“เรื่องที่ควรถามก็ถาม เรื่องทีไม่ควรถามก็ไม่ควรถาม!”“เอาเป็นว่า คุณทำตามนี้ละกัน!”ผู้อำนวยการหวงพูดอย่างไม่สบอารมณ์“ผม…”สีหน้าของกัวลี่โกรธขึ้น จากนั้นก็กัดฟันตอบ “ผู้อำนวยการหวงขอโทษนะครับ เรื่องนี้ผมคงทำให้คุณไม่ได้!”ผู้อำนวยการหวงมองอย่างเย็นชา “ไม่ทำงั้นเหรอ?”“ได้ งั้นคุณก็เก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!”“พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้ว!”“อะไรนะครับ?”“ได้ไงครับ!”“ผู้อำนวยการหวง ผมทำงานที่บริษัทนี้ร่วมจะสิบปีแล้วนะครับ ผม…”กัวลี่ตกใจมาก เขาอยากจะพูดอะไรออกมาบ้าง แต่คำพูดนั้นก็ถูกผู้อำนวยการหวงขัดซะก่อน“อย่างนั้นคุณก็ทำซะสิ!”“ไม่อย่างก็ไสหัวออกไปซะ!”“ควรจะเลือกทางไหน ก็คิดเอาเองละกัน!”ผู้อำนวยการหวงพูดอย่างเย็นชา“แต่ว่า…”“ไม่มีแต่!”“ฝ่ายบุคคลออกประกาศชื่นชมฉินหมิงซะขนาดนั้น คุณคงจะเห็นแล้วใช่ไหมล่ะ?”“หลายวันมานี้คุณช่วยเหลือเขา แม้ว่าไม่มีบทบาทมากแต่ก็ทำงานอย่างยากลำบากแต่กลับไม่ได้รางวัลสักสตางค์แดงเดียว“มันคุ้มแล้วเหรอ ที่จะตกงานให้กับคนหน้าหนาแบบนี้!”ผู้อำนวยการหวงหัวเราะเยาะกัวลี่ที่กำลังจะอ้าปากพูด แต่ก็เก็บไว้ในใจเช่นเดียวกับที่ผู้
“โอเคครับ”ฉินหมิงพยักหน้าเขายังเชื่อในความสามารถของรองผู้อำนวยการ เขาจึงลงนามในเอกสารทันทีจากนั้นผลิตภัณฑ์ชุดนี้ถูกขนขึ้นรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคันส่งไปยังกลุ่มธุรกิจโจวกรุ๊ปทันทีณ กลุ่มธุรกิจโจวกรุ๊ปหลังจากที่โจวเจี้ยนได้รับผลิตภัณฑ์ที่ส่งจากกลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ป เขาก็ได้สุ่มเลือกตัวอย่างบางส่วนและมอบให้กับคนในแผนกวิจัยและพัฒนาของบริษัทเพื่อทำการทดสอบธุรกิจคือธุรกิจ มิตรภาพคือมิตรภาพแม้ว่ามิตรภาพระหว่างเขากับฉินหมิงจะดีไม่น้อย แต่ครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปและกลุ่มธุรกิจโจวกรุ๊ป เขาจะต้องสุ่มตรวจสอบเพื่อป้องกันเกิดปัญหา ผ่านไปไม่นานผู้อำนวยการแผนกวิจัยและพัฒนาของบริษัทเข้ามาพร้อมรายงานผลการทดสอบ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“ผู้อำนวยการหลัวการทดสอบเป็นอย่างไรบ้าง น่าจะไม่มีปัญหาใช่ไหม?”โจวเจี้ยนถามเขารู้จักตัวตนฉินหมิงเป็นอย่างดี จากตัวตนที่ตรงไปตรงมาของฉินหมิง เขารู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปไม่มีปัญหาแน่นอนเขาเพียงแค่อยากจะตรวจเช็กให้แน่ใจก็เท่านั่น ไม่ได้มีความคิดอื่น ๆ “ขออนุญาตแจ้งประธานโจวครับ ว่าสินค
