หลินยวนร้องไห้คร่ำครวญไม่หยุด อาจเป็นเพราะท่าทางน่าสงสารจับใจ ฮูหยินหลินถึงได้ใจอ่อนลงบ้าง เอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ "บนโลกนี้ ไม่มีหญิงใจคิดจะอยากให้ตัวเองแปดเปื้อน ไม่แน่ว่า ยวนเอ๋อร์อาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้นะเจ้าคะ"แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะแค่นหัวเราะออกมา "แต่เมื่อครู่คุณหนูพูดเองมิใช่หรือ นางกลัวว่าพวกท่านจะไม่ต้องการนาง หากวันนี้นางเสียบริสุทธิ? พวกท่านคงปวดในเหลือคณานับ คงโทษว่าเป็นความผิดของข้าทั้งหมด แล้วก็จะยิ่งรักนาง ปกป้องนาง แม่ทัพเซียวก็จะรู้สึกผิด จากนั้นก็แต่งงานเร็วขึ้นยิ่งกว่าเดิม ทุกอย่างก็สมดั่งใจนาง"ยามเฉียวเนี่ยนพูด สายตานั้นหยุดอยู่บนร่างของหลินยวนหลินยวนส่ายหน้าสุดชีวิต "ไม่ ไม่ใช่นะเจ้าคะ ไม่ใช่เช่นนั้น..."แต่เฉียวเนี่ยนกลับหัวเราะออกมา น้ำเสียงมีความเย้ยหยัน "ยิ่งไปกว่านั้น นายังส่งคนมาบอกข่าวท่านโหวน้อยอีก นางรู้ว่าไม่นานท่านโหวน้อยต้องตามมาแน่นอน นางรู้ว่าตัวเองไม่มีทางเสียบริสุทธิ์""ไม่ใช่เช่นนั้น!" ในที่สุดหลินยวนก็ตะโกนลั่นออกมา ราวกับอยากจะใช้เสียงดังนั้นกลบเสียงของเฉียวเนี่ยนให้สิ้นแต่จะกลบได้อย่างไร?นางเห็นแววตาของพ่อแม่และพี่ใหญ่ที่ค่อยๆ
ประโยคนั้นหมายความว่า นางจะพยายามเพื่อเขาตลอดไปความซาบซึ้งเอ่อล้นในใจจิ่งเหยียน แต่เขากลับรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ "ข้าน้อยจิ่งจะคู่ควรได้อย่างไร..."แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะเรียกเขาเสียงจริงจัง "จิ่งเหยียน"จิ่งเหยียนช้อนตาขึ้นมองตามเสียง ก็เห็นเฉียวเนี่ยนกำลังขมวดคิ้ว จ้องมองเขาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด "จากนี้ไปห้ามพูดจาด้อยค่าตัวเองเช่นนี้อีก ชีวิตที่เหลือของข้ามอบให้เจ้าแล้ว เจ้าต้องปกป้องตัวเองให้ดี ถึงจะปกป้องข้าได้"จิ่งเหยียนชะงักไปประโยคที่ว่า 'ชีวิตที่เหลือของข้ามอบให้เจ้าแล้ว' กดทับหัวใจเขาราวกับหนักเป็นตันเขาไม่รู้ว่าเพราะหัวได้รับบาดจเจ็บหรือไร ตั้งแต่ที่เฉียวเนี่ยนถามตัวเองว่าจะมาสู่ขอนางหรือไม่ เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองลอยละล่อง ราวกับอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ ไม่ใช่เรื่องจริงจนกระทั่งวินาทีนี้ เขามอบภารกิจอันยิ่งใหญ่ให้แก่เขา เขาถึงได้รู้ตัวว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องจริงจากนั้นก็ได้ยินเฉียวเนี่ยนพูดต่อ "ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงข้าถึงได้รีบออกมาตามหาเจ้าขอทานน้อย แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจ ว่าเข้าเองก็เป็นห่วงเจ้าเช่นกัน เจ้าบาดเจ็บเพราะข้า หากเกิดเรื่องระหว่างเจ้
