“ที่นี่คือ”“ซูตงขอรับ”“ซูตง”“ดินแดนซูตงที่โอบลอ้มไปด้วยหุบเขาและแมกไม้พวกท่านไม่มีทางผ่านเข้ามาได้หากไม่เคยมาที่นี่ และมีคนนำทาง”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลงจริงด้วยเพราะตอนที่ขเ้ามาต้าเหนิงเอาแต่ห่วงฉินเกอหลงจนไม่มีเวลาได้ชื่นชมทิวทัศน์รอบๆตัวรู้แค่ว่ามันคือหุบเขาทางเข้าเป็นม่านน้ำตกข้างในเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนคงเคยเป็นปล่องภูเขาไฟแต่ตอนนี้มอดดับจึงเหลือแต่ความอุดมสมบูรณ์ของหมู่แมกไม้และสายน้ำลำธาร“เคยได้ยินคนผู้หนึ่งกล่าวถึงที่นี่เยียนฉือ เจ้ารู้จักท่านหมอที่ชื่อเยียนฉือหรือไม่”เสี่ยวจิ้งยิ้มดวงตาพร่างพราวท่านหมอวางหลวมยาพร้อมกับเดินเข้ามาจับชีพจร“ท่านหมอเทวดาเยี่ยนฉือคือคนที่สอนวิชาแพทย์แก้ข้าน้อย หากว่าท่านคือสหายเช่นนั้นข้าน้อยคงต้องดูแลท่านราวกับสหายคนหนึ่งเช่นกัน”ฉินเกอหลงถอนหายใจ“แหมท่านหมอนะหรือสนิทกันที่สุดเลยเป็นคนสนิท..อุ๊ป”รีบยกมืออุดปากตัวเองพูดมากไปแล้วต้าเหนิง“ท่านหมอกับเราสองคนมีมิตรภาพพี่ดีต่อกันอย่าพูดว่าเป็นดังสหายเรากับท่านหมอ รู้จักเพียงผิวเผิน”ฉินเกอหลงรีบแก้ต่าง ต้าเหนิงขมดคิ้วว่าทำไมไม่ขิงไปเลยว่าสนิทกับท่านหมอเทวดานั่นพวกเขาจะได้รู้สึกว่าเป็นคนกันเอง“โอ้ เ
“ไม่ต้องพูดได้ไหม”รีบเดินเลี่ยง ฉินเกอหลงที่เอนตัวพิงอยู่กับพนังห้องรีบคว้ามือบางไว้“เอ่อต้าเหนิงมีช่วงเวลานี้ด้วยหรือ”“ช่วงเวลาอะไร”ฉินเกอหลงยิ้มกรุ้มกริ่ม“ช่วงเวลาเขินอายข้าเห็นก่อนหน้านั้นยามที่ข้าไม่อยากเข้าใกล้เจ้า เจ้าก็หาทางเข้ามาใกล้ชิดข้าก่อน”“อย่ามาพูดแบบนี้นะ ก็ท่านอ๋องเอาแต่เก็กไม่ยอม… ไม่ยอมพูดกับต้าเหนิงนี่”ดวงตากลมโตหลุบตามองพื้นเสียกลัวอีกคนเป็นความในใจจากดวงตา“ใกล้ชิดเจ้าแล้วอย่างไรใกล้ชิดเจ้าแล้ว ข้าแทบจะหยุดหายใจ ข้าแทบจะสะกดกลั้นความรู้สึกเสน่หาเจ้าไม่ได้แล้วจะไม่ให้ทำที่ว่าเฉยชาได้อย่างไรกัน ขข้าแต่เดิมไม่เคยเข้าใกล้หญิงใดมาก่อนวันนี้ต้องมาใกล้ชิดกับสนมคนงามของกัวกั๋วที่นางพยายามจะเข้าใกล้ถูกเนื้อต้องตัวข้าตลอดเวลา เจ้าคิดว่าบุรุษที่ไม่เคยใกล้ชิดหญิงใดเช่นข้าบำเพ็ญเพียรเป็นนักบวชมาตั้งนานจะไม่ตะบะแตกหรือไร”“ นั่นมันเรื่องของท่านอ๋อง ต้าเหนิงไม่พูดด้วยแล้ว”เขินจนไม่รู้จะไปอย่างไร เดินเอาห่อยาไปยังเตาไฟเพื่อจะเคี่ยวยา“โอ้ไม่น่าเชื่อแค่เพียงคนเร่ร่อนรอนแรมเหตุใดได้มาพักในเรือนรับรองของแขกคนสำคัญของซูตงกันเลยนะ”เชียวไฉหรานเดินเข้ามาข้างในห้องอย่างถือวิสาสะ ไม่ท
