ดูเหมือนเขาจะสัมผัสได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ริมฝีปากบางของเขาขยับเล็กน้อย “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ยอมให้ตาแก่นั่นทำอะไรเธอหรอก”เธอหลบตาลงเล็กน้อยและลุกขึ้นเก็บชามที่หมดแล้วไว้ด้านข้าง “พักผ่อนเถอะ ฉันจะกลับห้องตัวเองก่อน”ทว่าก่อนที่เธอจะได้หันไป มือของเขาก็จับแขนเสื้อเธอไว้ เขามองเธอด้วยคางที่เชิดขึ้นเล็กน้อย และมีประกายแวววาวภายในดวงตาสดใสของเขาเธอถาม “อี้จิ่นหลี คุณกำลังทำอะไร?”“เธอมีความรู้สึกบางอย่างให้กับฉันใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่คอยดูแลฉัน ช่วยให้ฉันทานยา ทำโจ๊กให้ฉัน...” น้ำเสียงแหบแห้งดังออกมาจากริมฝีปากของเขาทีละเล็กทีละน้อย สีหน้าของเขาวิงวอนและปรารถนา “หลิงอี้หราน เธอตกหลุมรักฉันใช่ไหม? ฉันไม่เคยคิดเลยว่าฉันจะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้สุดหัวใจขนาดนี้!”เขาเป็นถึงนายน้อยของตระกูลอี้ที่มีเกียรติและสูงส่งสำหรับคนอื่น แต่เขากลับเต็มใจที่จะกล้ำกลืนศักดิ์ศรีทั้งหมดของเขาเพื่อขอความรักจากเธอ!สมองของเธอว่างเปล่าไปในทันที ...กู้ลี่เฉินพยายามตามหาร่องรอยของหลิงอี้หรานผ่านทางทุกเส้นสายที่เขามี แต่ก็ไม่ง่ายเลย เขามีเส้นสาย แต่อี้จิ่นหลีก็มีเช่นกัน แน่นอนว่าอี้จิ่นหลีสามารถหยุดเขาจ
กู้ลี่เฉินรับโทรศัพท์ หลังจากฟังปลายสายไปครู่หนึ่งสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป “ว่าไงนะครับ? ลุงซูหายตัวไปเหรอ?”“ใช่ คุณก็รู้ดีว่าเขามักจะเป็นคนที่บอกให้คนไข้มาที่คลินิกเพื่อรับการรักษา วันนี้จู่ ๆ เขาก็โทรมาหาฉันและบอกว่าเขาจะออกไปดูคนไข้ ซึ่งเขาบอกว่า ใช้เวลาค่อนข้างนาน เขาเลยไม่อยากให้ฉันเป็นห่วง ถึงอย่างนั้นพอฉันโทรไป เขาก็ไม่รับ!” ภรรยาของหมอซูพูดกับกู้ลี่เฉินอย่างเป็นกังวลมาจากปลายสายหมอซูและกู้ลี่เฉินค่อนข้างสนิทกันและพวกเขาก็ไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ ดังนั้นครอบครัวซูจึงมีข้อมูลติดต่อของกู้ลี่เฉิน“ไปดูคนไข้เหรอครับ?” กู้ลี่เฉินหรี่ตานกฟินิกซ์ของเขาลง“ลี่เฉิน คุณคิดว่าลุงซูจะถูกลักพาตัวเพราะว่าไปขัดแข้งขัดขาใครไหม?” คุณนายซูคิดในแง่ร้ายแต่กู้ลี่เฉินกลับคิดไปคนละทางถ้าหลิงอี้หรานไม่ถูกอี้จิ่นหลีพาตัวไป วันนี้คงเป็นวันนัดที่เธอต้องเข้ารับการรักษานิ้วเป็นครั้งที่สอง!‘เป็นไปได้ไหมว่า? อี้จิ่นหลีเป็นคนพาหมอซูไป?’หลังจากคุยกับคุณนายซูจบ กู้ลี่เฉินก็โทรหาคนของเขาทันที “ไปหามาว่าใครพาตัวหมอซูไป”“ครับ” คนของเขาตอบรับ หลังจากวางสาย กู้ลี่เฉินก็ลุกขึ้นและกล่าวกับหวาลี่ฟางว่า “ลี่
