หวานใจลืมไปเลยว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า ถึงแม้ญาติๆ จะรู้จักสนิทสนมกัน แต่สำหรับเธอแล้วเขาก็คือคนแปลกหน้าอยู่ดี
พอคิดได้แบบนั้นเธอก็หยุดพูด แล้วเปิดกระเป๋าเพื่อเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วย
ใช้เวลาอาบน้ำอยู่พอสมควร เพราะตั้งแต่เดินทางจากต่างประเทศมาเมืองไทย แถมยังต่อเครื่องมาที่นี่อีก ก็เลยทำความสะอาดร่างกายเยอะหน่อย
แต่พอหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงหลับไปแล้ว
"นี่คุณลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ" เธอจะไม่ยอมนอนร่วมเตียงกับคนที่ไม่อาบน้ำเด็ดขาด
"ง่วงจะตายอยู่แล้วจะปลุกทำไม" ขณะที่ตอบเขาไม่ได้ลืมตาเลย
"ถ้าคุณจะไม่อาบน้ำ ลงไปนอนพื้นเดี๋ยวนี้เลย"
"อะไรของเธอเนี่ย รู้ไหมว่าฉันนั่งเครื่องมากี่ชั่วโมง แถมยังต้องมาร่วมงานแต่งอีก"
"ฉันก็เหมือนกัน ฉันยังอาบน้ำได้เลย"
"โอ๊ยยย!!" รามิลลุกขึ้นแบบหงุดหงิด ถ้าเป็นผู้ชายด้วยกันคงโดนกระทืบ เพราะเวลานอนเขาไม่ชอบให้ใครมากวน
"บ้าหรือไงจะไม่อาบน้ำ" หวานใจมองตามผู้ชายที่เดินซังกะตายเข้าห้องน้ำ
ใช้เวลาอาบน้ำอยู่เพียงไม่นาน รามิลก็ออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดผม
"ทำอะไรของเธอ"
"คุณห้ามข้ามเขตนี้มา"
"ฉันเคยเห็นแต่เอาหมอนข้างกั้น" ขณะที่เช็ดผมเขาก็ยังคงมองเธอ เพราะเธอใช้สก๊อตเทปดึงยาวจากหัวเตียงลงมาถึงปลายเตียง
"แล้วมันมีหมอนข้างไหมล่ะ"
เช็ดผมเสร็จรามิลก็เดินไปนอนลงอีกฝั่งหนึ่งของเธอ
"คุณจะทำอะไร"
"ก็ห่มผ้าไง"
"ฉันจองก่อน"
"มีผ้าห่มผืนเดียวเธอจะจองคนเดียวได้ยังไง"
"คุณเป็นผู้ชายไม่ต้องห่มก็ได้มั้ง"
"แล้วผู้ชายหนาวไม่เป็นหรือไงครับ" ว่าแล้วรามิลก็ดึงผ้าห่มมาพอให้คลุมร่างตัวเองได้
"ขยับไปหน่อยสิคุณ"
"ถ้าจะให้ขยับ เธอก็ปล่อยผ้าห่มมาอีกหน่อยสิ"
"ฉันก็ไม่ได้ห่มน่ะสิ"
"ถ้างั้นเธอก็ขยับมา"
ที่จริงเขาไม่ใช่คนที่พูดมากหรอก แต่พอเจอผู้หญิงคนนี้แล้วมันอดที่จะพูดไม่ได้
"เรื่องอะไรฉันต้องขยับไปด้วย"
"ปวดหัวกับผู้หญิงคนนี้จริงๆ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็หันหลังให้ "หือ?" แต่พอเขาหันหลังผ้าห่มก็ค่อยๆ ขยับออกจากร่างกาย
"ถอยไปนะ!" หวานใจตกใจ อยู่ดีๆ หลังของอีกฝ่ายก็เข้ามาชิดกับแผ่นหลังของเธอ
"คืนนี้จะได้นอนไหมเนี่ย แล้วเธอจะดึงผ้าห่มไปทำไม"
"ฉันดึงที่ไหนมันก็ยังอยู่ที่เดิม" หวานใจไม่ได้ดึงผ้าห่มก็จริง แต่พอนอนหันหลังเธอไม่ได้ปล่อยชายผ้าห่มมันก็เลยม้วนมาตามร่างกาย "คุณ!" และจังหวะนี้ทั้งสองกำลังแย่งผ้าห่มกัน
"จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม" รามิลไม่กล้าใช้แรงเพราะยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง
"หน้าฉันเหมือนเล่นกับคุณมากเลยเหรอ!"
รามิลใช้แรงดึงผ้าห่ม จนคนที่แย่งผ้าห่มอีกมุมหนึ่งกระเด็นเข้ามาตามแรงที่เขากระชาก..
อึบ!
"อืมม? หยี๊!!" หญิงสาวปล่อยผ้าห่มแล้วรีบเช็ดริมฝีปากออกอย่างไว เพราะจังหวะที่เธอกระเด็นเข้ามา ริมฝีปากของทั้งสองชนกันเข้า "นายจูบฉันเหรอ!"
