“ฉันพูดได้แค่นี้แหละ แล้วแต่นายเลยว่าจะเชื่อหรือเปล่า!”เฝิงหลุนแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาเขาไม่ใช่ลูกน้องของลี่หย่งเจี๋ย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ลี่หย่งเจี๋ยฟังมากขนาดนั้นนอกจากนั้น สองราชาจากแดนเหนือและใต้เองก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรต่อกัน ตรงกันข้ามพวกเขาเป็นเหมือนน้ำกับไฟ กระทบกระทั่งกันมาโดยตลอดเนื่องจากลี่หย่งเจี๋ยไม่เชื่อว่าฉินหมิงจะมีภูมิหลังอะไร กระทั่งตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นศัตรูกับฉินหมิง นี่ตรงกับผลประโยชน์ของเขาพอดี มีแต่จะเป็นผลดีไม่เกิดผลเสียต่อเขา!“เลิกพูดไร้สาระเถอะ!”“เฝิงหลุน วันนี้นายจะออกหน้าแทนไอ้หนูนี่ให้ได้เลยใช่ไหม?”ลี่หย่งเจี๋ยมองไปที่เฝิงหลุนและถามอย่างเย็นชาเขากำหนดตัวตนของฉินหมิงไว้ในใจแล้วว่าไม่ใช่บุคคลยิ่งใหญ่อะไร นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างฉินหมิงและเฝิงหลุนเองดูเหมือนจะใกล้ชิดกันมาก เขาจึงถือว่าฉินหมิงเป็นคนของเฝิงหลุนแล้วสองราชาแดนเหนือและใต้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกัน เพื่อนของเฝิงหลุน จึงเท่ากับเป็นศัตรูของเขา เขายิ่งไม่มีทางปล่อยฉินหมิงไปง่าย ๆ!“แล้วไงล่ะ!”“นายน้อยฉินเป็นเพื่อนของฉัน แน่นอนว่าฉันย่อมต้องช่วยเขา!”
“อะไรนะ?”ลี่หย่งเจี๋ยตกใจมากเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้เมื่อสักครู่นี้หลัวซื่อฉงบอกเขาอย่างชัดเจนว่าฉินหมิงเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจและเส้นสาย และเขาก็เชื่อว่ามันเป็นจริงตามนั้น แต่ตอนนี้ ฉินหมิงไม่เพียงแต่มีเฝิงหลุนลูกชายของราชาทางใต้เป็นเพื่อน เขายังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับตระกูลซู หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่อีกด้วยนี่เรียกว่าไร้อำนาจไร้เส้นสายหรอ?หลัวซื่อฉงมันพูดบ้าอะไรของมันอยู่?ลี่หย่งเจี๋ยจ้องไปที่หลัวซื่อฉงด้วยความโกรธ อยากจะตบหน้าหลัวซื่อฉงแรง ๆ ให้ตายคามือไปเสีย!หลัวซื่อฉงใบหน้าซีดเผือด อารมณ์ของเขาจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งอีกครั้งเขารู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าฉินหมิงมีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลซู แต่ซุนกวนชงบอกเขาว่าฉินหมิงและตระกูลซูแค่ติดต่อกันด้วยเรื่องของหยกเขียวจักรพรรดิเท่านั้น เลยโชคดีปีนขึ้นไปเกาะแข้งเกาะขาตระกูลซูได้ทั้งสองฝ่ายเพียงทำการค้ากัน ของไปเงินมา แล้วเรื่องพวกนี้ก็ผ่านไปนานแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างกันเขาเองก็เห็นว่าสิ่งที่ซุนกวนชงพูดนั้นมีเหตุผล เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลซูจะออกหน้าช่วยฉินหมิงตลอดโดยไม่มีเงื่อนไขเพียงเพราะบุญคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้แต่ความเป็
