"ผู้หญิงอะไรร้ายชะมัด" เอาไปเอามาหวานใจลงไปนอนพื้น พร้อมกับหมอนหนึ่งใบและผ้าห่มที่มีอยู่ผืนเดียว เธอใช้ผ้าห่มผืนนั้นทั้งรองพื้นและก็ห่มไปในตัว
เช้าวันต่อมา..
"มีอะไรกันหรือเปล่าครับ" ทั้งสองถูกตามตัวให้มาพบที่ห้องอาหารวีไอพี
"มานั่งก่อนสิลูก" สโรชาเรียกให้ว่าที่ลูกสะใภ้มานั่งใกล้ๆ เพราะคิดว่าเดี๋ยวลูกชายก็คงเดินตามคนรักมา แต่ไม่ใช่..เขาเดินไปนั่งอีกมุมหนึ่ง "รามิล" คนเป็นแม่ก็เลยเรียกให้มานั่งใกล้ๆ กัน เพราะถ้าผู้ใหญ่คุยด้วยจะได้หันมาทางเดียวไม่ต้องหันไปหลายทาง
"ทางผู้ใหญ่คุยกันแล้วนะ" ประโยคนี้เรวทัตพูดกับหลานชาย แต่ที่จริงคนเป็นปู่นั่นแหละออกความคิดเห็นอยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นได้แต่นั่งฟัง
"คุยกันว่ายังไงครับ""ฤกษ์ดีอีกสามวันข้างหน้า"
"ห๊าา!?"
"ที่เรียกมาเพราะจะถามพวกเราว่าอยากจัดงานที่นี่ หรือกลับไปจัดกรุงเทพฯ" เพราะทุกคนมาร่วมงานแต่งของเทวินที่ภาคตะวันออกแถบชายทะเล
"คุณปู่ครับจะรีบไปไหนนักหนา"
"ถ้าไม่ใช่ฤกษ์สามวันข้างหน้า ก็ต้องรออีก สามเดือน"
"OK ครับ งั้นรอสามเดือน"
ผู้ใหญ่ต่างก็มองหน้ากัน จนหวานใจกลัวว่าพวกท่านจะสงสัย "เรื่องไปเที่ยวของเราเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าผู้ใหญ่ได้ฤกษ์ดีเราก็แต่งกันก่อน"
"อะไรของเธอ" รามิลหันมากระซิบพูดใกล้ๆ
"อยากให้ผู้ใหญ่จับได้หรือไง เห็นไหมว่าพวกท่านมองอยู่"
"ปากเราไปถูกอะไรมา" สโรชาเพิ่งสังเกตลูกชายตอนที่เห็นเขากระซิบคุยกับคนรัก แต่ผู้ใหญ่คนอื่นมองเห็นตั้งแต่เข้ามาแล้ว แต่ก็ไม่มีใครทัก
"จะถูกอะไรล่ะครับก็.. โอ๊ย" รามิลกำลังจะบอกว่าถูกอะไรมา แต่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ หยิกเข้าให้ก่อน จนผู้ใหญ่หลายคนต่างก็หัวเราะ
"แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย ถ้าแต่งงานแล้วปู่ขออุ้มเหลนเลยนะ"
"คะ?"
"ผมจัดให้เลยครับปู่" ที่จริงเขาไม่ได้จะพูดว่าเป็นฝีมือของเธอหรอก แต่พอถูกเธอหยิกก็เลยรู้สึกมันเขี้ยว
"ฮ่าาา หลานฉัน" พลโททศกัณฐ์น้องชายคนรองของรามสูรขำเสียงดังกว่าใครเพื่อน
"เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ ถ้างั้นเราก็กลับไปจัดงานแต่งที่บ้านดีไหม สามวันยังพอมีเวลาเตรียมงาน"
"แต่งที่นี่เลยก็ดีค่ะ" พอหวานใจออกความคิดเห็นทุกคนหันมองมาที่เธอพร้อมเพรียงกันมาก "มีอะไรหรือเปล่าคะ" เหมือนว่าเธอพูดอะไรผิดไป
"หนู" แก้วใจเอ็ดลูกสาวเบาๆ เพราะตัวเองเป็นฝ่ายหญิงก็เลยดูไม่งาม แต่ที่หวานใจอยากให้จัดงานที่นี่ เพราะถ้ากลับไปจัดที่กรุงเทพฯ งานแต่งคงอลังการมากแน่
"อย่าว่าให้เด็กเลยเขาคงใจร้อน" พอจบคำพูดเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นอีกครั้งแบบเอ็นดู
ห้องพักเดิม..
"มองหน้าฉันทำไม"
"ถ้าไม่ให้มองหน้าก็หันก้นมาสิจะได้มองก้นแทน"
"ฉันจริงจังนะคุณ"
"แล้วผมไม่จริงจังหรือไง ทำไมไม่ให้ผู้ใหญ่เลื่อนไปแต่งสามเดือนข้างหน้า"
"จะแต่งสามวันหรือสามเดือนก็ได้แต่งเหมือนเดิมนั่นแหละ"
"คุณครับ..ถ้าเราเลื่อนไป งานแต่งอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้"
"อ้าวจริงเหรอ"
"ระยะเวลาตั้งสามเดือนทำอะไรได้อีกตั้งมากมาย"
"ทำไมคุณไม่สะกิดฉันล่ะ"
"สะกิดได้เหรอ ยังช้ำอยู่เลยเนี่ย หยิกเข้ามาได้ยังไง"
"ก็คุณจะบอกผู้ใหญ่ทำไมเรื่องที่ปากเรา.."
