ในห้องโรงแรม..และห้องนี้ก็มีแค่เตียงเดียว
"ฉันชื่อหวานใจ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" หวานใจไม่รู้จะเริ่มยังไงก่อนดี ก็เลยเริ่มจากการแนะนำชื่อนี่แหละ
"ผมชื่อรามิลยินดีที่ได้รู้จัก"
"อันดับแรกเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อน"
"ก็ว่ามาสิ"
"ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษคุณ ฉันไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดมาขนาดนี้"
"อืม"
"แต่จะว่าฉันผิดคนเดียวก็ไม่ใช่ คุณก็ผิดด้วย"
"อ้าว.." กำลังจะดีแล้วเชียว
"ฉันว่าจะไม่โกหกพวกท่านต่อแล้ว แต่คุณดันแนะนำว่าฉันเป็นคนที่จะแต่งงานด้วยทำไมล่ะ"
"หึ"
"แต่ก็ช่างมันเถอะ ถือว่าเราเสมอกัน"
"หึหึ" ถ้าเธอไม่หาเรื่องคว้าตัวเขาไว้ตอนนั้นมันคงไม่เกิดอะไรขึ้นแล้ว
"คุณอย่าเอาแต่ขำสิ"
"ก็คุณพูดเองหมดแล้วจะให้ผมพูดอะไร"
"คุณมีวิธีที่ทำให้เราสองคนไม่ต้องแต่งงานกันไหม"
"ไม่มี"
"เอ้าา"
"คุณรู้ไหมว่าความฝันสุดท้ายของคุณปู่คืออะไร"
"อะไร"
"อยากให้ผมมีเมียที่ไม่ใช่แหม่ม"
"คุณมีเมียแหม่มเหรอ"
รามิลไม่ได้ตอบประโยคนี้ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
"ฉันไม่ถามก็ได้ แล้วเราจะทำยังไงกันต่อดี"
"ก็คงต้องแต่งงาน"
"นี่คุณ"
"คุณเป็นคนเริ่มก่อนไม่ใช่เหรอ"
"แต่ฉันยังไม่อยากแต่ง ฉันยังไม่อยากเป็นหม้ายตอนนี้คุณรู้ไหม"
"อ้าวทำไมต้องเป็นหม้าย ผมยังไม่ตายสักหน่อย"
"ถึงแต่งไปแล้วก็เลิกอยู่ดี เพราะเราไม่ได้รักกัน..ไม่สิ..เราไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ"
"ก็จริงของคุณ"
"เราคุยกับผู้ใหญ่กันอีกทีดีไหม บอกว่าเราเลิกกันแล้ว"
"ปู่ผมได้ช็อกตายก่อนพอดี"
"ถ้างั้นเราก็แต่งกันแค่ในครอบครัว ไม่ต้องให้คนภายนอกรู้ด้วย ฉันกลัวขายไม่ออก"
"คุณครับคุณปู่ผมเป็นท่านพลเอก ถึงแม้ท่านจะเกษียณแล้ว ยังจะพ่อแม่ผมอีก คุณคิดว่าพวกท่านจะทำแค่นี้ไหม" ยังไงเขาต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่องก่อน ถ้ามีงานแต่งมันไม่เล็กแน่ รวมทั้งญาติๆ ของเขาอีก แต่ละท่านมีแต่ยศตำแหน่งสูงๆ ทั้งนั้น
"แล้วผู้ชายที่ไหนจะมา... โอ๊ย ปวดหัว" ทีแรกคิดว่าจะดึงเขามาแค่กล่าวอ้างแล้วก็ลอยนวล ถ้ารู้ว่าต้องแต่งงานจริงใครจะไปทำแบบนี้ล่ะ
รามิลเห็นว่าเธอกำลังใช้ความคิด เขาก็เลยเดินไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียง
"เดี๋ยวก่อนนะคุณ มีแค่เตียงเดียวคุณไม่เห็นหรือไง"
"ผมไม่ได้ตาบอด"
"คุณต้องนอนพื้นแล้วล่ะ" เพราะในห้องนี้มีเฟอร์นิเจอร์ก็จริง แต่ไม่ได้เอื้ออำนวยแก่การนอน
"ทำไมผมต้องนอนพื้นด้วย"
"ก็ฉันเป็นผู้หญิง คุณจะไม่เสียสละให้ผู้หญิงหรือไง"
"คุณก็นอนบนเตียงกับผมจะเป็นไรไป"
"ใครจะไปนอนกับคุณ"
"แบบคุณผมคงไม่ทำอะไรหรอก..ไม่ต้องกลัว"
"แบบฉันแล้วทำไม!"
