ตึ่ง!
เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันสนทนายอดฮิตส่งเสียงขึ้นเรียกให้อริสาต้องละสายตาจากงานตรงหน้าหันมามอง
“Devil Dark” คือชื่อไลน์กลุ่มที่ปรากฏอยู่หน้าจอ กลุ่มไลน์นี้ตั้งขึ้นตามชื่อกลุ่มเดอะแก็งที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม อริสามองงานอย่างชั่งใจว่าจะทำต่อหรือเปิดอ่านข้อความจากเพื่อน ๆ ดีแต่ในที่สุดหญิงสาวก็ต้องวางงานลงและหันไปสนใจการสนทนาในกลุ่มไลน์
บทสนทนา
Plim : ทุกคน...
Plim : ไปเที่ยวกันเถอะ
Plim : ทริปวันหยุดรวมกลุ่มปีนี้ฉันได้สถานที่แล้ว
Panteera : ที่ไหนไอ้ปริม บอกมาด่วน ๆ
Pop : คงสมุยอีกดิ เหมือนปีก่อน
Bang : แกติดใจอะไรสมุยวะป๊อป หรือติดใจสาวสมุย
Jojo : นั่นดิวะป๊อป
Pop : ติดใจบ้าอะไรเบื่อต่างหาก
Techin : แล้วตกลงจะไปไหนวะปริม
Plim : ทริปภูเก็ต ตามที่คิดไว้ก็พักที่โรงแรมท่านเต้ยอาทิตย์นึง แล้วที่เหลืออาทิตย์นึงไปที่เกาะรักษ์ของท่านเสือท่านสิงห์
Techin : จะพักที่โรงแรมพี่ ถามกันยังน้อง
Lion : นั่นดิถามผมยังครับคุณปลิงทะเล
Plim : แหม่ ๆ พวกนายอนุญาตอยู่แล้วไม่ต้องขอหรอก เอาล่ะขอทราบรายชื่อด้วยคร่าใครไปคอนเฟิร์มด่วน ๆ สุดสัปดาห์จะได้จัดเต็มทั้งคนโสดไม่ซิง คนเพิ่งโสด คนอกหัก คนถูกหักหลัง คนโสดซิง คนมีคู่ รายงานตัวด้วย น้องนางปริมคนนี้จะได้จองตั๋วเครื่องบินถูก
Panteera : งานนี้ฉายเดี่ยวหรือแพคคู่ยัยปริม
Plim : ฉายเดี่ยวยะ แพนแกห้ามพาฝาชีมาด้วยนะเกรงใจคนโสดนิดนิง
Panteera : ก็ได้ ฉันไป
Aratee : ฉันก็ไป ยัยแอ้มก็ด้วย
Arita : ช่ายยย
Pop : ฉันด้วยเบื่อเมืองกรุง
Bang : เอาด้วย ไปแน่คอนเฟิร์ม
Jojo : ฉันด้วยไปเที่ยวสักสองอาทิตย์ก็ดีเหมือนกัน
Techin : ฉันเป็นเจ้าของโรงแรมต้องไปแน่ ไม่ยอมให้พักฟรีหรอก
Nalinya : ฉันก็ไป อกหักอ่ะ อยากพักใจ
Lion : ยัยแว่นอกหักหึหึ โสนะหน้า หมอสิงห์ไปชัวร์จะลากไอ้เสือไปด้วย
Plim : โอเค แพนไป อุ้มแอ้มไป แบงค์ไป โจไป เต้ยไป ป๊อปไป คะนิ้งไป สิงห์ไป อลินแกว่าไง เสือด้วยไม่ไปมีลากและกระชากนะคะขอบอก
Tiger : ฉันไม่ไปไอ้สิงห์ก็ลากไปอยู่ดี เอาเป็นว่าไปแล้วกัน
Lion : ดี ขี้เกียจลากอยู่พอดี
Tiger : ยัยเอเลี่ยนว่าไงกล้าไปเปล่า
อริสาที่อ่านมาจนถึงข้อความล่าสุดใช้มือทุบโต๊ะด้วยความโมโหที่ถูกคู่อริเก่าท้าทายก่อนจะกดตอบโดยไม่คิด
Alin : ฉันไปแน่ไอ้แมวบ้า
Plim : ตกลงไปหมดว่างั้นมันดีเว่อร์น้องนางขอไปจองตั๋วก่อนนะเจอกันวันศุกร์สิบโมง สนามบินดอนเมืองนะ ใครเบี้ยวตัดเพื่อนนะเออ
หลังจากรับคำชวนไปเที่ยวภูเก็ตของเดอะแก๊งเพื่อน อริสาก็รีบเคลียร์งานอย่างเร่งด่วนเพราะอีกแค่สามวันเท่านั้นถึงแม้ว่าคำชวนของเพื่อน ๆ ดูเหมือนนัดสังสรรค์ปีละครั้งอย่างที่เคยเป็นมาแต่เธอรู้ดีว่าแพนธีราคงปรึกษากับเพื่อน ๆ เพื่อหาสถานที่ให้เธอได้ผ่อนคลายความเสียใจเป็นแน่
แม้ว่างานแต่งงานของนภิตราและตฤณกันต์จะผ่านมาเกือบสามอาทิตย์แล้วก็ตามแต่เธอก็ยังไม่สามารถทำใจยอมรับการกระทำของนภิตราและตฤณกันต์ได้ ทั้งนภิตรายังคอยวนเวียนเยาะเย้ยเธออยู่ทุกวี่วัน
การไปพักผ่อนครั้งนี้อาจทำให้เธอผ่อนคลายและสบายใจขึ้นมาบ้างในความคิดของแพนธีราและผองเพื่อนแต่ผู้ร่วมกันคิดในครั้งนี้คงลืมไปว่าเกาะรักษ์ที่ว่ามันเป็นเกาะของคู่ปรับหมายเลขหนึ่งที่เธอยกให้เป็นศัตรูตลอดกาลซ้ำเขาคนนั้นยังบอกว่าจะไปด้วยนี่สิ...อารมณ์เสียจริง ๆ
ก๊อก ๆ ๆ
“พี่อลินคะ นี่เอกสารค่ะบอสอนุมัติใบลาพักร้อนให้แล้วค่ะ” ชริมาผู้ช่วยสาวคนสนิทเอ่ยบอกทันทีที่เข้ามาในห้องพร้อมกับยื่นเอกสารอนุมัติใบลาพักร้อนให้ ไม่ต้องบอกเธอก็รู้ว่าใครร่างใบลานี้ขึ้นมาและบังคับให้บอสอนุมัติใบลาด้วยตัวเองโดยไม่ต้องผ่านฝ่ายบุคคลคงไม่มีใครทำได้นอกจากแพนธีราผู้เป็นภรรยาเจ้าของนิตยสารแห่งนี้ ดูเอาเถอะเธอตอบตกลงไม่ถึง15นาทีเอกสารถูกอนุมัติแล้ว
