“หมอนี่เป็นใครกัน หรือว่าจะเป็นแฟนของประธานซู?”“ไม่ใช่ ประธานซูคือหนึ่งในสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิง แถมเธอยังเป็นแก้วตาดวงใจของตระกูลซูด้วย ด้วยสถานะที่สูงส่งของเธอ ถ้าเธอมีแฟน เรื่องนี้คงจะแพร่กระจายไปทั่วเมืองเจียงเฉิงแล้ว ไม่มีทางที่พวกเราจะไม่รู้เรื่องนี้”“อืม พูดได้ถูกต้อง ฉันคิดว่าบางทีหมอนี่อาจจะเป็นผู้ช่วยหรือเลขานุการคนใหม่ของประธานซู…”……เมื่อเห็นฉินหมิงและซูซินเหยาเดินจากไป ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบและพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุด หลายคนคิดว่าฉินหมิงเป็นผู้ช่วยหรือเลขานุการคนใหม่ของซูซินเหยา ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกสมดุลมากขึ้นในห้องทำงานของประธานซูซินเหยาสั่งให้พนักงานหลายคนยกโต๊ะเข้ามาและจัดโต๊ะของฉินหมิงไว้ข้าง ๆ เธอ โต๊ะของพวกเขาอยู่ติดกัน เวลาทำงานจะได้สะดวกมากขึ้นหลังจากที่พนักงานหลายคนออกไป ก็เหลือเพียงฉินหมิงและซูซินเหยาสองคนในห้อง“ซินเหยา เธอจัดห้องทำงานแยกให้กับฉันก็ได้ ทำไมต้องจัดโต๊ะให้ติดกับเธอด้วย”ฉินหมิงถามด้วยความสับสนท้ายที่สุดแล้ว เขาเองก็เป็นประธานบริษัท ส่วนซูซินเหยาคือประธานผู้บริหาร ในฐานะผู้นำระดับสูงของบริษัททั้งสองคน
“ซินเหยา ขอบคุณนะครับ…”ฉินหมิงมองไปที่ซูซินเหยาด้วยสีหน้าขอบคุณเขาไม่ได้ใจแข็งเป็นหิน ซูซินเหยาคิดเผื่อเขาอยู่เสมอและเขาก็ค่อนข้างซาบซึ้งใจอยู่ไม่น้อยเลย“ไปกันเถอะค่ะ ฉันจะพาคุณไปเดินดูรอบ ๆ ก่อน”ซูซินเหยายิ้มอย่างอ่อนหวาน จับมือของฉินหมิงแล้วเดินออกจากห้องทำงานด้วยกันกับกระทำที่ใกล้ชิดโดยไม่ตั้งใจแบบนี้ของซูซินเหยา ฉินหมิงรู้สึกไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเล็กน้อยอย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงอุปนิสัยที่จริงใจและตรงไปตรงมาของซูซินเหยา รวมถึงความพยายามของเธอในการช่วยเหลือเขา ในที่สุดเขาก็ปล่อยให้ซูซินเหยาทำตามอำเภอใจหมิงเหยากรุ๊ปเป็นบริษัทยาที่ดำเนินธุรกิจด้านเภสัชภัณฑ์ทั่วไปเป็นหลักสิ่งที่ผลิตในเวิร์คช็อปก็คือผลิตภัณฑ์ยาธรรมดาฉินหมิงอาศัยคัมภีร์ทางการแพทย์ในหัวของเขา เขียนสูตรยาหลายสูตรและมอบให้กับบริษัทเพื่อผลิตตั้งนานแล้วด้วยสูตรยาที่พิเศษเหล่านี้ บวกกับความจริงที่ว่าบริษัทได้สร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยยาหลอมลมปราณแล้ว การผลิตจึงดำเนินไปอย่างรวดเร็วขอแค่มีเวลาเพียงพอ เชื่อว่าหมิงเหยากรุ๊ปจะขึ้นมาครอบครองอุตสาหกรรมยาของเมืองเจียงเฉิงได้ในไม่ช้า!ฉินหมิงและซูซินเหยาเดินไปรอบ ๆ เว