แต่สองตาที่เฉียวเนี่ยนมองเซียวเหิงนั้นกลับแสนว่างเปล่า "มีอะไรน่าสงสัยกัน ข้าตกลงปลงใจกับเขา หากแม่ทัพเซียวถามเช่นนั้น ก็คงต้องตอบว่า ไม่รู้ว่าเริ่มต้นเมื่อใด แต่ยามนี้แสนลึกซึ้งกระมัง!"เมื่อได้ยินดังนั้นบรรยากาศรอบกายของเซียวเหิงก็พลันเย็นยะเยือก แม้แต่ดวงตาคู่นั้นของเขาก็เหมือนกลายเป็นน้ำแข็งในพริบตายามนี้แสนลึกซึ้ง?ลึกซึ้งอย่างนั้นหรือ?หากนางลึกซึ้งกันแล้ว ยามนี้คงไม่ได้เรียกว่าจู่ๆ ก็ชอบจิ่งเหยียน!ทันใดนั้นเซียวเหิงก็หัวเราะเสียงเย็น "ความลึกซึ้งของคุณหนูเฉียว จากเปลี่ยนเร็วยิ่งนัก"น้ำเสียงนั้นประชดประชันอย่างเห็นได้ชัดเฉียวเนี่ยนเข้าใจว่าความโดยนันของเขา ทันใดนั้นสีหน้าก็เย็นชา "ความรู้สึกที่ข้ามีต่อแม่ทัพเซียว เหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสา แต่ก่อนแม่ทัพเซียวก็ไม่เคยเห็นข้าในสายตาอยู่แล้ว? เหตุใดยามนี้ทำเหมือนกับใส่ใจนัก?"เฉียวเนี่ยนพูดเพียงเท่านั้น แต่เซียวเหิงมีหรือจะยอมรับว่าตัวเองใส่ใจ?เขากัดฟันกรอด ใบหน้าเย็นชาแค่นยิ้มเย้ย "คุณหนูเฉียวพูดเป็นเล่นไป ข้าเพียงแค่ถามคุณหนูเฉียวด้วยความหวังดี เรื่องนี้ทางที่ดีควรฟังพ่อแม่"แววตาของเฉียวเนี่ยนเรียบเฉย "เรื่องนี้แม่ทัพ
นางกลัวว่าท่านโหวน้อยจะลงไม้ลงมือกับคุณหนูของนางจริงๆเฉียวเนี่ยนยิ้มบาง "ไม่เป็นไร!"คิดไม่ถึงเลยว่าหนิงซวงจะร้องเสียงหลงขึ้นมา "คุณหนูบาดเจ็บนี่เจ้าคะ!"เฉียวเนี่ยนชะงักไป "ไม่นี่!"หลินเย่ว์ไม่ได้ตบตีนาง นางจะบาดเจ็บได้อย่างไร?เมื่อเห็นหนิงซวงยกมือซ้ายขึ้น แขนเสื้อด้านขวากลับเปื้อนคราบเลือด"เหตุใดถึงเลือดออกเยอะปานนี้?" หนิงซวงร้อนรน "เลือดของใครกัน?"เมื่อเห็นคราบเลือดวงใหญ่บนแขนเสื้อของตัวเอง เฉียวเนี่ยนกลับรู้สึกปวดร้าวใจหัวใจอย่างประหลาด"เซียวเหิง"ขณะพูดอยู่นั้นนางก็แค่นหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆนี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่าเซียวเหิงทำตัวเป็นไปได้ทั้งๆ ที่ตอนจิ่งเหยียนอยู่นอกห้อง เขานั้นซ่อนตัวเสียดิบดี แม้แต่ตอนอยู่ในห้องของหลินยวน ยังจงใจซ่อนมือไว้ด้านหลัง ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีใครเห็นว่าเขาบาดเจ็บแต่เมื่อครู่เขาจงใจถลกแขนเสื้อต่อหน้านาง ทั้งยังจงใจทิ้งคราบเลือดไว้บนเสื้อผ้าของนาง ประหนึ่งกลัวว่านางจะไม่รู้ว่าเขาบาดเจ็บเขาคงไม่คิดไม่ถึงว่าอันที่จริงนางรู้ตั้งแต่แรกแล้วเพราะแต่ก่อนหากเขาบาดเจ็บ นางจะแสนปวดใจ ร้องไห้คร่ำครวญยิ่งกว่ายามตัว
