ฉินหมิงมีท่าทีดีใจ แต่เขาไม่คาดคิดว่าหยกทั้งสองชิ้นนี้จะมีพลังทางจิตวิญญาณที่ทรงพลังและบริสุทธิ์มากจนไม่คุ้มกับเงินอะไรนั่นเพราะนี่เกินความคาดหมายของเขาพลังงานทางจิตวิญญาณภายในนั้นเพียงพอมากเกินพอสำหรับการรวบรวมวิญญาณ และเขาไม่สนใจว่ามันจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่สิ่งเดียวที่ทำให้เขาปวดหัวก็คือ ครั้งนี้ซุนกวนฉงได้ทำร้ายเขาโดยการให้เขาจ่ายเงินไป 92 ล้าน ไม่ง่ายเลยกว่าที่เขาจะมีเงินมา แต่เพียงชั่วพริบตาเขาก็กลายเป็นคนอนาถาอีกครั้ง!“เดี๋ยวนะครับ!”“คุณฉิน ผมขอดูหินหยกสองชิ้นนี้ได้ไหมครับ?”จ้าวไคเบิกตากว้าง และรีบสาวเท้าเข้ามา“อ้อ ได้สิครับ”ฉินหมิงที่ไม่ได้สนใจอะไร ได้นำหยกสองชิ้นยื่นให้กับจ้าวไคจ้าวไคมองไปที่หินหยกทั้งสองอย่างระมัดระวัง และสีหน้าของเขาก็ค่อย ๆ จริงจังขึ้น“สองชิ้นนี้ก็แค่เป็นชนิดถั่วเขียวเท่านั้นเอง ไม่ได้มีค่าอะไร มีอะไรน่ามองกัน!”ซุนกวนฉงหัวเราะเยาะจ้าวไคเปลี่ยนสีหน้า มองไปที่ซุนกวนฉงอย่างเย็นชา “คุณไม่รู้อะไร! ใครบอกคุณว่านี่เป็นชนิดถั่ว!”“คำว่าเหมือนถั่วสีเขียวนี้ก็ไม่ผิด แต่สีเขียวก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นชนิดถั่วเสมอไป!”“ผมจะบอกคุณให
คุณฉินครับ ผมขอบอกคุณตามตรงนะครับ หยกเขียวจักรพรรดิสองชิ้นนี้ของคุณมีสีเขียวบริสุทธิ์และโปร่งใส ไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้ ของชนิดนี้ยังไม่เคยตีค่าในตลาด ผมไม่สามารถประมาณราคาตลาดที่เฉพาะเจาะจงให้คุณได้”“แต่ถ้าคุณอยากขายล่ะก็ ร้านของพวกเราก็พร้อมที่จะให้ 800 ล้านบาท!”จ้าวไคพูดด้วยความตื่นเต้นหยกคุณภาพสูงอย่างหยกเขียวจักรพรรดินั้นหาได้ยากหากที่ร้านสามารถซื้อไว้ได้ ต่อจากนี้สามารถใช้เป็นสมบัติของร้านค้าได้!ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวก็คือ หยกเขียวจักรพรรดิชิ้นนี้ไม่ใหญ่มากนัก อีกทั้งยังโดนฉินหมิงตัดออกเป็นสองส่วน มิฉะนั้นคงทำเงินได้มากกว่านี้!“เอ่อ…”ฉินหมิงอ้าปากค้าง เขาคิดไม่ถึงมาก่อนว่าหยกสองชิ้นนี้จะเปลี่ยนได้ขนาดนี้ มันกลายเป็นหยกเขียวจักรพรรดิที่หายากและล้ำค่ามาก!ฉินหมิงยังไม่ทันจะได้ตอบ ทันใดนั้นก็มีเสียงทุ้มลึกดังมาจากด้านหลัง“ฉันให้พันล้าน!”หลังจากสิ้นคำพูด ก็เป็นชายชราคนหนึ่งอายุมากกว่าเจ็ดสิบปี เขาเดินเข้ามาจากด้านนอกพร้อมกับบอดี้การ์ดหลายคนที่สวมชุดสูทผูกเนคไทชายชราเต็มไปด้วยพลัง เดินสง่างามดั่งพญาราชสีห์และมีรัศมีที่สงบและน่าเกรงขาม เห็นได้ชัดเจนว่าเขาเป็นผู
