เธอพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงตัดสินใจให้ฉินหมิงเข้าร่วมการประชุมนี้ชั่วคราว อย่างไรก็ตามให้สิทธิ์ฉินหมิงมากไปก็ไม่ได้ หรือจะขาดฉินหมิงไปเลยก็ไม่ได้เช่นกันหลังจากทานอาหารค่ำเสร็จหลินหว่านชิงก็รีบกลับไปพักผ่อนที่ห้องนอนของตัวเองทันทีฉินหมิงเองก็คล้ายกันกับเมื่อคืนวาน เขาค่อย ๆ ถือหินหยกไปยังบนยอดเขาที่อยู่ทางด้านหลังเมื่อนำหยกออกมา ฉินหมิงก็นำหินหยกมาเรียงตามจำนวนของวิชาเก้าตำหนักแปดทิศ ตามความแตกต่างกันของทั้งสิบแปดทิศ เขาได้นำเครื่องหยกน้ำแข็งทั้งสิบแปดชิ้นมาทำการขุดหลุมและฝังลงไปทีละชิ้น ไม่นานเขาก็จัดเรียงแท่นรวบรวมวิญญาณได้สำเร็จต่อมาขอเพียงแค่จุดศูนย์กลางค่ายกลยังทำงานอยู่ แท่นรวบรวมวิญญาณก็จะสามารถทำงานได้เช่นกันหากไม่เปิดใช้งานจุดศูนย์กลางค่ายกลนั้น ภายนอกจะดูปกติทุกอย่าง จะไม่มีใครค้นพบได้ว่าที่นี่ซ่อนความลับอะไรเอาไว้หลังจากนั้น ฉินหมิงก็ได้เดินไปยังจุดศูนย์กลางค่ายกลและนั่งขัดสมาธิ เขาหยิบป้ายหยกเนื้อแก้วชิ้นสุดท้ายออกมา และวางลงไปบนจุดศูนย์กลางค่ายกลฟิ้ว!เสียงลมหนาวพัดผ่านไปครู่หนึ่งขณะที่แท่นรวบรวมวิญญาณเปิดใช้งาน พลังวิญญาณบนยอดเขาก็ก่อตัวเป็นกระแสลมเล
“นายขับรถไม่เป็นเหรอ? ”หานซีตกใจมาก เธอกลอกตาพลางพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นนายก็ไม่สามารถซื้อมอเตอร์ไซค์สีอื่นได้เหรอ การซื้อมอเตอร์ไซค์สีชมพูมาใช้มันน่าอายมากนะ! ”“มอเตอร์ไซค์คันนี้ผมไม่ได้เป็นคนซื้อมา หลินหว่านชิงให้ผมมา…”ฉินหมิงยักไหล่พลางกล่าวหลินหว่านชิงจะไม่ส่งของให้ผู้ชายโดยอำเภอใจแบบนี้แน่ ผู้ชายคนอื่นต่างก็อยากได้แต่ก็ทำไม่ได้ เขาทำใจไม่ได้ที่ต้องเปลี่ยนมัน! “แบบนั้นก็ว่าไม่ได้! ”ทันใดนั้นหานซีก็ตระหนักได้และเข้าใจฉินหมิงทันทีว่าทำไมถึงมีมอเตอร์ไซค์ที่น่าอึดอัดใจเช่นนี้“ผู้ช่วยหาน ผมจะขี่มอเตอร์ไซค์สีอะไร นี่ดูเหมือนมันจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลยนะ? ”“ทำไมคุณถึงดูเป็นกังวลกับมอเตอร์ไซค์ของผมอยู่ตลอดเลย? ”ฉินหมิงพูดด้วยความสับสน ภายในใจแอบสงสัย หานซีกินอิ่มแล้วว่างเกินไปหรือเปล่า ทำไมถึงดูยุ่งวุ่นวายกับเขานัก“ผมเต็มใจและคุณเองก็จะมายุ่งวุ่นวายกับผมทำไม! ”หานซีหน้าแดง เธอจ้องมองไปยังฉินหมิงอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ และหันหลังกลับเดินไปข้างหน้าอย่างหยิ่งผยองถ้าหากว่าเป็นคนอื่น เธอคงที่จะคร้านเข้าไปยุ่งวุ่นวายด้วยมีเพียงแค่ฉินหมิงที่ต่างออกไปก่อนหน้านี้เธอรู้จ
