"คุณจะทำอะไร" จะถอยหนีก็ไม่ได้แล้ว เพราะด้านหลังของเธอคือตู้เสื้อผ้า แต่ตอนนี้เขายืนขวางอยู่ด้านหน้า"บอกพ่อผมไปว่าคุณจะไม่ทำงานที่นั่น""ทำไมฉันต้องบอกแบบนั้นด้วย ในเมื่อพรุ่งนี้ฉันก็จะเข้ารับตำแหน่งแล้ว""เพราะตำแหน่งนั้นมันมีคนที่เหมาะสมกว่า""ถ้าคนนั้นเหมาะสมจริงควรจะได้รับตำแหน่งนี้นานแล้วมั้งคะ""เธออยากมีเรื่องใช่ไหม""ใครเขาอยากมีเรื่องกันบ้าง ใช้สมองบ้างสิ""ฉันอุตส่าห์คุยกับเธอดีๆ แล้วนะ""นี่เขาเรียกว่าดีแล้วเหรอคะ เท่าที่มองคุณกำลังหาเรื่องฉันมากกว่า""เธอเป็นใครฉันก็ยังไม่รู้""ฉันชื่อหวานใจเป็นลูกสาวของเสนาธิการฉลาม รู้จักหรือยังล่ะคะ""เธอไม่ต้องมายอกย้อน""ก็คุณบอกว่าไม่รู้จักฉัน ฉันก็แนะนำตัวอยู่นี่ไง"รามิลไม่รู้จะพูดยังไงกับเธอดีแล้ว แบบเธอคงไม่กลัวผู้ชาย เพราะเขายืนใกล้ขนาดนี้เธอยัง ปากดีได้อีก"ถอยไปค่ะ ฉันจะอาบน้ำแล้วรีบลงไปทานข้าวกับคุณแม่""หึ..เรียกแม่ได้เต็มปากเลยนะ"ดีนะที่เธอไม่มีใจให้อีตาหมอนี่..ถ้าไม่งั้น..ไม่อยากจะคิดต่อเลย มือเรียวเอื้อมไปผลักร่างหนาของคนที่ยืนขวางอยู่ให้หลบ แล้วเธอก็เดินเข้าห้องน้ำ เพราะยิ่งถ้าพูดก็ยิ่งจะไม่จบง่ายหวานใจลงมาถึงข้างล่าง
หวานใจนั่งรถมากับเขาแต่ก็เหมือนมาคนเดียว เพราะไม่มีคำสนทนาใดๆ จากคนทั้งสองเลย จนรถวิ่งเข้ามาจอดที่บริษัท"สวัสดีครับท่านรองประธาน" มีบางคนที่รู้จักรามิล แต่ถึงแม้ไม่รู้จักก็ต้องรีบทำความรู้จักไว้ เพราะเป็นถึงลูกชายคนโตของเจ้าของบริษัท พอรู้ว่ารามิลที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งรองประธานจะมาดูโรงงาน หลายคนก็รีบออกมาเอาหน้า"สวัสดีครับ" เขาไม่รู้หรอกว่าคนที่มารับชื่ออะไร..ตำแหน่งอะไร และเขาก็ยังไม่อยากจะรู้ตอนนี้ด้วย พอทักทายกันเสร็จ คนที่มาต้อนรับก็พาเดินเข้าไปในโรงงานหวานใจที่ติดรถมาด้วยก็เลยเดินตามหลังไป"ท่านประธานแจ้งมาว่าอยากให้ผมพาดูไลน์ผลิตสินค้าก่อนครับ" คนที่พาเดินก็คืออัมรินทร์ผู้จัดการโรงงาน"ตามนั้นครับ" เขาไม่ได้ขี้เกียจที่จะเข้ามารับตำแหน่งในบริษัทของพ่อเลย แต่ถ้ามาทำงานแล้วเจอหน้า.... ทุกๆ วัน เขากลัวใจตัวเอง เพราะเธอทำงานในบริษัท รามิลก็เลยตัดปัญหาไม่เข้ามาบริหารงาน คิดได้แบบนั้นชายหนุ่มก็เลยหยุดแล้วหันกลับไปมองดูผู้หญิงที่ก่อเรื่อง ถ้าไม่เพราะเธอเขาก็คงยังไม่เข้ามาทำงาน หรืออาจจะไม่ทำเลยก็ได้ เพราะถึงแม้บริษัทนี้ไม่มีเขาก็ยังคงมีทายาทคนอื่นอยู่หลายคนที่เดินตามมาเห็นว่ารองประ
