ฉินหมิงมีความคับแค้นใจต่อตระกูลหลิน และเขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลซูนี่ไม่ใช่การรนหาที่ตายหรอกเหรอ!"นี่..."หลินหว่านชิงพูดไม่ออกเธอรู้ว่าสิ่งที่ทุกคนพูดนั้นสมเหตุสมผล ตอนนี้ฉินหมิงเป็นแฟนของซูซินเหยาและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอแล้ว!เมื่อพิจารณาถึงความคับแค้นใจระหว่างฉินหมิงและตระกูลหลิน เป็นเรื่องดีมากแค่ไหนแล้วที่ฉินหมิงไม่ได้ใช้โอกาสนี้ในการสร้างปัญหาให้กับตระกูลหลิน เขาจะเต็มใจช่วยตระกูลหลินได้อย่างไร?หากพูดในอีกแง่มุมหนึ่ง แม้ว่าฉินหมิงจะเต็มใจช่วยตระกูลหลิน อย่างไรเสียมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย!เธอรู้เกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิงไม่กระจ่างนัก และเธอก็ไม่คิดว่าทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิงจะดีไปกว่าปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีนอย่างคุณฉี เธอเดาว่าฉินหมิง อาจไม่มีความสามารถในการรักษานายท่านหลิน!ถ้าเธอไปหาฉินหมิงเพื่อขอความช่วยเหลือ ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้นที่จะต้องอับอาย แต่ยังอาจจะเป็นการฆ่านายท่านหลินด้วยก็ได้!สักพักเธอก็ตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีแล้ว!“พึ่งคนอื่นไม่สู้พึ่งตนเอง!”“หว่านชิง นับตั้งแต่วินาทีที่ฉินหมิงปฏิเสธที่จะก
กล่าวโดยสรุปว่าเธอทุ่มเทความพยายามทั้งหมดของเธอให้กับกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป และพัฒนาบริษัทมาอย่างยากเย็น แต่ในท้ายที่สุดไป่จิ้งต้องการที่จะเด็ดเอาผลลัพธ์ไปอย่างง่ายดาย และยังวางแผนที่จะขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการฆ่าห่านเพื่อเอาไข่!นี่มันไร้ยางอายเกินไปแล้ว!“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”“กลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปเดิมก็เป็นทรัพย์สินของตระกูลหลินของเรา นายท่านเพียงมอบมันให้เธอดูแลชั่วคราวเท่านั้น!”“ตอนนี้หลินกรุ๊ปกำลังประสบกับปัญหา เพื่อที่จะรักษาหลินกรุ๊ปเอาไว้ ทำไมตระกูลหลินของเราถึงจะขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปไม่ได้?”ไป่จิ้งยิ้มอย่างเย็นชาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหลินหว่านชิงนั้นเข้ากันไม่ได้มาโดยตลอด ตอนนี้ด้วยโอกาสที่หายากนี้ เธอวางแผนที่จะบังคับให้หลินหว่านชิงขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปทิ้ง ทำให้หลินหว่านชิงกลายเป็นคนที่ไม่เหลืออะไรเลย!นี่คือจุดจบของหลินหว่านชิงที่กล้ามาต่อกรกับเธอ!“อืม ความคิดของไป่จิ้งไม่เลว!”“มูลค่าโดยรวมของกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปในปัจจุบันสูงถึงประมาณสี่ถึงห้าพันล้านแล้ว ด้วยศักยภาพในการพัฒนาของกลุ่มธุรกิจอาร์ทิสทรี กรุ
หลินหว่านชิงพูดด้วยความโกรธเธอปฏิเสธที่จะขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเธอเองเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้น เธอต้องการทิ้งหนทางไว้ให้กับตระกูลหลิน!"นี่..."เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ของหลินหว่านชิง หลินเถิงฮุ่ยและผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลินก็พูดไม่ออกพวกเขารู้ว่าสิ่งที่หลินหว่านชิงพูดนั้นสมเหตุสมผล และการเหลือกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปไว้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อตระกูลหลินอย่างแน่นอนแต่พวกเขาไม่สามารถละทิ้งหลินกรุ๊ปเพื่อมารักษากลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปไว้ใช่ไหม?พวกเขาตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาระยะหนึ่งแล้ว และบางคนก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะดี!เมื่อเห็นว่าหลินเถิงฮุ่ยและคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะถูกหลินหว่านชิงโน้มน้าวได้ ไป่จิ้งก็ไม่ได้รีบร้อน เธอยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "เถิงฮุ่ย เนื่องจากหลินหว่านชิงไม่เต็มใจที่จะขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป งั้นก็ช่างมันเถอะ!"“แต่... ถ้าไม่ขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป แล้ววิกฤตทางการเงินของหลินกรุ๊ปจะแก้ไขได้อย่างไร?”หลินเถิงฮุ่ยพูดด้วยสีหน้ากังวล“เรื่องนี้ง่ายมาก ฉันคิดว่าเราสามารถขอความช่วยเหลือจากลี่ตั๋วไห่ไ
