เมื่อหลิง อี้หรานล้างมือเสร็จ เธอก็เหลือบเห็นร่างหนึ่งเข้ามาพวกเขาต่างตกใจกันและคนคนนั้นก็ถามเธอว่า “อะไรหอบเธอมาที่นี่ หลิง อี้หราน?”หลิง อี้หรานไม่คาดคิดว่าเธอจะได้เจอกวาน ลี่หลี่ที่นี่ ปกติเธอจะเห็นลี่หลี่สวมชุดสูทที่เป็นทางการแต่ตอนนี้เธอกลับแต่งตัวเหมือนคนทำความสะอาดในอาคาร“ทำไม? ฉันจะมาที่นี่ไม่ได้เหรอ?” หลิง อี้หรานถามอย่างเย็นชาหลิง อี้หรานรู้สึกรังเกียจกวาน ลี่หลี่ หลังจากที่ลี่หลี่ใช้คดีความของเธอเป็นกรณีศึกษาสำหรับทนายมือใหม่ในบริษัทแม้ว่าคนอื่นจะคิดว่าเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่เธอสัมผัสได้ว่าลี่หลี่มีเจตนาไม่ดีกวาน ลี่หลี่จ้องมองหลิง อี้หรานด้วยสายตาเกลียดชัง ตอนนี้เธอกลายเป็นตัวตลกในบริษัท ในฐานะทนายความ เธอถูกบังคับให้ทำความสะอาดห้องน้ำ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหลิง อี้หรานใครจะคิดว่ากู้ ลี่เฉินจะปกป้องหลิง อี้หราน?หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น เธอก็ถูกเจ้านายเรียกมาที่สำนักงานซึ่งเขาเสนอทางเลือกสองทางให้กับเธอ เธอจะลาออกหรือย้ายไปทำงานทำความสะอาดห้องน้ำชั่วคราว การพิจารณาที่เหลือจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์หลังจากต่อสู้ดิ้นรนมาอย่างยาวนาน เธอเลือกตัวเลือกที่สอง เพราะถ้า
กวาน ลี่หลี่รู้สึกเจ็บแสบร้อนบนใบหน้าของเธอ เธอเงยหน้ามองดูชายที่ตบหน้าเธอ นั่นคือแฟนของหลิง อี้หรานที่เธอเคยเจอมาก่อน“คุณ… คุณตบฉันเหรอ?” กวาน ลี่หลี่พูดตะกุกตะกัก“อะไร? ผมตบคุณไม่ได้เหรอ?” อี้ จิ่นหลีถามขณะที่เขาหัวเราะ แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว“ฉัน… ฉันกำลังช่วยคุณอยู่ คุณ… คุณไม่รู้เหรอว่าหลิง อี้หรานแอบคบชู้กับกู้ ลี่เฉิน พวกเขา…” กวาน ลี่หลี่พูดขณะที่กล้ำกลืนความเจ็บปวด แต่ก่อนที่เธอจะจบ เธอก็ถูกตบหน้าอย่างแรงอีกครั้งแก้มทั้งสองข้างของกวาน ลี่หลี่แดงและบวมกวาน ลี่หลี่ลิ้มรสเลือดในปากของเธอและรับรู้ได้ว่าแรงตบทั้งสองครั้งนั่นแรงแค่ไหนแต่แววตาของเขากลับทำให้เธอตกใจเสียยิ่งกว่า เขาดูเหมือน… มือสังหาร! เธอรู้สึกราวกับว่าชายตรงหน้าสามารถฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ‘เขาเป็น... แค่แฟนของหลิง อี้หราน ไม่ใช่คนใหญ่คนโต ดังนั้นฉันไม่มีอะไรต้องกลัว! ฉัน... ฉันจะไปแจ้งความกับตำรวจและทำให้หลิง อี้หรานและแฟนของเธอต้องอับอาย!’ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น กวาน ลี่หลี่ได้ยินเสียงเจ้านาย “คุณอี้ อ้าว อี้หรานก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ? ไม่เจอกันนานเลยนะ มาเถอะ เข้าไปข้างในกัน”เ