"อ้าว..ตกลงจะให้ทำหรือไม่ให้ทำ"
หวานใจลืมไปเลยว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า ถึงแม้ญาติๆ จะรู้จักสนิทสนมกัน แต่สำหรับเธอแล้วเขาก็คือคนแปลกหน้าอยู่ดีพอคิดได้แบบนั้นเธอก็หยุดพูด แล้วเปิดกระเป๋าเพื่อเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วยใช้เวลาอาบน้ำอยู่พอสมควร เพราะตั้งแต่เดินทางจากต่างประเทศมาเมืองไทย แถมยังต่อเครื่องมาที่นี่อีก ก็เลยทำความสะอาดร่างกายเยอะหน่อยแต่พอหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงหลับไปแล้ว"นี่คุณลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ" เธอจะไม่ยอมนอนร่วมเตียงกับคนที่ไม่อาบน้ำเด็ดขาด"ง่วงจะตายอยู่แล้วจะปลุกทำไม" ขณะที่ตอบเขาไม่ได้ลืมตาเลย"ถ้าคุณจะไม่อาบน้ำ ลงไปนอนพื้นเดี๋ยวนี้เลย""อะไรของเธอเนี่ย รู้ไหมว่าฉันนั่งเครื่องมากี่ชั่วโมง แถมยังต้องมาร่วมงานแต่งอีก""ฉันก็เหมือนกัน ฉันยังอาบน้ำได้เลย""โอ๊ยยย!!" รามิลลุกขึ้นแบบหงุดหงิด ถ้าเป็นผู้ชายด้วยกันคงโดนกระทืบ เพราะเวลานอนเขาไม่ชอบให้ใครมากวน"บ้าหรือไงจะไม่อาบน้ำ" หวานใจมองตามผู้ชายที่เดินซังกะตายเข้าห้องน้ำใช้เวลาอาบน้ำอยู่เพียงไม่นาน รามิลก็ออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดผม"ทำอะไรของเธอ""คุณห้ามข้ามเขตนี้มา""ฉันเคยเห็นแต่เอาหมอนข้างกั้น" ขณะที่เช็ดผมเขาก็
"ผู้หญิงอะไรร้ายชะมัด" เอาไปเอามาหวานใจลงไปนอนพื้น พร้อมกับหมอนหนึ่งใบและผ้าห่มที่มีอยู่ผืนเดียว เธอใช้ผ้าห่มผืนนั้นทั้งรองพื้นและก็ห่มไปในตัวเช้าวันต่อมา.."มีอะไรกันหรือเปล่าครับ" ทั้งสองถูกตามตัวให้มาพบที่ห้องอาหารวีไอพี"มานั่งก่อนสิลูก" สโรชาเรียกให้ว่าที่ลูกสะใภ้มานั่งใกล้ๆ เพราะคิดว่าเดี๋ยวลูกชายก็คงเดินตามคนรักมา แต่ไม่ใช่..เขาเดินไปนั่งอีกมุมหนึ่ง "รามิล" คนเป็นแม่ก็เลยเรียกให้มานั่งใกล้ๆ กัน เพราะถ้าผู้ใหญ่คุยด้วยจะได้หันมาทางเดียวไม่ต้องหันไปหลายทาง"ทางผู้ใหญ่คุยกันแล้วนะ" ประโยคนี้เรวทัตพูดกับหลานชาย แต่ที่จริงคนเป็นปู่นั่นแหละออกความคิดเห็นอยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นได้แต่นั่งฟัง "คุยกันว่ายังไงครับ""ฤกษ์ดีอีกสามวันข้างหน้า""ห๊าา!?""ที่เรียกมาเพราะจะถามพวกเราว่าอยากจัดงานที่นี่ หรือกลับไปจัดกรุงเทพฯ" เพราะทุกคนมาร่วมงานแต่งของเทวินที่ภาคตะวันออกแถบชายทะเล"คุณปู่ครับจะรีบไปไหนนักหนา""ถ้าไม่ใช่ฤกษ์สามวันข้างหน้า ก็ต้องรออีก สามเดือน""OK ครับ งั้นรอสามเดือน"ผู้ใหญ่ต่างก็มองหน้ากัน จนหวานใจกลัวว่าพวกท่านจะสงสัย "เรื่องไปเที่ยวของเราเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าผู้ใหญ่ได้ฤกษ์ดีเ