"เอ่อ..คือ.. คุณพ่อคะเรื่องนั้น" ที่เธอให้นำสินค้าไปซ่อนไว้ก่อน เพราะอยากคุยกับคนที่จะช่วยเรื่องนี้ได้ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนไปเห็นสินค้าล็อตนั้นก่อน"คุณพ่อจะเข้าโรงงานเหรอครับ" หวานใจกำลังจะเอ่ยปากพูดแต่เสียงนี้ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะก่อน"ใช่แล้วล่ะ""พอดีเลย ผมมีงานค้างที่โรงงาน""ทานข้าวเช้ากันก่อน แล้วค่อยตามพ่อไป""ทำไมคุณพ่อไม่ทานข้าวก่อนล่ะคะ" ถ้าท่านทานข้าวเธออาจจะหาเวลาคุยเรื่องนั้นได้ แต่ถ้าจะให้คุยตอนนี้คงไม่ได้แล้ว"ไม่มีเวลาแล้ว เดี๋ยวพ่อไปหาอะไรทานที่โรงงานก็ได้ แล้วค่อยตามพ่อมาทั้งสองคนนั่นแหละ" ว่าแล้วรามสูรก็ออกจากบ้านไป ทิ้งให้หวานใจมองตามหลัง หรือว่าจะขอติดรถไปกับท่านดีเพล้ง! "โอ๊ย"หวานใจกำลังจะรีบตามพ่อสามีออกไป แต่เสียงนี้ดังขึ้นจนเธอหันกลับไปมองก่อน แต่ก็ยังมีคนไวกว่าเธอ เพราะตอนนี้สามีของเธอเดินเข้าไปช่วยแล้ว"กุลบอกแล้วว่าเดี๋ยวกุลถือให้เองค่ะ" แม่บ้านคนสนิทของเกศรินรีบเข้ามา แต่ก็ไม่ทันรามิลที่เข้าไปช่วย"......" หวานใจเห็นภาพตรงหน้าแทนที่เธอจะ โกรธ โมโห แต่เธอกลับตกใจจนมองไปที่แม่ของเขา เพราะรามิลอุ้มเกศรินออกมาจากถ้วยแกงที่แตก "..คุณพ่อ" พอคิดได้ว่าเธอต้องตามพ่
"สวัสดีค่ะ ดิฉันขอพูดอะไรหน่อยได้ไหมคะ" คนที่มีตำแหน่งเล็กที่สุดในห้องประชุมนี้ ค่อยๆ ชูมือขึ้นแบบประหม่า"คุณชื่อนิศราใช่ไหม" อัมรินทร์ก็เคยดิวงานกับนิศรามาบ้าง ที่เอ่ยนามออกมาด้วยเพราะอยากให้ท่านผู้บริหารในห้องนี้รู้จักชื่อด้วย"ใช่ค่ะ ดิฉันเป็นรองหัวหน้าแผนกค่ะ" แผนกที่นิศราหมายถึงก็คือแผนกส่งออก"เรามีอะไรจะพูด เชิญได้เลย" รามสูรเป็นคนอนุญาต"ที่จริงแล้วคุณเขาไม่ได้ผิดอะไรเลยค่ะ ดิฉันเองต่างหากที่ขอความช่วยเหลือ แถมคุณลุงคนขับรถ.." นิศรามองไปที่ลุงคนขับรถ เพราะตอนนี้ก็นั่งอยู่ในห้องประชุมด้วย "คุณลุงบอกว่าหาเงินเลี้ยงหลานที่กำพร้า"พอรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นรามสูรก็มองมาที่ลูกสะใภ้ และไม่ได้มองแค่รามสูร ลูกชายของเขาก็มองมาด้วย"ผมต้องขออภัยมากเลยนะครับ ที่ไม่กล้าบอกความจริง" คนขับรถยกมือไหว้ขอโทษแถมยังไหว้ขอบคุณที่หวานใจยอมเสี่ยงช่วย"เอาเป็นว่าเรื่องนี้เราจะคุยกันอีกที ดูก่อนว่าสินค้าเสียหายมากน้อยแค่ไหน" รามสูรก็เลยสั่งปิดการประชุมก่อนหึ.. เหมือนกันเป๊ะเลย ลูกสะใภ้กับแม่ย่าทำไมเหมือนกันขนาดนี้ นี่คือความคิดของรามสูร เพราะตั้งแต่สมัยที่สโรชาเข้ามาทำงานในบริษัท เธอก็คอยช่วยเหลือคนใน
