"ในความคิดของฉัน ตระกูลหลินของเราจำเป็นต้องสร้างพันธมิตรระยะยาวกับตระกูลลี่เพื่อรักษาสถานะและอิทธิพลของตระกูลไว้ มิฉะนั้นตระกูลหลินของเราอาจเดินไปสู่ความล่มสลาย!"ไป่จิ้งพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย“สิ่งที่ไป่จิ้งพูดก็สมเหตุสมผล!”"การสร้างพันธมิตรระยะยาวกับตระกูลลี่นั้นสอดคล้องกับผลประโยชน์ของตระกูลหลินของเราในปัจจุบัน!"......เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลหลินต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วยสามตระกูลใหญ่ในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิงล้วนมียอดฝีมือสองคนนั่งแท่นระดับราชาสงคราม แต่ตระกูลหลินปัจจุบันเหลือยอดฝีมือระดับราชาสงครามเพียงคนเดียว ซึ่งไม่สามารถเอาอะไรไปสู้กับอีกสามตระกูลใหญ่ได้เลย!ตระกูลหลินสามารถรักษาสถานะและอิทธิพลก่อนหน้านี้ได้โดยการเป็นพันธมิตรกับลี่ตั๋วไห่เท่านั้น!"อย่างนี้นี่เอง!"หลินจิ่วเข้าใจในทันที เขาคิดว่าไป่จิ้งทำสิ่งนี้เพื่อผลประโยชน์ของตระกูล ทำให้เขารู้สึกโล่งใจขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น หลินจิ่วก็นำผู้อาวุโสตระกูลหลินสองคนเดินออกมา“พวกหมาหมู่ไม่นับว่าเป็นความสามารถ!”“ราชาแดนเหนือ ฉันจะช่วยคุณ!”หลินจิ่วตะโกนอย่างเย็นชา เขาปล่อยหมัดออกไปด้วยพลังที่ไม่มีใครเทีย
ฉินหมิงพยักหน้า"พูดจาไร้สาระ!"“ฉินหมิง เห็นได้ชัดว่าเป็นนายและตระกูลซูที่อยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมทุน นายโยนเรื่องนี้มาใส่ร้ายฉัน และพยายามยั่วยุให้ตระกูลลี่และตระกูลหลินไม่ลงรอยกัน นายมีเจตนาอะไรกันแน่!”ลี่ตั๋วไห่พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเขาไม่เข้าใจว่าฉินหมิงรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังของบริษัทร่วมทุนนั่น ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก เขาจะไม่มีทางยอมรับมันเด็ดขาด!“ลี่ตั๋วไห่ ผมปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่นั้นคุณรู้อยู่แก่ใจ!”“ลูกผู้ชายตัวจริงกล้าทำก็ต้องกล้ารับ คุณไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่ทำลงไปเหรอ?”ฉินหมิงพูดพร้อมรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้า“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันต้องยอมรับอะไร?”“เป็นนายต่างหากที่จงใจซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังและเข้าซื้อกิจการกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป โดยหวังว่าจะฉวยโอกาสซ้ำเติมตระกูลหลิน!”“โยนความผิดให้ผู้อื่น ช่างน่าไม่อายจริงๆ !”เมื่อลี่ตั๋วไห่นึกเรื่องการซื้อกิจการกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปของฉินหมิงขึ้นมาได้ เขาก็เกิดสติปัญญาในยามคับขัน เล่นงานฉินหมิงกลับทันที“อะไรนะ?”"ฉินหมิง ไม่คาดคิดว่าคนที่ซื้อกิจการกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปก็คือค
ใบหน้าของหลินหว่านชิงเต็มไปด้วยความปวดใจ เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยดวงตาผิดหวังอันที่จริง ก่อนหน้านี้หลินเถิงฮุ่ยและผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลินเคยเดาว่าผู้บงการอยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมลงทุนเหล่านั้นน่าจะเป็นฉินหมิงและตระกูลซู!อย่างไรก็ตามหลินหว่านชิงมักจะมีภาพลวงตาที่เกี่ยวกับฉินหมิงอยู่เสมอ เธอรู้สึกว่าฉินหมิงเป็นคนที่แคร์ความสัมพันธ์เก่า ๆ และจะไม่โหดร้ายกับเธอและตระกูลหลิน บางทีเรื่องนี้ตระกูลซูอาจทำเพียงลำพังและฉินหมิงไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรแต่ตอนนี้ เมื่อได้รู้ว่าฉินหมิงซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังและเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป นี่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฉินหมิง และฉินหมิงมีแนวโน้มสูงมากที่จะเป็นผู้บงการ!