"ใครจะไปพูดเรื่องนั้น"
"ไม่ใช่คุณจะพูดเรื่องนี้เหรอ"
"ผมจะพูดทำไมครับ"
"ฉันก็ไม่รู้นี่..แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดี
"ก็คงต้องทำตามที่พูดกับคุณปู่ไว้"
"คุณ!"
"อะไรของคุณ ตกใจหมดเลย"
"อย่าบอกนะว่าจะทำตามที่คุยกับคุณปู่คุณ!" มือเรียวจับคอเสื้อกระชับเข้าหากัน
รามิลใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ว่าเธอหมายถึงอะไร
"ก็เรื่องที่คุณบอกว่าจะทำเหลนให้ท่านไง"
"ถ้าคุณไม่พูดผมลืมแล้วนะเนี่ย เริ่มเลยดีไหม จะได้ทันใช้"
"ถ้านายเข้ามาฉันแทงไส้แตกแน่" กรรไกรตัดเล็บในมือถูกคลี่ออกมา เพราะตรงกลางจะมีแหลมๆ เพื่อไว้แคะขี้เล็บ หวานใจเพิ่งซื้อตอนลงเครื่องที่สนามบินนี่เอง"น่ากลัวมาก สงสัยว่าจะติดเชื้อโรคตายก่อนแน่" รามินไม่ได้สนใจผู้หญิงแบบเธออยู่แล้ว เขาแค่พูดเล่นๆ ไปงั้นแหละ"ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ ถึงแม้เราจะแต่งงานกัน แต่คุณห้ามเข้าใกล้ฉันเกิน 1 เมตร""อ้าวไม่ให้เข้าใกล้แล้วจะจูบยังไง""ทำไมต้องจูบด้วย" หญิงสาวรีบยกมือขึ้นมาปิดปากไว้"คุณครับ ไม่เคยดูฉากแต่งงานในละครเหรอ""คุณเล่นมุมกล้องเป็นไหม ฉันให้เข้าใกล้ก็ได้แต่ห้ามจูบจริง""เผอิญว่าผมชอบเล่นลิ้นมากกว่า" เขาหมายถึงว่าไม่ชอบเล่นมุมกล้องแต่ชอบเล่นลิ้น"ไอ้..ไอ้..""ไม่ได้ชอบเล่นลิ้นแค่ข้างบนนะ แต่ชอบ...." ขณะที่พูดสายตาคมมองต่ำลงไป เพื่อสื่อให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขาหมายถึงอะไร"ไอ้ลามก!""หึหึหึ ฮ่าาาา" ไม่ได้ขำแบบนี้นานแล้ว พอเธอออกจากห้องไปเขาก็หัวเราะออกมาจนสุดเสียง"จะลูกใครหลานใคร ถ้ามาทำอะไรฉัน ฉันเอาตายแน่""บ่นอะไร""พี่ปลาวาฬ?""เรื่องนั้นจริงเหรอ" ที่จริงปลาวาฬไม่ได้มาร่วมงานแต่งของเทวิน แต่พอได้ยินข่าวว่าน้องสาวจะจัดงานแต่งที่โรงแรมเดียวกัน ปลาวาฬ
"พูดเล่นไปได้! คนยิ่งกำลังคันอยู่" ทีแรกก็เคืองตาแต่ตอนนี้เริ่มจะคันแล้ว"คันเหรอ" ได้ยินประโยคสุดท้ายที่เธอพูด สายตาคมมองไปรอบๆ ข้าง"คุณกำลังคิดอะไรฉันคันตา! ทำเป็นเล่นอยู่ได้""หึหึ"หวานใจไม่รอให้เขาดูให้แล้ว มือเรียวยกขึ้นมาเพื่อที่จะขยี้"อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวทำให้""คุณจะทำอะไร?" หญิงสาวขยับใบหน้าหลบนิ้วที่เขายื่นเข้ามาใกล้"ก็เอาขี้ตาออกให้ไง""จะบ้าเหรอล้างมือหรือยัง""สองคนนั้นทำอะไรกันอยู่ครับพ่อ" ทศกัณฐ์ออกมาจากห้องกับภรรยา ก็เห็นหลานชายยืนหยอกล้อหญิงคนรักอยู่"เด็กคนนี้น่ารักน่าเอ็นดู" เรวทัตรู้สึกเอ็นดูหวานใจมาก คิดว่าเธอนี่แหละที่จะเอาหลานชายอยู่หมัด"ไปทานข้าวกันเถอะครับพ่อ""ไปสิ"พอชวนพ่อไปทานข้าวเสร็จ ทศกัณฐ์ก็หันไปชวนหลานชายกับหลานสะใภ้ห้องอาหารของโรงแรม..ญาติเกือบทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องอาหาร เพราะต้องแบ่งหน้าที่กันจัดงานแต่ง"รามิล!" สโรชาสะกิดลูกชายเมื่อผู้ใหญ่ถาม แต่เขาเอาแต่มองไปที่ผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องนั้นด้วย"ครับแม่""คุณอาถามเราว่าจะมีเพื่อนจากต่างประเทศเดินทางมาร่วมงานแต่งด้วยไหม""ไม่มีครับ" ที่จริงประโยคนี้หวานใจตอบผู้ใหญ่ไปแล้ว เพราะผู้ใหญ่ก็ถามประโย
