ความแตกต่างระหว่างระดับครึ่งก้าวราชาสงครามและระดับราชาสงครามนั้น เหมือนกับเมฆและโคลน ทั้งสองเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ที่ยากจะข้ามผ่าน!แต่เม็ดยาปราณแท้สามารถช่วยให้ผู้ฝึกยุทธที่ระดับต่ำกว่าขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์ เพิ่มความน่าจะเป็นที่จะทะลวงผ่านคอขวดได้สำเร็จ ซึ่งนั่นก็รวมถึงระดับครึ่งก้าวราชาสงครามด้วย เพียงแต่ความน่าจะเป็นนั้นต่ำมาก!ฉินหมิงคิดถึงเรื่องที่ลี่ตั๋วไห่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อคว้ายาปราณแท้ทั้งสามเม็ดจากเจิ้งอวี่ ทำให้เขาสามารถประติดประต่อเรื่องราวได้ทันทีบางทีความก้าวหน้าของลี่ตั๋วไห่อาจเกี่ยวข้องกับเม็ดยาปราณแท้ทั้งสามเม็ด ไม่เช่นนั้นลี่ตั๋วไห่คงไม่เสี่ยงทำให้ตระกูลเจิ้งขุ่นเคืองเพื่อปล้นเจิ้งอวี่!"ช่างเถอะ โชคดีที่ครั้งนี้ผมเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี นำยอดฝีมือจากตระกูลเจิ้งที่อยู่ในระดับราชาสงครามมาด้วยหนึ่งคนและระดับครึ่งก้าวราชาสงครามอีกสองคน!"“แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่จะทะลวงเข้าสู่ระดับราชาสงครามแล้ว เขาก็ไม่มีทางพลิกสถานการณ์ได้!”เจิ้งอวี่ยิ้มอย่างเย็นชา ไม่ได้ให้ค่าความก้าวหน้าของลี่ตั๋วไห่สักนิด“ปู่สามครับ ผมฝากลี่ตั๋วไห่ไว้กับคุณด้วย เขากล้าปล้นสิ่
เมื่อเปรียบเทียบกัน ภูมิหลังของตระกูลลี่นั้นอ่อนแอกว่ามากในตระกูลลี่นอกเหนือจากลี่ตั๋วไห่ ปรมาจารย์ที่มีระดับการบ่มเพาะแข็งแกร่งที่สุดอยู่แค่ขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์เท่านั้นใครแข็งแกร่ง ใครอ่อนแอ มองแวบเดียวก็รู้!ในช่วงเวลาเพียงครู่เดียว ทั้งลี่ตั๋วไห่และเหล่าปรมาจารย์ของตระกูลลี่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์จนตรอก และค่อย ๆ เผยให้เห็นสัญญาณของความพ่ายแพ้เมื่อเห็นสถานการณ์พลิกกลับมา 180 องศาอย่างกะทันหัน ทุกคนในตระกูลหลินที่เฝ้าดูอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเดิมทีพวกเขาทั้งหมดคิดว่าฉินหมิงเป็นวัยรุ่นบ้าระห่ำ และครั้งนี้จะต้องได้รับการชดใช้อย่างสาสมแน่นอน!แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดฝันก็คือ ฉินหมิงเตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อน พวกเขาประเมินฉินหมิงต่ำไปแล้ว!“ไม่คิดว่าฉินหมิงที่อายุยังน้อย จะมีความคิดที่ละเอียดรอบคอบเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าจะมีชั้นเชิงด้วย!”“นั่นสิ ฉินหมิงมีตระกูลเจิ้งคอยช่วยเหลือ ครั้งนี้ราชาแดนเหนือลี่ตั๋วไห่อาจจบสิ้นแล้ว…”......ทุกคนในตระกูลหลินต่างพากันกระซิบและพูดคุยกัน พวกเขาทั้งหมดเห็นว่าพลังทางฝั่งตระกูลลี่ได้อันตรธานหายไปแล้ว!โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่
"ในความคิดของฉัน ตระกูลหลินของเราจำเป็นต้องสร้างพันธมิตรระยะยาวกับตระกูลลี่เพื่อรักษาสถานะและอิทธิพลของตระกูลไว้ มิฉะนั้นตระกูลหลินของเราอาจเดินไปสู่ความล่มสลาย!"ไป่จิ้งพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย“สิ่งที่ไป่จิ้งพูดก็สมเหตุสมผล!”"การสร้างพันธมิตรระยะยาวกับตระกูลลี่นั้นสอดคล้องกับผลประโยชน์ของตระกูลหลินของเราในปัจจุบัน!"......เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลหลินต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วยสามตระกูลใหญ่ในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิงล้วนมียอดฝีมือสองคนนั่งแท่นระดับราชาสงคราม แต่ตระกูลหลินปัจจุบันเหลือยอดฝีมือระดับราชาสงครามเพียงคนเดียว ซึ่งไม่สามารถเอาอะไรไปสู้กับอีกสามตระกูลใหญ่ได้เลย!ตระกูลหลินสามารถรักษาสถานะและอิทธิพลก่อนหน้านี้ได้โดยการเป็นพันธมิตรกับลี่ตั๋วไห่เท่านั้น!"อย่างนี้นี่เอง!"หลินจิ่วเข้าใจในทันที เขาคิดว่าไป่จิ้งทำสิ่งนี้เพื่อผลประโยชน์ของตระกูล ทำให้เขารู้สึกโล่งใจขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น หลินจิ่วก็นำผู้อาวุโสตระกูลหลินสองคนเดินออกมา“พวกหมาหมู่ไม่นับว่าเป็นความสามารถ!”“ราชาแดนเหนือ ฉันจะช่วยคุณ!”หลินจิ่วตะโกนอย่างเย็นชา เขาปล่อยหมัดออกไปด้วยพลังที่ไม่มีใครเทีย
