ด้วยวัยของเจิ้งอวี่ เขาสามารถบรรลุสิ่งนี้ได้ เรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในหมู่คนรุ่นใหม่ของเมืองหลัวไห่แล้ว!แม้ว่านายท่านเจิ้งจะเคยผ่านคลื่นลมและพายุฝนมาหลายครั้ง เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเล็กน้อย และรู้สึกภาคภูมิใจในตัวหลานชายของเขา!“น้องเจ๋อ ฉันเตือนนายไปเมื่อกี้นี้แล้วนะว่าระดับการบ่มเพาะของฉันเพิ่งจะทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้ไม่นาน ยังควบคุมพลังได้ไม่เต็มที่”“ครั้งนี้ฉันไม่ทันระวังเลยเผลอลงมือหนักเกินไป ทำร้ายนายเข้า นายก็อย่าโทษฉันเลย”เจิ้งอวี่หันไปมองเจิ้งเจ๋อแล้วยิ้มอย่างลุแก่โทษ“พี่…”สีหน้าของเจิ้งเจ๋อดูน่าเกลียด แต่เขาก็ไม่อาจโต้แย้งได้ท้ายที่สุด เป็นเขาเองที่เสนอให้มีการประลองขึ้น เจิ้งอวี่เตือนเขาล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้เขาตกอยู่ในสถานการณ์นี้ แม้จะรู้สึกขมขื่นในใจ แต่ก็ทำได้เพียงกัดฟันและกลืนมันลงไปเท่านั้น!“เจิ้งอวี่ แกไม่ต้องมาเสแสร้งหรอก!”“ในเมื่อระดับการบ่มเพาะของแกไปถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เมื่อสักครู่นี้แกปลดปล่อยพลังออกมาเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองก็ได้แล้วนี่นา!”“แต่แกกลับจงใจแสร้งทำเป็นเห็นด้วยกับการประลอง เสี่ยวเจ๋อถึงได้เผลอตกหลุมพรางของ
แม้ว่าที่นี่คือเมืองหลัวไห่ไม่ใช่เมืองเจียงเฉิง แต่ยาหลอมลมปราณของหมิงเหยากรุ๊ปนั้นมีชื่อเสียงมาก เขาเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเล็กน้อย จึงตระหนักดีถึงความสำคัญของยาหลอมลมปราณต่อการบ่มเพาะของผู้ฝึกยุทธไม่ว่าจะในแง่ของมูลค่าทางการค้าหรือศักยภาพในการพัฒนา ยาหลอมลมปราณเป็นสิ่งที่ดีที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทนได้!“คุณปู่ครับ เมื่อสักครู่นี้ผมได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับคุณฉินและคุณหนูซูเรื่องยาหลอมลมปราณในนามของตระกูลเจิ้งของเราแล้ว ในอนาคตเมื่อหมิงเหยากรุ๊ปขยายตลาดมายังเมืองหลัวไห่ สิทธิ์ตัวแทนจำหน่ายยาหลอมลมปราณจะถูกส่งมอบให้กับตระกูลเจิ้งของเรารับผิดชอบ!”เจิ้งอวี่อาศัยจังหวะนี้ประกาศข่าวดีออกไป“จริงเหรอ? นี่มันเยี่ยมมาก!”นายท่านเจิ้งดีใจมากชายชราที่เดิมทีหลังงอ จู่ ๆ เขาก็ยืดตัวตรง บรรยากาศรอบกายทั้งหมดเปลี่ยนไป เต็มไปด้วยพลังงานใครก็ตามที่สามารถควบคุมยาหลอมลมปราณได้ ก็เทียบเท่ากับการควบคุมชีวิตส่วนหนึ่งของเหล่าผู้ฝึกยุทธ นี่ไม่ใช่เพียงคำพูดลอย ๆ!ตอนนี้ เจิ้งอวี่ได้รับสิทธิ์จำหน่ายเม็ดยาของหมิงเหยากรุ๊ปในเมืองหลัวไห่ สำหรับตระกูลเจิ้งแล้ว จากนี้ไปตระกูลเจิ้งจะขึ้นมาอยู่เหนืออ
