“งั้นก็ดีแล้ว” ไป๋ ทิงซินโล่งใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของเหลียนอีดูดีขึ้นมีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าการได้เห็นเหลียนอีอ่อนแอแบบนี้ ทำเอาชายหนุ่มแทบจะยอมแลกร่างกับเหลียนอีเสียให้ได้! เขาอยากให้เธอสุขภาพแข็งแรงและมีรอยยิ้มในทุกวันก็เท่านั้นเขายอมทำได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องเหลียนอีฝ่ามือใหญ่ยังคงลูบหน้าท้องของหญิงสาวเบา ๆ หวังว่ามันจะช่วยคลายความปวดได้“ว่าแต่ รอบนี้ฉันไม่ได้ท้อง ขอโทษนะที่ทำให้คุณต้องมากังวลไปด้วย คุณแน่ใจนะว่า…ไม่ได้ผิดหวัง?” ชิน เหลียนอีพูดอย่างอดไม่ได้“ผมไม่ได้ผิดหวัง คุณจะท้องหรือไม่ท้องฉันก็ไม่ผิดหวังอยู่ดี สักวันหนึ่งเราก็ต้องได้มีลูกด้วยกันอยู่แล้ว ผมแค่…” เขาเว้นช่วง “ผมแค่หายสติแตกตอนที่รู้ว่าคุณไม่ได้ท้องเฉย ๆ”เหลียนอีนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใช้คำว่า ‘สติแตก’ “นี่คุณสติแตกเลยเหรอ?”“ใช่สิ แทบบ้าเลยล่ะ ตอนที่คุณอยู่ในห้องน้ำ ผมคิดหนักเลยว่าจะทำยังไงดีถ้าคุณท้องจริง ๆ” เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ “ถ้าคุณท้อง ผมคงจะทำให้คุณเป็นคุณนายไป๋ทันที ผมจะแต่งคุณเข้าตระกูล คนจะได้ไม่เอาไปลือเสียหาย แล้วคุณก็จะได้ดูแลลูกได้เต็มที่…”มันคือสิ่งที่เขาคว
ชายหนุ่มนิ่งไปเหลียนอีพูดต่อไป “ถ้า… ถ้าวันหนึ่งฉันท้องจริง ๆ แต่ครอบครัวของคุณยังไม่มั่นคง เราไม่จำเป็นต้องแต่งกันก็ได้ คุณไม่ต้องจัดงานแต่งอลังการให้ฉัน ฉันจะคลอดลูกแล้วก็เลี้ยงเขาเอง เพียงแค่ขอให้คุณมาหากันบ้างฉันจะได้รู้ว่า คุณยังปลอดภัย!”ไป๋ ทิงซินรู้สึกทึ่ง “คุณ…”“ฉันไม่กลัวข่าวลือด้วย พวกมันทำอะไรฉันไม่ได้! ฉันต้องการแค่ได้อยู่กับคุณตลอดไป ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ช่าง ฉันต้องการแค่นี้!”เสียงของเธอดังฟังชัด แววตาแน่วแน่ทิงซินคว้าเอาตัวหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอดทันทีเหลียนอีของเขาแข็งแกร่งและกล้าหาญมากกว่าที่เขาคิดนัก เขาเคยเข้าใจผิด คิดไปเองว่า เธอต้องการให้เขาปกป้อง เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอก็มีมุมที่เป็นหญิงแกร่งด้วยเหมือนกัน!“ผมเพิ่งรู้ว่าผู้หญิงที่ผมตกหลุมรักเป็นคนเจ๋งขนาดนี้!” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วเอ่ยปาก “ดีชะมัดที่ได้รักคุณนะ!”เขาพร้อมจะค้นหาความเป็นไปได้ทั้งหมดบนโลกใบนี้ เพื่อหาวิธีที่จะทำให้เหลียนอีมีความสุขโดยไม่ต้องเป็นกังวลกับสิ่งใด!…หลิง อี้หรานไม่คาดคิดว่าอี้ จิ่งหลีจะพาเธอมายังอนุสรณ์สถานของตระกูลอี้มันคือบริเวณโถงไว้ทุกข์ที่มีแผ่นจารึกของพ่อจ
