ตอนนี้ทุกคนได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฉินหมิงแล้ว ระดับการบ่มเพาะของเขามาถึงระดับปรมาจารย์แล้ว ทว่าระดับการบ่มเพาะของเหลิ่งจวิ้นยังอยู่แค่ขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานเท่านั้น“ตาแก่ซู ฉินหมิงมีความบาดหมางส่วนตัวกับตระกูลเหลิ่งของเราและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแก แกตั้งใจที่จะยืนหยัดเพื่อเขาจริง ๆ เหรอ?”นายท่านเหลิ่งพูดด้วยสีหน้ามืดครึ้ม“ถ้าใช่แล้วจะยังไง? ถ้าไม่ใช่แล้วจะยังไงล่ะ?”นายท่านซูพูดอย่างเย็นชา“ถ้าแกยืนกรานที่จะทำแบบนี้ ตระกูลเหลิ่งของเราก็จะยอมรับความพ่ายแพ้ในวันนี้ แต่ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะสามารถปกป้องเขาได้ตลอดเวลา แกอาจคุ้มกะลาหัวเขาได้ช่วงหนึ่ง แต่ไม่มีทางทำได้ตลอดชีวิต!”“หลังจากวันนี้ ตระกูลเหลิ่งของเราจะต่อสู้เป็นตายกับเขาแน่นอน!”น้ำเสียงของนายท่านเหลิ่งเย็นเยียบ เขาฉีกหน้ากันโดยตรง“แก...”การแสดงออกของทั้งนายท่านซูและเฝิงเจิ้นเปลี่ยนไปอย่างมากแม้ว่าหลายกลุ่มจะมีข้อตกลงที่ดีร่วมกับฉินหมิง แต่ฉินหมิงไม่ได้มาจากตระกูลของพวกเขา พวกเขาล้วนถูกจำกัดด้วยผลประโยชน์ของตระกูลและแง่มุมต่าง ๆ พวกเขาไม่สามารถต่อสู้แลกชีวิตกับตระกูลเหลิ่งเพื่อฉินหมิงได้จริง ๆบัดนี้ต่อห
กองกำลังของตระกูลใหญ่ ๆ แต่ไหนแต่ไรมาก็ให้ความสำคัญกับหน้าตาและชื่อเสียงอย่างมาก แม้ว่าเขาจะต้องการกำจัดฉินหมิง แต่ก็ไม่สามารถทำตระกูลอับอายขายหน้าเพราะภัยคุกคามเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างฉินหมิงได้“ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้!”“ฉินหมิง ฉันจะส่งสมาชิกในตระกูลรุ่นที่สองของฉันไปต่อสู้กับนาย ถ้านายรับสามกระบวนท่าจากเขาได้ ความแค้นระหว่างเราก็จะถือว่าจบลง!”"ในทางกลับกัน ถ้านายรับไม่ได้ ก็ไสหัวออกไปจากเมืองเจียงเฉิงเสีย!"เมื่อเผชิญหน้ากับเสียงเยาะเย้ยถากถางของทุกคน นายท่านเหลิ่งก็ไม่อาจไม่ยอมถอย"ทายาทรุ่นที่สองเหรอ?"หัวใจของฉินหมิงหวั่นไหวนายท่านเหลิ่งเป็นหนึ่งในยอดฝีมือระดับสูงรุ่นแรก ๆ ของเมืองเจียงเฉิง ระดับการบ่มเพาะของเขาอย่างน้อย ๆ ต้องมาถึงขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์หรืออาจจะสูงกว่านั้นแล้วด้วยความแข็งแกร่งของเขาในขั้นสร้างรากฐาน คิดที่จะรับสามฝ่ามือของนายท่านเหลิ่งเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม ถ้าอีกฝ่ายเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลเหลิ่ง สถานการณ์จะดีขึ้นหลายเท่าแม้ว่าเขาจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของทายาทรุ่นที่สองของตระกูลเหลิ่ง แต่เขาเคยเห็นระดับการบ่มเพาะของหลินเถิงฮุ่ยมาก่
