หลังจากฟื้นขึ้นมา ซุนกวนชงก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ถูกส่งมาจากส่วนล่างของเขา จากนั้นเขาก็จำได้อย่างรวดเร็วว่าตัวเองถูกฉินหมิงเล่นงานจนพิการแล้ว“คุณหลัว ช่วยฉันเล่นงานฉินหมิงไอ้สารเลวนั่นด้วย ฉันจะทำให้มันอยู่ไม่สู้ตาย!ลูกตาของซุนกวนชงแทบถลนออกมานอกเบ้าด้วยความโกรธจัด เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แทบอยากจะฉีกฉินหมิงออกเป็นชิ้น ๆ เมื่อสักครู่นี้ชีวิตน้อย ๆ ของเขาตกอยู่ในกำมือของฉินหมิง หลัวซื่อฉงเป็นเหมือนหนูติดกับดัก ย่อมไม่กล้าหุนหันพลันแล่นแต่ตอนนี้เขาปลอดภัยแล้ว เชื่อว่าด้วยทักษะยุทธ์และฝีมือยอดเยี่ยมของหลัวซื่อฉงจะสามารถเอาชนะฉินหมิงได้อย่างง่ายดาย!ถึงตอนนั้น ต่อให้จะต้องเสี่ยงข้อหาฆ่าคน เขาก็จะใช้มีดกระซวกฉินหมิงให้เป็นเนื้อบด ล้างแค้นให้กับตัวเอง!“ท่านหลัวทรงพลังมาก!”“จัดการกับไอ้ขยะตาบอดนี่ซะ!”......ลูกน้องกลุ่มหนึ่งของหลัวซื่อฉงส่งเสียงเชียร์และให้กำลังใจ เสียงที่ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงนั้นสั่นสะเทือนก้องฟ้าพวกทุกคนล้วนรู้ดีว่าหลัวซื่อฉงเป็นบุคคลระดับบอสใหญ่ของโลกใต้ดิน มีชื่อเสียงมายาวนาน มาก แถมทักษะยุทธ์ของเขาก็ล้ำลึกเกินหยั่ง ฉินหมิงเป็นเพียงเด็กที่
ระดับการบ่มเพาะของยอดฝีมือในชุดสีฟ้าทั้งสองคนนั้น อยู่ในช่วงขั้นต้นระดับสวรรค์ประทาน เดิมทีความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่สู้เนี่ยอู๋อยู่แล้ว ยิ่งเมื่อได้เห็นฉากหลัวซื่อฉงถูกฉินหมิงโค่นในหมัดเดียว จิตวิญญาณการต่อสู้ของสองคนก็สั่นคลอน ขวัญกำลังใจในการต่อสู้ได้รับผลกระทบอย่างมากอาศัยโอกาสนี้ เนี่ยอู๋เร่งความเร็วการโจมตี ใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกล่อศัตรูให้ตกหลุมพราง ในไม่ช้ายอดฝีมือในชุดสีฟ้าคนหนึ่งก็ถูกต่อยจนต้องล่าถอยไป จากนั้นเขาก็หมุนตัว เตะไปที่ยอดฝีมือในชุดสีฟ้าอีกคนยอดฝีมือในชุดสีฟ้าทั้งสองคนล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว!“หรือว่าเขาจะเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์จริง ๆ?”หลัวซื่อฉงตะลึงงัน หัวใจของเขาราวกับถูกคลื่นยักษ์ซัดสาด เนิ่นนานก็ยังสงบใจลงไม่ได้ก่อนหน้านี้เขาไม่เชื่อว่าฉินหมิงที่อายุยังน้อยจะเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ท่านหนึ่งแต่ตอนนี้เขาไม่เชื่อไม่ได้ด้วยระดับการบ่มเพาะขั้นกลางระดับสวรรค์ประทานของเขา ฉินหมิงสามารถโค่นเขาได้ในการโจมตีเดียว ความแข็งแกร่งนั้นอย่างน้อยต้องอยู่เหนือกว่าขั้นสูงระดับสวรรค์ประทานไปแล้ว ไปถึงขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทาน หรือไม่ก็สูงกว่าอย่างระดั