“พี่เคยบอกว่า พี่จะรักผมไปตลอดชีวิต จะอยู่กับผมตลอดไป และจะไม่มีวันทอดทิ้งผม” เขาพึมพำขณะ บางสิ่งแผดผาอยู่ในดวงตาดำสนิทคู่นั้นอี้หรานตัวสั่น ย้อนกลับไปตอนนั้น จิ่นหลียืนอยู่ในโถงนี้ยามดึกสงัด ชายหนุ่มดูอ้างว้างและเปราะบางเสียจนทำอี้หรานใจสลายตามไปด้วยในตอนนั้น เธอจับได้ว่า เขามาที่นี่กลางดึก และเมื่อได้เห็นภาพจิ่นหลียืนอยู่อย่างนั้น ในใจอี้หรานก็รู้สึกเพียงแค่เธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนคนนี้!หากเขารู้สึกหวั่นไหว เธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขารู้สึกมั่นคงไม่สำคัญว่าเธอจะพูดซ้ำว่ารักเขาสักกี่รอบ หรือแสร้งทำเหมือนเธอลืมเรื่องเกี่ยวกับกู้ ลี่เฉินและวัยเยาว์ไปแม้จะจำมันได้เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นแล้ว เธอเคย… ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อเขา‘ตอนนี้…’ หลิง อี้หรานมองไปที่จิ่นหลีอย่างสงบนิ่ง “แล้วทำไมกัน? คุณเองก็พูดว่ารักฉันเหมือนกันนี่? จากนั้นคุณก็บอกเองว่าไม่ได้รักฉันแล้ว ขอให้เราเลิกกัน คุณนึกอยากกลับคำพูดเมื่อไหร่ก็ทำ”“แล้วถ้าผมไม่ผิดคำพูด พี่จะยอมเป็นเหมือนเดิมไหม?” เขาถาม“ไม่เคยได้ยินเหรอว่าสิ่งที่เกิดไปแล้วมันย้อนกลับมาไม่ได้?” อี้หรานถามกลับ“เรื่องพรรค์นั้นมันไม่มีจริงสักหน่
อี้หรานยกยิ้ม ใช้นิ้วไล้สัมผัสไปตามดวงตาและคิ้วของอีกฝ่ายชายหนุ่มกะพริบตาแต่ไม่ได้หันหน้าหนี ก่อนจะค่อย ๆ คลายแรงจับที่มือของหญิงสาวปลายนิ้วของหญิงสาวเลื่อนทีละน้อยจากคิ้ว มาที่ดวงตา มาที่สันจมูก จากนั้นมาที่ปากรูปปากของจิ่นหลีสวยมาก ริมฝีปากบางของเขาให้ความรู้สึกทั้งเย็นชา เซ็กซี่ ดึงดูด เมื่อมันโค้งขึ้นเมื่อเขายิ้ม อี้หรานก็ตกหลุมรักมันได้อย่างง่ายดาย“คุณพูดว่า คุณกลัวจะเดินตามรอยความผิดพลาดของพ่อ จนควบคุมชีวิตตัวเองไม่ได้ ฉันขอแปลว่านั่นหมายถึง คุณกลัวฉันจะหักหลังคุณ เหมือนที่แม่ทำกับพ่อของคุณใช่ไหม?” น้ำเสียงขออี้หรานอ่อนโยนราวกับเสียงของไวโอลิน หญิงสาวเอ่ยอย่างปราศจากความโกรธแค้นหรือขุ่นเคือง เหมือนฟ้าใสหลังพายุฝนสงบลงทว่าความเยือกเย็นของเธอกลับทำให้จิ่นหลีขมวดคิ้วเธอมีท่าทางเช่นนี้ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาอยู่ที่บ้านเช่าเมื่อคราวก่อน เธอสงบเสียจนในใจเขาปั่นป่วน“ถึงฉันจะเคยพูดว่าฉันรักคุณและจะไม่มีวันทิ้งคุณ แต่ตอนที่คุณบอกว่ายอมแลกชีวิตเพื่อฉัน นั่นเป็นเพราะคุณยังเชื่อว่าฉันจะทรยศคุณ… เหมือนกับที่แม่คุณเคยทำกับพ่อ” เธอยังคงกล่าวต่ออาการดิ้นรนฉายขึ้นในแววตาของจิ่นหลี “ตร
