ตั้งแต่คืนนั้นเธอเลือกจากไปจากเขา ไม่คิดที่อยู่ให้เป็นภาระของเขาอีกต่อไป ขืนอยู่ต่อไปอาจจะมองหน้ากันไม่ติดด้วยซ้ำเพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากได้เธอมาเป็นน้องสาวบุญธรรมตั้งแต่แรก เธอจำได้ดีตั้งแต่เธออายุสิบขวบมาอยู่ที่นี่เพราะพ่อแม่เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ มีเธอเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต แม่ของเขาที่เป็นเพื่อนของแม่เธอได้รับเธอมาเป็นลูกบุญธรรม ทว่าเขาก็ส่งสายตามาว่าไม่ชอบ แถมตอนแม่ของเขาเผลอ เขาชอบมาแกล้งเธอเป็นประจำ ยังขู่ไม่ให้เธอไปบอกแม่ด้วย พวกคนงานในไร่บางกลุ่มต่างบอกว่าเธอเป็นกาลกิณีไปอยู่กับใครคนนั้นต้องชิบหาย ตอนนั้นพวกคนงานพวกนี้คิดว่าเธอเป็นเด็กเลยนินทาโดยไม่คิดว่าเธออาจจะได้ยิน ในตอนนั้นแม้ว่าเขาไม่ได้พูดว่าเธอเป็นกาลกิณีดังพวกคนงานว่าทว่าสายตาของเขามันบ่งบอกว่าแบบนั้น
พอเธออายุสิบเก้าแม่บุญธรรมของเธอก็มากด่วนเสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็ง คำว่ากาลกิณียังคงตอกย้ำเธอเรื่อยมา จนถึงปัจจุบันนี้ แม้ว่าคนในไร่จะไม่พูดอะไร แต่สายตาของพวกเขามันชัดเจน เมื่อสิ้นใบบุญของแม่บุญธรรมแล้ว เธอยิ่งอยู่ที่นี่อย่างลำบาก แม้ว่าจะได้เรียนหนังสือจนจบมหาลัยเพราะเขาได้รับปากไว้กับแม่ของเขาว่าจะส่งเสียเธอเรียนให้จบ แต่ทว่าการอยู่กับเขาเหมือนเป็นคนรับใช้ เพียงแต่คนรับใช้อย่างเธอได้อยู่ในบ้านตึกใหญ่ของเขาก็เท่านั้นเอง
“ไอ้นันน์ มึงซักเสื้อกูยังไงวะ สีเสื้อกูตกเนี่ย” เขาเดินโวยวายลงมาชั้นล่างเอาเสื้อให้ลูกน้องของเขาดู
ลูกน้องที่กำลังขะมักเขม้นกับการถูพื้นบ้านให้เจ้านายถึงกับหน้าถอดสีทันที“สีตกหลายตัวเลย เสื้อตัวโปรดกูด้วย” เขาทำหน้าหงุดหงิดมากที่เสื้อตัวโปรดของเขาหลายตัวสีตกจนน่าเกลียด
“นันน์ก็บอกแล้วว่าให้เอาไปส่งซัก นันน์ซักของตัวเองยังไม่ค่อยสะอาดเลย”
“แล้วกูจะมีลูกน้องอย่างมึงไปทำไมวะ” เขาว่ากลับ
“นันน์เคยทำแต่งานในไร่ให้มาทำงานบ้าน มันก็งานช้างแบบนี้แหละ”
เขามองหน้านันน์ลูกน้องของเขาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา “เออ” “ตกลงว่าคราวหน้าลูกพี่ให้นันน์ส่งซักให้ไหมครับ”
