“เธอปฏิเสธลี่เฉินเหรอ?” แซมหันไปถามอี้หรานด้วยความประหลาดใจอี้หรานทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที ยิ่งกว่านั้น ลี่เฉินนั่งอยู่ต่อหน้าเธอนี่เองแซมยังไม่หยุดละเลงเครื่องสำอางบนใบหน้าหวานขณะที่หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก “เธอกล้ามากนะ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นผู้หญิงกล้าปฏิเสธลี่เฉิน”“นายดูพอใจที่ฉันโดนเทนะ?” ลี่เฉินเหลือบตามาทางแซม“ก็ฉันไม่เคยเห็นนี่ นี่มันเรื่องใหม่เลยนะเนี่ย” แซมยกยิ้ม ปากคุยไปด้วยโดยไม่ได้หยุดมือ เมื่อรถมาจอดที่ทางเข้างานเลี้ยง ทั้งหน้าและผมของอี้หรานก็เสร็จเรียบร้อยพอดี!“ฉันไม่ได้เตรียมชุดมาให้ เห็นนายบอกว่ามีชุดแล้ว” แซมหันไปมองลี่เฉินชายหนุ่มส่งชุดราตรีที่อยู่ในถุงคลุมเสื้อผ้าให้แก่อี้หราน “ชุดอยู่ในถุง ขนาดน่าจะพอดีกับคุณ คุณเปลี่ยนชุดบนรถได้เลย เดี๋ยวพวกผมลงไปก่อน!”พูดจบก็หันไปสั่งให้ทุกคนออกจากรถ ยกเว้นหลิง อี้หรานหญิงสาวเปิดถุงออก มีชุดราตรียาวอยู่ด้านใน สิ่งที่เห็นทำเอาม่านตาหญิงสาวสั่นริก รู้สึกแสบตาเล็กน้อยสิ่งนี้คือ… ชุดราตรีสีม่วงที่กระโปรงปักเป็นลวดลายผีเสื้อและดอกไม้อย่างงดงาม ชุดนี้เหมือนกับชุดที่เขาเคยเล่าให้เธอฟัง… สมัยที่พวกเขายังเด็กเขาบอกว่า
ลี่เฉินอ่อนโยนเหมือนกลัวว่าถ้ากอดแน่นขึ้นอีกนิดแล้วจะทำให้คนในอ้อมกอดแหลกสลายไป“ขอโทษที…” เสียงกระซิบจากชายหนุ่มดังอยู่ข้างหู “อี้หราน ผมขอ…อยู่อย่างนี้สักพักได้ไหม?” เขาพูดอุบอิบ น้ำเสียงปนสะอื้นน้อย ๆ ราวกับกำลังเอ่ยปากขอร้องในตอนนี้ ลี่เฉินแทบจะเหมือนคนสิ้นท่าเขาคือเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงที่สูงส่งและมีอิทธิพลในวงการมากมาย จะมีตอนไหนบ้างที่เขาต้องมาขอร้องคนอื่นเช่นนี้?หลิง อี้หรานรู้สึกเหมือนมีบางอย่างติดอยู่ในใจ หญิงสาวไม่ได้ขยับตัว เพียงแค่ยืนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มเท่านั้นเขากอดเธออย่างอ่อนโยน ราวกับกำลังโอบกอดภาพฝันอันสวยงาม ทั้งสองใกล้กันจนอี้หรานได้กลิ่นจาง ๆ จากชายหนุ่ม แล้วยังสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจอีกฝ่ายผ่านไปครู่ใหญ่ ลี่เฉินก็ผละออกชายหนุ่มเอ่ยขอโทษอีกครั้ง “ขอโทษที ผมหุนหันไปหน่อย… ที่ทำไปเมื่อกี้ แล้วก็ดันสับสนว่าคุณเป็น…ใครอีกคน”“ไม่เป็นไรค่ะ” อี้หรานตอบ เข้าใจดีว่าอีกฝ่ายหมายถึงใคร“ผมจะไม่ทำอีก” ดวงตาคมกริบของชายหนุ่มจ้องมองมาพร้อมเอ่ยอย่างหนักแน่น “ผมจะไม่สับสนระหว่างคุณกับใครอีก คุณคือหลิง อี้หราน อี้หรานที่มีเพียงแค่คนเดียวบนโลก”‘แ