เช้าวันต่อมา..พรวด~ ชายหนุ่มที่ดื่มน้ำทุกเช้าหลังจากตื่นนอนเป็นประจำ ถึงกับสำลักน้ำออกมา เมื่อเห็นว่าคนที่เข้าไปอาบน้ำก่อนออกมาในชุดไหน "แอ๊ะๆๆ""คุณเป็นอะไรไหม" หวานใจรีบเข้ามาลูบหลังให้"ผมว่าคุณไปใส่เสื้อผ้าก่อนดีกว่า""แหมทำเป็นมองไม่ได้ อิจฉาเค้าล่ะสิ""อิจฉา?""ถ้าคุณอยากได้แบบนี้..แบบนี้..ก็ไม่ยากนี่คะ พึ่งมือหมอไปเลย" ขณะที่พูดนิ้วเรียวชี้ไปที่หน้าอก แถมจังหวะต่อมาเธอชี้ลงไปใต้สะดือของตัวเองชายหนุ่มมองตามนิ้วที่เธอชี้ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอแบบไม่รู้ตัวถึงแม้ว่าเธอจะยังคงมีชุดชั้นในปิดกั้นอยู่ แต่ความอวบนูนนั้นเห็นเด่นชัดทั้งข้างบนและข้างล่างพอคุยกับเขาจบหวานใจก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วเลือกชุดที่จะใส่โดยไม่รีบทีแรกกำลังจะดื่มน้ำใหม่ แต่คิดว่าคงดื่มไม่ได้แล้วล่ะเพราะถ้าดื่มได้สำลักอีกแน่ รามิลก็เลยคว้าเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำสายๆ วันเดียวกัน.."พี่คะมานี่หน่อย" หวานใจที่เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงพร้อมรามิล เห็นว่าพี่ชายก็อยู่ในนี้ด้วย"ว่าไง" ปลาวาฬเดินเข้ามาหาน้องเมื่อเห็นว่าน้องสาวเรียก"เมื่อวานนี้ฉันลืมแนะนำให้พี่รู้จักคนนี้ชื่อรามิลค่ะ""พี่รู้แล้ว""พี่ชายฉันช
วันต่อมา.. และวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานของทั้งสองหญิงสาวที่อยู่ในชุดเจ้าสาวยืนมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ เวลานี้เธอพร้อมที่จะออกจากห้องแล้วแต่ทำไมเธอถึงมีความรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรลงไป จะแต่งงานกับชายรักชายจริงเหรอ ถ้าคนอื่นรู้..แล้วพ่อกับแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หรือว่าเขาก็คิดแบบเดียวกับเรา หาผู้หญิงสักคนมาแต่งงานด้วย เพื่อปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้พ่อกับแม่ต้องขายหน้า แต่สมัยนี้คนเขายอมรับกันได้หมดแล้วทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยากด้วยก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูได้ทำลายภวังค์ที่เธอกำลังคิดอยู่"ใกล้ฤกษ์แล้วออกไปกันเถอะลูก""แม่คะ""หือ""หวานกำลังจะแต่งงานจริงๆ ใช่ไหมคะ""ทำไมหนูถึงพูดแบบนั้น""เอ่อคือ..""บอกแม่มา""เปล่าค่ะไม่มีอะไร สงสัยหวานจะตื่นเต้นมากไป" แม่จะเชื่อไหมเนี่ยแก้วใจเอื้อมมือไปลูบผมลูกสาวเบาๆ เพื่อทำให้ลูกรู้ว่าแม่จะอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ ถึงแม้จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว"แม่""ไม่ร้องไห้นะลูก วันนี้เป็นวันมงคล" แค่เห็นสีหน้าก็รู้แล้วว่าลูกอยากจะร้องไห้ คงตื้นตันใจมากที่จะได้แต่งงานกับชายคนรักแต่สำหรับความคิดของหวานใจแล้ว ..ยกเลิกงานแต่งตอนนี้ยังทันไหมเนี่ย"เราออกไปกันเถอะ