"ถ้านายเข้ามาฉันแทงไส้แตกแน่" กรรไกรตัดเล็บในมือถูกคลี่ออกมา เพราะตรงกลางจะมีแหลมๆ เพื่อไว้แคะขี้เล็บ หวานใจเพิ่งซื้อตอนลงเครื่องที่สนามบินนี่เอง"น่ากลัวมาก สงสัยว่าจะติดเชื้อโรคตายก่อนแน่" รามินไม่ได้สนใจผู้หญิงแบบเธออยู่แล้ว เขาแค่พูดเล่นๆ ไปงั้นแหละ"ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ ถึงแม้เราจะแต่งงานกัน แต่คุณห้ามเข้าใกล้ฉันเกิน 1 เมตร""อ้าวไม่ให้เข้าใกล้แล้วจะจูบยังไง""ทำไมต้องจูบด้วย" หญิงสาวรีบยกมือขึ้นมาปิดปากไว้"คุณครับ ไม่เคยดูฉากแต่งงานในละครเหรอ""คุณเล่นมุมกล้องเป็นไหม ฉันให้เข้าใกล้ก็ได้แต่ห้ามจูบจริง""เผอิญว่าผมชอบเล่นลิ้นมากกว่า" เขาหมายถึงว่าไม่ชอบเล่นมุมกล้องแต่ชอบเล่นลิ้น"ไอ้..ไอ้..""ไม่ได้ชอบเล่นลิ้นแค่ข้างบนนะ แต่ชอบ...." ขณะที่พูดสายตาคมมองต่ำลงไป เพื่อสื่อให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขาหมายถึงอะไร"ไอ้ลามก!""หึหึหึ ฮ่าาาา" ไม่ได้ขำแบบนี้นานแล้ว พอเธอออกจากห้องไปเขาก็หัวเราะออกมาจนสุดเสียง"จะลูกใครหลานใคร ถ้ามาทำอะไรฉัน ฉันเอาตายแน่""บ่นอะไร""พี่ปลาวาฬ?""เรื่องนั้นจริงเหรอ" ที่จริงปลาวาฬไม่ได้มาร่วมงานแต่งของเทวิน แต่พอได้ยินข่าวว่าน้องสาวจะจัดงานแต่งที่โรงแรมเดียวกัน ปลาวาฬ
"พูดเล่นไปได้! คนยิ่งกำลังคันอยู่" ทีแรกก็เคืองตาแต่ตอนนี้เริ่มจะคันแล้ว"คันเหรอ" ได้ยินประโยคสุดท้ายที่เธอพูด สายตาคมมองไปรอบๆ ข้าง"คุณกำลังคิดอะไรฉันคันตา! ทำเป็นเล่นอยู่ได้""หึหึ"หวานใจไม่รอให้เขาดูให้แล้ว มือเรียวยกขึ้นมาเพื่อที่จะขยี้"อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวทำให้""คุณจะทำอะไร?" หญิงสาวขยับใบหน้าหลบนิ้วที่เขายื่นเข้ามาใกล้"ก็เอาขี้ตาออกให้ไง""จะบ้าเหรอล้างมือหรือยัง""สองคนนั้นทำอะไรกันอยู่ครับพ่อ" ทศกัณฐ์ออกมาจากห้องกับภรรยา ก็เห็นหลานชายยืนหยอกล้อหญิงคนรักอยู่"เด็กคนนี้น่ารักน่าเอ็นดู" เรวทัตรู้สึกเอ็นดูหวานใจมาก คิดว่าเธอนี่แหละที่จะเอาหลานชายอยู่หมัด"ไปทานข้าวกันเถอะครับพ่อ""ไปสิ"พอชวนพ่อไปทานข้าวเสร็จ ทศกัณฐ์ก็หันไปชวนหลานชายกับหลานสะใภ้ห้องอาหารของโรงแรม..ญาติเกือบทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องอาหาร เพราะต้องแบ่งหน้าที่กันจัดงานแต่ง"รามิล!" สโรชาสะกิดลูกชายเมื่อผู้ใหญ่ถาม แต่เขาเอาแต่มองไปที่ผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องนั้นด้วย"ครับแม่""คุณอาถามเราว่าจะมีเพื่อนจากต่างประเทศเดินทางมาร่วมงานแต่งด้วยไหม""ไม่มีครับ" ที่จริงประโยคนี้หวานใจตอบผู้ใหญ่ไปแล้ว เพราะผู้ใหญ่ก็ถามประโย
เช้าวันต่อมา..พรวด~ ชายหนุ่มที่ดื่มน้ำทุกเช้าหลังจากตื่นนอนเป็นประจำ ถึงกับสำลักน้ำออกมา เมื่อเห็นว่าคนที่เข้าไปอาบน้ำก่อนออกมาในชุดไหน "แอ๊ะๆๆ""คุณเป็นอะไรไหม" หวานใจรีบเข้ามาลูบหลังให้"ผมว่าคุณไปใส่เสื้อผ้าก่อนดีกว่า""แหมทำเป็นมองไม่ได้ อิจฉาเค้าล่ะสิ""อิจฉา?""ถ้าคุณอยากได้แบบนี้..แบบนี้..ก็ไม่ยากนี่คะ พึ่งมือหมอไปเลย" ขณะที่พูดนิ้วเรียวชี้ไปที่หน้าอก แถมจังหวะต่อมาเธอชี้ลงไปใต้สะดือของตัวเองชายหนุ่มมองตามนิ้วที่เธอชี้ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอแบบไม่รู้ตัวถึงแม้ว่าเธอจะยังคงมีชุดชั้นในปิดกั้นอยู่ แต่ความอวบนูนนั้นเห็นเด่นชัดทั้งข้างบนและข้างล่างพอคุยกับเขาจบหวานใจก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วเลือกชุดที่จะใส่โดยไม่รีบทีแรกกำลังจะดื่มน้ำใหม่ แต่คิดว่าคงดื่มไม่ได้แล้วล่ะเพราะถ้าดื่มได้สำลักอีกแน่ รามิลก็เลยคว้าเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำสายๆ วันเดียวกัน.."พี่คะมานี่หน่อย" หวานใจที่เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงพร้อมรามิล เห็นว่าพี่ชายก็อยู่ในนี้ด้วย"ว่าไง" ปลาวาฬเดินเข้ามาหาน้องเมื่อเห็นว่าน้องสาวเรียก"เมื่อวานนี้ฉันลืมแนะนำให้พี่รู้จักคนนี้ชื่อรามิลค่ะ""พี่รู้แล้ว""พี่ชายฉันช
