แต่สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉินหมิงแม้แต่นิดเดียว ตระกูลซูและฉินหมิงไม่เคยทำอะไรที่น่าละอายเลย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหลินจิ่วถึงพูดแบบนี้!ก่อนที่นายท่านซูจะพูดจบ ฉินหมิงก็ลุกขึ้นยืนก่อน“ปู่รองหลิน เมื่อสักครู่นี้ผมอธิบายให้คุณฟังอย่างชัดเจนแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมทุนนั่นคือลี่ตั๋วไห่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมและตระกูลซู!”“ผมหวังว่าคุณจะไม่หลงกลอุบายของคนอื่น จากคำพูดใส่ร้ายของคนชั่วบางคน!"ฉินหมิงเตือนอย่างเย็นชา"พูดไร้สาระ!"“เรื่องนี้ตัวฉันรู้ผิดรู้ชอบดี จะต้องทำอย่างไรมันก็ไม่ใช่ธุระกงการของเด็กน้อยไม่รู้ประสาอย่างแกที่จะมาสอนฉัน!”“สรุปก็คือแกและตระกูลซูจะต้องอธิบายให้ตระกูลหลินของเรารู้ในวันนี้ ไม่เช่นนั้นพวกแกจะไม่มีใครสามารถก้าวออกไปจากที่นี่ได้!”หลินจิ่วพูดเสียงแข็ง“อาศัยแกเหรอ? เรื่องตลกชัด ๆ!”“หลินจิ่ว ถ้าตาแก่หลินอยู่ที่นี่บางทีฉันอาจจะกลัวเขาอยู่บ้าง น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาล้มป่วยแล้ว!”“แกเป็นเพียงขั้นต้นระดับราชาสงครามตัวเล็ก ๆ ไม่มีคุณสมบัติมาท้าทายฉัน!”นายท่านซูยิ้มอย่างดูถูก เขาไม่ได้เห็นหลินจิ่วอยู่ในสายตาเลย“งั้นเหรอ?”“ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาพิ
“ถ้าตระกูลหลินของคุณพบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าตระกูลซูและผมเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ถึงตอนนั้นผมจะยอมให้ตระกูลหลินของคุณจัดการตามอำเภอใจ!”ฉินหมิงเห็นว่าหลินจิ่วลังเลใจ เขาจึงพูดให้คำมั่นสัญญาอย่างเฉียบขาดเมื่อหลินจิ่วได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาก็มืดมนและไม่มั่นใจอยู่พักใหญ่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว!“ได้ นายพูดเองนะ!”“ฉันจะทำตามความปรารถนาของนายและพักเรื่องนี้ไว้ก่อน เมื่อฉันพบหลักฐานว่าเป็นนายและตระกูลซู ถึงตอนนั้นตระกูลหลินของเราจะไม่มีวันปล่อยนายไปแน่นอน!”หลินจิ่วพูดอย่างเย็นชา“อะไรนะ?”“เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร!”ลี่ตั๋วไห่รู้สึกตกใจเมื่อเห็นหลินจิ่วและฉินหมิงบรรลุข้อตกลงร่วมกันตอนนี้ตระกูลลี่อยู่โดดเดี่ยวไม่มีพรรคพวก แม้แต่การเอาชนะตระกูลเจิ้งก็ทำไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนายท่านซูและตระกูลซูเลย!ถ้าหลินจิ่วและคนของตระกูลหลินล่าถอยออกมาในตอนนี้ ตระกูลลี่จะเอาอะไรไปต่อต้านตระกูลเจิ้งและตระกูลซู!“ปู่รองหลิน ข้อเท็จจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว ฉินหมิงและตระกูลซูเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง คุณอย่าหลงกลไอ้หนูฉินหมิงเด็ดขาด!”ลี่ตั๋วไห่พูดอย่างเร่งรีบ