อริสาได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะสนทนากับรุ่นน้องคนสนิท “ขอบใจนะริมาพี่ลาสองอาทิตย์อย่าก่อเรื่องละ”
“คร่า ๆ อ้อพี่แพนบอกว่าให้พี่อลินลางานได้จนถึงวันศุกร์เลยนะคะ จะได้ไม่ต้องเจอยัยแบ๊วหน้าหนากับสามีของนาง” ชริมาเอ่ยบอกพร้อมกับทำหน้าเอือมระอาเมื่อพูดถึงนภิตราและตฤณกันต์ ใจคนยากแท้หยั่งถึง ชริมาไม่คิดเลยว่านภิตราที่ดูใสๆ จะกล้ามีความสัมพันธ์กับตฤณกันต์เพราะดูชายหนุ่มจะรักรุ่นพี่ของเธอเอามาก ๆ ส่วนนภิตราเองก็ดูซื่อ ๆ ใส ๆ ใครจะคิดว่านภิตราจะใสจริงแต่เป็นไสยศาสตร์
“อย่าเรียกเขาแบบนั้นนะ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องพี่บอกแล้วไงว่าอย่าก่อเรื่อง” อริสาเอ่ยปรามพลางส่ายหน้ากับคำพูดของรุ่นน้อง มันไม่ดีเลยที่ชริมาจะพูดถึงลูกพี่ลูกน้องของผู้บริหารแบบนี้ เธอไม่ได้กลัวตัวเองจะเดือดร้อนหรอกแต่กลัวน้องสาวจะโดนอำนาจมือเสียมากกว่า
“ก็ได้ ไม่เรียกก็ได้ คุยเรื่องทริปภูเก็ตของพี่อลินดีกว่า พี่เสือของน้องไปมั้ยอะ” ชริมาเอ่ยถามถึง “พี่เสือ” อริสาที่กำลังเซ็นเอกสารถึงกับชะงัก หึ เธอไม่ชอบอีตาเจ้าของชื่อที่สุด...มันเป็นชื่อของอีตาคู่ปรับหมายเลขหนึ่งตลอดกาลของเธออย่างไรล่ะ
“จะถามถึงมันทำไมเนี่ย แค่ได้ยินชื่อก็หงุดหงิดแล้ว” อริสาเอ่ยขึ้นหลังจากตอบตกลงว่าจะไปเที่ยวเธอเกือบลืมไปแล้วว่าต้องเจอกับคนที่แค่ชื่อก็ทำให้เธอหงุดหงิดแล้วอย่างพันตำรวจตรีศารทูลหรือสารวัตรเสือคู่ปรับตลอดกาลที่ตีกันมาตั้งแต่ประถม เธอพูดอะไรตานั่นก็ชอบขัดตลอดแค่ได้หาเรื่องเธอก็พอใจแล้วไอ้คำพูดห่ามๆ ที่ออกมาจากปากสุนัขรวมกับหน้านิ่งๆ กวน ๆ ของนายคนนั้นทำให้เธอหงุดหงิดเป็นที่สุดแต่ทุกครั้งที่เธอเปิดฉากทะเลาะกับตาคนนั้นมักจะมีคนพูดบางอย่างที่เธอกับอีตานั่นที่ไม่เคยเห็นด้วยในทางเดียวกันถึงกับคิดเหมือนกัน
“โบราณว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น ครูเห็นมาเยอะแล้วที่ทะเลาะกันมาก ๆ เกลียดกันมาก ๆ สุดท้ายก็ได้กันทุกคู่อย่างพ่อแม่พวกเธอน่ะนั้นก็เคยเกลียดเคยทะเลาะกันมาก่อนนะ แต่เดี๋ยวนี้รักกันจนเลี่ยน” คำพูดของครูที่ปรึกษาสมัยมัธยมที่เคยพูดวันที่เขาและเธอทะเลาะกันจนถูกทำโทษหน้าเสาธงซึ่งตรงกับวันที่ท่านปลดเกษียณและวันนั้นเองที่เธอและเขาพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“ไม่มีทาง”
“ไม่เชื่อก็คอยดู” ครูคนเดิมยังเอ่ยบอกจากวันนั้นจนถึงวันนี้เธอก็ยังไม่เชื่อคำโบราณนั้นอยู่ดีเพราะเธอคิดว่าเกลียดก็คือเกลียดรักกันไม่ได้หรอกดังนั้นเธอจึงหงุดหงิดทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของอีตานั่น
“พี่อลินใจลอยไปไหนเนี่ย” ชริมาเรียกแต่อริสายังคงนิ่งตกอยู่ในภวังค์แห่งวีรกรรมความแสบของตนและคู่ปรับจนรุ่นน้องสาวต้องเอ่ยชื่อศารทูลอย่างชื่นชมให้อริสาหมั่นไสและดึงสติกลับจากความหลัง
“พี่เสือสุดหล่อของน้องตอนนี้ต้องหล่อมากแน่ ๆ เลย”
“หึ หมั่นไส้ เอากาแฟมาซิ หาขนมมาด้วยจัดโต๊ะนี่ด้วย” อริสาพูดก่อนจะหันหน้าลงไปสนใจเอกสารต่อ
“พี่อลินอะ ระวังน๊าแกล้งน้องมาก ๆ เดี๋ยวน้องแช่งให้ได้กับคนที่เกลียดซะนี่” ชริมาเอ่ยบอกอย่างงอนอริสาเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาดุ มีที่ไหนมาแช่งให้เธอได้กันคนที่เกลียดถึงแม้มันจะเป็นไม่ได้ก็เถอะ
“ไม่มีทางซะละเกลียดคือเกลียดย่ะ”
“แต่ครูแก้วบอกว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้นนะคะพี่อลินแล้วคนที่พี่เกลียดเนี่ยหล่อ รวย ฉลาด เท่แถมฮอตเป็นที่ต้องการของตลาดอีกต่างหากระวังตกหลุมรักเข้าให้ แล้วต้องมากลืนน้ำลายตัวเองไม่รู้ด้วย” ชริมาเอ่ยหยอกก่อนจะรีบวิ่งออกไปหากาแฟมาให้พี่แกก่อนจะโดยสายตาพิฆาต
“เชอะ คนอย่างอลินไม่ชอบก็คือไม่ชอบ โดยเฉพาะไอ้แมวบ้านั่นต่อให้เหลือมันคนเดียวในโลกฉันก็ไม่เอา!!!”