วันต่อมา.. และวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานของทั้งสองหญิงสาวที่อยู่ในชุดเจ้าสาวยืนมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ เวลานี้เธอพร้อมที่จะออกจากห้องแล้วแต่ทำไมเธอถึงมีความรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรลงไป จะแต่งงานกับชายรักชายจริงเหรอ ถ้าคนอื่นรู้..แล้วพ่อกับแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หรือว่าเขาก็คิดแบบเดียวกับเรา หาผู้หญิงสักคนมาแต่งงานด้วย เพื่อปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้พ่อกับแม่ต้องขายหน้า แต่สมัยนี้คนเขายอมรับกันได้หมดแล้วทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยากด้วยก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูได้ทำลายภวังค์ที่เธอกำลังคิดอยู่"ใกล้ฤกษ์แล้วออกไปกันเถอะลูก""แม่คะ""หือ""หวานกำลังจะแต่งงานจริงๆ ใช่ไหมคะ""ทำไมหนูถึงพูดแบบนั้น""เอ่อคือ..""บอกแม่มา""เปล่าค่ะไม่มีอะไร สงสัยหวานจะตื่นเต้นมากไป" แม่จะเชื่อไหมเนี่ยแก้วใจเอื้อมมือไปลูบผมลูกสาวเบาๆ เพื่อทำให้ลูกรู้ว่าแม่จะอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ ถึงแม้จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว"แม่""ไม่ร้องไห้นะลูก วันนี้เป็นวันมงคล" แค่เห็นสีหน้าก็รู้แล้วว่าลูกอยากจะร้องไห้ คงตื้นตันใจมากที่จะได้แต่งงานกับชายคนรักแต่สำหรับความคิดของหวานใจแล้ว ..ยกเลิกงานแต่งตอนนี้ยังทันไหมเนี่ย"เราออกไปกันเถอะ
"??" ดวงตากลมเปิดกว้างเมื่อถูกอีกฝ่ายแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ถึงแม้จะรู้สึกขยะแขยงเพราะคิดว่าเขาเคยทำแบบนี้กับผู้ชายมาแล้ว แต่เธอจะแสดงกิริยาแบบนั้นออกมาไม่ได้ เพราะตอนนี้สายตาทุกคู่มองมาที่เธอพิธีกรบนเวทีเริ่มทำหน้าที่ต่อ เพราะเห็นว่าคู่บ่าวสาวกำลังติดลม จนแขกที่มาร่วมในงานต่างปรบมือ..ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันพอถอนจูบสายตาคนเป็นเจ้าบ่าวก็มองไปข้างเวทีตรงที่เขามองก่อนจะขึ้นมา แต่ตอนนี้ไม่มีใครคนนั้นยืนอยู่ที่เดิมแล้วหลังงานแต่งจบลง..ห้องหอของทั้งสองถูกจัดเตรียมใหม่เป็นห้องสวีท และทั้งสองก็ต้องร่วมห้องหอที่โรงแรมนี้ให้ครบ 3 วัน ตามความเชื่อของคนโบราณ เพราะคุณปู่เป็นคนจัดแจงทุกอย่าง"ฝากดูแลน้องด้วยนะ" ก่อนที่ผู้ใหญ่จะออกจากห้องหอ แก้วใจหันมาฝากฝังลูกสาวกับลูกเขยอีกครั้ง"ครับ""คุณจะไปไหน มาแกะกระดุมเสื้อให้ฉันก่อน" พอผู้ใหญ่ออกไปแล้วรามิลกำลังจะเข้าห้องน้ำชายหนุ่มก็เลยเดินกลับมาแล้วค่อยๆ บรรจงปลดกระดุมเสื้อให้เธอ"เอ้าแกะยังไม่หมดเลย" เขาปลดกระดุมลงมาจนถึงเม็ดที่อยู่ช่วงเอว แต่กระดุมชุดนี้ยาวลงไปจนถึงสะโพก เพราะเป็นชุดเจ้าสาวแบบรัดรูป"ก็ดึงลงมาสิ""จะดึงได้ยังไง คุณรู้ไหมว่าชุดน
"ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ ผู้หญิงคนนั้นเป็นพี่สาวแท้ๆ ของคุณไหม""ถามทำไม" ทีแรกก็ไม่ได้สนใจเธอหรอก แต่พอได้ยินคำถามนี้เขาถึงกับหันมองมา"คนเราจะมองกันด้วยสายตาแบบนั้นมีไม่กี่อย่างหรอก" เธอหมายถึงสายตาที่เขามองพี่สาวของเขาเอง"เราควรต้องคุยกันหน่อยแล้ว""คุยอะไรคะ""ห้ามยุ่งเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย""ฉันไม่ได้ยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณสักหน่อย แค่ฉันถาม""นี่แหละที่เขาเรียกว่ายุ่งเรื่องส่วนตัว" พอสิ้นคำพูดรามิลก็ออกจากห้องไป"แบบนี้มีพิรุธ ตกลงเขาเป็นชายรักชาย หรือว่า.." แล้วทำไมเราต้องนำมาใส่สมองของเราด้วย เขาจะเป็นยังไงก็ช่างปะไรคืนที่สองที่เข้าหอ..ห้องสวีทถึงแม้จะมีเตียงเดียวแต่ก็มีโซฟาให้นอนได้ คืนนี้รามิลใช้โซฟาในการนอนหวานใจเห็นว่าเขานอนขดตัวคงจะหนาว เธอก็เลยเสียสละผ้าห่มให้"...." ชายหนุ่มหันมองไปดูผู้หญิงที่ห่มผ้าให้เมื่อสักครู่แบบแปลกใจ "แล้วเธอไม่หนาวเหรอ""ฉันจะไปขอผ้าห่มผืนใหม่"แต่พอออกมาจากห้องนั้น ก็เห็นแม่ก่อนที่จะไปเจอแม่บ้านด้วยซ้ำ"มีอะไรเหรอลูก""คุณแม่ยังไม่เข้าห้องอีกเหรอคะ""แม่ว่าจะนั่งเล่นอยู่แถวนี้สักพักก่อน หนูออกมามีอะไรเหรอ""เปล่าหรอกค่ะ จะมาดูว่าแม่เข้านอนหรือ
พลาดรักคุณสามี ตอนพิเศษหลังงานแต่งของทั้งสองจบลง.."ถ้างานคุณยุ่ง เรื่องฮันนีมูนเราก็เลื่อนออกไปก่อนก็ได้นี่คะ""ผมบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับคุณอีกแล้ว"ชีวิตหนึ่งเกิดมาแค่นี้ก็พอแล้ว ขอแค่มีชายคนรักที่เห็นว่าเธอสำคัญที่สุด"ก็ได้ค่ะ ฉันขอแค่ในประเทศนะ ถ้าเดินทางไปต่างประเทศมันเหนื่อยเกินไป" ที่จริงมันเป็นแค่ข้ออ้าง ถ้ายังอยู่ในประเทศเผื่อมีงานด่วนเขาจะได้จัดการงานนั้นง่ายหน่อย"แล้วคุณชอบภูเขาหรือทะเลล่ะ""ชอบปลาวาฬค่ะ""หือ?""ฉันชอบคุณ จะให้ฉันชอบอย่างอื่นได้ยังไง""ผมตั้งใจว่าจะเก็บแรงไว้ตอนฮันนีมูนกัน""ยังไงคะ""คุณเล่นอ้อนแบบนี้ผมก็ต้องได้เอาแรงออกมาใช้ก่อนน่ะสิ""คุณปลาวาฬ" ถึงแม้จะมีอะไรกับเขาหลายครั้งแล้ว แต่พอพูดถึงเรื่องนี้เธอก็มีความอายอยู่ดี"น่ารักจัง" มือหนาเอื้อมไปลูบไล้แก้มนวลของภรรยาด้วยความเอ็นดู "ถ้าคุณชอบปลาวาฬงั้นเราก็คงต้องไปทะเลกัน""ค่ะ" คนตัวเล็กแนบลำตัวลงกับอกแกร่งของผู้เป็นสามีหมาดๆ"นอนก่อนนะครับคนดี นอนเอาแรงไว้เยอะๆ พรุ่งนี้เราจะเดินทางกันแล้ว""พรุ่งนี้เลยหรือคะ..แล้วงานของคุณล่ะคะ""ตอนเช้าเดี๋ยวผมเข้าไปเคลียร์งาน เราจะเดินทางตอนบ่ายกัน""ค่ะ"
พลาดรักคุณสามี บทที่ 102 ตอนจบ"แม่อยากให้อยู่ด้วยกันไปก่อน" สโรชาอนุญาตให้ลูกไปทำงานได้ แต่พอวันต่อมาลูกสาวก็ขอออกไปอยู่คอนโดกับชายคนรัก"เกศดีขึ้นมากแล้วค่ะ ถ้าคุณแม่เป็นห่วงเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงแล้วค่ะ""แต่แม่กลัวคิดถึงเรา""ลูกโตแล้วนะคุณ แถมลูกกำลังจะออกเรือนด้วย ให้พวกเขาไปศึกษาดูใจกันเถอะ"สโรชาเป็นห่วงถ้าปล่อยให้ลูกไปอยู่ข้างนอกไกลหูไกลตา กลัวว่าเหตุการณ์แบบเดิมจะเกิดขึ้นอีก ถ้าเกศรินยังอยู่ที่บ้าน เธอคงสังเกตเห็นอาการลูกสาวแต่ทีแรกแล้ว"ถ้าเกศมีอาการผิดปกติ จะรีบบอกคุณแม่เลยค่ะ" เกศรินรู้ว่าท่านเป็นห่วงมาก ถ้าวันนั้นไม่เพราะท่านขอตรวจ..