นี่แสดงว่าปัญหาร้ายแรงแสนสาหัส!“ไม่ ปัญหานี้ใหญ่เกินไป!”"ฉันต้องโทรหาคุณฉินทันที!"ใบหน้าของโจวเจี้ยนเคร่งขรึมขึ้น เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดหมายเลขของฉินหมิงที่โรงงาน… หลังจากได้รับโทรศัพท์จากโจวเจี้ยนแล้ว ฉินหมิงก็ถึงกับตื่นตะลึง!เขาไม่เคยคิดเลยว่าสินค้าจะมีปัญหาร้ายแรงขนาดนี้!ไม่เพียงเท่านั้นเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความโกลาหลภายในบริษัทขึ้นทันทีอย่างฉับพลันและหลินหว่านชิงและผู้บริหารของบริษัทคนอื่น ๆ ก็ตื่นตระหนกในทันทีทรัพย์สินรวมของกลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปซึ่งมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้าน ขณะนี้เวชสำอางระดับไฮเอนด์ชุดแรกมูลค่าห้าสิบล้านไม่เพียงถูกทำลายเท่านั้น แต่ยังอาจเผชิญกับความเสี่ยงต้องชดใช้เงินจำนวนห้าร้อยล้านให้กับโจวกรุ๊ปอีกด้วย!นับตัั้งแต่บริษัทดำเนินกิจการมา นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีเรื่องร้ายแรงเช่นนี้เกิดขึ้น!ไม่ว่าใคร ๆ ก็คงจินตนาการได้ว่าสถานการณ์นั้นวิกฤติเพียงใด!หลังจากนั้น หลินหว่านชิงได้จัดการประชุมฉุกเฉินขึ้นทันทีและแจ้งให้ฉินหมิงและหานซีรวมถึงผู้อำนวยการหวงและรองผู้อำนวยการกัวซึ่งมีรับผิดชอบด้านการผลิตให้รีบไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อประช
“รองประธานเอ้าพูดถูก!”“ครั้งนี้เลขาฉินสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้กับบริษัทและต้องถูกไล่ออก!”"ในเวลาเดียวกัน เราก็มีสิทธิ์ให้เขารับผิดชอบตามกฎหมายด้วย!"…ผู้บริหารทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธและความขุ่นเคือง“ฉินหมิง คุณมีอะไรจะพูดอีกไหม?”หลินหว่านชิงระงับความโกรธและเอ่ยปาก"ผมไม่มีอะไรจะพูด"“เรื่องในครั้งนี้มันเป็นความผิดของผมทั้งหมด และผมก็ยินดีที่จะยอมรับการลงโทษทั้งหมดด้วย…”ฉินหมิงพูดด้วยสีหน้าขมขื่นเขายังไม่เข้าใจว่าเหตุใดไอโซบิวทานอล ไฮดรอกซิเบนโซเอตถึงมาปรากฏอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นความผิดพลาดของเขาเองหรือเพราะมีเหตุผลอื่นแต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่เขาตระหนักดีก็คือในฐานะผู้รับผิดชอบการผลิตในครั้งนี้ เขาต้องถูกตำหนิอย่างแน่นอน!แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเขาคิดว่าเขาทำลายความคาดหวังที่หลินหว่านชิงมีในตัวเขา เขารู้สึกผิดมากและไม่อยากจะเผชิญหน้ากับหลินหว่านชิงเลยตอนนี้เขาแค่อยากจะทำตัวเป็นลูกผู้ชายและแบกรับความรับผิดชอบของตัวเองอย่างกล้าหาญ เพื่อไม่ให้หลินหว่านชิงโกรธไปมากกว่านี้เท่านั้นแต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือยิ่งเขา
