‘ต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ! เธอจะต้องไม่เป็นอะไร!’‘ไม่ว่ายังไงฉันก็จะหาเธอให้เจอ!’“แล้วการเฝ้าระวังในบริเวณใกล้เคียงล่ะ? พบอะไรบ้างไหม?” อี้ จิ่นหลีถาม“เรากำลังตรวจสอบอยู่ คิดว่าเราอาจจะพบอะไรเร็ว ๆ นี้ครับ” เกา ฉงหมิงรีบรายงานเจ้านายโชคดีที่มีการเฝ้าระวังบนถนนหลายสายแถวนี้ ถ้าเกิดคุณหลิงออกนอกพื้นที่นี้ไป กล้องวงจรปิดอาจจะถ่ายภาพเธอไว้ได้แต่การเฝ้าระวังรายงานว่ามีรถเข้าและออกเพียง 13 คัน และมีเพียงไม่กี่คนที่เดินผ่านบนถนนไปในช่วงเวลานี้บริเวณนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่ห่างไกลของเมือง จึงไม่มีการเดินทางเข้าหรือออกจากที่นี่มากนักพวกเขาได้ตรวจสอบเจ้าของรถเหล่านี้แล้ว พวกเขาทั้งหมดเป็นชาวเมืองผู้บริสุทธิ์ พวกเขาไม่มีประวัติอาชญากรรมและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหลิงสำหรับผู้ที่ผ่านไปมาก็ให้การว่าไม่เคยเห็นคุณหลิงมาก่อนกล่าวคือ คุณหลิงน่าจะยังอยู่บนเนินเขานี้ มันเป็นเพียงเนินเขาที่เชื่อมต่อกันทั้งหมดและมันค่อนข้างยุ่งยากที่จะตามหาเธอให้เจอเกา ฉงหมิงมองไปที่เจ้านายของเขาและรอคำสั่งครู่ต่อมา เกา ฉงหมิงเห็นริมฝีปากบางของเขาเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ปิดเนินเขาพวกนี้แล
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวเท้ามาที่นี่ขณะที่เขาเดินตามทีมค้นหาทีละก้าวผ่านป่าทึบ เขาก็นึกถึงภาพวาดของกู้ ลี่เฉินที่เขาเคยเห็นในสตูดิโอที่บ้านของตระกูลกู้มาก่อนภาพวาดของเด็กหญิงตัวเล็กที่กำลังอุ้มเด็กชายไว้บนหลังของเธอขณะที่เธอเดินผ่านป่าทึบทีละก้าวหลังของเด็กหญิงก้มต่ำลงเพราะรองรับน้ำหนักของเด็กชายอยู่ แต่เด็กหญิงยังคงแบกเขาต่อไปทุกก้าวของเธอดูยากลำบากเขาไม่ได้รู้สึกอะไรเมื่อเห็นภาพนี้ครั้งแรก แต่ตอนนี้ เขาคิดว่าถ้าเขาเป็นเหมือนกับอี้หรานและกู้ ลี่เฉินในตอนนั้น เขาก็คงตื่นตระหนก‘ฉันจะตื่นตระหนกเรื่องอะไร? เพราะความลับที่ฉันพยายามปิดบังไว้ แต่ความลับนั้นกลับไม่สามารถทำลายสายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับกู้ ลี่เฉินได้ใช่ไหม?’‘หรือว่าฉันตื่นตระหนกกับความคิดที่ว่ากู้ ลี่เฉินมักจะอยู่ในใจของเธอเสมอ? แม้ว่าเธอจะลืมเขาไป แต่ถ้าเธอจำเขาได้ในสักวันหนึ่ง...’‘หรือบางทีฉันอาจจะตื่นตระหนกว่าความรักที่เธอมีต่อฉันนั้นไม่ลึกซึ้งหรือมากขนาดนั้น ฉันกลัวว่าวันหนึ่งเธอจะทรยศฉัน’“นายน้อยอี้ คุณดูไม่ค่อยดีนัก ทำไมคุณไม่พักผ่อนอยู่ที่เนินล่ะครับ?” เกา ฉงหมิงที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น ใบหน้าของนายน้อยอี้
