"ดะ..ดะ.. เดี๋ยวก่อนนะคะ คือเรื่องนี้เราสองคนยัง.." หวานใจกำลังจะหาทางออก บอกผู้ใหญ่ไปก่อนว่าทั้งสองยังไม่ได้คุยเรื่องแต่งงานกันเลย แต่จังหวะเดียวกันนั้นก็มีชายวัยชราคนหนึ่งเดินเข้ามา
"รามิล"
"คุณปู่ครับ"
"มายืนทำอะไรกันตรงนี้ ทำไมไม่เข้าไปในงาน"
"คุณพ่อมาก็ดีแล้วครับ ตารามิลพาแฟนมาด้วย"
"หนูคนนี้เหรอ" เรวทัตมองไปที่ฝ่ายหญิงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ หลานชาย
"สวัสดีครับท่าน" ฉลามเห็นว่าท่านมองมาทางตัวเองด้วย เรวทัตก็เลยพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย "หวานใจเป็นบุตรสาวผมเองครับท่าน"
"อ้าวเหรอ คนกันเองทั้งนั้น" กำลังจะถามอยู่พอดีว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครบ้านอยู่ที่ไหน แต่พอรู้ว่าเป็นบุตรสาวของเสนาธิการ คนเป็นปู่ก็ยิ้มออก
"ใช่ครับพ่อ และผมก็คิดว่าจะจัดงานแต่งให้ทั้งสองต่อจากน้องสาวเลย" รามสูรหมายถึงสโนไวท์ เพราะสโนไวท์มีศักดิ์เป็นน้องสาว แถมยังอายุน้อยกว่ารามิล
ทั้งสองที่อยู่ในประโยคสนทนาของผู้ใหญ่ ได้แต่มองตากันปริบๆ เพราะตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้แล้ว
"เห็นแบบนี้ปู่ค่อยตายตาหลับหน่อย ถ้าแต่งงานกันแล้วก็ช่วยกันดูแลบริษัทของพ่อต่อนะ"
"ครับ?" ที่ดึงเธอคนนี้เข้ามาเพราะคิดว่าจะกลับไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศได้ แต่พอแต่งแล้วยังจะให้อยู่ดูแลบริษัทอีกเหรอ "คุณปู่ไม่ตายง่ายๆ หรอกครับ"
"รามิล!" สโรชาปรามลูกชายไม่ให้พูดแบบนี้
"เข้าไปในงานกันเถอะ" รามสูรเห็นว่าพ่อยืนนานแล้วก็เลยอยากพาเข้าไปนั่ง
เข้ามาด้านในญาติๆ อีกหลายคนต่างก็เข้ามาทักทาย เพราะรามิลไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว
"เดี๋ยวนะ..คนนี้หนูหวานใจไม่ใช่เหรอ" พอกองทัพทักทายหลานชายเสร็จก็มองไปดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน ที่กองทัพจำได้ในทันทีนั้นเพราะหวานใจเป็นลูกสาวของฉลามลูกน้องคนสนิท
"สวัสดีค่ะคุณลุง"
"พวกเรามาด้วยกันเหรอ"
"ไม่ได้แค่มาด้วยกันนะ แต่ทั้งสองเป็นแฟนกัน กำลังจะแต่งงานด้วย" เรวทัตบอกกองทัพลูกเขย
"ห๊า? อะไรนะครับ??" ประโยคนี้หลายคนเลยที่พูดขึ้นมาพร้อมกัน
"เดี๋ยวนะ เราอยู่กันคนละประเทศไม่ใช่เหรอ..หรือว่าอาจำผิด"
ตายห่าแล้วไม่รู้เลยว่าอีกคนอยู่ประเทศไหน "คือที่จริงพวกเรา..พวกเรา.."
"พี่เขาเดินทางมาเที่ยวที่อังกฤษค่ะ เราทั้งสองต่างก็เป็นคนไทยก็เลยเริ่มคุยกันตั้งแต่ตอนนั้น" หวานใจถือโอกาสเอ่ยชื่อประเทศที่ตัวเองไปเรียนให้ฝ่ายชายรู้ว่าเธออยู่ประเทศไหน ปัญหาคือเธอจะรู้ไหมว่าเขาอยู่ประเทศไหน ภาวนาขออย่าเพิ่งให้ผู้ใหญ่ถามเรื่องนี้เลย
"อ๋อเป็นแบบนี้นี่เอง ถ้างั้นเราก็มีข่าวดีคู่ที่สองแล้วสิ"
"เรื่องนี้เดี๋ยวปู่จะเป็นคนหาฤกษ์ให้" เรวทัตดีใจมากที่หลานชายคนโตจะเป็นฝั่งเป็นฝา แถมไม่ได้คว้าสาวแหม่มมาด้วย
รีเซฟชั่นโรงแรม..
