คนที่เคยเป็นแก้วตาดวงใจของทุกคนในจวนโหว ที่เคยได้รับความรักและความเอาใจใส่จากทุกคน ที่เคยรักพวกเขามากกว่าชีวิตของตัวเอง คนผู้นั้นคือหลินเนี่ยน!พวกเขาฆ่านางกับมือ!ฟันเล็กสีขาวของนางหล่นลงกับพื้น กลิ้งไปมาสองรอบ แล้วตกลงไปในแปลงดอกไม้ข้างๆเฉียวเนี่ยนจ้องมองฮูหยินหลินราวกับจะบอกว่านั่นเป็นของหลินเนี่ยน ไม่ใช่ของนางส่วนหลินเนี่ยนได้ตายไปนานแล้วขณะนี้ ฮูหยินหลินพูดไม่ออกถึงขั้นลืมร้องไห้นางจ้องมองเฉียวเนี่ยน ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แตกสลายจนไม่เหลือชิ้นดีดวงตาของเฉียวเนี่ยนดูสงบเสงี่ยมราวกับน้ำนิ่งมาโดยตลอด สงบจนไม่เหมือนกับมนุษย์คนหนึ่งเลยหลินเย่ว์รู้สึกว่าหากเฉียวเนี่ยนจะชวนเขาทะเลาะอย่างจริงจังสักครั้ง ปล่อยอารมณ์ที่อัดอั้นตันใจออกมา รวมถึงเรื่องราวพันลึกที่เกี่ยวข้องกับนางกับครอบครัวนี้ให้หมดสิ้น อาจจะเป็นเรื่องดีเสียกว่าอย่างน้อยก็ดีกว่ายามนี้ยามนี้ นางดูจะไม่สนใจใครในจวนนี้เลยอ๋อ ไม่ใช่ แต่ก็มีบ้างที่ใส่ใจเฉียวเนี่ยนดึงสายตากลับจากฮูหยินหลิน แล้วหันมองหลินเย่ว์ “ท่านโหวน้อยก็รู้ดีว่าท่านย่าสุภาพไม่ค่อยดี ที่นี่แม้จะอยู่ไกลจากที่อยู่ของท่านย่า แต่หากยังหาเ
รู้สึกราวกับถูกแทงด้วยมีดคมกริบ จนใจแหลกสลาย ฮูหยินหลินสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ยปาก “นี่คือเรือนของท่านย่าเจ้า การที่เจ้าอยู่ที่นี่ก็คงจะรบกวนท่านย่า ฉะนั้นเมื่อฟื้นแล้วก็รีบกลับไปที่เรือนของเจ้าเถิด!”เฉียวเนี่ยนรู้ดีว่าวันนี้ฮูหยินหลินแสดงละครเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อจะพูดประโยคเมื่อครู่แท้จริงแล้วนางก็คิดได้แล้วว่า แม้จะเพื่อท่านย่าก็ไม่ควรลากหลินเย่ว์ลงไปด้วย นางไม่อยากให้ท่านย่าเห็นหลานสาวคนโปรดผลักบุรุษคนเดียวของตระกูลหลินไปสู่ทางตัน และไม่อยากให้ท่านย่าเห็นด้วยตาตัวเองว่าจวนโหวถึงคราวต้องล่มสลายแล้วแต่พอได้ยินคำพูดเหล่านี้จากปากฮูหยินหลิน ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดมากแม้นางจะตัดขาดกับฮูหยินหลินและจวนโหวไปแล้วก็ตามนางก้มศีรษะสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อกดความเจ็บปวดอันทรมานไว้เมื่อเงยหน้าขึ้นยังคงแสดงสีหน้าเย้ยหยัน “เพื่อท่านย่า ข้ายอมที่จะไม่ใส่ใจ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ตระกูลหลินควรจะให้คำอธิบายกับข้า”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฮูหยินหลินพยักหน้าเล็กน้อย “ถูกต้อง ควรจะให้คำอธิบายแก่เจ้า เย่ว์เอ๋อร์ ไปคุกเข่าที่โถงบรรพบุรุษ ห้ามลุกขึ้นจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากข้า!”หลิ