บ้านบดินทร์นุกูลและแล้วก็ถึงวันออกเดินทางตามนัดหมายที่ได้นัดกันเอาไว้ นายแพทย์สีหราชหรือหมอสิงห์สูตินารีแพทย์หนุ่มที่อายุอานามจะสามสิบอยู่แล้วแต่ก็ยังไม่มีทีท่าจะพาแฟนสาวมาแน่นำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ได้รู้จักดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เขาตื่นขึ้นมาแต่เช้าและรีบรุดมาที่หน้าห้องของพี่ชายฝาแฝดด้วยใบหน้าที่พร้อมจะกินเลือดกินเนื้อถ้ามีคนเบี้ยวนัดในวันนี้“นี่แกกลัวฉันเบี้ยวนัดขนาดนั้นเลยเหรอ” ศารทูลหรือเสือนายตำรวจหนุ่มปราบปรามยาเสพติดที่มักจะเบี้ยวนัดการพบปะรวมรุ่นอยู่เป็นประจำเอ่ยถามแฝดผู้น้องที่ยืนกอดอกอยู่หน้าห้องนอนหลังจากที่เคาะประตูปึงปังปลุกจนเขาต้องตื่นมาเปิดให้ทันทีที่เขาเปิดประตูออกจากห้อง หึ...คงกลัวเขาเบี้ยวทริปไปเที่ยวภูเก็ตครั้งนี้เหมือนที่เขาเคยบอกว่าจะไปร่วมทริปกับเดอะแก็งแต่เบี้ยวนัดทุกครั้งละสินะ“แหง่ละ แกเบี้ยวมาสี่ห้าครั้งแล้วยังไงครั้งนี้ฉันต้องเอาแกไปด้วยให้ได้ ให้เวลาอาบน้ำครึ่งชั่วโมงเร็วๆ” นายแพทย์สีหราชเอ่ยบอก ให้ตายเถอะไอ้พี่ชายคนนี้เข้าไม่ถึงความตื่นเต้นที่จะได้เจอใครบางคนของเขาไม่ได้หรือไง ถึงได้ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเอาซะเลย“ที่อยากให้รีบเนี่ยเพราะจะได้ไปหายัยคะ
“แกนี่มันไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้แมวปากเสีย” อริสาเอ่ยตะคอกใส่ศารทูลด้วยความโมโห คำว่าถูกทิ้งที่ได้ยินจากใครต่อใครไม่เจ็บเลยสักนิดแต่เมื่อเป็นไอ้บ้านี่พูดเธอรู้สึกจี๊ดไปทั้งทรวง“เธอก็ไม่เคยเปลี่ยนเหมือนกันนั่นแหละยัยเอเลี่ยน” ศารทูลที่เป็นประเภทแรงมาแรงไปสวนกลับทันที“ไอ้ปีศาจ”“ยัยแม่มด”ทั้งสองต่างมองหน้ากันราวจะกินเลือดกินเนื้อแต่ก่อนที่ “ไอ้ปีศาจอย่างศารทูล” กับ “ยัยแม่มดอย่างอริสา” จะเปิดฉากทะเลาะกันกลางสนามบินให้ได้อายปริมาก็รีบห้ามทัพกันท่าไว้ก่อน เธอกลัวจะไปไม่ถึงภูเก็ตน่ะสิ“พอแล้ว ๆ พวกแกเห็นป่ะเนี่ย...นี่มันกลางสนามบินนะ แกแยกเลยยัยคะนิ้ง หมอสิงห์ ก่อนที่ทริปภูเก็ตฉันจะเป็นหม้าย”“ยัยแว่นเอายัยอลินไปทางโน่นเลย” สีหราชเอ่ยบอกหญิงสาวในดวงใจด้วยน้ำเสียงเฉยชาที่เขาเป็นกับเธอแค่คนเดียวพร้อมกับดึงแฝดผู้พี่มามายืนข้างเจตริน ด้านนลินญาเธอส่งค้อนวงใหญ่ให้หมอหนุ่มก่อนจะดึงอริสามายืนข้างอารตี เธอไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาโกรธเกลียดอะไรเธอถึงได้เฉยชานักทั้งที่พูดดีและกระล่อนกับทุกคนแต่กับเธอสีหราชมักพูดจริงจังและชอบเรียกเธอว่ายัยแว่น...แว่นแล้วผิดตรงไหน!!!“ใจเย็นไว้อลิน โกรธคือโง่โมโหคือบ้า
ย้อนกลับไปยี่สิบสี่ปีก่อน โรงเรียนอนุบาลxxx “เอาล่ะค่ะเด็กๆ คุณครูจะให้หนู ๆ จับกลุ่มนะคะกลุ่มล่ะกี่คนก็ได้ จับกลุ่มได้แล้วต้องอยู่กับเพื่อนกลุ่มนั้นจนขึ้นประถมเลยนะคะใครทำผิดผิดทั้งกลุ่มใครทำดีได้ดีทั้งกลุ่มนะ เอาล่ะคุณครูให้เวลาจับกลุ่มหนึ่งอาทิตย์นะคะวันจันทร์หน้าทุกคนต้องมีกลุ่มแล้วในวันจันทร์ต้องออกมาแนะนำกลุ่มหน้าชั้นด้วยนะ” เสียงของคุณครูแสนสวยเอ่ยบอกนักเรียนชั้นอนุบาลสามที่เธอสองอยู่ในวันแรกของภาคเรียนที่หนึ่งก่อนจะปล่อยให้เด็ก ๆ หากลุ่มของตัวเอง “นี่มะยุกะเลาม้าย เราจื่อแพน” เด็กหญิงแพนธีราหรือน้องแพนในวัย5ขวบเอ่ยบอกหลังจากสะกิดหลังของเด็กหญิงปริมาหรือน้องปริมที่กำลังยืนเคว้งมองหาว่าจะจับกลุ่มกับใครดี “เราจื่อปริม” “ไปหาคงอื่นกานเตอะ” เด็กหญิงแพนธีราเอ่ยชวน เด็กหญิงปริมาพยักหน้าก่อนะจะชี้ไปที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนม้านั่งไม่ยอมไปหากลุ่ม เด็กหญิงทั้งสองคิดกันว่าจะหาแต่คนที่ไม่เข้ากับเด็กคนอื่นและในที่สุดก็หาได้ถึงแปดคนซึ่งประกอบด้วย น้องปริม น้องแพน น้องโจที่นั่งอยู่คนเดียว น้องแฝดอุ้มแอ้มและน้องป๊อปที่ตกลงว่าจะหากลุ่มด้วยกัน น้องแบงค์ที่ติดจะพูดไม
