หลังจากนั้น ทุกคนก็ถอยกลับไปสองสามก้าว โดยเหลือพื้นที่ว่างเพียงพอให้นายท่านซูและลี่ตั๋วไห่ได้ประลองกัน“ฝ่ามือแรก!”นายท่านซูแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา จากนั้นหนึ่งฝ่ามือที่แผ่พลังมืดฟ้ามัวดินก็ซัดออกไปโจมตีลี่ตั๋วไห่อย่างรวดเร็วลี่ตั๋วไห่รู้ดีว่าความแข็งแกร่งของนายท่านซูนั้นสูงกว่าของเขามาก ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าปะทะโดยตรงแต่เบี่ยงตัวหลบไป หลบเลี่ยงการโจมตีแรกของนายท่านซูอย่างรวดเร็ว“ฝ่ามือที่สอง!”ไม่รอให้ลี่ตั๋วไห่ได้โต้ตอบ นายท่านซูก็ซัดฝ่ามือที่สองออกไปขัดขวางการล่าถอยของลี่ตั๋วไห่ลี่ตั๋วไห่เองก็ดูเหมือนจะคาดเดาเอาไว้แล้ว นอกจากนี้เขายังเป็นยอดฝีมือระดับราชาสงครามที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่ง ย่อมสามารถเบี่ยงหลบซ้ำได้ จึงสามารถหลบฝ่ามือที่สองของนายท่านซูได้อย่างง่ายดายเช่นกัน“ฝ่ามือสุดท้าย!”ในดวงตาของนายท่านซูมีเจตนาฆ่าวาบผ่าน ฝ่ามือที่สามของเขานี้จึงราวกับพายุที่รุนแรง คล้ายกับจะได้ยินเสียงลมและฟ้าร้องที่ทรงพลังอย่างยิ่ง เขาโจมตีไปที่หน้าอกของลี่ตั๋วไห่อย่างแข็งกร้าว"ฉันก็คิดอยู่ว่าขั้นกลางระดับราชาสงครามนั้นจะทรงพลังสักแค่ไหน ที่แท้ก็ได้แค่นี้!"ลี่ตั๋วไห่ยิ้มอย่างดูถูก ใช้กร
"นายท่านซู วันนี้ฉันลี่ตั๋วไห่ได้รับการสั่งสอนจากคุณแล้ว ฉันจะจดจำมันอย่างขึ้นใจ วันข้างหน้าถ้ามีโอกาส ฉันจะตอบแทนกลับไปอย่างเต็มที่แน่นอน!"ลี่ตั๋วไห่ยกมือขึ้นกุมหน้าอก ลุกขึ้นจากพื้นอย่างโซซัดโซเซ สีหน้ามีแต่ความเคียดแค้น“ไว้นายมีความสามารถนั้นก่อนค่อยมาคุยกันทีหลัง!”นายท่านซูเยาะเย้ยระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่เพิ่งจะทะลวงผ่านเข้าสู่ขั้นต้นระดับราชาสงคราม ซึ่งยังตามหลังเขาอยู่มาก ถ้าลี่ตั๋วไห่ต้องการเอาชนะเขา อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยแปดหรือสิบปีแต่ก่อนหน้านั้น ลี่ตั๋วไห่และตระกูลลี่คิดที่จะมางัดข้อกับเขาก็เป็นแค่เพียงความฝันของพวกคนโง่!“ลี่ตั๋วไห่ ในเมื่อข้อตกลงสามฝ่ามือระหว่างนายกับนายท่านซูสิ้นสุดลงแล้ว ก็ถึงเวลาที่ตระกูลเจิ้งของเราจะคิดบัญชีกับนายแล้ว!”เจิ้งอวี่ยิ้มอย่างเย็นชา เขานำกลุ่มปรมาจารย์ของตระกูลเจิ้งก้าวออกมา"เจิ้งอวี่ หมายความว่ายังไง?""เมื่อสักครู่นี้นายท่านซูสัญญาแล้ว ตราบเท่าที่ฉันรับสามฝ่ามือจากเขาได้ เรื่องนี้ก็ให้จบลงแค่นี้!"“หรือว่าตระกูลเจิ้งของพวกนายคิดที่จะกลับคำพูด!”สีหน้าของลี่ตั๋วไห่มืดครึ้มลง“ถูกต้อง นายท่านซูพูดอย่างนั้นจริง ๆ”“แต