“ฉันเอง… ฮี่ ๆ ได้ยินมาว่ามีคนดังมางานเยอะมาก ฉันเลยขอให้ทิงซินพาฉันมาด้วย” ชิน เหลียนอีหัวเราะแห้ง ๆ นึกเขินอายขึ้นมาเมื่อบอกเพื่อนสนิทว่าเธอ ‘ขอ’ แฟนหนุ่ม ที่ต้องแลกมาด้วยการทั้งหอมทั้งจุ๊บ ก่อนที่ทิงซินจะยอมอนุมัติหลังจากผ่านค่ำคืนแสนสุขไปด้วยกันแน่นอนว่าไป๋ ทิงซินยื่นเงื่อนไขให้เธอก่อนมางาน เธอไม่ได้รับอนุญาตให้กรี๊ดตอนเจอเหล่าหนุ่มคนดัง ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปขอลายเซ็น รวมถึงไม่ได้รับอนุญาตให้ไปขอถ่ายรูปคู่ด้วยเหลียนอีตอบตกลงอย่างลังเล แต่คิดว่าแค่ได้เห็นก็ดีพอแล้วอย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้คาดว่าจะมาเจอเพื่อนสนิทที่นี่ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับ… เหลียนอีมองกู้ ลี่เฉินอย่างพิจารณาเธอจำเขาได้ทันทีเนื่องจากเป็นแฟนตัวยง!เจ้าชายแห่งวงการมายา! ผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังดาวรุ่งชื่อดังมากมาย! ว่ากันว่าถ้าเขาเป็นป๋าดันให้ แม้แต่หมูก็กลายเป็นดาราดังได้!“อี้หราน เธอมาทำอะไรที่นี่? เธอกับ-”“ฉันอยากมาเจอคนบางคน ก็เลยขอให้คุณกู้พามาด้วย” อี้หรานรีบอธิบาย“เจอคน? ใครกัน?” เหลียนอีถามอย่างใคร่รู้ ‘เท่าที่ฉันรู้ อี้หรานไม่ใช่แฟนคลับใครนี่นา! เธอคงไม่ได้มาเพราะอยากได้ลายเซ็นใครหรอกมั้ง?’
วงไอดอลชายส่วนมากมักจะมาจากบริษัทกู้กรุ๊ปชิน เหลียนอีพร่ำบอกทิงซินอยู่ตลอดว่า เขาคือผู้ชายที่หล่อและหน้าตาดีที่สุด และเธอก็ชอบเขาจนแทบบ้า แต่ถึงอย่างนั้นแฟนสาวของเขาก็ยังเอาแต่ดูวิดีโอนักร้องพวกนั้นอยู่เรื่อย ๆ ส่วนเขาเองได้แต่นั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความหึงหวงหากทิงซินพยายามจะเอามือถือของเหลียนอีไปซ่อน หญิงสาวจะรีบทำหน้าตาน่าสงสารพร้อมทั้งบอกว่า นี่เป็นเพียงงานอดิเรกเดียวที่เธอชอบ และเมื่อเขาได้ฟังคำพูดของเธอ เขาก็เกิดรู้สึกละอายใจขึ้นมาที่ใช้วิธีบังคับเธอแบบนี้ไป๋ ทิงซินโดนชิน เหลียนอีปั่นหัวเล่นจนละเอียด!“ไม่คิดเลยว่าคุณจะสนใจอะไรแบบนี้ด้วยนะครับ ประธานไป๋” กู้ ลี่เฉินเอ่ยมุมปากของไป๋ ทิงซินกระตุก “ผมแค่เห็นว่ามีวงนักร้องชายอยู่มาก แต่พวกเขาดูคล้ายกันไปหมด ผมว่าบริษัทคุณน่าจะลองทำวงผู้หญิงดูบ้างนะครับ”ชิน เหลียนอีไม่ได้ชอบผู้หญิง ดังนั้นต่อให้กู้กรุ๊ปทำเกิร์ลกรุ๊ปก็ไม่เป็นไรกู้ ลี่เฉินเลิกคิ้ว แลดูประหลาดใจที่ได้ยินอะไรแบบนี้จากปากไป๋ ทิงซิน“คุณดูสนใจธุรกิจบันเทิงนะครับประธานไป๋ ชอบดูวงนักร้องหญิงหรือเปล่าครับ?”ก่อนที่ไป๋ ทิงซินจะทันได้ตอบ เสียงของเหลียนอีก็ดังแทร
