ระดับการบ่มเพาะของยอดฝีมือในชุดสีฟ้าทั้งสองคนนั้น อยู่ในช่วงขั้นต้นระดับสวรรค์ประทาน เดิมทีความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่สู้เนี่ยอู๋อยู่แล้ว ยิ่งเมื่อได้เห็นฉากหลัวซื่อฉงถูกฉินหมิงโค่นในหมัดเดียว จิตวิญญาณการต่อสู้ของสองคนก็สั่นคลอน ขวัญกำลังใจในการต่อสู้ได้รับผลกระทบอย่างมากอาศัยโอกาสนี้ เนี่ยอู๋เร่งความเร็วการโจมตี ใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกล่อศัตรูให้ตกหลุมพราง ในไม่ช้ายอดฝีมือในชุดสีฟ้าคนหนึ่งก็ถูกต่อยจนต้องล่าถอยไป จากนั้นเขาก็หมุนตัว เตะไปที่ยอดฝีมือในชุดสีฟ้าอีกคนยอดฝีมือในชุดสีฟ้าทั้งสองคนล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว!“หรือว่าเขาจะเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์จริง ๆ?”หลัวซื่อฉงตะลึงงัน หัวใจของเขาราวกับถูกคลื่นยักษ์ซัดสาด เนิ่นนานก็ยังสงบใจลงไม่ได้ก่อนหน้านี้เขาไม่เชื่อว่าฉินหมิงที่อายุยังน้อยจะเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ท่านหนึ่งแต่ตอนนี้เขาไม่เชื่อไม่ได้ด้วยระดับการบ่มเพาะขั้นกลางระดับสวรรค์ประทานของเขา ฉินหมิงสามารถโค่นเขาได้ในการโจมตีเดียว ความแข็งแกร่งนั้นอย่างน้อยต้องอยู่เหนือกว่าขั้นสูงระดับสวรรค์ประทานไปแล้ว ไปถึงขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทาน หรือไม่ก็สูงกว่าอย่างระดั
แต่ตอนนี้เขาตระหนักได้แล้วว่าฉินหมิงคือยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ท่านหนึ่ง ช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งของทั้งสองคนนั้นใหญ่เกินไปสิ่งนี้ทำให้เขาสูญเสียความกล้าหาญทั้งหมด กระทั่งไม่กล้าคิดต่อต้านด้วยซ้ำ“ฉันบอกแกไปก่อนหน้านี้แล้วนะ ในครั้งนี้ยังไงฉันก็ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเจียฮุ่ย!”“ฉันพูดได้ทำได้!”ฉินหมิงพูดอย่างเย็นชา เจตนาฆ่ารุนแรงพวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา ทำให้ผู้คนเพียงแค่เห็นก็เกิดความกลัว“แก...แกกล้า!”"ฉันขอเตือนแก ฉันเป็นลูกน้องของราชาแดนเหนือ ถ้าแกกล้าฆ่าฉัน ราชาแดนเหนือจะไม่ปล่อยแกไปอย่างแน่นอน!"หลัวซื่อฉงพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดคิดถึงว่าตัวเองมีราชาแดนเหนือคอยหนุนหลังอยู่ เขาก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเล็กน้อย“ราชาแดนเหนือเหรอ?”ฉินหมิงขมวดคิ้ว ตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะหนึ่งด้วยสถานะในปัจจุบันของเขา ไม่ว่าจะในด้านใด ตัวเองก็ยังห่างไกลจากบุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่างราชาแดนเหนืออยู่มากไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยที่จะเป็นศัตรูกับราชาแดนเหนืออย่างไรก็ตามหลัวซื่อฉงเป็นหนึ่งในผู้ร้ายที่ลักพาตัวหลี่เจียฮุ่ย แถมเกือบจะทำให้หลี่เจียฮุ่ยถูกซุนกวนชงข่มเหงด้วยถ้าเขาปล่อยหลัวซ
