‘เขาคงมาที่นี่เพื่อตามหาฉัน ฉันใช้เวลาอยู่บนเนินเขานานพอสมควร เขาคงกังวลมาก’หลิง อี้หรานอยากจะวิ่งไปหาอี้ จิ่นหลี แต่กู้ ลี่เฉินยังคงแบกเธอเอาไว้ ดังนั้นเธอจึงพูดกับเขาทันทีว่า “ปล่อย… ปล่อยฉันลงก่อน”“จะไปหาอี้ จินหลี่ใช่ไหม?” เสียงเย็นชาของกู้ ลี่เฉินดังขึ้น“ใช่” เธอให้คำตอบที่ชัดเจน“หลิง อี้หราน พอผมปล่อยคุณลง จากนี้ไปผมจะไม่แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณอีก คุณจะเป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับผมและคุณต้องหยุดเรียกชื่อ ‘เฉินเฉิน’ สักที คุณจะเรียกชื่อนั้นไม่ได้อีก”สิ่งที่กู้ ลี่เฉินพูดเป็นการเตือนเธอ แต่มันกลับเหมือนการพูดบอกลาจู่ ๆ หลิง อี้หรานก็พบว่าจมูกของเธอแสบเล็กน้อย เธออยากจะร้องไห้ออกมา ราวกับว่ามีบางอย่างกดทับที่หัวใจของเธอ ‘เพราะว่า... ฉันโกหกเขาเหรอ? เราเคยเป็นเพื่อนที่ครั้งหนึ่งเคยผ่านเรื่องหนักหนามาด้วยกัน แต่สุดท้ายกลายเป็นคนแปลกหน้ากันอย่างนั้นเหรอ?’“เข้าใจแล้วค่ะ คุณกู้” หลิง อี้หรานพึมพำเสียงพูดของพวกเขาแผ่วเบามากจนมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ได้ยินซึ่งกันและกันจากนั้น กู้ ลี่เฉินก็คุกเข่าลงเพื่อปล่อยให้หลิง อี้หรานลงมา เกา ฉงหมิงที่ยืนอยู่ข้างอี้ จิ่นหลีแอบปร
‘โชคดีที่ไม่ใช่เธอ... ไม่ใช่เธอ...’กู้ ลี่เฉินเม้มริมฝีปากบางของเขาแน่น หัวใจของเขารู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง ‘จากนี้ไปฉันจะลบผู้หญิงคนนี้ออกจากใจ! จะไม่ให้เหลือร่องรอยอะไรไว้อีกเลย!’หลิง อี้หรานเดินไปหาอี้ จิ่นหลี แล้วพบว่าเขาเงียบผิดปกติ ดวงตาสีพีชที่สวยงามของเขากลับดูมืดมนราวกับทะเลลึก มันทำให้บรรยากาศดูอ้างว้าง‘เขา... โกรธเหรอ? เป็นเพราะเขาเห็นฉันอยู่กับกู้ ลี่เฉินใช่ไหม? หรือเป็นเพราะฉันใช้เวลาอยู่บนเนินเขามากเกินไปและทำให้เขากังวล?’แต่มีคนจำนวนมากอยู่ที่นี่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถอธิบายอะไรได้ในตอนนี้ เธอจะอธิบายให้เขาฟังเมื่ออยู่กันตามลำพังเท่านั้น“ฉันขอโทษที่ฉันทำให้คุณเป็นห่วง! ฉันจะโทรหาคุณ แต่... ฉันทำโทรศัพท์พังโดยไม่ได้ตั้งใจและติดต่อหาคุณไม่ได้” เธอพูดไม่ใช่แค่โทรศัพท์ของเธอเท่านั้นที่พัง แต่โทรศัพท์ของกู้ ลี่เฉินก็พังด้วย หน้าจอโทรศัพท์ของเขาแตกเมื่อเขาพยายามช่วยชีวิตเธอทั้งคู่ไม่สามารถโทรออกได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้“อย่างนั้นเหรอ?” เขาก้มศีรษะลง ยกมือขึ้นและปัดปอยผมที่พันกันบริเวณแก้มของเธอให้ไปทัดหลังใบหูของเธอเบา ๆ “ค่ำแล้ว กลับกันเถ