ป่านนี้มะเร็งคงลุกลามไปจนเกินเยียวยาแล้ว"ผมสัญญาครับว่าจะดูแลเธอ แทนคุณแม่เอง"สโรชามองไปดูหน้าสามีที่นั่งอยู่ด้วยกัน ก่อนที่โผลเข้าไปกอดท่าน เธออยากออกไปใช้ชีวิตครอบครัวกับเขา เรื่องศึกษาดูใจคงไม่ต้องศึกษาเขาแล้ว เพราะเธอเห็นหมดแล้วว่าเขามีความจริงใจให้มากแค่ไหน[คอนโด]"ผมว่าจะซื้อบ้านสักหลัง พักอยู่คอนโดมันไม่สะดวก""ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่นี่ก็ดีมากแล้ว""ถ้าเรามีบ้าน คุณก็จะมีพื้นที่เยอะขึ้น อยู่แต่ในคอนโดอากาศไม่ปลอดโปร่ง""ที่ไหนมีคุณฉั
"แน่ใจนะว่าคุณต้องการแรงกว่ามดกัด แต่มดตัวนี้กัดเจ็บนะครับ ถ้าแรงกว่าคุณจะรับไหวเหรอ" ที่จริงเขายังไม่เร่งเครื่องเลย แค่กำลังอุ่นเครื่องก่อนเฉยๆ แต่เกศรินคิดว่าเขาคงกลัวเธอเจ็บแผล ก็เลยทำแค่เบาๆ ถ้าทำแบบนี้เมื่อไรจะเสร็จล่ะ"ฉันเคยถูกมดกัดนี่คะ แค่เกาก็หายคันแล้ว""จัดให้ครับ แต่ถ้าเจ็บคุณบอกผมเลยนะ" ฟังเธอพูดก็อยากจะขำอยู่หรอก แต่ถ้าขำตอนนี้คงหมดอารมณ์แน่"อื้อ อ " เกศรินอยากให้เขามีความสุขกับเรือนร่างของเธอให้มากที่สุด เธอก็เลยขอให้เขาเพิ่มความแรงขึ้นมาหน่อย ถึงแม้จะมีลูกให้เขาไม่ได้ ช่วยให้เขามีความสุขกับเรือนร่างของเธอได้ก็คงดี"อ้าา ผมรักคุณนะเกศริน" ความรักนี้ไม่รู้ว่ามีให้เธอตั้งแต่เมื่อไร แต่พอรู้ตัวก็รักเธอมากจนแทบคลั่ง"ฉันก็รักคุณค่ะ อื้อ อ" มือเรียวโอมร่างคนตัวโตไว้ในจังหวะที่เขากำลังซอยสะโพกเร็วขึ้น"ซี๊ดด ผมปล่อยข้างในได้เลยไหม"ที่จริงคุณหมอก็บอกไว้ว่ายังไม่อยากให้มีลูกกันตอนนี้ แต่เธอคิดว่ามันคงไม่เร็วขนาดนั้น เพราะส่วนที่รับน้ำเชื้อยังไม่แข็งแรงพอ หญิงสาวพยักหน้าให้เห็นว่าเธออนุญาตชายหนุ่มก็ไม่อดกลั้นอีก ขยับสะโพกเพื่อให้ความแข็งแกร่งเสียดสีกับเนื้อบางๆ เร็วขึ้น ก่อน
"คุณยังไม่ดื่มน้ำอีกเหรอ" ปลาวาฬมองดูน้ำที่สั่งให้ลูกน้องนำมาให้เธอ "ฉันไม่อยากดื่มน้ำของคนที่ชื่อกำพลค่ะ" "ใครเอามาให้นะ" สายตาชายหนุ่มเหลือบไปมองกำพล จนคนที่ถูกมองรีบหลบสายตานั้น "รอผมอยู่นี่เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้" พูดจบปลาวาฬก็รีบเดินไปตรงจุดบริการน้ำ เขาไม่ได้เอาน้ำที่เย็นจัด "เราดูดีกว่าตั้งเยอะ และทำงานมาด้วยก็หลายปี ทำไมถึงเลือกแม่บ้านแบบนั้นได้" "อืมใช่" เอ็มม่าและตุ๊กตาไม่เคยพูดกันดีเลยตั้งแต่กำพลหันมามองเอ็มม่า ก็มีครั้งนี้แหละที่ทั้งสองดูจะลงรอยกัน"แต่ฉันยังสงสัยเรื่องคุยธุรกิจ" "คงไม่ใช่หรอกมั้ง คุณเชษฐาคงจำคนผิด""เกศ" "คุณพ่อ" เกศรินได้ยินคนเรียกก็เลยหันไปมอง ไม่คิดว่าคนที่เรียกก็คือพ่อ "พ่อเห็นคุณเชษฐาตรงโน้นบอกว่าลูกก็มาร่วมงานด้วย""คุณพ่อก็มาร่วมงานด้วยเหรอคะ"ที่จริงรามสูรก็ไม่ชอบมางานอะไรแบบนี้ แต่ที่มาเพราะว่าอยากมาร่วมงานของว่าที่ลูกเขย "พ่อต้องมาสิ เพราะเป็นงานคนสำคัญของลูกนี่""พ่อ?!" ทำไมคนที่ทำงานในโชว์รูมจะไม่รู้จักนักธุรกิจที่ชื่อรามสูร เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย จนถึงบัดนี้ สาวๆ ครึ่งค่อนประเทศอิจฉาภรรยาอันเป็นที