“เพียงแต่เราได้นัดหมายคนอื่นไว้ล่วงหน้าแล้ว เกรงว่าจะไม่สามารถไปร่วมเลี้ยงฉลองกับคุณได้ ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ”ฉินหมิงยิ้มอย่างลุแก่โทษ“ใช่แล้วค่ะ เราสองคนนัดหมายคนอื่นไว้ก่อนแล้ว…”ซูซินเหยาพยักหน้าเธอรับปากเจี่ยงฉินว่าบ่ายวันนี้จะไปหารือกับเจี่ยงฉินเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือด้านยาเสริมความงามและยาอายุวัฒนะอื่น ๆ เธอจะไม่ผิดสัญญาแน่นอน"นี่..."นายท่านเจิ้งขมวดคิ้ว รู้สึกลำบากใจนิดหน่อย“ปู่ครับ ในเมื่อคุณฉินและคุณหนูซูมีธุระในตอนบ่าย ตามความเห็นของผม เราเปลี่ยนจากมื้อกลางวันเป็นมื้อค่ำก็ได้แล้วนี่”“รอคุณฉินและคุณหนูซูว่างในตอนเย็นแล้ว เราค่อยไปฉลองเลี้ยงรับรองพวกเขาด้วยกัน”เจิ้งอวี่แนะนำ“ใช่แล้ว เปลี่ยนเป็นงานเลี้ยงมื้อค่ำก็ได้แล้ว!”“คุณฉิน คุณหนูซู ไม่ทราบว่าคืนนี้ทั้งสองคนพอจะมีเวลาว่างไหม?”นายท่านเจิ้งถาม“คืนนี้เราสองคนไม่มีธุระอะไรครับ”ฉินหมิงตอบ“ดี ถ้าอย่างนั้นงานเลี้ยงกำหนดเป็นตอนเย็น ถึงตอนนั้นขอให้ฉันได้แสดงความขอบคุณทั้งสองคนด้วย”นายท่านเจิ้งพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง“ได้ครับ ในเมื่อเป็นแบบนี้เราสองคนก็เคารพมิสู้ทำตามแล้ว”ฉินหมิงพยักหน้า และกล่าวว่าจะไ
อีกฝ่ายสวมชุดสูทและรองเท้าหนัง แต่งตัวเหมือนคนที่ประสบความสำเร็จ สามารถบอกได้ทันทีว่าเขาเป็นนักธุรกิจที่ค่อนข้างฉลาดและมีความสามารถ“พ่อคะ หนูขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือฉินหมิง ประธานบริษัทหมิงเหยากรุ๊ปแห่งเมืองเจียงเฉิง”“ส่วนคนข้าง ๆ นี้คือซูซินเหยา ประธานกรรมการบริหารของหมิงเหยากรุ๊ป เธอยังเป็นเพื่อนสนิทของหนูสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วย…”เจี่ยงฉินแนะนำทั้งสองฝ่ายโดยย่อ“สวัสดีครับ/ค่ะ ลุงเจียง ยินดีที่ได้รู้จัก”ฉินหมิงและซูซินเหยาทักทายอีกฝ่ายอย่างสุภาพ“ประธานฉิน ประธานซู ฉันเตรียมมื้อกลางวันไว้พร้อมแล้ว โปรดตามมา เราไว้พูดคุยกันขณะที่ทานอาหารเถอะ”เจี่ยงเหวินเจิงทักทายอย่างอบอุ่น ภายใต้การนำของเขา หลายคนเดินเข้าไปในห้องอาหารที่อยู่ข้าง ๆห้องอาหารนี้ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรามาก ทั้งโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหารอันโอชะและไวน์ราคาแพง“ประธานฉิน ฉันได้ยินฉินฉินพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้แล้ว ต้องขอบคุณไหวพริบและความกล้าหาญของคุณ เรื่องร้าย ๆ จึงไม่เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาคงจะเป็นหายนะ”เจี่ยงเหวินเจิงชื่นชมอย่างไม่ลังเล“ลุงเจี่ยง ชมเกินไปแล้วครับ”ฉินหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฉินหมิง ไช่เม่านั่นคงไม่ใช่ว่ามาที่นี่เพราะพวกเราหรอกนะ?"