ระหว่างเดินทางไปสถานีตำรวจ เหลียนอีก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แฟนหนุ่มฟังชายหนุ่มขมวดคิ้ว อดคิดไม่ได้ว่านี่คงเป็นความโชคดีโดยบังเอิญที่จิ่นหลีคอยส่งคนมาตามดูอี้หราน ไม่อย่างนั้นแล้วหญิงสาวทั้งสามคงหนีไม่ทันแน่!“ฉันส่งบอดี้การ์ดมาคอยดูแลเธอบ้างดีไหม?” ไป๋ ทิงซินพูดขึ้นเหลียนอีรีบปฏิเสธทันที “อย่านะ ฉันไม่ชอบโดนจับตามอง มันอึดอัด”“แต่…”“สัญญาว่าฉันจะโทรหานายทันทีเลยถ้าฉันเป็นอะไรไป!” หญิงสาวรีบชูนิ้วก้อยขึ้นมาให้สัญญาไป๋ ทิงซินรู้สึกว่าการกระทำนี้มันช่างตลกแล้วก็กวนใจเขาไปพร้อมกันเมื่อมาถึงสถานีตำรวจ อี้หรานเป็นคนเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด พร้อมทั้งมอบคลิปเสียงที่อัดไว้ในโทรศัพท์เป็นหลักฐาน กลุ่มคนร้ายจึงถูกส่งตัวให้ตำรวจไปจัดการต่อหลังจากแจ้งความเสร็จเรียบร้อย เหลียนอีจึงหันมาพูดกับอี้หราน “เดี๋ยวฉันกับทิงซินไปส่งเธอเอง”“โอเค” อี้หรานตอบตกลงทั้งสามคนเดินออกมาจากสถานีตำรวจ โดยมีบอดี้การ์ดสองคนเดินตามมาด้วยหลังให้ปากคำเสร็จทิงซินจอดรถไว้ด้านหน้าสถานี แต่เมื่อพวกเขาไปถึง กลับมีเบนท์ลีย์สีดำสนิทจอดอยู่ไม่ไกลกันอี้หรานชะงักทันที ‘นั่นมัน…รถของจิ่นหลี!’‘เขาก็อยู่ที่นี่เหมือ
มุมปากของอี้หรานยกขึ้น “ได้สิ เข้าใจแล้ว” เหลียนอีเปรียบเสมือนแสงสว่างในโลกที่มืดสนิทของเธอ หญิงสาวคือคนที่คอยประคองอี้หรานไว้เสมอในยามที่ต้องเผชิญปัญหา!ชิน เหลียนอีเดินไปที่รถกับไป๋ ทิงซิน ส่วนอี้หรานปลีกตัวตรงไปที่เบนท์ลีเหลียนอีจับตาดูรถคันสีดำค่อย ๆ ขับออกไป ก่อนหันไปพูดกับแฟนหนุ่มของตัวเอง “เอาล่ะ ไปกันเถอะ”ชายหนุ่มขับรถออกมาจากสถานีตำรวจ “คุณอยากไปไหน?”“บ้านไง จะไปไหนได้อีก?” คนถูกถามตอบเสียงหงุดหงิด“ถ้าคุณอารมณ์ไม่ดี งั้นเราไปดูหนังให้สบายใจขึ้นดีไหม?” เขาถาม“ไม่เอา ดูหนังไม่ช่วยอะไรหรอก เว้นแต่ว่า คุณจะระบำเปลื้องผ้าให้ฉันดูแทน” เหลียนอีโพล่งออกมา หญิงสาวจำได้ว่าทิงซินเคยทำแบบนั้นครั้งหนึ่งตอนที่ไปดื่มด้วยกัน แต่เธอไม่มีความทรงจำวันนั้นอยู่ในหัวเลย! เธอจำได้ราง ๆ เท่านั้นเธอรู้สึกว่านี่มันน่าอายมากทุกครั้งที่นึกขึ้นมา แต่อีกใจหนึ่งก็เสียดายที่จำไม่ได้ไป๋ ทิงซินชำเลืองมามองแฟนสาว “ถ้าคุณอยากเห็น เดี๋ยวไว้ดูตอนถึงบ้านผมแล้วกัน”เหลียนอีแทบสำลัก!‘เขาว่าอะไรนะ? เขาจะทำ… จะเต้นให้ฉันดู? เอาจริงดิ? เขาเป็นหัวหน้าตระกูลไป๋แล้วไม่ใช่เหรอ? เขาไว้ตัวตลอดตั้งแต่… ตอนจีบ
