เรื่องมันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เสียเวลาอีกหน่อยจะเป็นไรไปหลังจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจากแผนกค้นคว้าและพัฒนา ได้ปรับเครื่องตรวจใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดหรือปัญหาใด ๆ จากนั้น พวกเขาก็เทสารละลายทดสอบลงในเครื่องทีละตัวและทดสอบอย่างระมัดระวังมากขึ้นไม่นานผลตรวจก็ออกมาเมื่อเห็นว่าข้อมูลการทดสอบที่แสดงบนหน้าจอขนาดใหญ่เหมือนกับข้อมูลแรกทุกประการเอ้าเฟิงและผู้อำนวยการเฉิงรวมถึงผู้บริหารระดับสูงทุกคนที่มีข้อสงสัยก็เงียบไปช่วงเวลานี้ ในห้องทั้งหมดเงียบสงัด ฉินหมิงเหลือบมองไปที่เอ้าเฟิงและผู้อำนวยการเฉิงและเป็นเขาที่ทำลายความเงียบนี้ลง “รองประธานเอ้าครับ ผู้อำนวยการเฉิงครับ ตอนนี้พวกคุณสองคนมีอะไรจะพูดอีกไหมครับ?”“ผม…”เอ้าเฟิงและผู้อำนวยการเฉิงใบหน้าถึงกับซีด ราวกับว่าพวกเขาพ่ายแพ้หมดท่า หัวใจของเขาห่อเหี่ยวมากพวกเขาทั้งสองใช้สมองคิดอย่างหนักไม่รู้ว่าฉินหมิงทำสำเร็จได้อย่างไร นี่มันยากที่จะเชื่อชัด ๆ !”“ในเมื่อคุณทั้งสองคนไม่มีอะไรจะพูด อย่างนั้นถือว่าพวกคุณแพ้การเดิมพันครั้งนี้แล้วล่ะกันนะครับ!”ฉินหมิงพูดอย่างเย็นชา“นี่ฉินหมิง ให้มันน้อย ๆ หน่อย!”“ถึงแม้คุณจะพัฒนา
คุณภาพของวัตถุดิบเป็นปัญหาสำหรับเธอมาโดยตลอด ตอนนี้ฉินหมิงไม่เพียงแต่พัฒนาเวชสำอางระดับไฮเอนด์เท่านั้น แต่ยังช่วยเธอลดความเสี่ยงด้านคุณภาพของวัตถุดิบอีกด้วยนี่เป็นพรที่พระเจ้าจัดสรรส่งมาให้เธอชัด ๆ!เป็นครั้งแรกที่เธอรับรู้ถึงความสามารถของฉินหมิงจากก้นบึ้งของหัวใจ!“นี่…นี่เขาเป็นคนจริง ๆ เหรอนี่…”ผู้บริหารทุกคนต่างตกตะลึงจนกรามของพวกเขาแทบจะหล่นลงกับพื้น พวกเขาทั้งหมดมองฉินหมิงราวกับว่าพวกเขากำลังมองสัตว์ประหลาดสีหน้าของเอ้าเฟิงกับผู้อำนวยการเฉิงยิ่งไม่สู้ดีมากขึ้น พวกเขาตกใจมาก!“ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้…”ใบหน้าของเอ้าเฟิงเปลี่ยนเป็นสีแดง เลือดพล่านสุ่มอยู่ในอกจนเขาแทบจะกระอักเลือดออกมาเขาเป็นคนเย่อหยิ่งและถือตัวมาโดยตลอด เขาคิดว่าเขามีความสามารถและไม่เคยเห็นใครดีเท่ากับตัวเองโดยเฉพาะเด็กกำพร้าไร้ค่าอย่างฉินหมิง แม้แต่เศษเสี้ยวเขาเองก็ไม่อยากจะมอง!แต่ตอนนี้คนที่เขาขยะแขยงเหมือนมด แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์และความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้ ตัวเขาเองเหมือนโดนเหยียบไว้ใต้เท้าของฉินหมิง!แบบนี้เหมือนเหยียบหน้าเขาชัด ๆ !“รองประธานเอ้า ผู้อำนวยการเฉิง คุณสองคนแพ้แล้วล่ะครับ