เจิ้งอวี่พูดอย่างเย็นชา"เป็นไปไม่ได้!"“ฉันใช้ยาปราณแท้ทั้งสามเม็ดไปแล้ว นายเรียกราคามาดีกว่า ฉันจะชดเชยให้กับตระกูลเจิ้งของพวกนายอย่างเต็มจำนวนตามราคาตลาดแน่นอน”ลี่ตั๋วไห่ส่ายหัวและพูด"นาย..."เจิ้งอวี่รู้สึกเดือดดาลมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ท้ายที่สุดแล้ว ยาปราณแท้เป็นยาพิเศษที่ถูกหลอมขึ้นโดยฉินหมิง มันมีค่าและหายากมาก เนื่องจากลี่ตั๋วไห่ได้ใช้มันไปแล้ว จึงไม่มีทางคืนมันให้กับตระกูลเจิ้งได้"ลืมมันไปซะเถอะ ราคาคือหนึ่งพันล้านบาท ตราบเท่าที่ตระกูลลี่ของคุณชดใช้ค่าเสียหายให้กับตระกูลเจิ้งของพวกเรา ความคับข้องใจระหว่างพวกเราก็จะจบสิ้นลง!"เจิ้งอวี่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก“หนึ่งพันล้านก็หนึ่งพันล้าน ฉันจะส่งคนให้เอาเงินนี้ไปมอบให้ตระกูลเจิ้งของพวกคุณทีหลัง!”ลี่ตั๋วไห่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตกลงอย่างรวดเร็วแม้ว่ามูลค่าของยาปราณแท้สามเม็ดจะน้อยกว่าหนึ่งพันล้าน แต่ตัวยามีค่าและหายากมากกว่าเพื่อที่จะจบความบาดหมางกับตระกูลเจิ้ง เขาทำได้เพียงประนีประนอมเท่านั้น“ตามนี้!”เมื่อเห็นลี่ตั๋วไห่ยอมจำนน การแสดงออกของเจิ้งอวี่และปรมาจารย์จากตระกูลเจิ้งก็อ่อนลงมากหลังจากนั้นทั้งสองฝ่าย
ตอนนี้วาสนาระหว่างเขากับหลินหว่านชิงได้สิ้นสุดลงแล้ว เขาพร้อมที่จะยอมรับความรักของซูซินเหยาและเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!"ฉันยินดีค่ะ!!""ฉันยินดีอยู่แล้ว!!!"ซูซินเหยามีความสุขมาก เธอพยักหน้าอย่างตื่นเต้น รอยยิ้มบนใบหน้าที่สวยงามกว้างจนเกือบจะระเบิดด้วยความดีใจเธอรู้ว่าคนที่ฉินหมิงชอบคือหลินหว่านชิงและเธอก็รู้ด้วยว่าฉินหมิงไม่สามารถปล่อยวางความรู้สึกของเขาที่มีต่อหลินหว่านชิงได้ ในช่วงที่ผ่านมาเธอจึงรอฉินหมิงอย่างเงียบ ๆ เพื่อรอให้ฉินหมิงเปลี่ยนใจ!และตอนนี้ผลลัพธ์ก็ได้ออกมาแล้ว ในที่สุดเธอก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ!ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขและความตื่นเต้นในใจของเธอได้!"เยี่ยม เยี่ยมมาก!"“ฉินหมิง เรากลับไปที่ตระกูลซูกันเถอะ ไปเตรียมการหมั้นหมายระหว่างคุณกับเสี่ยวเหยากัน!”นายท่านซูรู้สึกประหลาดใจมาก จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างมีความสุขนับตั้งแต่ที่เขาพบว่าหลานสาวของตนตกหลุมรักฉินหมิง เขาก็อยากให้หลานสาวและฉินหมิงลงเอยกันมาโดยตลอด แต่ฉินหมิงไม่เคยริเริ่มที่จะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด เขาจึงไม่อาจบังคับได้แต่ตอนนี้ ในที่สุดฉินหมิงก็เป็นฝ่ายเสนอเรื่องการหมั้น
