เธอจำได้ว่ามันถูกขายไปในราคาหลายร้อยล้านเหรียญและพูดติดตลกว่าใครจะได้สวมเพชรราคาแพงเช่นนี้แต่เพชรเม็ดนี้กลับปรากฏขึ้นต่อหน้าเธออีกครั้ง“นี่คือ… Frozen Heart เหรอ?” เธอถามด้วยความประหลาดใจ“พี่เคยเห็นมันมาก่อนเหรอ?” เขาแปลกใจเล็กน้อย“ใช่” เธอพยักหน้า“ผมจะใช้เพชรเม็ดนี้สำหรับแหวนแต่งงานของพี่ พี่ลองดูว่าพี่ชอบเซ็ตแหวนแบบไหนหรือจะให้นักออกแบบออกแบบตามที่พี่ต้องการก็ได้” อี้ จิ่นหลีกล่าว‘แหวนแต่งงาน?’ หลิง อี้หรานกระพริบตาด้วยความประหลาดใจเพชรที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญกำลังถูกออกแบบเป็นแหวนแต่งงานของเธอ? หลิง อี้หรานรู้สึกราวกับว่าเธอฝันไป“ไม่ชอบเหรอ?” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ถ้าพี่ไม่ชอบ ผมจะลองดูว่ามีเพชรเม็ดอื่นที่เหมาะสมอีกไหม เผื่อพี่จะชอบเพชรเม็ดอื่น”“ไม่ใช่!” เธอปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบ มันเป็นแค่... “เพชรเม็ดนี้ราคาแพงเกินไป คุณจะใช้มันทำแหวนแต่งงานจริง ๆ เหรอ?”“งั้นจะใช้ทำอะไรอีกล่ะ?” เขาหัวเราะพรืด ท่าทางของเธอดูน่ารัก “จะใช้เป็นสร้อยคอก็ได้นะ ส่วนราคา...”เขาหยุดและจับมือขวาของเธอไว้ จากนั้นโน้มตัวลงเล็กน้อพลางจูบลงบนนิ้วนางของเธอที่ “ต่อให้แหวนร
ทุกสิ่งเป็นไปได้เพราะเขา“พี่ไม่อยากให้คดีพลิกเหรอ? ทำไมถึงเงียบไปล่ะ?” เขาถามเธอเพื่อทำลายความเงียบ“หลักฐานพวกนั้น… เพียงพอที่จะใช้พลิกคดีจริงเหรอ? พวกเขาสามารถ… ให้ความจริงกับฉันได้ใช่ไหม?” หลิง อี้หรานพึมพำความจริง... ดวงตาของอี้ จิ่นหลีกะพริบเล็กน้อย “ใช่ ไม่มีปัญหา เชื่อผมสิ!”น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองของเธอ เธอก็สะอื้นแล้วพูดว่า “ขอบคุณนะจิน!”เขารู้สึกสับสนไปชั่วขณะ แล้วจึงรีบหยิบทิชชู่มาซับน้ำตาของเธอ “อย่าร้องไห้สิ ผมไม่ได้ช่วยพี่หาหลักฐานมาพลิกคดีเพื่อเห็นพี่ร้องไห้นะ”น้ำตาของเธอทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดในหัวใจของเขาแต่เธอกลับร้องไห้หนักกว่าเดิม ราวกับว่าความทุกข์ทรมานหลายปีที่ผ่านมาได้ถูกปลดปล่อยออกมาในขณะนี้หลิง อี้หรานกอดเขาแน่นในอ้อมแขนของเธอและร้องไห้เสียงดัง“ฮึก... ฮือ... ฮืออออ...” เธอร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกและความเจ็บปวด บัดนี้เธอได้ปลดปล่อยมันออกมา!อี้ จิ่นหลีก้มศีรษะลงมองดูคนที่อยู่ในอ้อมแขน เขารู้สึกว่าเสื้อของเขาค่อย ๆ เปียกปอนไปด้วยน้ำตาของเธอหัวใจที่เจ็บปวดของเขากำลังเต้นแรงเขาสามารถล้างมลทินให้เธอได้ แต่ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนและมีเงินมากเ
“มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ การที่คุณมาช่วยฉันพลิกคดีนั่นเป็นเรื่องที่ดี ฉันร้องไห้เพราะเรื่องนี้มันหนักอึ้งในใจของฉันมายาวนานจนตอนนี้ฉันรับรู้ว่าฉันสามารถย้อนคดีได้ ฉันเลยดีใจจนควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้” เธอกล่าวริมฝีปากบางของเขาเม้มเข้าหากัน จากนั้นเขาจึงยกมือขึ้นและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาอี้หรานไม่รู้ว่าเขากำลังขอโทษอะไร‘ผมขอโทษ’ เพราะเขาไม่แยแสเธอในตอนนั้น ทำให้เธอต้องทนทุกข์กับประสบการณ์ที่เลวร้ายและทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมดที่เขาจะทำได้คือล้างมลทินให้เธอแต่เธอจะไม่มีทางรู้ความจริงที่เธอต้องการจะรู้!อี้ จิ่นหลีกอดหลิง อี้หรานไว้แน่น......วันรุ่งขึ้น หลิง อี้หรานลาพักงานและไปที่สำนักงานกฎหมายกับอี้ จิ่นหลี เพราะนี่เป็นคดีความของเธอ เธอจึงรู้สึกประหม่าเป็นพิเศษเธอประหลาดใจที่อี้ จิ่นหลีเลือกสำนักงานกฎหมายที่เธอเคยทำงานมาก่อนหลิง อี้หรานจ้องมองอี้ จิ่นหลีด้วยความประหลาดใจ ‘นี่... ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ’“ผมรู้ว่าพี่เคยทำงานที่นี่ หลังจากเกิดอุบัติเหตุ เพื่อนร่วมงานบางคนของพี่พากันหัวเราะเยาะพี่ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเลือกที่นี่ ผมจะช่วยให้พี่ได้รับศักดิ์ศรีที่เสียไปกล
เมื่อหลิง อี้หรานล้างมือเสร็จ เธอก็เหลือบเห็นร่างหนึ่งเข้ามาพวกเขาต่างตกใจกันและคนคนนั้นก็ถามเธอว่า “อะไรหอบเธอมาที่นี่ หลิง อี้หราน?”หลิง อี้หรานไม่คาดคิดว่าเธอจะได้เจอกวาน ลี่หลี่ที่นี่ ปกติเธอจะเห็นลี่หลี่สวมชุดสูทที่เป็นทางการแต่ตอนนี้เธอกลับแต่งตัวเหมือนคนทำความสะอาดในอาคาร“ทำไม? ฉันจะมาที่นี่ไม่ได้เหรอ?” หลิง อี้หรานถามอย่างเย็นชาหลิง อี้หรานรู้สึกรังเกียจกวาน ลี่หลี่ หลังจากที่ลี่หลี่ใช้คดีความของเธอเป็นกรณีศึกษาสำหรับทนายมือใหม่ในบริษัทแม้ว่าคนอื่นจะคิดว่าเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่เธอสัมผัสได้ว่าลี่หลี่มีเจตนาไม่ดีกวาน ลี่หลี่จ้องมองหลิง อี้หรานด้วยสายตาเกลียดชัง ตอนนี้เธอกลายเป็นตัวตลกในบริษัท ในฐานะทนายความ เธอถูกบังคับให้ทำความสะอาดห้องน้ำ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหลิง อี้หรานใครจะคิดว่ากู้ ลี่เฉินจะปกป้องหลิง อี้หราน?หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น เธอก็ถูกเจ้านายเรียกมาที่สำนักงานซึ่งเขาเสนอทางเลือกสองทางให้กับเธอ เธอจะลาออกหรือย้ายไปทำงานทำความสะอาดห้องน้ำชั่วคราว การพิจารณาที่เหลือจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์หลังจากต่อสู้ดิ้นรนมาอย่างยาวนาน เธอเลือกตัวเลือกที่สอง เพราะถ้า