ขณะที่เดินมารอรถเมล์อีกป้ายหนึ่ง หญิงสาวก็คิดอยู่ว่าเธอจะอยู่ไปเพื่ออะไร ถึงอยู่ต่อไปก็เหมือนไม่มีตัวตนในสายตาของเขาอยู่แล้ว เพราะคนที่อยากให้มองเห็นเธอมากที่สุดก็คือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ถึงแม้ว่าการแต่งงานนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความรัก>>{"พี่"} หวานใจโทรไปหาพี่ชาย เสียงโทรศัพท์ดังแค่ครั้งเดียวปลายสายก็รีบรับแล้ว {"ตอนนี้พี่อยู่บ้านไหม"} {"ทำไม"}>>{"ฉันแค่ถามว่าพี่อยู่บ้านไหม"} {"พี่อยู่โชว์รูมต่างจังหวัด มีเรื่องอะไรหรือเปล่า"}>>{"เปล่าหรอก พรุ่งนี้วันหยุดก็เลยอยากจะชวนไปเที่ยว"} {"ให้พี่ไปหาไหม"} ไม่ใช่แค่ในประเทศ ตอนที่อยู่ต่างประเทศน้องโทรมาหาเหมือนว่ามีปัญหาปลาวาฬก็รีบบินไป>>{"ไม่รบกวนหรอก แค่นี้นะ"} ได้ยินเสียงพี่ชายค่อยรู้สึกชื่นใจหน่อยเพราะเมื่อสักครู่ไม่ไหวแล้วจริงๆรอรถอยู่เกือบชั่วโมงก็มีแท็กซี่ว่างผ่านมา หวานใจเรียกให้แท็กซี่พามาส่งที่บ้านของเขา ใจจริงแล้วก็อยากให้รถไปส่งบ้านหาพ่อกับแม่ แต่ปัญหาแค่นี้มันยังจิ๊บจ๊อยสำหรับเธอ เพราะตอนอยู่ต่างประเทศหนักกว่านี้เยอะ"แม่กำลังจะให้พี่ออกไปดูที่บริษัทอยู่เลย"หึ.. แบบเขาเหรอจะไปตามเรา "พอดีว่าติดงานนิดหน่อยค่ะก็เล
ทานข้าวเสร็จรามิลก็นั่งคุยกับพ่อของเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะขึ้นมาบนห้องแกร็ก.. เข้ามาในห้องที่แม่ของเธอบอกว่าเป็นห้องลูกสาว แต่พอเข้ามาก็ได้ยินเสียงคนใช้ห้องน้ำอยู่ ชายหนุ่มเดินไปนั่งลงบนเตียงแกร็ก!"?" ไม่คิดว่าเขาจะขึ้นมาเร็วขนาดนี้อุตส่าห์อาบน้ำให้เร็วแล้วนะ หญิงสาวที่มีแค่ผ้าเช็ดตัวพันรอบร่างกาย เดินออกมาหยิบชุดที่ตู้เสื้อผ้าแล้วกลับเข้าไปในห้องน้ำใหม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเธอก็ออกมา.. ขณะที่นั่งหวีผมและทาครีมก่อนนอน เธอก็ไม่ได้พูดอะไร ส่วนเขาก็ไม่ถามอะไรเช่นกันหวานใจเดินอ้อมไปนอนอีกฝั่งหนึ่ง โดยไม่ได้สนใจและไม่ถามด้วยว่าเขาจะอาบน้ำไหมชายหนุ่มหยิบรีโมทมาปรับอุณหภูมิแอร์ให้เย็นขึ้นมาหน่อย เพราะเขาไม่ได้อาบน้ำก็เลยรู้สึกร้อน ส่วนคนที่เพิ่งอาบน้ำมาก็หนาวน่ะสิ เธอก็เลยดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้โดยที่ไม่พูดอะไรอีกนั่นแหละรามิลเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูได้ครู่หนึ่งแบตก็หมด "หมดอะไรตอนนี้" ที่ชาร์จก็ไม่ได้เอาติดรถมาด้วย "ยืมที่ชาร์จโทรศัพท์หน่อย"หวานใจหันกลับมามอง ถ้าไม่เพราะเรื่องโทรศัพท์เขาคงไม่คุยกับเธอสินะ "ไม่ได้เอามาด้วย""ถ้างั้นกลับไปนอนที่บ้านกัน""คุณอยากกลับก็กลับไปสิ""คิดหรือว่
