การแต่งหน้าอ่อน ๆ เช่นนี้รวมกับชุดราตรียาวที่สวมใส่ ช่วยกันขับให้อี้หรานดูสวยราวกับเป็นดาวเด่นของเมืองในขณะที่หวา ลี่ฟางกลับต้องพยายามแต่งหน้าแต่งตัวอย่างหนัก เธอมีช่างแต่งหน้าฝีมือดีคอยช่วยแปลงโฉม แต่ลี่ฟางก็ยังคงถูกค่อนขอดเป็นประจำเรื่องที่มีพื้นหลังเป็นหญิงชนบท แม้แต่เงินก็ดูเหมือนจะช่วยปิดกลิ่นโคลนสาบควายได้ไม่มิด!‘ทำไมมันถึงดูต่างกันขนาดนี้? ตอนเด็ก ๆ พวกเราเคยหน้าคล้ายกัน จนบางครั้งคนเข้าใจว่าเราสองคนเป็นฝาแฝด! ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ ฉันคงเอารูปตัวเองตอนเด็ก ๆ มาหลอกกู้ ลี่เฉินไม่ได้!’‘แต่ยิ่งโตขึ้น ฉันก็ยิ่งเหมือนอี้หรานน้อยลงเรื่อย ๆ ! อี้หรานสวยสะพรั่งขึ้น ในขณะที่ฉันก็หน้าจืดลงทุกวัน ตาฉันไม่ได้โตแบบนั้น สันจมูกไม่ได้เรียวสวย แม้แต่ผิวฉันก็ไม่ละเอียดเท่าของเธอ!’ความเกลียดชังค่อย ๆ เติบโตขึ้นในความคิดของหวา ลี่ฟาง“ฉันมาที่นี่กับเขาไม่ได้เหรอ?” อี้หรานนึกขำแล้วย้อนถามลี่ฟางอีกฝ่ายทำราวกับว่าถูกเธอขโมยของมีค่าไป ราวกับว่าหลิง อี้หรานคือหัวขโมยแต่ใครกันแน่ที่เป็นหัวขโมยตัวจริง?คนบางคนอาจอ้างได้ว่าสิ่งที่พวกเขาขโมยมาได้ครั้งหนึ่งนั้นเคยเป็นของตนเมื่อนานมาแล้ว!หวา ล
หวา ลี่ฟางมองดูภาพที่กู้ ลี่เฉินมองตามแผ่นหลังของหลิง อี้หรานอย่างนึกอิจฉา “อยากรู้นักว่าตอนนี้ความสัมพันธ์อี้หรานกับอี้ จิ่นหลีคืออะไร? ได้ข่าวว่าสองคนนั้นยังติดต่อกันอยู่ถึงจะเลิกกันไปแล้ว”ประโยคหลังลี่ฟางจงใจใส่สีลงไปเอง หวังให้กู้ ลี่เฉินมองอี้หรานเปลี่ยนไปทว่า เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด กู้ ลี่เฉินกลับหันมาใช้สายตาเย็นชาทิ่มแทงเธอหวา ลี่ฟางสั่นสะท้าน รู้สึกถูกมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง “ลี่ฟาง คุณน่าจะรู้นะว่าผมรักอี้หราน ขอทีอย่าพูดจาแย่ ๆ ถึงอี้หรานให้ผมได้ยินอีก” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเย็นลี่ฟางอ้ำอึ้ง “ฉัน… เปล่านะ ฉันแค่-”“คุณแค่อะไร?” ดวงตาคมกริบคู่นั้นไม่ปรากฏอารมณ์ใด ๆ รวมถึงน้ำเสียงเย็นชาที่เขาใช้ ทั้งหมดนี้ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูกดดันหวา ลี่ฟางสะดุ้งเล็กน้อย นับตั้งแต่ตัวเธอสวมรอยเป็นอี้หราน กู้ ลี่เฉินก็เปลี่ยนมาปฏิบัติกับเธออย่างสุภาพและอ่อนโยน เขายอมอดกลั้นไว้เสมอยามที่เธอทำอะไรพลาดไปทว่าตอนนี้ เขาช่างเย็นชายิ่งนัก!ทันใดนั้นลี่ฟางก็นึกถึงคอมเมนท์หนึ่งที่พูดเกี่ยวกับลี่เฉิน ที่เธอบังเอิญอ่านเจอบนโลกออนไลน์‘เฉยเมย, ใจดำ, กักขฬะ… บางทีนี่คงเป็นตัวตนที่แท้จริงของล
