ฉินหมิงโบกมือซ้ำแล้วซ้ำเล่าและปฏิเสธความเมตตาของนายท่านซู“ได้อย่างไรกัน!”“ของหายากอย่างหยกเขียวจักรพรรดิทำเป็นกำไลมอบให้กับผู้หญิง รับรองว่าถูกใจที่สุด…”นายท่านซูยิ้มอย่างมีเลศนัยและมองฉินหมิงด้วยสายตา "ฉันเข้าใจนาย"เขานั้นมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงคิดว่าความตั้งใจเดิมของฉินหมิงคือการแกะสลักเป็นเครื่องประดับและมอบให้กับแฟนสาวหรือผู้หญิงที่ชอบ แต่เขาไม่เคยคิดว่าฉินหมิงจะมีจุดประสงค์อื่นฉินหมิงยังคงปฏิเสธ แต่ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็สั่นไหว ก่อนเกาหัวด้วยความเขินอาย “คุณท่านครับ ถ้าได้จริง ๆ ล่ะก็ ผมอยากได้สร้อยคอสักเส้นหนึ่ง…”“ได้สิ ไม่มีปัญหา!”นายท่านซูหัวเราะหยกเขียวจักรพรรดิทั้งสองชิ้นนี้แกะสลักเป็นกำไลหยกสองอันและต้องขุดส่วนที่กลวงตรงกลางออกนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับทำสร้อยคอ 2 เส้น ต่างหูหยกสัก 2-3 คู่ อะไรทำนองนั้นแต่ฉินหมิงแค่อยากได้สร้อยคอ 1 เส้น คำขอร้องไม่มากมายเท่าไรนักหลังจากนั้นนายท่านซูก็โอนเงินพันล้านไปยังบัญชีธนาคารของฉินหมิงทันที หลักจากนั้นก็ได้แลกเบอร์ฉินหมิงไว้ จะได้สะดวกส่งสร้อยคอให้ฉินหมิงในภายหลังหลังจากที่นายท่านซูจากไป สถานการณ์ก็ได้
“ผมให้ 100 ล้าน!”เศรษฐีเบอร์หนึ่งได้ร่วมวงประมูลด้วย“ผม 110 ล้าน!”เศรษฐีอีกคนไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป จึงเข้าร่วมในสนามรบนี้ด้วย…ซุนกวงฉงโกรธแทบจะทนไม่ไหว นี่เป็นหินของเขา ทำไมมันเป็นการประมูลไปได้ล่ะ? เดิมที่เขาครุ่นคิดอยู่ว่าจะยอมแพ้ดีหรือไม่ แต่ตอนนี้มีเศรษฐีหลายคนเข้าร่วมแย่งประมูล เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าหินหยกนี้จะต้องมีสิ่งล้ำค่าอยู่แน่นอน เขาจึงไม่ลังเลใจอีกต่อไปแล้วรีบเพิ่มเงิน “ผมให้ 120 ล้าน!”“ผมให้ 130 ล้าน!”ฉินหมิงยังคงเพิ่มราคาต่อไปเมื่อเห็นว่าฉินหมิงมีความเด็ดขาดมากขนาดนี้ เศรษฐีหลายคนที่เข้าร่วมในการประมูลก็มีความมั่นใจมากขึ้น“ผมให้ 140 ล้าน!”“ผม 150 ล้าน!”...ซุนกวนฉงโกรธจนตาแดงก่ำ เขาขาดสติไปแล้วเรียบร้อย “ผมให้ 160 ล้าน!”“ผมให้ 170 ล้าน!”ฉินหมิงพูดเสียงเรียบอย่างสบายอารมณ์“ผมให้ 175 ล้าน!”“ผมให้ 178 ล้าน!”“ผมให้ 180 ล้าน!”…นักธุรกิจไม่กี่คนได้เพิ่มราคากันที่ละคนด้วยราคาที่เริ่มสูงเกินไป พวกเขาจึงรู้สึกไม่แน่ใจเล็กน้อยและไม่กล้าที่จะเพิ่มราคาทีละสิบล้าน“ผมให้ 190 ล้าน!”ซุนกวนฉินตะคอกด้วยความโกรธ ราคานี้สูงเกินไปแล้ว มันจะทำใ
