ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าแล้วฉินหมิงมีปัญหา!“หว่านชิง ฉันเปล่านะ ฉันจริงใจกับเธอจริง ๆ สาบานเลยว่าไม่เคยคิดโลภในอำนาจของตระกูลหลินของเธอมาก่อน ยิ่งไม่เคยมีความคิดที่จะใช้ตระกูลหลินเป็นบันไดปีนขึ้นไป…”ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“งั้นเหรอ?”“ถ้างั้นตอนนั้นที่นายช่วยฉัน ทำไมนายไม่จับเป็นคนร้าย ทำไมต้องจงใจฆ่าปิดปากพวกเขาด้วย”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากของเธอแน่นแล้วถาม หัวใจของเธอสับสนไปหมด เธอไม่รู้แล้วว่าควรจะเชื่อฉินหมิงดีไหม“อย่างที่ฉันบอกไปเมื่อกี้ไง ตอนนั้นฉันไม่เป็นวรยุทธจริง ๆ แค่รอดชีวิตมาจากพวกคนร้ายได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ฉันจะจับเป็นพวกเขาได้ยังไง…?”ฉินหมิงพูดด้วยสีหน้าขมขื่น“เอาล่ะ! งั้นฉันจะเชื่อก็แล้วกันว่า ตอนนั้นนายยังไม่เป็นวรยุทธ”“แต่เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงสามเดือนสั้น ๆ ทำไมระดับวรยุทธของนายถึงได้พุ่งพรวดขึ้นมาขนาดนี้?”“แถมนายยังเก่งกาจ มีความสามารถโดดเด่น ตรงกันข้ามกับชื่อเสียงของนายก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิงด้วย?”หลินหว่านชิงถามด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ“ฉัน...ฉันพูดไม่ได้...”ฉินหมิงอ้าปากพะงาบ ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เปล่งเสียงออกไปถ้าตอนนี้เขาอยู่กับหลิน
พรวด!ฉินหมิงกระอักเลือดออกมาคำโต ร่างของเขากระเด็นไปข้างหลังแล้วล้มลงกับพื้นอย่างแรง ขวดบรรจุยาหลอมลมปราณหลายขวดในมือกระจัดกระจายไปบนพื้น“พ่อคะ พ่อ...”เมื่อเห็นว่าฉินหมิงถูกหลินเถิงฮุ่ยทำร้ายอย่างหนักจนกระอักเลือดออกมา หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งใจครู่หนึ่ง เธอแทบอยากจะวิ่งขึ้นไปดูอาการบาดเจ็บของฉินหมิง แต่เมื่อเธอคิดว่าฉินหมิงเป็นคนที่โกหกและหลอกลวงเธอมาโดยตลอด เขาอาจจะใช้โอกาสนี้เพื่อเอาเปรียบเธออีกครั้งในที่สุดเธอก็ข่มความโศกเศร้าในใจและเพิกเฉยต่อฉินหมิงหัวใจของฉินหมิงเย็นวาบ การที่เขารับหนึ่งฝ่ามือจากหลินเถิงฮุ่ยนั้นไม่นับว่าเป็นอะไรเลย แต่ทัศนคติของหลินหว่านชิงที่ตั้งใจแล้วว่าจะไม่แยแสต่อเขา ทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง“ฉินหมิง เห็นแก่ที่เธอเคยช่วยชีวิตพ่อของฉันเอาไว้ เมื่อสักครู่นี้ฉันได้ยั้งมือไว้แล้ว!”“แต่ถ้าต่อไปเธอยังกล้าที่จะมารบกวนหว่านชิงอีก อย่าหาว่าฉันโหดเหี้ยมก็แล้วกัน!”หลินเถิงฮุ่ยเตือนอย่างเย็นชาเมื่อสักครู่นี้เขาเพียงสะบัดหนึ่งฝ่ามือออกไปอย่างลวก ๆ ไม่ได้ลงมือแรง ไม่อย่างนั้น ถึงแม้ฉินหมิงจะไม่ตายแต่ก็คงพิการไปครึ่งหนึ่งแล้ว!“แค่ก แ