"มองยังไงเป็นจูบ ปากฉันแตกไหมเนี่ย" รามิลรีบเช็คริมฝีปากตัวเอง เพราะส่วนที่กระแทกโดนก็คือฟันของเธอ
"ผู้หญิงอะไรร้ายชะมัด" เอาไปเอามาหวานใจลงไปนอนพื้น พร้อมกับหมอนหนึ่งใบและผ้าห่มที่มีอยู่ผืนเดียว เธอใช้ผ้าห่มผืนนั้นทั้งรองพื้นและก็ห่มไปในตัวเช้าวันต่อมา.."มีอะไรกันหรือเปล่าครับ" ทั้งสองถูกตามตัวให้มาพบที่ห้องอาหารวีไอพี"มานั่งก่อนสิลูก" สโรชาเรียกให้ว่าที่ลูกสะใภ้มานั่งใกล้ๆ เพราะคิดว่าเดี๋ยวลูกชายก็คงเดินตามคนรักมา แต่ไม่ใช่..เขาเดินไปนั่งอีกมุมหนึ่ง "รามิล" คนเป็นแม่ก็เลยเรียกให้มานั่งใกล้ๆ กัน เพราะถ้าผู้ใหญ่คุยด้วยจะได้หันมาทางเดียวไม่ต้องหันไปหลายทาง"ทางผู้ใหญ่คุยกันแล้วนะ" ประโยคนี้เรวทัตพูดกับหลานชาย แต่ที่จริงคนเป็นปู่นั่นแหละออกความคิดเห็นอยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นได้แต่นั่งฟัง "คุยกันว่ายังไงครับ""ฤกษ์ดีอีกสามวันข้างหน้า""ห๊าา!?""ที่เรียกมาเพราะจะถามพวกเราว่าอยากจัดงานที่นี่ หรือกลับไปจัดกรุงเทพฯ" เพราะทุกคนมาร่วมงานแต่งของเทวินที่ภาคตะวันออกแถบชายทะเล"คุณปู่ครับจะรีบไปไหนนักหนา""ถ้าไม่ใช่ฤกษ์สามวันข้างหน้า ก็ต้องรออีก สามเดือน""OK ครับ งั้นรอสามเดือน"ผู้ใหญ่ต่างก็มองหน้ากัน จนหวานใจกลัวว่าพวกท่านจะสงสัย "เรื่องไปเที่ยวของเราเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าผู้ใหญ่ได้ฤกษ์ดีเ
"ถ้านายเข้ามาฉันแทงไส้แตกแน่" กรรไกรตัดเล็บในมือถูกคลี่ออกมา เพราะตรงกลางจะมีแหลมๆ เพื่อไว้แคะขี้เล็บ หวานใจเพิ่งซื้อตอนลงเครื่องที่สนามบินนี่เอง"น่ากลัวมาก สงสัยว่าจะติดเชื้อโรคตายก่อนแน่" รามินไม่ได้สนใจผู้หญิงแบบเธออยู่แล้ว เขาแค่พูดเล่นๆ ไปงั้นแหละ"ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ ถึงแม้เราจะแต่งงานกัน แต่คุณห้ามเข้าใกล้ฉันเกิน 1 เมตร""อ้าวไม่ให้เข้าใกล้แล้วจะจูบยังไง""ทำไมต้องจูบด้วย" หญิงสาวรีบยกมือขึ้นมาปิดปากไว้"คุณครับ ไม่เคยดูฉากแต่งงานในละครเหรอ""คุณเล่นมุมกล้องเป็นไหม ฉันให้เข้าใกล้ก็ได้แต่ห้ามจูบจริง""เผอิญว่าผมชอบเล่นลิ้นมากกว่า" เขาหมายถึงว่าไม่ชอบเล่นมุมกล้องแต่ชอบเล่นลิ้น"ไอ้..ไอ้..""ไม่ได้ชอบเล่นลิ้นแค่ข้างบนนะ แต่ชอบ...." ขณะที่พูดสายตาคมมองต่ำลงไป เพื่อสื่อให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขาหมายถึงอะไร"ไอ้ลามก!""หึหึหึ ฮ่าาาา" ไม่ได้ขำแบบนี้นานแล้ว พอเธอออกจากห้องไปเขาก็หัวเราะออกมาจนสุดเสียง"จะลูกใครหลานใคร ถ้ามาทำอะไรฉัน ฉันเอาตายแน่""บ่นอะไร""พี่ปลาวาฬ?""เรื่องนั้นจริงเหรอ" ที่จริงปลาวาฬไม่ได้มาร่วมงานแต่งของเทวิน แต่พอได้ยินข่าวว่าน้องสาวจะจัดงานแต่งที่โรงแรมเดียวกัน ปลาวาฬ
"พูดเล่นไปได้! คนยิ่งกำลังคันอยู่" ทีแรกก็เคืองตาแต่ตอนนี้เริ่มจะคันแล้ว"คันเหรอ" ได้ยินประโยคสุดท้ายที่เธอพูด สายตาคมมองไปรอบๆ ข้าง"คุณกำลังคิดอะไรฉันคันตา! ทำเป็นเล่นอยู่ได้""หึหึ"หวานใจไม่รอให้เขาดูให้แล้ว มือเรียวยกขึ้นมาเพื่อที่จะขยี้"อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวทำให้""คุณจะทำอะไร?" หญิงสาวขยับใบหน้าหลบนิ้วที่เขายื่นเข้ามาใกล้"ก็เอาขี้ตาออกให้ไง""จะบ้าเหรอล้างมือหรือยัง""สองคนนั้นทำอะไรกันอยู่ครับพ่อ" ทศกัณฐ์ออกมาจากห้องกับภรรยา ก็เห็นหลานชายยืนหยอกล้อหญิงคนรักอยู่"เด็กคนนี้น่ารักน่าเอ็นดู" เรวทัตรู้สึกเอ็นดูหวานใจมาก คิดว่าเธอนี่แหละที่จะเอาหลานชายอยู่หมัด"ไปทานข้าวกันเถอะครับพ่อ""ไปสิ"พอชวนพ่อไปทานข้าวเสร็จ ทศกัณฐ์ก็หันไปชวนหลานชายกับหลานสะใภ้ห้องอาหารของโรงแรม..ญาติเกือบทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องอาหาร เพราะต้องแบ่งหน้าที่กันจัดงานแต่ง"รามิล!" สโรชาสะกิดลูกชายเมื่อผู้ใหญ่ถาม แต่เขาเอาแต่มองไปที่ผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องนั้นด้วย"ครับแม่""คุณอาถามเราว่าจะมีเพื่อนจากต่างประเทศเดินทางมาร่วมงานแต่งด้วยไหม""ไม่มีครับ" ที่จริงประโยคนี้หวานใจตอบผู้ใหญ่ไปแล้ว เพราะผู้ใหญ่ก็ถามประโย
เช้าวันต่อมา..พรวด~ ชายหนุ่มที่ดื่มน้ำทุกเช้าหลังจากตื่นนอนเป็นประจำ ถึงกับสำลักน้ำออกมา เมื่อเห็นว่าคนที่เข้าไปอาบน้ำก่อนออกมาในชุดไหน "แอ๊ะๆๆ""คุณเป็นอะไรไหม" หวานใจรีบเข้ามาลูบหลังให้"ผมว่าคุณไปใส่เสื้อผ้าก่อนดีกว่า""แหมทำเป็นมองไม่ได้ อิจฉาเค้าล่ะสิ""อิจฉา?""ถ้าคุณอยากได้แบบนี้..แบบนี้..ก็ไม่ยากนี่คะ พึ่งมือหมอไปเลย" ขณะที่พูดนิ้วเรียวชี้ไปที่หน้าอก แถมจังหวะต่อมาเธอชี้ลงไปใต้สะดือของตัวเองชายหนุ่มมองตามนิ้วที่เธอชี้ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอแบบไม่รู้ตัวถึงแม้ว่าเธอจะยังคงมีชุดชั้นในปิดกั้นอยู่ แต่ความอวบนูนนั้นเห็นเด่นชัดทั้งข้างบนและข้างล่างพอคุยกับเขาจบหวานใจก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วเลือกชุดที่จะใส่โดยไม่รีบทีแรกกำลังจะดื่มน้ำใหม่ แต่คิดว่าคงดื่มไม่ได้แล้วล่ะเพราะถ้าดื่มได้สำลักอีกแน่ รามิลก็เลยคว้าเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำสายๆ วันเดียวกัน.."พี่คะมานี่หน่อย" หวานใจที่เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงพร้อมรามิล เห็นว่าพี่ชายก็อยู่ในนี้ด้วย"ว่าไง" ปลาวาฬเดินเข้ามาหาน้องเมื่อเห็นว่าน้องสาวเรียก"เมื่อวานนี้ฉันลืมแนะนำให้พี่รู้จักคนนี้ชื่อรามิลค่ะ""พี่รู้แล้ว""พี่ชายฉันช
วันต่อมา.. และวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานของทั้งสองหญิงสาวที่อยู่ในชุดเจ้าสาวยืนมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ เวลานี้เธอพร้อมที่จะออกจากห้องแล้วแต่ทำไมเธอถึงมีความรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรลงไป จะแต่งงานกับชายรักชายจริงเหรอ ถ้าคนอื่นรู้..แล้วพ่อกับแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หรือว่าเขาก็คิดแบบเดียวกับเรา หาผู้หญิงสักคนมาแต่งงานด้วย เพื่อปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้พ่อกับแม่ต้องขายหน้า แต่สมัยนี้คนเขายอมรับกันได้หมดแล้วทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยากด้วยก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูได้ทำลายภวังค์ที่เธอกำลังคิดอยู่"ใกล้ฤกษ์แล้วออกไปกันเถอะลูก""แม่คะ""หือ""หวานกำลังจะแต่งงานจริงๆ ใช่ไหมคะ""ทำไมหนูถึงพูดแบบนั้น""เอ่อคือ..""บอกแม่มา""เปล่าค่ะไม่มีอะไร สงสัยหวานจะตื่นเต้นมากไป" แม่จะเชื่อไหมเนี่ยแก้วใจเอื้อมมือไปลูบผมลูกสาวเบาๆ เพื่อทำให้ลูกรู้ว่าแม่จะอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ ถึงแม้จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว"แม่""ไม่ร้องไห้นะลูก วันนี้เป็นวันมงคล" แค่เห็นสีหน้าก็รู้แล้วว่าลูกอยากจะร้องไห้ คงตื้นตันใจมากที่จะได้แต่งงานกับชายคนรักแต่สำหรับความคิดของหวานใจแล้ว ..ยกเลิกงานแต่งตอนนี้ยังทันไหมเนี่ย"เราออกไปกันเถอะ
