......คนตระกูลซูที่เหลืออยู่เองก็ตื่นเต้นมากเหมือนกัน หลังจากซูห่าวพ่ายแพ้ พวกเขาก็ยิ่งชื่นชมในความแข็งแกร่งของฉินหมิงมากขึ้นไปอีก!ท้ายที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างฉินหมิงและตระกูลซูนั้นใกล้ชิดกันมาก ความพ่ายแพ้ของเค่อรุ่ยภายใต้การโจมตีของฉินหมิงนั้น เท่ากับได้ช่วยระบายความโกรธให้กับทุกคนในตระกูลซู!“ทุกคนชมเกินไปแล้ว ผมแค่โชคดี”ฉินหมิงยิ้มอย่างสุภาพ“สหายน้อยฉิน ถ้าฉันจำไม่ผิด เมื่อสองสามวันก่อนเธอใช้ยาปราณแท้ไปใช่ไหมถึงทะลวงระดับไปยังระดับปรมาจารย์ได้สำเร็จ!”นายท่านซูลูบเคราและครุ่นคิด ฉับพลันก็เข้าใจอะไรบางอย่างได้อย่างคลุมเคลือ"ประมาณนั้นครับ"ฉินหมิงยิ้มอย่างไม่ปิดบังอันที่จริงเม็ดยาที่เขาใช้ก็คือยาสร้างรากฐานไม่ใช่ยาปราณแท้ แต่พวกมันก็คล้าย ๆ กัน ไม่มีอะไรแตกต่าง“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!”“ไม่น่าแปลกเลยใจที่นายน้อยลี่และคุณชายใหญ่เหลิ่งพูดว่าความแข็งแกร่งของฉินหมิงอยู่ที่ขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานเท่านั้น แต่จู่ ๆ เขากลับขึ้นมาเป็นยอดฝีมือระดับระดับปรมาจารย์อย่างกะทันหัน ปรากฎว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะยาปราณแท้!”“นั่นสิ เราควรจะคิดถึงเรื่องนี้ได้นานแล้ว ฉินหมิงคือผู
ซูซินเหยาแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา รู้สึกไม่พอใจกับลูกหลานของตระกูลชั้นสูงเหล่านี้ที่จงใจสร้างปัญหา อย่างไรก็ตามโอกาสยิ่งใหญ่ได้มาถึงแล้ว แน่นอนว่าเธอและฉินหมิงย่อมไม่ทำตัวเหมือนคนงี่เง่า“ต่อไปหมิงเหยากรุ๊ปของเราจะเริ่มขายยาปราณแท้…”ฉินหมิงเพิกเฉยต่อคนโง่เหล่านี้และเตรียมที่จะดำเนินงานเปิดตัวขายต่อไป"ในที่สุดก็จะเริ่มขายยาปราณแท้กันแล้ว!"“ฉินหมิงและซูห่าวทั้งคู่ล้วนทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้ด้วยความช่วยเหลือของยาปราณแท้ ดูเหมือนว่าผลของยาปราณแท้นั้นแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว!”“เพียงว่าปริมาณของยาปราณแท้นั้นมีน้อยเกินไป ไม่พอที่จะแบ่งแน่นอน ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วกองกำลังของตระกูลใดจะโชคดีคว้ามันไปได้!”......ขณะที่ทุกคนตื่นเต้นมากและมุ่งความสนใจไปที่ยาปราณแท้อีกครั้ง"เดี๋ยวก่อน!"ทันใดนั้นนายท่านเหลิ่งก็แค่นเสียงเหอะและก้าวออกมา“นายท่านเหลิ่ง ไม่ทราบว่ายังมีเรื่องอะไรอีกไหม?”ฉินหมิงขมวดคิ้วด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมิตรระหว่างเขากับตระกูลเหลิ่ง ใช้แค่ปลายนิ้วเท้าเขาก็เดาได้ทันทีว่าการที่นายท่านเหลิ่งก้าวออกมาในเวลานี้ มันจะต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน!“ฉินหมิ
ตอนนี้ทุกคนได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฉินหมิงแล้ว ระดับการบ่มเพาะของเขามาถึงระดับปรมาจารย์แล้ว ทว่าระดับการบ่มเพาะของเหลิ่งจวิ้นยังอยู่แค่ขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานเท่านั้น“ตาแก่ซู ฉินหมิงมีความบาดหมางส่วนตัวกับตระกูลเหลิ่งของเราและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแก แกตั้งใจที่จะยืนหยัดเพื่อเขาจริง ๆ เหรอ?”นายท่านเหลิ่งพูดด้วยสีหน้ามืดครึ้ม“ถ้าใช่แล้วจะยังไง? ถ้าไม่ใช่แล้วจะยังไงล่ะ?”นายท่านซูพูดอย่างเย็นชา“ถ้าแกยืนกรานที่จะทำแบบนี้ ตระกูลเหลิ่งของเราก็จะยอมรับความพ่ายแพ้ในวันนี้ แต่ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะสามารถปกป้องเขาได้ตลอดเวลา แกอาจคุ้มกะลาหัวเขาได้ช่วงหนึ่ง แต่ไม่มีทางทำได้ตลอดชีวิต!”“หลังจากวันนี้ ตระกูลเหลิ่งของเราจะต่อสู้เป็นตายกับเขาแน่นอน!”น้ำเสียงของนายท่านเหลิ่งเย็นเยียบ เขาฉีกหน้ากันโดยตรง“แก...”การแสดงออกของทั้งนายท่านซูและเฝิงเจิ้นเปลี่ยนไปอย่างมากแม้ว่าหลายกลุ่มจะมีข้อตกลงที่ดีร่วมกับฉินหมิง แต่ฉินหมิงไม่ได้มาจากตระกูลของพวกเขา พวกเขาล้วนถูกจำกัดด้วยผลประโยชน์ของตระกูลและแง่มุมต่าง ๆ พวกเขาไม่สามารถต่อสู้แลกชีวิตกับตระกูลเหลิ่งเพื่อฉินหมิงได้จริง ๆบัดนี้ต่อห
กองกำลังของตระกูลใหญ่ ๆ แต่ไหนแต่ไรมาก็ให้ความสำคัญกับหน้าตาและชื่อเสียงอย่างมาก แม้ว่าเขาจะต้องการกำจัดฉินหมิง แต่ก็ไม่สามารถทำตระกูลอับอายขายหน้าเพราะภัยคุกคามเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างฉินหมิงได้“ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้!”“ฉินหมิง ฉันจะส่งสมาชิกในตระกูลรุ่นที่สองของฉันไปต่อสู้กับนาย ถ้านายรับสามกระบวนท่าจากเขาได้ ความแค้นระหว่างเราก็จะถือว่าจบลง!”"ในทางกลับกัน ถ้านายรับไม่ได้ ก็ไสหัวออกไปจากเมืองเจียงเฉิงเสีย!"เมื่อเผชิญหน้ากับเสียงเยาะเย้ยถากถางของทุกคน นายท่านเหลิ่งก็ไม่อาจไม่ยอมถอย"ทายาทรุ่นที่สองเหรอ?"หัวใจของฉินหมิงหวั่นไหวนายท่านเหลิ่งเป็นหนึ่งในยอดฝีมือระดับสูงรุ่นแรก ๆ ของเมืองเจียงเฉิง ระดับการบ่มเพาะของเขาอย่างน้อย ๆ ต้องมาถึงขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์หรืออาจจะสูงกว่านั้นแล้วด้วยความแข็งแกร่งของเขาในขั้นสร้างรากฐาน คิดที่จะรับสามฝ่ามือของนายท่านเหลิ่งเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม ถ้าอีกฝ่ายเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลเหลิ่ง สถานการณ์จะดีขึ้นหลายเท่าแม้ว่าเขาจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของทายาทรุ่นที่สองของตระกูลเหลิ่ง แต่เขาเคยเห็นระดับการบ่มเพาะของหลินเถิงฮุ่ยมาก่