“ผม…”ฉินหมิงลังเลมาก เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลซูมาก่อนและก็ไม่รู้ว่าอะไรคือสี่ตระกูลใหญ่ แต่เมื่อเห็นจากอาการของทุกคนแล้ว ตัวตนของชายชราที่อยู่ตรงหน้าเขาต้องไม่ธรรมดาตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามได้เสนอให้ถึงพันล้าน ราคานั้นค่อนข้างสูง มันเกินความคาดหมายของเขามากและเขาก็ค่อนข้างรู้สึกประทับใจแต่ปัญหาคือเขาวางแผนที่จะใช้หยกเพื่อรวบรวมวิญญาณ หากเอาหยกสองชิ้นนี้ขายไป เขากลัวว่ากว่าจะหาหินที่เหมาะสมนั้นยากลำบาก“คุณท่านครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ หยกเขียวจักรพรรดิสองชิ้นนี้ผมยังจะต้องใช้ประโยชน์อีก ไม่สามารถขายให้คุณได้จริง ๆ”ฉินหมิงยิ้มขอโทษใบหน้าของนายท่านซูแสดงความผิดหวัง พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ไม่สามารถขายได้จริง ๆ น่ะเหรอ สามารถต่อรองราคาได้อีกนะ”“ถ้าหากคุณต้องการจริง ๆ ผมสามารถขายให้คุณได้แค่ชิ้นเดียว แต่อีกชิ้นหนึ่งผมต้องเก็บไว้ให้ตัวเองใช้”ฉินหมิงพูดอย่างลังเลเล็กน้อยในการรวบรวมพลังวิญญาณ เขาเพียงแค่ใช้หยกเขียวจักรพรรดิเป็นดวงตาของพลังงานแค่ชิ้นเดียวก็ได้ ขายอีกชิ้นให้ชายชราคงไม่เสียหายอะไร“ขนาดของหยกเขียวจักรพรรดิสองชิ้นนี้ไม่ได้ใหญ่มาก เกรงว่าชิ้นเดียวมันจะไม่พอน่ะสิ”
ฉินหมิงโบกมือซ้ำแล้วซ้ำเล่าและปฏิเสธความเมตตาของนายท่านซู“ได้อย่างไรกัน!”“ของหายากอย่างหยกเขียวจักรพรรดิทำเป็นกำไลมอบให้กับผู้หญิง รับรองว่าถูกใจที่สุด…”นายท่านซูยิ้มอย่างมีเลศนัยและมองฉินหมิงด้วยสายตา "ฉันเข้าใจนาย"เขานั้นมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงคิดว่าความตั้งใจเดิมของฉินหมิงคือการแกะสลักเป็นเครื่องประดับและมอบให้กับแฟนสาวหรือผู้หญิงที่ชอบ แต่เขาไม่เคยคิดว่าฉินหมิงจะมีจุดประสงค์อื่นฉินหมิงยังคงปฏิเสธ แต่ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็สั่นไหว ก่อนเกาหัวด้วยความเขินอาย “คุณท่านครับ ถ้าได้จริง ๆ ล่ะก็ ผมอยากได้สร้อยคอสักเส้นหนึ่ง…”“ได้สิ ไม่มีปัญหา!”นายท่านซูหัวเราะหยกเขียวจักรพรรดิทั้งสองชิ้นนี้แกะสลักเป็นกำไลหยกสองอันและต้องขุดส่วนที่กลวงตรงกลางออกนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับทำสร้อยคอ 2 เส้น ต่างหูหยกสัก 2-3 คู่ อะไรทำนองนั้นแต่ฉินหมิงแค่อยากได้สร้อยคอ 1 เส้น คำขอร้องไม่มากมายเท่าไรนักหลังจากนั้นนายท่านซูก็โอนเงินพันล้านไปยังบัญชีธนาคารของฉินหมิงทันที หลักจากนั้นก็ได้แลกเบอร์ฉินหมิงไว้ จะได้สะดวกส่งสร้อยคอให้ฉินหมิงในภายหลังหลังจากที่นายท่านซูจากไป สถานการณ์ก็ได้