วันรุ่งขึ้นเมื่อเฉียวเนี่ยนฟื้น นางรู้สึกว่าบาดแผลที่บริเวณศีรษะเจ็บปวดกว่าเมื่อวานเสียอีกร่างกายรู้สึกหนักอึ้ง อ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรงทว่าหนิงซวงดูสดใสกว่าเมื่อวานมาก หลังจากดูแลเฉียวเนี่ยนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็รีบเร่งมาคอยรับใช้เฉียวเนี่ยนกินมื้ออาหารเช้าเฉียวเนี่ยนพยายามทำเป็นเข้มแข็ง ไม่อยากให้หนิงซวงเป็นห่วง หลังจากสอบถามถึงอาการของฮูหยินเฒ่า และทราบว่าปลอดภัยดี จึงโล่งใจและกินมื้ออาหารเช้าอย่างสบายใจแต่ก็สังเกตเห็นหนิงซวงหลายครั้งที่อยากจะพูดแต่ก็กลั้นไว้เมื่อเห็นดังนั้น นางจึงวางตะเกียบลง “เจ้ามีอะไรอยากจะพูดก็พูดมาเถอะ”หนิงซวงจึงเข้ามาใกล้และรายงานให้เฉียวเนี่ยนฟังว่า “คุณหนู ข้าได้ยินมาว่าท่านโหวน้อยกับคุณหนูรองคุกเข่าอยู่ในโถงบรรพบุรุษทั้งคืนเลย และเช้านี้คุณหนูรองทนไม่ไหวจึงสลบไป”ที่แท้คือเรื่องนี้เฉียวเนี่ยนหยิบตะเกียบขึ้นมาอีกครั้ง “แสดงว่าร่างกายของนางอ่อนแอมาก”คุกเข่าคืนเดียวก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ?ครั้นที่นางอยู่กรมซักล้าง นางเคยคุกเข่าทั้งวันทั้งคืนมาแล้วหนิงซวงคิดครุ่นครู่หนึ่ง แล้วเห็นด้วยกับสิ่งที่เฉียวเนี่ยนพูด “อืม ก็ไม่เท่าไหร่จริงๆ ไม่รู้ว่าย
"ไม่ต้อง" เฉียวเนี่ยนยื่นแขนออกมารั้งหนิงซวงไว้ นางขมวดคิ้ว ค่อยๆ ลืมตา เมื่อกลับมาเห็นภาพตรงหน้าได้ชัดเจนแล้วจึงเอ่ยปากขึ้น "คงเป็นเพราะตื่นเช้าเกินไป ไม่ต้องกังวลหรอก"เมื่อก่อนตอนที่นางอยู่กรมซักล้างก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเช่นกัน นั่งพักสักหน่อยก็ดีขึ้นเอง ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหนิงซวงกลับยังคงเป็นห่วง "แต่เมื่อวานคุณหนูได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ อย่างไรก็เรียกหมอมาดูหน่อยเถิดเจ้าค่ะ!"เฉียวเนี่ยนลุกขึ้นช้าๆ ยิ้มให้หนิงซวง "ไม่แน่ว่าหมออาจจะกำลังดูท่านย่าอยู่ก็ได้ พวกเราไปหาท่านย่าก่อนแล้วค่อยว่ากัน"ได้ยินดังนั้น หนิงซวงก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จึงพยักหน้า ตรงเข้าไปประคองเฉียวเนี่ยนออกจากห้องแต่เฉียวเนี่ยนกลับรู้สึกว่าหนิงซวงเป็นห่วงนางเกินเหตุ นางเดินเองไม่ได้ที่ไหนกัน?เมื่อออกจากเรือนฟางเหอแล้ว นางจึงบอกให้หนิงซวงปล่อยมือเรือนฟางเหออยู่ทางทิศตะวันตกของจวนโหว เรือนลั่วเหมยอยู่ทางทิศตะวันออก ส่วนเรือนของฮูหยินเฒ่าอยู่ตรงกลางระหว่างสองเรือนนี้นอกจากนี้ หนิงซวงยังกล่าวอย่างชัดเจนว่าหลินยวนเป็นลมเมื่อเช้านี้ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ถ้าแสร้งเป็นลมแล้ว ก็คงต้องแสร้งต่อไปอี