หัวใจของฉินหมิงเต้นแรง ฝ่ามือที่ประหม่าของเขาเริ่มมีเหงื่อไหล หัวใจของเขาตอนนี้แทบจะกระดอนออกมาจากปากอยู่แล้วเขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดา แถมยังเป็นผู้ชายที่เลือดร้อนคนหนึ่ง จะทนต่อการล่อลวงแบบนี้ได้ยังไงชั่วขณะหนึ่งเขาอยากจะจับเท้าอันแสนละเอียดอ่อนของซูซินเหยาไว้ในมือแล้วหยอกเล่นกับมัน แต่สติสัมปชัญญะรั้งหยุดเขาไว้ได้ทัน“มีอะไรไม่เหมาะสมกัน?”“คุณเองก็สัญญาแล้วว่าจะชดเชยให้ฉัน หรือคุณคิดจะกลับคำเหรอ?”ซูซินเหยาพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำในความเป็นจริง ไม่ใช่แค่ฉินหมิงเท่านั้นที่ประหม่า ตัวเธอประหม่ามากกว่าฉินหมิงด้วยซ้ำ แถมยังเขินอายมาก กระทั่งอยากจะตัดใจเสียให้รู้แล้วรู้รอดแต่เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับฉินหมิง และเพื่อเข้าถึงหัวใจของฉินหมิงโดยเร็วที่สุด ในที่สุดเธอก็กัดฟันและยืนกรานทำต่อ“ผม…”ฉินหมิงพึมพำเบา ๆเขาต้องการตอบแทนซูซินเหยาจริง ๆ สำหรับการทำงานอย่างหนักของเธอในช่วงนี้ แต่การตอบแทนแบบนี้มันหอมหวานเกินไปหน่อย ทำไมเขาถึงรู้สึกว่านี่ไม่เหมือนการตอบแทนเลย ตรงกันข้ามมันเหมือนเป็นรางวัลสำหรับเขามากกว่า“ซินเหยา ชายและหญิงแตกต่าง ทำไมคุณไม่ลองเปลี่ยนเงื่อนไขดูล่ะ”ฉินหมิงพูดอย่างก
ซูซินเหยาอดไม่ได้ครางอื้มออกมาตู้ม!หัวของฉินหมิงระเบิดออกด้วยเสียงหึ่ง ๆ เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะบ้าเมื่อได้ยินเสียงร้องครางที่ราวกับมาจากสวรรค์ของซูซินเหยาก้องในหู บวกกับความรู้สึกนุ่มนวลและมหัศจรรย์จากขาเรียวยาวใต้ถุงน่องที่ส่งมา การล่อลวงสองเท่านี้ กระตุ้นจิตวิญญาณที่เปราะบางของเขาอย่างลึกล้ำชั่วขณะหนึ่ง เลือดพลันพุ่งพล่านขึ้นมาในอกของเขา แรงกระตุ้นที่ไม่เคยมีมาก่อนทะลักทะลวงเข้าสู่หัวใจกริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!ตอนนี้เอง เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น ปลุกจิตใจของฉินหมิงซึ่งกำลังจะพังทลายลงให้ฟื้นคืนสติขึ้นมาโชคดี!สายนี้มาทันเวลาพอดี!ฉินหมิงโล่งใจมาก วางขาที่สวยงามทั้งสองข้างของซูซินเหยาลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดรับสายรอจนกระทั่งฉินหมิงคุยโทรศัพท์เสร็จซูซินเหยาก็อดไม่ได้ถามอย่างสงสัยว่า "ฉินหมิง ใครโทรมาเหรอ?"“อ้อ เป็นเฝิงหลุนน่ะ เขาบอกว่าเขาอยากขอความช่วยเหลือจากผมเรื่องหนึ่ง…”ฉินหมิงอธิบายอย่างง่ายๆ “ซินเหยาครับ ผมจะไปที่นั่นและดูว่าเขาอยากให้ผมช่วยอะไร เรื่องของบริษัทคงต้องยกให้คุณจัดการอีกแล้ว”“แต่คุณกำลังนวดให้ฉันอยู่ ยังนวดไม่