"??" ดวงตากลมเปิดกว้างเมื่อถูกอีกฝ่ายแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ถึงแม้จะรู้สึกขยะแขยงเพราะคิดว่าเขาเคยทำแบบนี้กับผู้ชายมาแล้ว แต่เธอจะแสดงกิริยาแบบนั้นออกมาไม่ได้ เพราะตอนนี้สายตาทุกคู่มองมาที่เธอพิธีกรบนเวทีเริ่มทำหน้าที่ต่อ เพราะเห็นว่าคู่บ่าวสาวกำลังติดลม จนแขกที่มาร่วมในงานต่างปรบมือ..ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันพอถอนจูบสายตาคนเป็นเจ้าบ่าวก็มองไปข้างเวทีตรงที่เขามองก่อนจะขึ้นมา แต่ตอนนี้ไม่มีใครคนนั้นยืนอยู่ที่เดิมแล้วหลังงานแต่งจบลง..ห้องหอของทั้งสองถูกจัดเตรียมใหม่เป็นห้องสวีท และทั้งสองก็ต้องร่วมห้องหอที่โรงแรมนี้ให้ครบ 3 วัน ตามความเชื่อของคนโบราณ เพราะคุณปู่เป็นคนจัดแจงทุกอย่าง"ฝากดูแลน้องด้วยนะ" ก่อนที่ผู้ใหญ่จะออกจากห้องหอ แก้วใจหันมาฝากฝังลูกสาวกับลูกเขยอีกครั้ง"ครับ""คุณจะไปไหน มาแกะกระดุมเสื้อให้ฉันก่อน" พอผู้ใหญ่ออกไปแล้วรามิลกำลังจะเข้าห้องน้ำชายหนุ่มก็เลยเดินกลับมาแล้วค่อยๆ บรรจงปลดกระดุมเสื้อให้เธอ"เอ้าแกะยังไม่หมดเลย" เขาปลดกระดุมลงมาจนถึงเม็ดที่อยู่ช่วงเอว แต่กระดุมชุดนี้ยาวลงไปจนถึงสะโพก เพราะเป็นชุดเจ้าสาวแบบรัดรูป"ก็ดึงลงมาสิ""จะดึงได้ยังไง คุณรู้ไหมว่าชุดน
"ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ ผู้หญิงคนนั้นเป็นพี่สาวแท้ๆ ของคุณไหม""ถามทำไม" ทีแรกก็ไม่ได้สนใจเธอหรอก แต่พอได้ยินคำถามนี้เขาถึงกับหันมองมา"คนเราจะมองกันด้วยสายตาแบบนั้นมีไม่กี่อย่างหรอก" เธอหมายถึงสายตาที่เขามองพี่สาวของเขาเอง"เราควรต้องคุยกันหน่อยแล้ว""คุยอะไรคะ""ห้ามยุ่งเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย""ฉันไม่ได้ยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณสักหน่อย แค่ฉันถาม""นี่แหละที่เขาเรียกว่ายุ่งเรื่องส่วนตัว" พอสิ้นคำพูดรามิลก็ออกจากห้องไป"แบบนี้มีพิรุธ ตกลงเขาเป็นชายรักชาย หรือว่า.." แล้วทำไมเราต้องนำมาใส่สมองของเราด้วย เขาจะเป็นยังไงก็ช่างปะไรคืนที่สองที่เข้าหอ..ห้องสวีทถึงแม้จะมีเตียงเดียวแต่ก็มีโซฟาให้นอนได้ คืนนี้รามิลใช้โซฟาในการนอนหวานใจเห็นว่าเขานอนขดตัวคงจะหนาว เธอก็เลยเสียสละผ้าห่มให้"...." ชายหนุ่มหันมองไปดูผู้หญิงที่ห่มผ้าให้เมื่อสักครู่แบบแปลกใจ "แล้วเธอไม่หนาวเหรอ""ฉันจะไปขอผ้าห่มผืนใหม่"แต่พอออกมาจากห้องนั้น ก็เห็นแม่ก่อนที่จะไปเจอแม่บ้านด้วยซ้ำ"มีอะไรเหรอลูก""คุณแม่ยังไม่เข้าห้องอีกเหรอคะ""แม่ว่าจะนั่งเล่นอยู่แถวนี้สักพักก่อน หนูออกมามีอะไรเหรอ""เปล่าหรอกค่ะ จะมาดูว่าแม่เข้านอนหรือ
"หึ.." หวานใจขำเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อยก่อนที่จะตักอาหารใส่ปาก แค่นี้ก็ดูออกแล้วว่าคนรอบข้างไม่ค่อยชอบหน้าเธอนอกจากพ่อกับแม่ของเขา แต่เธอก็ I don't care จะไปแคร์ทำไม ถึงอย่างไรก็ไม่คิดจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาอยู่แล้วหลังทานข้าวเสร็จ..หวานใจออกมาเดินเล่นรอบตัวบ้าน บ้านของเขาพื้นที่กว้างขวางและก็ตกแต่งบ้านได้ร่มรื่นมาก"??" เดินมาอีกหน่อยก็เห็นโรงเรือน บ้านสวยขนาดนี้มีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ หวานใจมองซ้ายมองขวา ถ้ามีคนอยู่แถวนี้เธอก็จะถามว่ามันคือโรงเรือนอะไร แต่ไม่เห็นมีใครเธอก็เลยถือวิสาสะเข้าไปดูสวยจังเลย ..เปิดเข้ามาก็เป็นแปลงดอกไม้ หนาวจัง แปลกดีจังเลย เธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มันเป็นดอกไม้เมืองหนาว ถึงว่าทำไมถึงได้ปลูกในโรงเรือนที่ปิดมิดชิด เพราะต้องติดตั้งแอร์เพื่อทำความเย็นด้วย"......" หวานใจถึงกับหยุดชะงักเมื่อมองไปเห็นผู้ชายร่างสูงที่คุ้นตา ยืนมองผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังให้น้ำต้นไม้อยู่แกร๊ก..หญิงสาวกำลังจะถอยออกมา แต่เธอเหยียบถูกกิ่งไม้เล็กๆ จนทำให้เขาหันมามองหมับ!"อืม?" พอรามิลเห็นว่าเป็นเธอ เขาก็รีบเดินมาคว้าตัวพาออกมาข้างนอก แถมยังปิดปากไม่ให้เธอส่งเสียงดัง"เธอมาทำอะไร""มาเดินเล่