“ต้องอย่างนี้สิครับ สมกับที่เป็นคนใหญ่คนโตหน่อย คำขอโทษของคุณผมจะรับเอาไว้ละกันนะครับ!”“ครั้งนี้ผมจะไม่มาทะเลาะกับคุณ ต่อไปผมหวังว่าคุณจะประพฤติตัวเองดีกว่านี้นะครับ!”ฉินหมิงพูดเสียงเรียบ และไม่สนใจเอ้าเฟิงอีก“ประธานหลินครับ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วล่ะก็ ผมขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะครับ”ตอนนี้สีหน้าเอ้าเฟิงดูมืดดำน่ากลัวเป็นอย่างมาก ตอนนี้เขาเสียหน้าจนไม่กล้าทนอยู่ที่นี่อีกต่อไป หันหลังกลับแล้วเตรียมตัวเดินจากไป“รองประธานเอ้า รอเดี๋ยวค่ะ”หลินหว่านชิงเรียกเอ้าเฟิงให้หยุด“ประธานหลิน ไม่ทราบว่าคุณจะสั่งให้ผมไปทำอะไรหรือเปล่าครับ?”เอ้าเฟิงถาม“ตอนนี้เลขาฉินก็ได้พัฒนาเวชสำอางออกมาแล้ว ขั้นต่อไปคือบริษัทจะต้องผลิตในปริมาณมาก”“ส่วนเรื่องการผลิตฉันจะฝากไว้เป็นหน้าที่ของฉินหมิงไปก่อน… แล้วคุณค่อยมอบงานที่เกี่ยวข้องให้เขาทีหลังนะคะ…”หลินหว่านชิงออกคำสั่งในครั้งนี้ฉินหมิงไม่เพียงแต่พัฒนาเวชสำอางระดับไฮเอนด์ได้เท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการกลั่นวัตถุดิบได้อีกด้วยทั้งสองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฝ่ายผลิต การมอบความรับผิดชอบในการผลิตให้กับฉินหมิงชั่วคราวจะทำให้การทำงานครั้งต่อไป
ความพยายามและเก่งขนาดนี้ ไม่สามารถวัดได้ด้วยเงินปันผลเพียงเล็กน้อยได้!แม้ว่าฉินหมิงจะขอสิทธิผู้ถือหุ้น เธอก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ฉินหมิงพอใจ!“เขาไม่ใช่คนโง่นะ จะไม่พอใจได้อย่างไร…”หานซีกลอกตาแล้วพูดในปัจจุบันตามผลประโยชน์ที่มาจากบริษัท กำไรสุทธิประจำปีอยู่ที่อย่างน้อยสามถึงสี่หมื่นล้านหากฉินหมิงได้รับสิทธิ์ในการรับเงินปันผลสิบเปอร์เซนต์เขาจะได้รับเงินปันผลสามถึงสี่ร้อยล้านทุกปี นี่มันไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อยเลย!ถ้าต่อไปแม้ฉินหมิงไม่ทำงาน ก็มีเงินใช้ไปจนแก่!นี่เป็นเรื่องดีที่ไม่ต้องออกแรงสักนิด หานซีคิดว่าฉินหมิงคงไม่ว่าอะไรแน่!แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เธอคิดยังไม่ทันจะคิดจบ คำพูดต่อมาของฉินหมิงเกือบจะทำให้ใบหน้าของเธอแตกเป็นเสี่ยง ๆ !“หว่านชิง ผมไม่ต้องการเงินปันผลอะไรหรอกครับ ผมแค่ต้องการ…”ฉินหมิงมองไปที่หานซี คำพูดอึก ๆ อัก ๆพอมีหานซีอยู่ข้าง ๆ มันทำให้เขาไม่สะดวกที่จะพูดออกมา“ฉินหมิง นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ!”หานซีตกใจมากจนกรามของเธอแทบจะหล่นลงกับพื้นหลังจากวันงานเลี้ยงฉลอง เธอก็ได้รู้ว่าฉินหมิงนั้นเป็นเด็กกำพร้าเนื้อตัวแทบไม่มีอะไรเลยเมื่อฉินหมิงตกอยู่