ฉินหมิงวางตัวดี สร้างผลงานมากมาย และดูเหมือนจะไม่เคยมีเจตนาชั่วร้ายใด ๆอย่างไรก็ตาม เมื่อเธอคิดในอีกแง่หนึ่ง เธอก็จำสิ่งที่เอ้าเฟิงพูดต่อหน้าเธอได้อย่างรวดเร็วในตอนนั้นฉินหมิงและตระกูลซูบรรลุความร่วมมือกันด้านวัตถุดิบยา เอ้าเฟิงเคยเตือนเธอว่าฉินหมิงอาจจะมีความทะเยอทะยานซ่อนเร้น และอาจกำลังสมรู้ร่วมคิดกับตระกูลซูเพื่อกลืนกินบริษัท!สิ่งนี้เกือบจะตรงกับความกังวลของปู่และพ่อของเธอ!ไม่เพียงแค่นั้นครั้งล่าสุดที่บ้านของหลัวซื่อฉง ซูซินเหยาจงใจยั่วยุเธอแถมยังแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับเธออย่างชัดเจนทั้งหมดนี้เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าฉินหมิงไม่ใช่อย่างที่เห็นภายนอก!ครู่หนึ่ง เธอได้รับผลกระทบจากคำพูดใส่ร้ายของเอ้าเฟิง และยิ่งสงสัยในแรงจูงใจของฉินหมิงมากขึ้นไปอีก!“ฉินหมิง ฉันขอบคุณความทุ่มเทของนายที่มีต่อบริษัทเราในช่วงนี้มากจริง ๆ แต่นี่ไม่ได้พิสูจน์ว่านายไม่มีเจตนาซ่อนเร้น!”“อย่างไรก็ตาม ถ้านายไม่อาจให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับฉันได้ ถ้างั้นตอนนี้เราเลิกกันเถอะ!”หลินหว่านชิงพูดด้วยสีหน้าไม่แยแส“ดี ดีมาก!”ฉินหมิงยิ้มทั้งน้ำตาเขาไม่คิดไม่ฝันจริง ๆ ว่าตัวเองปฏิบัติต่อหลิ
ฉินหมิงรู้สึกเจ็บปวดในใจแม้ว่าตอนนี้เขาจะเศร้าและอับอายมาก แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะแสดงด้านที่เปราะบางของตัวเองต่อหน้าหลินหว่านชิงและคนอื่น ๆเขายังคงรักษาศักดิ์ศรีสุดท้ายของตัวเองไว้ เชิดหน้าขึ้นแล้วหันหลังเดินออกจากคฤหาสน์ไปอย่างไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมามองอีกเมื่อเห็นการจากไปอย่างเด็ดขาดของฉินหมิงหลินหว่านชิงก็ตกอยู่ในภาวะสับสน เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป จึงรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก“พ่อคะ ไม่ว่าฉินหมิงจะมีเจตนาร้ายหรือไม่ เขาก็ทุ่มเทเพื่อบริษัทมาก มีทั้งผลงาน และมีความทุ่มเท”“เมื่อสักครู่นี้พ่อขอให้เขาย้ายออกจากบ้านเรื่องนี้หนูเข้าใจ แต่ที่พ่อบังคับให้เขาลาออกบริษัท มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”หลินหว่านชิงพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจเป็นมากแม้ว่าเธอจะโกรธมากเรื่องที่ฉินหมิง 'หลอกลวง' เธอ แต่เมื่อพิจารณาถึงการมีส่วนร่วมของฉินหมิงต่อบริษัท เธอไม่ได้คิดที่จะขับไล่ฉินหมิงออกไป“หว่านชิง ตัดบัวต้องไม่เหลือใย!”“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ลูกควรขีดเส้นแบ่งกับเขาให้ชัดเจนไปเลยเพื่อที่ในอนาคตเขาจะได้ไม่มาตามวอแวลูกอีก!”“ที่พ่อทำแบบนี้ก็เพื่อประโยชน์ของลูกเอง!ห
