ฉินหมิงพูดอย่างเย็นชา“ขอบคุณนายท่านที่เมตตาพวกเราครับ พวกเราสัญญาว่าจะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว…”พวกคังเหวยเหมือนได้รับการนิรโทษกรรม ตอนนี้พวกเขาถึงกล้าลุกขึ้น เสื้อผ้าบนแผ่นหลังของพวกเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ซึ่งไม่รู้ว่าเริ่มเปียกตั้งแต่ตอนไหนโดยเฉพาะคังเหวย เขาเพิ่งรู้จากพ่อของเขาเมื่อสักครู่นี้ว่า ครั้งก่อนคุณชายรองโอวทำให้ฉินหมิงขุ่นเคือง เขาไม่เพียงแต่ต้องคุกเข่าร้องขอความเมตตา แต่ยังต้องหักแขนของตัวเองหนึ่งข้างเพื่อแสดงความขอโทษอีกด้วยฉินหมิงไม่ทำลายแขนของเขา อีกทั้งยังไว้ชีวิตเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกมีความสุขมากที่รอดชีวิตจากภัยพิบัตินี้!แน่นอนว่าเขาไม่รู้เรื่องหนึ่ง เนื่องจากเขาเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ กอปรกับเขาขอโทษและยอมรับความผิดทันเวลา ฉินหมิงในฐานะยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ย่อมไม่ต้องการใช้กำลังรังแกผู้อื่น ครั้งนี้จึงเขาปล่อยพวกเขาไปอย่างง่ายดาย“นอกจากนี้ จ่ายเงินเดือนให้กับสาวน้อยหลิวเสวี่ยด้วย แล้วก็เธอถูกตบโดยไม่มีเหตุผล ชดเชยค่าเสียหายทางจิตใจให้สาวน้อยคนนี้ด้วย!”ฉินหมิงพูดอย่างเย็นชา“ได้ครับ ๆ โปรดรอสักครู่”เถ้าแก่เการับคำ จากนั้นก็กระวีกระวาดรีบ
หลิวเสวี่ยพูดด้วยสีหน้าตื้นตัน เธอโค้งคำนับฉินหมิงและหานซีตามลำดับเพื่อแสดงความขอบคุณ“ไม่เป็นไรหรอก แค่การช่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ เอง”ฉินหมิงยิ้ม เขาคาดไม่ถึงว่าหลิวเสวี่ยจะไล่ตามเขาเพื่อมาพูดขอบคุณโดยเฉพาะ“พี่ชายคะ พี่สาวคะ ฉันไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณสองคนสำหรับความมีน้ำใจนี้ได้ ฉันอยากเชิญพวกคุณไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน ไม่ทราบว่าตอนนี้พวกคุณว่างหรือเปล่าคะ”หลิวเสวี่ยพูดอย่างเขินอาย ใบหน้าของเธอดูคาดหวังเล็กน้อย“ไม่ต้องหรอก...”ฉินหมิงส่ายหัวและปฏิเสธน้ำใจของหลิวเสวี่ยเขาดูออกว่าหลิวเสวี่ยเป็นนักศึกษาหญิงที่ตั้งใจเรียนอย่างหนัก และฐานะทางครอบครัวของเธอเองก็น่าจะไม่ค่อยดีนัก เขาย่อมไม่อยากให้หลิวเสวี่ยต้องเปลืองเงินเพื่อการนี้“แต่ว่า...”หลิวเสวี่ยไม่ยอมแพ้“เสี่ยวเสวี่ย มันไม่จำเป็นจริง ๆ จ้ะ เราสองคนยังมีธุระที่ต้องไปทำ เรื่องกินข้าว ไว้ค่อยว่ากันอีกทีนะ”หานซีพูดด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรตอนนี้เธอประทับใจในความซื่อสัตย์และนิสัยของหลิวเสวี่ยมาก เธอชอบหลิวเสวี่ยที่เรียบง่ายและจริงใจแบบนี้จริง ๆ“งั้น...ก็ได้ค่ะ”หลิวเสวี่ยรู้สึกผิดหวัง“เสี่ยวเสวี่ย นี่คือนามบัตรของฉัน ถ้าในอน
“ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ว่าคุณเอาแต่พูดว่าอยากจะซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปหรอกเหรอ? ถ้าคุณมีความสามารถจริง ๆ ก็เอาเงินมา!”“ฉันอยากจะเห็นเหมือนกันว่าคุณกำลังคุยโวอยู่หรือเปล่า!”หานซีกลอกตาไปที่ฉินหมิงและพูดเธอรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของฉินหมิงเป็นอย่างดี เธอจึงไม่คิดว่าฉินหมิงจะมีความสามารถมากพอที่จะควักเงินห้าถึงหกพันล้านออกมาได้จริง ๆ!นี่มันเป็นไปไม่ได้เลย!“เรื่องนี้ผมจะทำอย่างสุดความสามารถ และจะให้คำตอบที่ชัดเจนกับคุณอย่างช้าที่สุดในวันพรุ่งนี้”ฉินหมิงถอนออกหายใจและพูด“ก็ได้ งั้นฉันจะรอ!”“เพียงแต่ฉันขอพูดคำที่ไม่น่าฟังไว้ก่อนนะ ถ้าคุณไม่สามารถหาเงินมาซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปได้ คุณต้องตกลงที่จะช่วยฉันโน้มน้าวใจหว่านชิง พยายามให้เธอเปลี่ยนการตัดสินใจของตัวเองให้ได้!”หานซีพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เธอไม่คิดว่าฉินหมิงจะสามารถเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปได้แต่แรกอยู่แล้ว เธอเพียงแค่หวังว่าฉินหมิงจะช่วยโน้มน้าวใจหลินหว่านชิง ส่วนฉินหมิงจะโน้มน้าวเธอได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับชะตาฟ้าลิขิตแล้ว!หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ออกจากร้านกาแฟและแยกย้ายกลับบ้านคฤหาสน์ตระกูลซู