เอ้าเฟิงถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่ออกมา พยายามทำให้ตัวเองนั้นใจเย็นลง“นี่คุณอย่าบอกนะว่าจะขัดขวางการทำผลิตภัณฑ์?…”ตู้เซียวที่คิดอยู่ ไม่นานก็เข้าใจในสิ่งที่เอ้าเฟิงพูดครั้งที่แล้วเขาและเอ้าเฟิงได้ปรึกษาเรียบร้อยว่าจะจัดการฉินหมิงอย่างไร เพราะว่าจู่ ๆ ก็มีเรื่องการพัฒนาเวชสำอางและการกลั่นวัตถุดิบที่เพิ่มเกิดขึ้น ทั้งสองคนจึงต้องระงับแผนนี้เอาไว้ชั่วคราวแต่ตอนนี้ทั้งสองเรื่องนี้ก็ได้มีผลสรุป มันจึงถึงเวลาที่เขาจะดำเนินการตามแผนที่คิดกันเอาไว้ซักที!“ใช่ครับ!”“ผมคิดแผนที่จะจัดการเรียบร้อยแล้ว รับประกันได้เลยไม่มีทางผิดได้…”เอ้าเฟิงหัวเราะออกมา เขากวักมือให้ตู้เซียวเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อบอกแผนการของเขาอย่างละเอียด “ดีครับ นี่เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ !”“ขอแค่แผนดำเนินไปอย่างราบรื่น เท่านี้ฉินหมิงจะต้องรีบเผ่นออกไปจากบริษัทแน่นอน!”ดวงตาตู้เซียวเป็นประกาย เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“มันต้องเป็นแบบนั้นแน่นอนครับ!”“ตอนนี้คุณทำตามแผนของผมไปก่อน ครั้งนี้ผมจะทำลายชื่อเสียงของมันให้มันไม่มีที่ยืนอีกเลย!”ในดวงตาของเอ้าเฟิงแอบซ่อนรังสีอำมหิตเอาไว้…เวลาช่วงบ่ายฝ่ายบุคคลของ
“ผมหวังว่าคุณจะใช้เขาให้เกิดประโยชน์ในอนาคตนะครับ!”“อ้อ อย่างนั้นเหรอ?”“เขามีความสามารถขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ?”หลินหว่านชิงคาดไม่ถึง“จริงซะยิ่งกว่าจริงอีกครับ!”“ถ้าคุณไม่เชื่อล่ะก็ ถามหานซีได้เลยครับ”ฉินหมิงชี้ไปทางหานซีที่อยู่ด้านข้าง“อืม ที่ฉินหมิงพูดมาน่ะถูกแล้ว รองผู้อำนวยการกัวท่านนี้มีความสามารถจริง ๆ”หานซีพยักหน้าหลายวันมานี้เขาอยู่ที่โรงงานกับฉินหมิงตลอด ความสามารถของรองผู้อำนวยการกัวเธอก็เคยเห็นมาแล้ว นับว่าเป็นคนที่มีความสามารถดีคนหนึ่ง“ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถบางอย่างนะเนี่ย!”“งั้นเอาอย่างนี้ ผู้อำนวยการเซี่ยของสาขาที่สองจะเกษียณในหนึ่งเดือนแล้ว รอให้ผู้อำนวยการเซี่ยเกษียณ ฉันจะย้ายรองผู้อำนวยการกัวไปดำรงตำแหน่งแทนละกัน"หลินหว่านชิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดเนื่องจากได้ฟังฉินหมิงและหานซีแนะนำ เธออดไม่ได้ที่จะเห็นความสำคัญของรองผู้อำนวยการกัว“ดีครับ”ใบหน้าฉินหมิงดีใจ จากนั้นเหมือนเขายะคิดอะไรได้บางอย่างเลยพูดเสริมไปว่า “ประธานหลินครับ ผมยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”“เกี่ยวกับเงินปันผลสิบเปอร์เซ็นต์ ผมไม่สามารถรับไว้คนเดียวได้ ผมคิดว่าควรจะแบ่งให้รองผ