ปัจจุบัน(ภูเก็ต)“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะทำให้สองคนนี้อยู่ในแก๊งเดียวกันมาเกือบจะสามสิบปีแล้ว มหัศจรรย์เนอะ” อารตีเอ่ยขึ้นหลังจากทุกคนตกอยู่ในภวังค์ของอดีต คิดแล้วก็คิดถึงสมัยเด็ก ๆ ที่ได้เจอหน้ากันทุกวัน และคุยกันทุกวันแตกต่างจากปัจจุบันที่กว่าจะเจอกันทีไม่ใช่ง่าย ๆ“นั่นสินะไม่คิดว่าฉันกับไอ้แมวปีศาจนี่จะอยู่แก๊งเดียวกันมาได้รู้สึกมหัศจรรย์จริง ๆ” อริสาเอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อว่าแค่เรื่องแสนอับอายครั้งนั้นจะทำให้เธอไม่ชอบขี้หน้าคนที่ครั้งนึงเคยเล่นด้วยกันได้ขนาดนี้“มหัศจรรย์เหรอ ใช่มันมหัศจรรย์ที่สุดในจักรวาลเลย ฉันโคตรทึ่งพวกนายเลย” ศารทูลเอ่ยบอกก่อนจะมองเวลา “ไปที่เกาะเลยมั้ย หรือจะเที่ยวในตัวเมืองก่อน”“ไปเที่ยวกันก่อนแล้วกัน อาทิตย์หน้าค่อยเข้าไปที่เกาะ ไปหาโรงแรมพักกันก่อนใครเป็นเจ้าของโรงแรมนำทางค๊า” ปริมาเอ่ยบอกก่อนจะหันไปบอกเตชินทร์“เชิญครับคุณลูกค้า” เตชินทร์เอ่ยบอกก่อนจะนำทุกคนไปที่รถตู้ของโรงแรมที่เขาสั่งให้มารอ รอบนี้เตชินทร์จัดให้อริสาและศารทูลนั่งห่างกันที่สุดเพื่อป้องกันสงครามน้ำลายระหว่างทางการเดินทางแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นสงครามน้ำลายข้ามหัวเพื่อน ๆ ก็ยังคงมีขึ้นเ
“อ้าว มายืนทำอะไรตรงนี้ แล้วนั่นเป็นอะไรทำไมยืนตัวงอแบบนั้น” เสียงของอริสาดังขึ้นหลังจากที่เดินเข้ามาเห็นเพื่อนสาวระหว่างทางที่จะกลับห้อง อริสาไม่รู้สักนิดว่านลินญาได้ยินอะไรเข้าไปบ้าง แต่คำว่ายืนตัวงอของอริสาทำให้นลินญานึกขึ้นมาได้ถึงสาเหตุที่เดินลงมาจากห้อง“ฉันปวดท้องวันนั้นอีกแล้วอะแก ลืมเอายามาด้วยแกพกมาบ้างมั้ย” เพราะเธอเป็นหนึ่งคนที่มีปัญหาปวดท้องเวลาเป็นวันนั้นของเดือนแถมประจำเดือนยังมาไม่เป็นเวลาทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะประสบปัญหานี้ตอนไหน ทำให้บางครั้งก็ลืมเรื่องยาแก้ปวดไป และในบรรดาเพื่อนก็มีแค่อริสาที่มีปัญหาแบบนี้เหมือนกันเมื่อไปหาที่ห้องไม่เจอจึงต้องลงมาตามหาข้างล่าง ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมาได้ยินอะไรแบบนี้เข้านี่เธอโชคดีหรือโชคร้ายกันเนี่ย?“รู้สึกว่าจะไม่ได้เอามาอะแก เพราะก่อนมาเที่ยวมันมาแล้วฉันเลยสบายใจไม่คิดพกมาอะ” อริสาตอบเสียงเศร้าก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ “แต่แกไม่ต้องวิตก มีคนนึงที่ต้องช่วยได้ เดี๋ยวฉันมาแกนั่งรอนี่นะ”พูดจบอริสาก็หายไปทางห้องครัวทันทีนลินญารู้ได้ไม่ยากเลยว่าอีกฝ่ายจะไปตามใครมาช่วย คนปวดท้องเพราะเป็นวันนั้นหน้าร้อนขึ้นชั่วขณะเมื่อนึกไ