"เป็นอะไร" เข้ามาถึงรามิลก็ได้ถามคนในห้อง แต่ตอนนี้เกศรินเอามือปิดใบหน้าในท่ากุมขมับ เหมือนคนมีความทุกข์หนัก"นายมาทำไม" ในขณะที่ถามดวงตาของเกศรินก็ได้มองไปที่ประตูเหมือนว่ากลัวใครจะเข้ามา"ฉันถามว่าเธอเป็นอะไร" ถึงแม้เขาจะอายุน้อยกว่าเกศรินปีกว่า แต่เขาก็ไม่เคยเรียกเธอว่าพี่ และไม่คิดจะเรียกด้วย"ฉันก็เป็นแบบนี้ของฉันมาตลอด""ไม่จริง ทำไมถึงโพสต์แบบนั้น" ใช่แล้วเพราะรามิลเห็นโพสใน Facebook ของเกศริน ก็เลยรีบมาที่บริษัท"แค่ฉันเหนื่อย จะโพสต์ไม่ได้เลยหรือไง" ที่จริงเกศรินไม่ได้โพสต์อะไรมากมายเพียงแค่มีอีโมจิรูปเศร้า ก็ทำให้คนที่ตั้งแจ้งเตือนในทุก Application เวลามีโพสต์ของเพื่อนคนนี้เด้งขึ้นมา รีบมาหาที่บริษัทอย่างเร็ว"มีอะไรจะคุยกับฉันไหม" ทั้งสองไม่ได้คุยกันนานมากแล้ว และรามิลคิดว่าที่เกศรินเศร้าเพราะเขาแต่งงานหรือเปล่า"ไม่มี"แกร็ก..แอดดด.. จังหวะที่รามิลเดินถอยหลังกำลังจะออกจากห้องนี้ ประตูห้องของเกศรินก็ถูกเปิดเข้ามาก่อน"อ้าว..พ่อไม่รู้ว่าเราอยู่นี่ด้วย""ผมกำลังจะกลับครับ""ไม่อยู่ต่อก่อนล่ะ เมียเราอยู่ห้องทำงานของพ่อ" แต่ดูเหมือนลูกชายไม่ได้สนใจเลยว่าพ่อพูดอะไร เขาเดินมาที่ป
พลาดรักคุณสามี ตอนพิเศษหลังงานแต่งของทั้งสองจบลง.."ถ้างานคุณยุ่ง เรื่องฮันนีมูนเราก็เลื่อนออกไปก่อนก็ได้นี่คะ""ผมบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับคุณอีกแล้ว"ชีวิตหนึ่งเกิดมาแค่นี้ก็พอแล้ว ขอแค่มีชายคนรักที่เห็นว่าเธอสำคัญที่สุด"ก็ได้ค่ะ ฉันขอแค่ในประเทศนะ ถ้าเดินทางไปต่างประเทศมันเหนื่อยเกินไป" ที่จริงมันเป็นแค่ข้ออ้าง ถ้ายังอยู่ในประเทศเผื่อมีงานด่วนเขาจะได้จัดการงานนั้นง่ายหน่อย"แล้วคุณชอบภูเขาหรือทะเลล่ะ""ชอบปลาวาฬค่ะ""หือ?""ฉันชอบคุณ จะให้ฉันชอบอย่างอื่นได้ยังไง""ผมตั้งใจว่าจะเก็บแรงไว้ตอนฮันนีมูนกัน""ยังไงคะ""คุณเล่นอ้อนแบบนี้ผมก็ต้องได้เอาแรงออกมาใช้ก่อนน่ะสิ""คุณปลาวาฬ" ถึงแม้จะมีอะไรกับเขาหลายครั้งแล้ว แต่พอพูดถึงเรื่องนี้เธอก็มีความอายอยู่ดี"น่ารักจัง" มือหนาเอื้อมไปลูบไล้แก้มนวลของภรรยาด้วยความเอ็นดู "ถ้าคุณชอบปลาวาฬงั้นเราก็คงต้องไปทะเลกัน""ค่ะ" คนตัวเล็กแนบลำตัวลงกับอกแกร่งของผู้เป็นสามีหมาดๆ"นอนก่อนนะครับคนดี นอนเอาแรงไว้เยอะๆ พรุ่งนี้เราจะเดินทางกันแล้ว""พรุ่งนี้เลยหรือคะ..แล้วงานของคุณล่ะคะ""ตอนเช้าเดี๋ยวผมเข้าไปเคลียร์งาน เราจะเดินทางตอนบ่ายกัน""ค่ะ"
