สิ่งนี้ทำให้ทั้งฉินหมิงและเฝิงหลุนกระอักกระอ่วนอย่างมาก“พี่ครับ อย่าพูดเหลวไหล นายน้อยฉินเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์!”“เพียงแต่ว่าเขาค่อนข้างถ่อมตัว มีไม่กี่คนในแวดวงเท่านั้นที่เคยได้ยินชื่อเสียงของเขา”เฝิงหลุนอธิบายอย่างรวดเร็ว“ว่าไงนะ?”“เขาเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์เหรอ?”“นี่...เป็นไปได้ยังไง!”เฝิงรั่วซวงตกตะลึง เธอมองฉินหมิงขึ้น ๆ ลง ๆ หลายครั้งด้วยดวงตาที่งดงามของเธอ ยิ่งมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าฉินหมิงเป็นจอมลวงโลก!แวดวงของผู้ฝึกยุทธในเมืองเจียงเฉิงนั้นจะว่าเล็กก็ไม่เล็ก แต่จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่แต่ในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ บุคคลที่โดดเด่นที่สุดสองคนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซูห่าวและเค่ออั๋งด้วยอายุของฉินหมิงที่น้อยแบบนี้ ถ้าเขาเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์จริง ๆ คงจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากกว่าเค่ออั๋งและซูห่าวไปนานแล้ว ย่อมไม่มีทางเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักแบบนี้!“ใช่ เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ!”หลิวเหว่ยและคนอื่น ๆ เองก็ตกใจมากเหมือนกันความคิดของพวกเขาคล้ายกับของเฝิงรั่วซวง ไม่มีใครเชื่อว่าฉินหมิงจะเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์!นี่มันไม่สมจริงเลย!“คุณหนูใหญ่ครับ ทุกสิ่งที่นายน้อยเฝิ
เฝิงรั่วซวงพูดอย่างเย็นชาทันทีที่เธอออกคำสั่ง หลิวเหว่ยก็พร้อมที่จะดำเนินการ เขาเรียกคนของเขาหลายคนให้เริ่มขับไล่คนคนนี้ออกไป“รอเดี๋ยว!”“นายน้อยฉินเป็นเพื่อนที่ฉันเชิญมา ฉันจะดูว่าใครกล้าดูหมิ่นเขา!”เฝิงหลุนตวาดด้วยสีหน้าไม่พอใจมาก“เสี่ยวหลุน นาย…”ใบหน้าที่สวยงามของเฝิงรั่วซวงเปลี่ยนเป็นเย็นชา แต่ก่อนที่เธอจะได้พูด ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากฝั่งตรงกันข้าม คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา“ลี่หย่งเจี๋ยมาแล้ว!”ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็หันไปที่เขา แม้แต่เฝิงรั่วซวงและเฝิงหลุนเองก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าเคร่งขรึมท่าทีของลี่หย่งเจี๋ยยังคงเย่อหยิ่งเช่นเคย เขาเชิดหน้าขึ้นแล้วเดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาที่รายล้อม เดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าไม่ไกลออกไปนัก“โอ้ ฉันก็นึกว่าใคร นี่ไม่ใช่เฝิงรั่วซวง คุณหนูใหญ่ของตระกูลเฝิงหรอกเหรอ!”ลี่หย่งเจี๋ยมองเห็นเฝิงรั่วซวงที่แสนโดดเด่นก่อนเป็นคนแรก สายตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าที่สวยงามและรูปร่างที่เร่าร้อนของเฝิงรั่วซวงอยู่นานหลายวินาที สายตาอดไม่ได้ที่จะฉายความโลภออกมา“ลี่หย่งเจี๋ย ตานายกำลังมองไปที่ไหน? เชื่อไหมล่ะว่าฉันจะควักลูกตาของนายออ