“หวางเย่หมายความว่าอย่างไร ซือกวานท่านต้องตอบคำถามข้าแล้วล่ะ”“ท่านอ๋องฉินเกอหลง”เชียวกงเล่อ อ้าปากค้างยกมือประสานกันตรงหน้าอย่างนอบน้อม“สวรรค์มีตาแต่เชียวกงเล่อหามีตาไม่ ข้าน้อยเชียวกงเล่อน้อมรับหารลงทัณฑ์จากหวางเย่”ไฉหรานหยุดร้องไห้ยืนตลึงพรึงเพริศ ทั้งรุ้สึกผิดทั้งเสียดายฉินเกอหลง และทั้งเจ็บปวดที่เห็นฉินเกอหลงกระอักเลือด“อย่าเพิ่งห่วงเรื่องการลงทัณฑ์ ตอนนี้หวางเย่กำลังบาดเจ็บสาหัสคนของท่านตามหมอหลวงถึงไหนกันป่านนี้ยังไม่มา”ซือกวานร้อนรนรีบพยุงฉินเกอหลงยังแท่นบรรทมไม้ไผ่ต้าเหนิงเม้มริมฝีปากหน้าเสียเมื่อฉินเกอหลงนิ่งลงไปอย่างเห็นได้ชัดท่านหมอหอบหลวมยาเข้ามาหน้าตื่น เสี่ยวจิ้งตามมาติดๆ“นี่ยาขอรับ นายท่านรีบกลืนยานี่ก่อน”ต้าเหนิงรีบรินน้ำใส่ในจอกส่งให้ฉินเกอหลงเริ่มใจเสียน้ำตาปริ่มขอบตาฉินเกอหลงที่นั่งนิ่งหลับตาข่มความเจ็บปวด“อึกกๆๆฮืออ”“ต้าเหนิงอย่าร้องไห้”เพียงคำพูดนี้ของฉินเกอหลงทำเอาน้ำตาร่วงพรู“ฮือออออย่าเป็นอะไรน้าาาาา ฮืออออเจ็บไหมอึกกกกๆๆๆ”ฉินเกอหลงเอื้อมมือกอดรวบเอวบางของต้าเหนิงอย่างปลอบโยน“ข้าไม่ชอบให้เจ้าร้องไห้ไม่รู้หรือไร”เฉินซือกวานถอนหายใจ หมอหลวงส่ายหน้าไป
เชียวเกอหลงอมยิ้ม ความหวานส่งออกมาทางสายตาและการกระทำ“ใครกัน จะไม่หลงเชื่อในเมื่อท่านอ๋องห่วงใยนางเพียงนั้น”“เอ่อต้าเหนิงนางคือเอ่อต้าเหนิงคนของตระกูลเอ่อที่เหลือรอดเพียงคนเดียวและนางคือคนที่ข้าต้องปกป้องตามบัญชาของเสี้ยนตี้หรือเสด็จปู่”“ตระกูลเอ่อ”“นางเหลือรอดคนสุดท้ายไร้ญาติมิตรเดส็จย่าจึงให้ข้า มาคอยอารักขานางและ นางตอนนี้วางยา กัวกั๋วฮ่องเต้ จนต้องหนีตาย”เชียวเกอหลงอ้าปากค้าง“เป็นแม่นางเอ่อต้าเหนิงคนนี้หรอกหรือที่วางยากัวกั๋วฮ่องเต้”สีหน้าประหลาดใจอย่างที่สุดต้าเหนิงอายุอานามไม่กี่มากน้อยทำไมถึงได้ใจถึงขนาดนี้“ข้าจะเล่าให้ฟังดีไหม เดิมใต้เท้าเฉินมอบยาพิษให้ข้าและบอกว่าให้วางยากัวกั๋วฮ่องเต้แต่พิษไม่ได้ร้ายแรงอะไรแค่ทำให้กัวกั๋วรู้ว่าต้องพิษแล้วข้าเป็นคนทำเพื่อจะได้สั่งประหารข้าแล้ว ๆๆๆท่านอ๋องจะได้มีแรงฮึดที่จะเข้าไปช่วยข้าและชิงบัลลังก์ไม่ได้บอกว่ากัวกั๋วฮ่องเต้จะต้องเป็นแบบนี้ ข้าผิดเองไม่คิดว่า ใต้เท้าเฉินจะเป็นคนแบบนี้ใต้เท้าเฉินจะหลอกใช้ข้าคิดว่าเป็นเขาที่ดีกับท่านอ๋องช่วยพวกเราจากองครักษ์วังหลวงให้ที่หลบซ่อน และยังมี เฉินอี้เหมยที่คอยดูแลอาากรบาดเจ็บของท่านอ๋อง”เหลือบต
ต้าเหนิงโยนหินลงกระทบผิวน้ำ ทีละก้อนแล้วยังไม่หายโมโห มือสองข้างกอบเอาก้อนหินเต็มกำมือปาลงบนพื้นน้ำแตกกระจาย เชียวกงเล่อวางดอกเหมยสีแดงหนึ่งดอกให้ไหลไปตามท้องน้ำ ต้าเหนิงมองดอกเหมยสีแดงงดงามลอยล่องไปตามลำน้ำ แล้วหันมาจ้องเชียวกงเล่อด้วยสายตาคมดุ“อย่างไหนที่ทำให้เจ้ารู้สึกสบายใจกว่ากันความแข็งแกร่งหรือความอ่อนโยน”“ถามทำไม ข้าผู้ไม่นิยมความอ่อนแอ”“เพราะฉะนั้นหวางเย่จึงเลือกที่จะดุดันเพื่อให้เจ้าได้รู้ว่า