แต่ตอนนี้เขาตระหนักได้แล้วว่าฉินหมิงคือยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ท่านหนึ่ง ช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งของทั้งสองคนนั้นใหญ่เกินไปสิ่งนี้ทำให้เขาสูญเสียความกล้าหาญทั้งหมด กระทั่งไม่กล้าคิดต่อต้านด้วยซ้ำ“ฉันบอกแกไปก่อนหน้านี้แล้วนะ ในครั้งนี้ยังไงฉันก็ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเจียฮุ่ย!”“ฉันพูดได้ทำได้!”ฉินหมิงพูดอย่างเย็นชา เจตนาฆ่ารุนแรงพวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา ทำให้ผู้คนเพียงแค่เห็นก็เกิดความกลัว“แก...แกกล้า!”"ฉันขอเตือนแก ฉันเป็นลูกน้องของราชาแดนเหนือ ถ้าแกกล้าฆ่าฉัน ราชาแดนเหนือจะไม่ปล่อยแกไปอย่างแน่นอน!"หลัวซื่อฉงพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดคิดถึงว่าตัวเองมีราชาแดนเหนือคอยหนุนหลังอยู่ เขาก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเล็กน้อย“ราชาแดนเหนือเหรอ?”ฉินหมิงขมวดคิ้ว ตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะหนึ่งด้วยสถานะในปัจจุบันของเขา ไม่ว่าจะในด้านใด ตัวเองก็ยังห่างไกลจากบุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่างราชาแดนเหนืออยู่มากไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยที่จะเป็นศัตรูกับราชาแดนเหนืออย่างไรก็ตามหลัวซื่อฉงเป็นหนึ่งในผู้ร้ายที่ลักพาตัวหลี่เจียฮุ่ย แถมเกือบจะทำให้หลี่เจียฮุ่ยถูกซุนกวนชงข่มเหงด้วยถ้าเขาปล่อยหลัวซ
“ลูกชายของราชาแดนเหนือเหรอ?”ฉินหมิงตกใจมากเขาไม่คิดฝันเลยว่าจะบังเอิญเจออีกฝ่ายที่นี่ในตอนนี้ จึงตกใจเล็กน้อย“ไอ้หนู แกล่ะเป็นใคร?”นายน้อยลี่จ้องมองฉินหมิงอย่างเย็นชาด้วยท่าทางที่เหนือกว่า ทั้งน้ำเสียงและสายตาของเขามีแต่ความเย่อหยิ่งดูถูก“นายน้อยลี่ เด็กคนนี้ชื่อฉินหมิงครับ เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจไร้เส้นสายคนหนึ่ง”“อย่างไรก็ตาม ทักษะยุทธ์ของเขาทรงพลังมาก...”หลัวซื่อฉงพูดอย่างร้อนใจ เขากำลังจะบอกต่อว่าฉินหมิงนั้นคือยอดฝีมือระดับปรมาจารย์คนหนึ่ง แต่ก็ถูกน้อยลี่ขัดจังหวะก่อนที่จะทันได้พูดจบ“ก็แค่เด็กกำพร้าคนหนึ่ง กล้าดียังไงไม่เคารพกับพ่อของฉัน ช่างไม่รู้จักที่ตาย!”นายน้อยลี่แค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา สีหน้าดูโกรธเกรี้ยว“นั่นสิ!”“นายน้อยลี่ เด็กคนนี้อาศัยว่าตัวเองมีทักษะยุทธที่ยอดเยี่ยม ก็เลยทำร้ายผม ไม่เห็นราชาแดนเหนืออยู่ในสายตาสักนิด คุณต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้ผมนะครับ…”หลัวซื่อฉงขอความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว“ไอ้หนู ฉันให้โอกาสแกครั้งหนึ่ง!”“คุกเข่าลงแล้วขอโทษเดี๋ยวนี้ จากนั้นตัดแขนของแกข้างหนึ่งชดใช้ให้กับหลัวซื่อฉง บางทีฉันอาจจะพิจารณาปล่อยแกไป!”“