พองานแต่งเลิก คนที่ยังไม่มีห้องก็ออกมาเช็คอินก่อน
"เหลือห้องเดียวจริงๆ ค่ะ มีงานเลี้ยงพร้อมกันสองงาน ที่จริงห้องจะไม่ว่างแล้วค่ะ แต่เจ้าของห้องยกเลิก"
ผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานแต่งต่างก็มีห้องกันหมดแล้ว เพราะมาค้างตั้งแต่เมื่อวาน ปัญหาคือตอนนี้หวานใจและรามิลเพิ่งเดินทางมาถึงก็เลยยังไม่ได้เช็คอิน
"คนเป็นแฟนกันพักด้วยกันคงไม่เป็นไรหรอก" เรวทัตที่ยังอยู่ตรงนั้นด้วยเสนอทางออกให้
ผู้ใหญ่ก็เลยไม่มีใครว่าอะไร เพราะถ้าใครแย้งขึ้นมากลัวอีกฝ่ายคิดว่าไม่อยากเกี่ยวดองกัน
____________________________ เรื่องราวของฉลามและแก้วใจอยู่ในเรื่องเมียสวมรอยนะคะ ลงไว้จบแล้วค่ะ^^ในห้องโรงแรม..และห้องนี้ก็มีแค่เตียงเดียว"ฉันชื่อหวานใจ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" หวานใจไม่รู้จะเริ่มยังไงก่อนดี ก็เลยเริ่มจากการแนะนำชื่อนี่แหละ"ผมชื่อรามิลยินดีที่ได้รู้จัก""อันดับแรกเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อน""ก็ว่ามาสิ""ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษคุณ ฉันไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดมาขนาดนี้""อืม""แต่จะว่าฉันผิดคนเดียวก็ไม่ใช่ คุณก็ผิดด้วย""อ้าว.." กำลังจะดีแล้วเชียว"ฉันว่าจะไม่โกหกพวกท่านต่อแล้ว แต่คุณดันแนะนำว่าฉันเป็นคนที่จะแต่งงานด้วยทำไมล่ะ""หึ""แต่ก็ช่างมันเถอะ ถือว่าเราเสมอกัน""หึหึ" ถ้าเธอไม่หาเรื่องคว้าตัวเขาไว้ตอนนั้นมันคงไม่เกิดอะไรขึ้นแล้ว"คุณอย่าเอาแต่ขำสิ""ก็คุณพูดเองหมดแล้วจะให้ผมพูดอะไร""คุณมีวิธีที่ทำให้เราสองคนไม่ต้องแต่งงานกันไหม""ไม่มี""เอ้าา""คุณรู้ไหมว่าความฝันสุดท้ายของคุณปู่คืออะไร""อะไร""อยากให้ผมมีเมียที่ไม่ใช่แหม่ม""คุณมีเมียแหม่มเหรอ"รามิลไม่ได้ตอบประโยคนี้ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา"ฉันไม่ถามก็ได้ แล้วเราจะทำยังไงกันต่อดี""ก็คงต้องแต่งงาน""นี่คุณ""คุณเป็นคนเริ่มก่อนไม่ใช่เหรอ""แต่ฉันยังไม่อยากแต่ง ฉันยังไม่อยากเป็นหม้ายตอนนี้คุณรู้
หวานใจลืมไปเลยว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า ถึงแม้ญาติๆ จะรู้จักสนิทสนมกัน แต่สำหรับเธอแล้วเขาก็คือคนแปลกหน้าอยู่ดีพอคิดได้แบบนั้นเธอก็หยุดพูด แล้วเปิดกระเป๋าเพื่อเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วยใช้เวลาอาบน้ำอยู่พอสมควร เพราะตั้งแต่เดินทางจากต่างประเทศมาเมืองไทย แถมยังต่อเครื่องมาที่นี่อีก ก็เลยทำความสะอาดร่างกายเยอะหน่อยแต่พอหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงหลับไปแล้ว"นี่คุณลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ" เธอจะไม่ยอมนอนร่วมเตียงกับคนที่ไม่อาบน้ำเด็ดขาด"ง่วงจะตายอยู่แล้วจะปลุกทำไม" ขณะที่ตอบเขาไม่ได้ลืมตาเลย"ถ้าคุณจะไม่อาบน้ำ ลงไปนอนพื้นเดี๋ยวนี้เลย""อะไรของเธอเนี่ย รู้ไหมว่าฉันนั่งเครื่องมากี่ชั่วโมง แถมยังต้องมาร่วมงานแต่งอีก""ฉันก็เหมือนกัน ฉันยังอาบน้ำได้เลย""โอ๊ยยย!!" รามิลลุกขึ้นแบบหงุดหงิด ถ้าเป็นผู้ชายด้วยกันคงโดนกระทืบ เพราะเวลานอนเขาไม่ชอบให้ใครมากวน"บ้าหรือไงจะไม่อาบน้ำ" หวานใจมองตามผู้ชายที่เดินซังกะตายเข้าห้องน้ำใช้เวลาอาบน้ำอยู่เพียงไม่นาน รามิลก็ออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดผม"ทำอะไรของเธอ""คุณห้ามข้ามเขตนี้มา""ฉันเคยเห็นแต่เอาหมอนข้างกั้น" ขณะที่เช็ดผมเขาก็