ชีวิตคนเราอะนะเกิดเพียงครั้งตายเพียงหนึ่งหากเจ้ายังใช้มันสิ้นเปลืองคนที่เจ็บปวดใจก็คือท่านอ๋องที่นั่งมองจ้าเน้นใช้ชีวิตไม่เน้นมีชีวิต ท่านอ๋องเช่นไรจะตามปกป้องเจ้าได้ตลอดเวลา”“ช่างเขาเถอะข้าไ่สนใจเขาแล้วว่าแต่ที่นี่มีงานให้ทำไหมข้าจะอยู่มันที่นี่แหละ” เชียวกงเล่ออมยิ้ม“งานหรือ”อือต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลง“ข้ารับสมัครนายหญิงน้อย เจ้ายินดีไหมเล่า”“อีกแล้วหรือ เฮ้อต้าเหนิงทำใจเถอะนะก็เจ้าหน้าตาดีขนาดนี้เจ้าก็เลยมีคนมาชอบมากมายสินะ”ิยิ้มแก้มปริเชิดหน้าสูงขึ้นเชียวกงเล่อยิ้ม“เจ้านี่จริงๆเลยไม่แปลกใจที่หวางเย่จะหวงแหนเจ้ายิ่งกว่าสิ่งของมีค่าชิ้นไหนเพราะเจ้าทำให้โลกสดใสเช่นนี้นี่เอง”“ข
“บิดาท่าน ไม่ว่าหรือที่ท่านหนีออกมาอย่างนี้”ต้าเหนิงถาม ซือกวานเบาๆอีกคนยิ้มทอดถอนใจ“ข้าเนรเทศตัวเอง”ต้าเหนิงยิ้ม อีกคนยิ้มเศร้า“ข้าไม่เคยได้ยินว่าใครเนรเทศตัวเองมาก่อนท่านกล้าเสียจริงต้าเหนิงคารวะเป็นศิษย์ดีไหม555 แล้วเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ของท่านอ๋องเล่านางจะลำบากไหม”ประโยคสุดท้ายคือคำห่วงใยจริงจังที่เฉินซือกวานสัมผัสได้“นางไม่ลำบาก เจ้าไม่ต้องห่วงนาง เดิมทีอี้เหมยนางสบายมาตลอดแค่ต้องมาใช้ความคิดนิดหน่อย มีน้ำตาเพียงเล็กน้อยตอนที่จะต้องถวายตัวกับกัวกั๋วตลอดชีวิตนางไม่เคยร้องไห้ด้วยซ้ำ ข้ากับหวางเย่ก็คอยปกป้องนางมาตลอดและยังมีหานจงที่ยอมเป็นลูกไล่นางเช่นนั้นนางไม่มีอะไรต้องกลัวหรือต้องห่วงอะไร”ต้าเหนิงยิ้มเศร้าๆรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินขึ้นมาทันที “ขอบคุณท่านที่ ที่เลือกที่ยืนข้างที่ถูก”เฉินชือกวานยิ้มบางๆ“ขอบคุณเจ้าเช่นกันที่วันนี้ทำให้ข้ารู้ว่าข้าตัดสินใจไม่ผิด”“ข้าไปแล้วท่าน อวยพรให้ข้าหน่อยสิว่าอย่าได้เจอ…คนหล่อหน้ายักษ์” เฉินซือกวานยิ้มสดใสนึกขำกับคำเรียกขานฉินเกอหลงของต้าเหนิงนางช่างสรรหาคำที่เหมาะกับตัวฉินเกอหลงเสียจริง“ขอให้ เจ้าอย่าใจดำกับหวางเย่ก็พอ”“ขี้โกงนี่ ข้าให้อ
ถ้ำกลางหุบเขา“หานจงดื่มยาเสียหน่อยเจ้่าอาการไม่ดีขึ้นเลย”ท่านหมอเยี่ยนฉือผประคองร่างบอบซ้ำของหานจงบรรจงป้อนยาที่เป่าไล่ลมร้อนไปแล้วจนอุ่นกำลังดี ท่านจะไม่ทิ้งข้าใช่ไหมท่านจะยังอยู่ตรงนี้ไใช่ไหม เยี่ยนฉือข้ากลัว กลางคืนมาน่ากลัว”มือไม้ไขว่คว้ากอดรัดเพ้อเพราะพิษไข้จากบาดแผลที่กำลังระบม“เจ้าเด็กโง่เอ๊ยใครกันจะทิ้งเจ้า ข้าควรจะไปเรียนวิชาแพทย์ใหม่ใช่ไหมอาการบาดเจ้บแค่นี้กลับทำให้ดีขึ้นไม่ได้”ร่างเล็กที่ท่อนบนมีผ้าพันแผลรอบไหลเลือดสีแดงยังไหลซึม“หนาวจัง”เยี่ยนฉือรีบเสื้อคลุมห่มให้แล้วขยับตัวตั้งใจจะเพิ่มฟืนให้โหมกระพือ แต่หานจงกลับรั้งร่างสูงมากอดรัดด้วยอาการของคนที่ไร้สติ“หนาว หนาวจัง”เยี่ยนฉือกอดร่างเล็กในอ้อมแขนเขาไว้แน่น อากาศหนาวอ้อมกอดอบอุ่นจึงช่วยได้ไม่น้อยเยี่ยนฉือยิ้มเศร้าๆกอดหานจงไว้ในอ้อมแขนแน่น จะห่วงอะไรห่วงอะไรกันเล่า ความสุขความทุกข์รายล้อมรอบตัวเราอยู่ที่ใครจะเก็บเกี่ยวความสุขได้มากกว่ากันเช้าสดใส“ท่าน ท่าน เยี่ยนฉือ เจ้าคนบ้าทำอะไรกับข้า”เสียงหานตงโวยวายแต่เช้าเยี่ยนฉืองัวเงียลืมตาขึ้นช้าๆก็เมื่อคืนกว่าเขาจะได้นอนหมอนี่ตัวร้อนเขาต้องคอยป้อนยาและกอดไว้ไม่ปล่อยพอจะปล่
“ท่านกำลังจะพาข้าไปที่ไหน”“เสด็จย่ากำลังจะไปบำเพ็ญเพียรที่วิหารเทียมฟ้าที่นั่นเจ้าจะปลอดภัย จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยข้าจะแวะมารับเจ้าขอประทานอนุญาตพาเจ้าเข้าวัง”“ทำไมไม่พาข้าเข้าวังในตอนนี้เลยเล่าข้ากลัวที่จะต้องอยู่โดยที่ไม่มีใครที่ข้ารู้จัก”“เจ้ารู้จักข้าหรือ” เอ่อต้าเหนิงไม่ตอบคำถามแต่ซบหน้าลงลบนแผ่นหลังบอบบางของฉินเกอหลงแทนคำตอบ อีกคนอมยิ้มก่อนลาในคืนนั้น ต้าเหนิงยืนนิ่งมองฉินเกอหลงที่กำลังจะกระโดดขึ้นบนหลังม้าหานจงยืนม้าคอยอยู่ก่อนแล้ว“ข้าไม่อาจพาเจ้าเข้าวังได้ แต่นี่คือป้ายหยกของข้าเจ้านำมันไปยื่นที่ประตูวังเพื่อขอพบข้า หากว่าอยากพบข้า”ปลดป้ายหยกข้างเอวให้กับเอ่อต้าเหนิงที่รับเอาด้วยรอยยิ้มเศร้าๆวังหลวง“เกอหลง แม่ให้ขันทีตามตัวเจ้าเหตุใดจึงไม่พบที่ตำหนักบูรพา”“เอ่อ เอ่อ ลูกไปที่ตลาดเช่นทุกครั้งที่เคยทำไม่ได้ไปนอกลู่นอกทางที่ไหนดีแล้วมาใกล้ๆแม่หน่อย”ฉินเกอหลงเดินเข้าไปหามารดาที่สวมกอดฉินเกอหลงไว้แนบแน่น“คิดถึงเจ้าเหลือเกินเกอหลง หลายวันมานี้แม่ป่วยไข้คิดว่าจะไม่ได้พบหน้าเจ้าเสียแล้ว”“พระมารดา ท่านอย่าพูดแบบนี้ต่อไปลูกจะมาที่นี่ทุกวันเพื่อให้พระมารดากอด”มารดาเหอเต่อยิ้
ฉินเกอหลง ก่อนหน้านั้นเมื่อพันปีก่อนยืนโปรยเถ้ากระดูกของต้าเหนิง“ฝ่าบาท ท่านหมอเยี่ยนฉือกับหานจงขอประทานอนุญาตออกเดินท่องยุทธภพ หวังว่าฝ่าบาทจะประทานอนุญาติในครั้งนี้”เชียวกงเล่อประสานมือตรงหน้า ความรู้สึกเหมือนบางอย่างแหว่งเว้าหายไป“ในที่สุดเราทุกคนก็ได้แค่เพียงเป็นเถ้าธุลี ปลิวหายไปพร้อมกับสายลม ข้าเองแม้จะอยากทำตามใจเพียงใดสุดท้ายข้าก็ได้แค่เพียงสะกดกลั้นความคิดนั้นไว้เสีย”“พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ..กงเล่อหมายถึงท่านปู่ของฮองเฮาเอ่อถูหวังซวน เสียใจที่ต้องสูญเสียคนของตระกูลเอ่อไปจนไม่เหลือใครแม้กงเล่อขอใช้แซ่ของตระกูลเอ่อแต่ท่านพ่อก็ยังเศร้าโศกเช่นเดิมกงเล่อเข้าใจดีว่าไม่อาจทดแทนกันได้”“จริงสินะในที่สุดตระกูลฉินก็ไม่อาจปกป้องตระกูลเอ่อไว้ได้ ข้าที่ทุ่มเทตั้งแต่วันแรกที่พบนางก็ยังไม่อาจช่วยเหลือนางได้ทันเช่นนั้นจึงเรียกว่าเป็นความผิดของข้า”“ไม่มีใครผิดพ่ะย่ะค่ะสวรรค์กำหนดไว้แล้วหากไม่มีฝ่าบาทบางที่ตระกูลเอ่ออาจไม่เหลือรอดตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกฆ่าล้างตระกูลฝ่าบาททำดีที่สุดแล้ว”“จริงสินะในครั้งแรกที่ข้าพยายามช่วยชีวิตเอ่อต้าเหนิงจากคนชั่ว และครั้งที่สองข้าที่พยายามช่วยชีวิตนางจากการสั่งกา
หนึ่งปีผ่านไป“โอ้ๆๆๆๆอย่าร้องนะคนดีมาให้พ่ออุ้มเร็ว”ฉินเกอหลงพูดไทยสำเนียงแปลกๆคุณหมอดนัย ส่ายหน้าไปมา“เมื่อไหร่จะพูดไทยแข้งแรงสักทีบอกให้สอนกันหน่อยก็ไม่เอาวันๆเอาแต่ผลิตลูกดูสินี่ก้ท้องอีกแล้วหัวปีท้ายปีเชียว”ต้าเหนิงยิ้มดวงตาเป็นประกาย“คุณแม่ฮับลูกชายหิวนมแล้วฮับ”เสียงออดอ้อนของฉินเกอหลง ทำเอาต้าเหนิงส่ายหน้า รับเอาร่างกระจ้อยมากอดแนบอก แกะกระดุมป้อนนมทารกในอ้อมแขนฉินเกอหลงดวงตาเป็นประกาย หมอดนัยวางยาที่จัดมาสำหรับแม่ลูกอ่อนลงตรงหน้าฉินเกอหลง“อิจแาต้าเหนิงจังมีสามีที่คอยดูแลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกับข้าวกับปลาเลี้ยงลูกเตือนให้กินยา ถ้ามีแบบนี้รักตายเลย บ้านช่องก็เลยไม่กลับมาคตอยดูแลภรรยาตั้งสองสามเดือนแล้วธุรกิจที่นั่น ไม่ต้องห่วงหรือ”ฉินเกอหลงยิ้มกำลังเรียบเรียงคำพูด“ผมจัดเตรียมทุกอย่างและประชุม ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ในมุกเช้าจึงไม่ต้องห่วงอะไรหากว่ามีอะไรขัดข้องก็จะเรียกประชุมทันที ทางนี้ผมเองไม่อาจวางใจ ต้าเหนิงเขาต้องมีผมคอยดูแล เขาลำบากอุ้มท้องลุกของผม เขาต้องอุ้มเด็กอีกคนไว้ในท้องฉะนั้นผมเลยคิดว่าไม่มีใครจะดูแลต้าเหนิงได้ดีเท่าผมและควรจะดูแลต้าเหนิงอย่างดี”หมอดนัยส่าย
“คุณไม่อยากลองขอฉันแต่งงานดูอีกสักทีหรือ”อมยิ้มฉินเกอหลงเลิกคิ้วสูง“อยากสิ ถ้าอย่างนั้น แต่งงานกับผมนะครับ”คุกเข่าลงกับพื้นที่ด้านล่างมีกลับดอกเมหยสีชมพูดร่วงเกลื่อนกราดต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าขึ้นลง ฉินเกอหลงรวบร่างบางไว้แนบอกอีกครั้ง“ขอบคุณขอบคุณจริงๆ ที่ยอมแต่งกับผม”ยิ้มหว้างสดใสจนต้าเหนิงต้องยิ้มตาม““ความจริงแล้วเธอไม่ได้ติดค้างอะไรหรอกนะที่ตามหาเพราะต้องการชดเชยให้คุณอย่างไรเล่า ต้าเหนิง”ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง เมื่อฉินเกอหลงกระซิบข้างหูเบาๆ“คุณพูดอะไรนะ อย่าบอกนะว่าคุณ เพิ่งจะข้ามภพมา”ฉินเกอหลงเองก็เลิกคิ้วสูง“ข้ามภพหรือ แค่ความฝันหรือเปล่าสิ่งที่ผมฝันในทุกๆคืนนั่นก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของผม เธอกำลังเจ็บปวดและทรมานผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมามีหยาดน้ำตาทุกครั้ง