ไม่นานฮูหยินเฒ่าก็เริ่มเหนื่อยล้าก่อนจะค่อยๆ หลับไปเฉียวเนี่ยนห่มผ้าให้ฮูหยินเฒ่าก่อนจะออกไปจากห้องพร้อมกับซูมามาประตูห้องปิดลง เฉียวเนี่ยนเอ่ยอย่างกังวลใจ "เหตุใดอาการท่านย่าถึงได้แย่ลงเรื่อยๆ เช่นนี้?"ซูมามาทอดถอนใจ "หมอประจำจวนบอกว่า ร่างกายของฮูหยินเฒ่าคงฝืนได้อีกต่อไปไม่นาน ยามนี้ได้แต่เพิ่งยาบำรุงชั้นดีที่แม่ทัพเซียวเทียวมาส่งให้ทุกเดือน"เพียงได้ยินคำพูดนั้น เฉียวเนี่ยนก็ซาบซึ้งในน้ำใจของเซียวเหิงวัตถุดิบยาราคาแพงที่ฮ่องเต้มอบให้เป็นรางวัล เกือบครึ่งหนึ่งอยู่ที่จวนโหวหากไม่ใช่เพราะรางวัลนั้น แต่อาศัยเพียงแค่จวนโหวที่จวนจะล้มละลายนี้ ไม่มีทางประคองอาการของฮูหยินเฒ่ามาได้นานจนถึงป่านนี้แน่นอนเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนไม่พูด ซูมามาจึงเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ "เมื่อครู่ข้าได้ยิน คุณหนูใหญ่เจอคนถูกใจแล้วหรือเจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนกังวลเพราะอาการของฮูหยินเฒ่า จึงพยักหน้าตอบเพียงเท่านั้นแต่ซูมามากลับเอ่ยขึ้นว่า "หากเป็นไปได้ คุณหนูใหญ่รีบแต่งงานเถิดเจ้าค่ะ! ความปรารถนาเดียวของฮูหยินเฒ่า คือการได้เห็นคุณหนูใหญ่สวมชุดเจ้าสาว หากคุณหนูยังไม่แต่งงานเสียที เกรงว่า..."พูดถึงเพียงเท่านั
ทว่าหนิงซวงกลับไม่เข้าใจ "หากไม่อยู่แล้วอย่างไรเล่าเจ้าคะ์"หากไม่อยู่ ก็แน่ชัดแล้วว่าท่านโหวหลินได้เล่นงานจิ่งเหยียนแล้ว!เพียงแต่เฉียวเนี่ยนไม่พูดออกไป นางไม่อยากให้หนิงซวงพลอยกังวลไปด้วย ทำได้เพียงพยักหน้ายิ้มให้หนิงซวง "ไม่เป็นไร กลับจวนก่อนเถิด"หนิงซวงทำงานฉับไว กลับมาถึงจวนได้ไม่นานก็หาคนไปยังหมู่บ้านมู่เถียนได้แล้วระหว่างนั้นเฉียวเนี่ยนก็รออยู่ที่จวนตลอด ทว่าจิตใจนั้นยากจะสงบจวบจวนพลบค่ำ บ่าวที่ไปยังหมู่บ้านมู่เถียนถึงวิ่งพรวดพราดกลับมาเฉียวเนี่ยนถามในทันใด "ว่าอย่างไร? เจอรองแม่ทัพจิ่งหรือไม่?"บ่าวหนุ่มส่ายหน้า ยื่นยาที่ยังปิดสนิทดังเดิมให้ก่อนจะเอ่ย "เมื่อครู่ข้าไปที่หมู่บ้านมู่เถียนแล้วแต่ไม่พบรองแม่ทัพจิ่ง แม้แต่คนในบ้านรองแม่ทัพจิ่งก็ไม่เจอ ได้ยินชาวบ้านบอกว่า เมื่อคือคนของศาลาว่าการมาจับตัวพ่อของรองแม่ทัพจิ่งถึงบ้าน แม่และน้องสาวของรองแม่ทัพจิ่งคงเข้าเมืองหลวงมาหารองแม่ทัพจิ่งแล้ว"เกิดเรื่องขึ้นอย่างที่คิดไว้จริงๆ!เฉียวเนี่ยนกำหมัดแน่น ถามต่อในทันใด "คนของศาลาว่าการพูดว่าอย่างไร พ่อของรองแม่ทัพจิ่งทำผิดอันใดรึ?""บอกว่าฆ่าคนขอรับ"คำพูดของบ่าวหนุ่ม ทำเอาเ
เสียงหัวเราะนั้นบาดหูเหลือเกิน ยั่วยุจนจิ่งเหยียนกำหมัดแน่นเฉียวเนี่ยนรีบเดินเข้ามาขวางหน้าจิ่งเหยียนเอสไว้ กลัวว่าเขาจะทำอะไรบู่มบ่ามนางมองไปชิวอวี่ เอ่ยถามอย่างห้ามไม่อยู่ "ฝีมือเจ้ารึ?"หากไม่ใช่ ชิวอวี่จะรู้ได้อย่างไรว่าจิ่งเหยียนอยู่ที่นี่ ทั้งยังจงใจมาเพื่อสมน้ำหน้าเช่นนี้?