ชั่วขณะหนึ่ง ภาพลวงตาที่เกี่ยวกับฉินหมิงในใจของเธอก็พังทลายลงอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้!“บัดซบ!”“ฉันคิดว่าเด็กคนนี้มาที่นี่เพื่อช่วยพวกเราโดยเฉพาะ กลับกลายเป็นว่าเขาก็เหมือนกับลี่ตั๋วไห่ ไม่ใช่คนดีเหมือนกัน!”หลินเถิงฮุ่ยกำหมัดแน่น สีหน้าดูโกรธแค้นเขารู้ดีแก่ใจว่าผู้กระทำผิดในเรื่องนี้คือบริษัทร่วมทุนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ถ้าบริษัทร่วมลงทุนไม่ปราบป
เพราะเรื่องนี้ เขาได้สูญเสียอำนาจของบริษัทและตำแหน่งผู้นำตระกูลหลินตามไป ตอนนี้เขาจึงเกลียดฉินหมิงและตระกูลซูถึงแก่น แม้ว่าคำพูดของฉินหมิงจะฟังดูดี แต่เขาไม่มีทางเชื่อฉินหมิงแล้ว!หลังจากได้ยินแบบนี้ หลินหว่านชิงก็ตกอยู่ในความเงียบถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อไม่กี่วันก่อน บางทีเธออาจจะเลือกเชื่อใจฉินหมิงแต่ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปในตระกูลหลิน ในขณะที่ทุกคนต้องการบังคับให้เธอยอมรับการแต่งงานกับตระกูลลี่ มีเพียงหลินเถิงฮุ่ยเท่านั้นที่ยืนอยู่ข้างเธอ และเพื่อปกป้องเธอ หลินเถิงฮุ่ยกระทั่งยอมเสียสละตำแหน่งผู้นำตระกูลหลิน!ปัจจุบันหลินเถิงฮุ่ยพ่อของเธอจึงเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เธอเชื่อใจ!ในเมื่อหลินเถิงฮุ่ยพูดว่าฉินหมิงและตระกูลซูคือผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง หลังจากที่เธอลังเลเล็กน้อย สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเชื่อพ่อของตัวเอง!เมื่อเห็นว่าหลินหว่านชิงเงียบไม่พูดจา ฉินหมิงจะไม่เข้าใจอีกเหรอว่าหลินหว่านชิงคิดยังไงชั่วขณะหนึ่ง เขาสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด ผิดหวังกับหลินหว่านชิงอย่างเต็มที่!ยิ่งหวังมาก ก็ยิ่งผิดหวังมาก!เมื่อก่อนเขาเพ้อฝันมาโดยตลอดว่าจะสามารถชิงตัวหลินหว่านชิงกลับคืนมาได้ จ
หลินจิ่วพูดอย่างเย็นชาด้วยสายตาอาฆาตตระกูลหลินคนที่เหลือก็เหมือนกัน แต่ละคนมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาพยาบาทและเกลียดชัง“ปู่รองหลิน ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย คนที่อยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมทุนนั่นคือลี่ตั๋วไห่และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผม…”ฉินหมิงพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่เขาก็ถูกหลินจิ่วขัดจังหวะก่อนที่จะพูดจบ“เลิกพูดไร้สาระ!”“เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว นึกไม่ถึงว่าคุณยังต้องการที่จะปลุกปั่นความร้าวฉานให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลินและราชาแดนเหนือไม่ลงรอยกัน ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”“วันนี้ฉันจะสั่งสอนคุณ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับหลินกรุ๊ปของเรา!”หลินจิ่วตะคอกอย่างเย็นชา เขายื่นมือออกไปพร้อมกรงเล็บอันทรงพลังที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้ เตรียมกระโจนไปยังทิศทางของฉินหมิง“อวดดี!”“ความเมตตาของคุณฉินที่มีต่อตระกูลเจิ้งของเรานั้นยิ่งใหญ่ราวกับภูเขา ใครก็ตามที่กล้าทำร้ายเขาจะต้องผ่านด่านตระกูลเจิ้งของเราไปก่อน!”เจิ้งอวี่ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วยกมือขึ้นโบก จากนั้นชายชราในชุดฟ้าที่อยู่ในระดับราชาสงครามก็ก้าวออกมาและพุ่งเข้าต่อยหลินจิ่วหนึ่งหมัดตูม!หลังจากสิ้นเสียงปะทะกันอย่างรุนแรง หลินจ