ผู้ชายอย่างอีตาหมอสิงห์นี่ทำให้เธอปวดหัวจริง ๆ คอยดูนะทริปนี้เธอจะเล่นงานตาคนนี้ให้หนักเลย ยัยเพื่อนผู้รู้แต่ไม่ยอมบอกอย่างอริสาด้วย รู้แล้วยังปกปิดมันต้องโดนนลินญาคิดแผนร้ายเงียบ ๆ โดยที่อริสาไม่รู้สักนิด ความจริงแล้วเธอก็ร้ายไม่แพ้เพื่อนคนไหนหรอก Devil Dark น่ะแปลว่าปีศาจมืด แก็ง Devil Dark ก็แปลว่าเป็นกลุ่มที่รวมตัวปีศาจมืดนั่นล่ะ ถ้าเธอแสนดีเธอจะอยู่กลุ่มนี้มาได้เป็นสามสิบปีรึไงกันเล่าความจริงแล้วสมัยม.ปลายเธอก็หลงรักเข้าเต็มเปาเลยล่ะ หลงรักตาหมอสีหราชนั่นน่ะ แต่ตอนนั้นตาคนนั้นไม่มีทีท่าอะไรเลยแถมยังปั่นปึ่งเย็นชาใส่เสียอีก อุตส่าห์ตามไปเรียนม.เดียวกันก็ยังไม่มีปฏิกิริยาพอเรียนจบก็เลยแยกย้ายกันไปเธอถึงได้เลิกสนใจ พยายามตัดใจจากเขา จนมาเจอลูกเลี้ยงของพ่อที่บุคลิกคล้ายกันนั่นล่ะเธอจึงหันเหไปที่คนนั้นเพื่อจะให้เขาเป็นตัวแทนของสีหราช ใครจะไปคิดล่ะพอเปิดใจให้คนโน่นเธอเพิ่งจะมาค้นพบความลับของคนนี้น่ะหงุดหงิดจริง ๆ ที่อริสารู้แล้วไม่บอก ถ้าบอกล่ะก็เธอกับตาหมอสีหราชได้คบกันไปนานแล้วมั้ง ไม่ต้องนั่งอยู่บนคานมาจนจะอายุสามสิบบวกให้ญาติฝั่งพ่อกระแนะกระแหนว่าขายไม่ออกแบบนี้หรอก ถ้ารู้ว่าส
การพูดคุยเฮฮาระหว่างเพื่อนยังคงดังเป็นระยะทว่าอริสาไม่ได้สนใจจะเฮฮากับเพื่อน หญิงสาวเอาแต่ซัดเครื่องดื่มลงคอ เธอเปลี่ยนจากน้ำสีหวานมาเป็นน้ำสีอำพัน ความจริงแล้วเธอค่อนข้างจะคออ่อน และดื่มไม่ค่อยเก่งแต่เพราะมีคู่อริเป็นคอทองแดงเธอจึงคออ่อนไม่ได้เสียชีพไม่ยอมเสียฟอร์ม และแพ้ไม่เป็นนี่คือเธอล่ะ...ยิ่งดื่มมากก็ยิ่งเมา คนเมาแล้วถ้าไม่เงียบไปเลยก็พูดมากพล่ามไปเรื่อย อริสาเป็นอย่างหลังในบรรดาเพื่อนฝูงรู้กัน คนเมาสุดเริ่มจะระบายออกมาเสียอ้อแอ้จนเพื่อน ๆ ต้องเงียบฟัง“ยัยเด็กผีนั้นตอนแรก ๆ ก็เข้ามาออเซาะ ออดอ้อน ทำตัวน่ารักจนฉันหลงไว้ใจคิดว่าใสซื่อ แต่สุดท้ายมันซื่อยังไงของมันถึงได้ไปท้องป่องกับแฟนฉันได้ ฮึก พวกแกคิดดูคนที่พวกแกบอกว่าฉลาดรอบรู้อย่างฉันเจ็บแค่ไหนตอนรู้ว่าตัวเองเป็นยัยโง่ที่ถูกสวมเขา ฮึก ผู้ชายมันเชื่อไม่ได้ ผู้หญิงใสซื่อไม่มีจริง ฮึก”“นี่ พอได้แล้ว ดื่มเยอะไปแล้วนะแก” ปริมาร้องห้ามเช่นเดียวกับเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่พากันห้ามแต่อริสาหาได้ฟังไม่ หญิงสาวยังคงดื่มเข้าไปอีกถึงสองแก้ว“ฉานผิดตรงหนาย ทามมายทามกาบฉานแบบเน้”“ไม่เอาแล้วอลิน แกเมาแล้วนะ” แพนธีราปราบพร้อมกับพยายามแย่งแก้
จากหาดหน้าบ้านเข้ามาภายในตัวบ้านไม่ไกลมากนักแต่ศารทูลก็นึกสงสัยขึ้นมา ยาถ่ายประเภทที่น่าจะเอาไว้แกล้งคนนี่น่าจะออกฤทธิ์ไม่ช้ากว่าสองถึงสามชั่วโมงหลังจากกินนะ เขาก็เคยโดยยัยคนที่เขาเก็บมาแอบใส่ในขนมให้กินอยู่หลายครั้งเหมือนกัน อย่างเร็วสุดหลังจากกินเข้าไปก็จะมีอาการปวดท้องทันที อย่างช้าสุดก็ยี่สิบชั่วโมง แต่ดูเหมือนอริสาจะไม่รู้สึกปวดท้องเลยแต่กลับมีอาการแปลก ๆ“อย่ามาไซ้ซอกคอฉันนะยัยขี้เมา” ใช่...ยัยขี้เมาไม่มีอาการปวดท้องแต่กลับมีอาการแปลก ๆ อยู่ ๆ ก็มาไซ้ซอกคอเขา มือไม้ก็ลูบไล้หน้าอกเขาเสียอย่างนั้นไม่น่าใช่ยาถ่ายแล้วล่ะ คงไม่ใช่ว่ายัยนลินญาถูกหลอกให้ซื้อยาแปลก ๆ มาหรอกนะ ?...“นิ่ง ๆ ได้มั้ยเนี่ย” ชายหนุ่มเอ่ยปรามคนเมาอีกรอบขณะเปิดประตูห้องของหญิงสาว“เสือจายร้ายดุอาลินทามมาย” คนเมาอ้อแอ้ตัดพ้อ คำพูดคำจาของหญิงสาวทำให้ศารทูลคิดถึงตอนเด็ก ๆ สมัยที่ยังไม่ทะเลาะกับอริสา สมัยนั้นเขาและสีหราชสนิทกับอริสามาก ตัวติดกันเป็นตังเมจนผู้ใหญ่แซวว่าเป็นแฝด3 แต่นั่นมันก็นานแล้วและก็ไม่มีอีกแล้วด้วยก็อริสาอยากจะไม่มีเหตุผลและนิสัยไม่ดีปาเค้กใส่เขาทำไมล่ะ ขาดแล้วขาดเลย ทุกวันนี้หรือแม้แต่ตอนนี้ที