แต่นางกลับรู้สึกตงิดใจถึงชิวอวี่จะเป็นหลานชายของราชครูชิว แต่ไม่ใช่หลานชายสายตรง แถมยังไม่ใช่คนโปรด คนในศาลาว่าการก็ไม่ได้โง่เง่า จบคนมั่วซั่วเพียงเพราะคุณชายไม่เอาไหนคนหนึ่งเว้นเสียแต่ว่าราชครูชิวเป็นคนออกปากแต่ราชครูชิวตำแหน่งสูงปานนั้น แทบจะไม่มีทางทำเรื่องพรรค์นี้เพื่อชิวอวี่!ทว่าชิวอวี่กลับยิ้มร่า แต่เพราะมุมปากเป็นแผล จึงเจ็บจี๊ดจนต้องร้องสูดปาก ก่อนจะเอ่ยต่อ "ข้าแซ่ชิวผู้นี้ไม่เข้าใจว่าคุณหนูเฉียวพูดเรื่องอะไร แต่ข้าขอเตือนรองแม่ทัพจิ่งว่าอยู่ให้ห่างจากหญิงผู้นี้เถิด ไม่เช่นนั้น เจ้าคงต้องเตรียมโลงศพไว้สามโลงรอรับศัพคนในครอบครัวเจ้าทีละคน!""สารเลว!" จิ่งเหยียนเดือดดาลจนทนไม่ไหว หากไม่ใช่เพราะเฉียวเนี่ยนขวางไว้ เกรงว่าป่านนี้คงถลาเข้าไปฉีกปากชิวอวี่แล้วแต่ชิวอวี่กลับยังคงไร้ท่าทีเกรงกลั
ทั้งสองคนกอดกันกลมอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจิ่งเหยียนถึงได้หันหลังเดินจากไปส่วนเฉียวเนี่ยนยืนนิ่งอยู่เดิมเหม่อมองแผ่นหลังของจิ่งเหยียน แววตาเหลือเพียงความเย็นชาเมื่อกลับมาถึงจวนโหวฟ้าก็มืดแล้วเพิ่งจะเข้าประตูมาก็มีบ่าวมาบอกน่างว่า ตอนนี้ท่านโหวหลินรอนางอยู่ที่โถงหน้าโถงหน้ามีเพียงท่านโหวหลินเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยน ท่านโหวหลินก็ยกถ้วยน้ำชาขึ้น แสร้งทำเป็นจิบชาก่อนจะเอ่ยถาม "เหตุใดถึงได้กลับดึกดื่น ไปไหนมารึ?""ศาลาว่าการ" เฉียวเนี่ยนตอบตามตรง สองตามองนิ่งไปข้างหน้า ไม่สบตาท่านโหวหลินแม้แต่นิดแต่ท่านโหวหลินนั้นไม่แสแยท่าทีของเฉียวเนี่ยนแต่อย่างใด เอาแต่ส่งเสียงฮีดฮัน "เป็นถึงคุณหนูแห่งจวนโหว เหตุใดถึงวิ่งโร่ไปทั่ว ดึกดื่นปานนี้ถึงเพิ่งกลับจวน! ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป หากข้าไม่มีคำสั่ง ห้ามออกไปไหนทั้งนั้น!""เจ้าค่ะ"เฉียวเนี่ยนขานตอบในทันใดทว่าท่านโหวหลินกลับตกตะลึงทั้งๆ ที่เขาแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าจงใจหาข้ออ้างกังบริเวณนางไม่ให้ไปช่วยจิ่งเหยียนด้วยนิสัยอย่างเฉียวเนี่ยนแล้ว ยามนี้ควรจะอาละวาดทะเลาะกับเขา เขาอุตส่าห์เตรียมตัวมาเพื่อตีบทแตกในวันนี้ เหตุใดจู่ๆ นางถึงได้ว่าง
นั่นมันต้องเจ็บขนาดไหนกัน!เนี่ยนเนี่ยนของนางต้องเจ็บขนาดไหนกัน!ฮูหยินเฒ่าแค่คิด ก็รู้สึกปวดใจแทบขาดแล้วย่าอย่างนาง ช่างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!นางเอาแต่อยู่ในจวนนี้ทั้งวันทั้งคืน ไยแม้แต่ข่าวเล็กน้อยก็ยังไม่ได้รับ?หากนางรู้เร็วกว่านี้ว่าหมิงอ๋องคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร นางคงไม่มีทางให้เนี่ยนเนี่ยนเข้าวังหรอกหากนางรู้ว่าหลินเย่ว์ไอ้สารเลวนั่นทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ นางคงตีเขาให้ตายแน่!หาก...หากนางจากไปเร็วกว่านี้ เนี่ยนเนี่ยนของนางคงไม่ต้องลำบาก ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม! อยู่ที่จวนโหวมาตลอดขนาดนี้!