“ลูกชายของราชาแดนเหนือเหรอ?”ฉินหมิงตกใจมากเขาไม่คิดฝันเลยว่าจะบังเอิญเจออีกฝ่ายที่นี่ในตอนนี้ จึงตกใจเล็กน้อย“ไอ้หนู แกล่ะเป็นใคร?”นายน้อยลี่จ้องมองฉินหมิงอย่างเย็นชาด้วยท่าทางที่เหนือกว่า ทั้งน้ำเสียงและสายตาของเขามีแต่ความเย่อหยิ่งดูถูก“นายน้อยลี่ เด็กคนนี้ชื่อฉินหมิงครับ เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจไร้เส้นสายคนหนึ่ง”“อย่างไรก็ตาม ทักษะยุทธ์ของเขาทรงพลังมาก...”หลัวซื่อฉงพูดอย่างร้อนใจ เขากำลังจะบอกต่อว่าฉินหมิงนั้นคือยอดฝีมือระดับปรมาจารย์คนหนึ่ง แต่ก็ถูกน้อยลี่ขัดจังหวะก่อนที่จะทันได้พูดจบ“ก็แค่เด็กกำพร้าคนหนึ่ง กล้าดียังไงไม่เคารพกับพ่อของฉัน ช่างไม่รู้จักที่ตาย!”นายน้อยลี่แค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา สีหน้าดูโกรธเกรี้ยว“นั่นสิ!”“นายน้อยลี่ เด็กคนนี้อาศัยว่าตัวเองมีทักษะยุทธที่ยอดเยี่ยม ก็เลยทำร้ายผม ไม่เห็นราชาแดนเหนืออยู่ในสายตาสักนิด คุณต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้ผมนะครับ…”หลัวซื่อฉงขอความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว“ไอ้หนู ฉันให้โอกาสแกครั้งหนึ่ง!”“คุกเข่าลงแล้วขอโทษเดี๋ยวนี้ จากนั้นตัดแขนของแกข้างหนึ่งชดใช้ให้กับหลัวซื่อฉง บางทีฉันอาจจะพิจารณาปล่อยแกไป!”“
ในแง่ของอำนาจ ฉินหมิงอยู่ห่างไกลจากราชาแดนเหนือเยอะ เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับลี่หย่งเจี๋ยถ้าเขาคิดจะบดขยี้ฉินหมิงให้ตาย มันง่ายยิ่งกว่าการฆ่ามดตัวหนึ่งเสียอีก!ไม่ว่าจะในด้านไหน ฉินหมิงล้วนพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!“นาย…”ใบหน้าของฉินหมิงมืดครึ้ม ถูกความโอหังของลี่หย่งเจี๋ยทำให้โกรธ“ใครว่านายน้อยฉินไม่มีคุณสมบัติกัน?”“ลี่หย่งเจี๋ย นายนี่มันปากดีมากจริง ๆ นะ ตามความคิดของฉัน คนที่ไม่มีคุณสมบัติคือนายต่างหาก!”ในขณะนี้เอง เสียงเยาะเย้ยเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเฝิงหลุน ลูกชายของราชาแดนใต้ เดินเข้ามาจากข้างนอก ข้างหลังเขามีผู้ติดตามหลายคนตามอยู่ไม่ห่าง“เฝิงหลุน เป็นนาย!”“ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่?”ลี่หย่งเจี๋ยประหลาดใจมากเมื่อเขาเห็นเฝิงหลุนนี่คือรังของพยัคฆ์บินหลัวซื่อฉง ถือได้ว่าเป็นถิ่นอิทธิพลของราชาแดนเหนือแต่เฝิงหลุน ในฐานะลูกชายของราชาแดนใต้ กลับมาปรากฏตัวที่นี่ สิ่งนี้ทำให้ลี่หย่งเจี๋ยประหลาดใจไม่น้อย“นายน้อยฉิน ฉันไม่ได้มาสายเกินไปใช่ไหม?”เฝิงหลุนเพิกเฉยต่อลี่หย่งเจี๋ย แล้วเดินตรงไปหยุดอยู่ข้าง ๆ ฉินหมิง ทักทายฉินหมิงด้วยท่าทางเป็นมิตร“ไม่หรอก มาทันเวลาพอดี”ฉินหมิง