เดิมทีเขาคิดว่าอย่างน้อย ๆ นายท่านเหลิ่งจะส่งยอดฝีมือขั้นสูงระดับปรมาจารย์หนึ่งคนออกมา แต่เขาไม่คิดเลยว่านายท่านเหลิ่งจะมั่นใจมากเกินไป ถึงกับส่งยอดฝีมือขั้นกลางระดับปรมาจารย์คนหนึ่งออกมา!ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในขั้นสร้างรากฐาน มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะรับมือกับสามกระบวนท่าของยอดฝีมือในระดับนี้!เขาจะปฏิเสธเรื่องดี ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน!“ก็ได้...ผมตกลงครับ!”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นลังเล จากนั้นก็ตอบตกลงอย่างลำบากใจยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าเขายังไม่แสดงสีหน้ายินดีใด ๆ เพราะกลัวว่านายท่านเหลิ่งจะสังเกตเห็นและส่งยอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่าออกมาแทน“ว่ายังไงนะ?”ซูห่าวและนายท่านซูตกตะลึงอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งนายท่านซู เมื่อสักครู่นี้เขาได้ส่งสายตาให้กับฉินหมิงแล้ว แต่ไม่รู้ว่าฉินหมิงเห็นไหม เขาถึงกับตกลงตามข้อเสนอของตระกูลเหลิ่งจริง ๆนี่ไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอกเหรอ?“สหายน้อยฉิน อย่าหุนหันพลันแล่น เรื่องนี้…”นายท่านซูกังวลมากเขารู้เงื่อนไขของตระกูลเหลิ่ง ตราบเท่าที่ฉินหมิงไม่อาจรับสามกระบวนท่าจากเหลิ่งหลงเซิงได้เขาก็ต้องออกจากเมืองเจียงเฉิงทันที!ถึงตอนนั้นตระกูลซูจะร่วมมือกับฉิน
......ผู้คนจากกองกำลังของตระกูลใหญ่ต่างก็พูดถึงเรื่องนี้ไม่มีใครคิดว่าฉินหมิงสามารถเอาชนะเหลิ่งหลงเซิงได้ แม้ว่าจะแค่รับสามกระบวนท่าจากอีกฝ่าย ความหวังก็ริบหรี่มาก!เว้นเสียแต่ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น!“มา ๆ มีใครอยากใช้โอกาสนี้เสี่ยงโชคบ้าง!”“ฉันพนันว่าฉินหมิงไม่สามารถรับทั้งสามกระบวนท่าได้!”"ฉันไม่เพียงแต่เดิมพันว่าเขาไม่สามารถรับทั้งสามกระบวนท่าได้ แต่จะได้รับบาดเจ็บเพราะเหลิ่งหลงเซิงอีกด้วย!"“แกไม่ได้พูดไร้สาระหรอกเหรอ? ถ้าเขารับทั้งสามกระบวนท่าไม่ได้ ย่อมต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน ทางที่ดีที่สุดคือให้เหลิ่งหลงเซิงทำให้เขาพิการโดยตรงจะได้ช่วยระบายความโกรธให้กับพวกเราด้วย!”......เหล่าคนรุ่นเยาว์จากตระกูลชั้นสูง เนื่องจากเรื่องของสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิงเมื่อสักครู่นี้ บวกกับฉินหมิงเพิ่งจะลงมือทำร้ายเค่อรุ่ยด้วยวิธีการที่ 'น่ารังเกียจ'หลายคนจึงเริ่มวางเดิมพันกันโดยตรงอย่างไรก็ตาม พวกเขาล้วนเป็นคุณชาย เงินเล็กน้อยพวกนี้สำหรับพวกเขาย่อมไม่นับว่าเป็นอะไร“เวรเอ๊ย ไอ้พวกชอบซ้ำเติมคนอื่น!”เฝิงหลุนโกรธแล้วเขาเดินตรงไป ตบเช็คใบหนึ่งลงบนโต๊ะพนันแล้วพูดว่า "ฉันเดิมพ