“ผมให้ 100 ล้าน!”เศรษฐีเบอร์หนึ่งได้ร่วมวงประมูลด้วย“ผม 110 ล้าน!”เศรษฐีอีกคนไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป จึงเข้าร่วมในสนามรบนี้ด้วย…ซุนกวงฉงโกรธแทบจะทนไม่ไหว นี่เป็นหินของเขา ทำไมมันเป็นการประมูลไปได้ล่ะ? เดิมที่เขาครุ่นคิดอยู่ว่าจะยอมแพ้ดีหรือไม่ แต่ตอนนี้มีเศรษฐีหลายคนเข้าร่วมแย่งประมูล เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าหินหยกนี้จะต้องมีสิ่งล้ำค่าอยู่แน่นอน เขาจึงไม่ลังเลใจอีกต่อไปแล้วรีบเพิ่มเงิน “ผมให้ 120 ล้าน!”“ผมให้ 130 ล้าน!”ฉินหมิงยังคงเพิ่มราคาต่อไปเมื่อเห็นว่าฉินหมิงมีความเด็ดขาดมากขนาดนี้ เศรษฐีหลายคนที่เข้าร่วมในการประมูลก็มีความมั่นใจมากขึ้น“ผมให้ 140 ล้าน!”“ผม 150 ล้าน!”...ซุนกวนฉงโกรธจนตาแดงก่ำ เขาขาดสติไปแล้วเรียบร้อย “ผมให้ 160 ล้าน!”“ผมให้ 170 ล้าน!”ฉินหมิงพูดเสียงเรียบอย่างสบายอารมณ์“ผมให้ 175 ล้าน!”“ผมให้ 178 ล้าน!”“ผมให้ 180 ล้าน!”…นักธุรกิจไม่กี่คนได้เพิ่มราคากันที่ละคนด้วยราคาที่เริ่มสูงเกินไป พวกเขาจึงรู้สึกไม่แน่ใจเล็กน้อยและไม่กล้าที่จะเพิ่มราคาทีละสิบล้าน“ผมให้ 190 ล้าน!”ซุนกวนฉินตะคอกด้วยความโกรธ ราคานี้สูงเกินไปแล้ว มันจะทำใ
“ฉันจะตัดเอง!”ซุนกวนฉงถึงกับกัดฟันกรอด เขาเรียนรู้จากฉินหมิงก่อนหน้านี้ เขารีบสาวเท้าเดินเข้าไปปริมาณหินหยกดิบที่เหลือนี้สามารถนำไปใช้ตัดได้อีก 2-3 ครั้ง แต่เขาหมดความอดทนและวางเครื่องไปที่ส่วนตรงกลางแล้วใช้มีดตัดมันลงไปจากนั้นแสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้น!“ออกมาแล้ว มีหยกออกมาแล้ว!”“พระเจ้า นี่คงเป็นหยกเขียวจักรพรรดิสิท่า!”“เมื่อกี้ไม่ใช่ว่าพ่อหนุ่มคนนั้นพูดว่าไม่มีอะไรไม่ใช่เหรอ หรือว่าเขาจะดูผิด?”…ทุกคนตกใจมากจนอ้าปากค้าง ใครต่างก็คิดไม่ถึงว่าจะยังมีหยกเขียวจักรพรรดิอีกชิ้น!“ที่รัก ออกมาแล้วค่ะ มีหยกเขียวจักรพรรดิออกมาแล้วค่ะ!”“หยกที่เราได้ยังมีขนาดใหญ่อีกด้วย พวกเรารวยกันเละแน่!”หม่าลู่ดีใจจนทนไม่ไหวรีบเข้าไปกอดคอของซุนกวนฉง และหอมเขาหลายครั้ง“ฮ่าฮ่าฮ่า…”“นี่ฉินหมิง เมื่อกี้นายเพิ่งบอกไปไม่ใช่เหรอว่าหยกดิบก้อนนี้ไม่มีอะไรแน่ ๆ!”“นายดูให้ดีซะก่อน ว่ามันคืออะไร!”ซุนกวนฉงหัวเราะใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความภูมิใจ ดูเหมือนจะภูมิใจเป็นอย่างมาก!ฉินหมิงตกตะลึงยกใหญ่ เมื่อกี้เขาแค่อยากจะเอาคืนซุนกวนฉงก็เท่านั้น เขาไม่ได้ใช้พลังสัมผัสแต่อย่างใดเพราะถ้าทำอย่างคงเปลืองพลั
