"ในความคิดของฉัน ตระกูลหลินของเราจำเป็นต้องสร้างพันธมิตรระยะยาวกับตระกูลลี่เพื่อรักษาสถานะและอิทธิพลของตระกูลไว้ มิฉะนั้นตระกูลหลินของเราอาจเดินไปสู่ความล่มสลาย!"ไป่จิ้งพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย“สิ่งที่ไป่จิ้งพูดก็สมเหตุสมผล!”"การสร้างพันธมิตรระยะยาวกับตระกูลลี่นั้นสอดคล้องกับผลประโยชน์ของตระกูลหลินของเราในปัจจุบัน!"......เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลหลินต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วยสามตระกูลใหญ่ในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิงล้วนมียอดฝีมือสองคนนั่งแท่นระดับราชาสงคราม แต่ตระกูลหลินปัจจุบันเหลือยอดฝีมือระดับราชาสงครามเพียงคนเดียว ซึ่งไม่สามารถเอาอะไรไปสู้กับอีกสามตระกูลใหญ่ได้เลย!ตระกูลหลินสามารถรักษาสถานะและอิทธิพลก่อนหน้านี้ได้โดยการเป็นพันธมิตรกับลี่ตั๋วไห่เท่านั้น!"อย่างนี้นี่เอง!"หลินจิ่วเข้าใจในทันที เขาคิดว่าไป่จิ้งทำสิ่งนี้เพื่อผลประโยชน์ของตระกูล ทำให้เขารู้สึกโล่งใจขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น หลินจิ่วก็นำผู้อาวุโสตระกูลหลินสองคนเดินออกมา“พวกหมาหมู่ไม่นับว่าเป็นความสามารถ!”“ราชาแดนเหนือ ฉันจะช่วยคุณ!”หลินจิ่วตะโกนอย่างเย็นชา เขาปล่อยหมัดออกไปด้วยพลังที่ไม่มีใครเทีย
ฉินหมิงพยักหน้า"พูดจาไร้สาระ!"“ฉินหมิง เห็นได้ชัดว่าเป็นนายและตระกูลซูที่อยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมทุน นายโยนเรื่องนี้มาใส่ร้ายฉัน และพยายามยั่วยุให้ตระกูลลี่และตระกูลหลินไม่ลงรอยกัน นายมีเจตนาอะไรกันแน่!”ลี่ตั๋วไห่พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเขาไม่เข้าใจว่าฉินหมิงรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังของบริษัทร่วมทุนนั่น ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก เขาจะไม่มีทางยอมรับมันเด็ดขาด!“ลี่ตั๋วไห่ ผมปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่นั้นคุณรู้อยู่แก่ใจ!”“ลูกผู้ชายตัวจริงกล้าทำก็ต้องกล้ารับ คุณไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่ทำลงไปเหรอ?”ฉินหมิงพูดพร้อมรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้า“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันต้องยอมรับอะไร?”“เป็นนายต่างหากที่จงใจซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังและเข้าซื้อกิจการกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป โดยหวังว่าจะฉวยโอกาสซ้ำเติมตระกูลหลิน!”“โยนความผิดให้ผู้อื่น ช่างน่าไม่อายจริงๆ !”เมื่อลี่ตั๋วไห่นึกเรื่องการซื้อกิจการกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปของฉินหมิงขึ้นมาได้ เขาก็เกิดสติปัญญาในยามคับขัน เล่นงานฉินหมิงกลับทันที“อะไรนะ?”"ฉินหมิง ไม่คาดคิดว่าคนที่ซื้อกิจการกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปก็คือค
ใบหน้าของหลินหว่านชิงเต็มไปด้วยความปวดใจ เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยดวงตาผิดหวังอันที่จริง ก่อนหน้านี้หลินเถิงฮุ่ยและผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลินเคยเดาว่าผู้บงการอยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมลงทุนเหล่านั้นน่าจะเป็นฉินหมิงและตระกูลซู!อย่างไรก็ตามหลินหว่านชิงมักจะมีภาพลวงตาที่เกี่ยวกับฉินหมิงอยู่เสมอ เธอรู้สึกว่าฉินหมิงเป็นคนที่แคร์ความสัมพันธ์เก่า ๆ และจะไม่โหดร้ายกับเธอและตระกูลหลิน บางทีเรื่องนี้ตระกูลซูอาจทำเพียงลำพังและฉินหมิงไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรแต่ตอนนี้ เมื่อได้รู้ว่าฉินหมิงซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังและเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป นี่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฉินหมิง และฉินหมิงมีแนวโน้มสูงมากที่จะเป็นผู้บงการ!ชั่วขณะหนึ่ง ภาพลวงตาที่เกี่ยวกับฉินหมิงในใจของเธอก็พังทลายลงอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้!“บัดซบ!”“ฉันคิดว่าเด็กคนนี้มาที่นี่เพื่อช่วยพวกเราโดยเฉพาะ กลับกลายเป็นว่าเขาก็เหมือนกับลี่ตั๋วไห่ ไม่ใช่คนดีเหมือนกัน!”หลินเถิงฮุ่ยกำหมัดแน่น สีหน้าดูโกรธแค้นเขารู้ดีแก่ใจว่าผู้กระทำผิดในเรื่องนี้คือบริษัทร่วมทุนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ถ้าบริษัทร่วมลงทุนไม่ปราบป