“ฉันก็มีความคิดนั้นเหมือนกัน!”“นายวางใจเถอะ ฉันจะเล่นกับนายให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน!”ลี่หย่งเจี๋ยเยาะเย้ยหลังจากนั้น ทั้งสองคนก็กลับไปที่ค่ายของตัวเองและเริ่มจัดการเรื่องที่เกี่ยวกับการแข่งขันกฎกติกาการแข่งขันนั้นเรียบง่ายมาก แต่ละฝ่ายส่งคนห้าคนออกไปต่อสู้ทีละคน ผู้ชนะจะอยู่บนเวทีต่อส่วนผู้แพ้ออกจากเวทีไป รอจนกว่าคนทั้งห้าคนของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์ ก็จะถือว่าแพ้ในการแข่งขันนี้เฝิงหลุนเรียกทุกคนมารวมตัวกัน "ฉันจะจัดห้าคนที่จะขึ้นเวทีก่อน..."“ไม่จำเป็น ต่อจากนี้ไปเรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน!”เฝิงรั่วซวงพูดอย่างเผด็จการมาก จากนั้นเธอก็เตรียมการบอร์ดี้การ์ดสองคนของเฝิงหลุนถูกจัดให้ขึ้นแข่งในเกมแรกและเกมที่สอง เนี่ยอู๋รับผิดชอบเกมที่สาม และพยัคฆ์ขนทองจ้าวหงเซิงรับผิดชอบเกมที่สี่ส่วนเธอที่มีระดับการบ่มเพาะสูงสุด จะรับผิดชอบเกมสุดท้าย“นี่จะได้ยังไง!”“แล้วนายน้อยฉินล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่ถูกจัดให้ลงแข่งขัน?”เฝิงหลุนตกใจมาก เขาคัดค้านทันที“จอมลวงโลกคนหนึ่งจะส่งขึ้นเวทีไปทำไม?”“ส่งเขาไปก็ทำให้เราอับอายเปล่า ๆ!”เฝิงรั่วซวงพูดอย่างเย็นชาแม้ว่าคำพูดเมื่
เมื่อสัมผัสได้ถึงความรังเกียจและสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามของเฝิงรั่วซวง ฉินหมิงก็ไม่ใส่ใจมากนักนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้พบกับเฝิงรั่วซวงเมื่อสักครู่นี้ ทัศนคติของเฝิงรั่วซวงที่มีต่อเขานั้นก็ไม่เป็นมิตรมาโดยตลอด แม้กระทั่งพยายามสร้างปัญหาให้เขาทุกที่ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีมิตรภาพอันดีกับเฝิงหลุน และได้ตกลงตามคำขอของเฝิงหลุนไว้ล่วงหน้าแล้ว เขาคงจะสะบัดก้นจากไปนานแล้ว จะอยู่ดูสีหน้าของเฝิงรั่วซวงแบบนี้ทำไม!ถือคติที่ว่าผู้ชายดี ๆ ไม่ทะเลาะกับผู้หญิง เขาเพิกเฉยต่อสายตาที่ทิ่มแทงมาของเฝิงรั่วซวงโดยตรง“นายน้อยเฝิง ถ้ายังไงคุณมานั่งกินผลไม้ด้วยกันไหม?”ฉินหมิงหยิบผลไม้ลูกหนึ่งแล้วโยนให้เฝิงหลุน"เอาสิ ยังไงซะตอนนี้ผมก็ว่างอยู่แล้ว... "เฝิงหลุนตอบรับด้วยรอยยิ้ม รีบก้าวขึ้นไปนั่งตรงข้ามกับฉินหมิง จากนั้นทั้งสองก็กินดื่มกัน พูดคุยและหัวเราะกันอย่างมีความสุข บรรยากาศดูกลมกลืนมากหมอนี่จงใจยั่วโมโหเธอ!ใบหน้าที่สวยงามของเฝิงรั่วซวงแดงก่ำด้วยความโกรธ ดวงตาที่งดงามของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ อย่างไรก็ตามเพราะเห็นแก่หน้าเฝิงหลุนน้องชายของตัวเอง เธอจึงไม่สามารถทำอะไรกับฉินหมิงได้“พี่ซวงครับ พี่ไม
ตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่แสนดุเดือดของจ้าวหงเซิง เขาจึงค่อย ๆ เสียเปรียบแต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เขาก็ยังยืนหยัดต่อสู้กับจ้าวหงเซิงอีกหลายสิบกระบวนท่า และในที่สุดก็พ่ายแพ้ให้กับจ้าวหงเซิงเพราะพลังไม่พอ"ในที่สุดก็ชนะหนึ่งเกมแล้ว!"เฝิงรั่วซวงลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่สวยงามของเธอหลิวเหว่ยและคนอื่น ๆ เองก็ตกอยู่ในสภาพที่คล้ายคลึงกัน ขวัญกำลังใจของพวกเขาได้รับการฟื้นฟูขึ้นเล็กน้อยอนิจจาช่วงเวลาที่ดี ๆ นั้นอยู่ได้ไม่นานเมื่อสักครู่นี้จ้าวหงเซิงใช้กำลังทั้งหมดเพื่อปะทะกับตู้ไฉ กำลังของเขาจึงหดหายไปมาก เมื่อยกต่อไปเริ่มต้นขึ้น หลังจากยืนหยัดแลกเปลี่ยนหลายกระบวนท่า ในที่สุดเขาก็พ่ายแพ้ให้กับหนึ่งในบอดี้การ์ดของลี่หย่งเจี๋ย"บัดซบ!"“ทำไมถึงเป็นแบบนี้”ใบหน้าที่สวยงามของเฝิงรั่วซวงเปลี่ยนไป เธอไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไปแล้วหลังจากผ่านการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้ ฝั่งพวกเธอเสียคนไปแล้วสามคน ในขณะที่อีกฝั่งเพิ่งพ่ายแพ้ไปแค่คนเดียวเท่านั้นตอนนี้นอกจากฉินหมิงจอมลวงโลกนั่น เธอเป็นกำลังหลักเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ที่นี่ แต่อีกฝ่ายกลับเหลือผู
“ทำไมล่ะ หรือคุณคิดว่าพี่สาวผมแก่กว่าคุณมาก เลยไม่ค่อยเหมาะสมกัน”“นั่นไม่สำคัญหรอก ทุกวันนี้อายุห่างกันมากล้วนไม่ใช่ปัญหา อีกอย่างพี่ผมแก่กว่าคุณแค่สามหรือสี่ปีเท่านั้น พวกคุณทั้งหน้าตาดีและมีความสามารถทั้งคู่ ถ้าได้อยู่ด้วยกัน ก็เป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบเลย!”เฝิงหลุนพูดอย่างไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้“นายน้อยเฝิง ขอโทษด้วยที่ผมต้องพูดตรง ๆ พี่สาวคุณทั้งสวยและมีภูมิหลังทางตระกูลที่ดี เธอจะต้องมีคนที่ตามจีบนับไม่ถ้วน!”“การจะหาแฟนที่เหมาะสมสำหรับเธอนั้นง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับชีวิตการแต่งงานของเธอหรอก”ฉินหมิงพูดแล้วก็รู้สึกแปลก ๆ“คุณไม่รู้อะไร พี่สาวของผมเธอเคยถูกทำร้ายความรู้สึกมาก่อน นับแต่นั้นมาเธอก็รังเกียจผู้ชายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายที่พูดเก่งแต่ไม่น่าเชื่อถือ…”“สรุปคือ ทั้งพ่อและผมต่างก็หวังว่าเธอจะพบกับผู้ชายที่สามารถฝากฝังตัวเองไปได้ตลอดชีวิตเร็ว ๆ และก้าวออกมาจากเงามืดนั้น”เฝิงหลุนถอนหายใจ“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!”ฉินหมิงเข้าใจบ้างแล้ว ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมเฝิงรั่วซวงถึงได้รังเกียจเขามากขนาดนี้บางทีเฝิงรั่วซวงอาจเคยถูกผู้ชายคนหนึ่งหลอ
