นอกจากนี้ ฉินหมิงยังโอนเงินอีกพันล้านหยวนจากหมิงเหยากรุ๊ปออกมา เมื่อรวมเงินทั้งสองก้อนเข้าด้วยกัน ก็จะได้เงินจำนวนหกพันล้านพอดี ซึ่งมากเกินพอสำหรับการเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป!……เช้าวันรุ่งขึ้น ฝนเริ่มตกปรอย ๆเนื่องจากสภาพอากาศไม่ค่อยดี วันนี้หานซีจึงไม่ออกไปข้างนอก เธออยู่บ้านเพื่อรอข่าวจากฉินหมิงแน่นอนว่าเธอไม่คิดว่าฉินหมิงจะมีความสามารถพอในการเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป เธอกำลังรอให้ฉินหมิงยอมรับความพ่ายแพ้แล้วมาช่วยเธอโน้มน้าวหลินหว่านชิงรอตลอดช่วงเช้าในขณะที่หานซีเริ่มหมดความอดทนที่จะรอ ในที่สุดเธอก็ได้รับโทรศัพท์จากฉินหมิง ซึ่งนัดให้เธอไปพบที่ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ในเมืองณ ห้องส่วนตัวของร้านอาหารระดับไฮเอนด์เมื่อหานซีมาถึงตามที่ได้นัดไว้ ฉินหมิงก็นั่งรออยู่ที่นั่นแล้ว“ฉินหมิง ทำไม คุณไม่สามารถระดมทุนได้ครบและพร้อมที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ต่อฉันแล้วใช่ไหม”หานซียิ้มอย่างล้อเล่น แล้วเดินไปหาฉินหมิงและนั่งลงตรงข้ามเขา“ใครบอกว่าผมไม่สามารถระดมทุนได้ครบล่ะ”“ผมหาเงินหกพันล้านหยวนได้แล้ว ซึ่งนี่น่าจะเพียงพอต่อการเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปแล้ว
“เอาล่ะ หยุดเดาได้แล้ว ผมบอกคุณก็ได้…”“อันที่จริง หลังจากที่ผมออกจากกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป ผมได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อหมิงเหยากรุ๊ป ปัจจุบันหมิงเหยากรุ๊ปก็พอที่จะประสบความสำเร็จอยู่บ้าง...”เมื่อเห็นว่าเห็นหานซีทำหน้าเหมือนไม่ยอมแพ้จนกว่าจะรู้ความจริง ฉินหมิงก็ทำอะไรไม่ถูก เขากำลังจะบอกความจริงกับหานซี แต่ก็ถูกหานซีขัดจังหวะก่อนที่เขาจะพูดจบ“คุณก่อตั้งบริษัทเหรอ? ล้อเล่นกับฉันหรือเปล่า”“คุณไม่มีทั้งเงินและอำนาจ คุณจะก่อตั้งบริษัทได้ยังไง!”หานซีพูดอย่างไม่เชื่อในฐานะผู้บริหารของกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป เธอมีความรู้เกี่ยวกับโลกธุรกิจเป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าความเข้มแข็งและอิทธิพลทางเศรษฐกิจของหมิงเหยากรุ๊ปนั้นไม่ได้ใหญ่โตมากนัก เธอจึงไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับหมิงเหยากรุ๊ปมาก่อน จึงไม่ทราบว่าฉินหมิงเป็นประธานของหมิงเหยากรุ๊ป!เธอจึงคิดว่าฉินหมิงแค่พูดเรื่องไร้สาระ!“ผมไม่ได้ล้อเล่น สิ่งที่ผมพูดทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ผมร่วมมือกับผู้อื่นและก่อตั้งบริษัทขึ้นมาจริง ๆ”“คนอื่นออกเงิน ส่วนผมจัดหาเทคโนโลยีให้กับพวกเขา ผมเป็นผู้ลงทุนด้านเทคโนโลยี…”ฉินหมิงอธิบายอย่างคร่าว ๆ เขาไม่ไ
“พอแล้วๆ ความคาดหวังของหว่านชิงคือขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปนี้ให้ได้เงินห้าพันล้านหยวน เราไม่ต้องการมากขนาดนั้นหรอก...”หานซีตอบตามความเป็นจริง“ไม่เป็นไร หกพันล้านก็แล้วกัน!”“ด้วยศักยภาพในการพัฒนาของกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป มันคุ้มค่ากับเงินจำนวนนี้”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“คุณ...”หานซีสะดุ้งเธออยู่ในโลกธุรกิจมานานหลายปี แต่ไหนแต่ไร ไม่เคยได้ยินใครเข้าซื้อบริษัทโดยไม่กดราคา แถมยังจะเพิ่มราคาให้เองอีก ฉินหมิงน่าจะเป็นคนแรกอย่างแน่นอน!อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าฉินหมิงต้องการช่วยหลินหว่านชิงให้ได้มากที่สุด“ซีซี ผมมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะขอให้คุณช่วย”“สำหรับกระบวนการและขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อกิจการนั้น ผมหวังว่าคุณจะสามารถช่วยผมจัดการเรื่องนี้ ผมให้อำนาจคุณอย่างเต็มที่ และอย่าให้หว่านชิงรู้ว่าเป็นผมที่ซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปต่อมา…”ฉินหมิงพูดอย่างลังเลนายท่านหลินกำลังป่วยหนัก แต่หลินหว่านชิงไม่เคยคิดมาขอความช่วยเหลือในด้านการรักษาจากเขา นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าหลินหว่านชิงและตระกูลหลินวางแผนท