หลินยวนได้รับการปกป้องจากเซียวเหิงก็แสดงท่าทีน่าสงสารมากขึ้น นางหลบอยู่หลังเซียวเหิง ไม่แม้แต่จะโผล่ศีรษะออกมาให้เห็นเฉียวเนี่ยนนอดไม่ได้ที่จะก่นด่าในใจในใจนางยิ่งรู้สึกเบื่อหน่าย พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ท่านย่าคงไม่อยากเจอเจ้า เพราะฉะนั้นเจ้าควรกลับไปเสียดีกว่า!"และไม่รู้ว่าเป็นเพราะเซียวเหิงให้ท้ายอยู่หรือเปล่า หลินยวนถึงได้มีน้ำเสียงแข็งขืนขึ้นเมื่อพูดกับเฉียวเนี่ยน นางยื่นศีรษะออกมา และถามเฉียวเนี่ยน "ท่านพี่ไม่ใช่ท่านย่าเสียหน่อย รู้ได้อย่างไรว่าท่านย่าไม่อยากพบข้า?"ทันใดนั้น ใบหน้าของเฉียวเนี่ยนก็อึมครึม นางก้าวไปทางหลินยวนโดยไม่รู้ตัว และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เจ้าจะทำเป็นจำไม่ได้จริงๆ หรือว่าเจ้าทำอะไรลงไป?"เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนเดินเข้ามาใกล้ หลินยวนก็นึกถึงฉากอันน่าสะพรึงกลัวที่โดนเฉียวเนี่ยนกดลงกับพื้นแล้วตบตีเมื่อวาน นางหลบข้างหลังเซียวเหิงแทบไม่ทัน มือทั้งสองกำชายเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น และสั่นไปทั้งตัว "ข้า ข้ามาวันนี้ก็เพื่อมาขอโทษท่านย่า"เมื่อรู้สึกถึงความกลัวของคนที่อยู่ข้างหลังเขา เซียวเหิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองเฉียวเนี่ยน "ยวนเอ๋อร์สำนึกผิดแล้ว วัน
แม้ว่านางจะรู้ว่าเฉียวเนี่ยนกำลังพยายามยั่วยุนาง แต่นางก็ทนเงียบไม่ได้อีกต่อไปแล้วแม้จะรู้ดีว่าวันนี้ที่นางแกล้งเป็นลมเป็นความคิดของพี่ชาย แต่หากพี่ชายได้ยินคำพูดเหล่านี้ พี่ชายต้องเสียใจมากเป็นแน่!นางไม่อยากให้พี่ชายเข้าใจนางผิด!ในตอนนี้ นางสูดหายใจลึกกว่าเดิม "ท่านพี่ไม่จำเป็นต้องยั่วยุข้าเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าจะไปคุกเข่าที่โถงบรรพบุรุษให้เดี๋ยวนี้แหละ! เพียงแต่ ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ แม้ว่าท่านย่าจะไม่อยากพบข้า ข้าก็ต้องไปขอขมาท่านย่าอยู่ดี!"หลังจากพูดเช่นนั้น นางก็หันไปทางเรือนของฮูหยินเฒ่าแล้วคุกเข่าลง พูดทั้งน้ำตาคลอเบ้าด้วยเสียงอันอ่อนโยนของนาง "ท่านย่า ยวนเอ๋อร์สำนึกผิดแล้ว ยวนเอ๋อร์ไม่กล้าทำให้ท่านย่าโกรธอีกแล้ว ท่านย่าโปรดอภัยให้ยวนเอ๋อร์ด้วยเถอะเจ้าค่ะ!"เมื่อพูดจบ นางก็ก้มหัวคำนับทางเรือนของฮูหยินเฒ่าสามครั้งทำให้ดูเหมือนนางรู้สึกผิดมากจนต้องร้องไห้ออกมาเฉียวเนี่ยนคิดในใจว่า หลินยวนคงไม่ได้กำลังรู้สึกว่าตัวเองกตัญญู ให้ความสำคัญกับความรู้สึกและความยุติธรรมเสียเต็มประดา จนทำให้คนอื่นเห็นแล้วรู้สึกตื้นตันใจอยู่หรอกนะ?เหอะ เห็นได้ชัดว่ามีเพียงแต่ความน่าขัน!ท่านย
ฉากนี้ได้ถูกหลินยวนที่กำลังอิดออดอยู่บังเอิญเห็นเข้านางเบิกตากว้างในทันที ไม่รู้ว่าเหตุใดเซียวเหิงกับเฉียวเนี่ยนถึงได้กอดกันอยู่!ทันใดนั้นเสียงของเซียวชิงหน่วนก็ดังขึ้นในหัวนางเคยพูดว่าเฉียวเนี่ยนจั้งใจยั่วยวนเซียวเหิง...เพราะอย่างนั้น ที่เมื่อครู่นี้เฉียวเนี่ยนให้นางไปคุกเข่าในโถงบรรพบุรุษ ก็เพื่อกีดกันนาออกไป จะได้ยั่วยวนท่านพี่เหิงได้สะดวก?ในใจนางสับสนสุดขีด นางอยากจะพุ่งไปถามพวกเขาทั้งสอง ทว่า...