หวานใจไม่ได้ตอบโต้สิ่งที่คนเป็นสามีพูด ในเมื่อพวกเขามีหลักฐานเธอจะเถียงได้อย่างไร "หวานขอตัวไปทำงานนะคะ" พูดจบเธอก็ออกจากห้องไปทั้งสามที่อยู่ในห้องได้แต่มองตาม"เดี๋ยวผมจัดการเองครับ" เธอทำแบบนี้มันยิ่งทำให้คนอื่นไม่สบายใจ รามิลก็เลยเดินตามมาที่ห้องทำงาน"ฟังคนอื่นบ้างสิ" จังหวะที่ประตูห้องหวานใจกำลังจะปิดลง รามิลก็ได้ผลักมันเข้ามา"โอ๊ย" เธอยังไม่ได้ออกห่างจากประตู พอเขาผลักเข้ามาก็เลยชนเข้ากับหน้าผาก"เจ็บไหม" มือหนาเอื้อมไปกำลังจากลูบดู แต่หญิงสาวรีบถอยหลังออกไป "คุณพ่อไม่สบายใจเรื่องนั้น ฉันก็เลยอยากจะมาคุยกับเธอ" ขณะที่พูดสายตาเขามองดูหน้าผากตรงที่กำลังเริ่มมีรอยแดง"บอกท่านให้ท่านสบายใจได้เลย ไม่ต้องมาสนใจฉัน" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปนั่งลงเก้าอี้ทำงานได้ยินเสียงเขาออกจากห้องเธอถึงได้เงยหน้าขึ้นมามอง แต่นั่งอยู่แค่ครู่เดียว ก็มีคนเคาะประตู"เข้ามาค่ะ" ถ้าเป็นเขาคงไม่เคาะหรอกคงเป็นคนอื่น"คุณรามิลบอกว่า ประตูชนหน้าผากของคุณ" กานดานำยาทาเข้ามาให้ "โอ้โหแดงเลยค่ะ""เดี๋ยวฉันทำเองค่ะขอบคุณมาก" พอหวานใจรับยามาเธอก็เดินเข้าห้องน้ำ เพราะกระจกมีแค่อยู่ในนั้น ถ้าเป็นหญิงคนรักเขาคงจะเปิดร
"ไหวไหมคะ นิศาว่าไปหาหมอก่อนดีกว่าไหม""ไหวสิคะ แค่ขาแพลงเอง"ลุงคนขับรถอยากช่วยพยุง แต่เพราะเป็นผู้ชายก็เลยไม่อยากแตะตัวเธอทั้งสามเดินออกมาเรียกแท็กซี่ด้านหน้าห้องเช่า เพราะห้องเช่าก็อยู่ใกล้ถนนที่รถสัญจรไปมา[โรงงาน]"นิศาไปเองได้ค่ะ" นิศราเห็นว่าหวานใจเดินไม่ถนัด กว่าจะเดินไปถึงแผนกส่งออกคงลำบากแย่"ไปด้วยกันนี่แหละค่ะ" แต่นิศราไม่รู้อะไรซะแล้ว หนักกว่านี้หวานใจก็เจอมาแล้ว"เราไปไหนมา" เอกภพหัวหน้าแผนกเห็นลูกน้องกลับมาก็เริ่มต่อว่า"คือว่า..นิศาออกไปธุระมาค่ะ""รู้แล้วว่าธุระ แต่ธุระอะไร!""ธุระกับฉันนี่แหละค่ะ""คุณ??" มัวโมโหให้ลูกน้องก็เลยไม่ได้สังเกตคนรอบข้าง"ใช่ค่ะ ฉันเป็น.." ทีแรกหวานใจกำลังจะบอกว่าเธอเป็นภรรยาของใคร แต่ไม่ดีกว่า เดี๋ยวถึงหูเขาก็หาเรื่องเธออีก "ฉันเป็นผู้ช่วยท่านประธาน""ผมไม่รู้ว่าลูกน้องออกไปกับคุณขอโทษด้วยครับ แต่ถึงยังไงผมก็คงต้องว่าให้ลูกน้องอยู่ดีเพราะออกจากโรงงานโดยไม่แจ้งก่อน""มีอะไรเกิดขึ้นเหรอคะ" ถ้าไม่มีอะไรหัวหน้าคงไม่โมโหแบบนี้"ก็คนที่จัดสินค้าส่งออก ส่งผิดล็อตน่ะสิครับ""แต่นิศาก็ให้รายละเอียดไว้แล้วนี่คะ""มันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องดูเอง"
พลาดรักคุณสามี ตอนพิเศษหลังงานแต่งของทั้งสองจบลง.."ถ้างานคุณยุ่ง เรื่องฮันนีมูนเราก็เลื่อนออกไปก่อนก็ได้นี่คะ""ผมบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับคุณอีกแล้ว"ชีวิตหนึ่งเกิดมาแค่นี้ก็พอแล้ว ขอแค่มีชายคนรักที่เห็นว่าเธอสำคัญที่สุด"ก็ได้ค่ะ ฉันขอแค่ในประเทศนะ ถ้าเดินทางไปต่างประเทศมันเหนื่อยเกินไป" ที่จริงมันเป็นแค่ข้ออ้าง ถ้ายังอยู่ในประเทศเผื่อมีงานด่วนเขาจะได้จัดการงานนั้นง่ายหน่อย"แล้วคุณชอบภูเขาหรือทะเลล่ะ""ชอบปลาวาฬค่ะ""หือ?""