“ไม่ต้องเดี๋ยวซักเอง” เขาไม่ชอบให้ใครคนอื่นที่ไม่รู้จักมายุ่งกับของ ๆ เขา ชายหนุ่มจึงเลือกจะซักเองดีกว่า ชายหนุ่มหมุนตัวออกจะเดินออกจากบ้าน ทว่าไม่ทันระวังเขาลื่นจนเกือบล้ม โชคดีที่ยังทรงตัวเอาไว้ได้ “ไอ้นันน์ถูพื้นบ้านยังไงวะให้เปียกได้ขนาดนี้”
“เอ้า! ก็ถูบ้านก็ต้องเปียกสิครับ” นันน์เถียงกลับเจ้านายทว่าเป็นจริงดังลูกน้องของเขาว่าทำเอาเขาอดคิดถึงตอนที่มะลิอยู่ที่นี่ไม่ได้ แม้แต่ถูพื้นเธอยังถูพื้นให้ได้แห้ง ไม่ลื่นหัวแตกแบบลูกน้องของเขา
“เออ...งั้นก็รีบ ๆ ถู แล้วตามเข้าไปในไร่ด่วน”
“ลูกพี่ไปกินข้าวรอก่อนเลยครับ กินเสร็จ นันน์ก็ถูพื้นเสร็จพอดี”
“เออ เร็ว ๆ เข้า”
ตั้งแต่มะลิไม่อยู่ที่บ้านหลังนี้ เขาต้องไปอาศัยกินข้าวที่โรงอาหารของที่ไร่เป็นประจำเกือบจะทุกมื้อบ้างมื้อเขาก็ออกไปกินข้างนอกบ้าง หรือบ้างครั้งเขาก็มาต้มมาม่ากินเองที่บ้านคนเดียว บ้านที่เคยสะอาดสะอาน ตอนนี้เละไม่เป็นท่า เสื้อผ้าของเขาที่มีเธอเคยซักรีดให้อย่างเรียบร้อยหอมฟุ้ง ตอนนี้ก็เละไม่ต่างจากความสะอาดในบ้านเลย ตั้งแต่ไม่มีเธออยู่ในบ้านหลังนี้ ทุกอย่างดูวุ่นวายขึ้นไปมาก ชีวิตของเขาเหมือนขาดอะไร ทั้งที่เมื่อก่อนอยากจะให้เธอออกไปให้พ้นหูพ้นตาทว่าครั้งนี้เขากับคิดถึงเธอจับใจ จนทำให้พานกินอะไรไม่ลง
ช่วงนี้ลูกน้องในไร่ต่างเข้าหน้าเจ้านายหนุ่มของพวกเขาไม่ติดกันเลย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูไม่เข้าหูเข้าตา ทุกอย่างที่ทำดูขวางหูขวางตาไปหมด มีเพียงแต่นันน์ลูกน้องคนสนิทที่ใกล้ชิดที่สุดดูจะกล้าเข้าไปหาเจ้านายของเขาได้มากกว่าคนอื่น ๆ นันน์จึงเป็นบุคคลที่ซวยที่สุดที่เป็นที่รองรับอารมณ์ของเขา
ลูกน้องบางส่วนที่รักและเอ็นดูมะลิราวกับลูกหลานของไร่ ใช้ให้นันน์ไปถามไถ่เรื่องราวของมะลิที่หายออกจากบ้านไป โดยที่ทุกคนไม่ทราบสาเหตุกันเลย มีเพียงเจ้านายของเขาที่รู้อยู่เต็มหัวใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ลูกพี่ครับบ้านไม่เป็นบ้านแบบนี้ ไปตามคุณมะลิกลับมาดีไหมครับ”
“ไปตามมาทำไม!” เขาตวาดลั่นจนคนงานในไร่ที่กำลังเก็บส้มอยู่ต่างตกใจไปตาม ๆ กัน
“บ้านก็จะได้เป็นบ้านไงครับลูกพี่ ทุกวันนี้บ้านช่องเละมากตั้งแต่ไม่มีคุณมะลิอยู่จัดการ”
“ก็ช่างมันสิ บ้านฉัน ฉันจัดการเองได้ ส่วนใครเขาอยากจะไปก็เรื่องของเขา ไม่จำเป็นต้องไปตามกลับมา!”