“เรื่องอะไรต้องง้อ” อริสาบอกพร้อมกับทำท่างุนงง ศารทูลหัน ขวับมามองก่อนจะส่งเสียงชิชะขัดใจในลำคอ“ไม่ง้อก็ไม่ง้อ อยากไปหอมแก้มให้รางวัลหรือจะไปจูบหน้าผากให้รางวัลไอ้กล้าก็ไปเลย”“จูบแน่” อริสาตอบกลับก่อนจะยืดตัวขึ้นจูบริมฝีปากชายหนุ่มที่ยังคงมึนงง มือบางยกขึ้นคล้องคอชายหนุ่มไว้ด้วยและจูบอย่างชำนาญ...ขึ้นมาหน่อยศารทูลทั้งงุนงงและใบ้กินไปชั่วขณะแต่ก็จูบตอบในเวลาต่อมา“ที่บอกจะหอมแก้มสักฟอดหรือดีมาก ๆ เลยนะหมายถึงนายต่างหากเล่าตาทึ่มเอ้ย” หญิงสาวเอ่ยหลังจากที่ผละจูบ “เป็นแมวบ้าสมองสล็อตยังไม่พอยังทึ่มอีก”“ทึ่ม?”“ก็ทึ่มสิ ที่ฉันยิ้มมาตลอดน่ะเพราะนายหึงฉันต่างหากเล่า ตัวเองเคยแกล้งเค้าแบบนี้เหมือนกันจำไม่ได้เหรอ?”“นี่...”“เอาคืนนิดหน่อยเอง”“ยัยเอเลี่ยน ร้ายนักนะ” คนที่ถูกแกล้งให้งอนให้หึงว่าให้เมื่อรู้ความจริงทุกอย่างจากจะงอนให้ง้อตอนนี้เริ่มชักจะงอนจริง ๆ แล้วนะ“ยัยผู้หญิงขี้แกล้ง”
การได้มาดูนักชกขวัญใจทำให้อริสาเอาแต่สนใจบนเวทีตั้งแต่นักมวยหนุ่มยังคงไหว้ครูจนศารทูลได้กลิ่นเน่าของหัวตัวเอง รู้สึกหัวเน่ายังไงไม่รู้สิ ไม่น่าปั้นไอ้เจ้าต้นกล้านี่ให้เก่งเล้ย“ไม่คิดว่าวันนี้เจ้าของค่ายจะมาดูด้วยนะ” น้ำเสียงคล้ายทักทายกันดังขึ้นทำให้ศารทูลต้องละสายตามามองคนทัก“ผมก็มาดูต้นกล้ากับเด็กในค่ายบ่อย เสี่ยไม่เคยเห็นเหรอ?” ชายหนุ่มตอบกลับในเชิงกวนประสาทอีกฝ่ายก่อนจะหันไปดูบนเวที คู่สนทนาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นเจ้าของค่ายมวยของคู่ชกที่ต้นกล้าต้องชกด้วยในวันนี้นั่นเอง“ก็เห็น แต่ระวังวันนี้ต้นกล้าจะถูกกระชากเข็มขัดแชมป์ล่ะเพราะวันนี้เด็กของอั๊วเตรียมตัวมาดี”“ผมมาดูมวยไม่ได้มาฟังใครวิเคราะห์มวย ผลออกมาค่อยว่ากันดีกว่านะเสี่ย”“หึ อวดดี”ศารทูลไม่ว่าอะไรทำเพียงยักไหล่ยิ่งทำให้ถูกมองอย่างไม่ชอบใจ แต่ถามว่าเขาแคร์มั้ย บอกเลยว่าไม่ ไอ้คนชอบเล่นนอกกติกาแบบนี้ทำไมเขาต้องแคร์หลายครั้งที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายเล่นตุกติกจนนักชกในค่ายชนะมาแล้วหลายสนามแค่ได้ยินอย่างนั้นเขาก็ไม่อยาก
“ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว” ในที่สุดสิรานนท์ก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าอย่างคนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดได้ “ผมขอโทษพวกคุณด้วยที่ผมคิดจะทำร้ายชื่อเสียงพวกคุณ ผมเชื่อทุกหลักฐานในวันนี้นอกจากขอโทษแล้วยังขอบคุณด้วยที่ทำให้ผมได้รู้ความจริง”“มันสบายใจขึ้นนะ โล่งมาก ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้เลยตั้งแต่เริ่มสะสมความโกรธแค้นชิงชัง ผมไม่รู้จะพูดยังไงจริง ๆ” เขาพูดต่อก่อนจะยกมือไหว้ท่านอาทิตย์ “ผมขอโทษครับ ที่ผ่านมาผมคิดร้ายกับท่านมาโดยตลอด คิดจะทำร้ายลูกสาวท่านเพื่อให้ท่านเสียใจผมขอโทษ ขอโทษจริง ๆ”“มันไม่สายไปหรอกนะที่จะเริ่มต้นใหม่และเป็นมิตรต่อกัน” ท่านอาทิตย์บอกก่อนจะเดินมาตบไหล่ “ฉันไม่โกรธหรอก เพราะนายยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด โชคดีแล้วล่ะที่ยังไม่ได้ทำอะไร แต่คนที่ทำก็ต้องได้รับโทษของการกระทำ”ท่านอาทิตย์หมายถึงวิภาวีที่ตอนนี้นอกจากจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทและทำให้เสียชื่อเสียงแล้วยังมีคดีเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคดีเพราะชาวเน็ตช่วยกันขุดคุ้นคนที่ทำร้ายคนอื่นก็ต้องรับกรรมไป ทั้งโดนประณามในโลกออนไลน์และมีคดีความ นอกจากนี
