ซูซินเหยาอดไม่ได้ครางอื้มออกมาตู้ม!หัวของฉินหมิงระเบิดออกด้วยเสียงหึ่ง ๆ เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะบ้าเมื่อได้ยินเสียงร้องครางที่ราวกับมาจากสวรรค์ของซูซินเหยาก้องในหู บวกกับความรู้สึกนุ่มนวลและมหัศจรรย์จากขาเรียวยาวใต้ถุงน่องที่ส่งมา การล่อลวงสองเท่านี้ กระตุ้นจิตวิญญาณที่เปราะบางของเขาอย่างลึกล้ำชั่วขณะหนึ่ง เลือดพลันพุ่งพล่านขึ้นมาในอกของเขา แรงกระตุ้นที่ไม่เคยมีมาก่อนทะลักทะลวงเข้าสู่หัวใจกริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!ตอนนี้เอง เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น ปลุกจิตใจของฉินหมิงซึ่งกำลังจะพังทลายลงให้ฟื้นคืนสติขึ้นมาโชคดี!สายนี้มาทันเวลาพอดี!ฉินหมิงโล่งใจมาก วางขาที่สวยงามทั้งสองข้างของซูซินเหยาลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดรับสายรอจนกระทั่งฉินหมิงคุยโทรศัพท์เสร็จซูซินเหยาก็อดไม่ได้ถามอย่างสงสัยว่า "ฉินหมิง ใครโทรมาเหรอ?"“อ้อ เป็นเฝิงหลุนน่ะ เขาบอกว่าเขาอยากขอความช่วยเหลือจากผมเรื่องหนึ่ง…”ฉินหมิงอธิบายอย่างง่ายๆ “ซินเหยาครับ ผมจะไปที่นั่นและดูว่าเขาอยากให้ผมช่วยอะไร เรื่องของบริษัทคงต้องยกให้คุณจัดการอีกแล้ว”“แต่คุณกำลังนวดให้ฉันอยู่ ยังนวดไม่
การต่อสู้ครั้งนี้จึงตกมาที่หัวของเฝิงหลุนและลี่หยงเจี๋ยเฝิงหลุนมาขอความช่วยเหลือจากฉินหมิงในครั้งนี้ ก็เพื่อขอให้ฉินหมิงช่วยจัดการกับลี่หย่งเจี๋ย“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!”ฉินหมิงโกรธจัด เขามองไปที่เฝิงหลุนและถามว่า “นายน้อยเฝิง ไม่รู้ว่าคุณอยากให้ผมช่วยคุณยังไง"“เป็นแบบนี้ครับ ลี่หย่งเจี๋ยกับผมได้ทำข้อตกลงกัน เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย เราสองคนจึงวางแผนที่จะจัดการแข่งขันเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งนี้โดยเฉพาะ…”“และสิ่งของเดิมพันก็คือถิ่นของหลัวซื่อฉง ใครก็ตามที่ชนะการแข่งขันในครั้งนี้ ก็จะได้ถิ่นของหลัวซื่อฉงไปครอง”เฝิงหลุนอธิบายสถานการณ์โดยย่อตราบเท่าที่เขาสามารถเอาชนะได้ ถิ่นของหลัวซื่อฉงก็จะตกเป็นของเนี่ยอู๋ในทางตรงกันข้าม ถ้าลี่หย่งเจี๋ยชนะ ถิ่นของหลัวซื่อฉงจะต้องถูกคืนให้กับราชาแดนเหนืออย่างเต็มจำนวน“ด้วยความเคารพ พ่อของคุณราชาแดนใต้มียอดฝีมือภายใต้การบังคับบัญชาของเขามากมายราวกับก้อนเมฆ แค่คุณขอให้เขาจัดยอดฝีมือสักหลายคนมาช่วยเหลือ แค่นี้ก็จบเรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ?”ฉินหมิงถามด้วยความสับสน“มันไม่ง่ายขนาดนั้น ตัวตนของพ่อของผมค่อนข้างอ่อนไหว ทั้งเขาและราชาแดนเหนือทั้งสองคนล้