นางกลับกลัวมากเช่นกันประโยคที่เซียวเหิงพูดที่ถนนชุนซานนั้นยังคงดังอยู่ข้างหู นางรู้ดีอยู่แล้วว่าในใจท่านพี่เหิงคิดอย่างไร และนางกลัวว่าถ้านางรีบไปถามเขา นางคงจะเป็นเหมือนพวกภรรยาหลวงที่ไม่มีใครรักในหนังสือนิทานนางกลัวว่าเซียวเหิงจะอยู่ข้างเฉียวเนี่ยน และปกป้องเฉียวเนี่ยนอย่างที่ปกป้องนางเมื่อครู่นี้หากเป็นเช่นนั้นขึ้นมาจริงๆ ตำแหน่งของนางและเฉียวเนี่ยนในหัวใจของเซียวเหิงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสะเทือนใจหรือ?ไม่ นางไม่ต้องการเช่นนั้น!นางยอมให้เซียวเหิงมีพื้นที่ให้เฉียวเนี่ยนในใจได้ แต่พื้นที่ที่สำคัญที่สุดในใจนั้นต้องเป็นนาง!เช่นนั้น นางจึงรีบละสายตา ปล่อยให้น้ำต
สายตาของเซียวเหิงถูกหนิงซวงดึงดูดไว้ ในที่สุดก็ละสายตาจากใบหน้าของเฉียวเนี่ยนได้"เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?"เจาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เสียงแผ่วเบานั้นกลับให้ความรู้สึกราวกับก้อนหินขนาดใหญ่ กระแทกหนิงซวงถอยหลังได้อย่างง่ายดายหนิงซวงไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคำด้วยเกรงว่าหากพูดออกไปอีก จะโดนเซียวเหิงตัดลิ้นออกไปนางคิดแค่ว่ายังดีที่ที่นี่คือจวนโหว ต่อให้แม่ทัพเซียวจะโกรธสักแค่ไหน แต่ก็คงไม่ลงมือทำอะไรคุณหนูหรอกใช่ไหม?เซียวเหิงมองไปยังเฉียวเนี่ยนอีกครั้ง ภาพใบหน้าที่เคยดีใจสุดขีดเมื่อได้เจอเขากับภาพใบหน้าในตอนนี้ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวซ้อนทับกันขึ้นมาในหัวเขาความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นในใจของเขาโดยไม่มีเหตุผลและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเขาขมวดคิ้วและถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "เจ้าจะมาเอง หรือให้ข้าเดินไปหา?"ดูเหมือนว่าเขาต้องการใช้คำถามที่คุกคามเช่นนี้เพื่อที่จะอยู่เหนือเธออีกครั้งแต่ไม่คิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะยืนที่เดิม ไม่ขยับเขยื้อนนางไม่เข้าใจว่าคำพูดของเซียวเหิงในตอนนี้หมายความว่าอย่างไร แต่นางรู้คำตอบ"แม่ทัพเซียวไม่จำเป็นต้องเดินมาหรอก ข้าเองก็จะไม่เดินไป ระยะห่างที่เห็นอยู่นี้
แล้วจะให้เซียวเหอทําอย่างไร?หรือว่าจะทําให้พี่ใหญ่น้องของพวกเขาแตกหักกันเพื่อนางจริงๆ?ไม่สู้ถือโอกาสนี้จากไป หลุดพ้นทุกคนในเมืองหลวงให้หมดสิ้นนางตั้งตารอคอยมานานแล้ว ไปหาโลกใหม่นอกเมืองหลวง ไปหาตัวเองใหม่นางรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วแต่ในมุมมองของหนิงซวง อยู่ต่อก็ดีเหมือนกันคุณชายใหญ่เซียวเป็นคนดี จี้เยว่ก็เป็นคนดีเช่นกัน นางอยู่ที่นี่กับคุณหนูของนาง ไม่ได้รู้สึกน้อยใจแม้แต่น้อยเพียงแต่ ในเมื่อคุณหนูบอกว่าถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว นั่นย่อมมีเหตุผลแน่นอนหนิงซวงจึงพยักหน้าอย่างหนักแน่น "ข้าล้วนเชื่อฟังคุณหนู"ตกดึกเมื่อเซียวเหอกลับมา