เนี่ยอู๋ตกตะลึง ในที่สุดก็อดถามไม่ได้“ไม่มีอะไร…”เรื่องเกี่ยวกับความรู้สึก ฉินหมิงไม่มีอะไรจะพูดกับชายฉกรรจ์อย่างเนี่ยอู๋ เขาจึงเทไวน์แล้วดื่มมันในอึกเดียว“นายน้อยฉิน ปริมาณแอลกอฮอล์ของไวน์นี้ไม่ต่ำเลย แถมยังออกฤทธิ์แรงมาก ถ้าคุณดื่มแบบนี้ต่อไป คุณจะเมาได้ง่าย ๆ เลยนะครับ”เนี่ยอู๋รีบเตือนเขาบอกได้เลยว่าฉินหมิงมีบางอย่างอยู่ในใจ แต่ฉินหมิงไม่ต้องการที่จะพูด เขาจึงทำอะไรไม่ได้มากเกี่ยวกับเรื่องนี้“เมาก็เมาสิ เมาแล้วจะได้ลืมเรื่องทุกข์ทั้งหมด!”“นี่ไม่ดีเหรอ?”ฉินหมิงยิ้มอย่างขมขื่นและดื่มต่อ“ดื่มช้า ๆ หน่อยเถอะครับ...”“ช่างเถอะ ผมดื่มเป็นเพื่อนคุณก็แล้วกัน!”เนี่ยอู๋จนปัญญา ดังนั้นเขาจึงหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาและเริ่มดื่มกับฉินหมิงกริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!ในขณะนี้เอง โทรศัพท์มือถือของฉินหมิงก็ดังขึ้นฉินหมิงอารมณ์ไม่ดี เขาไม่รู้ว่าใครโทรมาจึงไม่มีความตั้งใจที่จะรับสาย“นายน้อยฉิน โทรศัพท์มือถือของคุณดังน่ะ”เนี่ยอู๋เอ่ยเตือน“ไม่เป็นไร ไม่ต้องสนใจมัน...”ฉินหมิงโบกมือแล้วพูดอย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายกลับไม่ยอมแพ้และโทรเข้ามาอีกสามครั้งติดฉินหมิงทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาหยิบโทรศั
แม้ว่าเขาจะดื่มเก่ง แต่หลังจากดื่มไวน์ติดต่อกันจำนวนมาก แก้มของเขาก็แดงก่ำไปแล้ว ดวงตาของเขาพร่ามัว ดูคล้ายจะเมาจวนจะเต็มที่อย่างไรก็ตาม โชคดีที่เนี่ยอู๋เห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก จึงรีบสั่งลูกน้องเปลี่ยนไวน์จากต่างประเทศเป็นเบียร์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำอย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นตอนนี้ฉินหมิงคงเมาจนสิ้นสติไปแล้ว!แกร๊ก!ในเวลานี้เอง ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกผลักเปิดออก ในที่สุดซูซินเหยาก็มาถึง“คุณหนูซู คุณมาแล้ว”เนี่ยอู๋ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขารู้ว่าเมื่อสักครู่นี้เป็นซูซินเหยาที่โทรหาฉินหมิง และก็รู้ด้วยว่าฉินหมิงกับตระกูลซูนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาต่อกัน เขาจึงรีบปรี่ขึ้นไปทักทายเธอในทันทีดวงตาที่สวยงามของซูซินเหยาเหลือบมองรอบ ๆ ครั้งหนึ่ง เห็นว่าบนพื้นในห้องรับรองส่วนตัวระเกะระกะ แถมยังมีฉินหมิงที่เมามายนอนอยู่บนโต๊ะ เธอตกตะลึง "เนี่ยอู๋ เกิดอะไรขึ้น? มีอะไรเกิดขึ้นกับฉินหมิงหรือเปล่า?"“อันที่จริง ผมเองก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเหมือนกัน...”“ผมรู้แค่ว่านายน้อยฉินดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี หลังจากที่เขามาที่นี่ ก็ชวนผมดื่มด้วยกัน เขากระดกไวน์ไม่หยุดเลย...”เนี่ยอู๋พูดด้วย