เดิมทีเขาคิดว่าอย่างน้อย ๆ นายท่านเหลิ่งจะส่งยอดฝีมือขั้นสูงระดับปรมาจารย์หนึ่งคนออกมา แต่เขาไม่คิดเลยว่านายท่านเหลิ่งจะมั่นใจมากเกินไป ถึงกับส่งยอดฝีมือขั้นกลางระดับปรมาจารย์คนหนึ่งออกมา!ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในขั้นสร้างรากฐาน มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะรับมือกับสามกระบวนท่าของยอดฝีมือในระดับนี้!เขาจะปฏิเสธเรื่องดี ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน!“ก็ได้...ผมตกลงครับ!”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นลังเล จากนั้นก็ตอบตกลงอย่างลำบากใจยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าเขายังไม่แสดงสีหน้ายินดีใด ๆ เพราะกลัวว่านายท่านเหลิ่งจะสังเกตเห็นและส่งยอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่าออกมาแทน“ว่ายังไงนะ?”ซูห่าวและนายท่านซูตกตะลึงอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งนายท่านซู เมื่อสักครู่นี้เขาได้ส่งสายตาให้กับฉินหมิงแล้ว แต่ไม่รู้ว่าฉินหมิงเห็นไหม เขาถึงกับตกลงตามข้อเสนอของตระกูลเหลิ่งจริง ๆนี่ไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอกเหรอ?“สหายน้อยฉิน อย่าหุนหันพลันแล่น เรื่องนี้…”นายท่านซูกังวลมากเขารู้เงื่อนไขของตระกูลเหลิ่ง ตราบเท่าที่ฉินหมิงไม่อาจรับสามกระบวนท่าจากเหลิ่งหลงเซิงได้เขาก็ต้องออกจากเมืองเจียงเฉิงทันที!ถึงตอนนั้นตระกูลซูจะร่วมมือกับฉิน
......ผู้คนจากกองกำลังของตระกูลใหญ่ต่างก็พูดถึงเรื่องนี้ไม่มีใครคิดว่าฉินหมิงสามารถเอาชนะเหลิ่งหลงเซิงได้ แม้ว่าจะแค่รับสามกระบวนท่าจากอีกฝ่าย ความหวังก็ริบหรี่มาก!เว้นเสียแต่ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น!“มา ๆ มีใครอยากใช้โอกาสนี้เสี่ยงโชคบ้าง!”“ฉันพนันว่าฉินหมิงไม่สามารถรับทั้งสามกระบวนท่าได้!”"ฉันไม่เพียงแต่เดิมพันว่าเขาไม่สามารถรับทั้งสามกระบวนท่าได้ แต่จะได้รับบาดเจ็บเพราะเหลิ่งหลงเซิงอีกด้วย!"“แกไม่ได้พูดไร้สาระหรอกเหรอ? ถ้าเขารับทั้งสามกระบวนท่าไม่ได้ ย่อมต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน ทางที่ดีที่สุดคือให้เหลิ่งหลงเซิงทำให้เขาพิการโดยตรงจะได้ช่วยระบายความโกรธให้กับพวกเราด้วย!”......เหล่าคนรุ่นเยาว์จากตระกูลชั้นสูง เนื่องจากเรื่องของสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิงเมื่อสักครู่นี้ บวกกับฉินหมิงเพิ่งจะลงมือทำร้ายเค่อรุ่ยด้วยวิธีการที่ 'น่ารังเกียจ'หลายคนจึงเริ่มวางเดิมพันกันโดยตรงอย่างไรก็ตาม พวกเขาล้วนเป็นคุณชาย เงินเล็กน้อยพวกนี้สำหรับพวกเขาย่อมไม่นับว่าเป็นอะไร“เวรเอ๊ย ไอ้พวกชอบซ้ำเติมคนอื่น!”เฝิงหลุนโกรธแล้วเขาเดินตรงไป ตบเช็คใบหนึ่งลงบนโต๊ะพนันแล้วพูดว่า "ฉันเดิมพ