อริสาปล่อยให้นักสืบโซเชียลตามสืบกันเอง เรื่องราวต่อจากนั้นเป็นยังไงอริสาขอไม่รับรู้ขอปล่อยให้เป็นไปตามเวรกรรมของแต่ละคนแม้ดูเหมือนเรื่องจะจบด้วยดีแต่ก็ยังมีเรื่องที่อริสาต้องจบอีกเรื่องนั่นก็คือเรื่องของสิรานนท์และตฤณกันต์เธออยากให้เลิกแล้วต่อกันด้วยดีไม่อยากให้ผูกใจแค้นกันต่อไป ถ้าฝั่งเธอผิดเธอก็จะเป็นฝ่ายขอโทษแทนผู้เป็นพ่อแต่ถ้าไม่ใช่เธอก็จะแก้ไขความเข้าใจผิดให้ทุกอย่างจบลง“เหลือเรื่องสิรานนท์กับตฤณกันต์ เรื่องตรวจDNAยังจะตรวจมั้ย?” สีหราชเอ่ยถามหลังจากที่ดูเหตุการณ์ในโลกโซเชียลว่าควบคุมเรื่องราวได้แล้ว“ไม่ต้องแล้วมั้ง เหมือนสองคนนั้นจะถอดใจแล้วนี่” นลินญาแสดงความคิดเห็น“ได้ไง สิงห์อุตส่าห์เสี่ยงไปเอาเส้นผมนายสิรานนท์มาอย่างยากลำบาก”“คือมันก็ไม่ยากมั้ย ทุกอย่างเป็นไปตามแผนแกเข้าถึงตัวสิรานนท์ได้แบบง่ายมากอะ” อริสาท้วงพ่อคนบอกว่าเสี่ยงอย่างลำบาก ทั้งที่จริง ๆ ทุกอย่างได้มีการวางแผนไว้แล้วตั้งแต่ต้น ตั้งแต่นัดเจอโดยมีศารทูล นลินญาและสีหราชซุ่มดูอยู่ เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดคนใดคนนึงจะได้โผล่มา
อริสารอศารทูลอยู่ที่รถไม่ได้เข้าไปเยี่ยมลูกน้องของชายหนุ่มด้วยเพราะไม่อยากให้มีคนถ่ายรูป คงจะมีคนให้พิกัดโรงพยาบาลที่นภิตรารักษาตัวอยู่แล้วต้องมีคนมาจับตาดูแน่ เธอไม่อยากจะเข้าไปให้เป็นเป้าสายตาหรอกนะ รอให้เธอได้เรื่องคนปล่อยข่าวก่อนเถอะ เธอไปโชว์ตัวแน่อริสาไม่คิดจะเช็คสถานการณ์ในโลกออนไลน์แต่เธอก็พอเดาได้ว่าคนอย่างนภิตราไม่มีทางพูดให้ตัวเองดูแย่ มีแต่จะบอกว่าตัวเองถูกกระทำเท่านั้นล่ะ และอาจจะพูดว่าเธอท้องกับตฤณกันต์ด้วยแต่ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ เธอไม่ได้เป็นอย่างที่นภิตราป่าวประกาศ ยังไงซะเธอก็ย่อมคงอยู่ไม่ถูกทำลายง่าย ๆ หรอกศารทูลไปเข้าไปเยี่ยมพิมพ์นาราไม่นานก็กลับออกมาด้วยใบหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “ข้อเสียของโลกออนไลน์คือเมื่อมีหนึ่งข่าวโผล่ขึ้นมามันจะต้องมีคนเกาะกระแสสร้างข่าวปลอมขึ้นมา และก็จะมีคนพวกนึงที่ไม่กรองก่อนเชื่อทุกข่าวที่เห็น บางคนอ่านแค่พาดหัวด้วยซ้ำ มันน่ากลัวโลกออนไลน์เนี่ย”“แต่ยังไงทองแท้ก็ยังเป็นทองแท้ หรือนายคิดว่าฉันเป็นทองปลอม?”“ม้าของป๊านาะของแท้อยู่แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ &ldq
แม้เช้าวันใหม่บรรยากาศในโลกโซเชียลจะยิ่งรุนแรงแต่อริสาก็ยังคงยิ้มแย้มและตอบรับการทานอาการเช้ากับครอบครัวของนลินญาด้วยใบหน้าที่ไร้วี่แววความเศร้าหรือเครียด“คุณแม่คะ พี่นนท์ล่ะคะ?” นปภาเอ่ยถามขึ้นเมื่อทุกคนมานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกันเกือบจะครบแล้ว ความจริงเธออยากจะถามอริสาเรื่องที่เกิดขึ้นแต่พอเห็นอริสายังคงยิ้มแย้มก็พูดไม่ออกจึงต้องเปลี่ยนไปถามเรื่องพี่ชายที่เธอไม่เห็นตั้งแต่เมื่อวาน“เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง เห็นว่าจะไปทำธุระที่ภูเก็ตสักพักน่ะ” คุณแสงรวีตอบ แม้ว่าตัวเธอพอจะรู้ว่าเป็นธุระอะไรแต่ก็ไม่อยากจะพูดออกมา เธอไม่อยากให้พี่น้องต้องระแวงสงสัยกันเพียงเพราะพี่ชายไปเกี่ยวพันกับพ่อค้ายาเสพติด และไม่อยากจะพูดเรื่องนี้“ผมรู้มาว่านายหัวธีระมาที่นี่ในฐานะแขกของคุณสิรานนท์ บางทีอาจจะต้องสอบถามคุณแสงรวี คุณอาอนาคินทร์และตัวคุณสิรานนท์สักหน่อย หวังว่าจะให้ความร่วมมือนะครับ” ราวกับศารทูลรู้ความคิดคนชรากว่าจึงเอ่ยดักขึ้น คนที่พอจะให้ข้อมูลดี ๆ ได้คงมีแต่คุณแสงรวีนี่ล่ะ“เราให้ความร่วมมืออยู่แล้ว” คุณอนาคินทร์