"ไม่ต้องหรอกลูก""ครับ" ปลาวาฬยอมรับในการตัดสินใจของท่าน"อ้าวแล้วนั่นเราจะไปไหน" พอเขาตอบรับ ปลาวาฬก็ลุกขึ้นกำลังจะออกจากบ้านท่านไป"พรุ่งนี้ผมจะรีบมาแต่เช้าครับ""ไหนบอกอยากอยู่ดูแลน้องไง""ครับ?" ชายหนุ่มที่ใบหน้าสิ้นหวังมากหันกลับมามอง"ที่แม่พูดหมายถึงไม่ต้องนอนข้างนอกหรอก ก็เข้าไปดูแลกันในห้องเลย มีอะไรจะได้ช่วยกัน""ผมนอนข้างในได้เหรอครับ""ได้สิจ๊ะ ถึงยังไงพวกเราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว""ขอบพระคุณมากครับ" ยังไม่ทันได้เอามือที่ไหว้ท่านลงเลย เขาก็เดินไปถึงหน้าห้องของเธอแล้ว"คุณยิ้มอะไรคะ" สโรชาหันกลับมาเห็นสามีกำลังยิ้มแป้น"คุณทำถูกแล้วล่ะ เด็กๆ เขารักกันก็ปล่อยให้เขาดูแลกันไป""ฉันก็ไม่ได้ว่าจะห้ามสักหน่อย แล้วเมื่อไรคุณจะขึ้นนอนไม่ง่วงหรือไง""เอ้า..เลขมาออกที่เราจนได้" รามสูรรีบเดินตามภรรยาขึ้นบ้านไป"คุณราม!" สามีที่เดินตามมาอยู่ดีๆ ก็โอบกอดภรรยาจากทางด้านหลัง"จะเดือนแล้วนะ" ตั้งแต่เดินทางทั้งสองไม่ได้เข้าใกล้กันเลย"คุณไม่เหนื่อยหรือไงคะ เพิ่งมาถึง""คุณรู้ไหม ว่ามันเป็นการเพิ่มกำลังอีกทาง""ไม่ใช่วัยรุ่นแล้วนะคะ ที่จะมาเพิ่มกำลังกับอะไรแบบนี้""คุณว่าผมแก่เหรอ""ใช่ค่ะ"
มือหนายื่นไปสัมผัสที่ผมบนศีรษะของเธอเบาๆ"คุณ?" พอเขาสัมผัสที่อื่นที่ไม่ใช่มือ.. เธอถึงกับสะดุ้ง "คุณไม่ใช่คนในมโนของฉันเหรอ?"ปลาวาฬส่ายหน้าตอบไปเล็กน้อย ใบหน้าของเขาช่างมีความอบอุ่น"ฉันกลับมาประเทศแล้วเหรอ" ที่เธอคิดว่าไม่ใช่เขาก็เพราะเธอมารักษาตัวที่ต่างประเทศ ถึงแม้เขาจะรู้และอยากตามมา แต่คงต้องใช้เวลา เพราะไม่ใช่ว่าจะเข้าประเทศนี้ได้ง่ายๆ"คุณอย่าไล่ผมไปไหนอีกเลย ถึงไล่ผมก็จะไม่ไป" ทีแรกก็อยากให้เธอเห็นว่าเขาเป็นแค่ภาพลวงตาที่เธอสร้างขึ้นมา เพราะถ้าเป็นภาพลวงตาเธอคงจะคุยกับเขานานกว่านี้"คุณปลาวาฬ คุณมาได้ยังไง?" เขาไม่ใช่แค่ภาพที่เธอสร้างขึ้นมาแล้วมันคือเขาจริงๆ"พอผมรู้ทุกอย่างก็รีบตามคุณมาที่นี่""เป็นคุณจริงๆ ด้วย โอ๊ย" หญิงสาวกำลังจะขยับตัวถอยห่าง จนลืมไปว่าร่างกายของเธอไม่ได้เต็มร้อย"คุณอย่าผลักไสผมไปไหนอีกเลยนะ ผมบอกแล้วไง ถึงไล่ผมก็จะไม่ไป""คุณไปหาคนที่ร่างกายแข็งแรงพร้อมที่จะเป็นภรรยาให้คุณดีกว่าค่ะ ฉันไม่พร้อม""ทำไมหรือครับ กับอีแค่ที่คุณจะมีลูกให้ผมไม่ได้ คุณต้องผลักไสไล่ส่งผมถึงขนาดนี้เลยเหรอ""คุณรู้เรื่องนี้แล้วเหรอคะ" หญิงสาวที่หลบสายตาเขา ค่อยๆ หันมองมาอีกที"
"คุณน้าครับ เรียกหมอให้ทีครับ""น้องเจ็บอีกแล้วใช่ไหม" "ใช่ครับ" "เรารออยู่ข้างนอกก่อนนะ น้าขอเข้าไปก่อน" เพราะห้องนี้เข้าได้แค่ทีละคน มันคือกฎของห้อง ICU ที่นี่ คนที่ไปตามคุณหมอก็คือรามสูร ที่จริงถ้าจะกดกริ่งแจ้งเตือนก็ได้ แต่ถ้าคนไข้อาการไม่หนักจริงๆ คุณหมอแนะนำให้ไปตามเอง"เกศ เป็นยังไงบ้างลูก""อึก อึก " เสียงสะอื้นของเกศรินค่อยๆ ดังขึ้น ด้วยสีหน้าที่ดูเจ็บปวดมาก"หนูเจ็บมากเลยเหรอลูก"ถ้าเธอมีอาการเจ็บเห็นหน้าแม่เธอก็จะบอกแม่ว่าเจ็บ แต่ครั้งนี้พอเห็นหน้าแม่เธอกลับร้องไห้"เขาไม่ทำตามสัญญา" "ใครไม่ทำตามสัญญาลูก""เขาบอกจะกลับมา" เป็นเหมือนทุกครั้งที่เธอเห็น