เมื่ออี้ จิ่นหลีและคนที่เหลือเดินเข้าไปในห้องประชุม ใครบางคนจากแผนกต้อนรับก็เดินไปหากวาน ลี่หลี่ “ส่งโทรศัพท์ของคุณมา ลี่หลี่ ฉันจะคัดลอกเสียงไว้”“ทำไมฉันจะต้องส่งให้คุณด้วย?” กวาน ลี่หลี่กำโทรศัพท์แน่น เธอไม่ใช่คนโง่ เธอจะให้หลักฐานของตัวเองกับคนอื่นได้อย่างไร?เขามองเธอราวกับว่าเธอเป็นตัวตลก “เพราะผู้ชายคนนั้นคืออี้ จิ่นหลี คุณโชคดีแค่ไหนที่เขาขอให้คุณส่งแค่บันทึกเสียงในโทรศัพท์เท่านั้น ตราบใดที่คุณไม่ปากพล่อย หลิง อี้หรานก็คงไม่ทำอะไร แต่ถ้าคุณ...”ชายคนนั้นยังไม่ทันพูดจบประโยค ลี่หลี่ก็ขัดจังหวะขึ้นมาก่อน “คุณพูดว่าอะไรนะ? ผู้ชายคนนั้นคืออี้ จิ่นหลีเหรอ?”“ใช่ วันนี้อี้ จิ่นหลีมาที่นี่กับหลิง อี้หรานเพื่อแก้ไขคดีความของเธอ!” ชายคนนั้นกล่าวดวงตาของกวาน ลี่หลี่เบิกกว้างขึ้น‘อี้ จิ่นหลี... เป็นไปได้ยังไง? เขาไปเป็นแฟนของหลิง อี้หรานได้ยังไง? คู่หมั้นของอี้ จิ่นหลีถูกหลิง อี้หรานขับรถชนจนเสียชีวิต!’‘และเขาต้องการแก้ไขคดีความของเธอด้วยซ้ำ?’‘หมายความว่าหลิง อี้หรานไม่ใช่ผู้กระทำความผิดอย่างนั้นเหรอ?’กวาน ลี่หลี่รู้สึกว่างเปล่า ในตอนนี้ ความเจ็บปวดบนแก้มที่บวมของเธอที่กำลัง
หลิง อี้หรานตกใจและเข้าใจในทันทีว่าอี้ จิ่นหลีหมายความว่าอะไรห่าว เหมยยวี่เป็นลูกสาวคนโตของตระกูลห่าวและยังเป็นประธานของห่าว กรุ๊ปในตอนนั้น ตระกูลห่าวมีลูกสาวสองคน แต่ห่าว อี้เหมิงไปเอาดีทางด้านวงการบันเทิงในขณะที่ห่าว เหมยยวี่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีในฐานะทายาทของตระกูลห่าวนอกจากนี้ ห่าว เหมยยวี่ยังเป็นคู่หมั้นของอี้ จิ่นหลีในตอนนั้นว่าน หยวี่หมิงอาจจะไม่ได้กลัวกฎหมายจะลงโทษเขา แต่คงกลัวตระกูลห่าวและตระกูลอี้จะทำร้ายเขาแทนเมื่อคิดเช่นนั้น หลิง อี้หรานก็เข้าใจได้ว่าทำไมว่าน หยวี่หมิงถึงทำแบบนี้กับเธอเมื่อหลิง อี้หรานมองดูหลักฐานตรงหน้าของเธอ เธอก็รู้ได้ว่าเธอสามารถที่จะพลิกคดีความกลับได้เมื่อพวกเขายื่นอุทธรณ์ ปัญหาเดียวคือว่า ว่าน หยวี่หมิงอยู่ต่างประเทศในตอนนี้แม้ว่าเธอจะย้อนคดีของเธอได้ แต่มันก็ยากมากที่เขาจะถูกตัดสินอย่างยุติธรรม เพราะตอนนี้เขาอยู่ในประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศของพวกเราอี้ จิ่นหลีพูดออกมาราวกับว่าเขารับรู้ถึงความกังวลของเธอ “ไม่ต้องห่วง ถึงเขาจะอยู่ต่างประเทศ ผมก็จะทำให้เขากลับมาและสารภาพความผิดของเขา”เธอรู้สึกอุ่นใจเมื่อได้ยินเข