ด้วยความรู้สึกที่เขามีต่อหลินหว่านชิง เขาจะทำลายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปได้อย่างไร เขาต้องการรักษากลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปไว้และไม่ต้องการให้กลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นในอนาคตเมื่อหลินกรุ๊ปมีเงินมากพอ เขาก็จะขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปคืนให้หลินหว่านชิงณ ตอนนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำเพื่อหลินหว่านชิงได้!“ฉินหมิง คุณ...คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”“การที่คุณทำอย่างนี้ มันไม่ได้ส่งผลดีต่อคุณเลย แถมยังจะส่งผลเสียมากกว่า!”ดวงตาของหานซีเบิกกว้าง กรามของเธอแทบจะร่วงลงไปกับพื้นด้วยความตกใจเธอไม่เคยคิดฝันเลยว่าการเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปที่มีราคาแสนแพงของฉินหมิงจะทำเพียงเพื่อช่วยให้หลินหว่านชิงก้าวข้ามความยากลำบากเท่านั้น!“ผมไม่ได้บ้า ผมแค่พยายามทำให้ดีที่สุดและไม่อยากจะทิ้งความเสียใจใด ๆ ไว้ในชีวิต...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆ“เอ่อ...เอาเถอะ”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกอึดอัดหลินหว่านชิงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเพียงคนเดียวของเธอ และทุกสิ่งที่ฉินหมิงทำก็เพื่อประโยชน์ของหลินหว่านชิง โดยธรรมชาติแล้วเธอจะไม่ปฏิเสธคำข
เอ้าเฟิงหยิบสัญญาออกมาและวางมันลงบนโต๊ะต่อหน้าชายวัยกลางคน“โอเค”ประธานหลิวพยักหน้า จากนั้นเขาก็อ่านสัญญาอย่างละเอียดและอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว "รองประธานเอ้า ตามการประเมินของฝ่ายตรวจสอบของบริษัทเรา มูลค่าตลาดของกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปของคุณมีมูลค่าสี่พันกว่าล้านเท่านั้น คุณเอามาขายให้ผมในราคาห้าพันล้านมันไม่สูงไปหน่อยเหรอ?”“เอ่อ... ประธานหลิว ประธานหลินของเราต้องการขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปในราคาห้าพันล้าน”เอ้าเฟิงหัวเราะแห้ง ๆ“ความคาดหวังก็คือความคาดหวัง ผมอยากรู้ว่าราคาต่ำสุดของประธานหลินของคุณคือเท่าไร?”ประธานหลิวถามด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ“ประธานหลินมอบอำนาจให้ผมขายในราคาต่ำสุดคือต้องไม่ต่ำกว่าสี่พันแปดร้อยล้าน…”เอ้าเฟิงลังเลและเปิดไพ่ในมือออกมา“สี่พันแปดร้อยล้านยังสูงไปสักหน่อยนะ!”“เอาอย่างงี้แล้วกัน โทรหาประธานหลินตอนนี้แล้วถามว่าจะลดราคาเหลือสี่พันห้าร้อยล้านได้ไหม”ประธานหลิวกล่าวอย่างใจเย็น“ประธานหลิว คุณควรรู้ว่ากลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปมีศักยภาพในการพัฒนาที่ดีมาก หากตระกูลหลินไม่ต้องการเงินอย่างเร่งด่วน ประธานหลินก็คงไม่สามารถขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทร
เอ้าเฟิงพูดอย่างตื่นเต้น จากนั้นเขาก็หยิบสัญญาและจากไปราคาที่ระบุไว้ในสัญญาก่อนหน้านี้คือห้าพันล้าน และตอนนี้เขาจำเป็นต้องพิมพ์สัญญาสองฉบับใหม่ไม่นานหลังจากนั้นเอ้าเฟิงก็พิมพ์สัญญาและกลับมา“ประธานหลิว ตอนนี้คุณสามารถเซ็นชื่อได้แล้วใช่ไหม?”เอ้าเฟิงมอบสัญญาให้กับประธานหลิว“ได้”ประธานหลิวร่าเริงมากถือปากกาและเตรียมพร้อมลงนามตูม!ในขณะนี้เอง ก็มีเสียงดังขึ้น ประตูห้องส่วนตัวถูกเปิดออก และฉินหมิงกับหานซีก็ก้าวเข้ามาจากด้านนอก“หานซี? ฉินหมิง?”เอ้าเฟิงสะดุ้งและลุกขึ้นยืนทันทีศัตรูเก่าเจอกันทำให้สถานการณ์ลุกเป็นไฟก่อนที่ฉินหมิงจะออกจากกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป เอ้าเฟิงมีความขัดแย้งหลายครั้งกับฉินหมิง และเขาก็พ่ายแพ้ฉินหมิงทุกครั้งวันนี้ที่เขาเห็นฉินหมิงอีกครั้ง เขาย่อมไม่มองฉินหมิงด้วยสีหน้าเป็นมิตรอย่างแน่นอน!“รองประธานเอ้า สองคนนี้เป็นใคร?”ประธานหลิวเหลือบมองฉินหมิงและหานซีด้วยความรู้สึกประหลาดใจ“ประธานหลิว หานซีคนนั้นเป็นผู้ช่วยประธานของกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป ของเรา ประธานหลินได้มอบอำนาจทั้งหมดให้ผมและเธอในการขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป ในครั้งนี้”“สำ
“ดังนั้น สัญญาฉบับนี้ของคุณไม่ต้องเซ็นแล้ว การดำเนินการต่อจากนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันแล้วกัน!”หานซีโบกมือแล้วพูด“อะไรนะหกพันล้าน?”“เธอล้อเล่นกับฉันเหรอ?”อ่าวเฟิงตกใจมากจนกรามของเขาแทบจะหลุดลงไปกับพื้นราคาขายของกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปอยู่ที่ห้าพันล้าน แต่หานซีกลับบอกว่ามีคนยอมจ่ายเงินหกพันล้านเพื่อซื้อมัน ถ้าเขายอมเชื่อคำพูดของหานซีก็ดูจะแปลกทันที!“ฉันไม่ได้ล้อเล่น!”“ตอนนี้ฉันได้ดำเนินการตามขั้นตอนเรื่องหุ้นและเงินทุนเรียบร้อยแล้ว ฉันจะอธิบายเรื่องนี้ให้ หว่านชิงทราบในภายหลัง ตราบใดที่เธอลงนามในหนังสือยินยอมโอนหุ้นของบริษัท เงินก็จะพร้อมเข้าบัญชีทันที!”หานซีพูดอย่างใจเย็น“ไม่ ฉันไม่เห็นด้วย!”เอ้าเฟิงตกใจและคัดค้านทันทีตอนนี้เขาไปสวามิภักดิ์กับลี่หยงเจี๋ยแล้วและประธานหลิวก็สัญญาว่าจะให้เงินตอบแทนห้าสิบล้านให้เขาด้วยเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เขากำลังจะเซ็นสัญญา แต่จู่ ๆ หานซีก็กระโดดออกมาขัดขวางสถานการณ์ เขาจะยอมปล่อยมือไปง่าย ๆ ได้อย่างไร“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”“ราคาที่ฉันเสนอนั้นสูงกว่าราคาของคุณมาก ทำไมคุณถึงไม่เห็นด้วย”หานซีตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อหูของเธอ
“ไอ้หนู ฉันขอเตือนแก ส่งสัญญามานี่เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าเสียมารยาทกับแกนะ!”ปรธานหลิวโกรธมากตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“คุณจะเสียมารยาทกับผมเหรอ?”“ผมอยากจะเห็นว่าคุณจะทำอะไรที่เป็นการเสียมารยาทกับผมได้!”ฉินหมิงหัวเราะและมองดูประธานหลิวด้วยความดูถูก“ไอ้หนู แกวอนหาเรื่องเองนะ ในเมื่อแกอยากตาย ฉันจะช่วยเอง!”ประธานหลิวหงุดหงิด เขาหันกลับมาและสั่งบอดี้การ์ดทั้งสอง "แกสองคนสั่งสอนไอ้หนูนี่ให้ฉัน หักมือสกปรกทั้งสองข้างของมัน แล้วเอาสัญญาคืนมา!"“ครับ”บอดี้การ์ดทั้งสองตอบรับและเดินก้าวมาเมื่อเห็นฉากนี้เอ้าเฟิงก็โซเซขึ้นมาจากพื้นดิน จากนั้นเขาก็นึกถึงการแสดงฝีมือของฉินหมิงในบริษัทและรีบเตือนเขาว่า "ประธานหลิว ไอ้หนูนี่ดูเหมือนจะรู้จักกังฟูบ้าง เขาสามารถต่อสู้กับบอดี้การ์ดหลายคนได้ด้วยตัวเอง คุณบอกบอดี้การ์ดสองคนของคุณให้ระวังด้วย...”“ไม่เป็นไร แค่นี้ไม่มีอะไรหรอก!”“รองประธานเอ้า ไม่ต้องกังวล บอดี้การ์ดทั้งสองนี้เป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ที่นคุณชายใหญ่ส่งมาให้ฉันเป็นพิเศษ ไม่ว่าไอ้หนูนี่จะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่มีวันเทียบได้กับบอดี้การ์ดสองคนนี้!”ประธานหลิวยิ้มอย่างเย็น