“ขอโทษ?” เขาหัวเราะเยอะด้วยความโกรธ สิ่งที่เธอทำกับเขานั้นมากเกินกว่าที่ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงเธอรู้หรือไม่ว่าเขาตื่นตระหนกแค่ไหนหลังจากที่กู้ ลี่เฉินปรากฏตัวต่อหน้าเขาพร้อมกับเธอบนหลังของเขา? เขาแทบจะทรงตัวยื่นต่อไปไม่ไหวเธอรู้หรือไม่ว่าเขารู้สึกอย่างไรเมื่อเธอกระซิบกับกู้ ลี่เฉิน?ตอนที่กู้ ลี่เฉินวางเธอลง เธอขอบคุณกู้ ลี่เฉินและยิ้มให้เขา ทำให้สิ่งที่พ่อเคยพูดกับเขาดังก้องอยู่ในหัวของเขา “จิน ถ้าวันหนึ่งความสุขและความทุกข์ของลูกอยู่ในกำมือของคนอื่น ชีวิตลูกจะลำบาก… มาก…”‘ลำบาก?’‘มันเป็นความรู้สึกที่ยากมาก’ เขาไม่รู้สึกอะไรนอกจากความขมขื่นในปากของเขา ‘ฉันอยากจะกักขังเธอไว้ที่ไหนสักแห่ง ที่ที่ฉันสามารถไปหาเธอได้และไม่เห็นใครนอกจากฉัน’‘ฉันอยากให้เธอยิ้มให้ฉันแค่คนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ให้ชายอื่น!’‘มันเป็นความอิจฉา!’ เขาอิจฉากู้ ลี่เฉินตอนที่เขาเห็นเธอและกู้ ลี่เฉินปรากฏตัวต่อหน้าเขาแบบนั้น เขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกันและมีพื้นที่เป็นของพวกเขาเอง‘ไม่มีใครเข้าไปแทรกพวกเขาได้!’‘และ... ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น!’…อีกด้านหนึ่ง กู้ ลี่เฉินกำลังเดินลงเขา เมื่อเขาเ
“ลี่ฟาง คุณไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น คุณช่วยชีวิตของผมเอาไว้” กู้ ลี่เฉินบอกหวา ลี่ฟาง‘ฮะ?’หวา ลี่ฟางจ้องไปที่เขาอย่างว่างเปล่า สงสัยว่าทำไมเขาถึงพูดถึงเรื่องนี้“ดังนั้น ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณ คุณอยากมีชีวิตที่หรูหรา โดดเด่นต่อหน้าคนอื่นและคุณยังบอกว่าคุณต้องการเข้าสู่แวดวงนักแสดงและเป็นคนดัง ผมจะทำให้คุณ!”ดวงตาของหวา ลี่ฟางเป็นประกายในทันทีและท่าทางของเธอก็ดูตื่นเต้นเมื่อกู้ ลี่เฉินเห็นท่าทางของคนที่อยู่ข้างหน้าเขา เขารู้สึกผิดหวังอย่างกะทันหันที่อย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้‘นี่คือผู้หญิงที่ฉันคิดถึงมาตลอดชีวิตจริง ๆ เหรอ?’“ลี่เฉิน คุณดีกับฉันมาก!” ใบหน้าของหวา ลี่ฟางเปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้น… เพราะเธอตื่นเต้นเมื่อเธอจินตนาการถึงอนาคตของเธอทีละเล็กทีละน้อย เธอจะเข้าร่วมแวดวงสังคมชั้นสูง! เธอจะทำให้ให้คนที่ดูถูกเธอ ต้องคุกเข่าลงแนบเท้าของเธอ!แต่ประโยคต่อไปของกู้ ลี่เฉินได้ทำลายความคิดเพ้อฝันของเธอทั้งหมด ใบหน้าของเธอเปลี่ยนจากสีแดงเป็นซีดเผือกเขาพูดว่า... “ตามนั้น คุณเป็นเพียงผู้ช่วยชีวิตของผม จะไม่เป็นอย่างอื่นอีก!”หวา ลี่ฟางรู้สึกถึงความเยือก
