“เรื่องที่ควรถามก็ถาม เรื่องทีไม่ควรถามก็ไม่ควรถาม!”“เอาเป็นว่า คุณทำตามนี้ละกัน!”ผู้อำนวยการหวงพูดอย่างไม่สบอารมณ์“ผม…”สีหน้าของกัวลี่โกรธขึ้น จากนั้นก็กัดฟันตอบ “ผู้อำนวยการหวงขอโทษนะครับ เรื่องนี้ผมคงทำให้คุณไม่ได้!”ผู้อำนวยการหวงมองอย่างเย็นชา “ไม่ทำงั้นเหรอ?”“ได้ งั้นคุณก็เก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!”“พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้ว!”“อะไรนะครับ?”“ได้ไงครับ!”“ผู้อำนวยการหวง ผมทำงานที่บริษัทนี้ร่วมจะสิบปีแล้วนะครับ ผม…”กัวลี่ตกใจมาก เขาอยากจะพูดอะไรออกมาบ้าง แต่คำพูดนั้นก็ถูกผู้อำนวยการหวงขัดซะก่อน“อย่างนั้นคุณก็ทำซะสิ!”“ไม่อย่างก็ไสหัวออกไปซะ!”“ควรจะเลือกทางไหน ก็คิดเอาเองละกัน!”ผู้อำนวยการหวงพูดอย่างเย็นชา“แต่ว่า…”“ไม่มีแต่!”“ฝ่ายบุคคลออกประกาศชื่นชมฉินหมิงซะขนาดนั้น คุณคงจะเห็นแล้วใช่ไหมล่ะ?”“หลายวันมานี้คุณช่วยเหลือเขา แม้ว่าไม่มีบทบาทมากแต่ก็ทำงานอย่างยากลำบากแต่กลับไม่ได้รางวัลสักสตางค์แดงเดียว“มันคุ้มแล้วเหรอ ที่จะตกงานให้กับคนหน้าหนาแบบนี้!”ผู้อำนวยการหวงหัวเราะเยาะกัวลี่ที่กำลังจะอ้าปากพูด แต่ก็เก็บไว้ในใจเช่นเดียวกับที่ผู้
“โอเคครับ”ฉินหมิงพยักหน้าเขายังเชื่อในความสามารถของรองผู้อำนวยการ เขาจึงลงนามในเอกสารทันทีจากนั้นผลิตภัณฑ์ชุดนี้ถูกขนขึ้นรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคันส่งไปยังกลุ่มธุรกิจโจวกรุ๊ปทันทีณ กลุ่มธุรกิจโจวกรุ๊ปหลังจากที่โจวเจี้ยนได้รับผลิตภัณฑ์ที่ส่งจากกลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ป เขาก็ได้สุ่มเลือกตัวอย่างบางส่วนและมอบให้กับคนในแผนกวิจัยและพัฒนาของบริษัทเพื่อทำการทดสอบธุรกิจคือธุรกิจ มิตรภาพคือมิตรภาพแม้ว่ามิตรภาพระหว่างเขากับฉินหมิงจะดีไม่น้อย แต่ครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปและกลุ่มธุรกิจโจวกรุ๊ป เขาจะต้องสุ่มตรวจสอบเพื่อป้องกันเกิดปัญหา ผ่านไปไม่นานผู้อำนวยการแผนกวิจัยและพัฒนาของบริษัทเข้ามาพร้อมรายงานผลการทดสอบ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“ผู้อำนวยการหลัวการทดสอบเป็นอย่างไรบ้าง น่าจะไม่มีปัญหาใช่ไหม?”โจวเจี้ยนถามเขารู้จักตัวตนฉินหมิงเป็นอย่างดี จากตัวตนที่ตรงไปตรงมาของฉินหมิง เขารู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปไม่มีปัญหาแน่นอนเขาเพียงแค่อยากจะตรวจเช็กให้แน่ใจก็เท่านั่น ไม่ได้มีความคิดอื่น ๆ “ขออนุญาตแจ้งประธานโจวครับ ว่าสินค