หานซีกล่าวด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจกลุ่มธุรกิจอานิสทรีกรุ๊ปเดินบนเส้นทางแฟชั่น ภายในบริษัทมีหญิงสาวสวยมากมาย แต่หานซีสามารถโดดเด่นขึ้นมาได้จากหมู่หญิงสาวเหล่านั้น และกลายเป็นหญิงสาวที่สวยเป็นอันดับสองของบริษัท ความเป็นเลิศของเธอทุกด้านไม่จำเป็นต้องสงสัยเลยจริง ๆ ด้วยรูปลักษณ์และหน้าตาของเธอ มองหาไปทั่วทั้งเมืองเจียงก็ยังมีผู้หญิงไม่มากที่จะสามารถแซงหน้าเธอได้!ตู้เซียวยังคงมีความแตกต่างอยู่บ้างเมื่อเทียบกับเธอ!และที่สำคัญไปกว่านั้น คนที่หานซีชอบก็คือผู้ชายที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจเหนือกว่า ตู้เซียวเป็นเพียงนักวิชาการหน้าขาวที่โดดเด่นไม่มากพอเธอสามารถชอบตู้เซียวลงได้ก็แปลกแล้ว!“ใช่ ใช่…”ตู้เซียวยิ้มทำตัวไม่ถูก สายตาเหลือบไปยังฉินหมิงที่อยู่ด้านข้าง จู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนไป “หานซี คนนี้คงจะไม่ใช่เลขาฉินที่เป็นคนของผู้ช่วยผู้บริหารคนนั้นใช่ไหม? ”ฉินหมิงตกใจอย่างมาก เขาเพิ่งจะเข้ามาที่บริษัทได้สองวัน คิดไม่ถึงว่าจะมีคนระดับสูงในบริษัทรู้จักเขาด้วย เขาค่อนข้างจะประหลาดใจ“สวัสดีครับผู้อำนวยการตู้ ผมฉินหมิงเป็นเลขาของผู้ช่วยผู้บริหารครับ ยินดีอย่างมากที่ได้ร
เปรี้ยง!หานซีรู้สึกราวกับว่าถูกฟ้าผ่า และหัวของเธอเองก็ว่างเปล่าเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่ตู้เซียวบอกจะเป็นเรื่องจริง ในสถานการณ์ที่อธิบายอะไรไม่ได้ เธอก็กลายมาเป็นแฟนของฉินหมิงซะอย่างนั้น!“พวกคุณอย่าพูดเหลวไหล! ”“ฉันกับเขาเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน และเขาเองก็ไม่ใช่แฟนของฉัน! ”หานซีตะโกนบอกทุกคนด้วยความโมโห ภายในใจเองก็พยายามข่มอารมณ์ของตัวเองอยู่เช่นกันในที่สุดตอนนี้เธอก็เข้าใจแล้วว่า เป็นเพราะเหยียนซ่งไท่ถูกบังคับให้ลาออก ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉินหมิงแต่เหยียนซ่งไท่ไม่ใช่เธอที่เป็นคนไล่ออก อันที่จริงเธอแค่ทำแทนหลินหว่านชิงก็เท่านั้น!ฉินหมิงเองก็ตกใจเช่นเดียวกัน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าแค่เรื่องของเหยียนซ่งไท่แค่เรื่องเดียว กลับกลายเป็นความเข้าใจผิดอย่างใหญ่โตขนาดนี้“พวกคุณทุกคนเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ใช่แฟนของผู้ช่วยหาน ผมไม่ได้ชอบเธอเลย…”ฉินหมิงโบกปัดมือพลางพูดออกมา พยายามที่จะชี้แจงเรื่องที่เข้าใจผิด“คุณพูดว่ายังไงนะ? ”“คุณไม่ได้ชอบฉันงั้นเหรอ? ”หานซีชี้นิ้วไปที่หน้าของตัวเอง เธอเพิ่งจะสงบสติอารมณ์ได้ไม่นาน และก็เกือบจะโกรธเคืองคำ