"ผู้หญิงอะไรร้ายชะมัด" เอาไปเอามาหวานใจลงไปนอนพื้น พร้อมกับหมอนหนึ่งใบและผ้าห่มที่มีอยู่ผืนเดียว เธอใช้ผ้าห่มผืนนั้นทั้งรองพื้นและก็ห่มไปในตัวเช้าวันต่อมา.."มีอะไรกันหรือเปล่าครับ" ทั้งสองถูกตามตัวให้มาพบที่ห้องอาหารวีไอพี"มานั่งก่อนสิลูก" สโรชาเรียกให้ว่าที่ลูกสะใภ้มานั่งใกล้ๆ เพราะคิดว่าเดี๋ยวลูกชายก็คงเดินตามคนรักมา แต่ไม่ใช่..เขาเดินไปนั่งอีกมุมหนึ่ง "รามิล" คนเป็นแม่ก็เลยเรียกให้มานั่งใกล้ๆ กัน เพราะถ้าผู้ใหญ่คุยด้วยจะได้หันมาทางเดียวไม่ต้องหันไปหลายทาง"ทางผู้ใหญ่คุยกันแล้วนะ" ประโยคนี้เรวทัตพูดกับหลานชาย แต่ที่จริงคนเป็นปู่นั่นแหละออกความคิดเห็นอยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นได้แต่นั่งฟัง "คุยกันว่ายังไงครับ""ฤกษ์ดีอีกสามวันข้างหน้า""ห๊าา!?""ที่เรียกมาเพราะจะถามพวกเราว่าอยากจัดงานที่นี่ หรือกลับไปจัดกรุงเทพฯ" เพราะทุกคนมาร่วมงานแต่งของเทวินที่ภาคตะวันออกแถบชายทะเล"คุณปู่ครับจะรีบไปไหนนักหนา""ถ้าไม่ใช่ฤกษ์สามวันข้างหน้า ก็ต้องรออีก สามเดือน""OK ครับ งั้นรอสามเดือน"ผู้ใหญ่ต่างก็มองหน้ากัน จนหวานใจกลัวว่าพวกท่านจะสงสัย "เรื่องไปเที่ยวของเราเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าผู้ใหญ่ได้ฤกษ์ดีเ
"ถ้านายเข้ามาฉันแทงไส้แตกแน่" กรรไกรตัดเล็บในมือถูกคลี่ออกมา เพราะตรงกลางจะมีแหลมๆ เพื่อไว้แคะขี้เล็บ หวานใจเพิ่งซื้อตอนลงเครื่องที่สนามบินนี่เอง"น่ากลัวมาก สงสัยว่าจะติดเชื้อโรคตายก่อนแน่" รามินไม่ได้สนใจผู้หญิงแบบเธออยู่แล้ว เขาแค่พูดเล่นๆ ไปงั้นแหละ"ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ ถึงแม้เราจะแต่งงานกัน แต่คุณห้ามเข้าใกล้ฉันเกิน 1 เมตร""อ้าวไม่ให้เข้าใกล้แล้วจะจูบยังไง""ทำไมต้องจูบด้วย" หญิงสาวรีบยกมือขึ้นมาปิดปากไว้"คุณครับ ไม่เคยดูฉากแต่งงานในละครเหรอ""คุณเล่นมุมกล้องเป็นไหม ฉันให้เข้าใกล้ก็ได้แต่ห้ามจูบจริง""เผอิญว่าผมชอบเล่นลิ้นมากกว่า" เขาหมายถึงว่าไม่ชอบเล่นมุมกล้องแต่ชอบเล่นลิ้น"ไอ้..ไอ้..""ไม่ได้ชอบเล่นลิ้นแค่ข้างบนนะ แต่ชอบ...." ขณะที่พูดสายตาคมมองต่ำลงไป เพื่อสื่อให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขาหมายถึงอะไร"ไอ้ลามก!""หึหึหึ ฮ่าาาา" ไม่ได้ขำแบบนี้นานแล้ว พอเธอออกจากห้องไปเขาก็หัวเราะออกมาจนสุดเสียง"จะลูกใครหลานใคร ถ้ามาทำอะไรฉัน ฉันเอาตายแน่""บ่นอะไร""พี่ปลาวาฬ?""เรื่องนั้นจริงเหรอ" ที่จริงปลาวาฬไม่ได้มาร่วมงานแต่งของเทวิน แต่พอได้ยินข่าวว่าน้องสาวจะจัดงานแต่งที่โรงแรมเดียวกัน ปลาวาฬ
"พูดเล่นไปได้! คนยิ่งกำลังคันอยู่" ทีแรกก็เคืองตาแต่ตอนนี้เริ่มจะคันแล้ว"คันเหรอ" ได้ยินประโยคสุดท้ายที่เธอพูด สายตาคมมองไปรอบๆ ข้าง"คุณกำลังคิดอะไรฉันคันตา! ทำเป็นเล่นอยู่ได้""หึหึ"หวานใจไม่รอให้เขาดูให้แล้ว มือเรียวยกขึ้นมาเพื่อที่จะขยี้"อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวทำให้""คุณจะทำอะไร?" หญิงสาวขยับใบหน้าหลบนิ้วที่เขายื่นเข้ามาใกล้"ก็เอาขี้ตาออกให้ไง""จะบ้าเหรอล้างมือหรือยัง""สองคนนั้นทำอะไรกันอยู่ครับพ่อ" ทศกัณฐ์ออกมาจากห้องกับภรรยา ก็เห็นหลานชายยืนหยอกล้อหญิงคนรักอยู่"เด็กคนนี้น่ารักน่าเอ็นดู" เรวทัตรู้สึกเอ็นดูหวานใจมาก คิดว่าเธอนี่แหละที่จะเอาหลานชายอยู่หมัด"ไปทานข้าวกันเถอะครับพ่อ""ไปสิ"พอชวนพ่อไปทานข้าวเสร็จ ทศกัณฐ์ก็หันไปชวนหลานชายกับหลานสะใภ้ห้องอาหารของโรงแรม..ญาติเกือบทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องอาหาร เพราะต้องแบ่งหน้าที่กันจัดงานแต่ง"รามิล!" สโรชาสะกิดลูกชายเมื่อผู้ใหญ่ถาม แต่เขาเอาแต่มองไปที่ผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องนั้นด้วย"ครับแม่""คุณอาถามเราว่าจะมีเพื่อนจากต่างประเทศเดินทางมาร่วมงานแต่งด้วยไหม""ไม่มีครับ" ที่จริงประโยคนี้หวานใจตอบผู้ใหญ่ไปแล้ว เพราะผู้ใหญ่ก็ถามประโย
เช้าวันต่อมา..พรวด~ ชายหนุ่มที่ดื่มน้ำทุกเช้าหลังจากตื่นนอนเป็นประจำ ถึงกับสำลักน้ำออกมา เมื่อเห็นว่าคนที่เข้าไปอาบน้ำก่อนออกมาในชุดไหน "แอ๊ะๆๆ""คุณเป็นอะไรไหม" หวานใจรีบเข้ามาลูบหลังให้"ผมว่าคุณไปใส่เสื้อผ้าก่อนดีกว่า""แหมทำเป็นมองไม่ได้ อิจฉาเค้าล่ะสิ""อิจฉา?""ถ้าคุณอยากได้แบบนี้..แบบนี้..ก็ไม่ยากนี่คะ พึ่งมือหมอไปเลย" ขณะที่พูดนิ้วเรียวชี้ไปที่หน้าอก แถมจังหวะต่อมาเธอชี้ลงไปใต้สะดือของตัวเองชายหนุ่มมองตามนิ้วที่เธอชี้ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอแบบไม่รู้ตัวถึงแม้ว่าเธอจะยังคงมีชุดชั้นในปิดกั้นอยู่ แต่ความอวบนูนนั้นเห็นเด่นชัดทั้งข้างบนและข้างล่างพอคุยกับเขาจบหวานใจก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วเลือกชุดที่จะใส่โดยไม่รีบทีแรกกำลังจะดื่มน้ำใหม่ แต่คิดว่าคงดื่มไม่ได้แล้วล่ะเพราะถ้าดื่มได้สำลักอีกแน่ รามิลก็เลยคว้าเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำสายๆ วันเดียวกัน.."พี่คะมานี่หน่อย" หวานใจที่เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงพร้อมรามิล เห็นว่าพี่ชายก็อยู่ในนี้ด้วย"ว่าไง" ปลาวาฬเดินเข้ามาหาน้องเมื่อเห็นว่าน้องสาวเรียก"เมื่อวานนี้ฉันลืมแนะนำให้พี่รู้จักคนนี้ชื่อรามิลค่ะ""พี่รู้แล้ว""พี่ชายฉันช
วันต่อมา.. และวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานของทั้งสองหญิงสาวที่อยู่ในชุดเจ้าสาวยืนมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ เวลานี้เธอพร้อมที่จะออกจากห้องแล้วแต่ทำไมเธอถึงมีความรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรลงไป จะแต่งงานกับชายรักชายจริงเหรอ ถ้าคนอื่นรู้..แล้วพ่อกับแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หรือว่าเขาก็คิดแบบเดียวกับเรา หาผู้หญิงสักคนมาแต่งงานด้วย เพื่อปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้พ่อกับแม่ต้องขายหน้า แต่สมัยนี้คนเขายอมรับกันได้หมดแล้วทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยากด้วยก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูได้ทำลายภวังค์ที่เธอกำลังคิดอยู่"ใกล้ฤกษ์แล้วออกไปกันเถอะลูก""แม่คะ""หือ""หวานกำลังจะแต่งงานจริงๆ ใช่ไหมคะ""ทำไมหนูถึงพูดแบบนั้น""เอ่อคือ..""บอกแม่มา""เปล่าค่ะไม่มีอะไร สงสัยหวานจะตื่นเต้นมากไป" แม่จะเชื่อไหมเนี่ยแก้วใจเอื้อมมือไปลูบผมลูกสาวเบาๆ เพื่อทำให้ลูกรู้ว่าแม่จะอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ ถึงแม้จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว"แม่""ไม่ร้องไห้นะลูก วันนี้เป็นวันมงคล" แค่เห็นสีหน้าก็รู้แล้วว่าลูกอยากจะร้องไห้ คงตื้นตันใจมากที่จะได้แต่งงานกับชายคนรักแต่สำหรับความคิดของหวานใจแล้ว ..ยกเลิกงานแต่งตอนนี้ยังทันไหมเนี่ย"เราออกไปกันเถอะ