นี่คือความปรารถนาและความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขามาหลายปีแล้ว!“ไม่ค่ะ!”“หนูเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะไม่มีทางตกลงแต่งงานกับลี่หย่งเจี๋ย และคุณปู่ก็ตกปากรับคำกับหนูแล้ว เขาปฏิเสธข้อเสนอแต่งงานของลี่ตั๋วไห่ไปเมื่อไม่กี่วันก่อนอย่างชัดเจนแล้ว!”หลินหว่านชิงพูดด้วยความโกรธเธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่าไป่จิ้งจะร้ายกาจขนาดนี้ เริ่มจากวางแผนให้ขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป ของเธอ แต่เมื่อแผนการนี้ล้มเหลวในพริบตาก็มีแผนการอื่น นั่นคือให้เธอแต่งงานกับลี่หย่งเจี๋ย!นี่มันบัดซบและต่ำช้ามาก!“ตอนนั้นคือตอนนั้น ส่วนตอนนี้ก็คือตอนนี้!”“ในอดีต ตระกูลหลินมีนายท่านหลินเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด แต่ตอนนี้นายท่านหลินล้มป่วยแล้ว ตอนนี้ พ่อของเธอเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับเรื่องภายในตระกูล!”ไป่จิ้งยิ้มอย่างเย็นชา“สิ่งที่ไป่จิ้งพูดนั้นสมเหตุสมผล!”“เถิงฮุ่ย ตอนนี้ตระกูลหลินของเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ถ้าเราสามารถดองเป็นญาติกับตระกูลลี่ได้ มันจะมีแต่ผลดีต่อตระกูลหลินของเรา ไม่มีผลเสียอะไรเลย!”“ใช่ เถิงฮุ่ย ตราบเท่าที่ตกลงที่จะให้หว่านชิงและลี่หย่งเจี๋ยหมั้นหมายกัน เราก็จะสน
เมื่อเห็นหลินหว่านชิงเดินจากไปอย่างโดดเดี่ยว ไป่จิ้งก็ฉายรอยยิ้มภาคภูมิใจ…วันต่อมาวันนี้เป็นวันเสาร์ เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ของบริษัทกริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!ในตอนเช้า จู่ ๆ ฉินหมิงก็ได้รับโทรศัพท์จากหานซี โดยบอกว่ามีเรื่องสำคัญมากที่จะต้องพบกับเขา จากนั้นจึงนัดเขาไปพบที่ร้านกาแฟระดับไฮเอนด์ในเขตชานเมืองณ ร้านกาแฟซิงเหย้าฉินหมิงขับรถมอเตอร์ไซค์ไปยังร้านกาแฟซิงเหย้าด้วยความรีบร้อน หลังจากเขาจอดรถมอเตอร์ไซค์ จู่ ๆ ประตูของรถมาเซราติสีแดงข้าง ๆ เขาก็เปิดออก และเกือบชนตัวเขาแล้วถัดจากนั้น หญิงสาวแต่งตัวแฟชั่นทันสมัย หุ่นสูงเพรียว หน้าตาสะสวยและดูมีระดับก็เดินลงมาจากรถคันนั้นด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเย่อหยิ่ง“ไอ้สารเลว ตาบอดหรือไง!”“นายจอดรถยังไงของนาย ถ้าเกิดชนรถฉันขึ้นมา นายจะมีปัญญาชดใช้ฉันไหม”หญิงสาวตวาดในขณะที่สายตามองดูรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าของฉินหมิงด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยามฉินหมิงตะลึงงัน ใบหน้าที่สวยงามของหานซีปรากฏขึ้นมาในสมองของเขาเมื่อเขาได้พบกับหานซีครั้งแรก สถานการณ์ก็คล้ายกับตอนนี้มากในเวลานั้นหานซีเปิดประตูจนเกือบจะชนเขา แล้วก็ด่าว่าเขาอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้เหมือนก