กว่าสองชั่วโมงผ่านไปร่างมีน้ำมีนวลทรุดนั่งลงบนเตียงด้วยอาการเหม่อลอย เธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนและไม่เคยรู้สึกกลัวเท่านี้มาก่อนของเหลวสีแดงยังคงติดตาการได้เห็นนภิตราตกเลือดต่อหน้าต่อตาพาให้เธอกลัวขึ้นมาจับใจ ยิ่งได้รู้ว่าไม่อาจจะรักษาชีวิตของลูกในท้องนภิตราไว้ได้เธอยิ่งกลัว...กลัวเหลือเกินว่าเธอจะเป็นแบบนั้นบ้างกลัวว่าตัวป่วนของเธอจะ...ศารทูลมองร่างเหม่อลอยก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ มือหนายื่นไปโอบไหล่ก่อนจะลูบไหล่อย่างปลอบโยน “อย่าเก็บมาคิด เรามีหมอสิงห์คอยดูแลอยู่ตลอด หมอสิงห์ไม่ปล่อยให้ตัวป่วนของเราเป็นเหมือนลูกของตฤณกันต์หรอก”“แต่ฉันกลัว”“ป๊าอยู่ตรงนี้ อย่ากลัวไปเลย ป๊าอยู่ข้างม้ากับตัวป่วนเสมอ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอด ชายหนุ่มปวดใจไม่น้อยที่เห็นอริสาหวาดกลัวแบบนี้ แต่ตัวเขาเองแม้จิตใจจะหนักแน่นแค่ไหนก็ยังรู้สึกกลัว...กลัวเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นกับอริสาและลูก“ป๊าจะอยู่ข้าง ๆ ม้า ม้าอย่ากังวลเลยนะ”“จะอยู่ข้าง ๆ ไม่ทิ้
ขณะที่อริสาและศารทูลกำลังนอนหลับพักผ่อนนลินญาและสีหราชก็มุ่งตรงมาหาคุณอนาคินทร์อย่างไม่รอช้า คนที่จะบอกเล่าที่มาของสิรานนท์ได้มีแค่ผู้เป็นพ่อของเธอกับแม่ของสิรานนท์เองเท่านั้น แต่ด้วยความสัมพันธ์แม่ลูกคุณแสงรวีคงไม่บอกอะไรเกี่ยวกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้เธอรู้อย่างแน่นอนดังนั้นแล้วคนที่พอจะให้ข้อมูลได้ก็มีเพียงคุณอนาคินทร์เท่านั้นนับว่าโชคดีที่วันนี้คุณแสงรวีและลูกออกไปในเมืองส่วนสิรานนท์ก็ยังคงเฝ้าดูอาการนายหัวธีระอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคู่จึงสอบถามคุณอนาคินทร์ได้อย่างสะดวก“นนท์เหรอ?”“ค่ะ คือว่าคะนิ้งสงสัยน่ะค่ะว่าครอบครัวทางพ่อของคุณนนท์ไม่มีเหรอคุณนนท์ถึงได้มาอยู่กับคุณน้ารวีแล้วก็คุณพ่อ คะนิ้งได้ยินจากน้ำค้างว่าไม่ได้อยู่กับคุณนนท์มาตั้งแต่เด็ก”“ตอนแรกเขาก็อยู่กับพ่อเขา พ่อก็ไม่รู้หรอกนะว่าพ่อเขาเป็นใครทำงานอะไร รู้แค่ว่าตอนแรกเขาอยู่กับพ่อเขา และพ่อเขาเสียคุณรวีก็เลยขอพามาอยู่ด้วย”“ตอนนั้นคุณนนท์อายุเท่าไหร่เหรอคะ?”“น่าจะเก้านะ” คุณอนาคินทร์ตอบอย่างไม่ปิดบัง เนื่องจากสีหราชใ
ขณะที่ศารทูลและอริสาออกไปหาข้าวเช้าทานสิรานนท์ก็มาหยุดหน้าห้องฉุกเฉินด้วยความรู้สึกหลากหลายอะไรกัน นายหัวธีระน่ะเหรอค้ายา?ไม่จริง เขาบอกให้อีกฝ่ายอย่ากลับไปยุ่งกับยาเสพติดแล้วนี่ ทำไมกัน?“พี่นนท์ อาธีเป็นยังไงบ้าง” เสียงของใครอีกคนที่ไม่ควรจะมาถึงไวขนาดนี้เอ่ยขึ้นพร้อมกับการเดินเข้ามาใกล้“ตำรวจบอกว่าหมอให้เผื่อใจไว้” สิรานนท์ตอบก่อนจะพาตัวเองไปนั่งเก้าอี้ ตฤณกันต์ตามไปด้วยใบหน้าสลดก่อนจะต้องเปลี่ยนเป็นซีดเมื่อสิรานนท์ถามออกมา “แกมาได้ยังไง ฉันเพิ่งโทรไปไม่กี่นาทีเองนี่”“ผะ ผมเพิ่งลงเครื่องเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว”“มาทำไม?”“ระ เรื่องของผมน่าพี่” ตฤณกันต์ตอบพร้อมกับผินหน้าหนี เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขามาเพราะอริสา เพราะรูปที่อริสาโพสต์ลงในโซเชียลมิเดียทั้งก่อนหน้านี้และที่ไร่อารดา“แกมาเพราะอริสา แกหลงรักยัยนั่นใช่มั้ย?”“ผม...”“หึ แกไม่เคยปิดฉันได้หรอกตฤณ พฤติกรรมแกมันฟ้อง” สำหรับตฤณกันต์แล้วสิ