พลาดรักคุณสามี บทที่ 102 ตอนจบ"แม่อยากให้อยู่ด้วยกันไปก่อน" สโรชาอนุญาตให้ลูกไปทำงานได้ แต่พอวันต่อมาลูกสาวก็ขอออกไปอยู่คอนโดกับชายคนรัก"เกศดีขึ้นมากแล้วค่ะ ถ้าคุณแม่เป็นห่วงเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงแล้วค่ะ""แต่แม่กลัวคิดถึงเรา""ลูกโตแล้วนะคุณ แถมลูกกำลังจะออกเรือนด้วย ให้พวกเขาไปศึกษาดูใจกันเถอะ"สโรชาเป็นห่วงถ้าปล่อยให้ลูกไปอยู่ข้างนอกไกลหูไกลตา กลัวว่าเหตุการณ์แบบเดิมจะเกิดขึ้นอีก ถ้าเกศรินยังอยู่ที่บ้าน เธอคงสังเกตเห็นอาการลูกสาวแต่ทีแรกแล้ว"ถ้าเกศมีอาการผิดปกติ จะรีบบอกคุณแม่เลยค่ะ" เกศรินรู้ว่าท่านเป็นห่วงมาก ถ้าวันนั้นไม่เพราะท่านขอตรวจ..ป่านนี้มะเร็งคงลุกลามไปจนเกินเยียวยาแล้ว"ผมสัญญาครับว่าจะดูแลเธอ แทนคุณแม่เอง"สโรชามองไปดูหน้าสามีที่นั่งอยู่ด้วยกัน ก่อนที่โผลเข้าไปกอดท่าน เธออยากออกไปใช้ชีวิตครอบครัวกับเขา เรื่องศึกษาดูใจคงไม่ต้องศึกษาเขาแล้ว เพราะเธอเห็นหมดแล้วว่าเขามีความจริงใจให้มากแค่ไหน[คอนโด]"ผมว่าจะซื้อบ้านสักหลัง พักอยู่คอนโดมันไม่สะดวก""ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่นี่ก็ดีมากแล้ว""ถ้าเรามีบ้าน คุณก็จะมีพื้นที่เยอะขึ้น อยู่แต่ในคอนโดอากาศไม่ปลอดโปร่ง""ที่ไหนมีคุณฉั
"แน่ใจนะว่าคุณต้องการแรงกว่ามดกัด แต่มดตัวนี้กัดเจ็บนะครับ ถ้าแรงกว่าคุณจะรับไหวเหรอ" ที่จริงเขายังไม่เร่งเครื่องเลย แค่กำลังอุ่นเครื่องก่อนเฉยๆ แต่เกศรินคิดว่าเขาคงกลัวเธอเจ็บแผล ก็เลยทำแค่เบาๆ ถ้าทำแบบนี้เมื่อไรจะเสร็จล่ะ"ฉันเคยถูกมดกัดนี่คะ แค่เกาก็หายคันแล้ว""จัดให้ครับ แต่ถ้าเจ็บคุณบอกผมเลยนะ" ฟังเธอพูดก็อยากจะขำอยู่หรอก แต่ถ้าขำตอนนี้คงหมดอารมณ์แน่"อื้อ อ " เกศรินอยากให้เขามีความสุขกับเรือนร่างของเธอให้มากที่สุด เธอก็เลยขอให้เขาเพิ่มความแรงขึ้นมาหน่อย ถึงแม้จะมีลูกให้เขาไม่ได้ ช่วยให้เขามีความสุขกับเรือนร่างของเธอได้ก็คงดี"อ้าา ผมรักคุณนะเกศริน" ความรักนี้ไม่รู้ว่ามีให้เธอตั้งแต่เมื่อไร แต่พอรู้ตัวก็รักเธอมากจนแทบคลั่ง"ฉันก็รักคุณค่ะ อื้อ อ" มือเรียวโอมร่างคนตัวโตไว้ในจังหวะที่เขากำลังซอยสะโพกเร็วขึ้น"ซี๊ดด ผมปล่อยข้างในได้เลยไหม"ที่จริงคุณหมอก็บอกไว้ว่ายังไม่อยากให้มีลูกกันตอนนี้ แต่เธอคิดว่ามันคงไม่เร็วขนาดนั้น เพราะส่วนที่รับน้ำเชื้อยังไม่แข็งแรงพอ หญิงสาวพยักหน้าให้เห็นว่าเธออนุญาตชายหนุ่มก็ไม่อดกลั้นอีก ขยับสะโพกเพื่อให้ความแข็งแกร่งเสียดสีกับเนื้อบางๆ เร็วขึ้น ก่อน
"คุณยังไม่ดื่มน้ำอีกเหรอ" ปลาวาฬมองดูน้ำที่สั่งให้ลูกน้องนำมาให้เธอ "ฉันไม่อยากดื่มน้ำของคนที่ชื่อกำพลค่ะ" "ใครเอามาให้นะ" สายตาชายหนุ่มเหลือบไปมองกำพล จนคนที่ถูกมองรีบหลบสายตานั้น "รอผมอยู่นี่เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้" พูดจบปลาวาฬก็รีบเดินไปตรงจุดบริการน้ำ เขาไม่ได้เอาน้ำที่เย็นจัด "เราดูดีกว่าตั้งเยอะ และทำงานมาด้วยก็หลายปี ทำไมถึงเลือกแม่บ้านแบบนั้นได้" "อืมใช่" เอ็มม่าและตุ๊กตาไม่เคยพูดกันดีเลยตั้งแต่กำพลหันมามองเอ็มม่า ก็มีครั้งนี้แหละที่ทั้งสองดูจะลงรอยกัน"แต่ฉันยังสงสัยเรื่องคุยธุรกิจ" "คงไม่ใช่หรอกมั้ง คุณเชษฐาคงจำคนผิด""เกศ" "คุณพ่อ" เกศรินได้ยินคนเรียกก็เลยหันไปมอง ไม่คิดว่าคนที่เรียกก็คือพ่อ "พ่อเห็นคุณเชษฐาตรงโน้นบอกว่าลูกก็มาร่วมงานด้วย""คุณพ่อก็มาร่วมงานด้วยเหรอคะ"ที่จริงรามสูรก็ไม่ชอบมางานอะไรแบบนี้ แต่ที่มาเพราะว่าอยากมาร่วมงานของว่าที่ลูกเขย "พ่อต้องมาสิ เพราะเป็นงานคนสำคัญของลูกนี่""พ่อ?!" ทำไมคนที่ทำงานในโชว์รูมจะไม่รู้จักนักธุรกิจที่ชื่อรามสูร เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย จนถึงบัดนี้ สาวๆ ครึ่งค่อนประเทศอิจฉาภรรยาอันเป็นที