ในแง่ของอำนาจ ฉินหมิงอยู่ห่างไกลจากราชาแดนเหนือเยอะ เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับลี่หย่งเจี๋ยถ้าเขาคิดจะบดขยี้ฉินหมิงให้ตาย มันง่ายยิ่งกว่าการฆ่ามดตัวหนึ่งเสียอีก!ไม่ว่าจะในด้านไหน ฉินหมิงล้วนพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!“นาย…”ใบหน้าของฉินหมิงมืดครึ้ม ถูกความโอหังของลี่หย่งเจี๋ยทำให้โกรธ“ใครว่านายน้อยฉินไม่มีคุณสมบัติกัน?”“ลี่หย่งเจี๋ย นายนี่มันปากดีมากจริง ๆ นะ ตามความคิดของฉัน คนที่ไม่มีคุณสมบัติคือนายต่างหาก!”ในขณะนี้เอง เสียงเยาะเย้ยเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเฝิงหลุน ลูกชายของราชาแดนใต้ เดินเข้ามาจากข้างนอก ข้างหลังเขามีผู้ติดตามหลายคนตามอยู่ไม่ห่าง“เฝิงหลุน เป็นนาย!”“ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่?”ลี่หย่งเจี๋ยประหลาดใจมากเมื่อเขาเห็นเฝิงหลุนนี่คือรังของพยัคฆ์บินหลัวซื่อฉง ถือได้ว่าเป็นถิ่นอิทธิพลของราชาแดนเหนือแต่เฝิงหลุน ในฐานะลูกชายของราชาแดนใต้ กลับมาปรากฏตัวที่นี่ สิ่งนี้ทำให้ลี่หย่งเจี๋ยประหลาดใจไม่น้อย“นายน้อยฉิน ฉันไม่ได้มาสายเกินไปใช่ไหม?”เฝิงหลุนเพิกเฉยต่อลี่หย่งเจี๋ย แล้วเดินตรงไปหยุดอยู่ข้าง ๆ ฉินหมิง ทักทายฉินหมิงด้วยท่าทางเป็นมิตร“ไม่หรอก มาทันเวลาพอดี”ฉินหมิง
“ฉันพูดได้แค่นี้แหละ แล้วแต่นายเลยว่าจะเชื่อหรือเปล่า!”เฝิงหลุนแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาเขาไม่ใช่ลูกน้องของลี่หย่งเจี๋ย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ลี่หย่งเจี๋ยฟังมากขนาดนั้นนอกจากนั้น สองราชาจากแดนเหนือและใต้เองก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรต่อกัน ตรงกันข้ามพวกเขาเป็นเหมือนน้ำกับไฟ กระทบกระทั่งกันมาโดยตลอดเนื่องจากลี่หย่งเจี๋ยไม่เชื่อว่าฉินหมิงจะมีภูมิหลังอะไร กระทั่งตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นศัตรูกับฉินหมิง นี่ตรงกับผลประโยชน์ของเขาพอดี มีแต่จะเป็นผลดีไม่เกิดผลเสียต่อเขา!“เลิกพูดไร้สาระเถอะ!”“เฝิงหลุน วันนี้นายจะออกหน้าแทนไอ้หนูนี่ให้ได้เลยใช่ไหม?”ลี่หย่งเจี๋ยมองไปที่เฝิงหลุนและถามอย่างเย็นชาเขากำหนดตัวตนของฉินหมิงไว้ในใจแล้วว่าไม่ใช่บุคคลยิ่งใหญ่อะไร นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างฉินหมิงและเฝิงหลุนเองดูเหมือนจะใกล้ชิดกันมาก เขาจึงถือว่าฉินหมิงเป็นคนของเฝิงหลุนแล้วสองราชาแดนเหนือและใต้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกัน เพื่อนของเฝิงหลุน จึงเท่ากับเป็นศัตรูของเขา เขายิ่งไม่มีทางปล่อยฉินหมิงไปง่าย ๆ!“แล้วไงล่ะ!”“นายน้อยฉินเป็นเพื่อนของฉัน แน่นอนว่าฉันย่อมต้องช่วยเขา!”