เพราะเรื่องนี้ เขาได้สูญเสียอำนาจของบริษัทและตำแหน่งผู้นำตระกูลหลินตามไป ตอนนี้เขาจึงเกลียดฉินหมิงและตระกูลซูถึงแก่น แม้ว่าคำพูดของฉินหมิงจะฟังดูดี แต่เขาไม่มีทางเชื่อฉินหมิงแล้ว!หลังจากได้ยินแบบนี้ หลินหว่านชิงก็ตกอยู่ในความเงียบถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อไม่กี่วันก่อน บางทีเธออาจจะเลือกเชื่อใจฉินหมิงแต่ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปในตระกูลหลิน ในขณะที่ทุกคนต้องการบังคับให้เธอยอมรับการแต่งงานกับตระกูลลี่ มีเพียงหลินเถิงฮุ่ยเท่านั้นที่ยืนอยู่ข้างเธอ และเพื่อปกป้องเธอ หลินเถิงฮุ่ยกระทั่งยอมเสียสละตำแหน่งผู้นำตระกูลหลิน!ปัจจุบันหลินเถิงฮุ่ยพ่อของเธอจึงเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เธอเชื่อใจ!ในเมื่อหลินเถิงฮุ่ยพูดว่าฉินหมิงและตระกูลซูคือผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง หลังจากที่เธอลังเลเล็กน้อย สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเชื่อพ่อของตัวเอง!เมื่อเห็นว่าหลินหว่านชิงเงียบไม่พูดจา ฉินหมิงจะไม่เข้าใจอีกเหรอว่าหลินหว่านชิงคิดยังไงชั่วขณะหนึ่ง เขาสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด ผิดหวังกับหลินหว่านชิงอย่างเต็มที่!ยิ่งหวังมาก ก็ยิ่งผิดหวังมาก!เมื่อก่อนเขาเพ้อฝันมาโดยตลอดว่าจะสามารถชิงตัวหลินหว่านชิงกลับคืนมาได้ จ
หลินจิ่วพูดอย่างเย็นชาด้วยสายตาอาฆาตตระกูลหลินคนที่เหลือก็เหมือนกัน แต่ละคนมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาพยาบาทและเกลียดชัง“ปู่รองหลิน ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย คนที่อยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมทุนนั่นคือลี่ตั๋วไห่และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผม…”ฉินหมิงพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่เขาก็ถูกหลินจิ่วขัดจังหวะก่อนที่จะพูดจบ“เลิกพูดไร้สาระ!”“เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว นึกไม่ถึงว่าคุณยังต้องการที่จะปลุกปั่นความร้าวฉานให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลินและราชาแดนเหนือไม่ลงรอยกัน ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”“วันนี้ฉันจะสั่งสอนคุณ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับหลินกรุ๊ปของเรา!”หลินจิ่วตะคอกอย่างเย็นชา เขายื่นมือออกไปพร้อมกรงเล็บอันทรงพลังที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้ เตรียมกระโจนไปยังทิศทางของฉินหมิง“อวดดี!”“ความเมตตาของคุณฉินที่มีต่อตระกูลเจิ้งของเรานั้นยิ่งใหญ่ราวกับภูเขา ใครก็ตามที่กล้าทำร้ายเขาจะต้องผ่านด่านตระกูลเจิ้งของเราไปก่อน!”เจิ้งอวี่ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วยกมือขึ้นโบก จากนั้นชายชราในชุดฟ้าที่อยู่ในระดับราชาสงครามก็ก้าวออกมาและพุ่งเข้าต่อยหลินจิ่วหนึ่งหมัดตูม!หลังจากสิ้นเสียงปะทะกันอย่างรุนแรง หลินจ