สำหรับขุมอำนาจตระกูลใหญ่ ลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้วก็เหมือนกับน้ำที่สาดออกไป ดังนั้นเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยและหลินหยุนจึงถือเป็นคนนอก เป็นเรื่องปกติที่พวกเธอไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงามประชุมของตระกูลในครั้งนี้ด้วยอย่างไรก็ตาม มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในตระกูลหลิน หลินเถิงฮุ่ยและหลินหว่านชิงถูกบังคับให้ถอนตัวออกจากตระกูลหลิน เรื่องนี้พวกเธอยังได้ยินอยู่บ้าง“พี่คะ เกิดอะไรขึ้น?”“ไม่ใช่ว่าวันนี้พี่ต้องขึ้นรับตำแหน่งผู้นำตระกูลหลินหรอกเหรอ? แล้วทำไมจู่ ๆ พี่และหว่านชิงถึงถอนตัวออกจากตระกูลหลินล่ะ?”หลินหยุนถามอย่างกังวล เธอสงสัยมากว่าสิ่งต่าง ๆ มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร“อย่าพูดถึงมันเลย!”“ล้วนเป็นเพราะนังแพศยาไป่จิ้งนั่น เธอทรยศฉันเพื่อช่วยให้โย่วเอ๋อร์ขึ้นยึดอำนาจ…”หลินเถิงฮุ่ยพูดด้วยความเกลียดชังและเล่าสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น“ไป่จิ้งคนนี้ ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”“คุณพ่อเพิ่งจะล้มป่วยได้ไม่นาน เธอก็เริ่มต่อสู้เพื่ออำนาจ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอคิดอะไรอยู่!”หลินหยุนพูดด้วยความโกรธ“จริง ๆ แล้ว พฤติกรรมของไป่จิ้งนั้นพอเข้าใจได้ แม้ว่าเธอจะมีแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวในการช่วยเหลือโย่วเอ๋อร์ต่อสู้เ
“แต่ว่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยดูไม่เต็มใจ ทว่าก็ถูกหลินหยุนขัดจังหวะก่อนที่เธอจะพูดจบ“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น!”“เรื่องของลุงและพี่ของลูกยุ่งวุ่นวายมากพอแล้ว ดังนั้นอย่าเข้าไปยุ่ง!”หลินหยุนดุด้วยท่าทางไม่พอใจเธอรู้ดีว่าเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยลูกสาวของเธอมีนิสัยประหลาดมาโดยตลอด เป็นประเภทที่กลัวว่าโลกจะไม่ยุ่งวุ่นวาย ถ้าเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกระโดดเข้ามายุ่งกับบ่อน้ำโคลนนี้ สิ่งต่าง ๆ จะแย่ลงอย่างแน่นอน!“ไม่ไปก็ไม่ไป มีอะไรให้ต้องว่ากัน...”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเม้มริมฝีปากของเธอลง สีหน้าไม่พอใจอย่างมากแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจอย่างไรก็ตามเธอแอบตัดสินใจอย่างลับ ๆ แล้วว่าเมื่อเธอมีโอกาส เธอจะไปพบฉินหมิงเพียงลำพังแล้วถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น!ไม่ทันรอให้ความคิดของเธอได้เป็นรูปเป็นร่าง จู่ ๆ ก็มีเสียงรถยนต์ดังขึ้นในลานบ้าน เป็นหานซีที่วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน“ซีซี เธอมาที่นี่ได้ยังไง?”เมื่อเห็นหานซีปรากฏตัว การแสดงออกของหลินหว่านชิงก็ซับซ้อนเล็กน้อยตอนนี้เธอรู้แล้วว่าบุคคลที่เข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปนั้นก็คือฉินหมิง และหานซีคือผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ หานซีเป็นหนึ่งใน