“เปล่า…ยังไม่ท้อง แค่สงสัยน่ะ” เหลียนอีรีบอธิบายให้อีกคนเข้าใจ เริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมา เธออายเล็กน้อยตอนที่ถูกสายตาคู่นั้นมองมาที่ท้องตัวเอง “แล้วก็… เดือนนี้ประจำเดือนฉันยังไม่มาเลย” เธอพูดเสริมทิงซินใคร่ครวญ ‘ถ้าแบบนั้น ก็อาจเป็นไปได้ว่าเธอท้อง แต่…ถ้าเธอท้อง แปลว่าฉันก็…’“พรุ่งนี้เราจะไปตรวจเลือดดูกันที่โรงพยาบาล” ไป๋ ทิงซินบอกความรู้สึกบางอย่างแล่นจี๊ดขึ้นมาในหัวของเหลียนอีทันทีที่ได้ยินคำว่าตรวจเลือด “เราไม่ต้องไปโรงพยาบาลก็ได้ ทำไมไม่ซื้อที่ตรวจครรภ์มาลองดูก่อนดีกว่า?” ชายหนุ่มทำสีหน้าอ่านไม่ถูก มองไปที่แฟนสาว “คุณกลัวการเจาะเลือดเหรอ?”เธอพยักหน้ารับ ก่อนพูด “ถ้าผ่านร้านยาแล้วคุณลงไปซื้อที่ตรวจครรภ์ให้หน่อยนะคะ เอ่อ อย่าลืมซื้อมาเผื่อหลาย ๆ ยี่ห้อด้วยนะ”คนคิดเงินมองหน้าทิงซินแปลก ๆ เมื่อเห็นชายหนุ่มมาขอซื้อที่ตรวจครรภ์ แถมยังกวาดเอาทุกยี่ห้อที่มีอยู่บนชั้น นั่นทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายโรคจิตสักคนในรายการโทรทัศน์เขากลับขึ้นรถ แล้วส่งชุดตรวจให้เหลียนอีหญิงสาวศึกษาวิธีใช้อย่างตั้งใจ เธอถึงกับอ่านแผ่นกระดาษที่เขียนบอกวิธีใช้ด้วยความระมัดระวังระคนตื่นเต้นเมื่อมา
“คุณผิดหวังเหรอ?” ชิน เหลียนอีพึมพำถามไป๋ ทิงซินส่งยิ้มบางกลับคืน “ไม่ท้องก็ไม่เป็นไรหรอก ไว้อีกสองสามปีเราค่อยมีลูกกันก็ได้ คุณออกมาก่อนเถอะ”ก่อนเหลียนอีจะตอบกลับมา “ฉันออกไปไม่ได้! ฉันไม่ได้เอาผ้าอนามัยมาด้วย คุณออกไปซื้อให้หน่อยได้ไหม?” ทิงซินยิ้มค้าง “ซื้อผ้าอนามัย?” เขาเสียงหลงเป็นครั้งที่สองของวัน“ใช่ หรือคุณอยากให้เดินออกไปแบบเลือดอาบขา?” เธอตอบ เน้นเสียงตรงคำว่า ‘เลือดอาบ’“ผมจะบอกคนใช้ไปซื้อให้” เขาตอบเหลียนอีรีบพูด “ไม่ได้! มันน่าอายจะตาย คุณไปเองไม่ได้เหรอ? รู้ไหม? สมัยยังอยู่มัธยม ฉันอิจฉาคนที่แฟนไปซื้อผ้าอนามัยให้มาตลอดเลย ฉันอยากมีแฟนที่ยอมไปซื้อผ้าอนามัยให้ฉันบ้าง”ทิงซินไม่เข้าใจว่าเหลียนอีจะอิจฉาเพื่อนในเรื่องนั้นไปทำไม‘ผ้าอนามัยนี่มัน เอ่อ สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?’แต่เมื่อเห็นแววตาคาดหวังจากหญิงสาว เขาก็ยอมใจอ่อนอีกครั้ง สุดท้ายจึงได้แต่พูดว่า “รออยู่นี่แล้วกัน”“ไม่มีปัญหา!” หญิงสาวยิ้มร่า ก่อนเอ่ยเสริม “ซื้อแบบกลางคืนของโซฟีมาให้ด้วยนะ!”ไป๋ ทิงซินพูดอะไรไม่ออก ในใจรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ดูเหมือนว่าคืนนี้เขาเอาแต่ซื้อของที่ไม่จำเ