“แบบนี้ก็ดี ยิ่งมีความหวังมากเท่าไร ตอนที่ผิดหวังก็จะยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น!”“อีกเดี๋ยว ฉันจะดับความหวังของเธอด้วยมือของฉันเอง ให้เธอได้ลิ้มรสและรู้ว่าความสิ้นหวังมันเป็นยังไง!”ลี่หย่งเจี๋ยพูดด้วยท่าทางหยิ่งผยอง“น่ากลัวว่าจะเป็นฝ่ายนายมากกว่าที่สิ้นหวัง!”เฝิงรั่วซวงแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา แต่ในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพียงแค่ว่าใบหน้าที่แสดงออกนั้นกลับสงบและนิ่งเฉยเธอเคยได้ยินมานานแล้วว่าระดับการบ่มเพาะของลี่หย่งเจี๋ยนั้นไปถึงขั้นสูงระดับสวรรค์ประทานนานแล้ว ห่างจากขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานเพียงก้าวเดียวเท่านั้นความแข็งแกร่งนี้มีแต่จะสูงกว่าของเธอแถมเมื่อสักครู่นี้เธอเพิ่งจะผ่านการต่อสู้มาสามรอบติด สูญเสียกำลังและพลังปราณแท้จริงไปอย่างมากทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากขนาดนี้ เธอคิดที่จะล้มลี่หย่งเจี๋ย ความหวังนั้นช่างริบหรี่มาก!"ทำไม เธอกลัวแล้วเหรอ?”ลี่หย่งเจี๋ยดูเหมือนจะมองเห็นความคิดของเฝิงรั่วซวง จากนั้นเขาก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาในใจ“คุณหนูใหญ่เฝิง ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง แถมเมื่อกี้นี้เพิ่งจะผ่านการต่อสู้ไป คงเสียแรงไปไม่น้อย”“ถ้าฉันเอาชนะเธอทั้งแบบนี้ มันก
พอดี ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรที่แน่นอน!เนื่องจากยาหลอมลมปราณนั้นล้ำค่ามากเกินไป ปัจจุบันในหมู่ขุมกำลังใหญ่ ๆ อุปสงค์มากกว่าอุปทานมาก ตระกูลใหญ่ทั้งหลายมีอยู่ในครอบครองเพียงแค่สองร้อยเม็ดเท่านั้นถ้าเกิดเธอไม่ระวังแล้วแพ้ขึ้นมา สุดท้ายจะเสียทั้งขุนเเละหมาก!ค่าตอบแทนนี้หนักหนามากเกินไป ทำให้เธอตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก“ทำไม แค่ยาหลอมลมปราณระดับหนึ่งสองร้อยเม็ด พวกเธอก็เดิมพันไม่ได้เลยเหรอ?”“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นฉันเปลี่ยนเงื่อนไขก็ได้!”ลี่หย่งเจี๋ยพูดด้วยท่าทางยียวน“เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขอะไร?”เฝิงรั่วซวงครุ่นคิดถ้าหากเงื่อนไขใหม่ของลี่หย่งเจี๋ยพอจะรับได้ง่ายกว่า เธออาจพิจารณายอมรับข้อเสนอของลี่หย่งเจี๋ยจริง ๆ!“คุณหนูใหญ่เฝิง เธอเป็นหนึ่งในสี่สาวงามของเมืองเจียงเฉิงของเรา เป็นคนรักในฝันของผู้ชายหลาย ๆ คน!”“กับเธอที่ทั้งสวยและเซ็กซี่แบบนี้ คิดว่าผู้ชายปกติทั่วไปใครก็ยากที่จะอดใจไหว!”“ถ้าหากฉันชนะ เธอมาอยู่เป็นเพื่อนฉันสักสองสามคืน ฉันเองก็อยากจะลิ้มรสสาวสวยที่เซ็กซี่แบบเธอจริง ๆ ไม่รู้ว่าจะอร่อยขนาดไหน...”ลี่หย่งเจี๋ยพูดด้วยร
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