“คุณซุน ยินดีด้วยนะครับที่คุณยอมจ่ายเงินมากมายขนาดนี้เพื่อซื้อหินหยกดิบไร้ค่าชิ้นนี้! ”“คุณนี่ช่างรวยซะจริง ผมล่ะยอมคุณเลย! ”ฉินหมิงทำเสียงจิ๊ปาก สายตาของเขาเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม ไม่ต่างกับการมองดูคนโง่อย่างไรอย่างนั้น“นาย…”ซุนกวนฉงตื่นตกใจอย่างมาก ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าตัวเองตกหลุมพรางของฉินหมิงเข้าให้แล้ว เขาจับจ้องฉินหมิงด้วยสายตาที่กำลังลุกเป็นไฟ “เจ้าคนแซ่ฉิน ทั้งหมดนี่เป็นนายอย่างนั้นเหรอ นายจงใจขึ้นราคาเพื่อหลอกฉัน…”“หลอกแล้วอย่างไร? ”“ก็ใครใช้ให้นายหลอกฉันก่อนล่ะ หรือว่าฉันโกงนายบ้างไม่ได้เลยเหรอไง! ”ฉินหมิงยิ้มอย่างเยือกเย็น ครั้งนี้เขาแค่ตอบแทนอีกฝ่ายด้วยวิธีการเดียวกันก็เท่านั้นทว่าเขาแค่คาดไม่ถึงว่าซุนกวนฉงจะโชคไม่ดีขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เพียงก้อนหยกแห้ง ๆ ที่มีคุณค่าน้อยที่สุดไปครอบครอง แต่นี่ก็เป็นเพราะซุนกวนฉงที่พลาดเอง ดังนั้นจะมาโทษเขาไม่ได้“ฉินหมิง นายทำให้ฉันต้องสูญเสียเงินไปตั้งมากมาย ฉันจะฆ่านาย! ”ซุนกวนฉงโกรธเป็นอย่างมาก เขารีบวิ่งเข้าไปหาฉินหมิงอย่างบ้าคลั่ง“กล้าดียังไง! ” “ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณจะมาทำตัวหยาบคายได้! ”จ้าวไคกล่
ข้อกำหนดของหินหยกธรรมดาพวกนี้ไม่ได้เข้มงวดเท่ากับตาด้านหน้าชิ้นนั้น ขอแค่เป็นหยกเนื้อถั่วเขียวที่มีมูลค่าหลายหมื่นก็เพียงพอแล้วอย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฉินหมิงเองก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินแต่อย่างใด สุดท้ายแล้วเขาก็ได้ใช้เงินไปแปดสิบล้านบาทเพื่อซื้อหยกเนื้อน้ำแข็งจำนวนสิบแปดชิ้น หลังจากนั้นเขาก็ได้จากไปพร้อมกับห่อหยกพวกนั้น...หลังจากออกจากร้านเครื่องหยกไปแล้วฉินหมิงก็เดินไปยังที่ที่เขาได้จอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้เพิ่งจะเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไรนัก จู่ ๆ เขาก็ได้พบเข้ากับซุนกวนฉงและหม่าลู่ที่นำบอดี้การ์ดมาด้วยถึงสองคน ล้อมรอบเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเย็นชา“ฉินหมิง ในที่สุดนายก็ออกมาได้สักทีนะ ฉันรอนายมานานแล้ว! ”ซุนกวนฉงมีสีหน้าดุร้าย มุมปากของเขานั้นปรากฎรอยยิ้มที่ดูไม่เป็นมิตรเท่าไรนัก“ซุนกวนฉง นายจะคิดจะทำอะไร?”ใบหน้าของฉินหมิงซีดลง ความรู้สึกที่ไม่ดีต่าง ๆ เริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจของเขา“นายคิดว่ายังไงล่ะ? ”“บัญชีนั้นที่อำเภอคราวที่แล้ว ไหนยังจะเรื่องร้านเครื่องหยกเมื่อครู่ ทั้งแค้นใหม่และแค้นเก่าของพวกเราสองคน ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องชำระกันได้แล้ว! ”ซุนกวนฉงยิ้มอย่างเย
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