แถมเมื่อเห็นท่าทีที่ตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่าย บรรยากาศดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนักเขาสับสนเล็กน้อย เดาไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น“เป็นแบบนี้…”ลี่หย่งเจี๋ยเล่าให้ฟังสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากฟังจบ เค่ออั๋งก็ประหลาดใจมาก เขามองฉินหมิงด้วยสายตาลึกซึ้ง ถามอย่างแปลกใจว่า “นายน้อยลี่ ฉินหมิงคนนี้คือใคร สามารถปีนขึ้นมาเกาะตระกูลซูและราชาแดนใต้ได้ ความสามารถไม่เบาเลย!"“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นเทพมาจากไหน รู้แค่ว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า...”ลี่หย่งเจี๋ยอธิบายอย่างง่าย ๆ“เด็กกำพร้าเหรอ?”เค่ออั๋งสะดุ้ง เขาตกใจไม่น้อยจริง ๆอย่างไรก็ตาม หลังจากที่รู้ว่าฉินหมิงเป็นเพียงเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่ใช่ทายาทสายตรงของตระกูลใหญ่ เขาก็อดไม่ได้รู้สึกดูถูกฉินหมิงเล็กน้อย ไม่เห็นฉินหมิงอยู่ในสายตาอีก“นายน้อยเค่อ ซูห่าวและเฝิงหลุนทั้งสองคนร่วมมือกันต่อต้านฉัน นายต้องช่วยฉันนะ…”ลี่หย่งเจี๋ยพูดอย่างรวดเร็ว“นายน้อยลี่ นายวางใจเถอะ เราสองคนเป็นเพื่อนกัน ฉันจะไม่นั่งอยู่เฉย ๆ และไม่แยแสนายหรอก”เค่ออั๋งหัวเราะ ทั้งไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ“เค่ออั๋ง ทำไม นายคิดที่จะเป็นศัตรูกับพวกเราตระกูลซูเหรอ?”สีหน้
“เห็นแก่หน้าซูห่าวและเฝิงหลุน ฉันจะให้โอกาสนายเลือกอีกครั้ง ถ้านายปล่อยหลัวซื่อฉงไปตอนนี้ ฉันสามารถแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และรับประกันว่านายจะไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย!”“ไม่อย่างนั้น รอรับผลที่จะตามมาด้วยตัวเองเถอะ!”เค่ออั๋งถูกทำให้โกรธแล้วถ้าซูห่าวเป็นคนที่หักหน้าเขาก็ช่างเถอะ ทั้งสองคนมีสถานะและความแข็งแกร่งเท่ากัน เขาทำอะไรซูห่าวไม่ได้แต่ฉินหมิงเป็นใคร เด็กกำพร้าตัวเล็ก ๆ แต่กลับกล้าหักหน้าเขา!กำลังรนหาที่ตายชัด ๆ!ความโกรธในใจเขา ใครก็ไม่อาจจินตนาการได้เลย!“ฉัน…”ขณะที่ฉินหมิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ ๆ เขาก็ถูกหลี่เจียฮุ่ยที่อยู่ข้างหลังขัดจังหวะ“ฉินหมิง ยังไงซะฉันเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เรื่องนี้ให้มันจบกันแค่นี้ดีไหม”หลี่เจียฮุ่ยกระตุกแขนของฉินหมิง แนะนำเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวลก่อนหน้านี้เธอคิดมาโดยตลอดว่าฉินหมิงโชคดี ถึงได้ปีนขึ้นไปเกาะตระกูลซูและลูกชายของราชาแดนใต้ สร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาได้แต่ตอนนี้ เธอเห็นแล้วว่าซูห่าวและเฝิงหลุนยืนหยัดเพื่อช่วยเหลือฉินหมิงมากแค่ไหน ตอนนี้เธอถึงเพิ่งตระหนักว่าเมื่อก่อนตัวเองประเมินฉินหมิงต่ำเกินไปจริง ๆ ฉิ