ฉันชอบคุณ จะให้ฉันชอบอย่างอื่นได้ยังไง""ผมตั้งใจว่าจะเก็บแรงไว้ตอนฮันนีมูนกัน""ยังไงคะ""คุณเล่นอ้อนแบบนี้ผมก็ต้องได้เอาแรงออกมาใช้ก่อนน่ะสิ""คุณปลาวาฬ" ถึงแม้จะมีอะไรกับเขาหลายครั้งแล้ว แต่พอพูดถึงเรื่องนี้เธอก็มีความอายอยู่ดี"น่ารักจัง" มือหนาเอื้อมไปลูบไล้แก้มนวลของภรรยาด้วยความเอ็นดู "ถ้าคุณชอบปลาวาฬงั้นเราก็คงต้องไปทะเลกัน""ค่ะ" คนตัวเล็กแนบลำตัวลงกับอกแกร่งของผู้เป็นสามีหมาดๆ"นอนก่อนนะครับคนดี นอนเอาแรงไว้เยอะๆ พรุ่งนี้เราจะเดินทางกันแล้ว""พรุ่งนี้เลยหรือคะ..แล้วงานของคุณล่ะคะ""ตอนเช้าเดี๋ยวผมเข้าไปเคลียร์งาน เราจะเดินทางตอนบ่ายกัน""ค่ะ"
พลาดรักคุณสามี บทที่ 102 ตอนจบ"แม่อยากให้อยู่ด้วยกันไปก่อน" สโรชาอนุญาตให้ลูกไปทำงานได้ แต่พอวันต่อมาลูกสาวก็ขอออกไปอยู่คอนโดกับชายคนรัก"เกศดีขึ้นมากแล้วค่ะ ถ้าคุณแม่เป็นห่วงเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงแล้วค่ะ""แต่แม่กลัวคิดถึงเรา""ลูกโตแล้วนะคุณ แถมลูกกำลังจะออกเรือนด้วย ให้พวกเขาไปศึกษาดูใจกันเถอะ"สโรชาเป็นห่วงถ้าปล่อยให้ลูกไปอยู่ข้างนอกไกลหูไกลตา กลัวว่าเหตุการณ์แบบเดิมจะเกิดขึ้นอีก ถ้าเกศรินยังอยู่ที่บ้าน เธอคงสังเกตเห็นอาการลูกสาวแต่ทีแรกแล้ว"ถ้าเกศมีอาการผิดปกติ จะรีบบอกคุณแม่เลยค่ะ" เกศรินรู้ว่าท่านเป็นห่วงมาก ถ้าวันนั้นไม่เพราะท่านขอตรวจ..ป่านนี้มะเร็งคงลุกลามไปจนเกินเยียวยาแล้ว"ผมสัญญาครับว่าจะดูแลเธอ แทนคุณแม่เอง"สโรชามองไปดูหน้าสามีที่นั่งอยู่ด้วยกัน ก่อนที่โผลเข้าไปกอดท่าน เธออยากออกไปใช้ชีวิตครอบครัวกับเขา เรื่องศึกษาดูใจคงไม่ต้องศึกษาเขาแล้ว เพราะเธอเห็นหมดแล้วว่าเขามีความจริงใจให้มากแค่ไหน[คอนโด]"ผมว่าจะซื้อบ้านสักหลัง พักอยู่คอนโดมันไม่สะดวก""ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่นี่ก็ดีมากแล้ว""ถ้าเรามีบ้าน คุณก็จะมีพื้นที่เยอะขึ้น อยู่แต่ในคอนโดอากาศไม่ปลอดโปร่ง""ที่ไหนมีคุณฉั
"แน่ใจนะว่าคุณต้องการแรงกว่ามดกัด แต่มดตัวนี้กัดเจ็บนะครับ ถ้าแรงกว่าคุณจะรับไหวเหรอ" ที่จริงเขายังไม่เร่งเครื่องเลย แค่กำลังอุ่นเครื่องก่อนเฉยๆ แต่เกศรินคิดว่าเขาคงกลัวเธอเจ็บแผล ก็เลยทำแค่เบาๆ ถ้าทำแบบนี้เมื่อไรจะเสร็จล่ะ"ฉันเคยถูกมดกัดนี่คะ แค่เกาก็หายคันแล้ว""จัดให้ครับ แต่ถ้าเจ็บคุณบอกผมเลยนะ" ฟังเธอพูดก็อยากจะขำอยู่หรอก แต่ถ้าขำตอนนี้คงหมดอารมณ์แน่"อื้อ อ " เกศรินอยากให้เขามีความสุขกับเรือนร่างของเธอให้มากที่สุด เธอก็เลยขอให้เขาเพิ่มความแรงขึ้นมาหน่อย ถึงแม้จะมีลูกให้เขาไม่ได้ ช่วยให้เขามีความสุขกับเรือนร่างของเธอได้ก็คงดี"อ้าา ผมรักคุณนะเกศริน" ความรักนี้ไม่รู้ว่ามีให้เธอตั้งแต่เมื่อไร