“นายน้อยฉิน กำหนดการแข่งขันคือช่วงบ่ายของวันนี้ มีคุณอยู่ เราจะชนะการแข่งขันในครั้งนี้อย่างแน่นอน!”เฝิงหลุนพูดอย่างตื่นเต้น ใบหน้าของเขาเองก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นจากนั้น เฝิงหลุนและฉินหมิงก็พูดคุยถึงเรื่องการแข่งขัน รอจนกระทั่งใกล้ถึงเวลาแล้ว หลายคนก็ขับรถตรงไปยังสถานที่จัดการแข่งขันในรีสอร์ทแห่งหนึ่งแถวเขตชานเมือง ที่นี่เป็นหนึ่งในทรัพย์สินภายใต้ชื่อของราชาแดนใต้เฝิงเจิ้นสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ เฝิงหลุนได้จัดให้คนของเขาเคลียร์สถานที่ล่วงหน้าและปิดไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้ามาชั่วคราวแล้วเมื่อเฝิงหลุนและฉินหมิงมาถึง ลานจอดรถที่นี่ก็เต็มไปด้วยรถยนต์หรูหราและรถสปอร์ตระดับไฮเอนด์ทุกประเภท มีไมบัค ปอร์เช่ จากัวร์และอีกมากมาย ซึ่งแต่ละคันก็ชวนให้ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าคันก่อน ๆบริเวณโดยรอบมีคนยืนอยู่เต็มแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นชายหนุ่มและหญิงสาวจากตระกูลที่ร่ำรวยหรือไม่ก็คนในแวดวงสังคมของเมืองเจียงเฉิงในหมู่พวกเขามีแม้กระทั่งเด็กจากตระกูลชั้นสูง บางคนเป็นเพื่อนสนิทและผู้ติดตามในโลกใต้ดินของเฝิงหลุน มาที่นี่เพื่อให้กำลังใจเขาโดยเฉพาะนอกจากนี้ยังมีคู่แข่งทางธุรกิจของตระกูลเฝิง ซึ่งมาที
คนที่มาคือหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยอย่างน่าทึ่ง เธอมีอายุประมาณยี่สิบเจ็ดถึงยี่สิบแปดปี มีรูปร่างสูงและสง่างามมาก สวมแว่นกันแดดแฟชั่นไว้บนใบหน้าที่สวยงามของเธอร่างกายที่แต่งกายด้วยชุดสีดำส่งให้เอวบางยิ่งดูคอดกิ่ว เผยให้เห็นรูปร่างที่ร้อนแรงอย่างร้ายกาจชัดเจนผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เธอก็คือเฝิงรั่วซวงพี่สาวของเฝิงหลุนเฝิงรั่วซวงเองก็เป็นหนึ่งในสี่สาวงามของเมืองเจียงเฉิงในอันดับที่สาม และจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่และมีเสน่ห์ที่สุด ทุกอิริยาบถและการเคลื่อนไหวของเธอ ช่างเย้ายวนใจและมีเสน่ห์อย่างเป็นธรรมชาติ เธอคือเทพธิดาแห่งความเซ็กซี่ในใจของผู้ชายหลาย ๆ คน!การปรากฏตัวของเธอ กระตุ้นความตื่นเต้นของทุกคนอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายบางคน พวกเขาทั้งหมดมองไปที่เธอด้วยสายตาเร่าร้อน หวังเพียงว่าจะได้ครอบครองสาวงามที่เซ็กซี่นี้เป็นของตัวเองแม้แต่ฉินหมิงซึ่งคุ้นเคยกับการได้เห็นผู้หญิงสวยจนน่าทึ่ง ก็ยังอดไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ คำแปดคำพลันลอยเข้ามาในหัวของเขา งดงามดั่งผลท้อ เย็นชาดุจน้ำแข็ง!เฝิงรั่วซวงเป็นสาวงามประเภทพี่สาวสุดสวย เธอไม่เพียงแต่สวยชนิดที่ยากจะหาใครมาทัดเทียมได้เท