ฉินหมิงพยักหน้า"พูดจาไร้สาระ!"“ฉินหมิง เห็นได้ชัดว่าเป็นนายและตระกูลซูที่อยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมทุน นายโยนเรื่องนี้มาใส่ร้ายฉัน และพยายามยั่วยุให้ตระกูลลี่และตระกูลหลินไม่ลงรอยกัน นายมีเจตนาอะไรกันแน่!”ลี่ตั๋วไห่พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเขาไม่เข้าใจว่าฉินหมิงรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังของบริษัทร่วมทุนนั่น ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก เขาจะไม่มีทางยอมรับมันเด็ดขาด!“ลี่ตั๋วไห่ ผมปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่นั้นคุณรู้อยู่แก่ใจ!”“ลูกผู้ชายตัวจริงกล้าทำก็ต้องกล้ารับ คุณไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่ทำลงไปเหรอ?”ฉินหมิงพูดพร้อมรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้า“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันต้องยอมรับอะไร?”“เป็นนายต่างหากที่จงใจซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังและเข้าซื้อกิจการกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป โดยหวังว่าจะฉวยโอกาสซ้ำเติมตระกูลหลิน!”“โยนความผิดให้ผู้อื่น ช่างน่าไม่อายจริงๆ !”เมื่อลี่ตั๋วไห่นึกเรื่องการซื้อกิจการกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปของฉินหมิงขึ้นมาได้ เขาก็เกิดสติปัญญาในยามคับขัน เล่นงานฉินหมิงกลับทันที“อะไรนะ?”"ฉินหมิง ไม่คาดคิดว่าคนที่ซื้อกิจการกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปก็คือค
ใบหน้าของหลินหว่านชิงเต็มไปด้วยความปวดใจ เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยดวงตาผิดหวังอันที่จริง ก่อนหน้านี้หลินเถิงฮุ่ยและผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลินเคยเดาว่าผู้บงการอยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมลงทุนเหล่านั้นน่าจะเป็นฉินหมิงและตระกูลซู!อย่างไรก็ตามหลินหว่านชิงมักจะมีภาพลวงตาที่เกี่ยวกับฉินหมิงอยู่เสมอ เธอรู้สึกว่าฉินหมิงเป็นคนที่แคร์ความสัมพันธ์เก่า ๆ และจะไม่โหดร้ายกับเธอและตระกูลหลิน บางทีเรื่องนี้ตระกูลซูอาจทำเพียงลำพังและฉินหมิงไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรแต่ตอนนี้ เมื่อได้รู้ว่าฉินหมิงซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังและเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป นี่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฉินหมิง และฉินหมิงมีแนวโน้มสูงมากที่จะเป็นผู้บงการ!ชั่วขณะหนึ่ง ภาพลวงตาที่เกี่ยวกับฉินหมิงในใจของเธอก็พังทลายลงอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้!“บัดซบ!”“ฉันคิดว่าเด็กคนนี้มาที่นี่เพื่อช่วยพวกเราโดยเฉพาะ กลับกลายเป็นว่าเขาก็เหมือนกับลี่ตั๋วไห่ ไม่ใช่คนดีเหมือนกัน!”หลินเถิงฮุ่ยกำหมัดแน่น สีหน้าดูโกรธแค้นเขารู้ดีแก่ใจว่าผู้กระทำผิดในเรื่องนี้คือบริษัทร่วมทุนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ถ้าบริษัทร่วมลงทุนไม่ปราบป