‘เขาคงมาที่นี่เพื่อตามหาฉัน ฉันใช้เวลาอยู่บนเนินเขานานพอสมควร เขาคงกังวลมาก’หลิง อี้หรานอยากจะวิ่งไปหาอี้ จิ่นหลี แต่กู้ ลี่เฉินยังคงแบกเธอเอาไว้ ดังนั้นเธอจึงพูดกับเขาทันทีว่า “ปล่อย… ปล่อยฉันลงก่อน”“จะไปหาอี้ จินหลี่ใช่ไหม?” เสียงเย็นชาของกู้ ลี่เฉินดังขึ้น“ใช่” เธอให้คำตอบที่ชัดเจน“หลิง อี้หราน พอผมปล่อยคุณลง จากนี้ไปผมจะไม่แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณอีก คุณจะเป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับผมและคุณต้องหยุดเรียกชื่อ ‘เฉินเฉิน’ สักที คุณจะเรียกชื่อนั้นไม่ได้อีก”สิ่งที่กู้ ลี่เฉินพูดเป็นการเตือนเธอ แต่มันกลับเหมือนการพูดบอกลาจู่ ๆ หลิง อี้หรานก็พบว่าจมูกของเธอแสบเล็กน้อย เธออยากจะร้องไห้ออกมา ราวกับว่ามีบางอย่างกดทับที่หัวใจของเธอ ‘เพราะว่า... ฉันโกหกเขาเหรอ? เราเคยเป็นเพื่อนที่ครั้งหนึ่งเคยผ่านเรื่องหนักหนามาด้วยกัน แต่สุดท้ายกลายเป็นคนแปลกหน้ากันอย่างนั้นเหรอ?’“เข้าใจแล้วค่ะ คุณกู้” หลิง อี้หรานพึมพำเสียงพูดของพวกเขาแผ่วเบามากจนมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ได้ยินซึ่งกันและกันจากนั้น กู้ ลี่เฉินก็คุกเข่าลงเพื่อปล่อยให้หลิง อี้หรานลงมา เกา ฉงหมิงที่ยืนอยู่ข้างอี้ จิ่นหลีแอบปร
‘โชคดีที่ไม่ใช่เธอ... ไม่ใช่เธอ...’กู้ ลี่เฉินเม้มริมฝีปากบางของเขาแน่น หัวใจของเขารู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง ‘จากนี้ไปฉันจะลบผู้หญิงคนนี้ออกจากใจ! จะไม่ให้เหลือร่องรอยอะไรไว้อีกเลย!’หลิง อี้หรานเดินไปหาอี้ จิ่นหลี แล้วพบว่าเขาเงียบผิดปกติ ดวงตาสีพีชที่สวยงามของเขากลับดูมืดมนราวกับทะเลลึก มันทำให้บรรยากาศดูอ้างว้าง‘เขา... โกรธเหรอ? เป็นเพราะเขาเห็นฉันอยู่กับกู้ ลี่เฉินใช่ไหม? หรือเป็นเพราะฉันใช้เวลาอยู่บนเนินเขามากเกินไปและทำให้เขากังวล?’แต่มีคนจำนวนมากอยู่ที่นี่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถอธิบายอะไรได้ในตอนนี้ เธอจะอธิบายให้เขาฟังเมื่ออยู่กันตามลำพังเท่านั้น“ฉันขอโทษที่ฉันทำให้คุณเป็นห่วง! ฉันจะโทรหาคุณ แต่... ฉันทำโทรศัพท์พังโดยไม่ได้ตั้งใจและติดต่อหาคุณไม่ได้” เธอพูดไม่ใช่แค่โทรศัพท์ของเธอเท่านั้นที่พัง แต่โทรศัพท์ของกู้ ลี่เฉินก็พังด้วย หน้าจอโทรศัพท์ของเขาแตกเมื่อเขาพยายามช่วยชีวิตเธอทั้งคู่ไม่สามารถโทรออกได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้“อย่างนั้นเหรอ?” เขาก้มศีรษะลง ยกมือขึ้นและปัดปอยผมที่พันกันบริเวณแก้มของเธอให้ไปทัดหลังใบหูของเธอเบา ๆ “ค่ำแล้ว กลับกันเถ