การต่อสู้ครั้งนี้จึงตกมาที่หัวของเฝิงหลุนและลี่หยงเจี๋ยเฝิงหลุนมาขอความช่วยเหลือจากฉินหมิงในครั้งนี้ ก็เพื่อขอให้ฉินหมิงช่วยจัดการกับลี่หย่งเจี๋ย“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!”ฉินหมิงโกรธจัด เขามองไปที่เฝิงหลุนและถามว่า “นายน้อยเฝิง ไม่รู้ว่าคุณอยากให้ผมช่วยคุณยังไง"“เป็นแบบนี้ครับ ลี่หย่งเจี๋ยกับผมได้ทำข้อตกลงกัน เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย เราสองคนจึงวางแผนที่จะจัดการแข่งขันเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งนี้โดยเฉพาะ…”“และสิ่งของเดิมพันก็คือถิ่นของหลัวซื่อฉง ใครก็ตามที่ชนะการแข่งขันในครั้งนี้ ก็จะได้ถิ่นของหลัวซื่อฉงไปครอง”เฝิงหลุนอธิบายสถานการณ์โดยย่อตราบเท่าที่เขาสามารถเอาชนะได้ ถิ่นของหลัวซื่อฉงก็จะตกเป็นของเนี่ยอู๋ในทางตรงกันข้าม ถ้าลี่หย่งเจี๋ยชนะ ถิ่นของหลัวซื่อฉงจะต้องถูกคืนให้กับราชาแดนเหนืออย่างเต็มจำนวน“ด้วยความเคารพ พ่อของคุณราชาแดนใต้มียอดฝีมือภายใต้การบังคับบัญชาของเขามากมายราวกับก้อนเมฆ แค่คุณขอให้เขาจัดยอดฝีมือสักหลายคนมาช่วยเหลือ แค่นี้ก็จบเรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ?”ฉินหมิงถามด้วยความสับสน“มันไม่ง่ายขนาดนั้น ตัวตนของพ่อของผมค่อนข้างอ่อนไหว ทั้งเขาและราชาแดนเหนือทั้งสองคนล้
“นายน้อยฉิน กำหนดการแข่งขันคือช่วงบ่ายของวันนี้ มีคุณอยู่ เราจะชนะการแข่งขันในครั้งนี้อย่างแน่นอน!”เฝิงหลุนพูดอย่างตื่นเต้น ใบหน้าของเขาเองก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นจากนั้น เฝิงหลุนและฉินหมิงก็พูดคุยถึงเรื่องการแข่งขัน รอจนกระทั่งใกล้ถึงเวลาแล้ว หลายคนก็ขับรถตรงไปยังสถานที่จัดการแข่งขันในรีสอร์ทแห่งหนึ่งแถวเขตชานเมือง ที่นี่เป็นหนึ่งในทรัพย์สินภายใต้ชื่อของราชาแดนใต้เฝิงเจิ้นสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ เฝิงหลุนได้จัดให้คนของเขาเคลียร์สถานที่ล่วงหน้าและปิดไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้ามาชั่วคราวแล้วเมื่อเฝิงหลุนและฉินหมิงมาถึง ลานจอดรถที่นี่ก็เต็มไปด้วยรถยนต์หรูหราและรถสปอร์ตระดับไฮเอนด์ทุกประเภท มีไมบัค ปอร์เช่ จากัวร์และอีกมากมาย ซึ่งแต่ละคันก็ชวนให้ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าคันก่อน ๆบริเวณโดยรอบมีคนยืนอยู่เต็มแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นชายหนุ่มและหญิงสาวจากตระกูลที่ร่ำรวยหรือไม่ก็คนในแวดวงสังคมของเมืองเจียงเฉิงในหมู่พวกเขามีแม้กระทั่งเด็กจากตระกูลชั้นสูง บางคนเป็นเพื่อนสนิทและผู้ติดตามในโลกใต้ดินของเฝิงหลุน มาที่นี่เพื่อให้กำลังใจเขาโดยเฉพาะนอกจากนี้ยังมีคู่แข่งทางธุรกิจของตระกูลเฝิง ซึ่งมาที