“อะไรนะ?”ลี่หย่งเจี๋ยตกใจมากเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้เมื่อสักครู่นี้หลัวซื่อฉงบอกเขาอย่างชัดเจนว่าฉินหมิงเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจและเส้นสาย และเขาก็เชื่อว่ามันเป็นจริงตามนั้น แต่ตอนนี้ ฉินหมิงไม่เพียงแต่มีเฝิงหลุนลูกชายของราชาทางใต้เป็นเพื่อน เขายังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับตระกูลซู หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่อีกด้วยนี่เรียกว่าไร้อำนาจไร้เส้นสายหรอ?หลัวซื่อฉงมันพูดบ้าอะไรของมันอยู่?ลี่หย่งเจี๋ยจ้องไปที่หลัวซื่อฉงด้วยความโกรธ อยากจะตบหน้าหลัวซื่อฉงแรง ๆ ให้ตายคามือไปเสีย!หลัวซื่อฉงใบหน้าซีดเผือด อารมณ์ของเขาจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งอีกครั้งเขารู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าฉินหมิงมีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลซู แต่ซุนกวนชงบอกเขาว่าฉินหมิงและตระกูลซูแค่ติดต่อกันด้วยเรื่องของหยกเขียวจักรพรรดิเท่านั้น เลยโชคดีปีนขึ้นไปเกาะแข้งเกาะขาตระกูลซูได้ทั้งสองฝ่ายเพียงทำการค้ากัน ของไปเงินมา แล้วเรื่องพวกนี้ก็ผ่านไปนานแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างกันเขาเองก็เห็นว่าสิ่งที่ซุนกวนชงพูดนั้นมีเหตุผล เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลซูจะออกหน้าช่วยฉินหมิงตลอดโดยไม่มีเงื่อนไขเพียงเพราะบุญคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้แต่ความเป็
แถมเมื่อเห็นท่าทีที่ตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่าย บรรยากาศดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนักเขาสับสนเล็กน้อย เดาไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น“เป็นแบบนี้…”ลี่หย่งเจี๋ยเล่าให้ฟังสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากฟังจบ เค่ออั๋งก็ประหลาดใจมาก เขามองฉินหมิงด้วยสายตาลึกซึ้ง ถามอย่างแปลกใจว่า “นายน้อยลี่ ฉินหมิงคนนี้คือใคร สามารถปีนขึ้นมาเกาะตระกูลซูและราชาแดนใต้ได้ ความสามารถไม่เบาเลย!"“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นเทพมาจากไหน รู้แค่ว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า...”ลี่หย่งเจี๋ยอธิบายอย่างง่าย ๆ“เด็กกำพร้าเหรอ?”เค่ออั๋งสะดุ้ง เขาตกใจไม่น้อยจริง ๆอย่างไรก็ตาม หลังจากที่รู้ว่าฉินหมิงเป็นเพียงเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่ใช่ทายาทสายตรงของตระกูลใหญ่ เขาก็อดไม่ได้รู้สึกดูถูกฉินหมิงเล็กน้อย ไม่เห็นฉินหมิงอยู่ในสายตาอีก“นายน้อยเค่อ ซูห่าวและเฝิงหลุนทั้งสองคนร่วมมือกันต่อต้านฉัน นายต้องช่วยฉันนะ…”ลี่หย่งเจี๋ยพูดอย่างรวดเร็ว“นายน้อยลี่ นายวางใจเถอะ เราสองคนเป็นเพื่อนกัน ฉันจะไม่นั่งอยู่เฉย ๆ และไม่แยแสนายหรอก”เค่ออั๋งหัวเราะ ทั้งไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ“เค่ออั๋ง ทำไม นายคิดที่จะเป็นศัตรูกับพวกเราตระกูลซูเหรอ?”สีหน้