เพราะเรื่องนี้ เขาได้สูญเสียอำนาจของบริษัทและตำแหน่งผู้นำตระกูลหลินตามไป ตอนนี้เขาจึงเกลียดฉินหมิงและตระกูลซูถึงแก่น แม้ว่าคำพูดของฉินหมิงจะฟังดูดี แต่เขาไม่มีทางเชื่อฉินหมิงแล้ว!หลังจากได้ยินแบบนี้ หลินหว่านชิงก็ตกอยู่ในความเงียบถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อไม่กี่วันก่อน บางทีเธออาจจะเลือกเชื่อใจฉินหมิงแต่ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปในตระกูลหลิน ในขณะที่ทุกคนต้องการบังคับให้เธอยอมรับการแต่งงานกับตระกูลลี่ มีเพียงหลินเถิงฮุ่ยเท่านั้นที่ยืนอยู่ข้างเธอ และเพื่อปกป้องเธอ หลินเถิงฮุ่ยกระทั่งยอมเสียสละตำแหน่งผู้นำตระกูลหลิน!ปัจจุบันหลินเถิงฮุ่ยพ่อของเธอจึงเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เธอเชื่อใจ!ในเมื่อหลินเถิงฮุ่ยพูดว่าฉินหมิงและตระกูลซูคือผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง หลังจากที่เธอลังเลเล็กน้อย สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเชื่อพ่อของตัวเอง!เมื่อเห็นว่าหลินหว่านชิงเงียบไม่พูดจา ฉินหมิงจะไม่เข้าใจอีกเหรอว่าหลินหว่านชิงคิดยังไงชั่วขณะหนึ่ง เขาสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด ผิดหวังกับหลินหว่านชิงอย่างเต็มที่!ยิ่งหวังมาก ก็ยิ่งผิดหวังมาก!เมื่อก่อนเขาเพ้อฝันมาโดยตลอดว่าจะสามารถชิงตัวหลินหว่านชิงกลับคืนมาได้ จ
หลินจิ่วพูดอย่างเย็นชาด้วยสายตาอาฆาตตระกูลหลินคนที่เหลือก็เหมือนกัน แต่ละคนมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาพยาบาทและเกลียดชัง“ปู่รองหลิน ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย คนที่อยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมทุนนั่นคือลี่ตั๋วไห่และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผม…”ฉินหมิงพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่เขาก็ถูกหลินจิ่วขัดจังหวะก่อนที่จะพูดจบ“เลิกพูดไร้สาระ!”“เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว นึกไม่ถึงว่าคุณยังต้องการที่จะปลุกปั่นความร้าวฉานให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลินและราชาแดนเหนือไม่ลงรอยกัน ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”“วันนี้ฉันจะสั่งสอนคุณ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับหลินกรุ๊ปของเรา!”หลินจิ่วตะคอกอย่างเย็นชา เขายื่นมือออกไปพร้อมกรงเล็บอันทรงพลังที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้ เตรียมกระโจนไปยังทิศทางของฉินหมิง“อวดดี!”“ความเมตตาของคุณฉินที่มีต่อตระกูลเจิ้งของเรานั้นยิ่งใหญ่ราวกับภูเขา ใครก็ตามที่กล้าทำร้ายเขาจะต้องผ่านด่านตระกูลเจิ้งของเราไปก่อน!”เจิ้งอวี่ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วยกมือขึ้นโบก จากนั้นชายชราในชุดฟ้าที่อยู่ในระดับราชาสงครามก็ก้าวออกมาและพุ่งเข้าต่อยหลินจิ่วหนึ่งหมัดตูม!หลังจากสิ้นเสียงปะทะกันอย่างรุนแรง หลินจ
ตอนแรกเริ่มที่ฉินหมิงมีความขัดแย้งกับลี่ตั๋วไห่ ซูซินเหยาเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก เธอจึงส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังนายท่านซูอย่างเงียบ ๆหลังจากได้รับคำร้องขอจากซูซินเหยา นายท่านซูก็เรียกปรมาจารย์ตระกูลซูจำนวนหลายคนมาทันทีและรีบมาที่แห่งนี้ตอนนี้เมื่อเขาเห็นว่าซูซินเหยาและฉินหมิงปลอดภัยและไม่ได้รับอันตราย เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก“คุณปู่ ในที่สุดก็มาจนได้!”“หนูดีใจมากจริง ๆ!”เมื่อเห็นนายท่านซูมาถึง ซูซินเหยาก็ดีใจมาก เธอก็รีบวิ่งไปหาเพื่อทักทายเขาฉินหมิงก็เหมือนกัน ใบหน้าของเขาดูมีความสุขและหัวใจที่เป็นกังวลของเขาก็สงบในที่สุดตรงกันข้ามกับความสุขของฉินหมิงและซูซินเหยา สีหน้าของทุกคนในตระกูลหลินมืดมนลง แต่ละคนล้วนมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งลี่ตั๋วไห่ เมื่อสักครู่นี้เขายังรู้สึกยินดีมาก แต่ตอนนี้เขาหัวเราะไม่ออกแล้ว!“ซินเหยา หลานกับฉินหมิงไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”นายท่านซูถามด้วยความเป็นห่วง“คุณปู่ หนูไม่เป็นไรค่ะ...”“แต่ฉินหมิงได้รับบาดเจ็บ แขนข้างหนึ่งของเขาถูกลี่ตั๋วไห่หัก ปู่ต้องช่วยเขาแก้แค้นนะคะ!”ซูซินเหยาพูดด้วยความโกรธ“อ