กวาน ลี่หลี่รู้สึกเจ็บแสบร้อนบนใบหน้าของเธอ เธอเงยหน้ามองดูชายที่ตบหน้าเธอ นั่นคือแฟนของหลิง อี้หรานที่เธอเคยเจอมาก่อน“คุณ… คุณตบฉันเหรอ?” กวาน ลี่หลี่พูดตะกุกตะกัก“อะไร? ผมตบคุณไม่ได้เหรอ?” อี้ จิ่นหลีถามขณะที่เขาหัวเราะ แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว“ฉัน… ฉันกำลังช่วยคุณอยู่ คุณ… คุณไม่รู้เหรอว่าหลิง อี้หรานแอบคบชู้กับกู้ ลี่เฉิน พวกเขา…” กวาน ลี่หลี่พูดขณะที่กล้ำกลืนความเจ็บปวด แต่ก่อนที่เธอจะจบ เธอก็ถูกตบหน้าอย่างแรงอีกครั้งแก้มทั้งสองข้างของกวาน ลี่หลี่แดงและบวมกวาน ลี่หลี่ลิ้มรสเลือดในปากของเธอและรับรู้ได้ว่าแรงตบทั้งสองครั้งนั่นแรงแค่ไหนแต่แววตาของเขากลับทำให้เธอตกใจเสียยิ่งกว่า เขาดูเหมือน… มือสังหาร! เธอรู้สึกราวกับว่าชายตรงหน้าสามารถฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ‘เขาเป็น... แค่แฟนของหลิง อี้หราน ไม่ใช่คนใหญ่คนโต ดังนั้นฉันไม่มีอะไรต้องกลัว! ฉัน... ฉันจะไปแจ้งความกับตำรวจและทำให้หลิง อี้หรานและแฟนของเธอต้องอับอาย!’ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น กวาน ลี่หลี่ได้ยินเสียงเจ้านาย “คุณอี้ อ้าว อี้หรานก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ? ไม่เจอกันนานเลยนะ มาเถอะ เข้าไปข้างในกัน”เ
เมื่ออี้ จิ่นหลีและคนที่เหลือเดินเข้าไปในห้องประชุม ใครบางคนจากแผนกต้อนรับก็เดินไปหากวาน ลี่หลี่ “ส่งโทรศัพท์ของคุณมา ลี่หลี่ ฉันจะคัดลอกเสียงไว้”“ทำไมฉันจะต้องส่งให้คุณด้วย?” กวาน ลี่หลี่กำโทรศัพท์แน่น เธอไม่ใช่คนโง่ เธอจะให้หลักฐานของตัวเองกับคนอื่นได้อย่างไร?เขามองเธอราวกับว่าเธอเป็นตัวตลก “เพราะผู้ชายคนนั้นคืออี้ จิ่นหลี คุณโชคดีแค่ไหนที่เขาขอให้คุณส่งแค่บันทึกเสียงในโทรศัพท์เท่านั้น ตราบใดที่คุณไม่ปากพล่อย หลิง อี้หรานก็คงไม่ทำอะไร แต่ถ้าคุณ...”ชายคนนั้นยังไม่ทันพูดจบประโยค ลี่หลี่ก็ขัดจังหวะขึ้นมาก่อน “คุณพูดว่าอะไรนะ? ผู้ชายคนนั้นคืออี้ จิ่นหลีเหรอ?”“ใช่ วันนี้อี้ จิ่นหลีมาที่นี่กับหลิง อี้หรานเพื่อแก้ไขคดีความของเธอ!” ชายคนนั้นกล่าวดวงตาของกวาน ลี่หลี่เบิกกว้างขึ้น‘อี้ จิ่นหลี... เป็นไปได้ยังไง? เขาไปเป็นแฟนของหลิง อี้หรานได้ยังไง? คู่หมั้นของอี้ จิ่นหลีถูกหลิง อี้หรานขับรถชนจนเสียชีวิต!’‘และเขาต้องการแก้ไขคดีความของเธอด้วยซ้ำ?’‘หมายความว่าหลิง อี้หรานไม่ใช่ผู้กระทำความผิดอย่างนั้นเหรอ?’กวาน ลี่หลี่รู้สึกว่างเปล่า ในตอนนี้ ความเจ็บปวดบนแก้มที่บวมของเธอที่กำลัง
