ชายหนุ่มถอดเสื้อเชิ้ตออกจากตัวโยนลงไปที่พื้นห้อง มะลิสะดุ้งตกใจ ในตอนที่เสื้อของเขาดังกระทบลงพื้นห้อง เธอหันมามองเขาที่มีเพียงแต่แผงซิกแพ็คแน่น ๆ เท่านั้น แม้ว่าจะเห็นรูปร่างของเขาบ่อยในตอนที่เขาถอนเสื้อ ทว่าในยามวิกาลแบบนี้เธอยังไม่เคยเลยสักครั้ง ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงมากขึ้นไปใหญ่
“พี่ภาม...” เสียงพูดของเธอถูกปากของเขากลืนกินไปจนหมด
ปากหวานของเธอถูกเขาบดขยี้ครอบครองเอาไว้เต็มปาก คนไม่ประสีประสากับเรื่องพวกนี้ พอโดนเขาจู่โจมเข้ามาด้วยริมฝีปากหยักได้รูป สติสตังที่มีก็พลอยเลือนหายไป หลงเหลือแต่ความเร่าร้อนของเขาที่เข้ามาครอบงำเอาไว้ให้จิตใจของเธอมีแต่ความร้อนรุ่ม
ชายหนุ่มอุ้มร่างบางขึ้นมานอนไว้บนเตียงนอน โดยที่เขายังไม่ยอมปล่อยจูบออกจากเธอ ยังคงมอบจูบที่แสนเร่าร้อนโดยที่เธอไม่อาจจะปฏิเสธไปได้ มือของเขาเริ่มจะไม่อยู่กับที่ เขาเริ่มที่จะลูบไล้เนื้อตัวของเธอผ่านชุดนอนลายหมีแสนน่ารัก จนเธอเริ่มรู้สึกว่าร่างกายมันร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งร่างกาย แม้ว่าอยากจะผลักไสเขาออกไปทว่าร่างกายของเธอมันต้องการเขามาเติมเต็ม
เสื้อนอนลายหมีของเธอ ถูกชายหนุ่มถอดออกไปจากตัวของเธออย่างง่ายดาย เสื้อของเธอถูกเขาโยนไปที่ไหนสักที่ในห้องแห่งนี้ เหลือเพียงบราเซียที่ปิดทรวงอกที่มันล้นทะลักออกมา ชายหนุ่มก้มลงไปไซ้ซอกคอขาวของเธอ มือของเขาก็สัมพันธ์ทรวงอกนุ่มนิ่มของเธอผ่านบราเซียเอาไว้ด้วย สัมพันธ์และการกระทำของเขาทำให้เธอยิ่งรู้สึกร้อนรุ่มเพิ่มมากขึ้น
ชายหนุ่มเปลี่ยนจากไซ้ซอกคอ เริ่มคลอเคลียลงมาที่เนินเนื้อนุ่ม จวบจนเขาสอดแขนลงไปที่ใต้หลังของเธอ จัดการปลดบราเซียออกอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นลูกซาลาเปาสองลูกขาวอวบ ภามลงไปฟัดคลอเคลีย พร้อมกับสองมือของเขาที่จับสองเต้าไว้มันมือ เขาทั้งบีบ ทั้งขยำ อย่างมันเขี้ยว อีกทั้งชายหนุ่มยังครอบครองจุกซาลาเปาแสนสวยเอาไว้เต็มปาก
ร่างกายของเธอรู้สึกแปลกใหม่ เมื่อโดนเขาสัมพันธ์เข้ามาที่หน้าอกของเธอ แทนที่เธอจะหลบหนีเขาทว่าเธอกับแอ่นอกให้เขาได้สัมผัสอย่างถนัดมากขึ้น
สองเต้าถูกเขาครอบครองจนพอใจแล้ว ชายหนุ่มก็ค่อย ๆ เลื่อนลงต่ำลงมา สัมผัสของเขาที่จูบเบา ๆ ต่ำลงไปเรื่อย ๆ เล่นเอาหน้าท้องของเธอแบนราบลง การหายใจของเธอก็เริ่มหายใจติดขัดมากขึ้น ร่างบางต่างเกร็งไปทั้งตัว ยิ่งเขาคลอเคลียต่ำลงมาเรื่อย ๆ หัวใจของเธอก็เต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง จวบจนเขาดึงกางเกงนอนลายหมีแสนน่ารักไปพร้อมกับกางเกงในตัวจิ๋วด้านในออก