“ประทานโทษครับ ประธานหลิน ผมรู้ว่าไอโซบิวทิล ไฮดรอกซีเบนโซเอตเป็นของต้องห้าม”“เลขาฉินเป็นผู้พัฒนาเวชสำอาง เขาจึงต้องรับผิดชอบด้านการผลิตอย่างเต็มที่ และสายการผลิตก็ปฏิบัติตามข้อกำหนดและสูตรของเขาอย่างเคร่งครัด ผมไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย”“นอกจากนี้ ก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะถูกจัดส่ง ได้มีการส่งมอบให้กับเลขาฉินเพื่อขออนุมัติและลงนามล่วงหน้าด้วย เอกสารฉบับนี้ลงนามโดยเลขาฉินเอง”ผู้อำนวยการหวงโชว์เอกสารให้ทุกคนดู และในไม่ช้าทุกคนก็เห็นว่ามีลายเซ็นของฉินหมิงอยู่ในเอกสารฉบับนั้นจริงๆ“เลขาฉิน หลักฐานอยู่ตรงนั้นแล้ว!”"พนักงานในสายการผลิตก็ทำผลิตภัณฑ์ออกมาตามความต้องการของคุณ แต่ที่เขาใส่สารประกอบต้องห้ามลงไปก็เพราะคำสั่งของคุณ!"“ตอนนี้มีอะไรจะพูดอีกไหม?”เอ้าเฟิงกล่าวพร้อมกับเย้ยหยันก่อนที่ฉินหมิงจะทันได้ตอบโต้ หานซีก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วกล่าวว่า "รองประธานเอ้า เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการสอบสวนอย่างชัดเจน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องรีบตำหนิฉินหมิงขนาดนี้!"เมื่อพูดถึงเรื่องนี้หานซีก็จ้องมองไปที่กัวลี่ "รองผู้อำนวยการกัว คุณเป็นผู้ดูแลสายการผลิตนี่นา!"“ถึงแม้พนักงานจะเติมสารประกอบต้องห้ามเข้าไปโ
“หานซี คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า?”ฉินหมิงดูประหลาดใจและไม่มั่นใจหลังจากเข้ากันได้ดีและทำงานร่วมกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาจึงไว้ใจกัวลี่มากแต่เขาจำได้ว่าได้รับเอกสารจากกัวลี่เพื่อตรวจสอบก่อนที่จะลงนามและอนุมัติ ตอนนี้เขาก็รู้สึกไม่แน่ใจเหมือนเดิมแล้วท้ายที่สุด ด้วยความสามารถของกัวลี่เขาไม่พบกับปัญหาอะไรในเอกสารเลย ซึ่งค่อนข้างน่าสงสัยนิดหน่อย“ผู้ช่วยหาน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย ผมเป็นผู้บริสุทธิ์นะ…”กัวลี่ไม่คิดเลยว่าหานซีจะชี้นิ้วมาที่เขา ใบหน้าของเขาตื่นตระหนกเล็กน้อยและฝ่ามือก็มีเหงื่อออกชุ่ม“คุณรู้อยู่แก่ใจว่าคุณมีความผิดติดตัวหรือเปล่า!”“ในฐานะผู้อำนวยการที่ดูแลสายการผลิต ไม่มีทางที่คุณจะไม่ตระหนักถึงปัญหาใหญ่ในการผลิตแบบนี้!”“ในทำนองเดียวกัน หากมีใครต้องการใส่ร้ายฉินหมิง พวกเขาจะต้องผ่านมือคุณก่อน ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางซ่อนแผนการชั่วร้ายนั้นไปจากสายตาของคุณได้!”"ถ้าไม่อยากให้เรื่องไปไกลกว่านี้ ถึงคุณจะไม่ได้ใส่ร้ายฉินหมิง แต่คุณก็ต้องมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่บ้าง!"หานซีกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้า"ผม...ผมไม่ได้..."ใบหน้า