หลิง อี้หรานตรงเข้าไปทักทายเย่ เหวินหมิงและคง จื่ออิน “สวัสดีค่ะ คุณเย่ คุณคง!”“เธอนี่เอง” เย่ เหวินหมิงมองดูหญิงสาวตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เขาเคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อนหลายครั้ง และจำได้แม่นว่านี่คือผู้หญิงของอี้ จิ่นหลี!ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็นคนพาหยันน้อยมาด้วยในคราวก่อน หรือจะพูดให้ถูกคือ ผู้หญิงคนนี้รู้จักกับโจว เชียนหยุนโจว เชียนหยุนแวบเข้ามาในความคิดของเย่ เหวินหมิงทันที“ฉันหลิง อี้หราน เป็นทนายของคุณโจว เชียนหยุนในคดีสิทธิ์เลี้ยงดูค่ะ” อี้หรานแนะนำตัวหลังจากที่เอ่ยชื่อของโจว เชียนหยุน สีหน้าของคง จื่ออินก็เปลี่ยนไปทันที “แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่? โจว เชียนหยุนขอให้คุณมาขอร้องแทนหรือเปล่า? เรื่องสิทธิ์เลี้ยงดู พวกเราไม่ถอยแน่ อยู่กับเชียนหยุนไปหยันน้อยคงมีชีวิตที่ลำบาก”หลิง อี้หรานมองหน้าคง จื่ออิน จื่ออินไม่ใช่คนประเภทสวยสะดุดตา แต่ก็ยังนับว่าดูดี มีภาพลักษณ์บอบบางทำให้ผู้ชายรู้สึกอยากปกป้อง“เปล่าค่ะ คุณโจวไม่ได้ส่งฉันมาขอร้องหรืออะไรทั้งนั้น แต่ฉันมาเพื่อพบคุณค่ะ คุณคง” อี้หรานพูดขณะจับจ้องไปที่คง จื่ออิน“ฉัน?” จื่ออินชะงักเล็กน้อย “ฉันไม่คิดว่าฉันมีอะไรจะคุยกับคุ
เท่าที่อี้หรานสืบทราบมา เย่ เหวินหมิงเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี เธอจึงหวังว่าสิ่งที่พูดไปจะทำให้อะไร ๆ มันเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่อย่างนั้น เธอคงต้องขอให้ไป๋ ทิงซินช่วยหางานอื่นให้พี่โจวทำเมื่ออี้หรานเดินจากไป เย่ เหวินหมิงรีบหันไปมองคง จื่ออินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “คุณทำแบบนั้นทำไม?”คง จื่ออินหน้าซีด กัดริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสด ก่อนเอ่ยตอบ “ฉันแค่… อยากจะช่วยคุณ คุณดูอยากได้สิทธิ์เลี้ยงดูมาก ถ้า… ถ้าเกิดโจว เชียนหยุนมีรายรับไม่เพียงพอ ศาลก็คง… ไม่อนุมัติให้หล่อนได้สิทธิ์เลี้ยงดูไป”เย่ เหวินหมิงเม้นปากแน่น นัยน์ตาดำสนิทจ้องมองคง จื่ออินอย่างเคร่งเครียด คง จื่ออินร้อนตัวอยู่ในใจ รู้สึกราวกับถูกสายตาคู่นั้นจ้องมองอย่างทะลุปรุโปร่ง ความจริงแล้วเธอไม่ได้ส่งคนไปก่อกวนโจว เชียนหยุนเพราะเรื่องคดีความสิทธิ์เลี้ยงดูหยันน้อย แต่เพราะเธอต้องการระบายความแค้นส่วนตัวย้อนกลับไปตอนนั้น เย่ เหวินหมิงหนีออกไปจากงานเลี้ยงเพราะโจว เชียนหยุนและไอ้เด็กผีนั่น ทั้งที่กำลังจะถึงช่วงประกาศวันที่จัดงานแต่งงานของเขาและจื่ออิน จนทำให้เธอต้องกลายเป็นตัวตลกของสังคม! “อย่ามาล้ำเส้นผมอีก แล้วก็เลิกยุ่งกับ
