สิ่งนี้ทำให้ทั้งฉินหมิงและเฝิงหลุนกระอักกระอ่วนอย่างมาก“พี่ครับ อย่าพูดเหลวไหล นายน้อยฉินเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์!”“เพียงแต่ว่าเขาค่อนข้างถ่อมตัว มีไม่กี่คนในแวดวงเท่านั้นที่เคยได้ยินชื่อเสียงของเขา”เฝิงหลุนอธิบายอย่างรวดเร็ว“ว่าไงนะ?”“เขาเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์เหรอ?”“นี่...เป็นไปได้ยังไง!”เฝิงรั่วซวงตกตะลึง เธอมองฉินหมิงขึ้น ๆ ลง ๆ หลายครั้งด้วยดวงตาที่งดงามของเธอ ยิ่งมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าฉินหมิงเป็นจอมลวงโลก!แวดวงของผู้ฝึกยุทธในเมืองเจียงเฉิงนั้นจะว่าเล็กก็ไม่เล็ก แต่จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่แต่ในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ บุคคลที่โดดเด่นที่สุดสองคนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซูห่าวและเค่ออั๋งด้วยอายุของฉินหมิงที่น้อยแบบนี้ ถ้าเขาเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์จริง ๆ คงจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากกว่าเค่ออั๋งและซูห่าวไปนานแล้ว ย่อมไม่มีทางเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักแบบนี้!“ใช่ เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ!”หลิวเหว่ยและคนอื่น ๆ เองก็ตกใจมากเหมือนกันความคิดของพวกเขาคล้ายกับของเฝิงรั่วซวง ไม่มีใครเชื่อว่าฉินหมิงจะเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์!นี่มันไม่สมจริงเลย!“คุณหนูใหญ่ครับ ทุกสิ่งที่นายน้อยเฝิ
เฝิงรั่วซวงพูดอย่างเย็นชาทันทีที่เธอออกคำสั่ง หลิวเหว่ยก็พร้อมที่จะดำเนินการ เขาเรียกคนของเขาหลายคนให้เริ่มขับไล่คนคนนี้ออกไป“รอเดี๋ยว!”“นายน้อยฉินเป็นเพื่อนที่ฉันเชิญมา ฉันจะดูว่าใครกล้าดูหมิ่นเขา!”เฝิงหลุนตวาดด้วยสีหน้าไม่พอใจมาก“เสี่ยวหลุน นาย…”ใบหน้าที่สวยงามของเฝิงรั่วซวงเปลี่ยนเป็นเย็นชา แต่ก่อนที่เธอจะได้พูด ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากฝั่งตรงกันข้าม คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา“ลี่หย่งเจี๋ยมาแล้ว!”ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็หันไปที่เขา แม้แต่เฝิงรั่วซวงและเฝิงหลุนเองก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าเคร่งขรึมท่าทีของลี่หย่งเจี๋ยยังคงเย่อหยิ่งเช่นเคย เขาเชิดหน้าขึ้นแล้วเดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาที่รายล้อม เดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าไม่ไกลออกไปนัก“โอ้ ฉันก็นึกว่าใคร นี่ไม่ใช่เฝิงรั่วซวง คุณหนูใหญ่ของตระกูลเฝิงหรอกเหรอ!”ลี่หย่งเจี๋ยมองเห็นเฝิงรั่วซวงที่แสนโดดเด่นก่อนเป็นคนแรก สายตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าที่สวยงามและรูปร่างที่เร่าร้อนของเฝิงรั่วซวงอยู่นานหลายวินาที สายตาอดไม่ได้ที่จะฉายความโลภออกมา“ลี่หย่งเจี๋ย ตานายกำลังมองไปที่ไหน? เชื่อไหมล่ะว่าฉันจะควักลูกตาของนายออ