เมื่อครู่เขาโดนหานซีเตะอย่างแรง เดิมก็รู้สึกหดหู่ใจมากอยู่แล้ว เขาจะมีสีหน้าดี ๆ ให้ตู้เซียวได้อย่างไร จากนั้นเขาก็เดินอ้อมตู้เซียวแล้วจากไป“เด็กน้อย นายอย่าทำได้ใจไปหน่อยเลย! ”“นายรอฉันก่อน ฉันไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แน่! ”เมื่อแผ่นหลังของฉินหมิงค่อย ๆ หายไป ตู้เซียวเองก็โกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟทันทีเขาไล่ตามจีบหานซีมาปีกว่าแล้ว แต่เขาไม่เคยได้รับความสนใจจากเธอเลย ตอนนี้กลับเป็นฉินหมิงคนบ้านั่นได้ความสนใจจากเธอไป เขาจะเต็มใจยอมรับมันได้อย่างไร!...เวลาบ่าย บริษัทได้จัดการประชุมระดับสูงขึ้นณ ภายในห้องประชุมตอนที่ฉินหมิงได้ตามอู๋จิ้งไปถึงห้องประชุม ด้านในก็มีผู้คนนั่งกันเต็มไปหมดแล้ว รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเกือบทั้งหมดก็เข้าร่วมด้วย ในนั้นรวมไปถึงตู้เซียวผู้อำนวยการฝ่ายขายด้วยตู้เซียวไม่คิดว่าฉินหมิงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมการประชุมด้วย และเขาเองก็จ้องมองฉินหมิงด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเป็นครั้งคราวผ่านไปไม่นานนักเสียงรองเท้าส้นสูงที่เหยียบกระทบพื้นก็ดังขึ้น และหานซีก็ได้ติดตามหลินหว่านชิงเข้าไปยังห้องประชุมทางด้านในพอหลินหว่านชิงปรากฎตัวขึ้น ผู้คนก็เงียบเสียงลงในทันทีเมื่
“อันดับที่สองได้แก่ โอวเจียกรุ๊ป พวกเขาควบคุมช่องทางการขายถึงยี่สิบสองเปอร์เซนต์…”“และอันดับสามก็คือบริษัทอันเท่อ ควบคุมช่องทางการขายถึงสิบสี่เปอร์เซนต์…”“ส่วนช่องทางการขายในตลาดที่เหลือประมาณยี่สิบเปอร์เซนต์ อยู่ในมือของผู้จัดจำหน่ายและตัวแทนขนาดเล็กและขนาดกลางบางราย…”หานซีใช้เมาส์คลิกที่ข้อมูลบนหน้าจอและพูดจาอย่างฉะฉานอานิสทรีกรุ๊ปเป็นบริษัทผู้ผลิต เมื่อใดก็ตามที่บริษัทผลิตสินค้า จำเป็นที่ต้องผ่านตัวแทนจำหน่ายเพื่อขายส่ง โปรโมชั่น การรวมทรัพยากรและอื่น ๆ สุดท้ายก็นำไปเผยแพร่ออกสู่ตลาดโดยผู้จัดจำหน่ายคือตัวเชื่อมโยงสำคัญที่ขาดไม่ได้อานิสทรีกรุ๊ปมีช่องทางการขายสองช่องทาง เส้นทางแรกคือการร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่สามราย โดยผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่สามรายนี้มีความสัมพันธ์ในเชิงแข่งขันกัน และอานิสทรีกรุ๊ปสามารถเลือกความร่วมมือได้เพียงหนึ่งรายเท่านั้นเส้นทางที่สอง คือการร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายและตัวแทนขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งผู้จัดจำหน่ายเหล่านี้มีหลายประเภท และการกระจายความต้องการก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่ค่อยมีเสถียรภาพ ปกติแล้วการปฏิบัติงานของฝ่ายขายในบริษัทก็จะขึ้นอยู่กับกล