ฉินหมิงตกตะลึง เขามองไปที่ซูซินเหยาด้วยความไม่อยากเชื่ออาจเป็นเพราะเขาเมามาก ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาจึงช้าลงเล็กน้อย ครู่หนึ่งเขาจึงไม่เข้าใจว่าซูซินเหยาหมายถึงอะไร“ฉัน...ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น...”ซูซินเหยาหน้าแดงก่ำ เวลานี้ถึงตระหนักได้ว่าคำพูดของตัวเองไม่เหมาะสมมาก ๆ เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า "ฉินหมิงทำไมคุณกับหลินหว่านชิงถึงได้เลิกกันกะทันหันแบบนี้ล่ะ?"“เป็นแบบนี้…”ฉินหมิงถอนหายใจตอนนี้เขารู้สึกหดหู่ใจมากและอยากจะหาใครสักคนคุยด้วยจริง ๆ จากนั้นเขาก็บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับซูซินเหยาฟัง“หลินเถิงฮุ่ยสองพ่อลูกนั้นทำเกินไปแล้ว!”“คุณช่วยเหลือตระกูลหลินครั้งแล้วครั้งเล่า แต่แทนที่พวกเขาจะสำนึกในบุญคุณ กลับตอบแทนความเมตตาของคุณด้วยความเกลียดชัง นี่มันมากเกินไปแล้วจริง ๆ!”“หลินหว่านชิงเองก็เหมือนกัน แม้แต่ฉันซึ่งเป็นคนนอกยังดูออกว่าคุณเป็นคนตรงไปตรงมามากขนาดไหน จะเป็นคนชั่วที่ลอบวางแผนน่ารังเกียจไปได้ยังไง”“แต่ในฐานะแฟนของคุณ เธอกลับเชื่อใจคุณไม่มากพอ แถมยังสงสัยด้วยว่าคุณโลภในเงินทองและอำนาจของตระกูลหลิน สงสัยว่าเธอมีเจตนาชั่วร้ายแอบแฝง นี่มันน่าขำมาก!”ซู
สักพักหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองอย่างไรดี“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”“ฉันและหลินหว่านชิงต่างก็เป็นหนึ่งในสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิงด้วยกันทั้งคู่ แม้ว่าอันดับของเธอนำอยู่ข้างหน้าฉัน แต่ในแง่ของรูปลักษณ์ภายนอกและภูมิหลังของตระกูล ฉันไม่มีสิ่งใดด้อยไปกว่าเธอสักนิด!”“ถ้าคุณยอมรับเธอได้ ทำไมคุณถึงยอมรับฉันไม่ได้?”ซูซินเหยาไม่คิดเลยว่าฉินหมิงจะปฏิเสธเธออย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ ใบหน้าที่สวยงามของเธอเปลี่ยนเป็นซีดขาว หยาดน้ำตาแห่งความคับข้องใจก็ไหลลงมาจากขอบดวงตาของเธอด้วยความสวยและภูมิหลังของตระกูลของเธอ ทำให้เธอเป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ ที่มีพรสวรรค์มากมายในเมืองเจียงเฉิง พวกเขาทุกคนล้วนอยากได้รับความโปรดปรานจากเธอ!แต่ตอนนี้ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอรวบรวมความกล้าและเป็นฝ่ายริเริ่มสารภาพรักกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่เธอกลับถูกปฏิเสธ!ความรู้สึกขมขื่นในใจของเธอตอนนี้ ใครก็ยากที่จะจินตนาการได้!“นี่...”ฉินหมิงพูดไม่ออก หัวใจของเขาว้าวุ่นสับสน ผ่านไปเนิ่นนานก็ยังไม่อาจสงบสติอารมณ์ลงได้ ซูซินเหยาคือสาวงามอันดับสองของสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิง ความสวยของเธอ สวยจนล่มบ้านล่มเมือง สวยเหมือนกับเท
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