เขาค่อย ๆ ดันขาเรียวงามออก ก้มลงไปที่จุดกลางใจสัมผัสแพรไหมผืนงามด้วยมือของเขาอย่างแผ่วเบา ลูบไล้แพรไหมงามไปมา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความหื่นกระหายที่ลุกโชนออกมา จนเธอที่มองการกระทำของเขาอยู่รู้สึกเขินอาย จนหน้าร้อนผ่าวออกมา
“พี่ภาม...” เสียงของเธอเรียกเขาเบาหวิว ทว่าเขาเพียงใช้สายตามามองเธอเพียงนิดก่อนที่จะก้มลงไปที่ระหว่างขาของเธออีกครั้ง
เขาใช้มือสอดลงไปที่ใต้ขาของเธอ จับขาทั้งสองข้างของเธอให้ตั้งชันขึ้น สายตาของเขาที่มองมาในตอนแรก เธอเห็นว่าเขาแสยะยิ้ม เหมือนบ่งบอกความหมายว่าจะพิฆาตเธอ ขาของเธอรู้สึกได้ว่ามันสั่นออกมา ยิ่งเขาลงลิ้นเข้ามาสัมผัสที่กลางใจแพรไหมผืนงาม ความรู้สึกเสียดเสียวที่มีในตัวก็ยิ่งเพิ่มทวีคูณ และมันก็มากขึ้น เมื่อเขาลงลิ้นซ้ำ ๆ อยู่แบบนั้น ชายหนุ่มลากลิ้นของเขาขึ้นลงไปถึงตรงกลางถ้ำดอกไม้บานฉ่ำ ที่มีน้ำหวานไหลเยิ้มออกมา
ความปั่นป่วนซาบซ่านในร่างกายของเธอมันส่งผลให้เธอจิกผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ไปหมด เธอนอนส่ายหน้าสั่นสะท้านไปมา เม้มปากเอาไว้แน่นเพราะกระดากอายที่จะเป่งเสียงน่ารังเกียจออกมา ทว่าเขาเหมือนกลั้นแกล้งคนที่พยายามไม่ให้เป่งเสียงน่ารังเกียจออกมากับลงลิ้นลากขึ้นลงอย่างหนัก อีกทั้งเขายังระรัวลิ้นในทางแห่งรักชนิดที่ไม่ให้เธอได้หายใจหายคอได้คล่องท้อง
“พี่ภาม...” เสียงหวานยังคงเป่งชื่อเขาเลื่อย ๆ ทว่าเป็นเสียงเรียกกระตุ้นคนเมามายราคะเป็นอย่างมาก
คราวนี้เขาเอานิ้วเข้าไปเปิดช่องทางแห่งรัก สอดใส่เข้าไปสองนิ้ว เขาค่อย ๆ ขยับนิ้วช้า ๆ เนิบ ๆ จากนั้นชายหนุ่มจึงขยับถี่รัวขึ้น เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของเธอมันเริ่มผ่อนคลาย เขาทำไปพร้อมกับที่ลิ้นของเขายังสัมผัสที่ผ้าไหมผืนงาม ลากขึ้นลากลงไปพร้อมกับนิ้วที่ระรัวถี่ยิบ“อ๊าส์...พี่ภาม” เธอได้แต่เป่งเสียงแสนทรมานมาอย่างเบา ๆ
สองมือจิกผ้าปูที่นอนหนักเข้าไปใหญ่ หน้าของเธอส่ายเกร็งกันไปมาเมื่อรู้สึกว่าภายในมันเสียวเป็นอย่างมาก เสียวและทรมานจนเธอเองก็อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก ได้แต่นอนครวญครางเพียงแผ่วเบาให้ชายหนุ่มได้กลืนกินตัวของเธอให้สาแก่ใจ จนในที่สุดร่างบอบบางที่กำลังโดนเขาบดขยี้แทบไม่มีชิ้นดีกำลังลอยละลิ่วพร้อมกับหลุดเสียงครางออกมาเสียงดัง
เธอหอบหายใจขาดเป็นห้วง ๆ เมื่อรู้สึกว่าตัวของเธอได้หลุดลอยไปไกลยามที่เขาพาไปถึงจุดหมาย ในตอนที่เธอกำลังหายใจไม่ทั่วท้อง เขาก็รูดซิปกางเกงของเขานำความใหญ่โตออกมาจดจ่อที่ปลายทางแห่งรัก พร้อมกับที่เขาค่อย ๆ ถีบกางเกงของเขาออกโดยที่ไม่ต้องลุกขึ้นไปถอดจนเขาโยนกางเกงลงไปที่ไหนสักแห่งในห้องนอน