“ฉันจะตัดเอง!”ซุนกวนฉงถึงกับกัดฟันกรอด เขาเรียนรู้จากฉินหมิงก่อนหน้านี้ เขารีบสาวเท้าเดินเข้าไปปริมาณหินหยกดิบที่เหลือนี้สามารถนำไปใช้ตัดได้อีก 2-3 ครั้ง แต่เขาหมดความอดทนและวางเครื่องไปที่ส่วนตรงกลางแล้วใช้มีดตัดมันลงไปจากนั้นแสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้น!“ออกมาแล้ว มีหยกออกมาแล้ว!”“พระเจ้า นี่คงเป็นหยกเขียวจักรพรรดิสิท่า!”“เมื่อกี้ไม่ใช่ว่าพ่อหนุ่มคนนั้นพูดว่าไม่มีอะไรไม่ใช่เหรอ หรือว่าเขาจะดูผิด?”…ทุกคนตกใจมากจนอ้าปากค้าง ใครต่างก็คิดไม่ถึงว่าจะยังมีหยกเขียวจักรพรรดิอีกชิ้น!“ที่รัก ออกมาแล้วค่ะ มีหยกเขียวจักรพรรดิออกมาแล้วค่ะ!”“หยกที่เราได้ยังมีขนาดใหญ่อีกด้วย พวกเรารวยกันเละแน่!”หม่าลู่ดีใจจนทนไม่ไหวรีบเข้าไปกอดคอของซุนกวนฉง และหอมเขาหลายครั้ง“ฮ่าฮ่าฮ่า…”“นี่ฉินหมิง เมื่อกี้นายเพิ่งบอกไปไม่ใช่เหรอว่าหยกดิบก้อนนี้ไม่มีอะไรแน่ ๆ!”“นายดูให้ดีซะก่อน ว่ามันคืออะไร!”ซุนกวนฉงหัวเราะใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความภูมิใจ ดูเหมือนจะภูมิใจเป็นอย่างมาก!ฉินหมิงตกตะลึงยกใหญ่ เมื่อกี้เขาแค่อยากจะเอาคืนซุนกวนฉงก็เท่านั้น เขาไม่ได้ใช้พลังสัมผัสแต่อย่างใดเพราะถ้าทำอย่างคงเปลืองพลั
“คุณซุน ยินดีด้วยนะครับที่คุณยอมจ่ายเงินมากมายขนาดนี้เพื่อซื้อหินหยกดิบไร้ค่าชิ้นนี้! ”“คุณนี่ช่างรวยซะจริง ผมล่ะยอมคุณเลย! ”ฉินหมิงทำเสียงจิ๊ปาก สายตาของเขาเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม ไม่ต่างกับการมองดูคนโง่อย่างไรอย่างนั้น“นาย…”ซุนกวนฉงตื่นตกใจอย่างมาก ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าตัวเองตกหลุมพรางของฉินหมิงเข้าให้แล้ว เขาจับจ้องฉินหมิงด้วยสายตาที่กำลังลุกเป็นไฟ “เจ้าคนแซ่ฉิน ทั้งหมดนี่เป็นนายอย่างนั้นเหรอ นายจงใจขึ้นราคาเพื่อหลอกฉัน…”“หลอกแล้วอย่างไร? ”“ก็ใครใช้ให้นายหลอกฉันก่อนล่ะ หรือว่าฉันโกงนายบ้างไม่ได้เลยเหรอไง! ”ฉินหมิงยิ้มอย่างเยือกเย็น ครั้งนี้เขาแค่ตอบแทนอีกฝ่ายด้วยวิธีการเดียวกันก็เท่านั้นทว่าเขาแค่คาดไม่ถึงว่าซุนกวนฉงจะโชคไม่ดีขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เพียงก้อนหยกแห้ง ๆ ที่มีคุณค่าน้อยที่สุดไปครอบครอง แต่นี่ก็เป็นเพราะซุนกวนฉงที่พลาดเอง ดังนั้นจะมาโทษเขาไม่ได้“ฉินหมิง นายทำให้ฉันต้องสูญเสียเงินไปตั้งมากมาย ฉันจะฆ่านาย! ”ซุนกวนฉงโกรธเป็นอย่างมาก เขารีบวิ่งเข้าไปหาฉินหมิงอย่างบ้าคลั่ง“กล้าดียังไง! ” “ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณจะมาทำตัวหยาบคายได้! ”จ้าวไคกล่