ท้องฟ้าก็มืดมากแล้วตัวเขาติดกลิ่นเหล้าอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ของเขา ส่วนใหญ่เป็นของพ่อเซียววันนี้พ่อเซียวมีความสุขจริงๆสั่งให้คนทําอาหารโต๊ะใหญ่ ดึงเขาไว้แล้วพูดไม่หยุด ระหว่างนั้นยิ่งดีใจจนร้องไห้หลายครั้งแน่นอนว่ายังพูดถึงหัวข้อเกี่ยวกับเซียวเหิงอยู่บ้างพ่อเซียวบอกว่า พวกเขาสองคนพี่ใหญ่น้องวางใจกันตั้งแต่เด็ก บอกว่าเซียวเหิงเคารพเขาที่เป็นพี่ใหญ่ตั้งแต่เด็กบอกว่านิสัยของเซียวเหิงดูเหมือนสุขุมเยือกเย็น แต่ความจริงแล้วกลับดื้อรั้นมากบอกว่าใน
ทุกคนในที่นี้ต่างก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเฉียวเนี่ยนกับเซียวเหิงเป็นอย่างไร ย่อมเข้าใจดีว่าการจากไปของเซียวเหิงในครั้งนี้ จะต้องเป็นเพราะทนเห็นเฉียวเนี่ยนกับเซียวเหอรักกันเช่นนี้ไม่ได้แน่เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวสีหน้าของเซียวเหอก็มืดมนลงเช่นกันบรรยากาศในห้องโถงตกอยู่ในความอึดอัดใจแม่เซียวได้สติก่อน ผลักเซียวชิงหน่วนเบาๆ หนึ่งที บอกเป็นนัยว่าห้ามพูดถึงอีก จากนั้นก็พูดเสียงดังว่า "คาดว่าในกองทัพคงมีเรื่องต้องไป ไม่พูดถึงเขาแล้ว!"เซียวชิงหน่วนเพิ่งรู้ตัวว่า "ใช่ ใช่ ใช่ พี่รองเพราะงานทหารยุ่ง ไม่ใช่เพราะพี่..."พูดยังไม่ทันจบ เซียวชิงหน่วนก็ปิดปากตัวเองไว้ อยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาดสีหน้าของเฉียวเนี่ยนและเซียวเหอยิ่งเข้มขึ้นพ่อเซียวอดถลึงตาใส่เซียวชิงหน่วนไม่ได้ แล้วจึงค่อยมองไปทางราชครูชิว "วันนี้ที่จวนตระกูลเซียวมีเรื่องมงคล ราชครูชิวจะอยู่ดื่มกับข้าน้อยสักแก้วหรือไม่ขอรับ?"ราชครูชิวก็ทําเป็นไม่ได้ยินที่เซียวชิงหน่วนพูดเมื่อครู่ เขาปฏิเสธอย่างยิ้มแย้มว่า "ไม่ล่ะ คนชั่วชิวอวี่ยังไงก็เป็นหลานชายแท้ๆ ของข้า ข้าคงต้องกลับไปที่จวนก่อน!"พูดจบ ราชครูชิวก็ลุกขึ้นเซี
ระหว่างที่พูดก็เลิกม่านรถเดินออกไปแต่ก่อนที่จะกระโดดลงจากรถม้า ก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "หากนางตาย ก็เป็นนางก่อกรรมทําเข็ญเอง แต่เนี่ยนเนี่ยนล่ะ นางทำอะไรผิด?"สิ้นเสียง หลินเย่ว์ก็ก้าวยาวๆ จากไปแล้วเขาไม่สามารถอยู่ในรถม้าคันนั้นได้แม้แต่วินาทีเดียวเป็นความจริงที่เขาไม่อยากเห็นหลินยวนตายถึงอย่างไรนั่นก็เป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา!ตอนแรกนางอยากฆ่าตัวตายด้วยการชนเสา เขาไม่ได้ห้ามเพราะเขาคิดว่านางแกล้งทําแต่วันนี้ เมื่อเขาเห็นใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะตาย เขาก็อดไม่ได้ที่จะรีบวิ่งเข้าไปน้องสาวของเขาเคยอ่อนโยนและใจดี แต่เพิ่งเข้ามาในจวนตระกูลเซียวได้ไม่นาน ก็กลายเป็นคนที่โหดร้ายเช่นนี้แล้ว?หลินเย่ว์คิดไม่ออกแต่สิ่งที่คิดไม่ออกยิ่งกว่าคือเนี่ยนเนี่ยนทําอะไรผิด?นางทําผิดอะไรถึงต้องถูกจับเป็นเชลยต่อหน้าชิวอวี่ไปให้ชิวอวี่ข่มเหง?นางทําอะไรผิด ต้องหลบเข้าไปในพุ่มไม้หนามโดยไม่คํานึงถึงอะไร ทําให้ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล?นางก็เป็นน้องสาวของเขาเหมือนกันนะ!น้องสาวที่เขาตามใจมาสิบห้าปี มีสิทธิ์อะไรมาได้รับความอัปยศเช่นนี้?มีสิทธิ์อะไร พวกเขาแค่พูดไม่กี่คํา วันหล