แต่ทว่าด้วยความสัมพันธ์ของไปจิ้งกับลี่ตั๋วไห่ หล่อนไม่สามารถทนดูลี่ตั๋วไห่ตกอยู่ในอันตรายเฉย ๆ ได้!เมื่อตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในสมองของและทันใดนั้นหล่อนก็นึกเหตุผลดี ๆ ได้“ลุงรอง คุณควรรู้ว่าหลินกรุ๊ปของเราสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ได้ ก็เพราะความช่วยเหลือจากราชาแดนเหนือลี่ตั๋วไห่”“เขาเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลหลินของเรา ถ้าตระกูลหลินของเราเห็นความตายอยู่ตรงหน้าแล้วยังเมินเฉยต่อเขา มันจะเนรคุณเกินไปแล้ว!”“นอกจากนี้เขาเป็นแขกพิเศษของตระกูลหลินในครั้งนี้ ถ้าเราไม่แยแสปล่อยให้ฉินหมิงและตระกูลซูทำร้ายเขา แล้วเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไปในภายหลัง ต่อไปตระกูลหลินของเราจะเอาหน้าที่ไหนมาตั้งหลักในเมืองเจียงเฉิงอีก!"ไป่จิ้งพูดเสียงดัง"นี่..."หลินจิ่วพูดไม่ออกแม้จะสงสัยว่าไป่จิ้งพูดมีเล่ห์เหลี่ยมไปหน่อย แต่สิ่งที่พูดก็ไม่ได้ไร้เหตุผลไปทั้งหมดท้ายที่สุดแล้วลี่ตั๋วไห่ก็ถือว่าเป็นแขกของตระกูลหลิน หากมีเหตุไม่คาดคิดอะไรเกิดขึ้นกับลี่ตั๋วไห่ในอาณาจักรตระกูลหลิน ตระกูลหลินจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน!เมื่อคนอื่นรู้เรื่องนี้ พวกเขา
หลังจากนั้น ทุกคนก็ถอยกลับไปสองสามก้าว โดยเหลือพื้นที่ว่างเพียงพอให้นายท่านซูและลี่ตั๋วไห่ได้ประลองกัน“ฝ่ามือแรก!”นายท่านซูแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา จากนั้นหนึ่งฝ่ามือที่แผ่พลังมืดฟ้ามัวดินก็ซัดออกไปโจมตีลี่ตั๋วไห่อย่างรวดเร็วลี่ตั๋วไห่รู้ดีว่าความแข็งแกร่งของนายท่านซูนั้นสูงกว่าของเขามาก ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าปะทะโดยตรงแต่เบี่ยงตัวหลบไป หลบเลี่ยงการโจมตีแรกของนายท่านซูอย่างรวดเร็ว“ฝ่ามือที่สอง!”ไม่รอให้ลี่ตั๋วไห่ได้โต้ตอบ นายท่านซูก็ซัดฝ่ามือที่สองออกไปขัดขวางการล่าถอยของลี่ตั๋วไห่ลี่ตั๋วไห่เองก็ดูเหมือนจะคาดเดาเอาไว้แล้ว นอกจากนี้เขายังเป็นยอดฝีมือระดับราชาสงครามที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่ง ย่อมสามารถเบี่ยงหลบซ้ำได้ จึงสามารถหลบฝ่ามือที่สองของนายท่านซูได้อย่างง่ายดายเช่นกัน“ฝ่ามือสุดท้าย!”ในดวงตาของนายท่านซูมีเจตนาฆ่าวาบผ่าน ฝ่ามือที่สามของเขานี้จึงราวกับพายุที่รุนแรง คล้ายกับจะได้ยินเสียงลมและฟ้าร้องที่ทรงพลังอย่างยิ่ง เขาโจมตีไปที่หน้าอกของลี่ตั๋วไห่อย่างแข็งกร้าว"ฉันก็คิดอยู่ว่าขั้นกลางระดับราชาสงครามนั้นจะทรงพลังสักแค่ไหน ที่แท้ก็ได้แค่นี้!"ลี่ตั๋วไห่ยิ้มอย่างดูถูก ใช้กร
"นายท่านซู วันนี้ฉันลี่ตั๋วไห่ได้รับการสั่งสอนจากคุณแล้ว ฉันจะจดจำมันอย่างขึ้นใจ วันข้างหน้าถ้ามีโอกาส ฉันจะตอบแทนกลับไปอย่างเต็มที่แน่นอน!"ลี่ตั๋วไห่ยกมือขึ้นกุมหน้าอก ลุกขึ้นจากพื้นอย่างโซซัดโซเซ สีหน้ามีแต่ความเคียดแค้น“ไว้นายมีความสามารถนั้นก่อนค่อยมาคุยกันทีหลัง!”นายท่านซูเยาะเย้ยระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่เพิ่งจะทะลวงผ่านเข้าสู่ขั้นต้นระดับราชาสงคราม ซึ่งยังตามหลังเขาอยู่มาก ถ้าลี่ตั๋วไห่ต้องการเอาชนะเขา อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยแปดหรือสิบปีแต่ก่อนหน้านั้น ลี่ตั๋วไห่และตระกูลลี่คิดที่จะมางัดข้อกับเขาก็เป็นแค่เพียงความฝันของพวกคนโง่!“ลี่ตั๋วไห่ ในเมื่อข้อตกลงสามฝ่ามือระหว่างนายกับนายท่านซูสิ้นสุดลงแล้ว ก็ถึงเวลาที่ตระกูลเจิ้งของเราจะคิดบัญชีกับนายแล้ว!”เจิ้งอวี่ยิ้มอย่างเย็นชา เขานำกลุ่มปรมาจารย์ของตระกูลเจิ้งก้าวออกมา"เจิ้งอวี่ หมายความว่ายังไง?""เมื่อสักครู่นี้นายท่านซูสัญญาแล้ว ตราบเท่าที่ฉันรับสามฝ่ามือจากเขาได้ เรื่องนี้ก็ให้จบลงแค่นี้!"“หรือว่าตระกูลเจิ้งของพวกนายคิดที่จะกลับคำพูด!”สีหน้าของลี่ตั๋วไห่มืดครึ้มลง“ถูกต้อง นายท่านซูพูดอย่างนั้นจริง ๆ”“แต
เจิ้งอวี่พูดอย่างเย็นชา"เป็นไปไม่ได้!"“ฉันใช้ยาปราณแท้ทั้งสามเม็ดไปแล้ว นายเรียกราคามาดีกว่า ฉันจะชดเชยให้กับตระกูลเจิ้งของพวกนายอย่างเต็มจำนวนตามราคาตลาดแน่นอน”ลี่ตั๋วไห่ส่ายหัวและพูด"นาย..."เจิ้งอวี่รู้สึกเดือดดาลมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ท้ายที่สุดแล้ว ยาปราณแท้เป็นยาพิเศษที่ถูกหลอมขึ้นโดยฉินหมิง มันมีค่าและหายากมาก เนื่องจากลี่ตั๋วไห่ได้ใช้มันไปแล้ว จึงไม่มีทางคืนมันให้กับตระกูลเจิ้งได้"ลืมมันไปซะเถอะ ราคาคือหนึ่งพันล้านบาท ตราบเท่าที่ตระกูลลี่ของคุณชดใช้ค่าเสียหายให้กับตระกูลเจิ้งของพวกเรา ความคับข้องใจระหว่างพวกเราก็จะจบสิ้นลง!"เจิ้งอวี่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก“หนึ่งพันล้านก็หนึ่งพันล้าน ฉันจะส่งคนให้เอาเงินนี้ไปมอบให้ตระกูลเจิ้งของพวกคุณทีหลัง!”ลี่ตั๋วไห่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตกลงอย่างรวดเร็วแม้ว่ามูลค่าของยาปราณแท้สามเม็ดจะน้อยกว่าหนึ่งพันล้าน แต่ตัวยามีค่าและหายากมากกว่าเพื่อที่จะจบความบาดหมางกับตระกูลเจิ้ง เขาทำได้เพียงประนีประนอมเท่านั้น“ตามนี้!”เมื่อเห็นลี่ตั๋วไห่ยอมจำนน การแสดงออกของเจิ้งอวี่และปรมาจารย์จากตระกูลเจิ้งก็อ่อนลงมากหลังจากนั้นทั้งสองฝ่าย