"??" ดวงตากลมเปิดกว้างเมื่อถูกอีกฝ่ายแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ถึงแม้จะรู้สึกขยะแขยงเพราะคิดว่าเขาเคยทำแบบนี้กับผู้ชายมาแล้ว แต่เธอจะแสดงกิริยาแบบนั้นออกมาไม่ได้ เพราะตอนนี้สายตาทุกคู่มองมาที่เธอพิธีกรบนเวทีเริ่มทำหน้าที่ต่อ เพราะเห็นว่าคู่บ่าวสาวกำลังติดลม จนแขกที่มาร่วมในงานต่างปรบมือ..ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันพอถอนจูบสายตาคนเป็นเจ้าบ่าวก็มองไปข้างเวทีตรงที่เขามองก่อนจะขึ้นมา แต่ตอนนี้ไม่มีใครคนนั้นยืนอยู่ที่เดิมแล้วหลังงานแต่งจบลง..ห้องหอของทั้งสองถูกจัดเตรียมใหม่เป็นห้องสวีท และทั้งสองก็ต้องร่วมห้องหอที่โรงแรมนี้ให้ครบ 3 วัน ตามความเชื่อของคนโบราณ เพราะคุณปู่เป็นคนจัดแจงทุกอย่าง"ฝากดูแลน้องด้วยนะ" ก่อนที่ผู้ใหญ่จะออกจากห้องหอ แก้วใจหันมาฝากฝังลูกสาวกับลูกเขยอีกครั้ง"ครับ""คุณจะไปไหน มาแกะกระดุมเสื้อให้ฉันก่อน" พอผู้ใหญ่ออกไปแล้วรามิลกำลังจะเข้าห้องน้ำชายหนุ่มก็เลยเดินกลับมาแล้วค่อยๆ บรรจงปลดกระดุมเสื้อให้เธอ"เอ้าแกะยังไม่หมดเลย" เขาปลดกระดุมลงมาจนถึงเม็ดที่อยู่ช่วงเอว แต่กระดุมชุดนี้ยาวลงไปจนถึงสะโพก เพราะเป็นชุดเจ้าสาวแบบรัดรูป"ก็ดึงลงมาสิ""จะดึงได้ยังไง คุณรู้ไหมว่าชุดน
"นี่คุณ! แท็กซี่คันนี้ฉันเรียกก่อนนะ" พอหญิงสาวเปิดประตูด้านหลัง ก็มีผู้ชายอีกคนเปิดประตูด้านหน้าของแท็กซี่คันเดียวกันนั้น"ใครเรียกก่อนกันแน่ครับคุณผู้หญิง" "ฉันขอก่อนแล้วกันตอนนี้ฉันรีบมาก" ว่าแล้วฝ่ายหญิงก็ขึ้นไปนั่ง"คุณรีบเป็นคนเดียวหรือไงครับ ผมก็รีบเหมือนกัน" อีกฝ่ายก็ไม่ยอมแพ้ ขึ้นไปนั่งด้านหน้าข้างคนขับแท็กซี่"ตกลงพวกคุณจะไปไหนกันครับ ผมไปส่งสองที่พร้อมกันไม่ได้นะ""พี่ไปส่งฉันก่อนแล้วกันค่ะ ค่อยไปส่งเขา""ไปส่งผมก่อนครับแล้วค่อยไปส่งเธอ""ฉันจะไปร่วมงานแต่ง ถ้าช้ากว่านี้มีหวังไม่ทันแน่" "ผมก็จะไปร่วมงานแต่งเหมือนกัน ไปส่งผมก่อนครับ" "ตกลงจะให้ผมไปส่งใครก่อน" ช่วงที่เครื่องลงแบบนี้แท็กซี่ไม่ค่อยพอกับผู้โดยสาร ตอนนี้แท็กซี่คันอื่นก็มีผู้โดยสารกันหมดแล้ว"ฉันจะไปโรงแรมโอเวอร์ไซส์ค่ะ""ผมก็จะไป..??" ชายหนุ่มหันมองกลับไปดูผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหลังทันที เพราะโรงแรมที่เธอจะไปเป็นโรงแรมเดียวกัน หวังว่าคงไม่ใช่งานแต่งเดียวกันด้วยนะรถแท็กซี่ก็ขับไปตามสถานที่ที่ทั้งสองบอก"จอดตรงนี้แหละครับ" พอใกล้จะถึงหน้าโรงแรม ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างคนขับก็บอกให้จอด"เดี๋ยวนะคุณ ทำไมไม่ไปลงที่เด