"??" ดวงตากลมเปิดกว้างเมื่อถูกอีกฝ่ายแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ถึงแม้จะรู้สึกขยะแขยงเพราะคิดว่าเขาเคยทำแบบนี้กับผู้ชายมาแล้ว แต่เธอจะแสดงกิริยาแบบนั้นออกมาไม่ได้ เพราะตอนนี้สายตาทุกคู่มองมาที่เธอพิธีกรบนเวทีเริ่มทำหน้าที่ต่อ เพราะเห็นว่าคู่บ่าวสาวกำลังติดลม จนแขกที่มาร่วมในงานต่างปรบมือ..ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันพอถอนจูบสายตาคนเป็นเจ้าบ่าวก็มองไปข้างเวทีตรงที่เขามองก่อนจะขึ้นมา แต่ตอนนี้ไม่มีใครคนนั้นยืนอยู่ที่เดิมแล้วหลังงานแต่งจบลง..ห้องหอของทั้งสองถูกจัดเตรียมใหม่เป็นห้องสวีท และทั้งสองก็ต้องร่วมห้องหอที่โรงแรมนี้ให้ครบ 3 วัน ตามความเชื่อของคนโบราณ เพราะคุณปู่เป็นคนจัดแจงทุกอย่าง"ฝากดูแลน้องด้วยนะ" ก่อนที่ผู้ใหญ่จะออกจากห้องหอ แก้วใจหันมาฝากฝังลูกสาวกับลูกเขยอีกครั้ง"ครับ""คุณจะไปไหน มาแกะกระดุมเสื้อให้ฉันก่อน" พอผู้ใหญ่ออกไปแล้วรามิลกำลังจะเข้าห้องน้ำชายหนุ่มก็เลยเดินกลับมาแล้วค่อยๆ บรรจงปลดกระดุมเสื้อให้เธอ"เอ้าแกะยังไม่หมดเลย" เขาปลดกระดุมลงมาจนถึงเม็ดที่อยู่ช่วงเอว แต่กระดุมชุดนี้ยาวลงไปจนถึงสะโพก เพราะเป็นชุดเจ้าสาวแบบรัดรูป"ก็ดึงลงมาสิ""จะดึงได้ยังไง คุณรู้ไหมว่าชุดน
"??" ดวงตากลมเปิดกว้างเมื่อถูกอีกฝ่ายแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ถึงแม้จะรู้สึกขยะแขยงเพราะคิดว่าเขาเคยทำแบบนี้กับผู้ชายมาแล้ว แต่เธอจะแสดงกิริยาแบบนั้นออกมาไม่ได้ เพราะตอนนี้สายตาทุกคู่มองมาที่เธอพิธีกรบนเวทีเริ่มทำหน้าที่ต่อ เพราะเห็นว่าคู่บ่าวสาวกำลังติดลม จนแขกที่มาร่วมในงานต่างปรบมือ..ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันพอถอนจูบสายตาคนเป็นเจ้าบ่าวก็มองไปข้างเวทีตรงที่เขามองก่อนจะขึ้นมา แต่ตอนนี้ไม่มีใครคนนั้นยืนอยู่ที่เดิมแล้วหลังงานแต่งจบลง..ห้องหอของทั้งสองถูกจัดเตรียมใหม่เป็นห้องสวีท และทั้งสองก็ต้องร่วมห้องหอที่โรงแรมนี้ให้ครบ 3 วัน ตามความเชื่อของคนโบราณ เพราะคุณปู่เป็นคนจัดแจงทุกอย่าง"ฝากดูแลน้องด้วยนะ" ก่อนที่ผู้ใหญ่จะออกจากห้องหอ แก้วใจหันมาฝากฝังลูกสาวกับลูกเขยอีกครั้ง"ครับ""คุณจะไปไหน มาแกะกระดุมเสื้อให้ฉันก่อน" พอผู้ใหญ่ออกไปแล้วรามิลกำลังจะเข้าห้องน้ำชายหนุ่มก็เลยเดินกลับมาแล้วค่อยๆ บรรจงปลดกระดุมเสื้อให้เธอ"เอ้าแกะยังไม่หมดเลย" เขาปลดกระดุมลงมาจนถึงเม็ดที่อยู่ช่วงเอว แต่กระดุมชุดนี้ยาวลงไปจนถึงสะโพก เพราะเป็นชุดเจ้าสาวแบบรัดรูป"ก็ดึงลงมาสิ""จะดึงได้ยังไง คุณรู้ไหมว่าชุดน
วันต่อมา.. และวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานของทั้งสองหญิงสาวที่อยู่ในชุดเจ้าสาวยืนมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ เวลานี้เธอพร้อมที่จะออกจากห้องแล้วแต่ทำไมเธอถึงมีความรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรลงไป จะแต่งงานกับชายรักชายจริงเหรอ ถ้าคนอื่นรู้..แล้วพ่อกับแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หรือว่าเขาก็คิดแบบเดียวกับเรา หาผู้หญิงสักคนมาแต่งงานด้วย เพื่อปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้พ่อกับแม่ต้องขายหน้า แต่สมัยนี้คนเขายอมรับกันได้หมดแล้วทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยากด้วยก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูได้ทำลายภวังค์ที่เธอกำลังคิดอยู่"ใกล้ฤกษ์แล้วออกไปกันเถอะลูก""แม่คะ""หือ""หวานกำลังจะแต่งงานจริงๆ ใช่ไหมคะ""ทำไมหนูถึงพูดแบบนั้น""เอ่อคือ..""