“ฉันรู้ว่าการขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปเทียบเท่ากับการฆ่าห่านเพื่อเอาไข่ของมัน…”“เมื่อวานฉันพยายามพูดโน้มน้าวเธอตั้งหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่ยอมฟัง อีกทั้งยังยืนกรานที่จะขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปให้ได้ ไม่ว่าฉันจะพยายามพูดโน้มน้าวเธอมากแค่ไหน มันก็ไม่ได้ผลเลย…”หานซีพูดด้วยสีหน้ากลุ้มใจ"นี่..."ฉินหมิงอ้าปาก เขารู้สึกหดหู่เขารู้ว่าการที่หลินกรุ๊ปมาถึงจุดนี้ สาเหตุหลัก ๆ ก็เป็นเพราะนายท่านหลินล้มป่วยแต่หลินหว่านชิงยอมขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปมากกว่าที่จะขอให้เขาช่วยรักษานายท่านหลินเขารู้สึกอย่างไรในตอนนี้แค่คิดก็รู้แล้ว!“ฉินหมิง แม้ว่าคุณกับหว่านชิงจะเลิกกันแล้ว แต่อย่างน้อยคุณก็เคยเป็นแฟนของหว่านชิงมาก่อน และพวกคุณทั้งสองยังมีความผูกพันต่อกันอยู่…”“ฉันหวังว่าคุณจะสามารถช่วยพูดโน้มน้าวหว่านชิงได้ บางทีอาจจะทำให้เธอเปลี่ยนใจก็ได้!”หานซีพูดถึงจุดประสงค์ของการมาของตนเองด้วยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง“เป็นไปไม่ได้หรอก!”“คุณเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอ ขนาดคุณยังไม่สามารถโน้มน้าวใจเธอได้ แล้วผมที่เป็นเพื่อนผู้ชายที่ไม่สำคัญอะไรกับเธอจะโน้มน้าวอะไรเธอได้”ฉินหมิง
“ถ้าเป็นไปได้ ผมคิดว่าจะผมซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป!”ฉินหมิงพูดอย่างละล้าละลังแม้ว่าเขาจะแสร้งทำเป็นไม่สนใจหลินหว่านชิง แต่เขาก็ยังคงเป็นห่วงเธออยู่ในเมื่อหลินหว่านชิงไม่ต้องการพบเขา เช่นนั้นเขาจึงทำได้เพียงหาทางซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป และพยายามให้ความช่วยเหลือหลินหว่านชิงอย่างลับ ๆนี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้เพื่อผู้หญิงที่เขารักในตอนนี้!ไม่ว่าก่อนหน้านี้หลินหว่านชิงและตระกูลหลินจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไร อย่างน้อยเขาก็ทำอะไรที่ไม่ละอายแก่ใจตนเองก็เพียงพอแล้ว!“อะไรนะ? คุณล้อเล่นเหรอ!”“มูลค่ากลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปในตลาดอยู่ที่ประมาณสี่หรือห้าพันล้าน คุณจะมีเงินซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปได้อย่างไร?”หานซีตกใจ เธอไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง“เรื่องนี้...ผมให้คำตอบที่ชัดเจนกับคุณยังไม่ได้ แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด!”ฉินหมิงแสดงท่าทีกระอักกระอ่วนเล็กน้อยปัจจุบันมูลค่าของธุรกิจหมิงเหยากรุ๊ปอยู่ที่ประมาณห้าหรือหกพันล้าน และนี่คือทรัพย์สินร่วมกันของเขากับซูซินเหยา แม้ว่าเขาจะขายหุ้นทั้งหมด อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่สามารถซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปได้!เขาวา
เริ่มจากเจอกับไอ้บ้านนอกที่นอกร้านกาแฟและเกือบจะชนรถหรูของเธอ ตอนนี้ยังมีนังแพศยาคนนี้เอากาแฟมาราดใส่เธออีก!“ฉัน...ฉันไม่มีเงิน…”ใบหน้าที่สวยงามของพนักงานเสิร์ฟเปลี่ยนเป็นซีดขาว เธอดูทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย“เธอไม่มีเงิน นั่นเป็นปัญหาของเธอ!”“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเธอจะใช้วิธีการไหน ชดเชยค่าเสียหายของฉันในวันนี้มาทั้งหมดซะ แม้แต่สตางค์เดียวก็ขาดไปไม่ได้!”หญิงสาวผู้หยิ่งผยองกล่าวด้วยสีหน้าเอาแต่ใจ“แต่ว่า...เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้นี้เป็นคุณที่ขยับมาชนกาแฟจนหกเอง คุณจะมาโทษฉันคนเดียวทั้งหมดไม่ได้…”พนักงานเสิร์ฟกังวลมากจนแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว“ยังกล้ามาเล่นลิ้นอีก?”“แกรนหาที่ตายจริง ๆ!”หญิงสาวผู้หยิ่งผยองโกรธจัดและตบหน้าเธออีกครั้งไม่ไกลจากด้านหน้า ฉินหมิงกำลังมองเหตุการณ์นั้นอย่างงุนงง แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนองอะไร ร่างที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ขยับ หานซีลุกขึ้นและก้าวพรวดขึ้นไปเนื่องจากฉินหมิงนั่งหันหลังให้กับพวกเธอตลอด เขาจึงไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อสักครู่นี้ จึงไม่รู้ว่าเป็นความผิดของใครกันแน่อย่างไรก็ตาม หานซีที่นั่งหันหน้าไปยังทิศทางของหญิงสาวทั้งสองนั้นมองเห็นเหตุการณ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