แต่พอรู้ตัวก็รักเธอมากจนแทบคลั่ง"ฉันก็รักคุณค่ะ อื้อ อ" มือเรียวโอมร่างคนตัวโตไว้ในจังหวะที่เขากำลังซอยสะโพกเร็วขึ้น"ซี๊ดด ผมปล่อยข้างในได้เลยไหม"ที่จริงคุณหมอก็บอกไว้ว่ายังไม่อยากให้มีลูกกันตอนนี้ แต่เธอคิดว่ามันคงไม่เร็วขนาดนั้น เพราะส่วนที่รับน้ำเชื้อยังไม่แข็งแรงพอ หญิงสาวพยักหน้าให้เห็นว่าเธออนุญาตชายหนุ่มก็ไม่อดกลั้นอีก ขยับสะโพกเพื่อให้ความแข็งแกร่งเสียดสีกับเนื้อบางๆ เร็วขึ้น ก่อน
"คุณยังไม่ดื่มน้ำอีกเหรอ" ปลาวาฬมองดูน้ำที่สั่งให้ลูกน้องนำมาให้เธอ "ฉันไม่อยากดื่มน้ำของคนที่ชื่อกำพลค่ะ" "ใครเอามาให้นะ" สายตาชายหนุ่มเหลือบไปมองกำพล จนคนที่ถูกมองรีบหลบสายตานั้น "รอผมอยู่นี่เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้" พูดจบปลาวาฬก็รีบเดินไปตรงจุดบริการน้ำ เขาไม่ได้เอาน้ำที่เย็นจัด "เราดูดีกว่าตั้งเยอะ และทำงานมาด้วยก็หลายปี ทำไมถึงเลือกแม่บ้านแบบนั้นได้" "อืมใช่" เอ็มม่าและตุ๊กตาไม่เคยพูดกันดีเลยตั้งแต่กำพลหันมามองเอ็มม่า ก็มีครั้งนี้แหละที่ทั้งสองดูจะลงรอยกัน"แต่ฉันยังสงสัยเรื่องคุยธุรกิจ" "คงไม่ใช่หรอกมั้ง คุณเชษฐาคงจำคนผิด""เกศ" "คุณพ่อ" เกศรินได้ยินคนเรียกก็เลยหันไปมอง ไม่คิดว่าคนที่เรียกก็คือพ่อ "พ่อเห็นคุณเชษฐาตรงโน้นบอกว่าลูกก็มาร่วมงานด้วย""คุณพ่อก็มาร่วมงานด้วยเหรอคะ"ที่จริงรามสูรก็ไม่ชอบมางานอะไรแบบนี้ แต่ที่มาเพราะว่าอยากมาร่วมงานของว่าที่ลูกเขย "พ่อต้องมาสิ เพราะเป็นงานคนสำคัญของลูกนี่""พ่อ?!" ทำไมคนที่ทำงานในโชว์รูมจะไม่รู้จักนักธุรกิจที่ชื่อรามสูร เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย จนถึงบัดนี้ สาวๆ ครึ่งค่อนประเทศอิจฉาภรรยาอันเป็นที
"ไม่ต้องหรอกลูก""ครับ" ปลาวาฬยอมรับในการตัดสินใจของท่าน"อ้าวแล้วนั่นเราจะไปไหน" พอเขาตอบรับ ปลาวาฬก็ลุกขึ้นกำลังจะออกจากบ้านท่านไป"พรุ่งนี้ผมจะรีบมาแต่เช้าครับ""ไหนบอกอยากอยู่ดูแลน้องไง""ครับ?" ชายหนุ่มที่ใบหน้าสิ้นหวังมากหันกลับมามอง"ที่แม่พูดหมายถึงไม่ต้องนอนข้างนอกหรอก ก็เข้าไปดูแลกันในห้องเลย มีอะไรจะได้ช่วยกัน""ผมนอนข้างในได้เหรอครับ""ได้สิจ๊ะ ถึงยังไงพวกเราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว""ขอบพระคุณมากครับ" ยังไม่ทันได้เอามือที่ไหว้ท่านลงเลย เขาก็เดินไปถึงหน้าห้องของเธอแล้ว"คุณยิ้มอะไรคะ" สโรชาหันกลับมาเห็นสามีกำลังยิ้มแป้น"คุณทำถูกแล้วล่ะ เด็กๆ เขารักกันก็ปล่อยให้เขาดูแลกันไป""ฉันก็ไม่ได้ว่าจะห้ามสักหน่อย แล้วเมื่อไรคุณจะขึ้นนอนไม่ง่วงหรือไง""เอ้า..เลขมาออกที่เราจนได้" รามสูรรีบเดินตามภรรยาขึ้นบ้านไป"คุณราม!" สามีที่เดินตามมาอยู่ดีๆ ก็โอบกอดภรรยาจากทางด้านหลัง"จะเดือนแล้วนะ" ตั้งแต่เดินทางทั้งสองไม่ได้เข้าใกล้กันเลย"คุณไม่เหนื่อยหรือไงคะ เพิ่งมาถึง""คุณรู้ไหม ว่ามันเป็นการเพิ่มกำลังอีกทาง""ไม่ใช่วัยรุ่นแล้วนะคะ ที่จะมาเพิ่มกำลังกับอะไรแบบนี้""คุณว่าผมแก่เหรอ""ใช่ค่ะ"