นอกจากนี้มิตรภาพระหว่างเขากับฉินหมิงเองก็ไม่ได้ลึกซึ้งเท่ากับของตระกูลซู ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะลังเลใจเค่ออั๋งมองเห็นความลังเลใจของเฝิงหลุนอย่างรวดเร็ว สมองของเขาคิดเร็วจี๋ เขายิ้มและพูดไปว่า “เฝิงหลุน นายคิดให้ดี ๆ ล่ะ!"“ระดับการบ่มเพาะของฉันและซูห่าวใกล้เคียงกัน ฉันทำอะไรเขาไม่ได้ เขาเองก็ไม่สามารถทำอะไรกับฉันได้เหมือนกัน!”“แต่นายไม่เหมือนกัน ระดับการบ่มเพาะของนายน้อยลี่นั้นสูงกว่าของนายมาก นายไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้!”“ถ้านายยังยืนกรานที่จะต่อต้านพวกเราสองคนต่อ ก็มีแต่หาเรื่องทำให้ตัวเองลำบากเท่านั้น!”เค่ออั๋งพูดพลางขยิบตาให้ลี่หย่งเจี๋ยอย่างลับ ๆ ลี่หย่งเจี๋ยก็เข้าใจในทันที“นายน้อยเค่อพูดถูก!”“เฝิงหลุน ถ้านายถอยออกไปในตอนนี้ ฉันจะแกล้งทำเป็นว่าไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นมาก่อน”“แต่ถ้านายไม่รับสุราคารวะแต่รับสุราพิษ ถ้างั้นก็อย่าหาว่าฉันหยาบคายเลย!”“ถ้าเกิดฉันไม่ระวังทุบตีนายจนพิการเข้า หรือไม่ทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาของนายเสียโฉม ฉันจะดูว่านายจะอยู่ในโลกใต้ดินนี้ต่อยังไง!”ลี่หย่งเจี๋ยขู่และพยายามทำให้เฝิงหลุนตกใจตราบเท่าที่เฝิงหลุนเต็มใจที่จะถอนตัว
ทั้งสองคนรู้ว่าฉินหมิงและหลินหว่านชิงนั้นมีความเกี่ยวข้องกัน ใช้หัวแม่เท้าคิดทั้งคู่ก็เดาได้ว่าที่หลินหว่านชิงมาที่นี่ตอนนี้ เธอมาเพื่อฉินหมิงอย่างแน่นอน!อย่างไรก็ตาม เค่ออั๋งไม่คิดแบบนั้น เขาเผยรอยยิ้มหล่อเหลาและมีเสน่ห์ เริ่มเดินขึ้นไปทักทายเธอก่อน“หว่านชิง ทำไมเธอถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“หรือว่าเธอมาหาฉันโดยเฉพาะ?”เค่ออั๋งมีรอยยิ้มเต็มหน้า เขาจดจ้องไปที่ใบหน้าที่สวยงามของหลินหว่านชิง ในดวงตาอดไม่ได้เผยความหลงใหลออกมาหลินหว่านชิงเป็นหนึ่งในสี่สาวงามของเมืองเจียงเฉิน ความสวยของเธอไม่มีใครทัดเทียมได้ คนที่ตามจีบเธอมีมากพอ ๆ กับปลาคาร์พที่กระโดดข้ามแม่น้ำ!เค่ออั๋งเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาตามจีบหลินหว่านชิงมานานกว่าสองปีแล้วตอนนี้หลินหว่านชิงมาที่นี่อย่างกะทันหัน เขาจึงคิดว่าหลินหว่านชิงอาจจะมาหาเขา อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่เธอจะมุ่งเป้ามาที่เด็กกำพร้าอย่างฉินหมิง!“หลีกทางไป!”“ฉันมาที่นี่เพื่อช่วยฉินหมิง ไม่ใช่นาย!”หลินหว่านชิงเหลือบมองเค่ออั๋งด้วยสีหน้าดูถูกเค่ออั๋งเป็นเพลย์บอยชื่อดังของเมืองเจียงเฉิน เขาเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าซะอีก เธอเกลีย