ข้อกำหนดของหินหยกธรรมดาพวกนี้ไม่ได้เข้มงวดเท่ากับตาด้านหน้าชิ้นนั้น ขอแค่เป็นหยกเนื้อถั่วเขียวที่มีมูลค่าหลายหมื่นก็เพียงพอแล้วอย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฉินหมิงเองก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินแต่อย่างใด สุดท้ายแล้วเขาก็ได้ใช้เงินไปแปดสิบล้านบาทเพื่อซื้อหยกเนื้อน้ำแข็งจำนวนสิบแปดชิ้น หลังจากนั้นเขาก็ได้จากไปพร้อมกับห่อหยกพวกนั้น...หลังจากออกจากร้านเครื่องหยกไปแล้วฉินหมิงก็เดินไปยังที่ที่เขาได้จอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้เพิ่งจะเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไรนัก จู่ ๆ เขาก็ได้พบเข้ากับซุนกวนฉงและหม่าลู่ที่นำบอดี้การ์ดมาด้วยถึงสองคน ล้อมรอบเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเย็นชา“ฉินหมิง ในที่สุดนายก็ออกมาได้สักทีนะ ฉันรอนายมานานแล้ว! ”ซุนกวนฉงมีสีหน้าดุร้าย มุมปากของเขานั้นปรากฎรอยยิ้มที่ดูไม่เป็นมิตรเท่าไรนัก“ซุนกวนฉง นายจะคิดจะทำอะไร?”ใบหน้าของฉินหมิงซีดลง ความรู้สึกที่ไม่ดีต่าง ๆ เริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจของเขา“นายคิดว่ายังไงล่ะ? ”“บัญชีนั้นที่อำเภอคราวที่แล้ว ไหนยังจะเรื่องร้านเครื่องหยกเมื่อครู่ ทั้งแค้นใหม่และแค้นเก่าของพวกเราสองคน ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องชำระกันได้แล้ว! ”ซุนกวนฉงยิ้มอย่างเย
ปัก!หลังเสียงคำสั่งของหม่าลู่เงียบลง ฉินหมิงกระโดดเตะเท้าออกไปหนึ่งข้าง ถีบเข้าที่หน้าอกของบอดี้การ์ดคนหนึ่งอย่างเต็มแรงกร๊อบ!เสียงกระดูกแตกดังขึ้นอย่างชัดเจน บอดี้การ์ดคนนี้ถึงกับกระอักเลือดออกจากปาก ร่างของเขาลอยออกไปไกลสามถึงสี่เมตรก่อนจะตกลงสู่พื้นอย่างแรงกระดูกทั้งร่างของเขาเจ็บปวดราวกับแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เขาคร่ำครวญออกมาด้วยความทรมานกระดูกซี่โครงของเขาหักอย่างน้อยห้าถึงหกชิ้น เขาหมอบลงบนพื้นพยายามลุกเท่าไรก็ลุกไม่ขึ้น!เวลานี้บอดี้การ์ดอีกคนก็พุ่งเข้ามาโจมตี และต่อยเข้าไปยังใบหน้าของฉินหมิงหนึ่งหมัดฉินหมิงหมุนตัวหนึ่งรอบ ก่อนคว้าจับแขนของอีกฝ่ายพร้อมกับใช้กำลังบิดเข้าไปที่แขน เสียงกร๊อบดังขึ้นอีกครั้ง อีกฝ่ายส่งเสียงกรีดร้องราวกับหมูที่ถูกเชือด แขนของเขาถูกฉินหมิงบิดอย่างแรงจนถึงขั้นหักไปในที่สุดตึง!ฉินหมิงจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้ แล้วใช้กำลังเหวี่ยงข้ามไหล่ของตัวเอง จนอีกฝ่ายล้มลงไปกับพื้นอย่างแรงจากนั้นเขาได้ก้าวเท้าหนึ่งออกมา เหยียบที่หน้าอกของอีกฝ่าย ท่าทางที่ยืนสูงอยู่เหนืออีกฝ่ายนั้น สง่างามและน่าเกรงขามอย่างมาก พอเห็นภาพเหตุการณ์นี้ซุนกวนฉงฉายแววตาตกตะลึ