ชิน เหลียนอีรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กที่ถูกเอาใจ ‘มาลองคิด ๆ ดูแล้ว นอกจากพ่อแม่ ก็มีแค่ไป๋ ทิงซินที่เอาใจฉันขนาดนี้’หญิงสาวร้องครางออกมาขณะนอนเอนกายอยู่บนโซฟา ไป๋ ทิงซินสังเกตเห็นสีหน้าบูดเบี้ยวของอีกคนจึงรีบถาม “ปวดมากเลยเหรอ?”“ใช่” เหลียนอีพยักหน้าหงอย ๆ “ผู้ชายแบบนายโชคดีแค่ไหนที่ไม่ต้องปวดท้องทุกเดือน”ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาลูบท้องของคนที่นอนอยู่อย่างอ่อนโยน “แบบนี้พอช่วยได้ไหม?”“อืม ก็ได้อยู่ ลูบต่อให้ที กำลังเพลินเลย” เธอว่าชายหนุ่มที่มีฐานะเป็นถึงหัวหน้าตระกูลไป๋จึงต้องมานั่งก้มหัวลูบท้องให้ผู้หญิงอย่างช่วยไม่ได้เหลียนอีที่เพลินจนเริ่มเคลิ้มจะหลับ จู่ ๆ ก็หรี่ตาแล้วร้องออกมา “อย่าหยุดสิ ทำต่อ…คุณนี่มีฝีมือจริง ๆ เลยนะคะ”อีกครั้งที่ไป๋ ทิงซินพูดอะไรไม่ออก ‘นี่เธอคิดบ้างไหมเนี่ย ว่ากำลังพูดจาสองแง่สองง่ามอยู่?’เหลียนอีไม่คิดมาก่อนว่าแฟนหนุ่มของตัวเองจะมีทักษะในการ ‘นวด’ ขนาดนี้ ถ้าเธอรู้ว่าการให้เขาลูบท้องให้มันจะสบายขนาดนี้ เธอคงขอให้เขาลูบให้ทุกครั้งที่ประจำเดือนมาไปแล้ว แล้วเธอก็จะได้ไม่ต้องคอยบอกว่าจะนอนอยู่บ้านทุกครั้งที่เป็นประจำเดือนด้วย!ตอนนั้นเอง เสียงของส
“งั้นก็ดีแล้ว” ไป๋ ทิงซินโล่งใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของเหลียนอีดูดีขึ้นมีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าการได้เห็นเหลียนอีอ่อนแอแบบนี้ ทำเอาชายหนุ่มแทบจะยอมแลกร่างกับเหลียนอีเสียให้ได้! เขาอยากให้เธอสุขภาพแข็งแรงและมีรอยยิ้มในทุกวันก็เท่านั้นเขายอมทำได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องเหลียนอีฝ่ามือใหญ่ยังคงลูบหน้าท้องของหญิงสาวเบา ๆ หวังว่ามันจะช่วยคลายความปวดได้“ว่าแต่ รอบนี้ฉันไม่ได้ท้อง ขอโทษนะที่ทำให้คุณต้องมากังวลไปด้วย คุณแน่ใจนะว่า…ไม่ได้ผิดหวัง?” ชิน เหลียนอีพูดอย่างอดไม่ได้“ผมไม่ได้ผิดหวัง คุณจะท้องหรือไม่ท้องฉันก็ไม่ผิดหวังอยู่ดี สักวันหนึ่งเราก็ต้องได้มีลูกด้วยกันอยู่แล้ว ผมแค่…” เขาเว้นช่วง “ผมแค่หายสติแตกตอนที่รู้ว่าคุณไม่ได้ท้องเฉย ๆ”เหลียนอีนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใช้คำว่า ‘สติแตก’ “นี่คุณสติแตกเลยเหรอ?”“ใช่สิ แทบบ้าเลยล่ะ ตอนที่คุณอยู่ในห้องน้ำ ผมคิดหนักเลยว่าจะทำยังไงดีถ้าคุณท้องจริง ๆ” เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ “ถ้าคุณท้อง ผมคงจะทำให้คุณเป็นคุณนายไป๋ทันที ผมจะแต่งคุณเข้าตระกูล คนจะได้ไม่เอาไปลือเสียหาย แล้วคุณก็จะได้ดูแลลูกได้เต็มที่…”มันคือสิ่งที่เขาคว