หลิง อี้หรานรู้จักเพื่อนสนิทของตัวเองดี ว่าถึงเหลียนอีจะเป็นแฟนเกิร์ลตัวยง แต่เธอแค่ชื่นชมคนดังที่เธอชอบเท่านั้น ไป๋ ทิงซินคือคนเดียวที่เหลียนอีรักทิงซินเองก็คงรักเหลียนอีมากเช่นกัน ถึงได้ยอมอดทนเพื่อพาเหลียนอีมาที่นี่อี้หรานนึกดีใจกับเพื่อนสนิท เหลียนอีโชคดีที่ได้เจอกับคนใจกว้าง และหวังว่าเพื่อนสนิทจะมีความสุขแบบนี้ต่อไปเมื่อเห็นว่าเหลียนอีคุยกับคนดังเสร็จเรียบร้อย อี้หรานจึงตรงเข้าไปหา “ฉันจะกลับแล้ว เลยแวะมาบอกลาเธอสักหน่อย”“จะกลับแล้วเหรอ? ทำไมไม่อยู่ต่ออีกสักหน่อยก่อนล่ะ? คนเราไม่ได้เดินกระทบไหล่คนดังได้ทุกวันแบบนี้นะ” ชิน เหลียนอีตอบ“เธออยู่เลย ฉันไม่ได้ชอบพวก เอ่อ… ดารา ขนาดนั้น” อี้หรานบอกเหลียนอีเห็นด้วย จึงไม่ได้รั้งเพื่อนสนิท กลับพูดเพียงแค่ “เธอเจอคง จื่ออินกับเย่ เหวินหมิงแล้วใช่ไหม?”“เจอแล้ว แล้วก็คุยด้วยเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ไว้เรารอดูว่า หลังจากนี้จะมีใครมากวนอะไรพี่โจวอีกหรือเปล่า” อี้หรานบอกไป จากนั้นจึงลดเสียงเป็นการกระซิบแทน “เธอเป็นติ่งแล้วก็อย่าลืมนึกถึงความรู้สึกแฟนตัวเองด้วยนะจ๊ะ”“ใจเย็นน่า ทิงซินใจกว้างจะตาย” เหลียนอีพูดอย่างมั่นใจ'ใจกว้าง?’
อี้หรานชะงักงัน กระทั่งเวลาล่วงเลยไปพักใหญ่ เธอจึงเอ่ยเสียงงึมงำ “ฉันไม่…”พูดไปได้ไม่กี่คำ ริมฝีปากก็ถูกหยุดไว้ด้วยปลายนิ้วของลี่เฉินปลายนิ้วเย็นเฉียบกดลงมาเบา ๆ บนริมฝีปากของเธอ สายตาคมกริบของชายหนุ่มส่อแววเว้าวอน “ไม่พูดแล้วได้ไหมครับ? อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนที่ใส่ชุดนี้อยู่”อี้หรานสั่นน้อย ๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อ“เอาล่ะครับ เรากลับบ้านกันเถอะ คุณแต่งตัวแบบนี้ ถ้าเรียกแท็กซี่คงไม่ดีเท่าไหร่” เขาบอกหลิง อี้หรานเอ่ยขอบคุณแล้วเดินออกไปพร้อมลี่เฉินทันทีที่มาถึงบริเวณทางออก ทั้งคู่ก็สังเกตเห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนอยู่ไม่ไกล ท่าทางกำลังคุยอะไรบางอย่างกันอยู่ มีสองสามคนในนั้นกำลังพูดผ่านวิทยุสื่อสารดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง!กู้ ลี่เฉินขมวดคิ้ว ก่อนเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้น?”“มีคน… มีคนจัดการพื้นที่ข้างนอก แล้วให้คนเข้ามาล้อมที่นี่เต็มไปหมดครับ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตอบกู้ ลี่เฉินนิ่งไป งานเลี้ยงการกุศลถูกจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างตระกูลกู้กับบริษัทใหญ่อื่น ๆ ในเมืองเฉินหากมีคนคิดจะก่อเรื่อง การกระทำแบบนี้ก็เท่ากับประกาศตัวเป็นศัตรู!คนที่กล้าทำแบบนี้ในเมือง