ด้วยความแข็งแกร่งของฉินหมิงที่เพิ่งทะลวงผ่านเข้าขั้นแรกของระดับปรมาจารย์ นี่ไม่เท่ากับเอาชีวิตตัวเองมาทิ้งหรอกเหรอ?เขาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฝ่ามืออีกสามส่วนทันที ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของตัวเองเพื่อที่จะล้มฉินหมิงด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว!ไม่ใช่แค่เหลิ่งหลงเซิงที่คิดแบบนี้ ผู้คนจากตระกูลหลักทุกคนเองก็ระเบิดเหมือนกัน“ฉินหมิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า?”“ถ้าเขาใช้ทักษะทางกายภาพในการหลบ เขาอาจมีโอกาสรับสามกระบวนท่าจากเหลิ่งหลงเซิงได้”“แต่เขาเลือกที่จะปะทะกับเหลิ่งหลงเซิงซึ่งหน้า เขาไม่ต้องการแขนข้างนั้นแล้วใช่ไหม?”“นั่นสิ แขนของฉินหมิงจะต้องถูกทำลายด้วยหมัดนี้ของเหลิ่งหลงเซิงอย่างแน่นอน!”......ทุกคนตะลึงงั้น พวกเขาทั้งหมดมองไปที่ฉินหมิงราวกับว่าพวกเขากำลังมองคนโง่แต่เดิมบางคนคิดว่าฉินหมิงอาจจะรับได้สักสองหรือสามกระบวนท่าจากเหลิ่งหลงเซิง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉินหมิงจะไม่สามารถรับการโจมตีจากเหลิ่งหลงเซิงได้แม้แต่ครั้งเดียว!โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายท่านเหลิ่งและคนตระกูลเหลิ่ง ริมฝีปากของพวกเขาฉายแววเยาะเย้ย ราวกับว่าพวกเขาเห็นชัยชนะกำลังโบกมือให้กับฝั่งของตัวเอง!ตรงกันข
หลังจากร่างใหญ่ร่วงกระแทกพื้น เหลิ่งหลงเซิงก็กระอักเลือดออกมาสองคำติดต่อกัน เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บภายในสาหัสทีเดียว อย่างน้อย ๆ ซี่โครงที่หน้าอกคงหักไปราวสามถึงสี่ซี่แล้วโอ้!เมื่อได้เห็นฉากดังกล่าว คนทั้งงานก็ระเบิดเสียงฮือฮา!“พวกเราไม่ได้ดูผิดไปใช่ไหม?”“ฉิน...ฉินหมิงเอาชนะเหลิ่งหลงเซิงได้จริง ๆ แถมยังล้มเขาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวด้วย?”“นี่เป็นไปได้ยังไงกัน!”ทั้งนายท่านเหลิ่งและตระกูลเหลิ่งโง่งมไปหมดแล้วตระกูลซูและตระกูลเค่อ รวมถึงคนอื่น ๆ เองก็โง่งมไปเหมือนกันทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ต่างตกตะลึง!เดิมทีพวกเขาคิดว่าฉินหมิงไม่มีทางรับสามกระบวนท่าจากเหลิ่งหลงเซิงได้ แต่พวกเขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าฉินหมิงจะพลิกกลับมาเอาชนะเหลิ่งหลงเซิงได้จริง ๆ!!ด้วยระดับการบ่มเพาะของเหลิ่งหลงเซิงที่ใกล้ทะลวงเข้าขั้นสูงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาถึงกับไม่สามารถรับแม้แต่กระบวนท่าเดียวของฉินหมิงได้!!!ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความตกใจในใจของพวกเขาได้!“ไม่...เป็นไปไม่ได้ นี่ต้องไม่ใช่ความจริง!”เหลิ่งหลงเซิงยกมือขึ้นกุมหน้าอกจากนั้นก็ยืนขึ้นอย่างโซซัดโซเซ สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความไม่อย