วันต่อมา เหลียนอีมาพบอี้หรานหลังเลิกงาน ทั้งสองแวะร้านอาหารและทานมื้อเย็น“เมื่อวานนี้ระหว่างเธอกับจิ่นหลีเกิดอะไรขึ้นบ้าง? เขาทำอะไรเธอหรือเปล่า?” ชิน เหลียนอีถามอย่างเป็นห่วงอี้หรานลังเลเล็กน้อยก่อนตอบ “เขาอยากเริ่มใหม่กับฉัน”“อะไรนะ?” เหลียนอีตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง “เริ่มใหม่? หมายถึงกลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมเหรอ?”“ใช่” อี้หรานตอบเหลียนอีขบเขี้ยวเคี้ยวฟันทันที “อี้ จิ่นหลี… หน้าไม่อาย เป็นคนอยากเลิกเองแท้ ๆ แล้วตอนนี้อยากจะกลับมาคบเหรอ? จงใจทรมานกันหรือเปล่า?”เหลียนอีเป็นเพียงคนเดียวในเมืองเฉินที่กล้าด่าชายหนุ่มว่าหน้าไม่อายอี้หรานร่าเริงขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนสนิท“อาจจะอยากทรมานกันก็ได้นะ” หลิง อี้หรานบอก“แล้วเธอตกลงหรือเปล่า?” ชิน เหลียนอีถามเธอส่ายหน้า “เปล่า ไม่มีทางหรอก”ระหว่างนั้นอาหารก็มาถึงที่โต๊ะพอดี อี้หรานก้มหน้าก้มตาทานเงียบ ๆ สีหน้าของเหลียนอีเปลี่ยนจากความโกรธเคืองไปเป็นลังเล “อี้หราน เธอทำใจเรื่องจิ่นหลีได้แล้วเหรอ?”เมื่อมาคิดดู อี้หรานทั้งเศร้าและหมดอาลัยตอนที่จิ่นหลีบอกเลิก เธอจะลืมเขาภายในไม่กี่เดือนได้เหรอ?“ใช่” อี้หรานตอบเสียงนุ่ม
ชิน เหลียนอีตอบกลับเพื่อนสนิท “ได้สิ เดี๋ยวบอกให้ทิงซินช่วยดูให้ แล้วพี่โจวเป็นยังไงบ้าง? ยังเปิดร้านได้ปกตินะ?”“เมื่อเช้าฉันโทรไปถามมาแล้ว พี่โจวบอกว่าไม่ค่อยมีลูกค้าเท่าไหร่ แต่ไม่มีใครมาก่อกวนแล้ว” อี้หรานบอก“เยี่ยมไปเลย!” ในที่สุดเหลียนอีก็สบายใจหลังมื้อเย็น เหลียนอีขับรถไปส่งอี้หราน ก่อนจะแวะไปหาไป๋ ทิงซิน“คุณรู้สึกดีขึ้นหรือยัง?” ทันทีที่เห็นหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องทำงาน ทิงซินก็รีบวางเอกสารในมือแล้วรีบลุกไปหาแฟนสาว“วันนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ปวดเท่าเมื่อวานนี้” เธอตอบทิงซินขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย ‘แปลว่าวันนี้ก็ยังปวดอยู่นิดนึงหรือเปล่านะ?’“แล้วเมื่อไหร่คุณถึงจะหายปวดท้อง?” เขาไม่เคยรู้เรื่องอาการปวดท้องประจำเดือนของผู้หญิงมาก่อน แต่ตอนนี้เขาเริ่มเป็นห่วงขึ้นมาแล้วหลังจากเห็นสภาพของเหลียนอีเมื่อวาน“คุณไม่ต้องห่วงหรอกน่า ปกติแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงหาย” เหลียนอีว่า“เอ่อ… ให้ผมช่วยนวดท้องอีกดีไหม?” เขาเสนอเหลียนอีคิดครู่หนึ่งก่อนพยักหน้ารับ ‘หมอนี่นวดท้องเก่งดีเหมือนกันแฮะ!’เหลียนอีตอบรับเสร็จก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาชายหนุ่มเห็นภาพนั้นแล้วอดยิ้มไม่ได้ ก่อนหันไ