“ฉันและหลินหว่านชิงเราเป็นคู่แข่งกัน ฉันไปจะช่วยเธอได้อย่างไร!”ซูซินเหยาพูดด้วยท่าทางขุ่นเคือง เธอปฏิเสธคำขอของฉินหมิงในทันที“ซินเหยา ได้โปรดอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ แค่ถือว่าช่วยผมจะได้ไหมครับ”“แน่นอน ผมรู้ว่าเงินจำนวนห้าพันล้านนั้นไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อยสำหรับตระกูลซู ผมยินดีที่นำหุ้นที่ผมถืออยู่ในหมิงเหยากรุ๊ปมาเป็นตัวค้ำประกันเพื่อขอยืมห้าพันล้านจากตระกูลซูของพวกคุณ”“เมื่อความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของหมิงเหยากรุ๊ปดีขึ้นในอนาคต ผมจะคืนเงินให้ตระกูลซูของคุณพร้อมดอกเบี้ย!”ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“คุณ...คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”“หุ้นของหมิงเหยากรุ๊ปคือรากฐานสำคัญของคุณ หลินหว่านชิงและตระกูลหลิน ไล่คุณออกมาโดยไม่ใยดี แต่คุณกลับไม่รู้สึกเสียดายที่จะใช้รากฐานของคุณเพื่อช่วยพวกเขา!”“คุณโง่เกินไปแล้ว!”ซูซินเหยาเริ่มโกรธมากขึ้น จมูกของเธอเกือบจะบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ“ผมไม่ได้โง่ ผมแค่ไม่อยากจะทิ้งความรู้สึกเสียใจภายหลังไว้ในชีวิต...”ฉินหมิงถอนหายใจแล้วพูดเหตุผลที่เขาวางแผนเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป ประการแรกเพราะเขาต้องการช่วยหลินหว่านชิงอย่างลับ ๆ ส่วนประการที่สอง เป็นเพราะกลุ
นอกจากนี้ ฉินหมิงยังโอนเงินอีกพันล้านหยวนจากหมิงเหยากรุ๊ปออกมา เมื่อรวมเงินทั้งสองก้อนเข้าด้วยกัน ก็จะได้เงินจำนวนหกพันล้านพอดี ซึ่งมากเกินพอสำหรับการเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป!……เช้าวันรุ่งขึ้น ฝนเริ่มตกปรอย ๆเนื่องจากสภาพอากาศไม่ค่อยดี วันนี้หานซีจึงไม่ออกไปข้างนอก เธออยู่บ้านเพื่อรอข่าวจากฉินหมิงแน่นอนว่าเธอไม่คิดว่าฉินหมิงจะมีความสามารถพอในการเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป เธอกำลังรอให้ฉินหมิงยอมรับความพ่ายแพ้แล้วมาช่วยเธอโน้มน้าวหลินหว่านชิงรอตลอดช่วงเช้าในขณะที่หานซีเริ่มหมดความอดทนที่จะรอ ในที่สุดเธอก็ได้รับโทรศัพท์จากฉินหมิง ซึ่งนัดให้เธอไปพบที่ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ในเมืองณ ห้องส่วนตัวของร้านอาหารระดับไฮเอนด์เมื่อหานซีมาถึงตามที่ได้นัดไว้ ฉินหมิงก็นั่งรออยู่ที่นั่นแล้ว“ฉินหมิง ทำไม คุณไม่สามารถระดมทุนได้ครบและพร้อมที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ต่อฉันแล้วใช่ไหม”หานซียิ้มอย่างล้อเล่น แล้วเดินไปหาฉินหมิงและนั่งลงตรงข้ามเขา“ใครบอกว่าผมไม่สามารถระดมทุนได้ครบล่ะ”“ผมหาเงินหกพันล้านหยวนได้แล้ว ซึ่งนี่น่าจะเพียงพอต่อการเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปแล้ว