เป็นนางเองที่ไร้ประโยชน์!เป็นเพราะนางแก่แล้ว ทนได้ไม่ไหวแล้ว ไม่เพียงแต่ปกป้องเนี่ยนเนี่ยนของนางไม่ได้ ยังกลายเป็นภาระของนางด้วย!พวกเขายังให้นางกินน้ำล้างจานด้วย!หลานสาวแท้ๆ ที่นางรักทะนุทะนอมมาตั้งแต่เด็ก!พวกเขากล้าให้นางกินน้ำล้างจานได้อย่างไรกัน!ฮูหยินเฒ่ายิ่งคิด ความเจ็บปวดในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนสุดท้าย ก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียงโหยหวนและแก่ชราที่ดังเรื่อยๆ นั้น แฝงไปด้วยความเสียใจมากมายและช่วยอะไรไม่ได้นางถึงขนาดที่ไม่รู้แล้วว่า ให้เฉียวเนี่ยนออกมาจากกรมซักล้าง
เฉียวเนี่ยนวิ่งไปด้วย เช็ดคราบเลือดตรงมุมปากไปด้วย นางจะให้ท่านย่าเห็นสภาพนางกระอักเลือดไม่ได้!เมื่อมาถึงนอกห้องฮูหยินเฒ่า ก็เห็นซูมามากับหมอประจำจวนรออยู่หน้าประตูห้องก่อนแล้วครั้นเห็นเฉียวเนี่ยน หมอประจำจวนก็คำนับเฉียวเนี่ยนรีบไถ่ถาม "เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านย่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนถึงได้ตอบ "คุณหนูใหญ่ ร่างกายของฮูหยินเฒ่าเสียหายอย่างรุนแรง แม้ข้าน้อยจะฝังเข็มรักษาชีพจรหัวใจของฮูหยินเฒ่าไว้มั่นได้ แต่ เกรงว่าคงยืนหยัดได้ไม่เกินสิบวัน"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป พลางส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย "ไม่ ไม่จริง ซูมามาบอกว่า วันนี้สภาพท่านย่าไม่เลว แถมยังลุกจากเตียงได้อยู่เลยมิใช่หรือ... "เหตุใดแม้แต่สิบวันก็ทนไม่ไหวแล้วเล่า?ซูมามาปาดน้ำตาไร้สุ้มเสียงแต่หมอประจำจวนกลับถอนหายใจเล็กน้อย กล่าว "หากไม่เคยได้รับการกระตุ้น บางทีฮูหยินเฒ่าอาจทนได้สองสามเดือน เฮ้อ!"ได้ยินเช่นนี้ น้ำตาเฉียวเนี่ยนพลันไหลลงมาไม่หยุด แม้แต่ลมหายใจก็สับสนไปชั่วขณะอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องของนางที่ทำร้ายฮูหยินเฒ่า!เมื่อครู่นางควรตวัดดาบจบหลินยวนไปเสีย!ซูมามารีบเข้ามาเช็ดน้ำตาให้นาง และกล่าวโน้
แต่ในเวลานี้เอง ร่างๆหนึ่งปรี่เข้ามาในห้อง ผลักเฉียวเนี่ยนออกและเพราะการกระแทกนี้ ทำให้ดาบยาวทิ้งรอยเลือดไว้เป็นทางยาวตรงหน้าอกหลินยวนหลินเย่ว์ตกใจหน้าถอดสี รีบอุ้มหลินยวนไปข้างนอกทันทีแต่คาดไม่ถึงว่า เฉียวเนี่ยนไล่ตามออกมาเหมือนกับคนบ้า ถือดาบยาวตวัดฟันลงบนหลังของหลินเย่ว์หลินเย่ว์หลบไม่ทัน หลังรับดาบเฉียวเนี่ยนไปเต็มๆ สองมือไร้เรี่ยวแรงทันที และล้มลงไปบนพื้นพร้อมกับหลินยวนท่านโหวหลินที่เร่งตามาเห็นภาพนี้ ก็ปรี่เข้ามาจับสองมือของเฉียวเนี่ยนไว้ทันที พลางตะคอกอย่างกราดเกรี้ยว “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”หากไม่ใช่เพราะทหารองครักษ์ที่ถูกแย่งดาบไปรีบมารายงาน