“แต่...” นันน์พยายามจะพูดโน้มน้าวเจ้านายหนุ่มต่อทว่าก็โดนเจ้านายเอ็ดเสียงดังพร้อมกับไล่เตะทันทีที่นันน์เอาแต่พูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง “ไปทำงานได้แล้ว อยากจะโดนไล่ออกหรือไง!” นันน์รีบวิ่งไปทำงานด่วน “ใครไม่อยากทำงานก็ออกไปได้เลยนะ ฉันอนุญาต” เขาเอ็ดเสียงดังอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด คนงานในไร่ทุกคนต่างเงียบกริบก้มหน้าก้มตาเก็บส้มกันใหญ่ วันนี้ทั้งวันเจ้านายหนุ่มของพวกเขาก็หงุดหงิดฟาดงวงฟาดงาตลอดทั้งวัน จากที่หลัง ๆ อารมณ์ร้ายอยู่แล้ว วันนี้ยิ่งร้ายเข้าไปใหญ่ *********************** “ช่วงนี้คุณภามดูผอมไปนะคะ กินข้าวเยอะ ๆ หน่อยสิคะ อย่ากินแต่เหล้าเยอะสิคะ” ป้าแมวแม่ครัวที่ไร่ออกมาพูดด้วยความเป็นห่วง “ผมผอมไปแล้วไม่หล่อหรือครับป้าแมวคนสวย” ชายหนุ่มหยอดคำหวาน สายตาหยาดเยิ้ม ปากหวานขนาดนี้ไม่ต้องเดา ชายหนุ่มได้ดื่มน้ำเมากันอยู่ที่โรงอาหารของไร่กับพวกลูกน้องสนิท ๆ หลายคน “แม้คุณภามก้อจะอ้วนหรือจะผอมคุณก็หล่ออยู่แล้วล่ะค่ะคุณภาม” ป้า
ค่ำคืนนี้ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน เมลิกาหรือมะลิได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่ในบ้านด้วยความเป็นห่วงพี่ชายต่างพ่อแม่ของเธอ ที่ขับรถยนต์ออกไปจากบ้านนานแล้ว จวบจนตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับสักที โดยปกติแล้วเธอไม่เป็นห่วงเขามากขนาดนี้ ทว่าในคืนนี้แฟนสาวของเขามาบอกเลิกถึงที่บ้าน จากนั้นเขาก็เอาแต่ดื่ม พอเธอเข้าไปห้ามเขาไม่ให้ดื่ม ชายหนุ่มก็โวยวายแล้วขับรถยนต์ออกไป เธอได้แต่ยืนดูฝนนอกหน้าต่างที่ตกกระหน่ำลงมาเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกได้สักที ทางข้างหน้าก็แสนมืด ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเป็นห่วงเขาจับใจเป็นอย่างมาก กังวลไปหมดว่าเขาจะเป็นอะไรไหม เธอคิดไปไกลกลัวว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุ ขอเพียงแต่ว่าอย่าให้มีเบอร์แปลก ๆ โทรเข้ามาตอนนี้เลย มะลิได้แต่ภาวนาว่าขอให้เขาขับรถยนต์อย่างปลอดภัย จวบจนเที่ยงคืนกว่าแล้ว เธอเผลอเคลิ้มหลับไปที่โซฟากลางบ้าน หญิงสาวตกใจตื่นขึ้นมาอีกทีก็เพราะได้ยินเสียงของรถยนต์ของภามนุกรหรือภามแล่นเข้ามาจอด มะลิเดินกางร่มหมายจะไปรับเขาที่โรงจอดรถ ทว่าเขาเดินตากฝนลงมา