รถม้าของจวนโหวรออยู่นอกจวนตระกูลเซียวตั้งนานแล้วหลินยวนถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มคนรับใช้และยกเข้าไปในรถม้า ดึงดูดความสนใจของคนเดินถนนให้หันมาดูท่านโหวหลินและฮูหยินหลินตามขึ้นรถม้า คิดแต่จะรีบกลับจวนโหว ให้หมอประจำจวนรีบรักษาหลินยวนแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะไม่ออกมาเสียทีท่านโหวหลินร้อนใจจนอยากเข้าไปเรียกคน จากนั้นถึงได้เห็นหลินเย่ว์ออกจากจวนแล้วขึ้นรถม้าไป"เร็ว รีบกลับจวน!" ท่านโหวหลินร้องเรียกอย่างร้อนใจ รถม้าก็มุ่งหน้าไปทางจวนโหวอย่างรวดเร็วและหัวใจของท่านโหวหลินก็มีโอกาสหายใจได้บ้างในเวลานี้เมื่อเห็นหลินยวนที่เต็มไปด้วยเลือด สีหน้าของท่านโหวหลินก็มืดครึ้ม แต่จู่ๆ ก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขามองไปทางหลินเย่ว์ "เจ้าก็เหมือนกัน ทําไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่บอกล่วงหน้าล่ะ? วันนี้ข้ากับแม่เจ้ามาไม่ได้เตรียมใจไว้เลยสักนิด"แต่เห็นได้ชัดว่าหลินเย่ว์เพิ่งเริ่มค้นหานักลอบสังหารชุดดําเมื่อไม่กี่วันก่อน!หลินเย่ว์กําลังใช้ผ้าเช็ดหน้าพันแผลที่มือขวาของตัวเอง สีหน้าของเขาไม่ได้ดีไปกว่าท่านโหวหลินสักเท่าไร "แจ้งให้พวกท่านทราบล่วงหน้า เพื่อที่พวกเจ้าจะได้แอบส่งข่าวให้ยวนเอ๋อร์เหรอ?"ได้ยิ
พูดจบก็หันไปพูดกับพ่อเซียวว่า "ขอพี่เซียวยืมด้วยขอรับ"ตระกูลเซียวเป็นท่านแม่ทัพมาหลายชั่วอายุคน สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่สุดในจวนก็คือแส้หนังพ่อเซียวพยักหน้าเล็กน้อยและคํารามเสียงต่ำ ไม่นานก็มีคนส่งแส้หนังมาท่านโหวหลินกํามือไว้ แล้วตะโกนว่า "หลินยวน คุกเข่าให้ดี"หลินยวนเองก็รู้ว่าวันนี้ตนคงหนีไม่พ้นการเฆี่ยนตี แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินหามาให้ตน อย่างไรก็ดีกว่าตาย!ตอนนี้จึงได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ปล่อยหลินเย่ว์แล้วค่อยๆ คุกเข่าตัวตรงหลินเย่ว์สูดหายใจเข้าลึกๆ ถอยไปด้านข้างและเอามือที่บาดเจ็บไว้ด้านหลังท่านโหวหลินก้าวไปข้างหน้า ยกแส้ม้าในมือขึ้น แล้วฟาดไปที่หลังของหลินยวนอย่างแรง"เพียะ!"แส้ที่ทําจากหนังวัวนั้นเหนียวเป็นพิเศษและเสียงดังมากเมื่อตีลงบนร่างกายเพียงครู่เดียว บนหลังของหลินยวนก็มีรอยเลือดสายหนึ่งตกลงมาแล้ว"เจ้าใจดําอํามหิต ทําร้ายคนอื่นทําร้ายตัวเอง วันนี้ข้าจะให้คําอธิบายแก่ทุกคน"ท่านโหวหลินดื่มเสร็จก็ฟาดแส้ใส่หลินยวนอีกครั้งท่านโหวหลินก็เป็นนายทหารเช่นกัน แรงเฆี่ยนตีไม่เบาแน่นอน เสียงเฆี่ยนตีดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ตระกูลเซียว แผ่นหลังของหล