บอกแม่มา""เปล่าค่ะไม่มีอะไร สงสัยหวานจะตื่นเต้นมากไป" แม่จะเชื่อไหมเนี่ยแก้วใจเอื้อมมือไปลูบผมลูกสาวเบาๆ เพื่อทำให้ลูกรู้ว่าแม่จะอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ ถึงแม้จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว"แม่""ไม่ร้องไห้นะลูก วันนี้เป็นวันมงคล" แค่เห็นสีหน้าก็รู้แล้วว่าลูกอยากจะร้องไห้ คงตื้นตันใจมากที่จะได้แต่งงานกับชายคนรักแต่สำหรับความคิดของหวานใจแล้ว ..ยกเลิกงานแต่งตอนนี้ยังทันไหมเนี่ย"เราออกไปกันเถอะ
เช้าวันต่อมา..พรวด~ ชายหนุ่มที่ดื่มน้ำทุกเช้าหลังจากตื่นนอนเป็นประจำ ถึงกับสำลักน้ำออกมา เมื่อเห็นว่าคนที่เข้าไปอาบน้ำก่อนออกมาในชุดไหน "แอ๊ะๆๆ""คุณเป็นอะไรไหม" หวานใจรีบเข้ามาลูบหลังให้"ผมว่าคุณไปใส่เสื้อผ้าก่อนดีกว่า""แหมทำเป็นมองไม่ได้ อิจฉาเค้าล่ะสิ""อิจฉา?""ถ้าคุณอยากได้แบบนี้..แบบนี้..ก็ไม่ยากนี่คะ พึ่งมือหมอไปเลย" ขณะที่พูดนิ้วเรียวชี้ไปที่หน้าอก แถมจังหวะต่อมาเธอชี้ลงไปใต้สะดือของตัวเองชายหนุ่มมองตามนิ้วที่เธอชี้ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอแบบไม่รู้ตัวถึงแม้ว่าเธอจะยังคงมีชุดชั้นในปิดกั้นอยู่ แต่ความอวบนูนนั้นเห็นเด่นชัดทั้งข้างบนและข้างล่างพอคุยกับเขาจบหวานใจก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วเลือกชุดที่จะใส่โดยไม่รีบทีแรกกำลังจะดื่มน้ำใหม่ แต่คิดว่าคงดื่มไม่ได้แล้วล่ะเพราะถ้าดื่มได้สำลักอีกแน่ รามิลก็เลยคว้าเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำสายๆ วันเดียวกัน.."พี่คะมานี่หน่อย" หวานใจที่เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงพร้อมรามิล เห็นว่าพี่ชายก็อยู่ในนี้ด้วย"ว่าไง" ปลาวาฬเดินเข้ามาหาน้องเมื่อเห็นว่าน้องสาวเรียก"เมื่อวานนี้ฉันลืมแนะนำให้พี่รู้จักคนนี้ชื่อรามิลค่ะ""พี่รู้แล้ว""พี่ชายฉันช
"พูดเล่นไปได้! คนยิ่งกำลังคันอยู่" ทีแรกก็เคืองตาแต่ตอนนี้เริ่มจะคันแล้ว"คันเหรอ" ได้ยินประโยคสุดท้ายที่เธอพูด สายตาคมมองไปรอบๆ ข้าง"คุณกำลังคิดอะไรฉันคันตา! ทำเป็นเล่นอยู่ได้""หึหึ"หวานใจไม่รอให้เขาดูให้แล้ว มือเรียวยกขึ้นมาเพื่อที่จะขยี้"อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวทำให้""คุณจะทำอะไร?" หญิงสาวขยับใบหน้าหลบนิ้วที่เขายื่นเข้ามาใกล้"ก็เอาขี้ตาออกให้ไง""จะบ้าเหรอล้างมือหรือยัง""สองคนนั้นทำอะไรกันอยู่ครับพ่อ" ทศกัณฐ์ออกมาจากห้องกับภรรยา ก็เห็นหลานชายยืนหยอกล้อหญิงคนรักอยู่"เด็กคนนี้น่ารักน่าเอ็นดู" เรวทัตรู้สึกเอ็นดูหวานใจมาก คิดว่าเธอนี่แหละที่จะเอาหลานชายอยู่หมัด"ไปทานข้าวกันเถอะครับพ่อ""ไปสิ"พอชวนพ่อไปทานข้าวเสร็จ ทศกัณฐ์ก็หันไปชวนหลานชายกับหลานสะใภ้ห้องอาหารของโรงแรม..ญาติเกือบทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องอาหาร เพราะต้องแบ่งหน้าที่กันจัดงานแต่ง"รามิล!" สโรชาสะกิดลูกชายเมื่อผู้ใหญ่ถาม แต่เขาเอาแต่มองไปที่ผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องนั้นด้วย"ครับแม่""คุณอาถามเราว่าจะมีเพื่อนจากต่างประเทศเดินทางมาร่วมงานแต่งด้วยไหม""ไม่มีครับ" ที่จริงประโยคนี้หวานใจตอบผู้ใหญ่ไปแล้ว เพราะผู้ใหญ่ก็ถามประโย