ชายหนุ่มถอดเสื้อเชิ้ตออกจากตัวโยนลงไปที่พื้นห้อง มะลิสะดุ้งตกใจ ในตอนที่เสื้อของเขาดังกระทบลงพื้นห้อง เธอหันมามองเขาที่มีเพียงแต่แผงซิกแพ็คแน่น ๆ เท่านั้น แม้ว่าจะเห็นรูปร่างของเขาบ่อยในตอนที่เขาถอนเสื้อ ทว่าในยามวิกาลแบบนี้เธอยังไม่เคยเลยสักครั้ง ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงมากขึ้นไปใหญ่ “พี่ภาม...” เสียงพูดของเธอถูกปากของเขากลืนกินไปจนหมด ปากหวานของเธอถูกเขาบดขยี้ครอบครองเอาไว้เต็มปาก คนไม่ประสีประสากับเรื่องพวกนี้ พอโดนเขาจู่โจมเข้ามาด้วยริมฝีปากหยักได้รูป สติสตังที่มีก็พลอยเลือนหายไป หลงเหลือแต่ความเร่าร้อนของเขาที่เข้ามาครอบงำเอาไว้ให้จิตใจของเธอมีแต่ความร้อนรุ่ม ชายหนุ่มอุ้มร่างบางขึ้นมานอนไว้บนเตียงนอน โดยที่เขายังไม่ยอมปล่อยจูบออกจากเธอ ยังคงมอบจูบที่แสนเร่าร้อนโดยที่เธอไม่อาจจะปฏิเสธไปได้ มือของเขาเริ่มจะไม่อยู่กับที่ เขาเริ่มที่จะลูบไล้เนื้อตัวของเธอผ่านชุดนอนลายหมีแสนน่ารัก จนเธอเริ่มรู้สึกว่าร่างกายมันร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งร่างกาย แม้ว่าอยากจะผลักไสเขาออกไปทว่าร่างกายของเธอมันต้องการเขามาเติมเต็ม เสื้อนอนลา
เมื่อหญิงสาวได้เห็นความใหญ่โตของเขา ดังนั้นจึงเกิดอาการผวา รีบดันตัวเขยิบถ่อยหนีห่างเขา ทว่าโดนชายหนุ่มรั้งสะโพกเอาไว้ พร้อมกับที่เขาเอาท่อนแข็งขืดจ่อมาที่ปากถ้ำดอกไม้อีกครั้ง เขาถูขึ้นลงช้า ๆ ไปพร้อมดูปฏิกิริยาคนที่นอนสั่นสะท้านข้างล่างด้วย “พี่ภาม...มะลิกลัว” สิ้นสุดเสียงของเธอ ชายหนุ่มก็สอดใส่เข้าไปเต็มที่ทว่ามันเข้าไปได้ครึ่งลำเอง เขาก็ต้องหยุดค้างอยู่แบบนั้นเพราะเธอส่งเสียงกรี๊ดออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับพยายามดันตัวของเขาด้วย “อื้อ พี่ภาม...มะลิเจ็บ” น้ำตาของเธอไหลลงมาทั้งสองข้าง ร่างกายของเธอมันเหมือนถูกเขาเอามีดมากรีดเข้ากลางใจให้มันแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ เขามองร่างบางที่นอนสั่นสะท้านและน้ำตาที่ไหลรินลงมา ชายหนุ่มก็นึกสงสารจับใจที่เขาเผลอทำอะไรวู้วาวไปชั่วขณะ ทั้งที่รู้ดีว่านี้เป็นครั้งแรกของมะลิทว่าเขาก็ทำอะไรเอาแต่ใจเกินไปหน่อย ภามเลยก้มลงไปจูบซับน้ำตาที่หางตาของเธอ โดยไม่คิดรังเกียจ จูบซับไปเรื่อย ๆ จนทั่วใบหน้า เสียงสะอึกสะอื้นค่อย ๆ เบาลง จวบจนเขาเลื่อนริมฝีปากของเขาไปจูบที่ปากแสนหวานของเธอ แสดงความอ่อนโยนลงไปให้เธอไ
“แต่...” นันน์พยายามจะพูดโน้มน้าวเจ้านายหนุ่มต่อทว่าก็โดนเจ้านายเอ็ดเสียงดังพร้อมกับไล่เตะทันทีที่นันน์เอาแต่พูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง “ไปทำงานได้แล้ว อยากจะโดนไล่ออกหรือไง!” นันน์รีบวิ่งไปทำงานด่วน “ใครไม่อยากทำงานก็ออกไปได้เลยนะ ฉันอนุญาต” เขาเอ็ดเสียงดังอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด คนงานในไร่ทุกคนต่างเงียบกริบก้มหน้าก้มตาเก็บส้มกันใหญ่ วันนี้ทั้งวันเจ้านายหนุ่มของพวกเขาก็หงุดหงิดฟาดงวงฟาดงาตลอดทั้งวัน จากที่หลัง ๆ อารมณ์ร้ายอยู่แล้ว วันนี้ยิ่งร้ายเข้าไปใหญ่ *********************** “ช่วงนี้คุณภามดูผอมไปนะคะ กินข้าวเยอะ ๆ หน่อยสิคะ อย่ากินแต่เหล้าเยอะสิคะ” ป้าแมวแม่ครัวที่ไร่ออกมาพูดด้วยความเป็นห่วง “ผมผอมไปแล้วไม่หล่อหรือครับป้าแมวคนสวย” ชายหนุ่มหยอดคำหวาน สายตาหยาดเยิ้ม ปากหวานขนาดนี้ไม่ต้องเดา ชายหนุ่มได้ดื่มน้ำเมากันอยู่ที่โรงอาหารของไร่กับพวกลูกน้องสนิท ๆ หลายคน “แม้คุณภามก้อจะอ้วนหรือจะผอมคุณก็หล่ออยู่แล้วล่ะค่ะคุณภาม” ป้า
ตั้งแต่คืนนั้นเธอเลือกจากไปจากเขา ไม่คิดที่อยู่ให้เป็นภาระของเขาอีกต่อไป ขืนอยู่ต่อไปอาจจะมองหน้ากันไม่ติดด้วยซ้ำเพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากได้เธอมาเป็นน้องสาวบุญธรรมตั้งแต่แรก เธอจำได้ดีตั้งแต่เธออายุสิบขวบมาอยู่ที่นี่เพราะพ่อแม่เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ มีเธอเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต แม่ของเขาที่เป็นเพื่อนของแม่เธอได้รับเธอมาเป็นลูกบุญธรรม ทว่าเขาก็ส่งสายตามาว่าไม่ชอบ แถมตอนแม่ของเขาเผลอ เขาชอบมาแกล้งเธอเป็นประจำ ยังขู่ไม่ให้เธอไปบอกแม่ด้วย พวกคนงานในไร่บางกลุ่มต่างบอกว่าเธอเป็นกาลกิณีไปอยู่กับใครคนนั้นต้องชิบหาย ตอนนั้นพวกคนงานพวกนี้คิดว่าเธอเป็นเด็กเลยนินทาโดยไม่คิดว่าเธออาจจะได้ยิน ในตอนนั้นแม้ว่าเขาไม่ได้พูดว่าเธอเป็นกาลกิณีดังพวกคนงานว่าทว่าสายตาของเขามันบ่งบอกว่าแบบนั้น พอเธออายุสิบเก้าแม่บุญธรรมของเธอก็มากด่วนเสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็ง คำว่ากาลกิณียังคงตอกย้ำเธอเรื่อยมา จนถึงปัจจุบันนี้ แม้ว่าคนในไร่จะไม่พูดอะไร แต่สายตาของพวกเขามันชัดเจน เมื่อสิ้นใบบุญของแม่บุญธรรมแล้ว เธอยิ่งอยู่ที่นี่อย่างลำบาก แม้ว่าจะได้เรียนหนังสือจนจบมหาลัยเพราะเขาได้รับปากไว้กับแม่ของเ
เมื่อหญิงสาวได้เห็นความใหญ่โตของเขา ดังนั้นจึงเกิดอาการผวา รีบดันตัวเขยิบถ่อยหนีห่างเขา ทว่าโดนชายหนุ่มรั้งสะโพกเอาไว้ พร้อมกับที่เขาเอาท่อนแข็งขืดจ่อมาที่ปากถ้ำดอกไม้อีกครั้ง เขาถูขึ้นลงช้า ๆ ไปพร้อมดูปฏิกิริยาคนที่นอนสั่นสะท้านข้างล่างด้วย “พี่ภาม...มะลิกลัว” สิ้นสุดเสียงของเธอ ชายหนุ่มก็สอดใส่เข้าไปเต็มที่ทว่ามันเข้าไปได้ครึ่งลำเอง เขาก็ต้องหยุดค้างอยู่แบบนั้นเพราะเธอส่งเสียงกรี๊ดออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับพยายามดันตัวของเขาด้วย “อื้อ พี่ภาม...มะลิเจ็บ” น้ำตาของเธอไหลลงมาทั้งสองข้าง ร่างกายของเธอมันเหมือนถูกเขาเอามีดมากรีดเข้ากลางใจให้มันแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ เขามองร่างบางที่นอนสั่นสะท้านและน้ำตาที่ไหลรินลงมา ชายหนุ่มก็นึกสงสารจับใจที่เขาเผลอทำอะไรวู้วาวไปชั่วขณะ ทั้งที่รู้ดีว่านี้เป็นครั้งแรกของมะลิทว่าเขาก็ทำอะไรเอาแต่ใจเกินไปหน่อย ภามเลยก้มลงไปจูบซับน้ำตาที่หางตาของเธอ โดยไม่คิดรังเกียจ จูบซับไปเรื่อย ๆ จนทั่วใบหน้า เสียงสะอึกสะอื้นค่อย ๆ เบาลง จวบจนเขาเลื่อนริมฝีปากของเขาไปจูบที่ปากแสนหวานของเธอ แสดงความอ่อนโยนลงไปให้เธอไ