เมื่อคําพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างก็รู้สึกประหลาดใจแม้แต่ท่านโหวหลินกับฮูหยินหลินก็คิดไม่ถึงว่าเฉียวเนี่ยนจะตอบตกลงอย่างง่ายดายเช่นนี้เซียวเหอรู้สึกปวดใจ อดไม่ได้ที่จะหันไปมองนาง น้ำเสียงเย็นชาแฝงไปด้วยความอ่อนโยน กระซิบว่า "เจ้าไม่จําเป็นต้องประนีประนอม"แน่นอนว่าเขาสามารถออกหน้าแทนนางได้ ทําให้หลินยวนและจวนโหวต้องก้มหัวให้นางเฉียวเนี่ยนเนี่ยนรู้ว่าเซียวเหอทําเพื่อตัวเองคําว่า 'ไม่จําเป็นต้องประนีประนอม' นั้นเข้าสู่หัวใจของเฉียวเนี่ยนเนี่ยนอย่างแท้จริงแต่นางไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนของจวนโหวอีกแล้วจริงๆไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ไม่อยากแล้วทั้งนั้นนางแค่อยากอยู่ให้ห่างจากพวกเขาให้ไกลที่สุด ชาตินี้ไม่ได้พบกันอีกจะดีที่สุดดังนั้นนางจึงส่ายหัวเล็กน้อยและหันไปมองเซียวเหอเล็กน้อยพลางกระซิบว่า "แบบนี้ก็ดีแล้ว"เสียงกระซิบของทั้งสองคนดังเข้าหูเซียวเหิง รู้สึกแสบแก้วหูเหลือเกินพวกเขาเอียงตัวเข้าหากัน หัวเหมือนจะชนกัน สนิทสนมกันเป็นพิเศษข้อมือของเฉียวเนี่ยนยังคงถูกเซียวเหอกุมไว้ในฝ่ามือเช่นเดิม แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงข้อนี้เหมือนว่าการสัมผัสผิวกายของทั้งสองคนเป็นเรื่องป
ท่านโหวหลินก็ปาดน้ำตาเช่นกัน "พ่อรู้ เจ้าเองก็ไม่อยากเห็นหน้าพวกเรา ขอเพียงเจ้ายอมไว้ชีวิตยวนเอ๋อร์ ครอบครัวของพวกเราจะไม่มีวันปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าอีก!""เนี่ยนเนี่ยน ยวนเอ๋อร์เพิ่งอยู่กับแม่ได้เพียงสามปีเท่านั้น เดิมทีนางควรจะอยู่เคียงข้างแม่เสมอและได้รับการปกป้องจากแม่ ตอนนี้ เจ้า เจ้าคิดเสียว่าช่วยแม่ชําระหนี้ก้อนนี้ได้หรือไม่? เจ้าไว้ชีวิตนางได้ไหม? แม่โขกหัวให้เจ้าแล้ว"พูดจบ ฮูหยินหลินก็โขกหัวต่อหน้าทุกคนจริงๆแม่เซียวตกใจ รีบปรี่เข้าไปประคองฮูหยินหลินทันที "นี่ท่าน ท่านทําอะไรอยู่เนี่ย""นางจะบังคับให้เนี่ยนเนี่ยนตาย" น้ำเสียงเย็นชาของเซียวเหอดังขึ้น ดวงตาเรียวยาวเต็มไปด้วยความเย็นชา "ท่านทั้งสองยังไงก็เลี้ยงดูเนี่ยนเนี่ยนมาสิบห้าปีแล้ว แม้ว่าจะตัดสายสัมพันธ์กัน แม้ว่าเนี่ยนจะทนทุกข์ทรมานมาสามปี แต่ในสายตาของคนนอก พวกท่านก็ยังคงเลี้ยงดูเนี่ยนเนี่ยนมาสิบห้าปี ตอนนี้พวกท่านใช้บุญคุณมาบังคับตอบแทน แม้กระทั่งคุกเข่าโขกหัวก็ยอม ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการยัดข้อหาเนรคุณใส่เนี่ยนเนี่ยน บังคับให้นางพูดคําว่าให้อภัยออกมา แต่ทั้งสองท่านอย่าลืมว่าคนที่เกือบถูกข่มเหงคือนาง คนที่เกือบตายก็คือ