“ฉันพูดได้แค่นี้แหละ แล้วแต่นายเลยว่าจะเชื่อหรือเปล่า!”เฝิงหลุนแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาเขาไม่ใช่ลูกน้องของลี่หย่งเจี๋ย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ลี่หย่งเจี๋ยฟังมากขนาดนั้นนอกจากนั้น สองราชาจากแดนเหนือและใต้เองก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรต่อกัน ตรงกันข้ามพวกเขาเป็นเหมือนน้ำกับไฟ กระทบกระทั่งกันมาโดยตลอดเนื่องจากลี่หย่งเจี๋ยไม่เชื่อว่าฉินหมิงจะมีภูมิหลังอะไร กระทั่งตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นศัตรูกับฉินหมิง นี่ตรงกับผลประโยชน์ของเขาพอดี มีแต่จะเป็นผลดีไม่เกิดผลเสียต่อเขา!“เลิกพูดไร้สาระเถอะ!”“เฝิงหลุน วันนี้นายจะออกหน้าแทนไอ้หนูนี่ให้ได้เลยใช่ไหม?”ลี่หย่งเจี๋ยมองไปที่เฝิงหลุนและถามอย่างเย็นชาเขากำหนดตัวตนของฉินหมิงไว้ในใจแล้วว่าไม่ใช่บุคคลยิ่งใหญ่อะไร นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างฉินหมิงและเฝิงหลุนเองดูเหมือนจะใกล้ชิดกันมาก เขาจึงถือว่าฉินหมิงเป็นคนของเฝิงหลุนแล้วสองราชาแดนเหนือและใต้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกัน เพื่อนของเฝิงหลุน จึงเท่ากับเป็นศัตรูของเขา เขายิ่งไม่มีทางปล่อยฉินหมิงไปง่าย ๆ!“แล้วไงล่ะ!”“นายน้อยฉินเป็นเพื่อนของฉัน แน่นอนว่าฉันย่อมต้องช่วยเขา!”
“อะไรนะ?”ลี่หย่งเจี๋ยตกใจมากเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้เมื่อสักครู่นี้หลัวซื่อฉงบอกเขาอย่างชัดเจนว่าฉินหมิงเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจและเส้นสาย และเขาก็เชื่อว่ามันเป็นจริงตามนั้น แต่ตอนนี้ ฉินหมิงไม่เพียงแต่มีเฝิงหลุนลูกชายของราชาทางใต้เป็นเพื่อน เขายังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับตระกูลซู หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่อีกด้วยนี่เรียกว่าไร้อำนาจไร้เส้นสายหรอ?หลัวซื่อฉงมันพูดบ้าอะไรของมันอยู่?ลี่หย่งเจี๋ยจ้องไปที่หลัวซื่อฉงด้วยความโกรธ อยากจะตบหน้าหลัวซื่อฉงแรง ๆ ให้ตายคามือไปเสีย!หลัวซื่อฉงใบหน้าซีดเผือด อารมณ์ของเขาจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งอีกครั้งเขารู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าฉินหมิงมีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลซู แต่ซุนกวนชงบอกเขาว่าฉินหมิงและตระกูลซูแค่ติดต่อกันด้วยเรื่องของหยกเขียวจักรพรรดิเท่านั้น เลยโชคดีปีนขึ้นไปเกาะแข้งเกาะขาตระกูลซูได้ทั้งสองฝ่ายเพียงทำการค้ากัน ของไปเงินมา แล้วเรื่องพวกนี้ก็ผ่านไปนานแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างกันเขาเองก็เห็นว่าสิ่งที่ซุนกวนชงพูดนั้นมีเหตุผล เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลซูจะออกหน้าช่วยฉินหมิงตลอดโดยไม่มีเงื่อนไขเพียงเพราะบุญคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้แต่ความเป็