"ไม่ต้องหรอกลูก""ครับ" ปลาวาฬยอมรับในการตัดสินใจของท่าน"อ้าวแล้วนั่นเราจะไปไหน" พอเขาตอบรับ ปลาวาฬก็ลุกขึ้นกำลังจะออกจากบ้านท่านไป"พรุ่งนี้ผมจะรีบมาแต่เช้าครับ""ไหนบอกอยากอยู่ดูแลน้องไง""ครับ?" ชายหนุ่มที่ใบหน้าสิ้นหวังมากหันกลับมามอง"ที่แม่พูดหมายถึงไม่ต้องนอนข้างนอกหรอก ก็เข้าไปดูแลกันในห้องเลย มีอะไรจะได้ช่วยกัน""ผมนอนข้างในได้เหรอครับ""ได้สิจ๊ะ ถึงยังไงพวกเราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว""ขอบพระคุณมากครับ" ยังไม่ทันได้เอามือที่ไหว้ท่านลงเลย เขาก็เดินไปถึงหน้าห้องของเธอแล้ว"คุณยิ้มอะไรคะ" สโรชาหันกลับมาเห็นสามีกำลังยิ้มแป้น"คุณทำถูกแล้วล่ะ เด็กๆ เขารักกันก็ปล่อยให้เขาดูแลกันไป""ฉันก็ไม่ได้ว่าจะห้ามสักหน่อย แล้วเมื่อไรคุณจะขึ้นนอนไม่ง่วงหรือไง""เอ้า..เลขมาออกที่เราจนได้" รามสูรรีบเดินตามภรรยาขึ้นบ้านไป"คุณราม!" สามีที่เดินตามมาอยู่ดีๆ ก็โอบกอดภรรยาจากทางด้านหลัง"จะเดือนแล้วนะ" ตั้งแต่เดินทางทั้งสองไม่ได้เข้าใกล้กันเลย"คุณไม่เหนื่อยหรือไงคะ เพิ่งมาถึง""คุณรู้ไหม ว่ามันเป็นการเพิ่มกำลังอีกทาง""ไม่ใช่วัยรุ่นแล้วนะคะ ที่จะมาเพิ่มกำลังกับอะไรแบบนี้""คุณว่าผมแก่เหรอ""ใช่ค่ะ"
มือหนายื่นไปสัมผัสที่ผมบนศีรษะของเธอเบาๆ"คุณ?" พอเขาสัมผัสที่อื่นที่ไม่ใช่มือ.. เธอถึงกับสะดุ้ง "คุณไม่ใช่คนในมโนของฉันเหรอ?"ปลาวาฬส่ายหน้าตอบไปเล็กน้อย ใบหน้าของเขาช่างมีความอบอุ่น"ฉันกลับมาประเทศแล้วเหรอ" ที่เธอคิดว่าไม่ใช่เขาก็เพราะเธอมารักษาตัวที่ต่างประเทศ ถึงแม้เขาจะรู้และอยากตามมา แต่คงต้องใช้เวลา เพราะไม่ใช่ว่าจะเข้าประเทศนี้ได้ง่ายๆ"คุณอย่าไล่ผมไปไหนอีกเลย ถึงไล่ผมก็จะไม่ไป" ทีแรกก็อยากให้เธอเห็นว่าเขาเป็นแค่ภาพลวงตาที่เธอสร้างขึ้นมา เพราะถ้าเป็นภาพลวงตาเธอคงจะคุยกับเขานานกว่านี้"คุณปลาวาฬ คุณมาได้ยังไง?" เขาไม่ใช่แค่ภาพที่เธอสร้างขึ้นมาแล้วมันคือเขาจริงๆ"พอผมรู้ทุกอย่างก็รีบตามคุณมาที่นี่""เป็นคุณจริงๆ ด้วย โอ๊ย" หญิงสาวกำลังจะขยับตัวถอยห่าง จนลืมไปว่าร่างกายของเธอไม่ได้เต็มร้อย"คุณอย่าผลักไสผมไปไหนอีกเลยนะ ผมบอกแล้วไง ถึงไล่ผมก็จะไม่ไป""คุณไปหาคนที่ร่างกายแข็งแรงพร้อมที่จะเป็นภรรยาให้คุณดีกว่าค่ะ ฉันไม่พร้อม""ทำไมหรือครับ กับอีแค่ที่คุณจะมีลูกให้ผมไม่ได้ คุณต้องผลักไสไล่ส่งผมถึงขนาดนี้เลยเหรอ""คุณรู้เรื่องนี้แล้วเหรอคะ" หญิงสาวที่หลบสายตาเขา ค่อยๆ หันมองมาอีกที"
"คุณน้าครับ เรียกหมอให้ทีครับ""น้องเจ็บอีกแล้วใช่ไหม" "ใช่ครับ" "เรารออยู่ข้างนอกก่อนนะ น้าขอเข้าไปก่อน" เพราะห้องนี้เข้าได้แค่ทีละคน มันคือกฎของห้อง ICU ที่นี่ คนที่ไปตามคุณหมอก็คือรามสูร ที่จริงถ้าจะกดกริ่งแจ้งเตือนก็ได้ แต่ถ้าคนไข้อาการไม่หนักจริงๆ คุณหมอแนะนำให้ไปตามเอง"เกศ เป็นยังไงบ้างลูก""อึก อึก " เสียงสะอื้นของเกศรินค่อยๆ ดังขึ้น ด้วยสีหน้าที่ดูเจ็บปวดมาก"หนูเจ็บมากเลยเหรอลูก"ถ้าเธอมีอาการเจ็บเห็นหน้าแม่เธอก็จะบอกแม่ว่าเจ็บ แต่ครั้งนี้พอเห็นหน้าแม่เธอกลับร้องไห้"เขาไม่ทำตามสัญญา" "ใครไม่ทำตามสัญญาลูก""เขาบอกจะกลับมา" เป็นเหมือนทุกครั้งที่เธอเห็น