“ฉินหมิง ครั้งนี้ฉันให้รางวัลนายด้วยเงินปันผลสิบเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่เพราะนายพัฒนาเวชสำอางและเพิ่มประสิทธิภาพในการกลั่นวัตถุดิบอย่างเดียว แต่ยังเป็นเพราะนายช่วยให้บริษัทได้รับความร่วมมือจากกลุ่มธุรกิจโจวกรุ๊ปด้วย"“รางวัลนี้นายควรจะรับไว้ ไม่ต้องแบ่งให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น!”“อีกทั้งเรื่องของรองผู้อำนวยการกัว ผู้บริหารระดับสูงทุกคนของบริษัทของเรามีสิทธิ์ในการรับเงินปันผลตามความรับผิดชอบและผลงานของพวกเขาอยู่แล้ว”“แค่รองผู้อำนวยการกัวได้เข้าไปเป็นผู้อำนวยการโรงงาน เขาก็จะเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทและเขาจะได้รับสิทธิ์ในการจ่ายเงินปันผลตามเกณฑ์เมื่อถึงเวลา นายไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเขาเลย!"หลินหว่านชิงพูดอย่างชัดเจนผู้บริหารส่วนใหญ่ของบริษัทมีสิทธิ์ในการรับเงินปันผลประมาณหนึ่งหรือสองเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนเอ้าเฟิงและหานซีได้เพียงประมาณแปดเปอร์เซ็นต์ถึงหกเปอร์เซ็นต์เท่านั้นคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ได้ทำงานกับเธอมากกว่าสองปีแล้ว และทุกคนก็มีส่วนช่วยเหลือบริษัทอย่างมากหากรองผู้อำนวยการกัวช่วยฉินหมิงเพียงเล็กน้อยและเขามีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลถึงห้าเปอร์เซ็นต์แล้วเธอจะอธิบายให้ผู้บร
“เรื่องที่ควรถามก็ถาม เรื่องทีไม่ควรถามก็ไม่ควรถาม!”“เอาเป็นว่า คุณทำตามนี้ละกัน!”ผู้อำนวยการหวงพูดอย่างไม่สบอารมณ์“ผม…”สีหน้าของกัวลี่โกรธขึ้น จากนั้นก็กัดฟันตอบ “ผู้อำนวยการหวงขอโทษนะครับ เรื่องนี้ผมคงทำให้คุณไม่ได้!”ผู้อำนวยการหวงมองอย่างเย็นชา “ไม่ทำงั้นเหรอ?”“ได้ งั้นคุณก็เก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!”“พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้ว!”“อะไรนะครับ?”“ได้ไงครับ!”“ผู้อำนวยการหวง ผมทำงานที่บริษัทนี้ร่วมจะสิบปีแล้วนะครับ ผม…”กัวลี่ตกใจมาก เขาอยากจะพูดอะไรออกมาบ้าง แต่คำพูดนั้นก็ถูกผู้อำนวยการหวงขัดซะก่อน“อย่างนั้นคุณก็ทำซะสิ!”“ไม่อย่างก็ไสหัวออกไปซะ!”“ควรจะเลือกทางไหน ก็คิดเอาเองละกัน!”ผู้อำนวยการหวงพูดอย่างเย็นชา“แต่ว่า…”“ไม่มีแต่!”“ฝ่ายบุคคลออกประกาศชื่นชมฉินหมิงซะขนาดนั้น คุณคงจะเห็นแล้วใช่ไหมล่ะ?”“หลายวันมานี้คุณช่วยเหลือเขา แม้ว่าไม่มีบทบาทมากแต่ก็ทำงานอย่างยากลำบากแต่กลับไม่ได้รางวัลสักสตางค์แดงเดียว“มันคุ้มแล้วเหรอ ที่จะตกงานให้กับคนหน้าหนาแบบนี้!”ผู้อำนวยการหวงหัวเราะเยาะกัวลี่ที่กำลังจะอ้าปากพูด แต่ก็เก็บไว้ในใจเช่นเดียวกับที่ผู้
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