ถ้าก่อนหน้านี้เขาดูเย็นชา ตอนนี้ดวงตาของเขากลับดูสดใสและน่ารัก แม้แต่การเลียรอยช้ำของเขาก็ยังดูเย้ายวน“แล้วตอนนี้ยังเจ็บอยู่ไหม?” เขาถามเสียงต่ำ การเคลื่อนไหวของเขาดูเย้ายวนและอ่อนโยน“มัน... ไม่เจ็บมากขนาดนั้นแล้ว” หลิง อี้หรานเริ่มพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย‘ฉันจะรู้สึกเจ็บปวดได้ยังไง? ดูเหมือนว่าเขามักจะดูออกว่าฉันรู้สึกยังไง!’เขาบรรจงจูบไปทั่วรอยแดงบนข้อมือของเธอ เธอพยายามดึงมือของเธอออกอย่างเขินอาย เพราะในรถยังมีคนอื่นอีกแต่เขาจับมือเธอแน่นอย่างดื้อดึงและไม่ยอมให้เธอเอามือออก“อย่าขยับ!” เขาพูด“แต่ว่า...” เธอดูเขินอาย“อย่าขยับ อยู่แบบนี้ต่ออีกนิด ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป” เขาก็อ้อนวอนเธอ ขณะที่มือที่กุมข้อมือของเธอก็สั่นเล็กน้อยหลิง อี้หรานตกตะลึง รู้สึกราวกับว่าเขาแตกต่างไปจากปกติเล็กน้อยตั้งแต่พบเธอบนเนินเขาแต่ที่นี่มีคนอื่นอยู่และมีบางสิ่งที่เธอไม่สามารถถามเขาได้โดยตรงคนขับรถและเกา ฉงหมิงที่นั่งอยู่ด้านหน้าตกตะลึงกับสิ่งที่อี้ จิ่นหลีเพิ่งพูด‘นั่นคือ... นายน้อยอี้จริงเหรอ? ชายผู้สูงส่งคนนั้นเคยวิงวอนขอร้องผู้หญิงด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร
คำถามมากมายออกมาจากปากของเขาด้วยความกระหายที่เขาไม่เคยมีมาก่อน!หลิง อี้หรานจ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่อี้ จิ่นหลีคร่อมอยู่บนตัวเธอ ราวกับว่าเขาพยายามเก็บกดมาตลอดการเดินทางและตอนนี้มันได้ระเบิดออกมา“จิน ปล่อยฉันก่อน ฉันอธิบายได้” หลิง อี้หรานพูดแทนที่จะปล่อยมือเธอ เขากลับก้มศีรษะลงและจูบใบหน้าของเธอ “ได้สิ อธิบายมา ฉันจะฟัง”เขาไม่อยากปล่อยเธอไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลิง อี้หรานรู้สึกราวกับว่าอุณหภูมิร่างกายของเธอสูงขึ้นและความคิดของเธอก็ได้รับผลกระทบจากการจูบของเขา“ฉัน... ฉันแค่ไปทำความเคารพที่หลุมศพของคุณยายในวันนี้ พอฉันเดินลงจากเขา ฉันก็เดินไปที่เนินเขาลูกใกล้ ๆ ที่ฉันเคยไปเล่นที่นั่นตอนเด็ก ๆ แค่ไปดูเฉย ๆ ฉันไม่คิดว่าฉันจะเจอกู้ ลี่เฉินที่นั่น” หลิง อี้หรานพยายามเล่าเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดแต่เธอได้ปกปิดความจริงที่ว่าเธอได้ฟื้นความทรงจำของเธอแล้ว‘ในเมื่อฉันต้องการเก็บมันไว้เป็นความลับ ฉันจะฝังมันไว้ในก้นบึ้งของหัวใจตลอดไป!’“เธอบอกว่าเธอตกจากหน้าผาเหรอ?” ดวงตาของอี้ จิ่นหลีเบิกกว้างทันที“ใช่ โชคดี… ที่กู้ ลี่เฉินอยู่