เกรงว่าเมื่อพวกเขามาถึง หลินยวนคงตายภายใต้ดาบของนางไปแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนแทบจะตะโกนเดือดดาลอย่างบ้าบิ่น “ใช่ข้าบ้าไปแล้ว! หากไม่ใช่เพราะนางส่งคนไปพูดไร้สาระต่อหน้าท่านย่า ท่านย่าก็คงจะไม่เป็นไร! วันนี้ข้าจะต้องตัดลิ้นนางให้ได้ ข้าจะดูว่าต่อไปเจ้าจะเอาอะไรออกมาทำร้ายท่านย่าอีก!”ท่านโหวหลินเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าจู่ๆ ที่ฮูหยินเฒ่าอาการกำเริบเกิดมาจากหลินยวน จึงมองไปที่หลินยวนด้วยสีหน้าตกตะลึงทันทีเห็นเพียงอีกฝ้ายหมอบอยู่
เรือนลั่วเหมย ประตูใหญ่ปิดสนิทเฉียวเนี่ยนถีบประตูเปิด ย่างสามขุมเข้าไปในเรือนลั่วเหมยคนรับใช้ สาวใช้ภายในเรือน แต่ละคนเตรียมพร้อมรออยู่ ราวกับคาดเดาได้ว่าเฉียวเนี่ยนจะมาแต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะถือดาบเข้ามาด้วย!กระนั้น แม้พวกเขาจะเคยเห็นความดุร้ายของเฉียวเนี่ยน ทว่ากลับไม่เคยเห็นเฉียวเนี่ยนฆ่าคน จึงคิดว่าเฉียวเนี่ยนแค่มาขู่ก็เท่านั้นมีคนรับใช้ใจกล้าคนหนึ่งเข้ามาพูดโน้มน้าว “คุณหนูใหญ่โปรดระงับโทสะ อย่าทำเรื่องโง่ๆ รอท่านโหวมา…อ๊าก!”ไม่รอให้คนรับใช้คนนั้นพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ฟัดดาบลงไป คนรับใช้คนนั้นถูกฟันเข้าที่แขนทันที เลือดแดงสดไหลลงมาดวงตาสองข้างของเฉียวเนี่ยนแดงก่ำ ตะโกนเสียงดัง “หลินยวน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”จากนั้น เหลือบมองกลุ่มคนรับใช้สาวใช้ที่ยังขวางอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วตะคอกเสียงเย็น “ใครกล้าขวางข้า!”เหล่าสาวใช้ที่ขี้ขลาดบางส่วนรีบวิ่งหนีเตลิดกันหมด ทว่ายังพอมีใจกล้าอยู่บ้าง ขวางอยู่ข้างหน้าเฉียวเนี่ยน “คุณหนูใหญ่ใจเย็นก่อนๆ หากฆ่าคุณหนูรองจริง ท่านโหวจะปล่อยคุณหนูไปได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนจ้องคนรับใช้คนนั้นเขม็ง พลางกดเสียงต่ำ “รนหาที่ตาย!”ดาบยา
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูมามาก็ห้ามเสียงสะอื้นไม่ได้แล้ว “ฮู ฮูหยินเฒ่ารู้เรื่องที่คุณหนูใหญ่จะตัดขาดท่านโหว จึงบีบเค้นถามบ่าว บ่าวไม่กล้าพูดมาก ฮูหยินเฒ่าจึงบีบให้นังพวกใจสกปรกเหล่านี้พูด…”“ฮูหยินเฒ่าไม่เพียงรู้เรื่องที่คุณหนูตัดขาดจวนโหว ยังรู้เรื่องก่อนหน้าที่คุณหนูเกือบถูกหมิงอ๋องตีตาย รู้ว่าท่านโหวน้อยรังแกคุณหนูอย่างไร ดังนั้นฮูหยินเฒ่าก็เลย ก็เลย…”พูดมาถึงตอนท้าย ซูมามาร่ำไห้จนพูดออกมาไม่ได้แล้วส่วนเฉียวเนี่ยน เดือดดาลจนสั่นเทาไปทั่วร่างนางมีสีหน้าเย็นชา ค่อยๆเดินไปทางสาวใช้พวกนั้นพวกสาวใช้แต่ละคนต่างหลุบตาต่ำก้มหน้า จิตใจกระวนกระวาย ไม่กล้าเหลือบมองเฉียวเนี่ยนได้ยินเพียงสุ้มเสียงสั่นเทาของเฉียวเนี่ยนดังออกมา และเจือไปด้วยโทสะ “ข้ากำชับหลายครั้งหลายหนแล้วว่าห้ามเปิดเผยเรื่องของข้าให้ท่านย่าฟัง พวกเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน ถึงกล้าเอ่ยถึงข้าในเรือนของท่านย่า!”