เมื่อหญิงสาวได้เห็นความใหญ่โตของเขา ดังนั้นจึงเกิดอาการผวา รีบดันตัวเขยิบถ่อยหนีห่างเขา ทว่าโดนชายหนุ่มรั้งสะโพกเอาไว้ พร้อมกับที่เขาเอาท่อนแข็งขืดจ่อมาที่ปากถ้ำดอกไม้อีกครั้ง เขาถูขึ้นลงช้า ๆ ไปพร้อมดูปฏิกิริยาคนที่นอนสั่นสะท้านข้างล่างด้วย “พี่ภาม...มะลิกลัว” สิ้นสุดเสียงของเธอ ชายหนุ่มก็สอดใส่เข้าไปเต็มที่ทว่ามันเข้าไปได้ครึ่งลำเอง เขาก็ต้องหยุดค้างอยู่แบบนั้นเพราะเธอส่งเสียงกรี๊ดออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับพยายามดันตัวของเขาด้วย “อื้อ พี่ภาม...มะลิเจ็บ” น้ำตาของเธอไหลลงมาทั้งสองข้าง ร่างกายของเธอมันเหมือนถูกเขาเอามีดมากรีดเข้ากลางใจให้มันแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ เขามองร่างบางที่นอนสั่นสะท้านและน้ำตาที่ไหลรินลงมา ชายหนุ่มก็นึกสงสารจับใจที่เขาเผลอทำอะไรวู้วาวไปชั่วขณะ ทั้งที่รู้ดีว่านี้เป็นครั้งแรกของมะลิทว่าเขาก็ทำอะไรเอาแต่ใจเกินไปหน่อย ภามเลยก้มลงไปจูบซับน้ำตาที่หางตาของเธอ โดยไม่คิดรังเกียจ จูบซับไปเรื่อย ๆ จนทั่วใบหน้า เสียงสะอึกสะอื้นค่อย ๆ เบาลง จวบจนเขาเลื่อนริมฝีปากของเขาไปจูบที่ปากแสนหวานของเธอ แสดงความอ่อนโยนลงไปให้เธอไ
ตั้งแต่คืนนั้นเธอเลือกจากไปจากเขา ไม่คิดที่อยู่ให้เป็นภาระของเขาอีกต่อไป ขืนอยู่ต่อไปอาจจะมองหน้ากันไม่ติดด้วยซ้ำเพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากได้เธอมาเป็นน้องสาวบุญธรรมตั้งแต่แรก เธอจำได้ดีตั้งแต่เธออายุสิบขวบมาอยู่ที่นี่เพราะพ่อแม่เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ มีเธอเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต แม่ของเขาที่เป็นเพื่อนของแม่เธอได้รับเธอมาเป็นลูกบุญธรรม ทว่าเขาก็ส่งสายตามาว่าไม่ชอบ แถมตอนแม่ของเขาเผลอ เขาชอบมาแกล้งเธอเป็นประจำ ยังขู่ไม่ให้เธอไปบอกแม่ด้วย พวกคนงานในไร่บางกลุ่มต่างบอกว่าเธอเป็นกาลกิณีไปอยู่กับใครคนนั้นต้องชิบหาย ตอนนั้นพวกคนงานพวกนี้คิดว่าเธอเป็นเด็กเลยนินทาโดยไม่คิดว่าเธออาจจะได้ยิน ในตอนนั้นแม้ว่าเขาไม่ได้พูดว่าเธอเป็นกาลกิณีดังพวกคนงานว่าทว่าสายตาของเขามันบ่งบอกว่าแบบนั้น พอเธออายุสิบเก้าแม่บุญธรรมของเธอก็มากด่วนเสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็ง คำว่ากาลกิณียังคงตอกย้ำเธอเรื่อยมา จนถึงปัจจุบันนี้ แม้ว่าคนในไร่จะไม่พูดอะไร แต่สายตาของพวกเขามันชัดเจน เมื่อสิ้นใบบุญของแม่บุญธรรมแล้ว เธอยิ่งอยู่ที่นี่อย่างลำบาก แม้ว่าจะได้เรียนหนังสือจนจบมหาลัยเพราะเขาได้รับปากไว้กับแม่ของเ