ในความเป็นจริงเธอรู้สึกไม่สบายใจมาก เธอไม่คิดฝันเลยว่าในสถานที่เล็ก ๆ แห่งนี้จะมีทายาทสายตรงของสี่ขุมอำนาจมารวมตัวกันในเวลาเดียวกัน!โชคดีที่ทั้งสองฝ่ายแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน เกิดเป็นรูปของสองกองกำลัง เธอจึงสามารถบอกได้ทันทีว่าฝั่งของสองพี่น้องซูห่าว เฝิงหลุน และฉินหมิงนั้นอยู่ในกลุ่มเดียวกันสิ่งนี้ทำให้เธอแอบโล่งใจเล็กน้อย ถ้าสี่ขุมกำลังเป็นศัตรูของฉินหมิงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะนำคนของตระกูลหลินมาด้วย และไม่ว่าตระกูลหลินจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถต่อกรกับสี่ขุมอำนาจพร้อมกันได้!“ฉินหมิง นาย…”หลินหว่านชิงกำลังจะถามคำถามสองสามข้อแต่เมื่อเธอเห็นแก้มของฉินหมิงแล้วมองไปที่หลี่เจียฮุ่ยซึ่งสวมแจ็กเก็ตของฉินหมิงที่อยู่ข้าง ๆ ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา เธอรีบกลืนคำพูดที่มาถึงปากลงไป หันหลังกลับแล้วไม่ยอมมองไปที่ฉินหมิงอีก“หว่านชิง เธอเป็นอะไรไป?”ฉินหมิงแปลกใจมาก ใบหน้าเขามีแต่ความสับสนเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกระเถิบเข้ามา พูดด้วยสีหน้าแปลก ๆ ว่า "สัตว์ร้าย มีรอยลิปสติกอยู่บนหน้าของนายแน่ะ ผู้หญิงคนไหนกันที่จูบนาย..."“อะไรนะ?”ฉินหมิงตกใจมาก เขารีบใช้มือเช็ดแก้มแล้วมองดูรอยล
เขารับรู้ได้ถึงวิกฤติอย่างรุนแรงทันที จึงจ้องไปที่ฉินหมิงด้วยเจตนาฆ่าเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน!ซูห่าวไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าบรรยากาศในตอนนี้มีบางอย่างผิดปกติ เขาโพล่งขึ้นมาทำลายความเงียบ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ลี่หย่งเจี๋ย เค่ออั๋ง ตอนนี้สถานการณ์กลายเป็นสามต่อสองแล้ว พวกนายสองคนมีอะไรจะพูดไหม?"“ฉัน…”ใบหน้าของลี่หย่งเจี๋ยเองก็ดูน่าเกลียดไม่แพ้กันแม้ว่าหลินหว่านชิงจะดูไม่เหมือนผู้ฝึกยุทธ แต่ลูกน้องไม่กี่คนที่หลินหว่านชิงพามาด้วยเป็นยอดฝีมือของตระกูลหลินอย่างไม่ต้องสงสัย แถมความแข็งแกร่งก็ไม่ธรรมดาด้วยถ้าทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกันจริง ๆ ฝ่ายของซูห่าวซึ่งมีกำลังสามต่อสอง จะทำให้เขาและเค่ออั๋งพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!“หว่านชิง เธอแน่ใจเหรอว่าต้องการช่วยไอ้หนูนี่”เค่ออั๋งถามอย่างไม่ยอมแพ้ เขาหวังว่าหลินหว่านชิงจะเลือกอีกครั้ง และเขากำลังรอให้หลินหว่านชิงเลือกระหว่างเขากับฉินหมิง!“ถูกต้อง!”“ฉินหมิงเป็นเพื่อนของฉัน และศัตรูของเขาก็คือศัตรูของตระกูลหลินของเรา!”หลินหว่านชิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ท่าทีของเธอมั่นคงมาก เธอไม่ลังเลแม้แต่น้อยแม้ว่าเธอจะรู้สึกหึงหวงเรื่องของหลี่เจียฮุ่ยเล็กน้