ซูซินเหยาขมวดคิ้ว คาดเดาเจตนาของไช่เม่าได้อย่างคลุมเครือ“อืม เป็นไปได้"“ไปกันเถอะ เราตามไปดูสถานการณ์กัน”ฉินหมิงกล่าวเขาไม่ใช่คนบ้าบิ่น จึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วส่งข้อความถึงเจิ้งอวี่ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นถึงเดินออกไปพร้อมกับซูซินเหยาในลานบ้านไช่เม่าขาเข้าเฝือกข้างหนึ่ง ทั้งตัวมีแต่ผ้าพันแผล ดูน่าสังเวชมากถัดจากเขา คือชายหนุ่มตัวสูงที่ดูสง่างามชายคนนี้อายุประมาณสามสิบปี ท่าทางค่อนข้างเย่อหยิ่ง เขาก็คือไช่หงเซิน คุณชายใหญ่สายตรงของตระกูลไช่ด้านหลังไช่หงเซินมีบอดี้การ์ดของตระกูลไช่ในชุดสีดำมากกว่ายี่สิบคน บอดี้การ์ดเหล่านี้มีร่างกายที่บึกบึนแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เมื่อยืนเข้าแถวเรียงเดี่ยว จึงทั้งสะกดข่มและดูเอิกเกริกมาก“นายน้อยเซิน ผมได้สอบถามมาอย่างชัดเจนแล้ว ประธานหมิงเหยากรุ๊ปฉินหมิงและประธานกรรมการบริหารซูซินเหยาตอนนี้กำลังมาเป็นแขกที่ตระกูลเจี่ยง”“ทั้งสองคนล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูงของหมิงเหยากรุ๊ป ตราบเท่าที่เราจับตัวพวกเขาไว้และใช้วิธีการบางอย่าง จากนี้ไปตระกูลไช่ของเราก็จะสามารถควบ
“นายทำเกินไปแล้ว!”เจี่ยงฉินขึ้นเสียงอย่างมีโทสะ“นังสารเลว เลิกก็คือเลิก เธอไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องไร้ประโยชน์พวกนี้กับฉัน!”“สรุปสั้น ๆ ก็คือ ฉันหาเจอแล้วว่าตอนนี้ฉินหมิงและซูซินเหยามาเป็นแขกที่ตระกูลเจี่ยงของเธอ ทำตัวว่าง่ายสักหน่อยแล้วส่งตัวทั้งสองคนมาซะ!”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าฉันหยาบคายกับเธอเลย!”ไช่เม่ากล่าวพร้อมกับรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้า“นาย...บัดซบ!”เจี่ยงฉินโกรธมากจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำผู้หญิงเป็นเพศที่มีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าเสมอ หลังจากเลิกกับไช่เม่าเมื่อเช้านี้ เธอยังรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจอยู่เล็กน้อยแต่ตอนนี้ เธอผิดหวังในตัวไช่เม่าอย่างมาก!“ไช่เม่า แกมันไร้ยางอาย!”“เมื่อคืนนี้ เห็นแก่ที่คุณหนูเจี่ยงอุตส่าห์วิงวอนร้องขอความเมตตาแทนแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันถึงได้ปล่อยแกไป ไม่คิดว่าแกจะพลิกสีหน้าเร็วขนาดนี้!”“จะบอกว่าแกเป็นพวกเศษเดนของมนุษย์ดี ก็ออกจะเป็นการดูถูกคำว่า ‘เศษเดน’ สองคำนี้เกินไปสักหน่อย!”ตอนนี้เอง เสียงเยาะเย้ยเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ฉินหมิงและซูซินเหยาเดินออกมาพร้อมกัน“ไอ้หนู พวกแกสองคนอยู่ที่นี่จริง ๆ!”“เมื่อคืนนี้ฉันประมาทเลยตกอยู่ในม
