ปฏิกิริยาของหลิง อี้หราน เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอี้ จิ่นหลี สามารถไปตามกำจัดร้านอาหารเล็ก ๆ ได้ แม้แต่บริษัทที่กำลังมาแรง ที่คนต่างกล่าวว่าจะมีอนาคตที่สดใส กลับกำลังมีข้อสงสัยและอาจจะถูกกำจัดไป ดังนั้นร้านอาหารเล็ก ๆ ก็น่าจะไม่รอด“ฉัน... ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น” เธอพึมพำ เธอไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับร้านอาหารเล็ก ๆ ของพี่โจวเพราะฉัน เธอเห็นว่าพี่โจวเป็นคนดี ลูกชายของเธอที่หูหนวก ทำให้เธอต้องรับภาระหนัก “ดีแล้วที่พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น พี่สามารถอยู่ที่นี่อย่างสงบสุข” อี้ จิ่นหลี กล่าวด้วยรอยยิ้มหลิง อี้หราน เม้มริมฝีปากของเธอเข้าด้วยกันและไม่ได้พูดอะไรต่ออี้ จิ่นหลี จับมือของหลิง อี้หราน ขึ้นมาและวางฝ่ามือของเธอลงบนแก้มของเขา “เพราะพี่ตั้งใจจะหางานด้วยตัวเอง ไม่ว่าพี่จะกลับมาดึกแค่ไหน พี่ก็จะมา
แทนที่จะกลับไปสู่อ้อมอกแม่อย่างเชื่อฟังเหมือนที่เคยทำเมื่อวานนี้ เขากลับจับขาของหลิง อี้หราน ไว้แน่นโจว เชียนหยุน กล่าวว่า “ขอโทษนะ ปกติแล้วอาหยันน้อยมักจะไม่เป็นแบบนี้ ดูเหมือนเขาจะชอบเธอ”“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันก็ชอบอาหยันน้อยเหมือนกัน” หลิง อี้หราน พูดพลางอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมาขณะที่เธอพูดเจ้าตัวเล็กไม่ดิ้นและเชื่อฟังอย่างน่าทึ่ง เขายิ้มกว้างให้กับหลิง อี้หราน หลังจากที่เธออุ้มเขาขึ้นมารอยยิ้มมีร่องรอยของความขี้อายและขี้อ้อนที่ทำให้หลิง อี้หราน เศร้าอย่างประหลาด "สวัสดีจ้า อาหยันน้อย" หลิง อี้หราน กล่าวยกมือขึ้นแตะศีรษะของเด็กน้อยอย่างไรก็ตาม เจ้าตัวเล็กไม่ได้ยินเสียงของเธอ เขาไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร เขามองเธอด้วยความสับสนเท่านั้นโจว เชียนหยุน มองไปที่ลูกชายของเธอแล้วมองไปที่หลิง อี้หราน ทันใดนั้น ดวงตาของเธอก็เศร้าหมองขึ้น อาหยันน้อย... เข้าใจผิดว่าอี้หรานเป็นคนนั้นหรอ? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้ใกล้ชิดอย่างผิดธรรมชาติ... ถ้าเป็นแบบนั้นก็น่าเศร้า... ที่พวกเขาไม่สามารถเห็นคน ๆ นั้นได้อีก“พี่โจวช่วยสอนภาษามือให้ฉันได้ไหมคะ? ฉันอยากเรียนรู้ที่จะสื่อสารกับอาหยันน้อย” หลิง อี้หราน