ตอนแรกเริ่มที่ฉินหมิงมีความขัดแย้งกับลี่ตั๋วไห่ ซูซินเหยาเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก เธอจึงส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังนายท่านซูอย่างเงียบ ๆหลังจากได้รับคำร้องขอจากซูซินเหยา นายท่านซูก็เรียกปรมาจารย์ตระกูลซูจำนวนหลายคนมาทันทีและรีบมาที่แห่งนี้ตอนนี้เมื่อเขาเห็นว่าซูซินเหยาและฉินหมิงปลอดภัยและไม่ได้รับอันตราย เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก“คุณปู่ ในที่สุดก็มาจนได้!”“หนูดีใจมากจริง ๆ!”เมื่อเห็นนายท่านซูมาถึง ซูซินเหยาก็ดีใจมาก เธอก็รีบวิ่งไปหาเพื่อทักทายเขาฉินหมิงก็เหมือนกัน ใบหน้าของเขาดูมีความสุขและหัวใจที่เป็นกังวลของเขาก็สงบในที่สุดตรงกันข้ามกับความสุขของฉินหมิงและซูซินเหยา สีหน้าของทุกคนในตระกูลหลินมืดมนลง แต่ละคนล้วนมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งลี่ตั๋วไห่ เมื่อสักครู่นี้เขายังรู้สึกยินดีมาก แต่ตอนนี้เขาหัวเราะไม่ออกแล้ว!“ซินเหยา หลานกับฉินหมิงไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”นายท่านซูถามด้วยความเป็นห่วง“คุณปู่ หนูไม่เป็นไรค่ะ...”“แต่ฉินหมิงได้รับบาดเจ็บ แขนข้างหนึ่งของเขาถูกลี่ตั๋วไห่หัก ปู่ต้องช่วยเขาแก้แค้นนะคะ!”ซูซินเหยาพูดด้วยความโกรธ“อ
แต่สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉินหมิงแม้แต่นิดเดียว ตระกูลซูและฉินหมิงไม่เคยทำอะไรที่น่าละอายเลย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหลินจิ่วถึงพูดแบบนี้!ก่อนที่นายท่านซูจะพูดจบ ฉินหมิงก็ลุกขึ้นยืนก่อน“ปู่รองหลิน เมื่อสักครู่นี้ผมอธิบายให้คุณฟังอย่างชัดเจนแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมทุนนั่นคือลี่ตั๋วไห่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมและตระกูลซู!”“ผมหวังว่าคุณจะไม่หลงกลอุบายของคนอื่น จากคำพูดใส่ร้ายของคนชั่วบางคน!"ฉินหมิงเตือนอย่างเย็นชา"พูดไร้สาระ!"“เรื่องนี้ตัวฉันรู้ผิดรู้ชอบดี จะต้องทำอย่างไรมันก็ไม่ใช่ธุระกงการของเด็กน้อยไม่รู้ประสาอย่างแกที่จะมาสอนฉัน!”“สรุปก็คือแกและตระกูลซูจะต้องอธิบายให้ตระกูลหลินของเรารู้ในวันนี้ ไม่เช่นนั้นพวกแกจะไม่มีใครสามารถก้าวออกไปจากที่นี่ได้!”หลินจิ่วพูดเสียงแข็ง“อาศัยแกเหรอ? เรื่องตลกชัด ๆ!”“หลินจิ่ว ถ้าตาแก่หลินอยู่ที่นี่บางทีฉันอาจจะกลัวเขาอยู่บ้าง น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาล้มป่วยแล้ว!”“แกเป็นเพียงขั้นต้นระดับราชาสงครามตัวเล็ก ๆ ไม่มีคุณสมบัติมาท้าทายฉัน!”นายท่านซูยิ้มอย่างดูถูก เขาไม่ได้เห็นหลินจิ่วอยู่ในสายตาเลย“งั้นเหรอ?”“ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาพิ
“ถ้าตระกูลหลินของคุณพบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าตระกูลซูและผมเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ถึงตอนนั้นผมจะยอมให้ตระกูลหลินของคุณจัดการตามอำเภอใจ!”ฉินหมิงเห็นว่าหลินจิ่วลังเลใจ เขาจึงพูดให้คำมั่นสัญญาอย่างเฉียบขาดเมื่อหลินจิ่วได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาก็มืดมนและไม่มั่นใจอยู่พักใหญ่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว!“ได้ นายพูดเองนะ!”“ฉันจะทำตามความปรารถนาของนายและพักเรื่องนี้ไว้ก่อน เมื่อฉันพบหลักฐานว่าเป็นนายและตระกูลซู ถึงตอนนั้นตระกูลหลินของเราจะไม่มีวันปล่อยนายไปแน่นอน!”หลินจิ่วพูดอย่างเย็นชา“อะไรนะ?”“เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร!”ลี่ตั๋วไห่รู้สึกตกใจเมื่อเห็นหลินจิ่วและฉินหมิงบรรลุข้อตกลงร่วมกันตอนนี้ตระกูลลี่อยู่โดดเดี่ยวไม่มีพรรคพวก แม้แต่การเอาชนะตระกูลเจิ้งก็ทำไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนายท่านซูและตระกูลซูเลย!ถ้าหลินจิ่วและคนของตระกูลหลินล่าถอยออกมาในตอนนี้ ตระกูลลี่จะเอาอะไรไปต่อต้านตระกูลเจิ้งและตระกูลซู!“ปู่รองหลิน ข้อเท็จจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว ฉินหมิงและตระกูลซูเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง คุณอย่าหลงกลไอ้หนูฉินหมิงเด็ดขาด!”ลี่ตั๋วไห่พูดอย่างเร่งรีบ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