ตอนนี้วาสนาระหว่างเขากับหลินหว่านชิงได้สิ้นสุดลงแล้ว เขาพร้อมที่จะยอมรับความรักของซูซินเหยาและเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!"ฉันยินดีค่ะ!!""ฉันยินดีอยู่แล้ว!!!"ซูซินเหยามีความสุขมาก เธอพยักหน้าอย่างตื่นเต้น รอยยิ้มบนใบหน้าที่สวยงามกว้างจนเกือบจะระเบิดด้วยความดีใจเธอรู้ว่าคนที่ฉินหมิงชอบคือหลินหว่านชิงและเธอก็รู้ด้วยว่าฉินหมิงไม่สามารถปล่อยวางความรู้สึกของเขาที่มีต่อหลินหว่านชิงได้ ในช่วงที่ผ่านมาเธอจึงรอฉินหมิงอย่างเงียบ ๆ เพื่อรอให้ฉินหมิงเปลี่ยนใจ!และตอนนี้ผลลัพธ์ก็ได้ออกมาแล้ว ในที่สุดเธอก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ!ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขและความตื่นเต้นในใจของเธอได้!"เยี่ยม เยี่ยมมาก!"“ฉินหมิง เรากลับไปที่ตระกูลซูกันเถอะ ไปเตรียมการหมั้นหมายระหว่างคุณกับเสี่ยวเหยากัน!”นายท่านซูรู้สึกประหลาดใจมาก จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างมีความสุขนับตั้งแต่ที่เขาพบว่าหลานสาวของตนตกหลุมรักฉินหมิง เขาก็อยากให้หลานสาวและฉินหมิงลงเอยกันมาโดยตลอด แต่ฉินหมิงไม่เคยริเริ่มที่จะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด เขาจึงไม่อาจบังคับได้แต่ตอนนี้ ในที่สุดฉินหมิงก็เป็นฝ่ายเสนอเรื่องการหมั้น
สำหรับขุมอำนาจตระกูลใหญ่ ลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้วก็เหมือนกับน้ำที่สาดออกไป ดังนั้นเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยและหลินหยุนจึงถือเป็นคนนอก เป็นเรื่องปกติที่พวกเธอไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงามประชุมของตระกูลในครั้งนี้ด้วยอย่างไรก็ตาม มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในตระกูลหลิน หลินเถิงฮุ่ยและหลินหว่านชิงถูกบังคับให้ถอนตัวออกจากตระกูลหลิน เรื่องนี้พวกเธอยังได้ยินอยู่บ้าง“พี่คะ เกิดอะไรขึ้น?”“ไม่ใช่ว่าวันนี้พี่ต้องขึ้นรับตำแหน่งผู้นำตระกูลหลินหรอกเหรอ? แล้วทำไมจู่ ๆ พี่และหว่านชิงถึงถอนตัวออกจากตระกูลหลินล่ะ?”หลินหยุนถามอย่างกังวล เธอสงสัยมากว่าสิ่งต่าง ๆ มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร“อย่าพูดถึงมันเลย!”“ล้วนเป็นเพราะนังแพศยาไป่จิ้งนั่น เธอทรยศฉันเพื่อช่วยให้โย่วเอ๋อร์ขึ้นยึดอำนาจ…”หลินเถิงฮุ่ยพูดด้วยความเกลียดชังและเล่าสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น“ไป่จิ้งคนนี้ ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”“คุณพ่อเพิ่งจะล้มป่วยได้ไม่นาน เธอก็เริ่มต่อสู้เพื่ออำนาจ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอคิดอะไรอยู่!”หลินหยุนพูดด้วยความโกรธ“จริง ๆ แล้ว พฤติกรรมของไป่จิ้งนั้นพอเข้าใจได้ แม้ว่าเธอจะมีแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวในการช่วยเหลือโย่วเอ๋อร์ต่อสู้เ