“ขอโทษ?” เขาหัวเราะเยอะด้วยความโกรธ สิ่งที่เธอทำกับเขานั้นมากเกินกว่าที่ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงเธอรู้หรือไม่ว่าเขาตื่นตระหนกแค่ไหนหลังจากที่กู้ ลี่เฉินปรากฏตัวต่อหน้าเขาพร้อมกับเธอบนหลังของเขา? เขาแทบจะทรงตัวยื่นต่อไปไม่ไหวเธอรู้หรือไม่ว่าเขารู้สึกอย่างไรเมื่อเธอกระซิบกับกู้ ลี่เฉิน?ตอนที่กู้ ลี่เฉินวางเธอลง เธอขอบคุณกู้ ลี่เฉินและยิ้มให้เขา ทำให้สิ่งที่พ่อเคยพูดกับเขาดังก้องอยู่ในหัวของเขา “จิน ถ้าวันหนึ่งความสุขและความทุกข์ของลูกอยู่ในกำมือของคนอื่น ชีวิตลูกจะลำบาก… มาก…”‘ลำบาก?’‘มันเป็นความรู้สึกที่ยากมาก’ เขาไม่รู้สึกอะไรนอกจากความขมขื่นในปากของเขา ‘ฉันอยากจะกักขังเธอไว้ที่ไหนสักแห่ง ที่ที่ฉันสามารถไปหาเธอได้และไม่เห็นใครนอกจากฉัน’‘ฉันอยากให้เธอยิ้มให้ฉันแค่คนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ให้ชายอื่น!’‘มันเป็นความอิจฉา!’ เขาอิจฉากู้ ลี่เฉินตอนที่เขาเห็นเธอและกู้ ลี่เฉินปรากฏตัวต่อหน้าเขาแบบนั้น เขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกันและมีพื้นที่เป็นของพวกเขาเอง‘ไม่มีใครเข้าไปแทรกพวกเขาได้!’‘และ... ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น!’…อีกด้านหนึ่ง กู้ ลี่เฉินกำลังเดินลงเขา เมื่อเขาเ
“ลี่ฟาง คุณไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น คุณช่วยชีวิตของผมเอาไว้” กู้ ลี่เฉินบอกหวา ลี่ฟาง‘ฮะ?’หวา ลี่ฟางจ้องไปที่เขาอย่างว่างเปล่า สงสัยว่าทำไมเขาถึงพูดถึงเรื่องนี้“ดังนั้น ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณ คุณอยากมีชีวิตที่หรูหรา โดดเด่นต่อหน้าคนอื่นและคุณยังบอกว่าคุณต้องการเข้าสู่แวดวงนักแสดงและเป็นคนดัง ผมจะทำให้คุณ!”ดวงตาของหวา ลี่ฟางเป็นประกายในทันทีและท่าทางของเธอก็ดูตื่นเต้นเมื่อกู้ ลี่เฉินเห็นท่าทางของคนที่อยู่ข้างหน้าเขา เขารู้สึกผิดหวังอย่างกะทันหันที่อย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้‘นี่คือผู้หญิงที่ฉันคิดถึงมาตลอดชีวิตจริง ๆ เหรอ?’“ลี่เฉิน คุณดีกับฉันมาก!” ใบหน้าของหวา ลี่ฟางเปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้น… เพราะเธอตื่นเต้นเมื่อเธอจินตนาการถึงอนาคตของเธอทีละเล็กทีละน้อย เธอจะเข้าร่วมแวดวงสังคมชั้นสูง! เธอจะทำให้ให้คนที่ดูถูกเธอ ต้องคุกเข่าลงแนบเท้าของเธอ!แต่ประโยคต่อไปของกู้ ลี่เฉินได้ทำลายความคิดเพ้อฝันของเธอทั้งหมด ใบหน้าของเธอเปลี่ยนจากสีแดงเป็นซีดเผือกเขาพูดว่า... “ตามนั้น คุณเป็นเพียงผู้ช่วยชีวิตของผม จะไม่เป็นอย่างอื่นอีก!”หวา ลี่ฟางรู้สึกถึงความเยือก
