ซุนกวนชงถึงกับใจตกลงไปถึงตาตุ่ม ไม่อยากจะเชื่อในสายตาตัวเองเขารู้ดีว่าพละพลังของเนี่ยอู๋แข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาไม่เคยคาดหวังว่าเนี่ยอู๋ซึ่งที่เขาคิดว่าเป็นไม้ตายของตนจะไม่สามารถขัดขวางการเคลื่อนไหวของฉินหมิงได้!แม้จะพ่ายแพ้ไปอย่างราบคาบ!ถ้าไม่เห็นกับตาได้ยินกับหู ต่อให้ตีเขาให้ตายก็ไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง!หม่าลู่เองก็เหมือนกัน เธอเองก็ตกตะลึงด้วยความงงงัน!เธอและฉินหมิงแต่งงานกันมาสามปี ไม่มีใครรายละเอียดรู้ดีไปกว่าเธอ เมื่อหนึ่งหรือสองเดือนที่ผ่านมา ฉินหมิงยังคงเป็นคนที่ไร้ประโยชน์อยู่เลย!เขาทำงานหนักในตระกูลหม่าโดยไม่บ่น และไม่มีความสามารถที่จะต่อสู้ได้เลย!แต่ตอนนี้ฉินหมิงยกหูโทรศัพท์ขึ้นโทรไปหาคนของโจวกรุ๊ปได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเอาชนะปรมาจารย์กังฟูหลายคนที่ซุนกวนชงใช้เงินจำนวนมากฟาดหัวมาได้อย่างง่ายดาย!นี่ยังเป็นฉินหมิงผู้ที่ไร้ประโยชน์ที่เธอเคยรู้จักมาก่อนจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ!”จู่ ๆ ก็มีประโยคหนึ่งเข้ามาในหัวสมองของเธอ อย่ารังแกคนที่ด้อยกว่า!บางทีเธออาจจะสายตาสั้นและประเมินฉินหมิงต่ำไป!“ฉินหมิง นาย… กังฟูนายยอดเยี่ยมจริง ๆ เลย!”ดวงตางดง
“ฉันสัญญาว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปฉันจะไม่มาระรานนายอีก…”“แล้วทำไมไม่ทำตั้งนาน?”“ตอนนี้เพิ่งจะรู้สำนึกผิด สายไปหน่อยล่ะมั้ง!”ฉินหมิงหัวเราะเยาะ กำลังยกเท้าจะกระทืบลงซุนกวนชงที่เต็มไปด้วยความกลัวได้พูดโพล่งขึ้นมา “เดี๋ยวก่อน!”“นายเคยพูดไว้นี่ ว่าถ้าฉันคุกเข่าขอร้องนาย นายจะปล่อยฉันไป”“แล้วทำไมนายถึงได้กลับกลอกเองซะล่ะ…”ฉินหมิงนิ่งไปชั่วขณะ จนหวนคิดถึงในสิ่งที่ตัวเคยพูดไว้ ขอแค่เนี่ยอู๋และซุนกวนชงคุกเข่าร้องอ้อนวอน เขาก็อาจจะพิจารณาปล่อยพวกเขาไป“เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน ตอนนี้คือตอนนี้!”“แล้วที่ฉันพูดเมื่อกี้ก็แค่บอกว่าจะพิจารณา ไม่ได้บอกว่าจะปล่อยนายไปนี่!”ฉินหมิงหัวเราะอย่างเย็นชา“นี่นาย…”ซุนกวนชงโกรธมากจนแทบจะสาปแช่งบรรพบุรุษของฉินหมิงไปสิบแปดรุ่นแต่ทว่า เมื่อตกที่นั่งลำบากจึงจำใจต้องยอมตอนนี้ถึงขนาดคุกเข่าแล้วคุกเข่าอีก เสียหน้าก็เสียไปแล้ว จะยอมแพ้ง่าย ๆ ได้อย่างไร!“หม่าลู่ คนเคย ๆ เป็นสามีภรรยากันแท้ ๆ!”“เธอกับฉินหมิงเคยอยู่กินกันมาสามปีแล้ว เธอรีบคุกเข่าขอร้องแทนฉันซะสิ ให้เขาปล่อยฉันไป…”ซุนกวนชงรีบพูดอย่างร้อนใจ เขาฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่
จนถึงตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใจว่าฉินหมิงคือสิ่งที่ดีที่สุด!ในใจเธอรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ที่ตัวเองเลือกหย่ากับฉินหมิงไปแท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง!แค่เรื่องมาถึงขนาดนี้ แม้ว่าเธอจะเสียใจ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร!……หลังจากที่ฉินหมิงและหลี่เจียฮุ่ยเดินออกจากห้างสรรพสินค้า ก็มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบตามหลังพวกเขามา“คุณฉิน รอก่อนครับ”เป็นเนี่ยอู๋ที่กุลีกุจอวิ่งเข้ามา“นายเองเหรอ?”“คิดจะทำอะไร!”ฉินหมิงปกป้องหลี่เจียฮุ่ยข้างหลังเขาด้วยมือเดียวและมองเนี่ยอู๋เชิงป้องกันเนี่ยอู๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คุกเข่าลงต่อหน้าฉินหมิงด้วยเสียงดัง และพูดอย่างจริงใจว่า “คุณ ฉิน ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณขุ่นเคือง ผมทำให้คุณขุ่นเคืองมาก ช่วยยกโทษให้ฉันด้วย”“ไม่เป็นไร ไหน ๆ เรื่องก็ผ่านไปแล้ว ลุกขึ้นเถอะ”ฉินหมิงโบกมือแล้วพูดเขารู้ว่าเนี่ยอู๋เป็นอันธพาลที่ได้รับการว่าจ้างจากซุนกวนชง เขาก็แค่ปฏิบัติตามคำสั่งยิ่งไปกว่านั้น เขาและเนี่ยอู๋ไม่ได้เป็นศัตรูคู่แค้นกัน ไม่จำเป็นต้องรู้จักกันเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยนี้เนี่ยอู๋ยังไม่ลุกขึ้นยืน แต่เขากลับโขกหัวคำนับสามครั้งติดต่อกันและกล่าวด้วยความเคาร
“ได้โปรดเห็นความจริงใจของผม เพียงแค่ให้โอกาสผม…”ในเวลานี้ ฉากนี้ได้ดึงดูดความสนใจของผู้ผ่านไปมา ทุกคนเห็นเนี่ยอู๋ก้มหน้ามองฉินหมิงหลายคนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ และอดไม่ได้ที่จะมองแปลก ๆ ไปที่ฉินหมิงแม้แต่หลี่เจียฮุ่นที่อยู่ข้างฉินหมิงก็ดูประหลาดใจ“นายลุกขึ้นก่อนค่อยว่ากัน!”ฉินหมิงมีความกังวลเล็กน้อยด้วยสังคมยุคใหม่ เขาไม่อยากให้คนอื่นคิดผิดว่าเขารังแกผู้ชายและเก่งกับผู้หญิง"“ถ้าคุณไม่รับผมเป็นศิษย์ ผมก็จะไม่ลุกขึ้น!”เนี่ยอู๋พูดจาแน่วแน่“นายยืนขึ้นก่อนเถอะ ฉันรับนายเป็นศิษย์ไม่ได้หรอก แต่เห็นความจริงใจของนายแล้ว ฉันจะช่วยชี้แนะนายให้นิดหน่อยแล้วกัน”ฉินหมิงปวดหัวจริง ๆ จำใจต้องพูดปลอบเนี่ยอู๋สักหน่อย ทำอย่างไรที่ฝ่ายตรงข้ามสงบสติลง“ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์!”เนี่ยอู๋ดีใจยกใหญ่ รีบพยักหน้าทันที แล้วลุกขึ้นยืน“อย่าเรียกฉันว่าท่านอาจารย์เลย ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ได้คิดจะรับใครเป็นศิษย์”“ฉันจะพยายามชี้นำนายแล้วกัน แต่ว่านายไม่ต้องเรียกฉันว่าท่านอาจารย์”ฉินหมิงโบกมือพูดแม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักสู้ แต่การฝึกฝนลัทธิเต๋าและศิลปะการต่อสู้มาจากนิกายเดียวกัน และด้วยความแข็