นอกจากนี้ ในฐานะหัวหน้า เธอยังต้องดูแลแคชเชียร์, เสิร์ฟอาหาร, ทำความสะอาดโต๊ะ มันเหมือนกับว่าเธอต้องทำทุกอย่าง เมื่อตอนที่ร้านยุ่ง ๆ เธอก็แทบจะไม่มีเวลาว่างเลย ความสามารถของเธออาจจะมีจำกัด แต่เธอก็มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกชายของเธอ ประมาณบ่ายสามโมง ทางร้านก็ได้มีออเดอร์อื่นเข้ามา มีทั้งขนมปังไส้สับปะรดและชานม เมื่อกี้แค่หลิง อีหราน ได้เห็นที่อยู่ เธอถึงกับฟุ้งซ่าน “มีอะไรเหรอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” โจว เชียนหยุน ได้เตรียมออเดอรให้ หลิง อี้หราน และสังเกตเห็นว่าเธอจ้องไปที่ใบสั่งซื้ออย่าเหม่อลอย “เปล่าไม่มีอะไรค่ะ” หลิง อี้หราน ตอบพร้อมกับหยิบขนมปังสับปะรดและชานม ชัดเจนว่า ที่อยู่ของคำสั่งซื้อนั้นเป็นสำนักงานกฎหมายที่เธอเคยทำงานอยู่ ตอนนี้เธอกำลังจะไปส่งอาหารที่นั่น และเธอจะต้องพบเจอกับอดีตเพื่อนร่วมงานของเธอเป็นธรรมดา ย้อนกลับไป เธอเป็นพนักงานที่ยอดเยี่ยมในออฟฟิศคนหนึ่งเลย แต่บางทีในอีกสักพัก เธออาจจะต้องรู้สึกอับอายใจมาก ๆ หลิง อี้หราน รู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจ แต่ในตอนนี้เธอเลือกมุ่งมั่นที่จะทำตรงนี้แล้ว เธอก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับสถานการณ์เหล่านี้ นอกจากนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นแขนของเธอก็ถูกจับไว้ ด้วยแรงกระตุกเธอจึงเขาไปอยู่ในอ้อมกอดที่แสนกว้าง เธออยากจะเอาตัวออกมาจากอ้อมแขนของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่มือของเขาโอบรอบตัวเธอและกอดเธอไว้ใกล้ ๆ “มันคงจะเป็นฝันที่ดีจริง ๆ สินะพี่สาว!” เขาบ่นพึมพำขณะที่ปากของเขาอยู่ใกล้ ๆ กับหูของเธอ เธอตัวสั่นเล็กน้อยและได้ และรู้สึกว่าลมหายใจของเขาอยู่ข้าง ๆ หูของเธอ เหมือนร่างการของเธอถูกโอบล้อมด้วยลมหายใจของเขา “นี่คุณ... ปล่อยนะ” เธอพูด และหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง “ทำไมพี่ไม่เล่าให้ผมฟัง เกี่ยวกับการทำงานวันแรกของพี่ก่อนล่ะ?” เขาถาม “มันก็เป็นแค่งานส่งอาหารตามปกติ มีคนสั่งอะไรฉันก็แค่ไปส่งให้” เธอด้วยความรู้สึกหัวใจเธอเต้นเร็วขึ้น แม้แต่การไหลเวียนของเลือดก็เร็วขึ้นมากด้วย “ถ้าอย่างงั้น วันนี้พี่ทานอาหารดี ๆ แล้วหรือยัง?” เสียงของเขาดังขึ้นในหูของเธอ อีกครั้ง “ใช่สิ ฉันทานข้าวกับเจ้านาย เธอเตรียมให้ฉันวันละสองมื้อ” หน้าของเธอร้อนขึ้น ราวกับว่ามันกำลังจะไหม้ ความรู้สึกแปลก ๆ ของเธอทำให้เธอขวัญเสีย ตอนนี้ทั้งหมดที่เธอต้องการก็แค่ให้เขาปล่อย อย่างไรก็ตาม เขาไม่ให้ในสิ่งที่เธอต้องกา
ในไม่กี่ชั่วโมงของวันนี้ ในตอนที่หลิง อี้หราน นอนหลับอย่ารวดเร็วอยู่บนที่นอน ประตูระหว่างห้องสองห้องก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ร่างสูง ๆ ก็เดินเข้ามา ผู้ที่มักจะเย็นชา มองไปที่ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสายตารักใคร่ การจ้องมองของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความผูกพัน “ฝันดีนะพี่สาว” เสียงเบา ๆ และนุ่มนวลดังออกมาจากปากของเขามันผสมไปด้วยความผูกพันและในเวลาเดียวกันมันก็มีความสิ้นหวังที่ไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกได้ ... วันรุ่งขึ้น เมื่อหลิง อี้หราน ไปทำงาน ช่วงเที่ยงที่ร้านได้รับออเดอร์ เยอะมาก มากกว่า 30 รายการ ปกติแล้ว รอบหนึ่งเธอจะส่งเพียงแค่ 7-8 รายการ แต่ตอนนี้ มีออเดอร มากกว่า 30 รายการโดยกะทันหัน มันเป็นอะไรที่เลิศมากสำหรับร้านเล็ก ๆ ที่จะส่งอาหารในบ่ายวันนี้ โจว เชียนหยุน เตรียมออเดอร์ให้พร้อมและพูดกับหลิง อี้หราน ว่า “ขอบคุณมาก ๆ สำหรับการส่งอาหารพวกนี้นะ” “แล้วออเดอร์อื่น ๆ ล่ะคะ?” หลิง อี้หรานกล่าว สุดท้ายแล้ว เมื่อเธอส่งออเดอร์นี้แล้ว เธออาจจะไม่ต้องส่งออเดอร์อื่น ๆ ก็ได้ “ไม่เป็นไร ฉันจะขอให้แม่ มาช่วยทำหน้าที่แทนตรงเครื่องคิดเงินหลังจากที่พาอาหยันน้อยเข้านอน แล้วฉันจะไปส่งใ
จากนั้น หลิง อี้ราน ก็เข้าไปในอาคารพร้อมกับรถเข็นอาหาร พนักงานต้อนรับถามแค่ชื่อของเธอ ไม่ได้บอกให้เธอลงทะเบียนใด ๆ และช่วยเธอกดปุ่มเพื่อขึ้นลิฟต์ ทั้งหมดนี้มันทำให้หลิง อี้หราน เดาว่ามันต้องเป็นอย่างเดียวกับที่เธอคิดไว้ เมื่อเธอมาถึงตามที่อยู่ที่ระบุไว้ใน ในออเดอร์ก็มีผู้หญิงรูปร่างสูงใส่ชุดสูททำงาน เดินมาหาเธอ “คุณหลิง อี้หราน ใช่ไหมคะ? ฉันเป็นคนสั่งอาหารคุณเอง คุณออกไปได้แล้วค่ะ และช่วยนำ 2 รายการนั้น ไปที่ห้องทำงานของท่านประธานหน่อยนะคะ” จังหวะนั้นหัวใจของหลิง อี้หราน แทบหล่นและสิ่งที่เธอเดาไว้เริ่มชัดเจนมากขึ้น ห้องทำงานของประธาน... อี้ จิ่นหลี เป็นประธานของ อี้ กรุ๊ป สองรายการนี้ เป็นของห้องทำงานของอี้ จิ่นหลี ใช่ไหม? หลิง อี้หราน หยิบสองออเกอร์นี้ขึ้นมาและกำลังเดินไปที่ห้องทำงานของ อี้ จิ่นหลี เมื่อเธอยืนอยู่ที่หน้าประตูไม้สีเข้มเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่เธอจะเคาะประตูสองครั้ง “เข้ามา” เสียงดังมาจากข้างใน หลิง อี้หราน ผลักประตูจนเปิด และเดินเข้าไปเห็นว่า อี้ จิ่นหลี นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา เขากำลังก้มหน้าตรวจเอกสาร “ฉันเอารายการอาหารของคุณวางไว้บนโต๊ะกาแฟนะ” หล