“แต่...” นันน์พยายามจะพูดโน้มน้าวเจ้านายหนุ่มต่อทว่าก็โดนเจ้านายเอ็ดเสียงดังพร้อมกับไล่เตะทันทีที่นันน์เอาแต่พูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง “ไปทำงานได้แล้ว อยากจะโดนไล่ออกหรือไง!” นันน์รีบวิ่งไปทำงานด่วน “ใครไม่อยากทำงานก็ออกไปได้เลยนะ ฉันอนุญาต” เขาเอ็ดเสียงดังอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด คนงานในไร่ทุกคนต่างเงียบกริบก้มหน้าก้มตาเก็บส้มกันใหญ่ วันนี้ทั้งวันเจ้านายหนุ่มของพวกเขาก็หงุดหงิดฟาดงวงฟาดงาตลอดทั้งวัน จากที่หลัง ๆ อารมณ์ร้ายอยู่แล้ว วันนี้ยิ่งร้ายเข้าไปใหญ่ *********************** “ช่วงนี้คุณภามดูผอมไปนะคะ กินข้าวเยอะ ๆ หน่อยสิคะ อย่ากินแต่เหล้าเยอะสิคะ” ป้าแมวแม่ครัวที่ไร่ออกมาพูดด้วยความเป็นห่วง “ผมผอมไปแล้วไม่หล่อหรือครับป้าแมวคนสวย” ชายหนุ่มหยอดคำหวาน สายตาหยาดเยิ้ม ปากหวานขนาดนี้ไม่ต้องเดา ชายหนุ่มได้ดื่มน้ำเมากันอยู่ที่โรงอาหารของไร่กับพวกลูกน้องสนิท ๆ หลายคน “แม้คุณภามก้อจะอ้วนหรือจะผอมคุณก็หล่ออยู่แล้วล่ะค่ะคุณภาม” ป้า
ค่ำคืนนี้ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน เมลิกาหรือมะลิได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่ในบ้านด้วยความเป็นห่วงพี่ชายต่างพ่อแม่ของเธอ ที่ขับรถยนต์ออกไปจากบ้านนานแล้ว จวบจนตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับสักที โดยปกติแล้วเธอไม่เป็นห่วงเขามากขนาดนี้ ทว่าในคืนนี้แฟนสาวของเขามาบอกเลิกถึงที่บ้าน จากนั้นเขาก็เอาแต่ดื่ม พอเธอเข้าไปห้ามเขาไม่ให้ดื่ม ชายหนุ่มก็โวยวายแล้วขับรถยนต์ออกไป เธอได้แต่ยืนดูฝนนอกหน้าต่างที่ตกกระหน่ำลงมาเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกได้สักที ทางข้างหน้าก็แสนมืด ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเป็นห่วงเขาจับใจเป็นอย่างมาก กังวลไปหมดว่าเขาจะเป็นอะไรไหม เธอคิดไปไกลกลัวว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุ ขอเพียงแต่ว่าอย่าให้มีเบอร์แปลก ๆ โทรเข้ามาตอนนี้เลย มะลิได้แต่ภาวนาว่าขอให้เขาขับรถยนต์อย่างปลอดภัย จวบจนเที่ยงคืนกว่าแล้ว เธอเผลอเคลิ้มหลับไปที่โซฟากลางบ้าน หญิงสาวตกใจตื่นขึ้นมาอีกทีก็เพราะได้ยินเสียงของรถยนต์ของภามนุกรหรือภามแล่นเข้ามาจอด มะลิเดินกางร่มหมายจะไปรับเขาที่โรงจอดรถ ทว่าเขาเดินตากฝนลงมา
“แต่...” นันน์พยายามจะพูดโน้มน้าวเจ้านายหนุ่มต่อทว่าก็โดนเจ้านายเอ็ดเสียงดังพร้อมกับไล่เตะทันทีที่นันน์เอาแต่พูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง “ไปทำงานได้แล้ว อยากจะโดนไล่ออกหรือไง!” นันน์รีบวิ่งไปทำงานด่วน “ใครไม่อยากทำงานก็ออกไปได้เลยนะ ฉันอนุญาต” เขาเอ็ดเสียงดังอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด คนงานในไร่ทุกคนต่างเงียบกริบก้มหน้าก้มตาเก็บส้มกันใหญ่ วันนี้ทั้งวันเจ้านายหนุ่มของพวกเขาก็หงุดหงิดฟาดงวงฟาดงาตลอดทั้งวัน จากที่หลัง ๆ อารมณ์ร้ายอยู่แล้ว วันนี้ยิ่งร้ายเข้าไปใหญ่ *********************** “ช่วงนี้คุณภามดูผอมไปนะคะ กินข้าวเยอะ ๆ หน่อยสิคะ อย่ากินแต่เหล้าเยอะสิคะ” ป้าแมวแม่ครัวที่ไร่ออกมาพูดด้วยความเป็นห่วง “ผมผอมไปแล้วไม่หล่อหรือครับป้าแมวคนสวย” ชายหนุ่มหยอดคำหวาน สายตาหยาดเยิ้ม ปากหวานขนาดนี้ไม่ต้องเดา ชายหนุ่มได้ดื่มน้ำเมากันอยู่ที่โรงอาหารของไร่กับพวกลูกน้องสนิท ๆ หลายคน “แม้คุณภามก้อจะอ้วนหรือจะผอมคุณก็หล่ออยู่แล้วล่ะค่ะคุณภาม” ป้า
ตั้งแต่คืนนั้นเธอเลือกจากไปจากเขา ไม่คิดที่อยู่ให้เป็นภาระของเขาอีกต่อไป ขืนอยู่ต่อไปอาจจะมองหน้ากันไม่ติดด้วยซ้ำเพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากได้เธอมาเป็นน้องสาวบุญธรรมตั้งแต่แรก เธอจำได้ดีตั้งแต่เธออายุสิบขวบมาอยู่ที่นี่เพราะพ่อแม่เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ มีเธอเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต แม่ของเขาที่เป็นเพื่อนของแม่เธอได้รับเธอมาเป็นลูกบุญธรรม ทว่าเขาก็ส่งสายตามาว่าไม่ชอบ แถมตอนแม่ของเขาเผลอ เขาชอบมาแกล้งเธอเป็นประจำ ยังขู่ไม่ให้เธอไปบอกแม่ด้วย พวกคนงานในไร่บางกลุ่มต่างบอกว่าเธอเป็นกาลกิณีไปอยู่กับใครคนนั้นต้องชิบหาย ตอนนั้นพวกคนงานพวกนี้คิดว่าเธอเป็นเด็กเลยนินทาโดยไม่คิดว่าเธออาจจะได้ยิน ในตอนนั้นแม้ว่าเขาไม่ได้พูดว่าเธอเป็นกาลกิณีดังพวกคนงานว่าทว่าสายตาของเขามันบ่งบอกว่าแบบนั้น พอเธออายุสิบเก้าแม่บุญธรรมของเธอก็มากด่วนเสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็ง คำว่ากาลกิณียังคงตอกย้ำเธอเรื่อยมา จนถึงปัจจุบันนี้ แม้ว่าคนในไร่จะไม่พูดอะไร แต่สายตาของพวกเขามันชัดเจน เมื่อสิ้นใบบุญของแม่บุญธรรมแล้ว เธอยิ่งอยู่ที่นี่อย่างลำบาก แม้ว่าจะได้เรียนหนังสือจนจบมหาลัยเพราะเขาได้รับปากไว้กับแม่ของเ
เมื่อหญิงสาวได้เห็นความใหญ่โตของเขา ดังนั้นจึงเกิดอาการผวา รีบดันตัวเขยิบถ่อยหนีห่างเขา ทว่าโดนชายหนุ่มรั้งสะโพกเอาไว้ พร้อมกับที่เขาเอาท่อนแข็งขืดจ่อมาที่ปากถ้ำดอกไม้อีกครั้ง เขาถูขึ้นลงช้า ๆ ไปพร้อมดูปฏิกิริยาคนที่นอนสั่นสะท้านข้างล่างด้วย “พี่ภาม...มะลิกลัว” สิ้นสุดเสียงของเธอ ชายหนุ่มก็สอดใส่เข้าไปเต็มที่ทว่ามันเข้าไปได้ครึ่งลำเอง เขาก็ต้องหยุดค้างอยู่แบบนั้นเพราะเธอส่งเสียงกรี๊ดออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับพยายามดันตัวของเขาด้วย “อื้อ พี่ภาม...มะลิเจ็บ” น้ำตาของเธอไหลลงมาทั้งสองข้าง ร่างกายของเธอมันเหมือนถูกเขาเอามีดมากรีดเข้ากลางใจให้มันแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ เขามองร่างบางที่นอนสั่นสะท้านและน้ำตาที่ไหลรินลงมา ชายหนุ่มก็นึกสงสารจับใจที่เขาเผลอทำอะไรวู้วาวไปชั่วขณะ ทั้งที่รู้ดีว่านี้เป็นครั้งแรกของมะลิทว่าเขาก็ทำอะไรเอาแต่ใจเกินไปหน่อย ภามเลยก้มลงไปจูบซับน้ำตาที่หางตาของเธอ โดยไม่คิดรังเกียจ จูบซับไปเรื่อย ๆ จนทั่วใบหน้า เสียงสะอึกสะอื้นค่อย ๆ เบาลง จวบจนเขาเลื่อนริมฝีปากของเขาไปจูบที่ปากแสนหวานของเธอ แสดงความอ่อนโยนลงไปให้เธอไ