ตั้งแต่จำความได้ พอโตขึ้นมาสิ่งที่ผมตั้งใจทำมาตลอดคือตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ให้จิตกรมาวาดภาพเธอคนนั้นไว้ในห้องนอนเพื่อให้ได้เห็นหน้าเธอในทุกๆวัน คุณอยากเห็นรูปผู้หญิงคนนั้นไหม”ต้าเหนิงพยักหน้าขึ้นลง“คุณอยากเห็นก็คงต้องไปส่องกระจกแล้วล่ะ เพราะรูปนั่นเหมือนคุณอย่างกับแกะ”ดึงมือต้าเหนิงให้เดินเคียงข้างกันไป“คุณฝันถึ
ฉินเกอหลงจอดรถลงข้างทางที่ประดับด้วยไฟหลากสีใต้ต้น ดอกเหมยสีชมพูเบ่งบาน ผู้คนเดินจูงมือคู่รัก“คุณชอบดอกเหมยหรือ”ต้าเหนิงถามเบาๆ“ชอบ อยากให้ต้าเหนิงได้เหนมันไงเล่ากว่าจะผ่านไปแต่ละปีจะต้องทนนับวันนับเดือนที่ดอกเหมยบานและร่วงโรยครั้งแล้วครั้งเล่าลำพังเดียวดายตราบนานเท่านาน”ต้าเหนิงก้มมองมือในอุ้งมืออุ่นของฉินเกอหลง ยอมให้เขากุมมือไว้ราวกับคู่รักแต่ไม่ยอมฟังคำพูดเศร้าๆของเขา“ฮ่าาาพามาแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้เรารึคิดไปไกลเยว่าจะพาไป…ทำมิดีมิร้าย”ฉินเกอหลงส่ายหน้าไปมา“วางใจเถอะไม่เอาไปขายหรอก”“หือ ไม่ขายแต่ฆ่าหั่นศพและแย่เชียวฮ่าๆๆๆๆ”ยังตลกได้อีกฉินเกิอหลงหันมาทำสีหน้าจริงจังต้าเหนิงขนลุกเกรียวหรือว่า หรือว่า“จูบได้ไหม”“หา จะจูบเลยหรือ”“ก็ต้องจูบสิคนที่เขาลองคบกันก็ต้องลองหลายๆอย่างว่าเขากันได้ไหม”“อย่าทำแบบนี้นะมาถึงก็จูบเลยหรือจะไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยหรือ”ฉินเกอหลงรวบร่างบางมากอดไว้แนบกายจมูกโด่งสูดดมเรือนผมที่หอมละมุนเนิ่นนาน“เจ้าเข้าสู่โหมดโรแมนติกแล้วนะ คิดถึงจังสบายดีไหม”ทอดเสียงอ่อนโยนจนต้าเหนิงตัวเย็น มือที่ยกขึ้นกอดรอบเอวของฉินเกอหลงอย่างกล้าๆกลัวๆก็เย็นเฉียบ“คือๆๆๆค
ต้าเหนิงยิ้มพยักหน้าหงึกหงักกำลังช่างใจว่ากัวกั๋วก็คือกํวกํ๋วหรือว่ากัวกํ่วคนนี้ไม่ใช่กัวกั๋ว“ขอบคุณ แต่จะว่าไปฉันไม่ได้หลงตัวเองนะแต่คุณสองคนกำลังแย่งฉันใช่ไหม”ฉินเกอหลงอมยิ้มกัวกั๋วงง“มีคนแบบนี้ด้วยหรือ คนที่คิดว่าคนอื่นกำลังแย่งคุณผู้หญิงไท่กัวเป็นแบบนี้ทุกคนไหมนะ”ฉินเกอหลงเปยเบาๆต้าเหนิงอมยิ้ม ความคนึงหาทีข้ามผ่านมาปีหนึ่งสิ้นสุดลง“เอาล่ะที่นี้ เราสองคนมาตกลงกันดีกว่าไหมพี่ใหญ่ว่าใครจะจีบก่อนจีบที่หลังไอ้ผมอะนะเริ่มชอบผู้หญิงไท่กัวคนนี้แล้ว”กัวกั๋วพูดขึ้นพร้อมกับใช้ตะเกียบในมือคีบอาหารในจานวางตรงถ้วยข้าวตรงหน้าต้าเหนิง ฉินเกอหลงที่เห็นก็รีบคีบของกินที่คิดว่าต้าเหนิงจะชอบวางลงบนถ้วยข้าวของต้าเหนิงบ้างไฉหรานอมยิ้ม“ต้าเหนิงของเราฮอตน่าดู”หันไปพูดกับเฉินซือกวาน“ก็นะบอกแล้วไงว่าฉันอะนะกำลังโดนแย่งจากคนสองคน”อมยิ้ม“ใครบอก กัวกั๋วนายนะมาทีหลังหลบไปเถอะไม่มีการแย่งชิงอะไรทั้งนั้น”ฉินเกอหลงทรุดกายลงกับพื้นคุกเข่าตรงหน้าพร้อมกับหยิบกล่องกำมยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเปิดกล่องกำมยี่สีแดงออกแสงแวววาวจากเพชรเม้ดมะหึมาคงราวๆห้ากะรัตสุกสกาวต้องแสงไฟ ต้าเหนิงเลิกคิ้วสูง“แต่งานกบผมนะครับคุณต