การแต่งหน้าอ่อน ๆ เช่นนี้รวมกับชุดราตรียาวที่สวมใส่ ช่วยกันขับให้อี้หรานดูสวยราวกับเป็นดาวเด่นของเมืองในขณะที่หวา ลี่ฟางกลับต้องพยายามแต่งหน้าแต่งตัวอย่างหนัก เธอมีช่างแต่งหน้าฝีมือดีคอยช่วยแปลงโฉม แต่ลี่ฟางก็ยังคงถูกค่อนขอดเป็นประจำเรื่องที่มีพื้นหลังเป็นหญิงชนบท แม้แต่เงินก็ดูเหมือนจะช่วยปิดกลิ่นโคลนสาบควายได้ไม่มิด!‘ทำไมมันถึงดูต่างกันขนาดนี้? ตอนเด็ก ๆ พวกเราเคยหน้าคล้ายกัน จนบางครั้งคนเข้าใจว่าเราสองคนเป็นฝาแฝด! ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ ฉันคงเอารูปตัวเองตอนเด็ก ๆ มาหลอกกู้ ลี่เฉินไม่ได้!’‘แต่ยิ่งโตขึ้น ฉันก็ยิ่งเหมือนอี้หรานน้อยลงเรื่อย ๆ ! อี้หรานสวยสะพรั่งขึ้น ในขณะที่ฉันก็หน้าจืดลงทุกวัน ตาฉันไม่ได้โตแบบนั้น สันจมูกไม่ได้เรียวสวย แม้แต่ผิวฉันก็ไม่ละเอียดเท่าของเธอ!’ความเกลียดชังค่อย ๆ เติบโตขึ้นในความคิดของหวา ลี่ฟาง“ฉันมาที่นี่กับเขาไม่ได้เหรอ?” อี้หรานนึกขำแล้วย้อนถามลี่ฟางอีกฝ่ายทำราวกับว่าถูกเธอขโมยของมีค่าไป ราวกับว่าหลิง อี้หรานคือหัวขโมยแต่ใครกันแน่ที่เป็นหัวขโมยตัวจริง?คนบางคนอาจอ้างได้ว่าสิ่งที่พวกเขาขโมยมาได้ครั้งหนึ่งนั้นเคยเป็นของตนเมื่อนานมาแล้ว!หวา ล
หวา ลี่ฟางมองดูภาพที่กู้ ลี่เฉินมองตามแผ่นหลังของหลิง อี้หรานอย่างนึกอิจฉา “อยากรู้นักว่าตอนนี้ความสัมพันธ์อี้หรานกับอี้ จิ่นหลีคืออะไร? ได้ข่าวว่าสองคนนั้นยังติดต่อกันอยู่ถึงจะเลิกกันไปแล้ว”ประโยคหลังลี่ฟางจงใจใส่สีลงไปเอง หวังให้กู้ ลี่เฉินมองอี้หรานเปลี่ยนไปทว่า เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด กู้ ลี่เฉินกลับหันมาใช้สายตาเย็นชาทิ่มแทงเธอหวา ลี่ฟางสั่นสะท้าน รู้สึกถูกมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง “ลี่ฟาง คุณน่าจะรู้นะว่าผมรักอี้หราน ขอทีอย่าพูดจาแย่ ๆ ถึงอี้หรานให้ผมได้ยินอีก” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเย็นลี่ฟางอ้ำอึ้ง “ฉัน… เปล่านะ ฉันแค่-”“คุณแค่อะไร?” ดวงตาคมกริบคู่นั้นไม่ปรากฏอารมณ์ใด ๆ รวมถึงน้ำเสียงเย็นชาที่เขาใช้ ทั้งหมดนี้ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูกดดันหวา ลี่ฟางสะดุ้งเล็กน้อย นับตั้งแต่ตัวเธอสวมรอยเป็นอี้หราน กู้ ลี่เฉินก็เปลี่ยนมาปฏิบัติกับเธออย่างสุภาพและอ่อนโยน เขายอมอดกลั้นไว้เสมอยามที่เธอทำอะไรพลาดไปทว่าตอนนี้ เขาช่างเย็นชายิ่งนัก!ทันใดนั้นลี่ฟางก็นึกถึงคอมเมนท์หนึ่งที่พูดเกี่ยวกับลี่เฉิน ที่เธอบังเอิญอ่านเจอบนโลกออนไลน์‘เฉยเมย, ใจดำ, กักขฬะ… บางทีนี่คงเป็นตัวตนที่แท้จริงของล