“ขอโทษค่ะ หมอซู ฉันไม่คิดว่า... เขาจะพาคุณมาที่นี่ด้วยเหมือนกัน” หลิงอี้หรานกล่าวอย่างอึดอัดใจถึงอย่างนั้นหมอซูก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มอีก อย่างไรเสียด้วยอายุของเขาแล้ว ชายชราก็รับรู้โดยอัตโนมัติว่า บางคำถามไม่ควรถามออกไปดังนั้นเขาจึงกางเครื่องมือที่เขาพกมาด้วยออกแล้วขอให้หลิงอี้หรานยื่นมือขวาออกมา มีดเข็มหลากหลายชนิดที่เรียงรายกันอยู่ทำให้หลิงอี้หรานนึกถึงความรู้สึกเจ็บปวดครั้งล่าสุดที่เธอได้รับจากการรักษา และนั่นก็ทำให้เธอตัวสั่นเมื่อหมอซูกำลังจะปักมีดเข็มลงไปบนหลังมือของหลิงอี้หราน อี้จิ่นหลีก็จับข้อมือของหมอซูไว้ทันที “นี่อะไร?”“การรักษาไงล่ะ คิดว่าอะไร?” หมอซูขุ่นขึ้ง เขาเกลียดการโดนขัดจังหวะระหว่างทำการรักษาที่สุด“ถ้าใช้เข็มในการรักษาแล้วทำไมถึงไม่ทายาชาให้เธอก่อนล่ะ?” อี้จิ่นหลีถามพลางขมวดคิ้ว“ถ้าทายาชาก็ไม่เห็นการตอบสนองของนิ้วเธอน่ะสิ ฉันต้องการการตอบสนองตามปกติของเธอเพื่อทำการรักษา!” หมอซูกล่าวอี้จิ่นหลีก็ยังคงไม่แน่ใจ “แต่เข็มพวกนี้...”หลิงอี้หรานเงยหน้ามองอี้จิ่นหลีและพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก ฉันเคยทำแล้ว อีกอย่าง หลังจากรักษาเสร็จ ไม่นานอาการเจ็บก็หายไปแล้ว”‘
ครั้งก่อนเธอก็ข่วนกู้ลี่เฉินไปทีหนึ่งแล้ว“ปละ... ปล่อยเถอะ” ตอนที่หมอซูกำลังเปลี่ยนมีดเข็ม หลิงอี้หรานก็กล่าวกับอี้จิ่นหลี “พอฉันเจ็บเดี๋ยวคุณจะได้แผลไปด้วย”“แล้วไง?” อี้จิ่นหลียกมืออีกข้างที่ไม่ได้จับมือเธอขึ้นมาเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน “กู้ลี่เฉินเจ็บตัวเพื่อเธอได้ แต่ฉันทำไม่ได้หรือไง?”หลิงอี้หรานตัวแข็งไปในทันที ถึงอย่างนั้นก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรอีก เข็มของหมอซูก็ปักลงบนหลังมือเธออีกครั้ง‘เจ็บ... เจ็บจังเลย...’เธอทำได้เพียงกัดฟันทนกับความเจ็บนั้นหน้าผากของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่ออีกครั้งอย่างรวดเร็วหลังจากที่เพิ่งเช็ดจนแห้งไปเมื่อครู่ หยดเหงื่อไหลลงจากแก้มของเธออี้จิ่นหลีเพียงแค่มองหลิงอี้หรานเท่านั้น ตอนนี้เล็บของเธอยังคงขีดข่วนและกดลึกลงไปในเนื้อหนังของเขาเพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น แต่เขาดูเหมือนจะไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเลย แม้กระทั่งเลือดจะไหลซึมออกมาจากหลังมือของเขาจนเห็นได้ชัดแล้วก็ตามหรือจะให้กล่าวว่า ทุกอย่างที่เขาสนใจในตอนนี้มีเพียงหลิงอี้หรานเท่านั้นใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด หลิงอี้หรานสะกดกลั้นและอดทนกับความเจ็บอย่างสุดกำลัง เธอขบฟันแน่นจน