“ฉันก็มีความคิดนั้นเหมือนกัน!”“นายวางใจเถอะ ฉันจะเล่นกับนายให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน!”ลี่หย่งเจี๋ยเยาะเย้ยหลังจากนั้น ทั้งสองคนก็กลับไปที่ค่ายของตัวเองและเริ่มจัดการเรื่องที่เกี่ยวกับการแข่งขันกฎกติกาการแข่งขันนั้นเรียบง่ายมาก แต่ละฝ่ายส่งคนห้าคนออกไปต่อสู้ทีละคน ผู้ชนะจะอยู่บนเวทีต่อส่วนผู้แพ้ออกจากเวทีไป รอจนกว่าคนทั้งห้าคนของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์ ก็จะถือว่าแพ้ในการแข่งขันนี้เฝิงหลุนเรียกทุกคนมารวมตัวกัน "ฉันจะจัดห้าคนที่จะขึ้นเวทีก่อน..."“ไม่จำเป็น ต่อจากนี้ไปเรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน!”เฝิงรั่วซวงพูดอย่างเผด็จการมาก จากนั้นเธอก็เตรียมการบอร์ดี้การ์ดสองคนของเฝิงหลุนถูกจัดให้ขึ้นแข่งในเกมแรกและเกมที่สอง เนี่ยอู๋รับผิดชอบเกมที่สาม และพยัคฆ์ขนทองจ้าวหงเซิงรับผิดชอบเกมที่สี่ส่วนเธอที่มีระดับการบ่มเพาะสูงสุด จะรับผิดชอบเกมสุดท้าย“นี่จะได้ยังไง!”“แล้วนายน้อยฉินล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่ถูกจัดให้ลงแข่งขัน?”เฝิงหลุนตกใจมาก เขาคัดค้านทันที“จอมลวงโลกคนหนึ่งจะส่งขึ้นเวทีไปทำไม?”“ส่งเขาไปก็ทำให้เราอับอายเปล่า ๆ!”เฝิงรั่วซวงพูดอย่างเย็นชาแม้ว่าคำพูดเมื่
เมื่อสัมผัสได้ถึงความรังเกียจและสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามของเฝิงรั่วซวง ฉินหมิงก็ไม่ใส่ใจมากนักนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้พบกับเฝิงรั่วซวงเมื่อสักครู่นี้ ทัศนคติของเฝิงรั่วซวงที่มีต่อเขานั้นก็ไม่เป็นมิตรมาโดยตลอด แม้กระทั่งพยายามสร้างปัญหาให้เขาทุกที่ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีมิตรภาพอันดีกับเฝิงหลุน และได้ตกลงตามคำขอของเฝิงหลุนไว้ล่วงหน้าแล้ว เขาคงจะสะบัดก้นจากไปนานแล้ว จะอยู่ดูสีหน้าของเฝิงรั่วซวงแบบนี้ทำไม!ถือคติที่ว่าผู้ชายดี ๆ ไม่ทะเลาะกับผู้หญิง เขาเพิกเฉยต่อสายตาที่ทิ่มแทงมาของเฝิงรั่วซวงโดยตรง“นายน้อยเฝิง ถ้ายังไงคุณมานั่งกินผลไม้ด้วยกันไหม?”ฉินหมิงหยิบผลไม้ลูกหนึ่งแล้วโยนให้เฝิงหลุน"เอาสิ ยังไงซะตอนนี้ผมก็ว่างอยู่แล้ว... "เฝิงหลุนตอบรับด้วยรอยยิ้ม รีบก้าวขึ้นไปนั่งตรงข้ามกับฉินหมิง จากนั้นทั้งสองก็กินดื่มกัน พูดคุยและหัวเราะกันอย่างมีความสุข บรรยากาศดูกลมกลืนมากหมอนี่จงใจยั่วโมโหเธอ!ใบหน้าที่สวยงามของเฝิงรั่วซวงแดงก่ำด้วยความโกรธ ดวงตาที่งดงามของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ อย่างไรก็ตามเพราะเห็นแก่หน้าเฝิงหลุนน้องชายของตัวเอง เธอจึงไม่สามารถทำอะไรกับฉินหมิงได้“พี่ซวงครับ พี่ไม
ตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่แสนดุเดือดของจ้าวหงเซิง เขาจึงค่อย ๆ เสียเปรียบแต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เขาก็ยังยืนหยัดต่อสู้กับจ้าวหงเซิงอีกหลายสิบกระบวนท่า และในที่สุดก็พ่ายแพ้ให้กับจ้าวหงเซิงเพราะพลังไม่พอ"ในที่สุดก็ชนะหนึ่งเกมแล้ว!"เฝิงรั่วซวงลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่สวยงามของเธอหลิวเหว่ยและคนอื่น ๆ เองก็ตกอยู่ในสภาพที่คล้ายคลึงกัน ขวัญกำลังใจของพวกเขาได้รับการฟื้นฟูขึ้นเล็กน้อยอนิจจาช่วงเวลาที่ดี ๆ นั้นอยู่ได้ไม่นานเมื่อสักครู่นี้จ้าวหงเซิงใช้กำลังทั้งหมดเพื่อปะทะกับตู้ไฉ กำลังของเขาจึงหดหายไปมาก เมื่อยกต่อไปเริ่มต้นขึ้น หลังจากยืนหยัดแลกเปลี่ยนหลายกระบวนท่า ในที่สุดเขาก็พ่ายแพ้ให้กับหนึ่งในบอดี้การ์ดของลี่หย่งเจี๋ย"บัดซบ!"“ทำไมถึงเป็นแบบนี้”ใบหน้าที่สวยงามของเฝิงรั่วซวงเปลี่ยนไป เธอไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไปแล้วหลังจากผ่านการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้ ฝั่งพวกเธอเสียคนไปแล้วสามคน ในขณะที่อีกฝั่งเพิ่งพ่ายแพ้ไปแค่คนเดียวเท่านั้นตอนนี้นอกจากฉินหมิงจอมลวงโลกนั่น เธอเป็นกำลังหลักเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ที่นี่ แต่อีกฝ่ายกลับเหลือผู
“ทำไมล่ะ หรือคุณคิดว่าพี่สาวผมแก่กว่าคุณมาก เลยไม่ค่อยเหมาะสมกัน”“นั่นไม่สำคัญหรอก ทุกวันนี้อายุห่างกันมากล้วนไม่ใช่ปัญหา อีกอย่างพี่ผมแก่กว่าคุณแค่สามหรือสี่ปีเท่านั้น พวกคุณทั้งหน้าตาดีและมีความสามารถทั้งคู่ ถ้าได้อยู่ด้วยกัน ก็เป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบเลย!”เฝิงหลุนพูดอย่างไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้“นายน้อยเฝิง ขอโทษด้วยที่ผมต้องพูดตรง ๆ พี่สาวคุณทั้งสวยและมีภูมิหลังทางตระกูลที่ดี เธอจะต้องมีคนที่ตามจีบนับไม่ถ้วน!”“การจะหาแฟนที่เหมาะสมสำหรับเธอนั้นง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับชีวิตการแต่งงานของเธอหรอก”ฉินหมิงพูดแล้วก็รู้สึกแปลก ๆ“คุณไม่รู้อะไร พี่สาวของผมเธอเคยถูกทำร้ายความรู้สึกมาก่อน นับแต่นั้นมาเธอก็รังเกียจผู้ชายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายที่พูดเก่งแต่ไม่น่าเชื่อถือ…”“สรุปคือ ทั้งพ่อและผมต่างก็หวังว่าเธอจะพบกับผู้ชายที่สามารถฝากฝังตัวเองไปได้ตลอดชีวิตเร็ว ๆ และก้าวออกมาจากเงามืดนั้น”เฝิงหลุนถอนหายใจ“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!”ฉินหมิงเข้าใจบ้างแล้ว ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมเฝิงรั่วซวงถึงได้รังเกียจเขามากขนาดนี้บางทีเฝิงรั่วซวงอาจเคยถูกผู้ชายคนหนึ่งหลอ