"รามิลมาถึงตั้งแต่เมื่อไรทำไมไม่เข้าไปในงานล่ะลูก..แล้วนี่?""อ้าว..คุณสโรชาสวัสดีครับ" พอรู้ว่าเป็นใครฉลามก็เลยหันไปทักทาย"สวัสดีค่ะเสธ.""??//???" ทั้งรามิลและหวานใจมองหน้ากันอัตโนมัติแบบไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเห็นพ่อกับแม่ของทั้งสองฝ่ายทักทายแบบสนิทสนม"มีอะไรกันหรือเปล่าคะ" สโรชาแม่ของรามิลคือภรรยารามสูรเจ้าของบริษัทใหญ่โต และรามสูรนั้นก็เป็นพี่ชายมโนราห์ ถึงแม้ว่าครอบครัวของทั้งสองจะไม่ได้สนิทกันมาก แต่ก็รู้จักกันผ่านทางญาติ เวลามีงานเลี้ยงก็พบปะกันบ้าง"มี.." ฉลามมองหน้าแก้วใจคนเป็นภรรยา เพราะเมื่อสักครู่ลูกสาวบอกว่าผู้ชายที่ควงแขนอยู่ตอนนี้คือสามี และสามีของลูกสาวก็คือบุตรชายของรามสูรสโรชาปลายสายตามองไปดูมือของผู้หญิงที่เกาะแขนลูกชายอยู่ ทีแรกก็ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แต่คิดว่าคงรู้จักกับลูกชายของตนเองแน่"เอ่อ..ผมขอแนะนำลูกสาวให้คุณสโรชารู้จักเลยนะครับ คนนี้หวานใจลูกสาวคนเล็กของผมกับแก้วใจครับ"หวานใจปล่อยมือที่เกาะแขนรามิลออก เพื่อสวัสดีคนที่พ่อเพิ่งแนะนำให้รู้จัก"สวัสดีค่ะ" ใบหน้าที่มาดหมั้นเมื่อสักครู่เปลี่ยนไปมาก ทีแรกคิดว่าจะทำให้เรื่องมันจบง่ายๆ ถ้าพ่อกับแม่รู้ว่า
"??" ดวงตากลมเปิดกว้างเมื่อถูกอีกฝ่ายแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ถึงแม้จะรู้สึกขยะแขยงเพราะคิดว่าเขาเคยทำแบบนี้กับผู้ชายมาแล้ว แต่เธอจะแสดงกิริยาแบบนั้นออกมาไม่ได้ เพราะตอนนี้สายตาทุกคู่มองมาที่เธอพิธีกรบนเวทีเริ่มทำหน้าที่ต่อ เพราะเห็นว่าคู่บ่าวสาวกำลังติดลม จนแขกที่มาร่วมในงานต่างปรบมือ..ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันพอถอนจูบสายตาคนเป็นเจ้าบ่าวก็มองไปข้างเวทีตรงที่เขามองก่อนจะขึ้นมา แต่ตอนนี้ไม่มีใครคนนั้นยืนอยู่ที่เดิมแล้วหลังงานแต่งจบลง..ห้องหอของทั้งสองถูกจัดเตรียมใหม่เป็นห้องสวีท และทั้งสองก็ต้องร่วมห้องหอที่โรงแรมนี้ให้ครบ 3 วัน ตามความเชื่อของคนโบราณ เพราะคุณปู่เป็นคนจัดแจงทุกอย่าง"ฝากดูแลน้องด้วยนะ" ก่อนที่ผู้ใหญ่จะออกจากห้องหอ แก้วใจหันมาฝากฝังลูกสาวกับลูกเขยอีกครั้ง"ครับ""คุณจะไปไหน มาแกะกระดุมเสื้อให้ฉันก่อน" พอผู้ใหญ่ออกไปแล้วรามิลกำลังจะเข้าห้องน้ำชายหนุ่มก็เลยเดินกลับมาแล้วค่อยๆ บรรจงปลดกระดุมเสื้อให้เธอ"เอ้าแกะยังไม่หมดเลย" เขาปลดกระดุมลงมาจนถึงเม็ดที่อยู่ช่วงเอว แต่กระดุมชุดนี้ยาวลงไปจนถึงสะโพก เพราะเป็นชุดเจ้าสาวแบบรัดรูป"ก็ดึงลงมาสิ""จะดึงได้ยังไง คุณรู้ไหมว่าชุดน
วันต่อมา.. และวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานของทั้งสองหญิงสาวที่อยู่ในชุดเจ้าสาวยืนมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ เวลานี้เธอพร้อมที่จะออกจากห้องแล้วแต่ทำไมเธอถึงมีความรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรลงไป จะแต่งงานกับชายรักชายจริงเหรอ ถ้าคนอื่นรู้..แล้วพ่อกับแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หรือว่าเขาก็คิดแบบเดียวกับเรา หาผู้หญิงสักคนมาแต่งงานด้วย เพื่อปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้พ่อกับแม่ต้องขายหน้า แต่สมัยนี้คนเขายอมรับกันได้หมดแล้วทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยากด้วยก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูได้ทำลายภวังค์ที่เธอกำลังคิดอยู่"ใกล้ฤกษ์แล้วออกไปกันเถอะลูก""แม่คะ""หือ""หวานกำลังจะแต่งงานจริงๆ ใช่ไหมคะ""ทำไมหนูถึงพูดแบบนั้น""เอ่อคือ..""บอกแม่มา""เปล่าค่ะไม่มีอะไร สงสัยหวานจะตื่นเต้นมากไป" แม่จะเชื่อไหมเนี่ยแก้วใจเอื้อมมือไปลูบผมลูกสาวเบาๆ เพื่อทำให้ลูกรู้ว่าแม่จะอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ ถึงแม้จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว"แม่""ไม่ร้องไห้นะลูก วันนี้เป็นวันมงคล" แค่เห็นสีหน้าก็รู้แล้วว่าลูกอยากจะร้องไห้ คงตื้นตันใจมากที่จะได้แต่งงานกับชายคนรักแต่สำหรับความคิดของหวานใจแล้ว ..ยกเลิกงานแต่งตอนนี้ยังทันไหมเนี่ย"เราออกไปกันเถอะ