“ยินดีด้วยนะครับ”ฉินหมิงยิ้มรับพูดเนื่องจากเนื่องจากการฝึกหยุดนิ่งมาหกปีแล้ว พลังงานที่แท้จริงในร่างกายสะสมลึกมาก แต่ก็ไม่สามารถทะลุยุดหลัก ได้เนื่องจากการอุดตันของเส้นลมปราณตอนนี้เขาได้แยกเส้นปราณเรียบร้อยแล้ว เมื่อพลังงานที่แท้จริงในร่างกายของเนี่ยอู๋ต้องสะสมอย่างหนาแน่นเท่านั้น เขาจึงจะสามารถทะลวงผ่านสองระดับเล็ก ๆ ได้ในคราวเดียว และไปถึงพลังพรสวรรค์ระดับกลาง“ขอบคุณนายน้อยฉินที่ช่วยผม”เนี่ยอู๋ทรุดตัวลงและคุกเข่าลงอีกครั้งพร้อมกับโค้งคำนับด้วยความเคารพเดิมทีเขาคิดว่าฉินหมิงจะใช้เวลาชี้นำเขาสักพัก คงจะดีไม่น้อยหากสามารถช่วยเขาทะลุผ่านไปสู่พลังพรสวรรค์ระดับกลางได้แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ ฉินหมิงใช้แค่พลังกังฟูเพียงชั่วครู่ ก็สามารถช่วยเขาได้แล้ว!วิธีนี้ฉลาดเกินไป มันช่างน่าตกใจจริงๆ!จากที่ใจนับถือฉินหมิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก!“เรื่องเล็กน้อยน่ะครับ ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไร”ฉินหมิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบ แต่ในใจก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อยเพราะเมื่อกี้พลังของเนี่ยอู๋คือพลังพรสวรรค์ระดับต้น แต่พอตนช่วยเขาเพียงแปปเดียว ก็สามารถฝึกขั้นถึงพลังพรสวรรค์ร
ซุนลี่จงตบโต๊ะและดูไม่มีความสุขมาก"พ่อ มันเป็นแบบนี้ ฉันถูกเด็กผู้ชายชื่อฉินหมิงหลอก ฉันเป็นคนรายงานเรื่องนี้ให้กลุ่มโจว ซึ่งทำให้ร้านค้าในเครือของเราประสบความสูญเสียครั้งใหญ่…"ซุนกวนกงพูดอย่างกล้าหาญและอธิบายสถานการณ์โดยย่อแน่นอน เขารู้ภูมิหลังของฉิงหมิงเป็นอย่างดี ในฐานะเด็กกำพร้าที่ไม่มีอำนาจเขาไม่คิดว่าฉิงหมิงมีความสามารถในการยุยงโจวเจี้ยนให้จัดการกับกิจการของซุนเขาคิดว่าเขาขึ้นราคาอย่างมุ่งร้ายและทำให้โจวกรุ๊ปโกรธ และโจวเจี้ยนก็แค่ทำธุรกิจ"ใครคือฉินหมิง?""พวกเราที่ซุนเอนเตอร์ไพรส์ไม่มีความเป็นศัตรูหรือความแค้นใดๆ กับเขา แล้วทำไมเขาถึงต้องรายงานเราด้วย"ซุนลี่จงถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก"เขาเป็นสามีเก่าของหม่าลู่ และฉันก็รู้สึกแค้นใจเขามาก..."ซุนกวนกงพูดด้วยสีหน้าเขินอาย"สามีเก่าของหม่าลู่เหรอ? ไม่น่าแปลกใจเลย!""ฉันเคยสอนคุณหลายครั้งแล้วว่าถ้าคุณต้องการแต่งงาน จงหาผู้หญิงที่มีครอบครัวที่เหมาะสมและมีภูมิหลังครอบครัวที่บริสุทธิ์""แต่มันดีสำหรับคุณ คุณต้องหาผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว!""คุณจงใจพยายามทำให้ฉันโกรธจนตายใช่ไหม"ซุนลี่จงดุอย่างโกรธ ๆ และมองดูหม่าลู่ด้วยความร