“แต่ฉันเจ็บ” เขาพูดเธอรู้สึกอบอุ่นในหัวใจทันที เธอแสบจมูกและน้ำตาก็เริ่มเอ่อล้นมีใครบางคนในโลกนี้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดเพราะอาการบาดเจ็บของเธอเขารู้สึกถึงความเจ็บปวดของเธอการตกหลุมรักเขาอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่เธอเคยมีมากเขาพันผ้าเช็ดตัวไว้รอบตัวเธอ อุ้มเธอขึ้นจากอ่างอาบน้ำและช่วยเธอเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้า จากนั้นเขาก็พาเธอออกจากห้องน้ำและรักษารอยฟกช้ำของเธอ“ถ้าเจ็บก็ร้องออกมาได้เลยนะ” เขาพูด“อื้ม” เธอตอบเขาบรรจงทายาบนรอยฟกช้ำของเธออย่างอ่อนโยน ราวกับว่าเขากำลังจัดการกับสมบัติที่ล้ำค่า สมบัติที่มีความสำคัญมากกว่าชีวิตของเขาเองเมื่อเขารักษารอยฟกช้ำรอบข้อมือของเธอเสร็จแล้ว เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอและจ้องมองไปที่รอยฟกช้ำที่ยังไม่จางลงที่ข้อมือของเธอแทน“บอกฉันที กู้ ลี่เฉินพูดอะไรตอนที่เขาวางเธอลงและจับมือเธอ” น้ำเสียงกระซิบออกมาจากปากของเขาและดวงตาที่ลึกซึ้งของเขาค่อย ๆ มองเข้าไปในดวงตารูปอัลมอนด์ของเธอหลิง อี้หรานตัวแข็งทื่อ รู้สึกราวกับว่าดวงตาของเขากำลังพยายามมองผ่านเข้ามาในจิตใจของเธอ‘จินรู้สึกเปราะบางกับความสัมพันธ์นี้มาโดยตลอด แม้ว่าฉันจะอธิบายให้เขาฟังแล้วก็ตาม แต
หลิง อี้หรานเหนื่อยมากหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน หลังจากทานอาหารเสร็จ เธอก็ผล็อยหลับไปอี้ จิ่นหลีที่นั่งอยู่บนขอบเตียง จ้องมองใบหน้าที่หลับใหลของเธออย่างเศร้าสร้อยเธอนอนนิ่งราวกับว่าเธอจะไม่ไปไหนและทำได้เพียงอยู่ในสายตาของเขาเท่านั้นเธออยู่ตรงหน้าเขาแท้ ๆ แต่ทำไมเขากลับรู้สึกว่าเขาไม่สามารถจับต้องเธอได้?‘วันนี้เธอบอกว่าเธอจะไม่เสียใจ แต่ทำไม... ฉันถึงคิดว่าเธอเสียใจล่ะ? ฉันไม่คิดว่าเธอจะรู้สึกอย่างที่พูดจริง ๆ !’ฉากที่กู้ ลี่เฉินแบกเธอไว้บนหลังของเขาเป็นเหมือนฉากในภาพยนตร์ที่กรอย้อนหลัง เล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหัวของเขาเขาไม่เคยกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อน! ราวกับว่าสิ่งที่เขากลัวจะกลายเป็นจริง!“กู้ ลี่เฉินไม่มีความหมายอะไรกับเธอจริง ๆ เหรอ?” เขาพึมพำขณะใช้เรียวนิ้วยาวสัมผัสที่ริมฝีปากแดงที่ปิดสนิทของเธอเบา ๆเธอที่กำลังหลับอยู่ไม่อาจให้คำตอบแก่เขาได้“จิน ต่อให้ลูกตกหลุมรักใครสักคนในอนาคต พ่อไม่อยากให้ลูกรักใครมากเกินไปหรือเอาชีวิตไปฝากไว้ในมือของเขา”“จิน รู้ไหมว่าความขี้ขลาดคืออะไร? มันคือตอนที่ลูกเกลียดใครสักคน แต่กลับไม่สามารถทำร้ายเขาได้”“จิน อย่าเรียนรู้จากพ่อ อย่าเป็น