เมื่อวานนี้เหลียนอีไปที่ห้องของชายหนุ่มเพราะจะไปดูทิงซินเต้นตามที่สัญญาไว้ แต่ประจำเดือนของเธอดันมาเสียก่อนจนลืมเรื่องเต้นไปเสียสนิทไป๋ ทิงซินเลิกคิ้ว ประหลาดใจที่อีกฝ่ายยังไม่ลืมเรื่องนี้ไปอีก “อยากดูเหรอ?”หญิงสาวพยักหน้าถี่รัว“ไม่อยากให้ผมลูบท้องให้แล้วเหรอ?” เขาถาม“ไว้ค่อยทำหลังเต้นเสร็จก็ได้นี่” เธอตอบ ดวงตากลมโตดูราวกับบรรจุดวงดาวไว้ข้างใน มันทอประกายระยิบระยับ ไป๋ ทิงซินหมดคำจะพูด ก่อนลุกยืนอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนจะถึงคราวที่ต้องเอาใจแฟนสาวเสียแล้ว!ทว่า… “ถ้าอย่างนั้น คุณต้องสนใจแค่ผมเท่านั้นนะ ตกลงไหม?” เขาถามแววรู้สึกผิดฉายขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาว เพราะเธอยังมีคนดังอีกหลายคนที่เธอยังต้องสนใจอยู่! แต่เพื่อดวงตาดำสนิทที่ร้อนแรงคู่นั้น เหลียนอีจึงรับคำทันที “สัญญาเลย ผู้ชายพวกนั้นฉันทำได้แค่ดู แต่กับคุณ ฉันยังทำอย่างอื่นได้…”ทิงซินรู้สึกก้ำกึ่งระหว่างจะร้องไห้กับระเบิดหัวเราะเพราะคำพูดนั้น แต่เพื่อสนองความคาดหวังของเหลียนอี ชายหนุ่มเริ่มเต้น‘ฉันอยากให้เธอมองมาที่ฉัน’‘จับจ้องมาที่ฉันเพียงคนเดียว!’‘สิ่งไหนที่ทำให้เธอมีความสุข ฉันยอมทำได้ทุกอย่าง…’เมื่อสาวใช้นำ
“คุณดูสนิทกับหมอซูดีนะคะ” อี้หรานเอ่ยปากรู้สึกประหลาดใจที่เห็นคนอย่างกู้ ลี่เฉินรู้จักกับหมอสูงวัยที่เป็นเพียงเจ้าของคลินิกเล็ก ๆ“เรารู้จักกันมานานแล้วครับ ผมขาหักตอนที่ญาติของคุณกับผมแอบหนีลงเขาเข้าเมืองมาด้วยกัน หมอหลายคนบอกว่าถึงแผลจะหายดีแต่ก็อาจจะมีผลข้างเคียงอื่น แม่ผมบังเอิญได้ยินเรื่องหมอซู เลยพาผมมารักษากับเขา” กู้ ลี่เฉินเล่าให้ฟังอี้หรานตกใจ “คุณขาหัก?”“ใช่ ตั้งสามเดือนกว่าจะกลับมาเดินได้ปกติ” เขาตอบ‘เพิ่งรู้ว่าเขาเคยบาดเจ็บด้วย ใช่ตอนที่เขาตกหน้าผาหรือเปล่านะ?’อี้หรานคิดกับตัวเอง ยังจำภาพตอนที่ช่วยพาอีกฝ่ายขึ้นมาจากหน้าผา ตอนนั้นเขาก็ดูเหมือนจะเดินไม่ได้ เธอเอาแต่บ่นงึมงำว่าเขาเป็นพวกลูกแหง่ แท้จริงแล้วเขาขาหักต่างหากแต่ว่า… เขากลับไม่เคยพูดถึงอาการบาดเจ็บที่ขาเลย กลับกันเขาเอาแต่ขอโทษที่ทำให้เธอลำบากในตอนที่ขี่หลังเธออยู่“ตอนนั้น…ขาคุณเจ็บมากไหม?” อี้หรานอดไม่ได้ที่จะถามเขาชายตามองเธอแวบนึงขณะที่ขับรถอยู่ “ผมคิดไปเองได้ไหมว่า ที่คุณถามแบบนี้เพราะคุณห่วงผม?”หญิงสาวเม้มปาก ไม่ต่อคำลี่เฉินจึงพูดต่อโดยไม่สนใจ “เจ็บสิ ผมนึกว่ามันจะเจ็บที่สุดในชีวิตแล้ว แต่