หลิง อี้หรานตกใจและเข้าใจในทันทีว่าอี้ จิ่นหลีหมายความว่าอะไรห่าว เหมยยวี่เป็นลูกสาวคนโตของตระกูลห่าวและยังเป็นประธานของห่าว กรุ๊ปในตอนนั้น ตระกูลห่าวมีลูกสาวสองคน แต่ห่าว อี้เหมิงไปเอาดีทางด้านวงการบันเทิงในขณะที่ห่าว เหมยยวี่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีในฐานะทายาทของตระกูลห่าวนอกจากนี้ ห่าว เหมยยวี่ยังเป็นคู่หมั้นของอี้ จิ่นหลีในตอนนั้นว่าน หยวี่หมิงอาจจะไม่ได้กลัวกฎหมายจะลงโทษเขา แต่คงกลัวตระกูลห่าวและตระกูลอี้จะทำร้ายเขาแทนเมื่อคิดเช่นนั้น หลิง อี้หรานก็เข้าใจได้ว่าทำไมว่าน หยวี่หมิงถึงทำแบบนี้กับเธอเมื่อหลิง อี้หรานมองดูหลักฐานตรงหน้าของเธอ เธอก็รู้ได้ว่าเธอสามารถที่จะพลิกคดีความกลับได้เมื่อพวกเขายื่นอุทธรณ์ ปัญหาเดียวคือว่า ว่าน หยวี่หมิงอยู่ต่างประเทศในตอนนี้แม้ว่าเธอจะย้อนคดีของเธอได้ แต่มันก็ยากมากที่เขาจะถูกตัดสินอย่างยุติธรรม เพราะตอนนี้เขาอยู่ในประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศของพวกเราอี้ จิ่นหลีพูดออกมาราวกับว่าเขารับรู้ถึงความกังวลของเธอ “ไม่ต้องห่วง ถึงเขาจะอยู่ต่างประเทศ ผมก็จะทำให้เขากลับมาและสารภาพความผิดของเขา”เธอรู้สึกอุ่นใจเมื่อได้ยินเข
หลิง อี้หรานค่อย ๆ จิบไวน์และปล่อยให้ความรู้สึกเบาสบายล้อมรอบเธออี้ จิ่นหลีคอยเติมไวน์ให้เธอทุกครั้งทีเธอดื่มจนหมดแก้ว“บางครั้งฉันก็คิดว่าโชคชะตาเล่นตลกกับฉัน” หลิง อี้หรานบ่นพลางหมุนแก้วไวน์ในมือ“พี่หมายความว่ายังไง?” เขาถาม“คุณก็รู้ ตอนนั้นหลักฐานทุกอย่างล้วนชี้มาที่ฉัน จนฉันเถียงไม่ได้ ในช่วงเวลาสามปีนั้นในคุก ฉันใช้เวลาทุกวันคิดว่าความจริงของคดีคืออะไร ใครใส่ร้ายฉันและจะเขาทำให้พยานและหลักฐานทั้งหมดชี้มาที่ฉันได้อย่างไร...”หลิง อี้หรานหัวเราะเยาะตัวเองขณะที่เธอพูด “ฉันถึงกับสงสัยทุกคนที่อยู่รอบตัวฉัน ฉันสงสัยว่ามันเป็นใครและใครที่โกรธแค้นฉันถึงขนาดนี้”คำพูดของเธอดังก้องในหูของเขา ทุกประโยคของเธอราวกับค้อนขนาดใหญ่ทุบเข้าที่หัวใจเขาอย่างแรงจนหัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าและหันไปทางเขาเล็กน้อยแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณรู้อะไรไหม จิน? ฉันคิดมาตลอดเลยว่า... คนที่ต้องการใส่ร้ายฉันคือคนที่ต่อต้านฉัน เขาไม่ได้ต่อต้านห่าว เหมยยวี่ เขาทำลายชีวิตฉันต่างหาก โดยกลัวการที่จะต้องเป็นคนรับผิดชอบ!”สามปีในคุกเป็นเหมือนฝันร้ายที่ยาวนาน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอได้รับบาดเ