เขารู้เพียงว่า เธอต้องเผชิญกับความเจ็บปวดแสนสาหัสตอนที่อยู่ในคุก แต่เมื่อเห็นสภาพที่เธอเจ็บปวดในตอนนี้ มันทำให้เขาเห็นว่าเธอเจ็บปวดแบบไหนได้ดียิ่งขึ้นหัวใจของเขาบอบช้ำ และดูเหมือนว่าในตอนนี้ แค่หายใจก็ยังเจ็บปวดเขาเสียใจที่ขังเธอไว้อย่างเลือดเย็น และยังยินยอมให้คนพวกนั้นทรมานเธอนับครั้งไม่ถ้วนไปโดยปริยาย แต่ไม่มีครั้งไหนรุนแรงเท่าตอนนี้ ใช่ เขาเสียใจมากเหลือเกินเขาย่อตัวลง ยกมือของเธอขึ้นมา แล้วจุมพิตปลายนิ้วของเธอ “ฉันอยากให้ตัวเองได้ตกหลุมรักเธอก่อนที่เธอจะโดนขัง”เสียงที่คล้ายกับสายลมของเขาฟังราวกับมีก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่คอถ้าเขาย้อนเวลากลับไปได้ เขาอยากจะปรากฏตัวต่อหน้าเธอ ก่อนที่เธอจะเข้าคุก เขาจะทำทุกอย่างด้วยอำนาจของเขาเพื่อล้างมลทินให้ชื่อของเธอ และคอยปกป้องไม่ให้เธอเจ็บปวดแม้แต่น้อยแต่ตอนนี้สายไปแล้วหลิงอี้หรานมองไปยังชายหนุ่มที่จุมพิตปลายมือของเธอความอบอุ่นจากริมฝีปากของเขาสัมผัสกับปลายนิ้วของเธอและดูเหมือนว่าร่างกายของเขาก็ร้อนรุ่มไม่แพ้กัน“อี้จิ่นหลี คุณ...”“ฉันผิดไปแล้ว” เขาพึมพำขัดเธอเขาไม่เคยยอมรับความผิดของตัวเองต่อหน้าใคร แต่ตอนนี้เขาพูดว่า “อี้
เขาจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจอีก! ...หมอซูถูกส่งตัวกลับไปยังบ้านของครอบครัวซูกู้ลี่เฉินมาที่บ้านของครอบครัวซูแทบจะทันทีที่ได้ข่าว“ลุงซู วันนี้พวกเขาพาลุงไปที่ไหนมา?” กู้ลี่เฉินไม่ได้ปกปิดความวิตกกังวลบนใบหน้าของเขาแม้แต่น้อยหมอซูถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ขณะมองไปที่กู้ลี่เฉิน จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกู้ลี่เฉินแสดงความวิตกกังวลออกมาหลังจากรู้จักกันมาหลายปีความวิตกกังวลนี้คงเป็นเพราะ... “คุณเป็นแบบนี้เพราะเด็กสาวที่ชื่อหลิงอี้หรานใช่ไหม?” รูม่านตาของกู้ลี่เฉินหดตัวในทันที “วันนี้ลุงไปรักษามือให้อี้หรานมาจริงใช่ไหม?” เขาถาม หมอซูกล่าวว่า “ใช่สิ! นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ตาแก่อย่างฉันโดนปิดตาแบบนั้น! มีผู้ชายอยู่เด็กคนนั้นตลอดเวลาเลย เห็นว่าชื่ออี้อะไรนี่แหละ คนนั้นใช่อี้จิ่นหลีหรือเปล่า?”กู้ลี่เฉินเม้มริมฝีปากบางของเขา “ใช่ เขาคืออี้จิ่นหลี”“งั้นเธอก็เจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อดีนะ” หมอซูพูด ‘ตกหลุมรักเด็กสาวที่ชื่อหลิงอี้หราน ไม่ว่าเธอจะตกหลุมรักใครยังไงก็ต้องมีคนเจ็บ’ กู้ลี่เฉินถาม “ลุงรู้ไหมครับว่าเขาพาลุงไปที่ไหน?” “ฉันโดนปิดตาไปตลอดทาง รถขับไปประมาณ 20 นาท