อย่างไรก็ตาม มีปัญหาหนึ่งที่เขาสังเกตเห็น“หว่าน…ประธานหลิน ส่วนแบ่งการขายนั้นโจวกรุ๊ปเองก็ไม่ใช่ว่าเป็นรายชื่ออันดับที่หนึ่งเหรอ ทำไมบริษัทของเราถึงไม่เลือกร่วมมือกับพวกเขากันล่ะครับ? ”ฉินหมิงถามด้วยความสับสน ในใจรู้สึกคุ้น ๆ ว่าเคยได้ยินเกี่ยวกับชื่อโจวกรุ๊ปมาเล็กน้อย แต่เขาเองก็จำไม่ได้ว่าได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหนทันทีที่ฉินหมิงพูดสิ่งนี้ ห้องประชุมขนาดใหญ่ก็เงียบสงบลงอย่างน่าประประหลาดทุกคนต่างก็มองมาที่เขาด้วยสีหน้าแปลก ๆ ราวกับว่าพวกเขากำลังมองคนโง่อยู่“เลขาฉิน ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เคยเตรียมงานใด ๆ มาก่อนเลย แม้แต้สามัญสำนึกพื้นฐานที่สุดคุณก็ยังไม่รู้เลย! ”รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของตู้เซียว“สามัญสำนึกพื้นฐานอะไร? ”ฉินหมิงทั้งหัวแข็งทื่อ“ฉินหมิง คุณเลิกทำขายหน้าได้แล้ว! ”“ช่างเถอะ ฉันจะเป็นคนบอกคุณเองดีกว่า! ”หานซีจ้องมองฉินหมิงอย่างหงุดหงิดใจพร้อมพูดขึ้นว่า“ช่องทางการขายเครื่องสำอางของโจวกรุ๊ปนั้น พวกเขาใช้เส้นทางสินค้าระดับไฮเอนด์และสินค้าฟุ่มเฟือย! ”“เครื่องสำอางและสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติจำนวนมาก ทั้งหมดถูกส่งมอบให้กับตัวแทนโจวก
พอมาถึงยังด้านนอกฉินหมิงหายใจเข้าลึก ๆ เขาได้สงบสติอารมณ์อยู่สักพัก จากนั้นก็กดรับสายโทรศัพท์ทันที“สวัสดีครับ ใช่คุณฉินหมิงหรือเปล่าครับ ผมโจวคังไท่ ไม่ทราบว่าคุณยังจำผมได้อยู่หรือเปล่าครับ? ”ทันทีที่มีการเชื่อมต่อสายโทรศัพท์ ภายในโทรศัพท์ก็ปรากฎเสียงหัวเราะอันสดใสของชายชราขึ้นมา “ที่แท้เป็นนายท่านโจวนี่เอง ไม่ทราบว่าที่คุณโทรมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ? ”ฉินหมิงนึกขึ้นได้ทันที ที่แท้อีกฝ่ายก็คือชายชราที่เขาได้ช่วยรักษาที่สวนสาธารณะเมื่อวานนี้“เป็นแบบนี้ครับ เรื่องบุญคุณที่คุณได้ช่วยเหลือผมไว้ผมไม่สามารถที่จะไม่ตอบแทนได้ ผมอยากเลี้ยงอาหารคุณสักมื้อเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเวลาว่างเมื่อไรบ้างครับ? ”โจวคังไท่ถามด้วยรอยยิ้ม“นายท่านโจวครับ ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมแค่ทำไปตามที่ควรเท่านั้นครับ คุณไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนี้ก็ได้ครับ”ฉินหมิงกล่าวด้วยความรวดเร็ว“จะทำแบบนั้นได้ยังไง! ”“ตอนนั้นผมให้สินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปคุณก็ไม่ยินดีรับ ถ้าหากผมไม่เลี้ยงอาหารคุณสักครั้งอีก นั้นผมจะสบายใจได้ยังไงล่ะ”โจวคังไท่ยืนกราน น้ำเสียงของเขาจริงใจเป็นอย่างมากเ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