หลินเย่ว์ไม่ขยับ มือทั้งสองของเขาห้อยลง ปล่อยให้หลินยวนกอดอยู่แบบนี้ที่ด้านข้าง ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินเห็นเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะปาดน้ำตาเฉียวเนี่ยนยืนอยู่ข้างหลังเซียวเหอ มองฉากที่พี่ใหญ่น้องกอดกันด้วยสายตาเย็นชา ถ้าบอกว่าในใจไม่รู้สึกอะไรเลย นั่นต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ๆนางรู้ว่าหลินยวนเป็นตัวปลอมก็รู้ว่านั่นควรจะเป็นพี่ใหญ่ของนางยิ่งรู้ว่าความรักและความโปรดปรานของคนในตระกูลหลินที่มีต่อหลินยวนนั้น เดิมทีควรเป็นของนางดังนั้นในตอนนี้ เมื่อเห็นหลินยวนแย่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเป็นของนางก่อนหน้านี้อย่างโจ่งแจ้ง หัวใจของนางก็จมดิ่งลงไปในเหวลึกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คิ้วและดวงตาคู่นั้นยิ่งเย็นจนน่ากลัวโชคดีที่นางไม่สนใจแล้วตอนนี้สิ่งเหล่านั้นที่สามารถถูกแย่งไปได้ง่ายๆ นั้นถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะไม่ใช่ของล้ำค่าอะไร นางย่อมไม่เสียดายอยู่แล้วแต่ในขณะนั้นเอง ฮูหยินหลินก็หันมองทุกคนและคุกเข่าลงอย่างช้าๆเมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนต่างก็ตกใจแม่เซียวรีบเข้าไปประคอง แต่กลับถูกเซียวชิงหน่วนดึงกลับมาได้ยินเพียงฮูหยินหลินพูดว่า "ยวนเอ๋อร์ทําผิดพลาดครั้งใหญ่ในวันนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของ
กําปั้นคู่หนึ่งถูกกําแน่นจนเกิดเสียงกรอบแกร้บโดยไม่รู้ตัวแต่ในขณะนี้ไม่มีใครสนใจเขาเลยราชครูชิวก็น้ำตาไหลพรากตามไปด้วย "คิดไม่ถึงว่าวันนี้ข้าจะได้เห็นเรื่องมงคลเช่นนี้ ดี ดีมาก! เยี่ยมไปเลย!"เซียวเหอมีบุญคุณต่อเขา ในใจเขารู้สึกซาบซึ้งใจ ย่อมคาดหวังให้เซียวเหอดีขึ้นมาตอนนี้เห็นเซียวเหอลุกขึ้นยืนด้วยตาตัวเอง จะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?แม้แต่ท่านโหวหลินและฮูหยินหลิน ในขณะนี้ต่างก็ตกตะลึงไปด้วย?พวกเขาไม่สามารถคิดได้เลยว่าคนที่ถูกตัดสิน‘โทษตาย’โดยทั้งโรงหมอหลวงจะยืนขึ้นได้อย่างไรกัน!และในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะเบาๆ ก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน"ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ..."คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหลินยวนนางเพิ่งโดนฝ่ามือไป ตอนนี้ยังลุกไม่ขึ้นเลยเมื่อเห็นเซียวเหอลุกขึ้นยืน นางก็ตระหนักว่านางแพ้แล้วเฉียวเนี่ยน รักษาเซียวเหอให้หายได้จริงๆ ด้วยและนาง ก็ถูกทุกคนรังเกียจแล้วจริงๆน่าขำไหม?นางพยายามมาตั้งนาน แต่สุดท้ายก็ยังสู้เฉียวเนี่ยนไม่ได้มีดสั้นที่หล่นอยู่ข้างๆหลินยวนเอื้อมมือไปหยิบมาเมื่อเห็นเช่นนี้ แม้แต่ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินก็อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าว และตะโกนด้วยเสียงต่ำว่า