"ถ้านายเข้ามาฉันแทงไส้แตกแน่" กรรไกรตัดเล็บในมือถูกคลี่ออกมา เพราะตรงกลางจะมีแหลมๆ เพื่อไว้แคะขี้เล็บ หวานใจเพิ่งซื้อตอนลงเครื่องที่สนามบินนี่เอง"น่ากลัวมาก สงสัยว่าจะติดเชื้อโรคตายก่อนแน่" รามินไม่ได้สนใจผู้หญิงแบบเธออยู่แล้ว เขาแค่พูดเล่นๆ ไปงั้นแหละ"ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ ถึงแม้เราจะแต่งงานกัน แต่คุณห้ามเข้าใกล้ฉันเกิน 1 เมตร""อ้าวไม่ให้เข้าใกล้แล้วจะจูบยังไง""ทำไมต้องจูบด้วย" หญิงสาวรีบยกมือขึ้นมาปิดปากไว้"คุณครับ ไม่เคยดูฉากแต่งงานในละครเหรอ""คุณเล่นมุมกล้องเป็นไหม ฉันให้เข้าใกล้ก็ได้แต่ห้ามจูบจริง""เผอิญว่าผมชอบเล่นลิ้นมากกว่า" เขาหมายถึงว่าไม่ชอบเล่นมุมกล้องแต่ชอบเล่นลิ้น"ไอ้..ไอ้..""ไม่ได้ชอบเล่นลิ้นแค่ข้างบนนะ แต่ชอบ...." ขณะที่พูดสายตาคมมองต่ำลงไป เพื่อสื่อให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขาหมายถึงอะไร"ไอ้ลามก!""หึหึหึ ฮ่าาาา" ไม่ได้ขำแบบนี้นานแล้ว พอเธอออกจากห้องไปเขาก็หัวเราะออกมาจนสุดเสียง"จะลูกใครหลานใคร ถ้ามาทำอะไรฉัน ฉันเอาตายแน่""บ่นอะไร""พี่ปลาวาฬ?""เรื่องนั้นจริงเหรอ" ที่จริงปลาวาฬไม่ได้มาร่วมงานแต่งของเทวิน แต่พอได้ยินข่าวว่าน้องสาวจะจัดงานแต่งที่โรงแรมเดียวกัน ปลาวาฬ
"ผู้หญิงอะไรร้ายชะมัด" เอาไปเอามาหวานใจลงไปนอนพื้น พร้อมกับหมอนหนึ่งใบและผ้าห่มที่มีอยู่ผืนเดียว เธอใช้ผ้าห่มผืนนั้นทั้งรองพื้นและก็ห่มไปในตัวเช้าวันต่อมา.."มีอะไรกันหรือเปล่าครับ" ทั้งสองถูกตามตัวให้มาพบที่ห้องอาหารวีไอพี"มานั่งก่อนสิลูก" สโรชาเรียกให้ว่าที่ลูกสะใภ้มานั่งใกล้ๆ เพราะคิดว่าเดี๋ยวลูกชายก็คงเดินตามคนรักมา แต่ไม่ใช่..เขาเดินไปนั่งอีกมุมหนึ่ง "รามิล" คนเป็นแม่ก็เลยเรียกให้มานั่งใกล้ๆ กัน เพราะถ้าผู้ใหญ่คุยด้วยจะได้หันมาทางเดียวไม่ต้องหันไปหลายทาง"ทางผู้ใหญ่คุยกันแล้วนะ" ประโยคนี้เรวทัตพูดกับหลานชาย แต่ที่จริงคนเป็นปู่นั่นแหละออกความคิดเห็นอยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นได้แต่นั่งฟัง "คุยกันว่ายังไงครับ""ฤกษ์ดีอีกสามวันข้างหน้า""ห๊าา!?""ที่เรียกมาเพราะจะถามพวกเราว่าอยากจัดงานที่นี่ หรือกลับไปจัดกรุงเทพฯ" เพราะทุกคนมาร่วมงานแต่งของเทวินที่ภาคตะวันออกแถบชายทะเล"คุณปู่ครับจะรีบไปไหนนักหนา""ถ้าไม่ใช่ฤกษ์สามวันข้างหน้า ก็ต้องรออีก สามเดือน""OK ครับ งั้นรอสามเดือน"ผู้ใหญ่ต่างก็มองหน้ากัน จนหวานใจกลัวว่าพวกท่านจะสงสัย "เรื่องไปเที่ยวของเราเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าผู้ใหญ่ได้ฤกษ์ดีเ
หวานใจลืมไปเลยว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า ถึงแม้ญาติๆ จะรู้จักสนิทสนมกัน แต่สำหรับเธอแล้วเขาก็คือคนแปลกหน้าอยู่ดีพอคิดได้แบบนั้นเธอก็หยุดพูด แล้วเปิดกระเป๋าเพื่อเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วยใช้เวลาอาบน้ำอยู่พอสมควร เพราะตั้งแต่เดินทางจากต่างประเทศมาเมืองไทย แถมยังต่อเครื่องมาที่นี่อีก ก็เลยทำความสะอาดร่างกายเยอะหน่อยแต่พอหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงหลับไปแล้ว"นี่คุณลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ" เธอจะไม่ยอมนอนร่วมเตียงกับคนที่ไม่อาบน้ำเด็ดขาด"ง่วงจะตายอยู่แล้วจะปลุกทำไม" ขณะที่ตอบเขาไม่ได้ลืมตาเลย"ถ้าคุณจะไม่อาบน้ำ ลงไปนอนพื้นเดี๋ยวนี้เลย""อะไรของเธอเนี่ย รู้ไหมว่าฉันนั่งเครื่องมากี่ชั่วโมง แถมยังต้องมาร่วมงานแต่งอีก""ฉันก็เหมือนกัน ฉันยังอาบน้ำได้เลย""โอ๊ยยย!!" รามิลลุกขึ้นแบบหงุดหงิด ถ้าเป็นผู้ชายด้วยกันคงโดนกระทืบ เพราะเวลานอนเขาไม่ชอบให้ใครมากวน"บ้าหรือไงจะไม่อาบน้ำ" หวานใจมองตามผู้ชายที่เดินซังกะตายเข้าห้องน้ำใช้เวลาอาบน้ำอยู่เพียงไม่นาน รามิลก็ออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดผม"ทำอะไรของเธอ""คุณห้ามข้ามเขตนี้มา""ฉันเคยเห็นแต่เอาหมอนข้างกั้น" ขณะที่เช็ดผมเขาก็
ในห้องโรงแรม..และห้องนี้ก็มีแค่เตียงเดียว"ฉันชื่อหวานใจ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" หวานใจไม่รู้จะเริ่มยังไงก่อนดี ก็เลยเริ่มจากการแนะนำชื่อนี่แหละ"ผมชื่อรามิลยินดีที่ได้รู้จัก""อันดับแรกเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อน""ก็ว่ามาสิ""ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษคุณ ฉันไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดมาขนาดนี้""อืม""แต่จะว่าฉันผิดคนเดียวก็ไม่ใช่ คุณก็ผิดด้วย""อ้าว.." กำลังจะดีแล้วเชียว"ฉันว่าจะไม่โกหกพวกท่านต่อแล้ว แต่คุณดันแนะนำว่าฉันเป็นคนที่จะแต่งงานด้วยทำไมล่ะ""หึ""แต่ก็ช่างมันเถอะ ถือว่าเราเสมอกัน""หึหึ" ถ้าเธอไม่หาเรื่องคว้าตัวเขาไว้ตอนนั้นมันคงไม่เกิดอะไรขึ้นแล้ว"คุณอย่าเอาแต่ขำสิ""ก็คุณพูดเองหมดแล้วจะให้ผมพูดอะไร""คุณมีวิธีที่ทำให้เราสองคนไม่ต้องแต่งงานกันไหม""ไม่มี""เอ้าา""คุณรู้ไหมว่าความฝันสุดท้ายของคุณปู่คืออะไร""อะไร""อยากให้ผมมีเมียที่ไม่ใช่แหม่ม""คุณมีเมียแหม่มเหรอ"รามิลไม่ได้ตอบประโยคนี้ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา"ฉันไม่ถามก็ได้ แล้วเราจะทำยังไงกันต่อดี""ก็คงต้องแต่งงาน""นี่คุณ""คุณเป็นคนเริ่มก่อนไม่ใช่เหรอ""แต่ฉันยังไม่อยากแต่ง ฉันยังไม่อยากเป็นหม้ายตอนนี้คุณรู้
"ดะ..ดะ.. เดี๋ยวก่อนนะคะ คือเรื่องนี้เราสองคนยัง.." หวานใจกำลังจะหาทางออก บอกผู้ใหญ่ไปก่อนว่าทั้งสองยังไม่ได้คุยเรื่องแต่งงานกันเลย แต่จังหวะเดียวกันนั้นก็มีชายวัยชราคนหนึ่งเดินเข้ามา"รามิล""คุณปู่ครับ""มายืนทำอะไรกันตรงนี้ ทำไมไม่เข้าไปในงาน" "คุณพ่อมาก็ดีแล้วครับ ตารามิลพาแฟนมาด้วย""หนูคนนี้เหรอ" เรวทัตมองไปที่ฝ่ายหญิงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ หลานชาย"สวัสดีครับท่าน" ฉลามเห็นว่าท่านมองมาทางตัวเองด้วย เรวทัตก็เลยพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย "หวานใจเป็นบุตรสาวผมเองครับท่าน""อ้าวเหรอ คนกันเองทั้งนั้น" กำลังจะถามอยู่พอดีว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครบ้านอยู่ที่ไหน แต่พอรู้ว่าเป็นบุตรสาวของเสนาธิการ คนเป็นปู่ก็ยิ้มออก"ใช่ครับพ่อ และผมก็คิดว่าจะจัดงานแต่งให้ทั้งสองต่อจากน้องสาวเลย" รามสูรหมายถึงสโนไวท์ เพราะสโนไวท์มีศักดิ์เป็นน้องสาว แถมยังอายุน้อยกว่ารามิลทั้งสองที่อยู่ในประโยคสนทนาของผู้ใหญ่ ได้แต่มองตากันปริบๆ เพราะตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้แล้ว"เห็นแบบนี้ปู่ค่อยตายตาหลับหน่อย ถ้าแต่งงานกันแล้วก็ช่วยกันดูแลบริษัทของพ่อต่อนะ""ครับ?" ที่ดึงเธอคนนี้เข้ามาเพราะคิดว่าจะกลับไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศได้ แต่พอแต่