ชายหนุ่มถอดเสื้อเชิ้ตออกจากตัวโยนลงไปที่พื้นห้อง มะลิสะดุ้งตกใจ ในตอนที่เสื้อของเขาดังกระทบลงพื้นห้อง เธอหันมามองเขาที่มีเพียงแต่แผงซิกแพ็คแน่น ๆ เท่านั้น แม้ว่าจะเห็นรูปร่างของเขาบ่อยในตอนที่เขาถอนเสื้อ ทว่าในยามวิกาลแบบนี้เธอยังไม่เคยเลยสักครั้ง ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงมากขึ้นไปใหญ่ “พี่ภาม...” เสียงพูดของเธอถูกปากของเขากลืนกินไปจนหมด ปากหวานของเธอถูกเขาบดขยี้ครอบครองเอาไว้เต็มปาก คนไม่ประสีประสากับเรื่องพวกนี้ พอโดนเขาจู่โจมเข้ามาด้วยริมฝีปากหยักได้รูป สติสตังที่มีก็พลอยเลือนหายไป หลงเหลือแต่ความเร่าร้อนของเขาที่เข้ามาครอบงำเอาไว้ให้จิตใจของเธอมีแต่ความร้อนรุ่ม ชายหนุ่มอุ้มร่างบางขึ้นมานอนไว้บนเตียงนอน โดยที่เขายังไม่ยอมปล่อยจูบออกจากเธอ ยังคงมอบจูบที่แสนเร่าร้อนโดยที่เธอไม่อาจจะปฏิเสธไปได้ มือของเขาเริ่มจะไม่อยู่กับที่ เขาเริ่มที่จะลูบไล้เนื้อตัวของเธอผ่านชุดนอนลายหมีแสนน่ารัก จนเธอเริ่มรู้สึกว่าร่างกายมันร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งร่างกาย แม้ว่าอยากจะผลักไสเขาออกไปทว่าร่างกายของเธอมันต้องการเขามาเติมเต็ม เสื้อนอนลา
ค่ำคืนนี้ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน เมลิกาหรือมะลิได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่ในบ้านด้วยความเป็นห่วงพี่ชายต่างพ่อแม่ของเธอ ที่ขับรถยนต์ออกไปจากบ้านนานแล้ว จวบจนตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับสักที โดยปกติแล้วเธอไม่เป็นห่วงเขามากขนาดนี้ ทว่าในคืนนี้แฟนสาวของเขามาบอกเลิกถึงที่บ้าน จากนั้นเขาก็เอาแต่ดื่ม พอเธอเข้าไปห้ามเขาไม่ให้ดื่ม ชายหนุ่มก็โวยวายแล้วขับรถยนต์ออกไป เธอได้แต่ยืนดูฝนนอกหน้าต่างที่ตกกระหน่ำลงมาเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกได้สักที ทางข้างหน้าก็แสนมืด ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเป็นห่วงเขาจับใจเป็นอย่างมาก กังวลไปหมดว่าเขาจะเป็นอะไรไหม เธอคิดไปไกลกลัวว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุ ขอเพียงแต่ว่าอย่าให้มีเบอร์แปลก ๆ โทรเข้ามาตอนนี้เลย มะลิได้แต่ภาวนาว่าขอให้เขาขับรถยนต์อย่างปลอดภัย จวบจนเที่ยงคืนกว่าแล้ว เธอเผลอเคลิ้มหลับไปที่โซฟากลางบ้าน หญิงสาวตกใจตื่นขึ้นมาอีกทีก็เพราะได้ยินเสียงของรถยนต์ของภามนุกรหรือภามแล่นเข้ามาจอด มะลิเดินกางร่มหมายจะไปรับเขาที่โรงจอดรถ ทว่าเขาเดินตากฝนลงมา