“หม่าลู่ ผมแต่งงานเข้าไปตระกูลหม่าของพวกคุณมาสามปี ถึงไม่มีความดีความชอบแต่ก็อดทนต่อความยากลำบาก แต่คุณกลับทำกับผมขนาดนี้ มโนธรรมของคุณถูกหมากินไปจนหมดแล้วเหรอไง! ”“ตบนี่เป็นสิ่งที่คุณติดค้างผมไว้ ตอนนี้ผมคืนให้คุณแล้ว! ”“นับจากนี้เป็นต้นไป เราสองคนตัดขาดกัน! ”ดวงตาทั้งสองข้างของฉินหมิงเยือกเย็น ภายในแววตานอกจากจะมีแต่ความโกรธแล้ว ก็ยังมีความเฉยชามากยิ่งขึ้นอีกในขณะนี้เขาได้ขีดเส้นแบ่งเขตกับหม่าลู่ในใจอย่างสมบูรณ์ ต่อจากนี้เขาสองคนจะกลายเป็นเพียงคนแปลกหน้าและจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกต่อไป!“นาย…”หม่าลู่ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอใช้มือปิดแก้มอันแสนเจ็บปวดของเธอ และมองฉินหมิงด้วยใบหน้าที่ไม่อยากที่จะเชื่อครั้งหนึ่งฉินหมิงถูกทุบตีและถูกต่อว่าในตระกูลหม่าของเธอ ชีวิตของเขาก็ไม่ได้ต่างกับกับสุนัขตัวหนึ่งทว่าตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่า ความอดทนของฉินหมิงมันไม่ใช่ความขี้ขลาด เมื่อใดที่ฉินหมิงโกรธขึ้นมา เขาสามารถที่จะเหยียบย่ำทั้งเธอและซุนกวนฉงไว้ใต้เท้าของเขาได้ทั้งสองคน!“หม่าลู่ เห็นแก่คุณปู่ของคุณที่ปฏิบัติต่อผมเหมือนกับสมาชิกในครอบครัวมาตลอดสามปี วันนี้ผมจะปล่อยคุณไป! ”“จากนี้
เธอพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงตัดสินใจให้ฉินหมิงเข้าร่วมการประชุมนี้ชั่วคราว อย่างไรก็ตามให้สิทธิ์ฉินหมิงมากไปก็ไม่ได้ หรือจะขาดฉินหมิงไปเลยก็ไม่ได้เช่นกันหลังจากทานอาหารค่ำเสร็จหลินหว่านชิงก็รีบกลับไปพักผ่อนที่ห้องนอนของตัวเองทันทีฉินหมิงเองก็คล้ายกันกับเมื่อคืนวาน เขาค่อย ๆ ถือหินหยกไปยังบนยอดเขาที่อยู่ทางด้านหลังเมื่อนำหยกออกมา ฉินหมิงก็นำหินหยกมาเรียงตามจำนวนของวิชาเก้าตำหนักแปดทิศ ตามความแตกต่างกันของทั้งสิบแปดทิศ เขาได้นำเครื่องหยกน้ำแข็งทั้งสิบแปดชิ้นมาทำการขุดหลุมและฝังลงไปทีละชิ้น ไม่นานเขาก็จัดเรียงแท่นรวบรวมวิญญาณได้สำเร็จต่อมาขอเพียงแค่จุดศูนย์กลางค่ายกลยังทำงานอยู่ แท่นรวบรวมวิญญาณก็จะสามารถทำงานได้เช่นกันหากไม่เปิดใช้งานจุดศูนย์กลางค่ายกลนั้น ภายนอกจะดูปกติทุกอย่าง จะไม่มีใครค้นพบได้ว่าที่นี่ซ่อนความลับอะไรเอาไว้หลังจากนั้น ฉินหมิงก็ได้เดินไปยังจุดศูนย์กลางค่ายกลและนั่งขัดสมาธิ เขาหยิบป้ายหยกเนื้อแก้วชิ้นสุดท้ายออกมา และวางลงไปบนจุดศูนย์กลางค่ายกลฟิ้ว!เสียงลมหนาวพัดผ่านไปครู่หนึ่งขณะที่แท่นรวบรวมวิญญาณเปิดใช้งาน พลังวิญญาณบนยอดเขาก็ก่อตัวเป็นกระแสลมเล