เช้าวันต่อมา..พรวด~ ชายหนุ่มที่ดื่มน้ำทุกเช้าหลังจากตื่นนอนเป็นประจำ ถึงกับสำลักน้ำออกมา เมื่อเห็นว่าคนที่เข้าไปอาบน้ำก่อนออกมาในชุดไหน "แอ๊ะๆๆ""คุณเป็นอะไรไหม" หวานใจรีบเข้ามาลูบหลังให้"ผมว่าคุณไปใส่เสื้อผ้าก่อนดีกว่า""แหมทำเป็นมองไม่ได้ อิจฉาเค้าล่ะสิ""อิจฉา?""ถ้าคุณอยากได้แบบนี้..แบบนี้..ก็ไม่ยากนี่คะ พึ่งมือหมอไปเลย" ขณะที่พูดนิ้วเรียวชี้ไปที่หน้าอก แถมจังหวะต่อมาเธอชี้ลงไปใต้สะดือของตัวเองชายหนุ่มมองตามนิ้วที่เธอชี้ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอแบบไม่รู้ตัวถึงแม้ว่าเธอจะยังคงมีชุดชั้นในปิดกั้นอยู่ แต่ความอวบนูนนั้นเห็นเด่นชัดทั้งข้างบนและข้างล่างพอคุยกับเขาจบหวานใจก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วเลือกชุดที่จะใส่โดยไม่รีบทีแรกกำลังจะดื่มน้ำใหม่ แต่คิดว่าคงดื่มไม่ได้แล้วล่ะเพราะถ้าดื่มได้สำลักอีกแน่ รามิลก็เลยคว้าเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำสายๆ วันเดียวกัน.."พี่คะมานี่หน่อย" หวานใจที่เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงพร้อมรามิล เห็นว่าพี่ชายก็อยู่ในนี้ด้วย"ว่าไง" ปลาวาฬเดินเข้ามาหาน้องเมื่อเห็นว่าน้องสาวเรียก"เมื่อวานนี้ฉันลืมแนะนำให้พี่รู้จักคนนี้ชื่อรามิลค่ะ""พี่รู้แล้ว""พี่ชายฉันช
"พูดเล่นไปได้! คนยิ่งกำลังคันอยู่" ทีแรกก็เคืองตาแต่ตอนนี้เริ่มจะคันแล้ว"คันเหรอ" ได้ยินประโยคสุดท้ายที่เธอพูด สายตาคมมองไปรอบๆ ข้าง"คุณกำลังคิดอะไรฉันคันตา! ทำเป็นเล่นอยู่ได้""หึหึ"หวานใจไม่รอให้เขาดูให้แล้ว มือเรียวยกขึ้นมาเพื่อที่จะขยี้"อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวทำให้""คุณจะทำอะไร?" หญิงสาวขยับใบหน้าหลบนิ้วที่เขายื่นเข้ามาใกล้"ก็เอาขี้ตาออกให้ไง""จะบ้าเหรอล้างมือหรือยัง""สองคนนั้นทำอะไรกันอยู่ครับพ่อ" ทศกัณฐ์ออกมาจากห้องกับภรรยา ก็เห็นหลานชายยืนหยอกล้อหญิงคนรักอยู่"เด็กคนนี้น่ารักน่าเอ็นดู" เรวทัตรู้สึกเอ็นดูหวานใจมาก คิดว่าเธอนี่แหละที่จะเอาหลานชายอยู่หมัด"ไปทานข้าวกันเถอะครับพ่อ""ไปสิ"พอชวนพ่อไปทานข้าวเสร็จ ทศกัณฐ์ก็หันไปชวนหลานชายกับหลานสะใภ้ห้องอาหารของโรงแรม..ญาติเกือบทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องอาหาร เพราะต้องแบ่งหน้าที่กันจัดงานแต่ง"รามิล!" สโรชาสะกิดลูกชายเมื่อผู้ใหญ่ถาม แต่เขาเอาแต่มองไปที่ผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องนั้นด้วย"ครับแม่""คุณอาถามเราว่าจะมีเพื่อนจากต่างประเทศเดินทางมาร่วมงานแต่งด้วยไหม""ไม่มีครับ" ที่จริงประโยคนี้หวานใจตอบผู้ใหญ่ไปแล้ว เพราะผู้ใหญ่ก็ถามประโย