“ใครจะบังอาจเล่าค่ะ ต้าเหนิงเองเขาก็ไม่ใช่คนที่พูดมากหรือชอบนินทาใครต้าเหนิงเขาเป็นคนเรียบร้อยน่ารักที่สุด”ไฉหรานเชียร์เต็มที่ ต้าเหนิงยิ้มจื่อนๆ เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้ในโรงรับจำนำเถอะ“เรียบ จริงหรือครับ”“อืมมม เรียบร้อยครับคุณฉินไม่ใช่เรียบเฉยๆ” เฉินซือกวานรีบพูดแทรกขึ้นกลัวว่าต้าเหนิงจะรู้สึกไม่ดี เปล่าต้าเหนิง ที่รีบก้มมองหน้าอกของตัวเองมันก็ไม่ได้ราบแบนเสียหน่อยบริกรนำอาหารมาเสริ์ฟบนโต๊ะ ฉินเกอหลงผายมือ“มีที่พักหรือยังครับอี้ตวนของเรามีที่พักมากมายในเครือให้คุณ …ได้เลือกพัก”ต้าเหนิงเลิกคิ้วอมยิ้มแก้มป่องจากฝ่าบาทมากลายเป็นนักขายอย่างไรกัน“ต้าเหนิงเขาพักกับเราค่ะคุณฉินไม่ต้องห่วงเขามาที่นี่แค่5วันตั้งใจพาเที่ยว อย่างที่ต้าเหนิงอยากจะไปเรื่องที่พักก็เลยไม่ใช่ปัญหาที่บ้านของเราก็มีห้องวางอยู่หลายห้อง”ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง บริกรเดินถือช่อดอกกุหลาบสีแดงนับพันดอกมุ่งตรงมาที่ ต้าเหนิงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม“ต้าเหนิงรับเอาดอกกุหลาบช่อโตหยิบการ์ดที่สอดไว้ด้านหน้าขึ้นมาอ่าน”ฉินเกอหลงขมวดคิ้ว“ของใคร”ไฉหรานชะโงกมองเพราะความสงสัยแล้วหันไปสบตากับเฉินซือกวาน“เอ่อ คุณฉินกัวกั๋วครับ
ภัตตาคารหรูริมน้ำมองเห็นแสงสีสว่างไสวไปทั่งสะพานที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำสายใหญ่งดามท่ามกลางผู้คน ต้าเหนิงกับไฉหรานมาถึงแล้ว เฉินซือกวานรีบ เปิดประตูรถให้ทั้งสองคนลงมาจากรถด้วยท่าทีราวกับนักันไว้นั่นคือให้ช้าๆเข้าไว้ก็ต้าเหนิงไม่อยากพบเจ้าคนรวยอ้วนพุงพุ้ยและกินจุคนนั้นตั้งใจ ปิดภัตตาคารเพื่อจะได้กินอิ่มๆคนเดียวไม่ได้เพื่อให้ต้าเหนิงนั่งสบายหรือเปย์ต้าเหนิงหรอก“คุณครับ คุณฉินเชิญคุณทั้งสามบนชั้นสองขอรับ”บริกรก้มศรีษะนอบน้อม ต้าเหนิงเงยหน้ามองขึ้นไปบนชั้นสองที่สว่างไสวเห็นเพียงใครบางคนที่นั่งนระเบียงภัตตาคารหรู ต้าเหนิงเบ้ปากเข้าใจเลือกมุมให้มองเห็นพวกต้าเหนิงก่อนแหมร้ายจริง“คุณผู้หญิงครับนี่คือของขวัญต้อนรับสำหรับการยินยอมมารับประทานอาหารกับ...คุณฉิน”“คุณฉิน ฉินอะไร”ต้าเหนิงรับเอากล่องน้ำหอมระดับโลกไว้ในมือไฉหรานยิ้มสดใสดีใจยิ่งกว่าต้าเหนิงเสียอีก“เห็นไหมต้าเหนิงเขาจริงใจแค่ไหน”กระซิบต้าเหนิงเบาๆต้าเหนิงส่ายหน้าไปมาเดินตามไฉหรานที่ดึงมือให้เดินตามเฉินซือกวานขึ้นไปข้างบนชั้นสองพอ้าเหนิงยืนอยู่ชั้นบนเสียงดนตรีก็ดังขึ้นนักดนตรีบรรเลงเพลงหนึ่งทำนองคุ้นหูเหลือเกินต้าเหนิงหยุดนิ่งอยู่กับท