ด้วยความแข็งแกร่งของฉินหมิงที่เพิ่งทะลวงผ่านเข้าขั้นแรกของระดับปรมาจารย์ นี่ไม่เท่ากับเอาชีวิตตัวเองมาทิ้งหรอกเหรอ?เขาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฝ่ามืออีกสามส่วนทันที ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของตัวเองเพื่อที่จะล้มฉินหมิงด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว!ไม่ใช่แค่เหลิ่งหลงเซิงที่คิดแบบนี้ ผู้คนจากตระกูลหลักทุกคนเองก็ระเบิดเหมือนกัน“ฉินหมิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า?”“ถ้าเขาใช้ทักษะทางกายภาพในการหลบ เขาอาจมีโอกาสรับสามกระบวนท่าจากเหลิ่งหลงเซิงได้”“แต่เขาเลือกที่จะปะทะกับเหลิ่งหลงเซิงซึ่งหน้า เขาไม่ต้องการแขนข้างนั้นแล้วใช่ไหม?”“นั่นสิ แขนของฉินหมิงจะต้องถูกทำลายด้วยหมัดนี้ของเหลิ่งหลงเซิงอย่างแน่นอน!”......ทุกคนตะลึงงั้น พวกเขาทั้งหมดมองไปที่ฉินหมิงราวกับว่าพวกเขากำลังมองคนโง่แต่เดิมบางคนคิดว่าฉินหมิงอาจจะรับได้สักสองหรือสามกระบวนท่าจากเหลิ่งหลงเซิง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉินหมิงจะไม่สามารถรับการโจมตีจากเหลิ่งหลงเซิงได้แม้แต่ครั้งเดียว!โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายท่านเหลิ่งและคนตระกูลเหลิ่ง ริมฝีปากของพวกเขาฉายแววเยาะเย้ย ราวกับว่าพวกเขาเห็นชัยชนะกำลังโบกมือให้กับฝั่งของตัวเอง!ตรงกันข
หลังจากร่างใหญ่ร่วงกระแทกพื้น เหลิ่งหลงเซิงก็กระอักเลือดออกมาสองคำติดต่อกัน เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บภายในสาหัสทีเดียว อย่างน้อย ๆ ซี่โครงที่หน้าอกคงหักไปราวสามถึงสี่ซี่แล้วโอ้!เมื่อได้เห็นฉากดังกล่าว คนทั้งงานก็ระเบิดเสียงฮือฮา!“พวกเราไม่ได้ดูผิดไปใช่ไหม?”“ฉิน...ฉินหมิงเอาชนะเหลิ่งหลงเซิงได้จริง ๆ แถมยังล้มเขาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวด้วย?”“นี่เป็นไปได้ยังไงกัน!”ทั้งนายท่านเหลิ่งและตระกูลเหลิ่งโง่งมไปหมดแล้วตระกูลซูและตระกูลเค่อ รวมถึงคนอื่น ๆ เองก็โง่งมไปเหมือนกันทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ต่างตกตะลึง!เดิมทีพวกเขาคิดว่าฉินหมิงไม่มีทางรับสามกระบวนท่าจากเหลิ่งหลงเซิงได้ แต่พวกเขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าฉินหมิงจะพลิกกลับมาเอาชนะเหลิ่งหลงเซิงได้จริง ๆ!!ด้วยระดับการบ่มเพาะของเหลิ่งหลงเซิงที่ใกล้ทะลวงเข้าขั้นสูงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาถึงกับไม่สามารถรับแม้แต่กระบวนท่าเดียวของฉินหมิงได้!!!ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความตกใจในใจของพวกเขาได้!“ไม่...เป็นไปไม่ได้ นี่ต้องไม่ใช่ความจริง!”เหลิ่งหลงเซิงยกมือขึ้นกุมหน้าอกจากนั้นก็ยืนขึ้นอย่างโซซัดโซเซ สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความไม่อย
พวกเขาทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าระดับการบ่มเพาะของฉินหมิงถึงขั้นสูงระดับปรมาจารย์แล้ว แต่ละคนจึงตกใจอย่างมากกับพรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธที่น่ากลัวของฉินหมิง!บวกกับศาสตร์แห่งการปรุงยาอันน่าทึ่งที่ฉินหมิงครอบครองอยู่และพรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธที่น่ากลัวอย่างถึงที่สุด เกรงว่าภายในไม่กี่ปีเมืองเจียงเฉิงทั้งหมดจะสั่นสะท้านเพราะฉินหมิงอย่างแน่นอน!“ก่อนหน้านี้มีคำพูดหนึ่งแพร่สะพัดไปในเมืองเจียงเฉิง ถ้าตระกูลไหนสามารถดึงตัวปรมาจารย์นักปรุงยาที่อยู่เบื้องหลังตระกูลซูมาเข้าร่วมด้วยได้ ตระกูลนั้นก็จะเป็นผู้ชนะและได้ครอบครองเมืองเจียงเฉิงทั้งหมด!”ตอนนี้ดูเหมือนว่าคำพูดนี้จะไม่ได้พูดเกินจริงเลย!เฝิงเจิ้นและนายท่านโจวต่างก็สั่นสะท้าน และแอบอิจฉาที่ตระกูลซูโชคดีได้อัจฉริยะบุคคลที่โดดเด่นเช่นฉินหมิงไป!“ฮ่าฮ่า...”“ดูเหมือนว่าสวรรค์เข้าข้างตระกูลซูของพวกเราจริง ๆ!”นายท่านซูหัวเราะดังลั่น แม้ว่าเขาจะสงบและเงียบขรึมมาโดยตลอด แต่ในเวลานี้เขาเองก็อดตื่นเต้นไม่ได้จริง ๆเขากระทั่งลอบวางแผนจับคู่ซูซินเหยาและฉินหมิงอย่างลับ ๆ ให้ทั้งคู่ลงเอยกันโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้คนที่โดดเด่นเช่นฉินหมิงถูกค
ไม่อย่างนั้น ถ้าฉินหมิงและหลินหว่านชิงลงเอยกัน หลังจากที่ทั้งสองแต่งงานกันอย่างเป็นทางการ ถึงตอนนั้นตระกูลหลินมีเขยที่โดดเด่นอย่างฉินหมิงอยู่ การจะขึ้นมาปกครองเมืองเจียงเฉิงก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว!น่าเสียดาย แต่เขามาเสียใจภายหลังตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว!“ฉินหมิง ในที่สุดคุณก็เติบโตขึ้น…”จมูกของหลินหว่านชิงแสบร้อน หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดและก็อึดอัดมากเธอรู้มานานแล้วว่าฉินหมิงมีความสามารถมาก ตราบเท่าที่เขาได้รับเวลามากขึ้น ฉินหมิงจะสามารถสร้างผลงานที่น่าทึ่งได้ในไม่ช้าก็เร็ว!อย่างไรก็ตาม เธอและฉินหมิงถูกกำหนดมาให้ต้องแยกจากกัน มีชะตาแต่ไร้วาสนา ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการเติบโตของฉินหมิง เธอไม่อาจไม่จากฉินหมิงไป…"เยี่ยม ฉินหมิงนายยอดเยี่ยมมาก!"ใบหน้าของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เธอเป็นคนเดียวที่ปรบมือและตะโกนเชียร์ฉินหมิง!บนเวที“ฉินหมิง แกชนะแล้ว ฉันยอมรับความพ่ายแพ้”ใบหน้าของเหลิ่งหลงเซิงดูน่าเกลียดเขารู้ว่าตัวเองไม่อาจสู้ฉินหมิงได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเชื่อฟังคำสั่งของนายท่านเหลิ่ง ยอมรับความพ่ายแพ้และก้าวลงจากเวที“ฉินหมิง นายอา