หลิง อี้หราน หยิบกล่องอาหารกลางวัน และเริ่มก้มหน้าก้มตากินอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เธอต้องการเพียงแค่รีบกิน ๆ ให้หมดไว ๆ และออกไป “พี่กินเร็วมาก เพราะอยากรีบออกไปใช่ไหมครับ?” เสียงของอี้ จิ่นหลี พูดเบา ๆ ในห้องทำงาน “อะแฮ่ม...” หลิง อี้หราน ถึงกับสำลัก จนแทบจะคายอาหารออกมา ตอนนี้เธอทำได้เพียงใช้มือปิดและไออย่างลำบาก อีกสักพักหน้าของเธอก็แดงมาก ในที่สุดเธอก็หยุดไอ แต่ว่าในมือของเธอที่ปิดปากอยู่ก่อนหน้านี้ ดันมีเศษข้าวติดอยู่ เธอจึงตัดสินใจหยิบทิชชูและต้องการที่จะเช็ดมือของเธอ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะหยิบทิชชูได้นิ้วของเขาก็คว้ามือของเธอและดึงเข้าหาตัวเขาเอง เธอบิดข้อมือด้วยความอึดอัด แต่ก็ไม่หลุด “มือของฉันไม่สกปรก ฉันต้องเช็ดมัน” เธอกล่าว “สกปรกเหรอครับ?” เขาหัวเราะเบา ๆ ด้วยความตลก “ผมไม่เห็นว่ามันจะสกปรกเลยครับ” เขาก้มหัวลงขณะที่เขาพูด ริมฝีปากของเขาอยู่ติดกับฝ่ามือของเธอ และในตอนนั้นปลายลิ้นของเขาก็เลียเศษข้าวที่มีของเธอ หลิง อีหราน ตัวแข็งทื่อ เธอรู้สึกร้อนที่ฝ่ามือของเธออย่างมาก และการการเลียของเขาเหมือนกับว่าไปสัมผัสกับเส้นประสาทบนฝ่ามือของเธอและความรู้สึกมันกระจ่ายไปทั
เธอต้องการส่งออเดอร์ในส่วนที่เหลือ และเมื่อถึงเวลาทานอาหารกลางวันในเวลาบ่ายสองโมง หลิง อี้หราน กินอะไรได้ไม่มากนักโจว เชียนหยุน กล่าวขึ้นว่า “เป็นอะไรหรือเปล่าเธอกินน้อยจัง เธอไม่ชอบอาหารวันนี้เหรอ?” เมื่อถึงเวลาทานอาหารเที่ยงทุก ๆ คน ในร้านอาหารเล็ก ๆ นี้ จะใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และขอให้เชฟทำอาหารหลาย ๆ อย่างให้พวกเขาได้ทานด้วยกัน“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันคิดว่าเมื่อเช้าก่อนมาทำงานฉันคงกินมามากเกินไป” หลิง อีหราน มองไปที่อาหยันน้อย “ทำไมคุณไม่กินล่ะ? ฉันจะป้อนผลไม้ให้อาหยันน้อยเองนะคะ เพราะตอนนี้ฉันอิ่มแล้วล่ะ”หลิง อี้หราน หยิบแอปเปิลไปปลอกเปลือก จากนั้นเธอก็หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ และป้อนให้อาหยันน้อยเจ้าตัวเล็กอ้าปากอย่างเชื่อฟังและแทะแอปเปิล และในบางครั้งก็ยิ้มให้หลิง อี้หรานหลังจากป้อนผลไม้ให้แล้วเจ้าตัวเล็กก็ง่วงนอน เขาหาวและกางมือออกกว้างแสดงท่าทางเพื่อให้หลิง อี้หราน กอดเขาหลิง อี้หราน อุ้มเจ้าตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนของเธออย่างเป็นธรรมชาติและค่อย ๆ กล่อมให้เขานอนหลับแม้ว่าเจ้าตัวน้อยจะไม่ได้ยินเสียงฮัมเพลงเบา ๆ ของเธอ แต่นิ้วที่อ่อนเยาว์ของเขาค่อย ๆ ปัดเข้ากับริมฝีปากของเธอราวก