แถมเมื่อเห็นท่าทีที่ตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่าย บรรยากาศดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนักเขาสับสนเล็กน้อย เดาไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น“เป็นแบบนี้…”ลี่หย่งเจี๋ยเล่าให้ฟังสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากฟังจบ เค่ออั๋งก็ประหลาดใจมาก เขามองฉินหมิงด้วยสายตาลึกซึ้ง ถามอย่างแปลกใจว่า “นายน้อยลี่ ฉินหมิงคนนี้คือใคร สามารถปีนขึ้นมาเกาะตระกูลซูและราชาแดนใต้ได้ ความสามารถไม่เบาเลย!"“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นเทพมาจากไหน รู้แค่ว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า...”ลี่หย่งเจี๋ยอธิบายอย่างง่าย ๆ“เด็กกำพร้าเหรอ?”เค่ออั๋งสะดุ้ง เขาตกใจไม่น้อยจริง ๆอย่างไรก็ตาม หลังจากที่รู้ว่าฉินหมิงเป็นเพียงเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่ใช่ทายาทสายตรงของตระกูลใหญ่ เขาก็อดไม่ได้รู้สึกดูถูกฉินหมิงเล็กน้อย ไม่เห็นฉินหมิงอยู่ในสายตาอีก“นายน้อยเค่อ ซูห่าวและเฝิงหลุนทั้งสองคนร่วมมือกันต่อต้านฉัน นายต้องช่วยฉันนะ…”ลี่หย่งเจี๋ยพูดอย่างรวดเร็ว“นายน้อยลี่ นายวางใจเถอะ เราสองคนเป็นเพื่อนกัน ฉันจะไม่นั่งอยู่เฉย ๆ และไม่แยแสนายหรอก”เค่ออั๋งหัวเราะ ทั้งไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ“เค่ออั๋ง ทำไม นายคิดที่จะเป็นศัตรูกับพวกเราตระกูลซูเหรอ?”สีหน้
“เห็นแก่หน้าซูห่าวและเฝิงหลุน ฉันจะให้โอกาสนายเลือกอีกครั้ง ถ้านายปล่อยหลัวซื่อฉงไปตอนนี้ ฉันสามารถแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และรับประกันว่านายจะไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย!”“ไม่อย่างนั้น รอรับผลที่จะตามมาด้วยตัวเองเถอะ!”เค่ออั๋งถูกทำให้โกรธแล้วถ้าซูห่าวเป็นคนที่หักหน้าเขาก็ช่างเถอะ ทั้งสองคนมีสถานะและความแข็งแกร่งเท่ากัน เขาทำอะไรซูห่าวไม่ได้แต่ฉินหมิงเป็นใคร เด็กกำพร้าตัวเล็ก ๆ แต่กลับกล้าหักหน้าเขา!กำลังรนหาที่ตายชัด ๆ!ความโกรธในใจเขา ใครก็ไม่อาจจินตนาการได้เลย!“ฉัน…”ขณะที่ฉินหมิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ ๆ เขาก็ถูกหลี่เจียฮุ่ยที่อยู่ข้างหลังขัดจังหวะ“ฉินหมิง ยังไงซะฉันเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เรื่องนี้ให้มันจบกันแค่นี้ดีไหม”หลี่เจียฮุ่ยกระตุกแขนของฉินหมิง แนะนำเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวลก่อนหน้านี้เธอคิดมาโดยตลอดว่าฉินหมิงโชคดี ถึงได้ปีนขึ้นไปเกาะตระกูลซูและลูกชายของราชาแดนใต้ สร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาได้แต่ตอนนี้ เธอเห็นแล้วว่าซูห่าวและเฝิงหลุนยืนหยัดเพื่อช่วยเหลือฉินหมิงมากแค่ไหน ตอนนี้เธอถึงเพิ่งตระหนักว่าเมื่อก่อนตัวเองประเมินฉินหมิงต่ำเกินไปจริง ๆ ฉิ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