สายตาที่อี้ จิ่นหลีใช้มองมาทำให้อี้หรานรับรู้ได้ถึงความอันตราย จนเธอ…อยากจะหนีไป!เธออยากหนีไปให้ไกลจนกว่าจะลับสายตาของเขา!ทันใดนั้น ฝ่ามือของเธอก็ถูกคว้าไปจับไว้ “คุณกลัวหรือเปล่า?”หลิง อี้หรานได้สติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน พบว่าเป็นลี่เฉินนั่นเองที่จับมือเธอ มือที่จับกันอยู่สั่นเล็กน้อยไม่สิ ความจริงแล้วมือที่สั่นคือมือของเธอต่างหาก!‘ฉันกลัวเหรอ? ฉันกลัวอี้ จิ่นหลี?’“ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวผมจัดการเอง” เสียงของกู้ ลี่เฉินดังขึ้นใกล้หูอี้หรานสูดหายใจเข้าลึก ก่อนที่มือจะค่อย ๆ หายสั่นหญิงสาวมองไปยังอี้ จิ่นหลีที่กำลังตรงมาทางนี้ ดวงตาจับจ้องมาที่เธอโดยไม่ลดละ ไม่ยอมคลาดสายตาแม้วินาทีเดียว ราวกับจะสื่อให้รู้ว่าเขามาที่นี่ก็เพราะเธอ!‘ไม่มีทาง!’หลิง อี้หรานเข้าใจว่า ตัวเองคงคิดมากไป ต่อให้อี้ จิ่นหลีจะมาตามหาเธอจริง ๆ มันก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำให้มันวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น… เธอเคยพูดกับจิ่นหลีไปชัดเจนแล้วว่า จะไม่มีวันกลับไปหาเขาอีก!ร่างสูงของจิ่นหลีตรงมาหาอี้หราน แววตาของชายหนุ่มส่อประกายเย็นชา ทว่ายังคงความเป็นกันเอง ริมฝีปากบางโค้งขึ้นเล็กน้อย“ไม่ยักรู้ว
คนที่ยืนอยู่โดยรอบไม่มีใครกล้าขยับตัว ไม่มีใครกล้าแม้กระทั่งจะหายใจชายหนุ่มทั้งสองคนถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในเมืองเฉิน แน่นอนว่าทั้งคู่อาจกลายเป็นเหมือนระเบิดเคลื่อนที่ได้หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไป“แล้วไง?” อี้ จิ่นหลีถามเสียงเย็นหลิง อี้หรานมองอี้ จิ่นหลี โดยที่ยังจับมือของกู้ ลี่เฉินไว้อยู่ “คุณเป็นอะไรไหมคะ? เจ็บหรือเปล่า? ในงานเลี้ยงมีหมอบ้างไหม?”เธอเข้าใจว่าในงานเลี้ยงใหญ่โตแบบนี้ย่อมต้องมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์มาคอยช่วยดูแล เผื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน“ผมไม่เป็นไรมาก แค่มือหัก” กู้ ลี่เฉินบอก รู้สึกเหมือนผ่านมาหลายปีมากแล้วที่ไม่ได้เจ็บปวดจากอาการกระดูกหักแบบนี้แต่เพราะความเจ็บในตอนนี้ ทำให้ชายหนุ่มรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดที่อี้หรานเคยเผชิญตอนที่ถูกหักนิ้ว‘เธอเคยผ่านอะไรมามากมายขนาดไหนกัน? สิ่งที่เธอเจอมาคงเจ็บยิ่งกว่าฉันตอนนี้เป็นสิบหรือร้อยเท่า!’ใบหน้าของอี้หรานเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เธอรู้ดีว่า ต้นเหตุที่ทำให้ลี่เฉินต้องโชคร้ายแบบนี้ก็คือเธอ“จะไม่เป็นไรได้ยังไงคะ! ถ้าคุณไม่รีบรักษา เดี๋ยวมันก็…”ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้พูดจนจบประโยค แรงกระชากจากด้านหลังก็ดึงเธอเ