ตอนแรกเริ่มที่ฉินหมิงมีความขัดแย้งกับลี่ตั๋วไห่ ซูซินเหยาเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก เธอจึงส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังนายท่านซูอย่างเงียบ ๆหลังจากได้รับคำร้องขอจากซูซินเหยา นายท่านซูก็เรียกปรมาจารย์ตระกูลซูจำนวนหลายคนมาทันทีและรีบมาที่แห่งนี้ตอนนี้เมื่อเขาเห็นว่าซูซินเหยาและฉินหมิงปลอดภัยและไม่ได้รับอันตราย เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก“คุณปู่ ในที่สุดก็มาจนได้!”“หนูดีใจมากจริง ๆ!”เมื่อเห็นนายท่านซูมาถึง ซูซินเหยาก็ดีใจมาก เธอก็รีบวิ่งไปหาเพื่อทักทายเขาฉินหมิงก็เหมือนกัน ใบหน้าของเขาดูมีความสุขและหัวใจที่เป็นกังวลของเขาก็สงบในที่สุดตรงกันข้ามกับความสุขของฉินหมิงและซูซินเหยา สีหน้าของทุกคนในตระกูลหลินมืดมนลง แต่ละคนล้วนมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งลี่ตั๋วไห่ เมื่อสักครู่นี้เขายังรู้สึกยินดีมาก แต่ตอนนี้เขาหัวเราะไม่ออกแล้ว!“ซินเหยา หลานกับฉินหมิงไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”นายท่านซูถามด้วยความเป็นห่วง“คุณปู่ หนูไม่เป็นไรค่ะ...”“แต่ฉินหมิงได้รับบาดเจ็บ แขนข้างหนึ่งของเขาถูกลี่ตั๋วไห่หัก ปู่ต้องช่วยเขาแก้แค้นนะคะ!”ซูซินเหยาพูดด้วยความโกรธ“อ
แต่สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉินหมิงแม้แต่นิดเดียว ตระกูลซูและฉินหมิงไม่เคยทำอะไรที่น่าละอายเลย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหลินจิ่วถึงพูดแบบนี้!ก่อนที่นายท่านซูจะพูดจบ ฉินหมิงก็ลุกขึ้นยืนก่อน“ปู่รองหลิน เมื่อสักครู่นี้ผมอธิบายให้คุณฟังอย่างชัดเจนแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมทุนนั่นคือลี่ตั๋วไห่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมและตระกูลซู!”“ผมหวังว่าคุณจะไม่หลงกลอุบายของคนอื่น จากคำพูดใส่ร้ายของคนชั่วบางคน!"ฉินหมิงเตือนอย่างเย็นชา"พูดไร้สาระ!"“เรื่องนี้ตัวฉันรู้ผิดรู้ชอบดี จะต้องทำอย่างไรมันก็ไม่ใช่ธุระกงการของเด็กน้อยไม่รู้ประสาอย่างแกที่จะมาสอนฉัน!”“สรุปก็คือแกและตระกูลซูจะต้องอธิบายให้ตระกูลหลินของเรารู้ในวันนี้ ไม่เช่นนั้นพวกแกจะไม่มีใครสามารถก้าวออกไปจากที่นี่ได้!”หลินจิ่วพูดเสียงแข็ง“อาศัยแกเหรอ? เรื่องตลกชัด ๆ!”“หลินจิ่ว ถ้าตาแก่หลินอยู่ที่นี่บางทีฉันอาจจะกลัวเขาอยู่บ้าง น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาล้มป่วยแล้ว!”“แกเป็นเพียงขั้นต้นระดับราชาสงครามตัวเล็ก ๆ ไม่มีคุณสมบัติมาท้าทายฉัน!”นายท่านซูยิ้มอย่างดูถูก เขาไม่ได้เห็นหลินจิ่วอยู่ในสายตาเลย“งั้นเหรอ?”“ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาพิ
“ถ้าตระกูลหลินของคุณพบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าตระกูลซูและผมเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ถึงตอนนั้นผมจะยอมให้ตระกูลหลินของคุณจัดการตามอำเภอใจ!”ฉินหมิงเห็นว่าหลินจิ่วลังเลใจ เขาจึงพูดให้คำมั่นสัญญาอย่างเฉียบขาดเมื่อหลินจิ่วได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาก็มืดมนและไม่มั่นใจอยู่พักใหญ่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว!“ได้ นายพูดเองนะ!”“ฉันจะทำตามความปรารถนาของนายและพักเรื่องนี้ไว้ก่อน เมื่อฉันพบหลักฐานว่าเป็นนายและตระกูลซู ถึงตอนนั้นตระกูลหลินของเราจะไม่มีวันปล่อยนายไปแน่นอน!”หลินจิ่วพูดอย่างเย็นชา“อะไรนะ?”“เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร!”ลี่ตั๋วไห่รู้สึกตกใจเมื่อเห็นหลินจิ่วและฉินหมิงบรรลุข้อตกลงร่วมกันตอนนี้ตระกูลลี่อยู่โดดเดี่ยวไม่มีพรรคพวก แม้แต่การเอาชนะตระกูลเจิ้งก็ทำไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนายท่านซูและตระกูลซูเลย!ถ้าหลินจิ่วและคนของตระกูลหลินล่าถอยออกมาในตอนนี้ ตระกูลลี่จะเอาอะไรไปต่อต้านตระกูลเจิ้งและตระกูลซู!“ปู่รองหลิน ข้อเท็จจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว ฉินหมิงและตระกูลซูเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง คุณอย่าหลงกลไอ้หนูฉินหมิงเด็ดขาด!”ลี่ตั๋วไห่พูดอย่างเร่งรีบ