หลิง อี้หรานตรงเข้าไปทักทายเย่ เหวินหมิงและคง จื่ออิน “สวัสดีค่ะ คุณเย่ คุณคง!”“เธอนี่เอง” เย่ เหวินหมิงมองดูหญิงสาวตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เขาเคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อนหลายครั้ง และจำได้แม่นว่านี่คือผู้หญิงของอี้ จิ่นหลี!ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็นคนพาหยันน้อยมาด้วยในคราวก่อน หรือจะพูดให้ถูกคือ ผู้หญิงคนนี้รู้จักกับโจว เชียนหยุนโจว เชียนหยุนแวบเข้ามาในความคิดของเย่ เหวินหมิงทันที“ฉันหลิง อี้หราน เป็นทนายของคุณโจว เชียนหยุนในคดีสิทธิ์เลี้ยงดูค่ะ” อี้หรานแนะนำตัวหลังจากที่เอ่ยชื่อของโจว เชียนหยุน สีหน้าของคง จื่ออินก็เปลี่ยนไปทันที “แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่? โจว เชียนหยุนขอให้คุณมาขอร้องแทนหรือเปล่า? เรื่องสิทธิ์เลี้ยงดู พวกเราไม่ถอยแน่ อยู่กับเชียนหยุนไปหยันน้อยคงมีชีวิตที่ลำบาก”หลิง อี้หรานมองหน้าคง จื่ออิน จื่ออินไม่ใช่คนประเภทสวยสะดุดตา แต่ก็ยังนับว่าดูดี มีภาพลักษณ์บอบบางทำให้ผู้ชายรู้สึกอยากปกป้อง“เปล่าค่ะ คุณโจวไม่ได้ส่งฉันมาขอร้องหรืออะไรทั้งนั้น แต่ฉันมาเพื่อพบคุณค่ะ คุณคง” อี้หรานพูดขณะจับจ้องไปที่คง จื่ออิน“ฉัน?” จื่ออินชะงักเล็กน้อย “ฉันไม่คิดว่าฉันมีอะไรจะคุยกับคุ
เท่าที่อี้หรานสืบทราบมา เย่ เหวินหมิงเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี เธอจึงหวังว่าสิ่งที่พูดไปจะทำให้อะไร ๆ มันเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่อย่างนั้น เธอคงต้องขอให้ไป๋ ทิงซินช่วยหางานอื่นให้พี่โจวทำเมื่ออี้หรานเดินจากไป เย่ เหวินหมิงรีบหันไปมองคง จื่ออินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “คุณทำแบบนั้นทำไม?”คง จื่ออินหน้าซีด กัดริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสด ก่อนเอ่ยตอบ “ฉันแค่… อยากจะช่วยคุณ คุณดูอยากได้สิทธิ์เลี้ยงดูมาก ถ้า… ถ้าเกิดโจว เชียนหยุนมีรายรับไม่เพียงพอ ศาลก็คง… ไม่อนุมัติให้หล่อนได้สิทธิ์เลี้ยงดูไป”เย่ เหวินหมิงเม้นปากแน่น นัยน์ตาดำสนิทจ้องมองคง จื่ออินอย่างเคร่งเครียด คง จื่ออินร้อนตัวอยู่ในใจ รู้สึกราวกับถูกสายตาคู่นั้นจ้องมองอย่างทะลุปรุโปร่ง ความจริงแล้วเธอไม่ได้ส่งคนไปก่อกวนโจว เชียนหยุนเพราะเรื่องคดีความสิทธิ์เลี้ยงดูหยันน้อย แต่เพราะเธอต้องการระบายความแค้นส่วนตัวย้อนกลับไปตอนนั้น เย่ เหวินหมิงหนีออกไปจากงานเลี้ยงเพราะโจว เชียนหยุนและไอ้เด็กผีนั่น ทั้งที่กำลังจะถึงช่วงประกาศวันที่จัดงานแต่งงานของเขาและจื่ออิน จนทำให้เธอต้องกลายเป็นตัวตลกของสังคม! “อย่ามาล้ำเส้นผมอีก แล้วก็เลิกยุ่งกับ