“เอาล่ะ หยุดเดาได้แล้ว ผมบอกคุณก็ได้…”“อันที่จริง หลังจากที่ผมออกจากกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป ผมได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อหมิงเหยากรุ๊ป ปัจจุบันหมิงเหยากรุ๊ปก็พอที่จะประสบความสำเร็จอยู่บ้าง...”เมื่อเห็นว่าเห็นหานซีทำหน้าเหมือนไม่ยอมแพ้จนกว่าจะรู้ความจริง ฉินหมิงก็ทำอะไรไม่ถูก เขากำลังจะบอกความจริงกับหานซี แต่ก็ถูกหานซีขัดจังหวะก่อนที่เขาจะพูดจบ“คุณก่อตั้งบริษัทเหรอ? ล้อเล่นกับฉันหรือเปล่า”“คุณไม่มีทั้งเงินและอำนาจ คุณจะก่อตั้งบริษัทได้ยังไง!”หานซีพูดอย่างไม่เชื่อในฐานะผู้บริหารของกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป เธอมีความรู้เกี่ยวกับโลกธุรกิจเป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าความเข้มแข็งและอิทธิพลทางเศรษฐกิจของหมิงเหยากรุ๊ปนั้นไม่ได้ใหญ่โตมากนัก เธอจึงไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับหมิงเหยากรุ๊ปมาก่อน จึงไม่ทราบว่าฉินหมิงเป็นประธานของหมิงเหยากรุ๊ป!เธอจึงคิดว่าฉินหมิงแค่พูดเรื่องไร้สาระ!“ผมไม่ได้ล้อเล่น สิ่งที่ผมพูดทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ผมร่วมมือกับผู้อื่นและก่อตั้งบริษัทขึ้นมาจริง ๆ”“คนอื่นออกเงิน ส่วนผมจัดหาเทคโนโลยีให้กับพวกเขา ผมเป็นผู้ลงทุนด้านเทคโนโลยี…”ฉินหมิงอธิบายอย่างคร่าว ๆ เขาไม่ไ
“พอแล้วๆ ความคาดหวังของหว่านชิงคือขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปนี้ให้ได้เงินห้าพันล้านหยวน เราไม่ต้องการมากขนาดนั้นหรอก...”หานซีตอบตามความเป็นจริง“ไม่เป็นไร หกพันล้านก็แล้วกัน!”“ด้วยศักยภาพในการพัฒนาของกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป มันคุ้มค่ากับเงินจำนวนนี้”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“คุณ...”หานซีสะดุ้งเธออยู่ในโลกธุรกิจมานานหลายปี แต่ไหนแต่ไร ไม่เคยได้ยินใครเข้าซื้อบริษัทโดยไม่กดราคา แถมยังจะเพิ่มราคาให้เองอีก ฉินหมิงน่าจะเป็นคนแรกอย่างแน่นอน!อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าฉินหมิงต้องการช่วยหลินหว่านชิงให้ได้มากที่สุด“ซีซี ผมมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะขอให้คุณช่วย”“สำหรับกระบวนการและขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อกิจการนั้น ผมหวังว่าคุณจะสามารถช่วยผมจัดการเรื่องนี้ ผมให้อำนาจคุณอย่างเต็มที่ และอย่าให้หว่านชิงรู้ว่าเป็นผมที่ซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปต่อมา…”ฉินหมิงพูดอย่างลังเลนายท่านหลินกำลังป่วยหนัก แต่หลินหว่านชิงไม่เคยคิดมาขอความช่วยเหลือในด้านการรักษาจากเขา นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าหลินหว่านชิงและตระกูลหลินวางแผนท
ด้วยความรู้สึกที่เขามีต่อหลินหว่านชิง เขาจะทำลายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปได้อย่างไร เขาต้องการรักษากลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปไว้และไม่ต้องการให้กลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นในอนาคตเมื่อหลินกรุ๊ปมีเงินมากพอ เขาก็จะขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปคืนให้หลินหว่านชิงณ ตอนนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำเพื่อหลินหว่านชิงได้!“ฉินหมิง คุณ...คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”“การที่คุณทำอย่างนี้ มันไม่ได้ส่งผลดีต่อคุณเลย แถมยังจะส่งผลเสียมากกว่า!”ดวงตาของหานซีเบิกกว้าง กรามของเธอแทบจะร่วงลงไปกับพื้นด้วยความตกใจเธอไม่เคยคิดฝันเลยว่าการเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปที่มีราคาแสนแพงของฉินหมิงจะทำเพียงเพื่อช่วยให้หลินหว่านชิงก้าวข้ามความยากลำบากเท่านั้น!“ผมไม่ได้บ้า ผมแค่พยายามทำให้ดีที่สุดและไม่อยากจะทิ้งความเสียใจใด ๆ ไว้ในชีวิต...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆ“เอ่อ...เอาเถอะ”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกอึดอัดหลินหว่านชิงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเพียงคนเดียวของเธอ และทุกสิ่งที่ฉินหมิงทำก็เพื่อประโยชน์ของหลินหว่านชิง โดยธรรมชาติแล้วเธอจะไม่ปฏิเสธคำข