คนที่มาคือหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยอย่างน่าทึ่ง เธอมีอายุประมาณยี่สิบเจ็ดถึงยี่สิบแปดปี มีรูปร่างสูงและสง่างามมาก สวมแว่นกันแดดแฟชั่นไว้บนใบหน้าที่สวยงามของเธอร่างกายที่แต่งกายด้วยชุดสีดำส่งให้เอวบางยิ่งดูคอดกิ่ว เผยให้เห็นรูปร่างที่ร้อนแรงอย่างร้ายกาจชัดเจนผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เธอก็คือเฝิงรั่วซวงพี่สาวของเฝิงหลุนเฝิงรั่วซวงเองก็เป็นหนึ่งในสี่สาวงามของเมืองเจียงเฉิงในอันดับที่สาม และจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่และมีเสน่ห์ที่สุด ทุกอิริยาบถและการเคลื่อนไหวของเธอ ช่างเย้ายวนใจและมีเสน่ห์อย่างเป็นธรรมชาติ เธอคือเทพธิดาแห่งความเซ็กซี่ในใจของผู้ชายหลาย ๆ คน!การปรากฏตัวของเธอ กระตุ้นความตื่นเต้นของทุกคนอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายบางคน พวกเขาทั้งหมดมองไปที่เธอด้วยสายตาเร่าร้อน หวังเพียงว่าจะได้ครอบครองสาวงามที่เซ็กซี่นี้เป็นของตัวเองแม้แต่ฉินหมิงซึ่งคุ้นเคยกับการได้เห็นผู้หญิงสวยจนน่าทึ่ง ก็ยังอดไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ คำแปดคำพลันลอยเข้ามาในหัวของเขา งดงามดั่งผลท้อ เย็นชาดุจน้ำแข็ง!เฝิงรั่วซวงเป็นสาวงามประเภทพี่สาวสุดสวย เธอไม่เพียงแต่สวยชนิดที่ยากจะหาใครมาทัดเทียมได้เท
สิ่งนี้ทำให้ทั้งฉินหมิงและเฝิงหลุนกระอักกระอ่วนอย่างมาก“พี่ครับ อย่าพูดเหลวไหล นายน้อยฉินเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์!”“เพียงแต่ว่าเขาค่อนข้างถ่อมตัว มีไม่กี่คนในแวดวงเท่านั้นที่เคยได้ยินชื่อเสียงของเขา”เฝิงหลุนอธิบายอย่างรวดเร็ว“ว่าไงนะ?”“เขาเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์เหรอ?”“นี่...เป็นไปได้ยังไง!”เฝิงรั่วซวงตกตะลึง เธอมองฉินหมิงขึ้น ๆ ลง ๆ หลายครั้งด้วยดวงตาที่งดงามของเธอ ยิ่งมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าฉินหมิงเป็นจอมลวงโลก!แวดวงของผู้ฝึกยุทธในเมืองเจียงเฉิงนั้นจะว่าเล็กก็ไม่เล็ก แต่จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่แต่ในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ บุคคลที่โดดเด่นที่สุดสองคนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซูห่าวและเค่ออั๋งด้วยอายุของฉินหมิงที่น้อยแบบนี้ ถ้าเขาเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์จริง ๆ คงจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากกว่าเค่ออั๋งและซูห่าวไปนานแล้ว ย่อมไม่มีทางเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักแบบนี้!“ใช่ เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ!”หลิวเหว่ยและคนอื่น ๆ เองก็ตกใจมากเหมือนกันความคิดของพวกเขาคล้ายกับของเฝิงรั่วซวง ไม่มีใครเชื่อว่าฉินหมิงจะเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์!นี่มันไม่สมจริงเลย!“คุณหนูใหญ่ครับ ทุกสิ่งที่นายน้อยเฝิ