู้หญิงตรงหน้าเขาไม่อ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ดูเหมือนว่าว่ารอบตัวของเธอจะมีแต่ลวดหนามคอยกันไม่ให้ใครเข้าไปใกล้โดยเฉพาะคำว่า ‘ปล่อย’ ของเธอ มันกระแทกใส่เขาอย่างรุนแรง“โจว เชียนหยุน เธอคิดว่าแค่เธอติดคุกเพียงไม่กี่ปี เธอจะชดใช้หนี้ทั้งหมดของเธออย่างนั้นเหรอ?” เย่ เหวินหมิงพูดออกมาอย่างเย็นชา นิ้วยาวของเขาบีบแขนเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะดึงเธอเข้ามาใกล้เขามากขึ้น “เธอมันช่างไร้เดียงสาจริง ๆ ถ้าเธอคิดอย่างนั้น!”โจว เชียนหยุนหัวเราะขึ้นทันที ‘ไร้เดียงสา... เขาบอกว่าฉันไร้เดียงสา!’เขาได้ทำลายความไร้เดียงสาของเธอไปหมดแล้ว!“เย่ เหวินหมิง ฉันไม่เคยเป็นหนี้อะไรคุณเลย” เธอเชิดหน้าขึ้นและไม่หลบสายตาของเขาไม่ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ต้องอยู่ในช่วงเวลาเลวร้ายและอับอายแค่ไหน เธอก็ไม่เคยเป็นหนี้เขาทั้งนั้น!“เ
เย่ เหวินหมิงประหลาดใจเล็กน้อยที่เธอดูสงบนิ่ง “จะไม่หนีเหรอ?” เขาถามขณะถอดเนคไท“แล้วฉันหนีได้หรือเปล่าล่ะ?” เธอโต้กลับราวกับพูดคุยเรื่องขบขันเธอเคยหลบหนีได้ครั้งหนึ่งเมื่อเธอออกจากคุก และหนีออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นเขาในห้าง แต่ในที่สุด... เขาก็หาเธอเจออยู่ดีบางครั้ง โชคชะตาก็ดูเหมือนจะหมุนไปรอบ ๆ และปล่อยให้ทุกอย่างกลับเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสอีกครั้ง การทำให้ผู้คนรู้สึกหมดหนทางมันเป็นเรื่องตลกและน่าเศร้า“ไม่มีทางหนีพ้นหรอก” นี่คือคำตอบของเย่ เหวินหมิงที่มีให้เธอ “ถึงเธอจะหนีไปอีก ฉันก็จะเจอเธออีกครั้งอยู่ดี”“เพราะฉะนั้น ฉันก็ไม่จำเป็นต้องหนี” โจว เชียนหยุนยักไหล่ราวกับว่าเธอเลิกต่อต้านและพูดว่า “คุณเย่ คุณอยากให้ฉันชดใช้ชีวิตที่เป็นหนี้คุณยังไงบ้างล่ะ?”เย่ เหวินหมิงเม้มริมฝีปากบางของเขาเข้าด้วยกันและจ้องไปที่โจว เชียนหยุน “ฉันสงสัยว่าใครช่วยเธอซ่อนทุกอย่างเมื่อที่เธอออกจากคุก”หากไม่เป็นเช่นนั้น เขาก็คงจะใช้เวลาในการตามหาเธอไม่นาน“เพื่อน” โจว เชียนหยุนตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“เพื่อนแบบไหน?” เขาถาม“เพื่อนที่ฉันจะมอบชีวิตให้ได้!” โจว เชียนหยุนตอบแต่ดูเหมือนเย่ เหวินหมิงจะเ
โจว เชียนหยุนตกตะลึงในทันที‘เขากำลังทำอะไรอยู่? เขาจูบฉันเหรอ?’ทำไมเขาถึงจูบเธอ? เขาควรจะเกลียดเธอเข้าไส้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมจูบนี้ถึงดูร้อนแรงราวกับอยากจะกลืนกินเธอทั้งตัว!เธอไม่รู้ว่าใช้เวลานานแค่ไหนกว่าการจูบจะจบลง เมื่อเขาผละจูบออก เขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แม้แต่เย่ เหวินหมิงเองก็ไม่คิดว่าเขาจะรู้สึก... พอใจจากการจูบนี้!‘ฉันไม่ได้รู้สึกพึงพอใจแบบนี้มานานแล้ว!’‘ทำไม... ทำไมผู้หญิงคนนี้?’เขาจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ขณะที่เรียวนิ้วของเขาลูบไล้ริมฝีปากของเธอที่เผยให้เห็นสีแดงเล็กน้อยและอาการบวมจากการจูบของเขาเป็นเวลาเกือบสี่ปีที่พรากความไร้เดียงสาของเธอไปและทำให้เธออ่อนโยนมากขึ้น มันง่ายที่จะเกลี้ยกล่อมผู้ชายคนหนึ่งเมื่อเธอจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่งดงามของเธอ‘เธอใช้สายตาแบบนี้เกลี้ยกล่อมชายอื่นด้วยหรือเปล่า?’เมื่อเขาย้อนนึกถึงตอนที่เธอบอกว่าเธอมอบชีวิตให้กับชายอื่น เขาก็อารมณ์เสียในทันที ‘ผู้ชายคนนั้นจูบเธอแบบเดียวกันกับเขาหรือเปล่า?’“เย่ เหวินหมิง คุณกำลังทำอะไร?” เสียงของโจว เชียนหยุนดึงสติของเขาให้กลับมาอีกครั้งใบหน้าของเธอไม่เหนียมอายเหมือนตอนท