ชายหนุ่มถอดเสื้อเชิ้ตออกจากตัวโยนลงไปที่พื้นห้อง มะลิสะดุ้งตกใจ ในตอนที่เสื้อของเขาดังกระทบลงพื้นห้อง เธอหันมามองเขาที่มีเพียงแต่แผงซิกแพ็คแน่น ๆ เท่านั้น แม้ว่าจะเห็นรูปร่างของเขาบ่อยในตอนที่เขาถอนเสื้อ ทว่าในยามวิกาลแบบนี้เธอยังไม่เคยเลยสักครั้ง ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงมากขึ้นไปใหญ่ “พี่ภาม...” เสียงพูดของเธอถูกปากของเขากลืนกินไปจนหมด ปากหวานของเธอถูกเขาบดขยี้ครอบครองเอาไว้เต็มปาก คนไม่ประสีประสากับเรื่องพวกนี้ พอโดนเขาจู่โจมเข้ามาด้วยริมฝีปากหยักได้รูป สติสตังที่มีก็พลอยเลือนหายไป หลงเหลือแต่ความเร่าร้อนของเขาที่เข้ามาครอบงำเอาไว้ให้จิตใจของเธอมีแต่ความร้อนรุ่ม ชายหนุ่มอุ้มร่างบางขึ้นมานอนไว้บนเตียงนอน โดยที่เขายังไม่ยอมปล่อยจูบออกจากเธอ ยังคงมอบจูบที่แสนเร่าร้อนโดยที่เธอไม่อาจจะปฏิเสธไปได้ มือของเขาเริ่มจะไม่อยู่กับที่ เขาเริ่มที่จะลูบไล้เนื้อตัวของเธอผ่านชุดนอนลายหมีแสนน่ารัก จนเธอเริ่มรู้สึกว่าร่างกายมันร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งร่างกาย แม้ว่าอยากจะผลักไสเขาออกไปทว่าร่างกายของเธอมันต้องการเขามาเติมเต็ม เสื้อนอนลา
ค่ำคืนนี้ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน เมลิกาหรือมะลิได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่ในบ้านด้วยความเป็นห่วงพี่ชายต่างพ่อแม่ของเธอ ที่ขับรถยนต์ออกไปจากบ้านนานแล้ว จวบจนตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับสักที โดยปกติแล้วเธอไม่เป็นห่วงเขามากขนาดนี้ ทว่าในคืนนี้แฟนสาวของเขามาบอกเลิกถึงที่บ้าน จากนั้นเขาก็เอาแต่ดื่ม พอเธอเข้าไปห้ามเขาไม่ให้ดื่ม ชายหนุ่มก็โวยวายแล้วขับรถยนต์ออกไป เธอได้แต่ยืนดูฝนนอกหน้าต่างที่ตกกระหน่ำลงมาเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกได้สักที ทางข้างหน้าก็แสนมืด ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเป็นห่วงเขาจับใจเป็นอย่างมาก กังวลไปหมดว่าเขาจะเป็นอะไรไหม เธอคิดไปไกลกลัวว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุ ขอเพียงแต่ว่าอย่าให้มีเบอร์แปลก ๆ โทรเข้ามาตอนนี้เลย มะลิได้แต่ภาวนาว่าขอให้เขาขับรถยนต์อย่างปลอดภัย จวบจนเที่ยงคืนกว่าแล้ว เธอเผลอเคลิ้มหลับไปที่โซฟากลางบ้าน หญิงสาวตกใจตื่นขึ้นมาอีกทีก็เพราะได้ยินเสียงของรถยนต์ของภามนุกรหรือภามแล่นเข้ามาจอด มะลิเดินกางร่มหมายจะไปรับเขาที่โรงจอดรถ ทว่าเขาเดินตากฝนลงมา