“อ๊าย!” จู่ ๆ หลิงอี้หรานก็ลืมตาขึ้นและลุกขึ้นนั่งบนเตียงฝันร้าย? ฝันร้ายอีกแล้วเหรอ?เธอหอบหายใจ แล้วเสียงพูดอันสง่างามก็ดังขึ้นในหูของเธอเบา ๆ “เธอฝันอะไร?”หลิงอี้หรานหันไปมองอย่างรวดเร็ว และเห็นใบหน้าของอี้จิ่นหลีเธอกล่าวว่า “ไม่... ไม่มีอะไร! ป่านนี้แล้วทำไมคุณถึงยังอยู่ในห้องฉันล่ะ?”“ฉันนอนไม่หลับ” เขากล่าวพลางยกมือขึ้นซับเหงื่อตรงหน้าผากด้วยทิชชู “เธอเหงื่อแตกมากเลย ออกมามากกว่าตอนที่รักษามือเมื่อตอนกลางวันซะอีก เธอฝันถึงเรื่องตอนที่เธอถูกขังเหรอ?” เธอตัวแข็งทื่อในทันที และเบิกตากว้างอย่างแปลกใจ ขณะที่เธอมองเขา ‘เขา... รู้เหรอ?’“เธอละเมอพูดออกมาเป็นคำ ๆ ตอนหลับ ฉันก็เลยรู้” เขาบอก และเพราะเขาได้รู้บางส่วน นั้นจึงทำให้เขายิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นใบหน้าอับจนหนทางและเจ็บปวดของเธอระหว่างที่เธอหลับเมื่อได้ยินอย่างนั้น หลิงอี้หรานก็ยิ้มแห้ง คราวก่อนเธออยู่ใกล้ ๆ และได้ยินเขาเรียกหาพ่อกับแม่ระหว่างที่ป่วย แต่คราวนี้สลับกัน“ก็แค่ฝันถึงตอนที่อยู่ในคุก ฉันฝันถึงมันบ่อย ๆ น่ะ แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ” เธอพูดอย่างแผ่วเบาเขาเม้มปากบางเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาแบบ
จนแล้วจนรอดหัวใจของเขาก็ยังคงรักเพียงเธอ“อี้หราน ฉันหวังว่าเธอจะโอบกอดเพียงแค่ฉันและกอดกับฉันเท่านั้น ฉันจะทะนุถนอมเธอยิ่งกว่าใคร ๆ ...” อี้จิ่นหลีพูดขณะง่วงและค่อย ๆ หลับไปการจับมือเธอไว้แบบนี้ทำให้เขารู้สึกสบายใจและปลอดภัยหลังจากนั้นสักพัก หลิงอี้หรานก็ค่อย ๆ หันหน้าไปมองอี้จิ่นหลีที่นอนหลับอยู่บนพื้น ...หลิงอี้หรานไม่รู้ว่าเธอเผลอหลับไปตอนไหน สิ่งที่เธอจำได้ดูเหมือนจะมีแค่เธอกำลังมองหน้าอี้จิ่นหลีตอนหลับ และระหว่างที่มอง... เธอก็เผลอหลับไป งั้นเหรอ?ดีที่ตอนนี้อี้จิ่นหลีไม่ได้อยู่ในห้อง นั่นเลยช่วยให้เธอไม่ต้องอับอายหลิงอี้หรานลุกออกจากเตียงและไปล้างหน้าล้างตา เธอเดินออกจากห้องลงไปชั้นล่าง และเห็นอี้จิ่นหลีอยู่ในห้องครัวกำลังเตรียมอาหารเช้า“ตื่นแล้วเหรอ เดี๋ยวอาหารเช้าก็เสร็จแล้วล่ะ” อี้จิ่นหลีกล่าวเธอมองเขาที่กำลังวุ่นวายอยู่ในครัว ช่วงสองสามวันที่เธอมาอยู่ที่นี่ เขาเป็นคนเตรียมอาหารทั้งหมด ยกเว้นตอนที่เขาป่วยที่เธอเป็นคนเตรียมอาหารแทนถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่เคยดูเขาตอนเตรียมอาหารเลย ตอนนี้มันเลยเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับเธอเป็นไปตามที่เขาพูด ทุกอย่างเตรียมเสร็จในไม่ก