นี่แสดงว่าปัญหาร้ายแรงแสนสาหัส!“ไม่ ปัญหานี้ใหญ่เกินไป!”"ฉันต้องโทรหาคุณฉินทันที!"ใบหน้าของโจวเจี้ยนเคร่งขรึมขึ้น เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดหมายเลขของฉินหมิงที่โรงงาน… หลังจากได้รับโทรศัพท์จากโจวเจี้ยนแล้ว ฉินหมิงก็ถึงกับตื่นตะลึง!เขาไม่เคยคิดเลยว่าสินค้าจะมีปัญหาร้ายแรงขนาดนี้!ไม่เพียงเท่านั้นเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความโกลาหลภายในบริษัทขึ้นทันทีอย่างฉับพลันและหลินหว่านชิงและผู้บริหารของบริษัทคนอื่น ๆ ก็ตื่นตระหนกในทันทีทรัพย์สินรวมของกลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปซึ่งมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้าน ขณะนี้เวชสำอางระดับไฮเอนด์ชุดแรกมูลค่าห้าสิบล้านไม่เพียงถูกทำลายเท่านั้น แต่ยังอาจเผชิญกับความเสี่ยงต้องชดใช้เงินจำนวนห้าร้อยล้านให้กับโจวกรุ๊ปอีกด้วย!นับตัั้งแต่บริษัทดำเนินกิจการมา นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีเรื่องร้ายแรงเช่นนี้เกิดขึ้น!ไม่ว่าใคร ๆ ก็คงจินตนาการได้ว่าสถานการณ์นั้นวิกฤติเพียงใด!หลังจากนั้น หลินหว่านชิงได้จัดการประชุมฉุกเฉินขึ้นทันทีและแจ้งให้ฉินหมิงและหานซีรวมถึงผู้อำนวยการหวงและรองผู้อำนวยการกัวซึ่งมีรับผิดชอบด้านการผลิตให้รีบไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อประช
“รองประธานเอ้าพูดถูก!”“ครั้งนี้เลขาฉินสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้กับบริษัทและต้องถูกไล่ออก!”"ในเวลาเดียวกัน เราก็มีสิทธิ์ให้เขารับผิดชอบตามกฎหมายด้วย!"…ผู้บริหารทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธและความขุ่นเคือง“ฉินหมิง คุณมีอะไรจะพูดอีกไหม?”หลินหว่านชิงระงับความโกรธและเอ่ยปาก"ผมไม่มีอะไรจะพูด"“เรื่องในครั้งนี้มันเป็นความผิดของผมทั้งหมด และผมก็ยินดีที่จะยอมรับการลงโทษทั้งหมดด้วย…”ฉินหมิงพูดด้วยสีหน้าขมขื่นเขายังไม่เข้าใจว่าเหตุใดไอโซบิวทานอล ไฮดรอกซิเบนโซเอตถึงมาปรากฏอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นความผิดพลาดของเขาเองหรือเพราะมีเหตุผลอื่นแต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่เขาตระหนักดีก็คือในฐานะผู้รับผิดชอบการผลิตในครั้งนี้ เขาต้องถูกตำหนิอย่างแน่นอน!แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเขาคิดว่าเขาทำลายความคาดหวังที่หลินหว่านชิงมีในตัวเขา เขารู้สึกผิดมากและไม่อยากจะเผชิญหน้ากับหลินหว่านชิงเลยตอนนี้เขาแค่อยากจะทำตัวเป็นลูกผู้ชายและแบกรับความรับผิดชอบของตัวเองอย่างกล้าหาญ เพื่อไม่ให้หลินหว่านชิงโกรธไปมากกว่านี้เท่านั้นแต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือยิ่งเขา