“แบบนี้ก็ดี ยิ่งมีความหวังมากเท่าไร ตอนที่ผิดหวังก็จะยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น!”“อีกเดี๋ยว ฉันจะดับความหวังของเธอด้วยมือของฉันเอง ให้เธอได้ลิ้มรสและรู้ว่าความสิ้นหวังมันเป็นยังไง!”ลี่หย่งเจี๋ยพูดด้วยท่าทางหยิ่งผยอง“น่ากลัวว่าจะเป็นฝ่ายนายมากกว่าที่สิ้นหวัง!”เฝิงรั่วซวงแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา แต่ในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพียงแค่ว่าใบหน้าที่แสดงออกนั้นกลับสงบและนิ่งเฉยเธอเคยได้ยินมานานแล้วว่าระดับการบ่มเพาะของลี่หย่งเจี๋ยนั้นไปถึงขั้นสูงระดับสวรรค์ประทานนานแล้ว ห่างจากขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานเพียงก้าวเดียวเท่านั้นความแข็งแกร่งนี้มีแต่จะสูงกว่าของเธอแถมเมื่อสักครู่นี้เธอเพิ่งจะผ่านการต่อสู้มาสามรอบติด สูญเสียกำลังและพลังปราณแท้จริงไปอย่างมากทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากขนาดนี้ เธอคิดที่จะล้มลี่หย่งเจี๋ย ความหวังนั้นช่างริบหรี่มาก!"ทำไม เธอกลัวแล้วเหรอ?”ลี่หย่งเจี๋ยดูเหมือนจะมองเห็นความคิดของเฝิงรั่วซวง จากนั้นเขาก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาในใจ“คุณหนูใหญ่เฝิง ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง แถมเมื่อกี้นี้เพิ่งจะผ่านการต่อสู้ไป คงเสียแรงไปไม่น้อย”“ถ้าฉันเอาชนะเธอทั้งแบบนี้ มันก
พอดี ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรที่แน่นอน!เนื่องจากยาหลอมลมปราณนั้นล้ำค่ามากเกินไป ปัจจุบันในหมู่ขุมกำลังใหญ่ ๆ อุปสงค์มากกว่าอุปทานมาก ตระกูลใหญ่ทั้งหลายมีอยู่ในครอบครองเพียงแค่สองร้อยเม็ดเท่านั้นถ้าเกิดเธอไม่ระวังแล้วแพ้ขึ้นมา สุดท้ายจะเสียทั้งขุนเเละหมาก!ค่าตอบแทนนี้หนักหนามากเกินไป ทำให้เธอตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก“ทำไม แค่ยาหลอมลมปราณระดับหนึ่งสองร้อยเม็ด พวกเธอก็เดิมพันไม่ได้เลยเหรอ?”“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นฉันเปลี่ยนเงื่อนไขก็ได้!”ลี่หย่งเจี๋ยพูดด้วยท่าทางยียวน“เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขอะไร?”เฝิงรั่วซวงครุ่นคิดถ้าหากเงื่อนไขใหม่ของลี่หย่งเจี๋ยพอจะรับได้ง่ายกว่า เธออาจพิจารณายอมรับข้อเสนอของลี่หย่งเจี๋ยจริง ๆ!“คุณหนูใหญ่เฝิง เธอเป็นหนึ่งในสี่สาวงามของเมืองเจียงเฉิงของเรา เป็นคนรักในฝันของผู้ชายหลาย ๆ คน!”“กับเธอที่ทั้งสวยและเซ็กซี่แบบนี้ คิดว่าผู้ชายปกติทั่วไปใครก็ยากที่จะอดใจไหว!”“ถ้าหากฉันชนะ เธอมาอยู่เป็นเพื่อนฉันสักสองสามคืน ฉันเองก็อยากจะลิ้มรสสาวสวยที่เซ็กซี่แบบเธอจริง ๆ ไม่รู้ว่าจะอร่อยขนาดไหน...”ลี่หย่งเจี๋ยพูดด้วยร