หลิง อี้หรานค่อย ๆ จิบไวน์และปล่อยให้ความรู้สึกเบาสบายล้อมรอบเธออี้ จิ่นหลีคอยเติมไวน์ให้เธอทุกครั้งทีเธอดื่มจนหมดแก้ว“บางครั้งฉันก็คิดว่าโชคชะตาเล่นตลกกับฉัน” หลิง อี้หรานบ่นพลางหมุนแก้วไวน์ในมือ“พี่หมายความว่ายังไง?” เขาถาม“คุณก็รู้ ตอนนั้นหลักฐานทุกอย่างล้วนชี้มาที่ฉัน จนฉันเถียงไม่ได้ ในช่วงเวลาสามปีนั้นในคุก ฉันใช้เวลาทุกวันคิดว่าความจริงของคดีคืออะไร ใครใส่ร้ายฉันและจะเขาทำให้พยานและหลักฐานทั้งหมดชี้มาที่ฉันได้อย่างไร...”หลิง อี้หรานหัวเราะเยาะตัวเองขณะที่เธอพูด “ฉันถึงกับสงสัยทุกคนที่อยู่รอบตัวฉัน ฉันสงสัยว่ามันเป็นใครและใครที่โกรธแค้นฉันถึงขนาดนี้”คำพูดของเธอดังก้องในหูของเขา ทุกประโยคของเธอราวกับค้อนขนาดใหญ่ทุบเข้าที่หัวใจเขาอย่างแรงจนหัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าและหันไปทางเขาเล็กน้อยแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณรู้อะไรไหม จิน? ฉันคิดมาตลอดเลยว่า... คนที่ต้องการใส่ร้ายฉันคือคนที่ต่อต้านฉัน เขาไม่ได้ต่อต้านห่าว เหมยยวี่ เขาทำลายชีวิตฉันต่างหาก โดยกลัวการที่จะต้องเป็นคนรับผิดชอบ!”สามปีในคุกเป็นเหมือนฝันร้ายที่ยาวนาน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอได้รับบาดเ
เขาเตรียมอาหารและป้อนให้เธออย่างระมัดระวังหากใครมาเห็นอี้ จิ่นหลีในตอนนี้ พวกเขาคงจะอ้าปากค้าง ผู้ชายอย่างอี้ จิ่นหลีเคยทำแบบนี้เพื่อใครที่ไหน?คนในบาร์ต่างมองดูเหตุการณ์เหล่านี้โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวช่วงเวลาได้ลุล่วงไป ทำให้คนเริ่มทยอยเข้ามาในบาร์มากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนจำนวนมากต่างมองดูอี้ จิ่นหลีและหลิง อี้หรานอี้ จิ่นหลีดูดีมากในบาร์แห่งนี้ เขากลายเป็นหนุ่มสุดฮอตที่ผู้หญิงต้องการเข้าหาผู้หญิงจำนวนมากเริ่มตกหลุมรักเขา เมื่อพวกเธอเห็นอี้ จิ่นหลีกำลังป้อนอาหารให้หลิง อี้หรานอย่างระมัดระวัง ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการถูกป้อนอาหารจากผู้ชายที่ดูแลคุณราวกับเป็นสมบัติล้ำค่าของเขาแม้ว่าอี้ จิ่นหลีจะมีหลิง อี้หรานอยู่เคียงข้างเขา แต่ผู้หญิงหลายคนก็ยังอยากที่จะลองเชิงกับเขาและทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นได้ในบาร์แห่งนี้ครู่ต่อมา หญิงงามในชุดรัดรูปก็เดินเข้ามา เธอส่งยิ้มหวานให้อี้ จิ่นหลีและพูดว่า “ขอฉันนั่งตรงนี้ด้วยคนได้ไหมคะ? วันนี้ฉันอยู่คนเดียว” ขณะที่เธอพูดขณะขยิบตาให้อี้ จิ่นหลี เธอพบว่าเขาหล่อมากเมื่อจ้องมองเขาใกล้ ๆถ้าเป็นเขา เธอก็เต็มใจยอม แม้จะเป็นแค่คู่นอนชั่วคราว!แต่อี้ จิ่นหลี