“ประทานโทษครับ ประธานหลิน ผมรู้ว่าไอโซบิวทิล ไฮดรอกซีเบนโซเอตเป็นของต้องห้าม”“เลขาฉินเป็นผู้พัฒนาเวชสำอาง เขาจึงต้องรับผิดชอบด้านการผลิตอย่างเต็มที่ และสายการผลิตก็ปฏิบัติตามข้อกำหนดและสูตรของเขาอย่างเคร่งครัด ผมไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย”“นอกจากนี้ ก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะถูกจัดส่ง ได้มีการส่งมอบให้กับเลขาฉินเพื่อขออนุมัติและลงนามล่วงหน้าด้วย เอกสารฉบับนี้ลงนามโดยเลขาฉินเอง”ผู้อำนวยการหวงโชว์เอกสารให้ทุกคนดู และในไม่ช้าทุกคนก็เห็นว่ามีลายเซ็นของฉินหมิงอยู่ในเอกสารฉบับนั้นจริงๆ“เลขาฉิน หลักฐานอยู่ตรงนั้นแล้ว!”"พนักงานในสายการผลิตก็ทำผลิตภัณฑ์ออกมาตามความต้องการของคุณ แต่ที่เขาใส่สารประกอบต้องห้ามลงไปก็เพราะคำสั่งของคุณ!"“ตอนนี้มีอะไรจะพูดอีกไหม?”เอ้าเฟิงกล่าวพร้อมกับเย้ยหยันก่อนที่ฉินหมิงจะทันได้ตอบโต้ หานซีก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วกล่าวว่า "รองประธานเอ้า เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการสอบสวนอย่างชัดเจน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องรีบตำหนิฉินหมิงขนาดนี้!"เมื่อพูดถึงเรื่องนี้หานซีก็จ้องมองไปที่กัวลี่ "รองผู้อำนวยการกัว คุณเป็นผู้ดูแลสายการผลิตนี่นา!"“ถึงแม้พนักงานจะเติมสารประกอบต้องห้ามเข้าไปโ
“หานซี คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า?”ฉินหมิงดูประหลาดใจและไม่มั่นใจหลังจากเข้ากันได้ดีและทำงานร่วมกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาจึงไว้ใจกัวลี่มากแต่เขาจำได้ว่าได้รับเอกสารจากกัวลี่เพื่อตรวจสอบก่อนที่จะลงนามและอนุมัติ ตอนนี้เขาก็รู้สึกไม่แน่ใจเหมือนเดิมแล้วท้ายที่สุด ด้วยความสามารถของกัวลี่เขาไม่พบกับปัญหาอะไรในเอกสารเลย ซึ่งค่อนข้างน่าสงสัยนิดหน่อย“ผู้ช่วยหาน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย ผมเป็นผู้บริสุทธิ์นะ…”กัวลี่ไม่คิดเลยว่าหานซีจะชี้นิ้วมาที่เขา ใบหน้าของเขาตื่นตระหนกเล็กน้อยและฝ่ามือก็มีเหงื่อออกชุ่ม“คุณรู้อยู่แก่ใจว่าคุณมีความผิดติดตัวหรือเปล่า!”“ในฐานะผู้อำนวยการที่ดูแลสายการผลิต ไม่มีทางที่คุณจะไม่ตระหนักถึงปัญหาใหญ่ในการผลิตแบบนี้!”“ในทำนองเดียวกัน หากมีใครต้องการใส่ร้ายฉินหมิง พวกเขาจะต้องผ่านมือคุณก่อน ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางซ่อนแผนการชั่วร้ายนั้นไปจากสายตาของคุณได้!”"ถ้าไม่อยากให้เรื่องไปไกลกว่านี้ ถึงคุณจะไม่ได้ใส่ร้ายฉินหมิง แต่คุณก็ต้องมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่บ้าง!"หานซีกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้า"ผม...ผมไม่ได้..."ใบหน้า