มือหนายื่นไปสัมผัสที่ผมบนศีรษะของเธอเบาๆ"คุณ?" พอเขาสัมผัสที่อื่นที่ไม่ใช่มือ.. เธอถึงกับสะดุ้ง "คุณไม่ใช่คนในมโนของฉันเหรอ?"ปลาวาฬส่ายหน้าตอบไปเล็กน้อย ใบหน้าของเขาช่างมีความอบอุ่น"ฉันกลับมาประเทศแล้วเหรอ" ที่เธอคิดว่าไม่ใช่เขาก็เพราะเธอมารักษาตัวที่ต่างประเทศ ถึงแม้เขาจะรู้และอยากตามมา แต่คงต้องใช้เวลา เพราะไม่ใช่ว่าจะเข้าประเทศนี้ได้ง่ายๆ"คุณอย่าไล่ผมไปไหนอีกเลย ถึงไล่ผมก็จะไม่ไป" ทีแรกก็อยากให้เธอเห็นว่าเขาเป็นแค่ภาพลวงตาที่เธอสร้างขึ้นมา เพราะถ้าเป็นภาพลวงตาเธอคงจะคุยกับเขานานกว่านี้"คุณปลาวาฬ คุณมาได้ยังไง?" เขาไม่ใช่แค่ภาพที่เธอสร้างขึ้นมาแล้วมันคือเขาจริงๆ"พอผมรู้ทุกอย่างก็รีบตามคุณมาที่นี่""เป็นคุณจริงๆ ด้วย โอ๊ย" หญิงสาวกำลังจะขยับตัวถอยห่าง จนลืมไปว่าร่างกายของเธอไม่ได้เต็มร้อย"คุณอย่าผลักไสผมไปไหนอีกเลยนะ ผมบอกแล้วไง ถึงไล่ผมก็จะไม่ไป""คุณไปหาคนที่ร่างกายแข็งแรงพร้อมที่จะเป็นภรรยาให้คุณดีกว่าค่ะ ฉันไม่พร้อม""ทำไมหรือครับ กับอีแค่ที่คุณจะมีลูกให้ผมไม่ได้ คุณต้องผลักไสไล่ส่งผมถึงขนาดนี้เลยเหรอ""คุณรู้เรื่องนี้แล้วเหรอคะ" หญิงสาวที่หลบสายตาเขา ค่อยๆ หันมองมาอีกที"
"คุณน้าครับ เรียกหมอให้ทีครับ""น้องเจ็บอีกแล้วใช่ไหม" "ใช่ครับ" "เรารออยู่ข้างนอกก่อนนะ น้าขอเข้าไปก่อน" เพราะห้องนี้เข้าได้แค่ทีละคน มันคือกฎของห้อง ICU ที่นี่ คนที่ไปตามคุณหมอก็คือรามสูร ที่จริงถ้าจะกดกริ่งแจ้งเตือนก็ได้ แต่ถ้าคนไข้อาการไม่หนักจริงๆ คุณหมอแนะนำให้ไปตามเอง"เกศ เป็นยังไงบ้างลูก""อึก อึก " เสียงสะอื้นของเกศรินค่อยๆ ดังขึ้น ด้วยสีหน้าที่ดูเจ็บปวดมาก"หนูเจ็บมากเลยเหรอลูก"ถ้าเธอมีอาการเจ็บเห็นหน้าแม่เธอก็จะบอกแม่ว่าเจ็บ แต่ครั้งนี้พอเห็นหน้าแม่เธอกลับร้องไห้"เขาไม่ทำตามสัญญา" "ใครไม่ทำตามสัญญาลูก""เขาบอกจะกลับมา" เป็นเหมือนทุกครั้งที่เธอเห็น พอออกไปคนที่กลับเข้ามาก็คือแม่"ถ้าหนูหมายถึง.." สโรชายังพูดไม่จบคุณหมอที่รามสูรไปตามก็เข้ามาก่อน พอคุณหมอเข้ามาญาติก็ต้องออกไป เพราะไม่งั้นจะกีดขวางการทำงานของทีมแพทย์ "คุณน้าครับ คุณน้าช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม" พอสโรชาออกมา ปลาวาฬก็เลยขอร้องให้พูดความจริงให้เขาฟัง"น้องเป็นมะเร็งระยะที่ 2 ""ระยะที่ 2 เหรอครับ?" เขารู้แค่ว่าเธอมีเชื้อมะเร็ง ก็เลยถูกส่งตัวมารักษาที่นี่ แต่ไม่รู้ว่าระยะที่เท่าไร"แล้วทำไมถึงไม่บอกผม" จ
"คุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวจริงเหรอคะ" หวานใจถามสามีในขณะที่สามีกำลังแต่งตัวจะเข้าบริษัท"ทำไมคุณถามแบบนั้น""ก็ฉันแปลกใจ ท่านเพิ่งจะกลับมาไม่นาน"ไม่ใช่แค่หวานใจหรอกที่แปลกใจ รามิลก็แปลกใจไม่ต่างกัน แต่งานที่พ่อทิ้งไว้ให้ทำมันเยอะมาก เพราะพ่อบินไปกะทันหัน เขาก็เลยไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นเลยในเมื่อสามีให้คำตอบไม่ได้ หวานใจก็ไม่ละความสงสัยนั้น เพราะมันดูแปลก>>{"มีอะไร"} "ใครโทรมาคะ" เสียงผู้หญิงดังเข้ามาในสาย "น้องสาวผมครับ" {"พี่ทำอะไรอยู่"}>>{"พี่กำลังทานข้าว"} {"แต่เสียงที่ฉันได้ยินไม่ใช่เสียงคุณเกศริน"}>>{"ก็พี่ไม่ได้มาทานข้าวกับเธอ"} {"พี่กับคุณเกศรินคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่พี่ไปทานข้าวกับผู้หญิงคนอื่นจะให้ฝ่ายหญิงคิดยังไง"}>>{"คบงั้นเหรอ? เราก็ลองถามคุณเกศรินของเราดูสิ"} {"ฉันจะถามได้ยังไง ฉันไม่ได้อยู่กับคุณเกศสักหน่อย"}>>{"เธอกลับไปอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ"} {"กลับมาอยู่บ้านที่ไหนฉันไม่เห็นเลย ที่บ้านก็มีแต่ฉันกับคุณรามิล"}>>{"แล้วแม่กับพ่อเธอล่ะ"} {"ฉันแปลกใจตรงนี้แหละ อยู่ดีๆ พวกท่านก็ทิ้งงานแล้วบินไปเที่ยวต่างประเทศ"}>>{"อะไรนะ? พวกท่านไปตั้งแต่เมื่อไ
"ทำไมผมมาอยู่ที่นี่?" ปลาวาฬมองไปรอบๆ ก็จำได้เลยว่าห้องที่เขาตื่นมาคือห้องใคร"ผมควรถามคุณมากกว่า"เราเมามากเลยเหรอวะ แล้วน้องคนนั้นล่ะ อย่าบอกนะว่าเราพามาค้างที่นี่ด้วย "..เมื่อคืนผมมาคนเดียวใช่ไหมครับ""มาสองคน"ตายห่าแล้ว ถึงแม้เธอจะไม่สนใจ แต่เขาก็ไม่อยากทำแบบนี้ให้ญาติของเธอเห็น เล่นหอบผู้หญิงมานอนห้องเช่าของน้องชายเธอเลยเหรอ"คือว่าผม ผมคงเมามาก ถึงได้ทำอะไรแบบนั้นลงไป"คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย สงสัยจะเมามากจริงๆ พูดไม่รู้เรื่อง "ผู้ชายคนที่มากับคุณเมื่อคืน บอกให้ผมดูแลคุณต่อหน่อยเขามีธุระต้องไปทำ""ผู้ชายเหรอครับ?" เหมือนยกภูเขาออกจาก แล้วผู้หญิงคนเมื่อคืนไปไหนวะเนี่ย ไปไหนก็ช่างเธอสิ "ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ" ปลาวาฬรู้ได้ในทันทีเลยว่าผู้ชายคนนั้นคงเป็นสายลม"คุณจะนอนต่อให้ส่างเมาก่อนก็ได้นะ""ไม่หรอกครับ ผมไปล่ะ" ออกจากห้องที่เขาเคยพัก ก็อดไม่ได้ที่จะมองห้องข้างๆ บางทีเธออาจจะกลับไปอยู่บ้านแล้วก็ได้ เพราะดูห้องเงียบมาก แต่ปลาวาฬก็ไม่ถาม หึ..เมาขนาดนี้ยังจำที่พักของเธอได้อีกเหรอ เป็นเอามากนะเรา เพราะสายลมคงไม่รู้จักที่นี่แน่พอออกมาจากห้องเช่าเขาก็มาที่โชว์รูม