เหล่าสาวใช้ต่างตกใจพากันร่ำไห้โขกหัว “บ่าวผิดไปแล้ว ขอคุณหนูใหญ่ยกโทษให้ด้วย!”“บ่าวรู้ความผิดแล้ว บ่าวไม่กล้าทำอีกแล้ว!”ทว่าสายตาของเฉียวเนี่ยน กลับถูกสาวใช้หนึ่งในนั้นดึงดูดไปนางขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็น “เ
หลังจากเฉียวเนี่ยนก้มกราบเสร็จ ก็ลุกขึ้นยืน กล่าวกับคนรับใช้ที่คอยปรนนิบัติอยู่นอกห้องโถง “ไปเอากระดาษ พู่กันมา”คนรับใช้ไหนเลยจะกล้าขยับ พลางมองไปที่ท่านโหวหลินด้วยความลำบากใจแต่กลับพบว่า ท่านโหวหลินกำลังหายใจแรง คล้ายว่าถูกยั่วโมโหสุดขีดแล้วส่วนฮูหยินหลินปาดน้ำตาไม่หยุด พูดไม่ออกเลยสักคำมีเพียงหลินเย่ว์ที่ยังพูดออกมาได้ในตอนนี้ “เฉียวเนี่ยน เจ้าคิดให้ดีนะ ไม่มีจวนโหว…”“ข้าคิดดีแล้ว” เฉียวเนี่ยนขัดคำพูดหลินเย่ว์อย่างไม่แยแส จากนั้นสายตาก็มาหยุดอยู่ที่ท่านโหวหลินอย่างเย็นชา น้ำเสียงเจือไปด้วยความถากถาง “บัดนี้พวกท่านบอกปัดด้วยข้ออ้างต่างๆเช่นนี้ เหมือนกับว่าจวนโหวขาดข้าไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น”ไม่ใช่ว่ายืนยันแล้วหรอกหรือว่าจวนโหวเอาแต่ใช้ประโยชน์นางมาตลอด?ได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดท่านโหวหลินก็โมโหจนขาดสติ และตะคอกขึ้นมาด้วยโทสะทันที “ไปเอากระดาษกับพู่กันมา!”จวนโหวขาดนางไม่ได้?พูดเรื่องตลกอะไร!เรือพังยังมีตะปูสามพัน ต่อให้จวนโหวเขาไม่ดีแค่ไหน ก็ไม่มีวันตกต่ำถึงขั้นต้องพึ่งพาเฉียวเนี่ยนที่เป็นสตรีคนหนึ่งหรอก!เขาคำนึงถึงอนาคตทึกอย่างเพื่อนาง นางไม่รับน้ำใจก็ช่าง ตอนนี้กลับ
น้ำเสียง ดูเย็นชาเป็นพิเศษแต่กลับทำให้หลินเย่ว์โมโหไม่น้อย "ไม่ขัดขวาง? เฉียวเนี่ยน เจ้ามองตัวเองสำคัญเกินไปแล้ว? ที่พ่อแม่สนใจเรื่องแต่งงานของเจ้า เป็นเพราะพวกเขายังยอมรับเจ้าเป็นลูกสาว! หากตัดขาดกัน จวนโหวจะสนใจเจ้าอีกได้อย่างไร!"ได้ยินวาจานี้ จู่ๆ เฉียวเนี่ยนพลันหัวเราะขึ้นมา ก่อนกล่าว "ดังนั้น ข้าจะตัดขาดความสัมพันธ์"สิ่งที่หลินเย่ว์พูดเมื่อครู่ เหล่านนั้น คือเหตุผลที่นางอยากตัดขาดความสัมพันธ์!หลินเย่ว์นิ่งอึ้งรู้สึกแต่ว่าเฉียวเนี่ยนถูกผีเข้าสิงขณะกำลังคิดว่าควรจะด่าเตือนนางอย่างไร กลับไม่คาดคิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน"ท่านโหวหลินดูออกหรือไม่ว่าตราประทับนั้นเป็นของปลอม?"เสียงของนางอ่อนเบา ไม่เจือไปด้วยโทสะแม้แต่น้อยราวกับว่าแค่ถามเรื่องที่ปกติมากๆเรื่องหนึ่ง เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับนางแต่คำพูดนี้กลับทำให้หลินเย่ว์และฮูหยินหลินขมวดคิ้วสองข้าง "ตราประทับปลอมอะไร? เจ้าว่าตราประทับราชครูนั่นเป็นของปลอมหรือ?"เฉียวเนี่ยนไม่ตอบ ดวงตาคู่หนึ่งมองไปที่ท่านโหวหลินอย่างสงบนิ่งมากพบว่าท่านโหวหลินตาเป็นประกาย กล่าวอย่างปากแข็ง "นั่น นั่นมันเป็นตราประทับของรา