พอออกไปคนที่กลับเข้ามาก็คือแม่"ถ้าหนูหมายถึง.." สโรชายังพูดไม่จบคุณหมอที่รามสูรไปตามก็เข้ามาก่อน พอคุณหมอเข้ามาญาติก็ต้องออกไป เพราะไม่งั้นจะกีดขวางการทำงานของทีมแพทย์ "คุณน้าครับ คุณน้าช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม" พอสโรชาออกมา ปลาวาฬก็เลยขอร้องให้พูดความจริงให้เขาฟัง"น้องเป็นมะเร็งระยะที่ 2 ""ระยะที่ 2 เหรอครับ?" เขารู้แค่ว่าเธอมีเชื้อมะเร็ง ก็เลยถูกส่งตัวมารักษาที่นี่ แต่ไม่รู้ว่าระยะที่เท่าไร"แล้วทำไมถึงไม่บอกผม" จ
"คุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวจริงเหรอคะ" หวานใจถามสามีในขณะที่สามีกำลังแต่งตัวจะเข้าบริษัท"ทำไมคุณถามแบบนั้น""ก็ฉันแปลกใจ ท่านเพิ่งจะกลับมาไม่นาน"ไม่ใช่แค่หวานใจหรอกที่แปลกใจ รามิลก็แปลกใจไม่ต่างกัน แต่งานที่พ่อทิ้งไว้ให้ทำมันเยอะมาก เพราะพ่อบินไปกะทันหัน เขาก็เลยไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นเลยในเมื่อสามีให้คำตอบไม่ได้ หวานใจก็ไม่ละความสงสัยนั้น เพราะมันดูแปลก>>{"มีอะไร"} "ใครโทรมาคะ" เสียงผู้หญิงดังเข้ามาในสาย "น้องสาวผมครับ" {"พี่ทำอะไรอยู่"}>>{"พี่กำลังทานข้าว"} {"แต่เสียงที่ฉันได้ยินไม่ใช่เสียงคุณเกศริน"}>>{"ก็พี่ไม่ได้มาทานข้าวกับเธอ"} {"พี่กับคุณเกศรินคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่พี่ไปทานข้าวกับผู้หญิงคนอื่นจะให้ฝ่ายหญิงคิดยังไง"}>>{"คบงั้นเหรอ? เราก็ลองถามคุณเกศรินของเราดูสิ"} {"ฉันจะถามได้ยังไง ฉันไม่ได้อยู่กับคุณเกศสักหน่อย"}>>{"เธอกลับไปอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ"} {"กลับมาอยู่บ้านที่ไหนฉันไม่เห็นเลย ที่บ้านก็มีแต่ฉันกับคุณรามิล"}>>{"แล้วแม่กับพ่อเธอล่ะ"} {"ฉันแปลกใจตรงนี้แหละ อยู่ดีๆ พวกท่านก็ทิ้งงานแล้วบินไปเที่ยวต่างประเทศ"}>>{"อะไรนะ? พวกท่านไปตั้งแต่เมื่อไ
"ทำไมผมมาอยู่ที่นี่?" ปลาวาฬมองไปรอบๆ ก็จำได้เลยว่าห้องที่เขาตื่นมาคือห้องใคร"ผมควรถามคุณมากกว่า"เราเมามากเลยเหรอวะ แล้วน้องคนนั้นล่ะ อย่าบอกนะว่าเราพามาค้างที่นี่ด้วย "..เมื่อคืนผมมาคนเดียวใช่ไหมครับ""มาสองคน"ตายห่าแล้ว ถึงแม้เธอจะไม่สนใจ แต่เขาก็ไม่อยากทำแบบนี้ให้ญาติของเธอเห็น เล่นหอบผู้หญิงมานอนห้องเช่าของน้องชายเธอเลยเหรอ"คือว่าผม ผมคงเมามาก ถึงได้ทำอะไรแบบนั้นลงไป"คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย สงสัยจะเมามากจริงๆ พูดไม่รู้เรื่อง "ผู้ชายคนที่มากับคุณเมื่อคืน บอกให้ผมดูแลคุณต่อหน่อยเขามีธุระต้องไปทำ""ผู้ชายเหรอครับ?" เหมือนยกภูเขาออกจาก แล้วผู้หญิงคนเมื่อคืนไปไหนวะเนี่ย ไปไหนก็ช่างเธอสิ "ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ" ปลาวาฬรู้ได้ในทันทีเลยว่าผู้ชายคนนั้นคงเป็นสายลม"คุณจะนอนต่อให้ส่างเมาก่อนก็ได้นะ""ไม่หรอกครับ ผมไปล่ะ" ออกจากห้องที่เขาเคยพัก ก็อดไม่ได้ที่จะมองห้องข้างๆ บางทีเธออาจจะกลับไปอยู่บ้านแล้วก็ได้ เพราะดูห้องเงียบมาก แต่ปลาวาฬก็ไม่ถาม หึ..เมาขนาดนี้ยังจำที่พักของเธอได้อีกเหรอ เป็นเอามากนะเรา เพราะสายลมคงไม่รู้จักที่นี่แน่พอออกมาจากห้องเช่าเขาก็มาที่โชว์รูม