“ทำไมต้องเป็นที่นั่น”อ่านชื่อภัตตาคารหรูริมแม่น้ำที่อาหารอร่อยมากตามรีวิวแต่ราคาแพงหูฉี่“หืออาหารอร่อยมากและที่สำคัญ…”ไฉหรานยิ้มดวงตาพร่างพราว"ฉันว่ามันมากไปฉันอยากกินของอร่อยๆก็จริงแต่ ก็ยังไม่อยากหมดตัวฮ่าาาา"ต้าเหนิงพูดไปยิ้มไปไฉหรานเองก็ยิ้ม"ฉันไม่สิคุณเฉินสามีฉันเขาบอกจะเลี้ยงเธอในฐานะที่เราไม่ได้ชวนเธอมางานแต่งของเราเขารู้ว่าฉันกับต้าเหนิงสนิทกันแค่ไหนก็แค่อยากจะเลี้ยงต้อนรับเธอสักครั้ง""มันหลายตังค์นะฉันเกรงใจ"ไฉหรานยิ้มอีกแล้ว"ไม่ต้องเกรงใจน่าเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องต้อนรับเธอให้ดีที่สุดให้เธอประทับใจที่สุดจนอยากจะอยู่ที่นี่เลยดีไหม""ไม่ใช่ล่ะ มันแปลกๆ ฉันว่ามันมีกลิ่นนะ เอาความจริงมาพูดกันเราสองคนคบกันมาตั้งปีหนึ่งฉันไว้ใจเธอมากเลยนะไฉหรานว่าเธอจะไว้ใจได้ และไม่โกหกฉัน"ไฉหรานยิ้มเจื่อนๆนั่งลงข้างๆต้าเหนิงเลื่อนแก้วกาแฟตรงหน้าต้าเหนิงอย่างเอาใจ“คุณเฉินเขานัดใครบางคนดูตัวเพื่อนสาวของเราต้าเหนิงซึ่งเขาก็แค่อยากจะกินข้าวแล้วก็ดูตัวต้าเหนิงไปด้วย คนคนนี้อะนะหล่อที่สุดนิสัยดีที่สุด และเอาใจเก่งที่สุด ที่สำคัญเป็นทายาทโดยตรงที่กำลังจะนั่งตำแหน่งท่านประทานของอี้ตวนในขณะนี้สาว
“แม่จ๋าหนูอยากจะไปเมืองจีน คุณแม่คนสวยใจดีที่สุดในโลกอนุญาตให้ลูกสาวตัวน้อยๆคนนี้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ไหม”คุณปทุมยิ้มแกล้งมองไปทางอื่นเสีย“น่านะคุณแม่ขา ต้าเหนิงอยากจะไปจริงๆบรรพบุรุษเราเป็นคนจีนพ้นทะเลๆไม่ใช่หรือแล้วนี่ไม่ให้ต้าเหนิงไปพอต้าเหนิงตายไปจะกล้ามองหน้าบรรพชนได้อย่างไร”แอบเอาประโยคยอดนิยมในซีรีย์จีนมาพูดกับคุณปทุม“จะไปทำไม”“หนูอยาก…เป็นกำแพงเมืองจีนอยากไปพระราชวังต้องห้ามอยากจะเที่ยวจางเจี่ยเจีย”“มีเงินแล้วหรืถึงอยากจะไปพอให้แต่งกับผู้ชายจีนที่เป็นญาติห่างๆกันก็ไม่เอา ทีแบบนี้แล้วอยากจะไปไปคนเดียวมันอันตรายนะ แม่ไม่อนุญาต”“หนูไปแค่ไม่กี่วัน คุณแม่ไม่ต้องห่วงน่าแล้วตอนนี้ที่นั่นก็มีไฉหราน”“ไฉหรานอะไรของแกนั่นไว้ใจเขาได้หรือไม่เคยเห็นตัวเป็นๆเขาสักหน่อยก็ไว้ใจเขา แม่ละท้อใจกับการไว้ใจคนและเข้ากับคนได้ง่ายๆอย่างหนูจังเลยแบบนี้ยิ่งจะทำให้คนชั่วมาตีสนิท”“ไฉหรานเขาไม่หลอกหนูหรอกค่ะเราพูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างจนสนิทกันแล้วระยะเวลาเกือบปีมานี้หนูคิดว่าหนูดูเขาดีพอแล้วค่ะ”คุณปทุมถอนหายใจ“แล้วที่หลับที่นอน โรงแรมที่พัก เล่าจัดเตรียมไว้แล้วหรือ”“เรียบร้อยแล้วค่ะตั