สิ่งนี้ทำให้ทั้งฉินหมิงและเฝิงหลุนกระอักกระอ่วนอย่างมาก“พี่ครับ อย่าพูดเหลวไหล นายน้อยฉินเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์!”“เพียงแต่ว่าเขาค่อนข้างถ่อมตัว มีไม่กี่คนในแวดวงเท่านั้นที่เคยได้ยินชื่อเสียงของเขา”เฝิงหลุนอธิบายอย่างรวดเร็ว“ว่าไงนะ?”“เขาเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์เหรอ?”“นี่...เป็นไปได้ยังไง!”เฝิงรั่วซวงตกตะลึง เธอมองฉินหมิงขึ้น ๆ ลง ๆ หลายครั้งด้วยดวงตาที่งดงามของเธอ ยิ่งมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าฉินหมิงเป็นจอมลวงโลก!แวดวงของผู้ฝึกยุทธในเมืองเจียงเฉิงนั้นจะว่าเล็กก็ไม่เล็ก แต่จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่แต่ในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ บุคคลที่โดดเด่นที่สุดสองคนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซูห่าวและเค่ออั๋งด้วยอายุของฉินหมิงที่น้อยแบบนี้ ถ้าเขาเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์จริง ๆ คงจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากกว่าเค่ออั๋งและซูห่าวไปนานแล้ว ย่อมไม่มีทางเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักแบบนี้!“ใช่ เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ!”หลิวเหว่ยและคนอื่น ๆ เองก็ตกใจมากเหมือนกันความคิดของพวกเขาคล้ายกับของเฝิงรั่วซวง ไม่มีใครเชื่อว่าฉินหมิงจะเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์!นี่มันไม่สมจริงเลย!“คุณหนูใหญ่ครับ ทุกสิ่งที่นายน้อยเฝิ
เฝิงรั่วซวงพูดอย่างเย็นชาทันทีที่เธอออกคำสั่ง หลิวเหว่ยก็พร้อมที่จะดำเนินการ เขาเรียกคนของเขาหลายคนให้เริ่มขับไล่คนคนนี้ออกไป“รอเดี๋ยว!”“นายน้อยฉินเป็นเพื่อนที่ฉันเชิญมา ฉันจะดูว่าใครกล้าดูหมิ่นเขา!”เฝิงหลุนตวาดด้วยสีหน้าไม่พอใจมาก“เสี่ยวหลุน นาย…”ใบหน้าที่สวยงามของเฝิงรั่วซวงเปลี่ยนเป็นเย็นชา แต่ก่อนที่เธอจะได้พูด ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากฝั่งตรงกันข้าม คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา“ลี่หย่งเจี๋ยมาแล้ว!”ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็หันไปที่เขา แม้แต่เฝิงรั่วซวงและเฝิงหลุนเองก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าเคร่งขรึมท่าทีของลี่หย่งเจี๋ยยังคงเย่อหยิ่งเช่นเคย เขาเชิดหน้าขึ้นแล้วเดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาที่รายล้อม เดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าไม่ไกลออกไปนัก“โอ้ ฉันก็นึกว่าใคร นี่ไม่ใช่เฝิงรั่วซวง คุณหนูใหญ่ของตระกูลเฝิงหรอกเหรอ!”ลี่หย่งเจี๋ยมองเห็นเฝิงรั่วซวงที่แสนโดดเด่นก่อนเป็นคนแรก สายตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าที่สวยงามและรูปร่างที่เร่าร้อนของเฝิงรั่วซวงอยู่นานหลายวินาที สายตาอดไม่ได้ที่จะฉายความโลภออกมา“ลี่หย่งเจี๋ย ตานายกำลังมองไปที่ไหน? เชื่อไหมล่ะว่าฉันจะควักลูกตาของนายออ
“ฉันก็มีความคิดนั้นเหมือนกัน!”“นายวางใจเถอะ ฉันจะเล่นกับนายให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน!”ลี่หย่งเจี๋ยเยาะเย้ยหลังจากนั้น ทั้งสองคนก็กลับไปที่ค่ายของตัวเองและเริ่มจัดการเรื่องที่เกี่ยวกับการแข่งขันกฎกติกาการแข่งขันนั้นเรียบง่ายมาก แต่ละฝ่ายส่งคนห้าคนออกไปต่อสู้ทีละคน ผู้ชนะจะอยู่บนเวทีต่อส่วนผู้แพ้ออกจากเวทีไป รอจนกว่าคนทั้งห้าคนของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์ ก็จะถือว่าแพ้ในการแข่งขันนี้เฝิงหลุนเรียกทุกคนมารวมตัวกัน "ฉันจะจัดห้าคนที่จะขึ้นเวทีก่อน..."“ไม่จำเป็น ต่อจากนี้ไปเรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน!”เฝิงรั่วซวงพูดอย่างเผด็จการมาก จากนั้นเธอก็เตรียมการบอร์ดี้การ์ดสองคนของเฝิงหลุนถูกจัดให้ขึ้นแข่งในเกมแรกและเกมที่สอง เนี่ยอู๋รับผิดชอบเกมที่สาม และพยัคฆ์ขนทองจ้าวหงเซิงรับผิดชอบเกมที่สี่ส่วนเธอที่มีระดับการบ่มเพาะสูงสุด จะรับผิดชอบเกมสุดท้าย“นี่จะได้ยังไง!”“แล้วนายน้อยฉินล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่ถูกจัดให้ลงแข่งขัน?”เฝิงหลุนตกใจมาก เขาคัดค้านทันที“จอมลวงโลกคนหนึ่งจะส่งขึ้นเวทีไปทำไม?”“ส่งเขาไปก็ทำให้เราอับอายเปล่า ๆ!”เฝิงรั่วซวงพูดอย่างเย็นชาแม้ว่าคำพูดเมื่
เมื่อสัมผัสได้ถึงความรังเกียจและสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามของเฝิงรั่วซวง ฉินหมิงก็ไม่ใส่ใจมากนักนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้พบกับเฝิงรั่วซวงเมื่อสักครู่นี้ ทัศนคติของเฝิงรั่วซวงที่มีต่อเขานั้นก็ไม่เป็นมิตรมาโดยตลอด แม้กระทั่งพยายามสร้างปัญหาให้เขาทุกที่ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีมิตรภาพอันดีกับเฝิงหลุน และได้ตกลงตามคำขอของเฝิงหลุนไว้ล่วงหน้าแล้ว เขาคงจะสะบัดก้นจากไปนานแล้ว จะอยู่ดูสีหน้าของเฝิงรั่วซวงแบบนี้ทำไม!ถือคติที่ว่าผู้ชายดี ๆ ไม่ทะเลาะกับผู้หญิง เขาเพิกเฉยต่อสายตาที่ทิ่มแทงมาของเฝิงรั่วซวงโดยตรง“นายน้อยเฝิง ถ้ายังไงคุณมานั่งกินผลไม้ด้วยกันไหม?”ฉินหมิงหยิบผลไม้ลูกหนึ่งแล้วโยนให้เฝิงหลุน"เอาสิ ยังไงซะตอนนี้ผมก็ว่างอยู่แล้ว... "เฝิงหลุนตอบรับด้วยรอยยิ้ม รีบก้าวขึ้นไปนั่งตรงข้ามกับฉินหมิง จากนั้นทั้งสองก็กินดื่มกัน พูดคุยและหัวเราะกันอย่างมีความสุข บรรยากาศดูกลมกลืนมากหมอนี่จงใจยั่วโมโหเธอ!ใบหน้าที่สวยงามของเฝิงรั่วซวงแดงก่ำด้วยความโกรธ ดวงตาที่งดงามของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ อย่างไรก็ตามเพราะเห็นแก่หน้าเฝิงหลุนน้องชายของตัวเอง เธอจึงไม่สามารถทำอะไรกับฉินหมิงได้“พี่ซวงครับ พี่ไม