พอออกไปคนที่กลับเข้ามาก็คือแม่"ถ้าหนูหมายถึง.." สโรชายังพูดไม่จบคุณหมอที่รามสูรไปตามก็เข้ามาก่อน พอคุณหมอเข้ามาญาติก็ต้องออกไป เพราะไม่งั้นจะกีดขวางการทำงานของทีมแพทย์ "คุณน้าครับ คุณน้าช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม" พอสโรชาออกมา ปลาวาฬก็เลยขอร้องให้พูดความจริงให้เขาฟัง"น้องเป็นมะเร็งระยะที่ 2 ""ระยะที่ 2 เหรอครับ?" เขารู้แค่ว่าเธอมีเชื้อมะเร็ง ก็เลยถูกส่งตัวมารักษาที่นี่ แต่ไม่รู้ว่าระยะที่เท่าไร"แล้วทำไมถึงไม่บอกผม" จ
"คุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวจริงเหรอคะ" หวานใจถามสามีในขณะที่สามีกำลังแต่งตัวจะเข้าบริษัท"ทำไมคุณถามแบบนั้น""ก็ฉันแปลกใจ ท่านเพิ่งจะกลับมาไม่นาน"ไม่ใช่แค่หวานใจหรอกที่แปลกใจ รามิลก็แปลกใจไม่ต่างกัน แต่งานที่พ่อทิ้งไว้ให้ทำมันเยอะมาก เพราะพ่อบินไปกะทันหัน เขาก็เลยไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นเลยในเมื่อสามีให้คำตอบไม่ได้ หวานใจก็ไม่ละความสงสัยนั้น เพราะมันดูแปลก>>{"มีอะไร"} "ใครโทรมาคะ" เสียงผู้หญิงดังเข้ามาในสาย "น้องสาวผมครับ" {"พี่ทำอะไรอยู่"}>>{"พี่กำลังทานข้าว"} {"แต่เสียงที่ฉันได้ยินไม่ใช่เสียงคุณเกศริน"}>>{"ก็พี่ไม่ได้มาทานข้าวกับเธอ"} {"พี่กับคุณเกศรินคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่พี่ไปทานข้าวกับผู้หญิงคนอื่นจะให้ฝ่ายหญิงคิดยังไง"}>>{"คบงั้นเหรอ? เราก็ลองถามคุณเกศรินของเราดูสิ"} {"ฉันจะถามได้ยังไง ฉันไม่ได้อยู่กับคุณเกศสักหน่อย"}>>{"เธอกลับไปอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ"} {"กลับมาอยู่บ้านที่ไหนฉันไม่เห็นเลย ที่บ้านก็มีแต่ฉันกับคุณรามิล"}>>{"แล้วแม่กับพ่อเธอล่ะ"} {"ฉันแปลกใจตรงนี้แหละ อยู่ดีๆ พวกท่านก็ทิ้งงานแล้วบินไปเที่ยวต่างประเทศ"}>>{"อะไรนะ? พวกท่านไปตั้งแต่เมื่อไ
"ทำไมผมมาอยู่ที่นี่?" ปลาวาฬมองไปรอบๆ ก็จำได้เลยว่าห้องที่เขาตื่นมาคือห้องใคร"ผมควรถามคุณมากกว่า"เราเมามากเลยเหรอวะ แล้วน้องคนนั้นล่ะ อย่าบอกนะว่าเราพามาค้างที่นี่ด้วย "..เมื่อคืนผมมาคนเดียวใช่ไหมครับ""มาสองคน"ตายห่าแล้ว ถึงแม้เธอจะไม่สนใจ แต่เขาก็ไม่อยากทำแบบนี้ให้ญาติของเธอเห็น เล่นหอบผู้หญิงมานอนห้องเช่าของน้องชายเธอเลยเหรอ"คือว่าผม ผมคงเมามาก ถึงได้ทำอะไรแบบนั้นลงไป"คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย สงสัยจะเมามากจริงๆ พูดไม่รู้เรื่อง "ผู้ชายคนที่มากับคุณเมื่อคืน บอกให้ผมดูแลคุณต่อหน่อยเขามีธุระต้องไปทำ""ผู้ชายเหรอครับ?" เหมือนยกภูเขาออกจาก แล้วผู้หญิงคนเมื่อคืนไปไหนวะเนี่ย ไปไหนก็ช่างเธอสิ "ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ" ปลาวาฬรู้ได้ในทันทีเลยว่าผู้ชายคนนั้นคงเป็นสายลม"คุณจะนอนต่อให้ส่างเมาก่อนก็ได้นะ""ไม่หรอกครับ ผมไปล่ะ" ออกจากห้องที่เขาเคยพัก ก็อดไม่ได้ที่จะมองห้องข้างๆ บางทีเธออาจจะกลับไปอยู่บ้านแล้วก็ได้ เพราะดูห้องเงียบมาก แต่ปลาวาฬก็ไม่ถาม หึ..เมาขนาดนี้ยังจำที่พักของเธอได้อีกเหรอ เป็นเอามากนะเรา เพราะสายลมคงไม่รู้จักที่นี่แน่พอออกมาจากห้องเช่าเขาก็มาที่โชว์รูม