ชายหนุ่มนิ่งไปเหลียนอีพูดต่อไป “ถ้า… ถ้าวันหนึ่งฉันท้องจริง ๆ แต่ครอบครัวของคุณยังไม่มั่นคง เราไม่จำเป็นต้องแต่งกันก็ได้ คุณไม่ต้องจัดงานแต่งอลังการให้ฉัน ฉันจะคลอดลูกแล้วก็เลี้ยงเขาเอง เพียงแค่ขอให้คุณมาหากันบ้างฉันจะได้รู้ว่า คุณยังปลอดภัย!”ไป๋ ทิงซินรู้สึกทึ่ง “คุณ…”“ฉันไม่กลัวข่าวลือด้วย พวกมันทำอะไรฉันไม่ได้! ฉันต้องการแค่ได้อยู่กับคุณตลอดไป ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ช่าง ฉันต้องการแค่นี้!”เสียงของเธอดังฟังชัด แววตาแน่วแน่ทิงซินคว้าเอาตัวหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอดทันทีเหลียนอีของเขาแข็งแกร่งและกล้าหาญมากกว่าที่เขาคิดนัก เขาเคยเข้าใจผิด คิดไปเองว่า เธอต้องการให้เขาปกป้อง เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอก็มีมุมที่เป็นหญิงแกร่งด้วยเหมือนกัน!“ผมเพิ่งรู้ว่าผู้หญิงที่ผมตกหลุมรักเป็นคนเจ๋งขนาดนี้!” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วเอ่ยปาก “ดีชะมัดที่ได้รักคุณนะ!”เขาพร้อมจะค้นหาความเป็นไปได้ทั้งหมดบนโลกใบนี้ เพื่อหาวิธีที่จะทำให้เหลียนอีมีความสุขโดยไม่ต้องเป็นกังวลกับสิ่งใด!…หลิง อี้หรานไม่คาดคิดว่าอี้ จิ่งหลีจะพาเธอมายังอนุสรณ์สถานของตระกูลอี้มันคือบริเวณโถงไว้ทุกข์ที่มีแผ่นจารึกของพ่อจ
“พี่เคยบอกว่า พี่จะรักผมไปตลอดชีวิต จะอยู่กับผมตลอดไป และจะไม่มีวันทอดทิ้งผม” เขาพึมพำขณะ บางสิ่งแผดผาอยู่ในดวงตาดำสนิทคู่นั้นอี้หรานตัวสั่น ย้อนกลับไปตอนนั้น จิ่นหลียืนอยู่ในโถงนี้ยามดึกสงัด ชายหนุ่มดูอ้างว้างและเปราะบางเสียจนทำอี้หรานใจสลายตามไปด้วยในตอนนั้น เธอจับได้ว่า เขามาที่นี่กลางดึก และเมื่อได้เห็นภาพจิ่นหลียืนอยู่อย่างนั้น ในใจอี้หรานก็รู้สึกเพียงแค่เธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนคนนี้!หากเขารู้สึกหวั่นไหว เธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขารู้สึกมั่นคงไม่สำคัญว่าเธอจะพูดซ้ำว่ารักเขาสักกี่รอบ หรือแสร้งทำเหมือนเธอลืมเรื่องเกี่ยวกับกู้ ลี่เฉินและวัยเยาว์ไปแม้จะจำมันได้เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นแล้ว เธอเคย… ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อเขา‘ตอนนี้…’ หลิง อี้หรานมองไปที่จิ่นหลีอย่างสงบนิ่ง “แล้วทำไมกัน? คุณเองก็พูดว่ารักฉันเหมือนกันนี่? จากนั้นคุณก็บอกเองว่าไม่ได้รักฉันแล้ว ขอให้เราเลิกกัน คุณนึกอยากกลับคำพูดเมื่อไหร่ก็ทำ”“แล้วถ้าผมไม่ผิดคำพูด พี่จะยอมเป็นเหมือนเดิมไหม?” เขาถาม“ไม่เคยได้ยินเหรอว่าสิ่งที่เกิดไปแล้วมันย้อนกลับมาไม่ได้?” อี้หรานถามกลับ“เรื่องพรรค์นั้นมันไม่มีจริงสักหน่