“แล้วคุณล่ะ? ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของคุณถูกหมากินไปแล้วหรือไง?”ยิ่งหานซีพูดมากเท่าไร เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นและอยากออกตัวแทนฉินหมิงมากตามไปด้วย"อะไรนะ?"“เขาเป็นคนแนะนำผมและแถมยังให้เครดิตผมเท่ากับเขาด้วยเหรอ?”“นี่...เป็นไปได้ยังไง!”กัวลี่ตกตะลึง เขารู้สึกราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่าและยืนตะลึงอยู่ตรงจุดนั้น"แล้วทำไมจะเป็นไปไม่ได้!"“ถ้าไม่เชื่อก็ถามประธานหลินได้เลย!”หานซีพูดอย่างเย็นชาหลินหว่านชิงพยักหน้า "ผู้ช่วยหานพูดความจริงค่ะ!"“ในเวลานั้น เธอและฉินหมิงร่วมกันแนะนำความสามารถของคุณกับฉัน เมื่อพิจารณาว่าผู้อำนวยการเซี่ยแห่งโรงงานสาขาที่สองจะเกษียณในอีกหนึ่งเดือน ฉันจึงวางแผนที่จะให้คุณเข้ามาแทนที่เขาในอนาคต!”“สำหรับความปรารถนาของฉินหมิงที่จะให้สิทธิ์การจ่ายเงินปันผลครึ่งหนึ่งแก่คุณ นั่นเป็นเรื่องจริงเพียงแต่ว่าสิทธิ์ในการจ่ายเงินปันผลของบริษัทไม่ใช่เรื่องเด็กเล่น ในเวลานั้นฉันจึงไม่ได้เห็นด้วยกับเขา!”"นี่มัน......"กัวลี่ตกตะลึงอย่างหนักก่อนหน้านี้เขาคิดเสมอว่าฉินหมิงเอาเครดิตไปทั้งหมด แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเข้าใจฉินหมิงผิดไปขนาดนี้!ฉินหมิงไม่เพียงแต่ไม่รับเครดิตท
ใบหน้าของหวงหย่งหลินเต็มไปด้วยความกลัว ภายในใจของเขาตอนนี้รู้สึกสับสนหลังจากได้ยินสิ่งนี้ การแสดงออกของเอ้าเฟิงและตู้เซียวก็เปลี่ยนไปอย่างหนัก อารมณ์ของพวกเขาจมดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดอย่างทันทีพวกเขาทั้งสองคิดไม่ตก เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ตอนนี้กำลังเข้าข้างพวกเขา แต่เนื่องจากกัวลี่แปรพักต์ สถานการณ์จึงแย่ลงในทันทีที่แย่กว่านั้น หากหวงหย่งหลินเปิดโปงพวกเขาสองคน พวกเขาก็คงจบเห่!“บอกฉันมาว่าใครเป็นคนสั่งคุณ!”หลินหว่านชิงไม่คิดเลยว่าจะมีผู้สมรู้ร่วมคิดอยู่เบื้องหลังผู้อำนวยการหวง และนั่นทำให้เธอยิ่งโกรธหนักกว่าเดิม"คือ......"หวงหย่งหลินมองไปในทิศทางของเอ้าเฟิงและตู้เซียวโดยไม่รู้ตัว เมื่อเขาเห็นสายตาอาฆาตของเอ้าเฟิงและตู้เซียว เขาก็ตั้งสติได้และรีบกลืนสิ่งที่พูดลงคอไป“บอกมาสิว่าใคร!”“ถ้าคุณไม่ยอมพูดแล้วก็ ฉันจะส่งตัวคุณให้ตำรวจเพื่อทำการสอบสวนและลงโทษในข้อหาก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจทันที!”หลินหว่านชิงดุด้วยความโกรธ"คือ......"หวงหย่งหลินอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เขารู้ดีถึงอำนาจและอิทธิพลของตระกูลหลิน หากหลินหว่านชิงส่งเขาให้ตำรวจ อนาคตของเขาก็จะจบลงจริง ๆ!เมื่อเห็นว่าหวงหย่งหล