ซุนกวนกงรู้สึกไม่สบายใจและมีเงาบางอย่างเกี่ยวกับฉินหมิงอยู่ในใจ"ไม่ต้องกังวล หากฉันรับผิดชอบในครั้งนี้ จะไม่มีปัญหาแน่นอน!"“นอกจากนี้ บางสิ่งไม่สามารถทำได้โดยใช้กำลังดุร้าย คุณต้องใช้สมองให้มากขึ้น!”ซุนหลี่ชี้ไปที่หน้าผากของเขา"สิ่งที่คุณคิดเกี่ยวกับ?"ซุนกวนกงสับสน“ทุกคนต่างก็มีจุดอ่อน ตราบใดที่เขายังสามารถค้นพบจุดอ่อนของเขา ไม่ว่าเขาจะมีทักษะแค่ไหน ก็จะไม่มีประโยชน์สำหรับเขา!”ซุนลี่จงพูดด้วยสีหน้ามีความหมายดวงตาของซุนกวนกงเป็นประกายและเขาหัวเราะอย่างตื่นเต้น "ฉันเข้าใจ แม้ว่าฉินหมิงจะไม่มีพ่อหรือแม่ แต่เขาเพิ่งมีแฟนใหม่ ตราบใดที่เราใช้ประโยชน์จากแฟนสาวของเขา เขาจะตายอย่างแน่นอน!"“ใช่แล้ว เด็กๆ ก็สอนได้!”ซุนลี่จงหัวเราะ“พ่อ ฉันคิดว่าฉินหมิงอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด!”“คราวนี้เขาสามารถสั่งการให้โจวกรุ๊ปจัดการกับบริษัทของเราได้โดยไม่ได้ตั้งใจ และทักษะของเขาก็สูงอย่างน่าขัน มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ฉันกังวลว่าเขาจะมีไพ่ทรัมป์ที่ทรงพลังกว่านี้อีก!”“ในความคิดของฉัน ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงไปโดยสมบูรณ์ ก็ดีกว่าที่จะลดปัญหาใหญ่ให้เหลือเพียงเรื่องเล็กน้อย และเรื่องเล็ก
“คุณ… คุณเป็นใคร?”ฉินหมิงกำลังหลบหนีไปรอบๆ ห้องนั่งเล่นขณะถูกไล่ล่า เขาดูเขินอายที่สุด“ฉันเป็น… คุณป้า!”สาวสวยกัดฟันสีเงินและโกรธจัดเมื่อเห็นว่าเธอไม่สามารถตามทันฉินหมิงด้วยเท้าเปล่าของเธอได้ เธอจึงหยิบสิ่งของรอบตัวเธอขึ้นมาและทุบพวกมันที่ฉินหมิงในไม่ช้าพื้นดินก็กลายเป็นความยุ่งเหยิงมีการเคลื่อนไหวมากมายในห้องนั่งเล่น และในไม่ช้า มันก็แจ้งเตือนหลินหว่านชิงที่ชั้นบนหลินหว่านชิงอาจเพิ่งอาบน้ำ เธอสวมชุดราตรีผ้าไหมคุณภาพสูงบาง ๆ ผมของเธอเปียกราวกับดอกชบา ความงามของเธอสดชื่นและประณีต“เสี่ยวตี้ ฉินหมิง คุณสองคนกำลังทำอะไรอยู่?”เมื่อเห็นความวุ่นวายในห้องนั่งเล่นหลินหว่านชิงก็ประหลาดใจและเดินลงไปชั้นล่าง"ลูกพี่ลูกน้อง!"หญิงสาวที่น่าทึ่งรู้สึกเสียใจและโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของหลินหว่านชิง“ลูกพี่ลูกน้อง...ลูกพี่ลูกน้อง?”“หวางชิง เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณหรือเปล่า”ฉินหมิงผงะและอดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจ ไม่น่าแปลกใจเลยที่อีกฝ่ายมีความสวยงามราวกับนางฟ้าตัวน้อย ปรากฎว่าอีกฝ่ายเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลินหว่านชิง ซึ่งมีเชื้อสายครอบครัวที่ยอดเยี่ยมและมีความงามที่สมบูรณ์แบบ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