ถ้าก่อนหน้านี้เขาดูเย็นชา ตอนนี้ดวงตาของเขากลับดูสดใสและน่ารัก แม้แต่การเลียรอยช้ำของเขาก็ยังดูเย้ายวน“แล้วตอนนี้ยังเจ็บอยู่ไหม?” เขาถามเสียงต่ำ การเคลื่อนไหวของเขาดูเย้ายวนและอ่อนโยน“มัน... ไม่เจ็บมากขนาดนั้นแล้ว” หลิง อี้หรานเริ่มพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย‘ฉันจะรู้สึกเจ็บปวดได้ยังไง? ดูเหมือนว่าเขามักจะดูออกว่าฉันรู้สึกยังไง!’เขาบรรจงจูบไปทั่วรอยแดงบนข้อมือของเธอ เธอพยายามดึงมือของเธอออกอย่างเขินอาย เพราะในรถยังมีคนอื่นอีกแต่เขาจับมือเธอแน่นอย่างดื้อดึงและไม่ยอมให้เธอเอามือออก“อย่าขยับ!” เขาพูด“แต่ว่า...” เธอดูเขินอาย“อย่าขยับ อยู่แบบนี้ต่ออีกนิด ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป” เขาก็อ้อนวอนเธอ ขณะที่มือที่กุมข้อมือของเธอก็สั่นเล็กน้อยหลิง อี้หรานตกตะลึง รู้สึกราวกับว่าเขาแตกต่างไปจากปกติเล็กน้อยตั้งแต่พบเธอบนเนินเขาแต่ที่นี่มีคนอื่นอยู่และมีบางสิ่งที่เธอไม่สามารถถามเขาได้โดยตรงคนขับรถและเกา ฉงหมิงที่นั่งอยู่ด้านหน้าตกตะลึงกับสิ่งที่อี้ จิ่นหลีเพิ่งพูด‘นั่นคือ... นายน้อยอี้จริงเหรอ? ชายผู้สูงส่งคนนั้นเคยวิงวอนขอร้องผู้หญิงด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร
คำถามมากมายออกมาจากปากของเขาด้วยความกระหายที่เขาไม่เคยมีมาก่อน!หลิง อี้หรานจ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่อี้ จิ่นหลีคร่อมอยู่บนตัวเธอ ราวกับว่าเขาพยายามเก็บกดมาตลอดการเดินทางและตอนนี้มันได้ระเบิดออกมา“จิน ปล่อยฉันก่อน ฉันอธิบายได้” หลิง อี้หรานพูดแทนที่จะปล่อยมือเธอ เขากลับก้มศีรษะลงและจูบใบหน้าของเธอ “ได้สิ อธิบายมา ฉันจะฟัง”เขาไม่อยากปล่อยเธอไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลิง อี้หรานรู้สึกราวกับว่าอุณหภูมิร่างกายของเธอสูงขึ้นและความคิดของเธอก็ได้รับผลกระทบจากการจูบของเขา“ฉัน... ฉันแค่ไปทำความเคารพที่หลุมศพของคุณยายในวันนี้ พอฉันเดินลงจากเขา ฉันก็เดินไปที่เนินเขาลูกใกล้ ๆ ที่ฉันเคยไปเล่นที่นั่นตอนเด็ก ๆ แค่ไปดูเฉย ๆ ฉันไม่คิดว่าฉันจะเจอกู้ ลี่เฉินที่นั่น” หลิง อี้หรานพยายามเล่าเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดแต่เธอได้ปกปิดความจริงที่ว่าเธอได้ฟื้นความทรงจำของเธอแล้ว‘ในเมื่อฉันต้องการเก็บมันไว้เป็นความลับ ฉันจะฝังมันไว้ในก้นบึ้งของหัวใจตลอดไป!’“เธอบอกว่าเธอตกจากหน้าผาเหรอ?” ดวงตาของอี้ จิ่นหลีเบิกกว้างทันที“ใช่ โชคดี… ที่กู้ ลี่เฉินอยู่