“หว่านชิง ที่ฉันพูดล้วนเป็นความจริงทั้งหมด!”“ในตอนนั้นลี่ตั๋วไห่สมรู้ร่วมคิดกับเอ้าเฟิงอยากที่จะเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปในราคาที่ต่ำกว่าตลาดมาก เป็นฉินหมิงที่เข้ามาทำลายแผนของพวกเขา!”“นอกจากนี้ฉินหมิงกลัวว่าเธอจะเข้าใจเขาผิด เขาจึงไม่สะดวกออกหน้าด้วยตัวเอง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังและใช้เงินมากถึงหกพันล้านเพื่อเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป ทั้งหมดก็เพราะเขาอยากทิ้งหนทางรอดไว้ให้เธอและตระกูลหลิน…”หานซีพูดอย่างจริงจังเธอเคยสัญญากับฉินหมิงมาก่อนว่าเธอจะไม่บอกหลินหว่านชิงเรื่องนี้ แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ เธอก็ไม่สนใจอีกต่อไปแล้วเธอเล่าความจริงทั้งหมดออกไป“อะไรนะ?”“เธอกำลังจะบอกฉันว่าจุดประสงค์ที่ฉินหมิงเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป ก็เพราะเขาต้องการช่วยฉันเหรอ?”หลินหว่านชิงตกตะลึง เธอแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง“จริงแท้แน่นอนที่สุด!”“หว่านชิง ไม่ขอปิดบังเธอ เธอเองก็รู้สถานการณ์ของฉินหมิงดีใช่ไหม ไม่มีทางที่เด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจอย่างเขาจะมีเงินเก็บมากถึงหกพันล้าน!”“เพื่อช่วยเธอ เขาไม่ลังเลใจเลยที่จะจำนองหุ้นทั้งหมดของหม
หานซีรีบบอกเหตุผลที่เธอมาที่นี่เสียงดังฟังชัด“เธอพูดว่าอะไรนะ?”“ฉินหมิงต้องการคืนกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปให้ฉันเหรอ?”หลินหว่านชิงราวกับถูกฟ้าผ่า เธอตะลึงงันอยู่ที่เดิมตรงนั้นในปัจจุบันเธอและหลินเถิงฮุ่ยไม่เหลืออะไรเลย ฉินหมิงส่งคืนกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปให้กับเธอในเวลานี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการส่งถ่านให้ท่ามกลางพายุหิมะ นี่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าฉินหมิงช่วยเหลือเธอมาตั้งแต่ต้นจนจบ และผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังบริษัททุนนั้นก็ไม่มีทางเป็นฉินหมิงไปได้!แน่นอนว่าไม่เพียงแต่หลินหว่านชิงเท่านั้น แต่หลินเถิงฮุ่ยเองก็ตกใจเช่นกัน จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะบีบต้นขาอย่างแรง สงสัยว่าเขากำลังฝันไปอยู่หรือเปล่า!ผลลัพธ์นั้นชัดเจน ความเจ็บปวดที่ชัดเจนที่ต้นขาของเขากำลังบอกเขาว่านี่เป็นเรื่องจริง!“หว่านชิง อันที่จริงในตอนนั้นที่ฉินหมิงมอบสิทธิ์ในการซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปให้กับฉันอย่างเต็มที่ จุดประสงค์ก็เพื่อโอนหุ้นให้เป็นชื่อของฉัน เพื่อที่ฉันจะได้คืนกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปให้กับเธอในอนาคต!”“ฉันรับรองได้เลยว่าเขาไม่เคยมีความคิดที่จะยึดครองกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป และ