ผู้หญิงคนนั้นคิดในใจ เธอกลัวผู้ชายคนนี้ เพราะฉะนั้นเธอจึงอยากที่จะรีบออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ในบาร์นี้มีเหยื่อรอเธออยู่มากมาย!“ฉัน... ฉันคิดว่าฉันควรไปได้แล้ว...” หญิงสาวยิ้มอย่างเชื่องช้าและก้าวขากำลังจะเดินจากไป“เดี๋ยว...” หลิง อี้หรานพูดออกมา เธอดูหงุดหงิดเล็กน้อย‘เดี๋ยว? ฉันต้องรออะไรอีกล่ะเนี่ย?!’ ผู้หญิงคนนั้นก้าวออกไป โดยไม่มีท่าทีจะหยุดจากนั้นเสียงที่เย็นชาของอี้ จิ่นหลีก็ดังขึ้น “รอสักครู่”‘ห๊ะ?’ ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึง แต่ก่อนที่เธอจะรู้สึกตัว เธอกลับถูกชายร่างใหญ่สองคนหยุดเธอไว้ เธอถูกบังคับให้กลับไปที่โต๊ะผู้หญิงคนนั้นเริ่มคิดเสียใจ ทำไมเธอต้องเข้ามาหาเขาด้วย? เมื่อมองดูจากเหตุการณ์แล้ว เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนประเภทที่ควรเข้าไปยุ่งด้วย‘ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันทีหลังล่ะ!’“ก็... งั้นเรามาคุยกันเถอะ ถ้าฉันพูดอะไรผิดหรือทำอะไรผิดไป ฉัน... ฉันต้องขอโทษคุณทั้งคู่จริง ๆ ค่ะ!” ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาอย่างสุภาพอี้ จิ่นหลีไม่สนใจเธอและมองไปที่หลิง อี้หราน เขาพูดว่า “เธอกลับมาแล้ว”หน้าตาที่เย้ายวนนั้นทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาสามารถทำทุกอย่างได้เพื่อผู้ห
“ผู้ชายคนนี้เป็นของฉันจริง ๆ เหรอ?”เธอเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัวจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงของเขาพูดว่า “ใช่ ผมเป็นของพี่”เสียงไพเราะดังก้องขึ้นราวกับเป็นเสียงตอบรับจากสรวงสวรรค์เธอยกตัวขึ้นและประกบเข้ากับริมฝีปากของเขาอย่างเชื่องช้า ‘ถ้าเขาเป็นของฉันล่ะก็... ฉันจะจูบเขาที่ไหนก็ได้!’...ผู้หญิงคนนั้นยังคงยืนอยู่ในบาร์ เธอดูมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ‘ใครวะ... ผู้ชายคนนั้น? เขาดูต่างออกไป แถมยังมีบอดี้การ์ดคอยปกป้องเขาอีก’ ผู้ชายที่ชื่อจินออกไปจากบาร์ขณะที่อุ้มหญิงขี้เมาไว้ในอ้อมแขน เธอก็เหลือบเห็นนาฬิกาข้อมือที่เขาสวมอยู่ เป็นนาฬิการุ่นหายากของแบรนด์ดังที่เธอเคยเห็นบนอินเทอร์เน็ตมาก่อนนาฬิกาเรือนนั้นมีเพียงสามเรือนในโลกและมีราคาหลายร้อยล้านดอลลาร์!แต่บางทีเธออาจจะคิดผิด ผู้ชายคนนั้นอาจจะใส่ของปลอมก็ได้‘แต่... ถ้าผู้ชายคนนั้นใส่ของจริงล่ะ?’ หัวใจของหญิงสาวกระตุกเมื่อคิดถึงเรื่องนี้‘ถ้าผู้ชายที่ชื่อจินใช้นาฬิกามูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญล่ะก็... เขาเป็นคนแบบไหนกันนะ?’‘เขา... เป็นใคร?’อี้ จิ่นหลีขึ้นรถมาพร้อมกับหลิง อี้หรานในอ้อมแขนของเขา ตอนนี้เธอหน้าแดง เธอดูมึนเมาอย่างเห็น