จวบจนรถม้านั่นขับออกไปไกลแล้ว จิ่งเหยียนถึงได้โบกมือ สั่งเหล่าทหารที่อยู่ด้านหลังกลับไปจากนั้นก้มตัวลงไปเก็บปิ่นปักผมที่อยู่บนพื้นขึ้นมา เดินอ้อมไปอยู่ด้านหลังเฉียวเนี่ยนและม้วยมวลผมที่ง่ายที่สุดให้นางในระหว่างที่ทำผมให้นางเขาถึงได้พบว่า มือขวาของตัวเองยังออกแรงไม่ได้จนถึงตอนนี้นึกถึงเซียวเหอแม้เขาจะกักตัวมาตลอดห้าปี กระนั้นฝีมือการต่อสู้กลับยังคงเก่งกาจเหมือนเดิม จิ่งเหยียนอดหัวเราะเสียงเบาออกมาไม่ได้ครั้นได้ยินเสียงหัวเราะที่มาจกความจริงใจภายใน เฉียวเนี่ยนก็อดสงสัยไม่ได้ "เป็นอะไรหรือ?"จิ่งเหยียนเก็บความคิดไว้ และส่ายหัวเล็กน้อย "ไม่มีอะไร"ระหว่างสนทนา เขาปรายตามองแผ่นป้ายสูงจวนราชครูนั้น แววตาทมึนถึงลง ก่อนกล่าว "ข้าจะส่งเจ้ากลับ"เฉียวเนี่ยนถึงได้สูดหายใจเข้าลึก และพยักหน้าอย่างช้าๆถึงเวลาควรกลับแล้วไม่นาน เฉียวเนี่ยนก็กลับมาถึงจวนแต่คาดไม่ถึงว่า จะบังเอิิญเจอท่านโหวหลินกับหลินเย่ว์ที่กำลังออกมาจากจวนพอดีเห็นเฉียวเนี่ยนตามจิ่งเหยียนมา ท่านโหวหลินกับหลินเย่ว์ต่างก็ตกตะลึงเดิมทีพวกเขากำลังจะไปจวนราชครู แต่ไม่คิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะกลับมาก่อนก้าวหนึ่งท่านโหวหลิ
แต่ไม่คิดเลยว่า จู่ๆบนหลังมือของจิ่งเหยียนเกิดความเจ็บแปลบอย่างรุนแรงขึ้นมา ทำให้ไม่อาจถือแม้แต่ปิ่นปักผมไว้ได้ปิ่นปักผมร่วงลงบนพื้น เกิดเสียงกระทบดังออกมาและที่ร่วงมาพร้อมกันนั้น ยังมีหินกลมก้อนหนึ่งด้วยนี่มัน...ทั่วบริเวณ เงียบสงัดไปชั่วขณะทว่ามีเสียงเกือกม้าค่อยๆดังเข้ามาทุกคนทอกมองไปทางต้นเสียง เห็นไม่ไกลนัก มีรถม้าคันหนึ่งมุ่งตรงมาที่จวนราชครูคือรถม้าของตระกูลเซียว!เฉียวเนี่ยนตกใจ จับมือจิ่งเหยียนไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว ก่อนคิ้วงามขมวดขึ้นเล็กน้อยเซียวเหิงมาได้อย่างไร?แต่ที่ไม่คาดคิดคือ รถม้ามาหยุดอยู่นอกจวนราชครู มือขาวเรียวยาวข้างหนึ่งแหวกผ้าม่านรถออก เสียงเย็นยะเยือกดังออกมา "ราชครูชิว ไม่เจอกันนานเลย"เฉียวเนี่ยนตกใจอีกครา สุ้มเสียงนี้ หาใช่เซียวเหิง!นางมองไปทางรถม้าทันที เห็นใบหน้าขาวที่แทบจะเหมือนป่วยภายใต้ม่านรถที่ถูกเปิดออกนั้น บนใบหน้าที่ซูบผอม หูตาคอจมูกดูดุดัน ออร่าแม่ทัพใหญ่ที่เลือนรางนั้นไม่ลดลงไปเลยแม้แต่น้อยเป็นเซียวเหอ!จิ่งเหยียนเองก็คาดไม่ถึงว่าผู้มาจะเป็นเซียวเหอ จึงอุทานอย่างตกใจออกมา "ท่านแม่ทัพ!"เขาเคยเป็นผู้นำทัพแนวหน้าใต้บัญชาเซียวเห