ฉินหมิงกล่าว พลางมองไปที่ไช่หงเซินและพูดอย่างเย็นชาว่า “นายน้อยไช่ พูดมาเลย นายต้องการให้พวกเราชดใช้ยังไง?""เยี่ยม ตรงไปตรงมาดีมาก!"“ขอแค่พวกแกมอบสูตรและวิธีการหลอมยาหลอมลมปราณเพื่อชดเชยการบาดเจ็บ ฉันก็จะหยุดความแค้นนี้ไว้เพียงแค่นี้!""ไม่อย่างนั้น เตรียมรับผลที่จะตามมาด้วยตัวเองได้เลย!"ไช่หงเซินแสดงความตั้งใจของเขาเป้าหมายหลักของเขาในครั้งนี้ก็คือสูตรยาหลอมลมปราณ มีเพียงแต่ได้รับสูตรยาหลอมลมปราณมาเท่านั้นถึงจะสามารถควบคุมยาหลอมลมปราณได้อย่างแท้จริง มิฉะนั้นเขาจะเสียเวลาคุยกับฉินหมิงและซูซินเหยาทำไม!“นายต้องการสูตรยาหลอมลมปราณเหรอ?”“โลภมากทีเดียว!”ฉินหมิงหัวเราะจุดประสงค์ของไช่เม่าเมื่อคืน เพียงต้องการได้รับสิทธิ์การร่วมมือกับหมิงเหยากรุ๊ป แต่จุดประสงค์ของไช่หงเซิน คือตัดปัญหาทั้งหมดและรับสูตรยาหลอมลมปราณไปโดยตรงนี่ชั่วร้ายยิ่งกว่าไช่เม่าเสียอีก!อย่างไรก็ตาม ฉินหมิงต้องยอมรับว่าไช่หงเซินฉลาดมากจริง ๆ หากเขาได้รับสูตรยาหลอมลมปราณไป สิ่งนี้จะมีประโยชน์มากกว่าการได้รับสิทธิ์ความร่วมมือจากหมิงเหยากรุ๊ปถึงร้อยเท่า!สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือ การหลอมยาหลอมลมปราณจำเป็น
เจี่ยงเหวินเจิงก้าวออกมาอย่างทันท่วงที“แจ้งตำรวจเหรอ?”“ตาแก่ อย่าทำตัวได้คืบจะเอาศอก!""ฉันขอเตือนแก ถ้าแกยังพอจะมีสมองอยู่บ้าง ถอยกลับไปแล้วไปยืนอยู่ตรงนั้นอย่างว่าง่ายซะ ไม่อย่างนั้น อย่าโทษว่าฉันไม่เกรงใจกับตระกูลเจี่ยงของแก!"ไช่หงเซินพูดอย่างเย็นชาครั้งนี้เขาก่อเรื่องโดยมีมูลเหตุ แม้แต่คนของกลุ่มอู่หลงจู่เขายังไม่เห็นอยู่ในสายตา จะกลัวเจี่ยงเหวินเจิงโทรแจ้งตำรวจได้ยังไง!“คุณ…” จมูกของเจี่ยงเหวินเจิงเกือบจะบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเขารู้ว่าตระกูลไช่มีอำนาจและทรงอิทธิพลอย่างมากในถิ่นนี้ ตราบเท่าที่ไช่หงเซินไม่ได้ทำสิ่งชั่วร้ายอย่างเช่นการฆาตกรรมและลอบวางเพลิง แม้ว่าเขาจะแจ้งตำรวจมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร“คุณฉิน คุณหนูซู เป้าหมายของไช่หงเซินคือพวกคุณสองคน รีบไปจากที่นี่เถอะ!”“ตราบเท่าที่คุณสองคนหนีไปอย่างปลอดภัยแล้ว ไช่หงเซินจะไม่ทำอะไรกับตระกูลเจี่ยงของเราแน่นอน”เจี่ยงเหวินเจิงจงใจลดเสียงของเขาขณะพูด“ใช่แล้ว คุณพ่อพูดถูก”“ซินเหยา เธอและฉินหมิงรีบหนีไปก่อน ไม่ต้องห่วงพวกเรา…”เจี่ยงฉินกระซิบเมื่อคืนนี้เธอได้เห็นทักษะวรยุทธของฉินหมิงแล้ว ก่อนที่อีกฝ่ายจะเริ่มโจมตี
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