"ถ้านายเข้ามาฉันแทงไส้แตกแน่" กรรไกรตัดเล็บในมือถูกคลี่ออกมา เพราะตรงกลางจะมีแหลมๆ เพื่อไว้แคะขี้เล็บ หวานใจเพิ่งซื้อตอนลงเครื่องที่สนามบินนี่เอง"น่ากลัวมาก สงสัยว่าจะติดเชื้อโรคตายก่อนแน่" รามินไม่ได้สนใจผู้หญิงแบบเธออยู่แล้ว เขาแค่พูดเล่นๆ ไปงั้นแหละ"ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ ถึงแม้เราจะแต่งงานกัน แต่คุณห้ามเข้าใกล้ฉันเกิน 1 เมตร""อ้าวไม่ให้เข้าใกล้แล้วจะจูบยังไง""ทำไมต้องจูบด้วย" หญิงสาวรีบยกมือขึ้นมาปิดปากไว้"คุณครับ ไม่เคยดูฉากแต่งงานในละครเหรอ""คุณเล่นมุมกล้องเป็นไหม ฉันให้เข้าใกล้ก็ได้แต่ห้ามจูบจริง""เผอิญว่าผมชอบเล่นลิ้นมากกว่า" เขาหมายถึงว่าไม่ชอบเล่นมุมกล้องแต่ชอบเล่นลิ้น"ไอ้..ไอ้..""ไม่ได้ชอบเล่นลิ้นแค่ข้างบนนะ แต่ชอบ...." ขณะที่พูดสายตาคมมองต่ำลงไป เพื่อสื่อให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขาหมายถึงอะไร"ไอ้ลามก!""หึหึหึ ฮ่าาาา" ไม่ได้ขำแบบนี้นานแล้ว พอเธอออกจากห้องไปเขาก็หัวเราะออกมาจนสุดเสียง"จะลูกใครหลานใคร ถ้ามาทำอะไรฉัน ฉันเอาตายแน่""บ่นอะไร""พี่ปลาวาฬ?""เรื่องนั้นจริงเหรอ" ที่จริงปลาวาฬไม่ได้มาร่วมงานแต่งของเทวิน แต่พอได้ยินข่าวว่าน้องสาวจะจัดงานแต่งที่โรงแรมเดียวกัน ปลาวาฬ
"ผู้หญิงอะไรร้ายชะมัด" เอาไปเอามาหวานใจลงไปนอนพื้น พร้อมกับหมอนหนึ่งใบและผ้าห่มที่มีอยู่ผืนเดียว เธอใช้ผ้าห่มผืนนั้นทั้งรองพื้นและก็ห่มไปในตัวเช้าวันต่อมา.."มีอะไรกันหรือเปล่าครับ" ทั้งสองถูกตามตัวให้มาพบที่ห้องอาหารวีไอพี"มานั่งก่อนสิลูก" สโรชาเรียกให้ว่าที่ลูกสะใภ้มานั่งใกล้ๆ เพราะคิดว่าเดี๋ยวลูกชายก็คงเดินตามคนรักมา แต่ไม่ใช่..เขาเดินไปนั่งอีกมุมหนึ่ง "รามิล" คนเป็นแม่ก็เลยเรียกให้มานั่งใกล้ๆ กัน เพราะถ้าผู้ใหญ่คุยด้วยจะได้หันมาทางเดียวไม่ต้องหันไปหลายทาง"ทางผู้ใหญ่คุยกันแล้วนะ" ประโยคนี้เรวทัตพูดกับหลานชาย แต่ที่จริงคนเป็นปู่นั่นแหละออกความคิดเห็นอยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นได้แต่นั่งฟัง "คุยกันว่ายังไงครับ""ฤกษ์ดีอีกสามวันข้างหน้า""ห๊าา!?""ที่เรียกมาเพราะจะถามพวกเราว่าอยากจัดงานที่นี่ หรือกลับไปจัดกรุงเทพฯ" เพราะทุกคนมาร่วมงานแต่งของเทวินที่ภาคตะวันออกแถบชายทะเล"คุณปู่ครับจะรีบไปไหนนักหนา""ถ้าไม่ใช่ฤกษ์สามวันข้างหน้า ก็ต้องรออีก สามเดือน""OK ครับ งั้นรอสามเดือน"ผู้ใหญ่ต่างก็มองหน้ากัน จนหวานใจกลัวว่าพวกท่านจะสงสัย "เรื่องไปเที่ยวของเราเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าผู้ใหญ่ได้ฤกษ์ดีเ
หวานใจลืมไปเลยว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า ถึงแม้ญาติๆ จะรู้จักสนิทสนมกัน แต่สำหรับเธอแล้วเขาก็คือคนแปลกหน้าอยู่ดีพอคิดได้แบบนั้นเธอก็หยุดพูด แล้วเปิดกระเป๋าเพื่อเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วยใช้เวลาอาบน้ำอยู่พอสมควร เพราะตั้งแต่เดินทางจากต่างประเทศมาเมืองไทย แถมยังต่อเครื่องมาที่นี่อีก ก็เลยทำความสะอาดร่างกายเยอะหน่อยแต่พอหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงหลับไปแล้ว"นี่คุณลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ" เธอจะไม่ยอมนอนร่วมเตียงกับคนที่ไม่อาบน้ำเด็ดขาด"ง่วงจะตายอยู่แล้วจะปลุกทำไม" ขณะที่ตอบเขาไม่ได้ลืมตาเลย"ถ้าคุณจะไม่อาบน้ำ ลงไปนอนพื้นเดี๋ยวนี้เลย""อะไรของเธอเนี่ย รู้ไหมว่าฉันนั่งเครื่องมากี่ชั่วโมง