“แล้วคุณล่ะ? ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของคุณถูกหมากินไปแล้วหรือไง?”ยิ่งหานซีพูดมากเท่าไร เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นและอยากออกตัวแทนฉินหมิงมากตามไปด้วย"อะไรนะ?"“เขาเป็นคนแนะนำผมและแถมยังให้เครดิตผมเท่ากับเขาด้วยเหรอ?”“นี่...เป็นไปได้ยังไง!”กัวลี่ตกตะลึง เขารู้สึกราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่าและยืนตะลึงอยู่ตรงจุดนั้น"แล้วทำไมจะเป็นไปไม่ได้!"“ถ้าไม่เชื่อก็ถามประธานหลินได้เลย!”หานซีพูดอย่างเย็นชาหลินหว่านชิงพยักหน้า "ผู้ช่วยหานพูดความจริงค่ะ!"“ในเวลานั้น เธอและฉินหมิงร่วมกันแนะนำความสามารถของคุณกับฉัน เมื่อพิจารณาว่าผู้อำนวยการเซี่ยแห่งโรงงานสาขาที่สองจะเกษียณในอีกหนึ่งเดือน ฉันจึงวางแผนที่จะให้คุณเข้ามาแทนที่เขาในอนาคต!”“สำหรับความปรารถนาของฉินหมิงที่จะให้สิทธิ์การจ่ายเงินปันผลครึ่งหนึ่งแก่คุณ นั่นเป็นเรื่องจริงเพียงแต่ว่าสิทธิ์ในการจ่ายเงินปันผลของบริษัทไม่ใช่เรื่องเด็กเล่น ในเวลานั้นฉันจึงไม่ได้เห็นด้วยกับเขา!”"นี่มัน......"กัวลี่ตกตะลึงอย่างหนักก่อนหน้านี้เขาคิดเสมอว่าฉินหมิงเอาเครดิตไปทั้งหมด แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเข้าใจฉินหมิงผิดไปขนาดนี้!ฉินหมิงไม่เพียงแต่ไม่รับเครดิตท
ใบหน้าของหวงหย่งหลินเต็มไปด้วยความกลัว ภายในใจของเขาตอนนี้รู้สึกสับสนหลังจากได้ยินสิ่งนี้ การแสดงออกของเอ้าเฟิงและตู้เซียวก็เปลี่ยนไปอย่างหนัก อารมณ์ของพวกเขาจมดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดอย่างทันทีพวกเขาทั้งสองคิดไม่ตก เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ตอนนี้กำลังเข้าข้างพวกเขา แต่เนื่องจากกัวลี่แปรพักต์ สถานการณ์จึงแย่ลงในทันทีที่แย่กว่านั้น หากหวงหย่งหลินเปิดโปงพวกเขาสองคน พวกเขาก็คงจบเห่!“บอกฉันมาว่าใครเป็นคนสั่งคุณ!”หลินหว่านชิงไม่คิดเลยว่าจะมีผู้สมรู้ร่วมคิดอยู่เบื้องหลังผู้อำนวยการหวง และนั่นทำให้เธอยิ่งโกรธหนักกว่าเดิม"คือ......"หวงหย่งหลินมองไปในทิศทางของเอ้าเฟิงและตู้เซียวโดยไม่รู้ตัว เมื่อเขาเห็นสายตาอาฆาตของเอ้าเฟิงและตู้เซียว เขาก็ตั้งสติได้และรีบกลืนสิ่งที่พูดลงคอไป“บอกมาสิว่าใคร!”“ถ้าคุณไม่ยอมพูดแล้วก็ ฉันจะส่งตัวคุณให้ตำรวจเพื่อทำการสอบสวนและลงโทษในข้อหาก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจทันที!”หลินหว่านชิงดุด้วยความโกรธ"คือ......"หวงหย่งหลินอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เขารู้ดีถึงอำนาจและอิทธิพลของตระกูลหลิน หากหลินหว่านชิงส่งเขาให้ตำรวจ อนาคตของเขาก็จะจบลงจริง ๆ!เมื่อเห็นว่าหวงหย่งหล
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