แถมยังต้องมาร่วมงานแต่งอีก""ฉันก็เหมือนกัน ฉันยังอาบน้ำได้เลย""โอ๊ยยย!!" รามิลลุกขึ้นแบบหงุดหงิด ถ้าเป็นผู้ชายด้วยกันคงโดนกระทืบ เพราะเวลานอนเขาไม่ชอบให้ใครมากวน"บ้าหรือไงจะไม่อาบน้ำ" หวานใจมองตามผู้ชายที่เดินซังกะตายเข้าห้องน้ำใช้เวลาอาบน้ำอยู่เพียงไม่นาน รามิลก็ออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดผม"ทำอะไรของเธอ""คุณห้ามข้ามเขตนี้มา""ฉันเคยเห็นแต่เอาหมอนข้างกั้น" ขณะที่เช็ดผมเขาก็
ในห้องโรงแรม..และห้องนี้ก็มีแค่เตียงเดียว"ฉันชื่อหวานใจ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" หวานใจไม่รู้จะเริ่มยังไงก่อนดี ก็เลยเริ่มจากการแนะนำชื่อนี่แหละ"ผมชื่อรามิลยินดีที่ได้รู้จัก""อันดับแรกเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อน""ก็ว่ามาสิ""ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษคุณ ฉันไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดมาขนาดนี้""อืม""แต่จะว่าฉันผิดคนเดียวก็ไม่ใช่ คุณก็ผิดด้วย""อ้าว.." กำลังจะดีแล้วเชียว"ฉันว่าจะไม่โกหกพวกท่านต่อแล้ว แต่คุณดันแนะนำว่าฉันเป็นคนที่จะแต่งงานด้วยทำไมล่ะ""หึ""แต่ก็ช่างมันเถอะ ถือว่าเราเสมอกัน""หึหึ" ถ้าเธอไม่หาเรื่องคว้าตัวเขาไว้ตอนนั้นมันคงไม่เกิดอะไรขึ้นแล้ว"คุณอย่าเอาแต่ขำสิ""ก็คุณพูดเองหมดแล้วจะให้ผมพูดอะไร""คุณมีวิธีที่ทำให้เราสองคนไม่ต้องแต่งงานกันไหม""ไม่มี""เอ้าา""คุณรู้ไหมว่าความฝันสุดท้ายของคุณปู่คืออะไร""อะไร""อยากให้ผมมีเมียที่ไม่ใช่แหม่ม""คุณมีเมียแหม่มเหรอ"รามิลไม่ได้ตอบประโยคนี้ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา"ฉันไม่ถามก็ได้ แล้วเราจะทำยังไงกันต่อดี""ก็คงต้องแต่งงาน""นี่คุณ""คุณเป็นคนเริ่มก่อนไม่ใช่เหรอ""แต่ฉันยังไม่อยากแต่ง ฉันยังไม่อยากเป็นหม้ายตอนนี้คุณรู้
"ดะ..ดะ.. เดี๋ยวก่อนนะคะ คือเรื่องนี้เราสองคนยัง.." หวานใจกำลังจะหาทางออก บอกผู้ใหญ่ไปก่อนว่าทั้งสองยังไม่ได้คุยเรื่องแต่งงานกันเลย แต่จังหวะเดียวกันนั้นก็มีชายวัยชราคนหนึ่งเดินเข้ามา"รามิล""คุณปู่ครับ""มายืนทำอะไรกันตรงนี้ ทำไมไม่เข้าไปในงาน" "คุณพ่อมาก็ดีแล้วครับ ตารามิลพาแฟนมาด้วย""หนูคนนี้เหรอ" เรวทัตมองไปที่ฝ่ายหญิงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ หลานชาย"สวัสดีครับท่าน" ฉลามเห็นว่าท่านมองมาทางตัวเองด้วย เรวทัตก็เลยพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย "หวานใจเป็นบุตรสาวผมเองครับท่าน""อ้าวเหรอ คนกันเองทั้งนั้น" กำลังจะถามอยู่พอดีว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครบ้านอยู่ที่ไหน แต่พอรู้ว่าเป็นบุตรสาวของเสนาธิการ คนเป็นปู่ก็ยิ้มออก"ใช่ครับพ่อ และผมก็คิดว่าจะจัดงานแต่งให้ทั้งสองต่อจากน้องสาวเลย" รามสูรหมายถึงสโนไวท์ เพราะสโนไวท์มีศักดิ์เป็นน้องสาว แถมยังอายุน้อยกว่ารามิลทั้งสองที่อยู่ในประโยคสนทนาของผู้ใหญ่ ได้แต่มองตากันปริบๆ เพราะตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้แล้ว"เห็นแบบนี้ปู่ค่อยตายตาหลับหน่อย ถ้าแต่งงานกันแล้วก็ช่วยกันดูแลบริษัทของพ่อต่อนะ""ครับ?" ที่ดึงเธอคนนี้เข้ามาเพราะคิดว่าจะกลับไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศได้ แต่พอแต่